Saturday, 21 June 2025
Hard News Team

ใช้จริง 80 ล้านบาท!! 'พงศกร' เคลียร์ปม 'สวนคลองช่องนนทรี' หลังถูกโจมตีใช้งบประมาณมหาศาล

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ทีมงาน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 6 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี ใช้ไปเพียง 80 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการแชร์ข้อมูลให้เกิดการเข้าใจผิดว่าใช้งบประมาณ 980 ล้านบาท

ร.ต.อ.พงศกร ระบุว่า จากกระแสที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้งบประมาณสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี และมีหลายคนบอกว่างบประมาณ 980 ล้านบาทสูงเกินไป ไม่คุ้มค่า ล่าสุดพูดไปจนถึง 1,556 ล้านบาท ทำให้ยิ่งเข้าใจผิดกันใหญ่ วันนี้ผมเลยขอถือโอกาสชี้แจงเรื่องความคุ้มค่า และงบประมาณครับ

โครงการพัฒนาคลองช่องนนทรีเป็นการพัฒนาทั้งหมด ทั้งสวนสาธารณะและทางเดินริมคลอง การฟื้นฟูคลอง ระบบไหลเวียนน้ำ คลองช่องนนทรี คลองสาทร และคลองไผ่สิงโต ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบระบายน้ำ และระบบไหลเวียนน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสียในคลองที่มีพื้นที่ต่อเนื่อง รวมทั้งควบคุมปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในคลองทั้ง 3 คลองให้สามารถเชื่อมกันได้ทั้งระบบ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นงบประมาณตามแผนที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ ส่วนที่ทุกคนเห็นเป็นสวนสาธารณะด้านบนที่แล้วเสร็จใช้งบประมาณ 80 ล้านบาทครับ

นอกจากนี้ ยังมีอีก 10 ประเด็นเข้าใจผิดเกี่ยวกับคลองช่องนนทรี ผมเลยขอถือโอกาสนี้ชี้แจงรายละเอียดครับ

1.ที่เห็นอยู่คือ 80 ล้าน​ ! ต้องชี้แจงอย่างงี้ครับว่าส่วนที่เห็นคือลานกิจกรรมที่เป็นเพียง 5% ของโครงการทั้งหมด ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท

2.ราวกันตก และ skywalk ภาพสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีที่มีราวกันตกทำจากเหล็กข้ออ้อยที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม จริงๆแล้วในช่วงนั้นสวนยังไม่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแต่เป็นเทศกาลเราจึงเปิดให้ใช้พื้นที่เป็นชั่วคราว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา แต่ตอนนี้ได้ติดตั้งราวกันตกใหม่ที่ปลอดภัยและสวยงาม และเป็น skywalk ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะ และได้ติดป้ายชี้แจ้งว่าอยู่ระหว่างดำเนินการและใช้เป็นการชั่วคราว

3.การแก้ไขน้ำมีกลิ่นเหม็น จากการเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้น้ำที่ตกตะกอน มีการไหลเวียน และในระยะยาวจะใช้น้ำบำบัดจากโรงบำบัดน้ำเสียคลองช่องนนทรี ผลักดันน้ำลงคลอง รวมถึงวางพื้นฐานวงแหวน้ำให้เชื่อมต่อกัน คลองช่องนนทรี-คลองสาธร-สวนลุมพินี-คลองต้นสน-คลองไผ่สิงห์โต-คลองเคย ซึ่งจะช่วยให้น้ำในคลองดีขึ้นทั้งระบบ

4.ขวางทางน้ำ สวนสาธารณะสร้างบนคลอง ไม่กีดขวางทางน้ำ และมีการปรับปรุงท้องคลองที่จะเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ

5.สวนสาธารณะสร้างบนคลอง ไม่กีดขวางทางน้ำ และมีการปรับปรุงท้องคลองที่จะเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ

หลายคนสงสัยว่าในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะมีโครงการรถไฟฟ้าหรือไม่ และจะไปกระทบกับโครงการคลองช่องนนทรีเดิมหรือไม่ ตอบตรงนี้เลยครับว่า หากในอนาคตมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขึ้นมา ซึ่งมีแนวทางที่จะพัฒนาอยู่แล้ว จะเป็นการสร้างบนเลน BRT เพราะฉะนั้นการสร้างระบบขนส่งมวลชนในอนาคตจะไม่กระทบคลองช่องนนทรีแน่นอน แต่กลับจะเพิ่มให้มีการใช้สวนสาธารณะดังกล่าวมากขึ้น

6.ความเก่งของผู้ออกแบบ หลายๆโครงการในเมืองใหญ่มี อ.กชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งในไทย และต่างประเทศเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งทุกโครงการของ อ.กชกร เป็นการออกแบบเพื่ออนาคต ตอบโจทย์ทั้งทัศนียภาพความสวยงาม และการใช้งานที่คุ้มค่า เช่น สวนจุฬา 100 ปี

7.รถติด ไม่เป็นสาเหตุของรถติดอย่างแน่นอน เพราะตัวสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีสร้างอยู่บนคลอง ไม่กินผิวถนน ไม่ขวางทางจราจรและไม่ทำให้รถติด ในทางกลับกันสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีมีทางเชื่อมต่อให้คนที่ใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะเดินทางเชื่อมต่อได้มากขึ้น

8.ไม่ใช่แค่คลองช่องนนทรี แต่เป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายคลองอื่น ๆ ด้วย การพัฒนาคลองช่องนนทรีไม่ได้เกิดประโยชน์เพียงแค่ช่องนนทรีเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาโครงข่ายหลักคลองช่องนนทรี คลองสาทร คลองไผ่สิงโต และคลองต้นสน และใช้ท่อแทนคลอง แยกน้ำดีกับน้ำเสียออกจากกัน เพื่อให้น้ำในคลองมีคุณภาพดีขึ้น และน้ำเสียที่แยกจะถูกส่งเข้าโรงบำบัดน้ำเสีย เพื่อนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วไปใช้ประโยชน์ในการรดน้ำต้นไม้ที่สวนลุมพินี

แม่น้ำเจ้าพระยา อีกหนึ่งความงามคู่มหานคร ที่ชวนให้หลงใหล

หลงใหลกรุงเทพ
แม่น้ำเจ้าพระยา
ไปรษณียาคาร
สวนสาธารณะลอยฟ้ากลางแม่น้ำเจ้าพระยาบนซากลาวาลิน
สะพานพุทธ สะพานพระปกเกล้า
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
พระบรมมหาราชวัง 
และโรงพยาบาลศิริราช


ที่มา : https://www.facebook.com/532544466865594/posts/4439022812884387/?d=n


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

23 เมษายน ค.ศ. 1616 สูญเสียยอดกวีเอกของโลก ‘วิลเลียม เชกสเปียร์’

วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) เกิดเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้แน่ รู้แต่ว่าเขาได้รับศีลล้างบาปในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1564 ซึ่งตามธรรมเนียมในสมัยนั้นการรับศีลของทารกมักจะทำกัน 3 วันหลังการเกิด วันที่ 23 เมษายนจึงถูกถือเอาเป็นวันเกิดของเขา

เชกสเปียร์เติบโตขึ้นในเมืองสแตรทฟอร์ดริมฝั่งเอวอน (Stratford-upon-Avon) วอร์วิกไชร์ (Warwickshire) ประเทศอังกฤษ รายละเอียดของชีวประวัติของเชกสเปียร์มีบันทึกไม่มากนักเนื่องจากเขามิใช่ชนชั้นสูง เรื่องราวในชีวิตช่วงแรกๆ ของเขาจึงมีแต่เพียงเรื่องที่ถูกบันทึกในเอกสารของทางการ เช่น การรับศีล และการแต่งงาน

พ่อของเขาจอห์น เชกสเปียร์ (John Shakespeare) ทำการค้าหลายอย่างและดูเหมือนจะมีปัญหาทางการเงินเป็นระยะ ขณะที่แม่ของเขาแมรี อาร์เดน แห่งวิล์มโคต (Mary Arden, of Wilmcote) มาจากครอบครัวเก่าแก่และเป็นทายาทที่จะได้รับมรดกเป็นที่ดินบางส่วน ทำให้เชื่อกันว่าการแต่งงานของทั้งคู่เป็นหนึ่งในความพยายามเพื่อยกฐานะของจอห์น เชกสเปียร์

เชื่อกันว่าเชกสเปียร์น่าจะเข้าเรียนในโรงเรียนไวยากรณ์ (Grammar School เป็นโรงเรียนสอนภาษาละตินและวรรณกรรมคลาสสิกในยุคกลาง ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นโรงเรียนระดับมัธยมของอังกฤษ) ในสแตรทฟอร์ด แต่ไม่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย

เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาแต่งงานกับแอนน์ แฮทธาเวย์ หญิงซึ่งแก่กว่าเขา 8 ปี และตั้งท้องอยู่แล้วก่อนแต่งงานกับเขา หลังแต่งงานได้ 6 เดือนทั้งคู่ได้ลูกสาวคนแรกชื่อว่า ซูซานนา (Susanna) ในปี 1585 ทั้งคู่ได้ลูกแฝด แฮมเน็ต (Hamnet) และจูดิธ (Judith) ก่อนที่แฮมเน็ตลูกชายคนเดียวของครอบครัวเชกสเปียร์จะเสียชีวิตในอีก 11 ปีถัดมา

เชกสเปียร์เริ่มมีชื่อถูกอ้างถึงในฐานะนักเขียนในปี 1592 เมื่อเขาถูกวิจารณ์โดย โรเบิร์ต กรีน (Robert Greene) ผู้เป็นนักเขียนบทละครเช่นเดียวกับเชกสเปียร์ เชื่อกันว่าในขณะนั้นเชกสเปียร์ น่าจะเขียนเรื่องเฮนรีที่ 6 (Henry VI) ไปแล้ว 3 ตอน ในปี 1593 วีนัสแอนด์อดอนิส (Venus and Adonis) เป็นบทกวีชิ้นแรกของเชกสเปียร์ที่ถูกนำออกเผยแพร่ ซึ่งเป็นงานที่ทำขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเฮนรี ไรโอเธสลีย์ ที่ 3 เอิร์ลแห่งเซาแธมป์ตัน (Henry Wriothesley, the 3rd earl of Southampton)

ในปี 1594 เชกสเปียร์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคณะละครลอร์ดแชมเบอร์เลน (Lord Chamberlain’s Men) ซึ่งภายหลังกลายเป็นคณะละครในพระบรมราชูปถัมภ์ (King’s Men) เมื่อพระเจ้าเจมส์ที่ 1 (James I) ขึ้นครองราชย์ ซึ่งเป็นคณะละครที่เชกสเปียร์ร่วมงานด้วยจนกระทั่งเขาเกษียณอายุ

'ไฮโซลูกนัท' สำนึก!! เหตุเสียมารยาทใส่เจ้าหน้าที่ตร. เผย!! เตรียมยกกระเช้าขอโทษ ผกก.สน.ลุมพินี 

นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท เผยสาเหตุเสียมารยาทและไม่สุภาพกับ ผกก.สน.ลุมพินี ลั่น!! พร้อมยกกระเช้าเข้าขอโทษ

จากเหตุการณ์ ที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ 'ไฮโซลูกนัท' ด่าทนายของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ว่า "ไอ้ลูกหมา" ก่อนด่า ผกก.สน.ลุมพินี ว่า "มึงจำไว้นะ มึงทำเมียกูดิ่ง" พร้อมถุยน้ำลายหนึ่งที ก่อนขับรถออกไป

ต่อมา 'ลูกนัท' แจงเหตุหยาบคาย ถูกหลอกให้ไปชี้จุดเกิดเหตุ แต่กลับให้ทนายผู้ต้องหาขึ้นห้อง ส่วนตนกับภรรยาถูกห้าม เชื่อร่วมมือกันกลั่นแกล้งผู้เสียหาย เตรียมฟ้องทั้ง ผกก.สน.ลุมพินี และทนาย

ล่าสุด วันนี้ (22 เม.ย.) มีรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า นายธนัตถ์ หรือ ลูกนัท เปิดเผยว่า ได้ประชุมกับทีมทนายความพร้อมตั้งทีมสืบค้นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ขณะการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว หมายค้นจากศาลนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนำผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่จะให้ผู้เสียหายขึ้นคอนโดในวันดังกล่าวหรือไม่ก็ได้

Top 10 ประเทศ 'เจ้าโลก' ฟ้าประทาน ส่วน 'ไทย' หลุดโผไกลมาก!!

ร้านขายยาออนไลน์ ‘From Mars’ สัญชาติอังกฤษ จัดอันดับ "ค่าความยาว" โดยเฉลี่ยของ "อวัยวะเพศชาย" จากประเทศต่างๆ รวม 86 ประเทศ โดยรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจผ่านระบบของกูเกิล

1.) เอกวาดอร์ (6.93 นิ้ว) 
2.) แคเมอรูน (6.56 นิ้ว) 
3.) โบลิเวีย (6.5 นิ้ว) 
4.) ซูดาน (6.48 นิ้ว) 
5.) เฮติ (6.3 นิ้ว) 
6.) เซเนกัล (6.26 นิ้ว) 
7.) แกมเบีย (6.25 นิ้ว) 
8.) คิวบา (6.25 นิ้ว)
9.) เนเธอร์แลนด์ (6.25 นิ้ว) 
10.) แซมเบีย (6.21 นิ้ว)

>> ประเทศ 'ไทย' อยู่ในอันดับที่ 80 (4.51 นิ้ว) 
>> ส่วนอันดับสุดท้าย คือ กัมพูชา (3.95 นิ้ว)

'คลังมะกัน' เตือน 'ยุโรป' แบนพลังงานรัสเซีย อาจไม่สะเทือนหมี แต่เสี่ยงกระทบศก.ตัวเอง

AFP รายงานว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเตือนว่า การห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซของรัสเซียในยุโรปอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยไม่ได้ตั้งใจ

ที่ผ่านมาชาติยุโรปถูกสหรัฐฯ กดดันให้หยุดซื้อพลังงานจากรัสเซียเพื่อลดรายได้รัสเซีย โดยบรรดาประเทศใหญ่ๆ ในยุโรป รวมทั้งเยอรมนีต้องเผชิญกับการเรียกร้องให้หยุดซื้อพลังงานจากรัสเซีย เพื่อตัดรายได้ และเป็นการลงโทษที่รัสเซียรุกรานยูเครน จนผู้คนต้องอพยพหนีภัยสงครามแล้วกว่า 5 ล้านคน

หลังจากพบปะหารือกับ เดนิส ชไมฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน และเซอร์เก มาร์เชนโก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของยูเครนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เยลเลน ก็ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า การแบนดังกล่าว ในท้ายที่สุดแล้วอาจก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี

“แน่นอนว่ายุโรปจำเป็นต้องลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย แต่เราต้องระมัดระวังหากจะแบนการนำเข้าน้ำมันโดยสิ้นเชิง” เยลเลนกล่าว

รัฐมนตรีคลังกล่าวต่อว่า การแบนพลังงานของยุโรปจะทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น “และอาจขัดกับความรู้สึกบ้างที่มันอาจส่งผลกระทบในทางลบกับรัสเซียน้อยมาก เนื่องจากแม้ว่ารัสเซียจะส่งออกน้อยลง แต่ราคาน้ำมันที่รัสเซียส่งออกจะสูงขึ้น”

เยลเลนกล่าวถึงการแบนในอนาคตว่า “หากเราสามารถหาวิธีที่จะทำอย่างนั้นได้โดยไม่ทำร้ายทั้งโลกจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นจะดีมาก”

รมว.เฮ้ง เชิญ 127 บ.รับอนุญาตจัดหางาน เร่งเครื่องหารือขยายตลาดแรงงานไทยในต่างประเทศ

วันที่ 22 เมษายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายด้านการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ประจำปี 2565 โดยมีคณะผู้บริหารฝ่ายการเมือง นายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน และผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ จำนวน 127 บริษัท ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

โดยนายสุชาติฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ผ่านมา ทำให้มีข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ เพราะประเทศผู้รับแรงงานบางประเทศ มีการปรับนโยบายและชะลอการรับแรงงานต่างชาติเข้าไปทำงาน แต่ปัจจุบันประเทศผู้รับแรงงานเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายในการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น โดยปีงบประมาณ พ.. 2566 ตั้งเป้าหมายจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศไว้ประมาณ 50,000 คน ไม่รวมการเดินทางแบบ Re-entry จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแรงงานไทยและภาคเอกซนที่ดำเนินธุรกิจด้านการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ในวันนี้กระทรวงแรงงานได้
เชิญผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 127 บริษัท และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในภารกิจ

การจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ มาร่วมกันหารือ รับฟังข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ  เพื่อให้การจัดส่งแรงานไทยไปทำงานในต่างประเทศเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม แรงงานไทยได้รับประโยชน์สูงสุด รับคำจ้าง สวัสดิการ และการคุ้มครองที่เหมาะสม ตลอดจนป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เพื่อปลดล็อก Tier 2 Watch List

"ผมขอขอบคุณ ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศที่มีการจัดหางานอย่างมีจริยธรรม
ให้ความสำคัญกับประโยชน์สูงสุดของแรงงานไทยซึ่งเป็นกลไกหลักในระบบเศรษฐกิจของประเทศและมาร่วมงานในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงาน ทั้ง 2 ท่านต่างให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้แรงานไทยในการไปทำงานในต่างประเทศมา
โดยตลอด ในปีนี้กระทรวงแรงงานจะเป็นเรี่ยวแรงหลัก ในการเจรจากับทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปสรรค ตลอดจนสร้างความเชื่อมั้นและเพิ่มแรงจูงใจในการจ้างแรงงานไทยของนายจ้างในต่างประเทศ เพื่อรักษาตลาดแรงงานเดิม และเร่งขยายตลาดแรงงานใหม่"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โขติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่าหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมการจัดหางานคือการส่งเสริมแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีนโยบายขยายตลาดแรงงานใหม่ในต่างประเทศ โดยปีที่ผ่านมาสามารถจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านแรงงานกับซาอุตีอาระเบีย ลงนามบันทึกความร่วมมือต้านข้อมูลพื้นฐานเพื่อการจัดระบบและการพำนักของแรงงานที่มีทักษะเฉพาะ ร่วมกับประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างความพยายามในการจัดทำบันทึกความร่วมมือโครงการวีช่าเกษตรออสิทรีย์ (Australian Agriculture Visa (AAV) Program) กับออสเตเลีย และเสนอให้มีการจัดส่งแรงงานรูปแบบ G to G (Government to Government) และ A to A (Agency to Agency) ภายใต้การกำกับดูแล ควบคุมของกระทรวงแรงงาน กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยดำเนินการควบคู่กับการคุ้มครองดูแล
สิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยไมให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน มิให้แรงงานไทยถูกหลอกลวงจากสาย/นายหน้าจัดหางานเถื่อน ที่ปัจจุบันนิยมใช้สื่อโซเซียลมีเตียที่มีอิทธิพลอย่างมากในการโฆษณาเชิญชวนหลอกลวงแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งผู้รับอนุญาตจัดหางานฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในภารกิจการจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศที่มาร่วมประชุมหารือในวันนี้ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม
แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศผ่านช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย
 

‘ศบค.’ แจง!! ปรับพื้นที่ ‘สีเหลือง 65 จว. - สีฟ้า 12 จว.’ พร้อมผ่อนคลายให้ดื่มถึงเที่ยงคืน ผับบาร์ยังงด

ศบค.เห็นชอบปรับพื้นที่สีใหม่ เหลือแค่สีเหลือง 65 จังหวัด และสีฟ้าท่องเที่ยว 12 จังหวัด เพิ่มขึ้น 2 จังหวัดคือ ระยองและสงขลา ผ่อนคลายดื่มเหล้าในร้านอาหารจาก 5 ทุ่มเป็นเที่ยงคืน ผับบาร์คาราโอเกะยังไม่ให้เปิดเว้นปรับเป็นร้านอาหาร ยันปรับกักตัวเสี่ยงสูงเป็น 5+5

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า การประชุมเรื่องที่ 2 การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอการปรับพื้นที่สีมีผลเริ่มวันที่ 1 พ.ค. โดยเหลือเพียงพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) เท่านั้น โดยเดิมมีพื้นที่สีส้ม 20 จังหวัด ปรับเหลือเป็น 0 พื้นที่สีเหลืองเพิ่มจาก 47 จังหวัด เป็น 65 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้าจากเดิม 10 จังหวัด ได้แก่ กทม. กระบี่ กาญจนบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา เพชรบุรี และภูเก็ต เป็น 12 จังหวัด ที่เพิ่มขึ้น 2 จังหวัด คือระยองและสงขลา ส่วนพื้นที่สีฟ้าบางพื้นที่มี 16 จังหวัด

'ซักเคอร์เบิร์ก-แฮร์ริส' ติดโผ!! บุคคลที่รัสเซีย ห้ามเข้าประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากระทรวงการต่างประเทศรัสเซียตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากบรรดาชาติตะวันตกอีกครั้ง โดยได้จำกัดการเดินทางเข้ารัสเซียสำหรับพลเมืองสหรัฐฯ เพิ่มอีก 29 คน รวมถึงจำกัดการเดินทางพลเมืองแคนาดาอีก 61 คน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ของรัสเซียไปก่อนหน้านี้

ชาวอเมริกันและแคนาดาทั้งหมดนี้ ถูกห้ามมิให้เดินทางเข้ารัสเซียอย่างไม่มีกำหนด โดยบุคคลที่อยู่ในลิสต์ดังกล่าว ปรากฏรายชื่อของ 'กมลา แฮร์ริส' รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสามี 'ดักลาส เอ็มโฮฟฟ์' รวมถึง 'มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Meta, จอร์จ สเตฟาโนปูลอส ผู้สื่อข่าว ABC News, เดวิด อิกนาติอุส คอลัมนิสต์ The Washington Post ตลอดจนผู้นำธุรกิจและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคน

สหรัฐฯ พัฒนา Ghost Drone อาวุธลับเพื่อยูเครนรับมือรัสเซีย โจมตีเป้าหมาย-ทำลายตัวเองทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว 

ไม่นานมานี้ เพนตากอนเผย สหรัฐฯ ออกแบบอาวุธใหม่อากาศยานไร้คนขับแบบโจมตี 'Ghost drone' เพื่อยูเครนโดยเฉพาะ ใช้โจมตีเป้าหมายครั้งเดียวทิ้ง ขณะที่ปฏิบัติการในยูเครนย่างเข้าเดือนที่ 3 รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะจัดประชุมกลาโหมว่าด้วยยูเครนในวันที่ 26 เมษายนนี้ที่เยอรมนี

จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 21 เม.ย. 65 เปิดเผยถึงอาวุธใหม่ของสหรัฐฯ อย่างอากาศยานไร้คนขับ ที่มีชื่อว่า 'โกสต์ โดรน' (Ghost Drone) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธชุดใหม่ ที่สหรัฐฯ จะส่งไปให้แก่ยูเครน ใช้โจมตีเป้าหมายและถูกทำลายทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว 

เคอร์บี ระบุว่า หลังจากหารือกับทางยูเครนแล้ว สหรัฐฯ เชื่อว่า 'โกสต์ โดรน' จะเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบคล้ายคลึงกับรัฐแคนซัสของสหรัฐฯ

ก่อนหน้าการแถลงข่าว เคอร์บี ระบุว่า 'โกสต์ โดรน' ถูกพัฒนาขึ้นอย่างเร่งด่วนโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อยูเครนโดยเฉพาะ แต่ในการแถลงข่าวหลังจากนั้นในวันเดียว เขาแก้ว่า สหรัฐฯ ได้เริ่มพัฒนาอากาศยานไร้คนขับตัวนี้ ตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการในยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ขณะนี้ มีทหารยูเครนจำนวนหนึ่งอยู่ในสหรัฐฯ กำลังได้รับการฝึกควบคุมอากาศยานโจมตีไร้คนขับของสหรัฐฯ อีกชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า 'สวิตช์เบลด' (Switchblade) ซึ่งเป็นอาวุธแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเช่นกัน โดยจะบินเข้าชนเป้าหมายและจะระเบิดเมื่อกระทบเป้าหมาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top