'ผู้ว่าฯ ชัชชาติ' เฉลยแล้ว !! 4 ปัจจัยทำน้ำท่วมกรุงเทพฯ

(8 ก.ย. 65) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำท่วมกทม.ในช่วงนี้และแนวทางป้องกัน ว่า ช่วงนี้คือช่วงวิกฤต เรียกว่า 4 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 7 -10 ก.ย. นี้โดย เมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) มีฝนตกหนักถึง 130 มิลลิเมตร ที่บริเวณเขตลาดกระบัง โชคดีที่ฝนไม่ตกซ้ำที่บริเวณเขตบางเขน เพราะกรณีฝนตกหนักที่เขตบางเขนเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนสูงถึง 170 มิลลิเมตรซึ่งปริมาณดังกล่าวจะเกิดขึ้นหนึ่งครั้งในทุก 20 ปีตามสถิติที่กทม.บันทึกไว้ ปัญหาส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังคือ ท่อระบายน้ำดั้งเดิมของกทม.ไม่รองรับปริมาณน้ำฝนสูงขนาด 170 มิลลิเมตร ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำเต็มคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรตามที่ปรากฏ

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) มีฝนตกอีกที่บริเวณพัฒนาการ ทำให้น้ำเต็มคลองประเวศบุรีรมย์ ดังนั้น สถานการณ์ตอนนี้คลองหลักของกทม.มีน้ำเต็มทุกคลองต้องเร่งระบายโดยด่วน ส่วนคลองแสนแสบปัจจุบันขีดความสามารถรับน้ำก็ใกล้เต็มเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกช่วงเมื่อวานนั้นไม่เฉพาะที่เขตลาดกระบัง แต่ตกรอบนอกกินบริเวณกว้างออกไปถึงจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงด้านเหนือของกทม.ฝั่งจังหวัดปทุมธานีมีปริมาณน้ำเต็มความจุ ส่งผลให้การระบายน้ำจากกทม.ทำได้ยากเพราะบริเวณพื้นที่รอบนอกมีน้ำเต็มเหมือนกันต้องลดการระบายน้ำจาก กทม.ลงเพื่อบรรเทาปริมาณน้ำในพื้นที่รอบนอกด้วย

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ปัจจุบันมีวิกฤตเกิดขึ้น 4 เรื่อง ดังนี้ 1. คลองหลักในกทม.น้ำเต็มความจุทุกคลอง ยกเว้นคลองแสนแสบที่ยังพอรับได้อีกไม่มาก 2. ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านกทม.พอดี ส่งผลให้เกิดกำลังดึงดูดฝนเข้ามา จึงมีโอกาสเกิดฝนตกเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

3. ปริมาณน้ำเหนือถูกปล่อยลงมาจำนวนถึง 1,850 ลูกบาศก์ต่อวินาที แม้จะยังไม่สูงเท่าช่วงวิกฤต แต่ปริมาณน้ำที่ขึ้นสูงระดับนี้กทม.ต้องสูบน้ำข้ามประตูน้ำเพื่อระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การทำงานค่อนข้างลำบาก และ 4. ช่วงวันที่ 7-10 ก.ย.นี้ เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง โดย 4 ปัจจัยนี้ประกอบกันทำให้กทม.มีน้ำท่วมขังในบางจุด

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่บริเวณเขตบางเขนเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ได้นำบทเรียนมาเตรียมบรรเทาปัญหาน้ำท่วมโดยสั่งการให้นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกทม.เป็นผู้บัญชาการ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 21เครื่อง ตามที่กรมชลประทานสนับสนุนมาและเตรียมจัดการสภาพการจราจรเพื่อให้รถของหน่วยช่วยเหลือต่างๆเข้าไปในพื้นที่ได้

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯกทม.ย้ำว่า ต้องเตรียมการล่วงหน้า 3 ชั่วโมง เพื่อนำกำลัง อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆในการรับมือน้ำท่วมเข้าไปประจำในพื้นที่ เช่น รถซ่อม รถลาก และหน่วยช่วยเหลือผู้คนในเบื้องต้น รวมถึงการวางแผนกำหนดเส้นทางขนประชาชน และกำหนดการจราจรล่วงหน้าในกรณีน้ำท่วมอีกครั้ง เพื่อจัดการแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ทันท่วงที


ที่มา: https://www.thaipost.net/hi-light/217394/