Saturday, 21 June 2025
Hard News Team

'กอบศักดิ์' เผยข่าวดี 'ติด-ตาย' โควิด Wave 4 ทั่วโลกลด!! ส่งสัญญาณบวก 'ท่องเที่ยวไทย' หลังซบนานกว่า 2 ปี

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ความหวังของภาคท่องเที่ยวไทย !!! 

เริ่มต้นสัปดาห์ ด้วยข่าวที่ดี 🙂

หลังจากไม่ได้ดูข้อมูลผู้ป่วยรายใหม่จากโควิด-19 มาเป็นเดือน

เมื่อเช้า เลยไปลองเปิดดู 

สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ Covid Wave ที่ 4 ของโลก ดูเหมือนจะเริ่มผ่านไปแล้ว 

ในภาพจะเห็นว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากที่เคยไปสูงถึงเกือบ 4 ล้านคนต่อวัน

ล่าสุด ลดลงมาอยู่ประมาณ 6 แสนกว่าคนต่อวัน หรือเพียง 15% ของยอดสูงสุด

ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ก็ลดลงมาเช่นเดียวกัน จาก 12,000 คนต่อวัน ล่าสุดเหลือประมาณ 2,400 คน หรือประมาณ 20% ของยอดสูงสุดในรอบนี้

นับว่าเป็นข่าวดี ที่ชี้ว่ามรสุมโควิดรอบที่ 4 ได้ผ่านไปมากแล้ว

กระทั่งฮ่องกง ที่เคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงต้นมีนาคม ติดเชื้อรายใหม่วันละ 80,000 คน (จากประชากรไม่กี่ล้านคน) ล่าสุดเหลือเพียงวันละ 1,400 คน

จะเหลือที่เป็นประเด็นอยู่ ก็เพียงแต่ในจีนที่กำลังต่อสู้กันกับโควิดในขณะนี้ 

โดยทุกสายตาของโลก กำลังจับจ้องดูว่าจะกระจายไปมากแค่ไหน และด้วยมาตรการที่เข้มงวด จีนจะเอาอยู่หรือไม่ 

'รมว.สุชาติ' วอนผู้ประกอบการเห็นใจประชาชนอย่าขึ้นราคาสินค้า ชี้ มาตรการลดเงินสมทบ ช่วยลดต้นทุนนายจ้าง เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนกว่าแสนล้านบาท

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ติดตามผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและพี่น้องผู้ใช้แรงงาน เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตทั้งโรคระบาดและภัยสงคราม จึงได้ออกมาตรการมาช่วยเหลือเยียวยาและลดผลกระทบ ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้นและลดต้นทุนการผลิตแก่นายจ้าง โดยการลดเงินสมทบทั้งในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตนทุกมาตรา 

ทั้งมาตรา 33,39 และ 40 เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค. – ก.ค. 2565 โดยพี่น้องประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงแรงงานประมาณ 24.2 ล้านคน เป็นเม็ดเงินประมาณ 34,540 ล้านบาท เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 100,000 ล้านบาท 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า มาตรการลดเงินสมทบในครั้งนี้ทำให้มีผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 เหลือ ร้อยละ 1 ยกตัวอย่างหากคิดบนฐานเงินเดือน 15,000 บาท จากเดิมต้องส่งเงินสบทบ 750 บาท จะลดลงเหลือส่งเงินสมทบ 150 บาท ทำให้สามารถลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ 600 บาทต่อคนต่อเดือน ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 1.9 คือจากเดิมที่ต้องส่งเงินสมทบ 432 บาท จะลดลงเหลือส่งเงินสมทบ 91 บาท หรือลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ 341 บาทต่อคนต่อเดือน และผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 10.6 ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบในแต่ละทางเลือกลงร้อยละ 40 คือ ทางเลือกที่ 1 ลดการส่งเงินทบจากเดิม 70 บาท ลดลงเหลือ 42 บาท ทางเลือกที่ 2 ลดการส่งเงินทบจากเดิม 100 บาท ลดลงเหลือ 60 บาท ทางเลือกที่ 3 ลดการส่งเงินทบจากเดิม 300 บาท ลดลงเหลือ 180 บาท หรือลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ 84 - 360 บาทต่อคนต่อเดือน

กองทัพไทย จัดพิธีวางพวงมาลาน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2565

พล.อ.นเรนทร์  สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2565​  ที่กองบัญชาการกองทัพไทย

ทั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมีพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ พิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรส ในสมเด็จพระมหาธรรมราชากับพระวิสุทธิกษัตรีย์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อปี พ.ศ.2098  ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ต้องเสด็จไปประทับที่ กรุงหงสาวดี และได้เสด็จกลับสู่กรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุได้ 15 พรรษา 

จากการกระทำศึกหลายครั้งทรงแสดงให้ประจักษ์ในความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ และเปี่ยมด้วยพระวิริยะอุตสาหะ​ จนเป็นที่เกรงขามของข้าศึกศัตรู เมื่อพระชนมายุได้ 35 พรรษา เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ และมีการศึกที่สำคัญคือทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราช แห่งกรุงหงสาวดี กรุงศรีอยุธยาจึงมีความมั่นคงปราศจากการรุกราน

ในปี พ.ศ.2148 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกทัพไปตีเมืองอังวะ ระหว่างการเดินทัพทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง ขณะพระชนมายุได้ 50 พรรษา

'ราเมศ' เผย ความพร้อม ก่อนเปิดสภา 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 22 พ.ค.ว่า 

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในส่วนของพรรค ตลอดช่วงระยะเวลาที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ ทางส.ส.ของพรรคจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ พบปะ เยี่ยมเยียน ช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังมีอยู่และ ส.ส.ทุกคนก็ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำหน้ากากผ้า จัดทำถุงยังชีพ  สนับสนุนอุปกรณ์ในการคัดกรองให้กับชุมชนและหน่วยงานทางการแพทย์ จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าไปช่วยเหลือกรณีประชาชนเดือดร้อนเร่งด่วน และอื่นๆอย่างเต็มที่ การร่วมมือร่วมใจกันคนละไม้ละมือเพื่อให้ผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปให้ได้ 

“เทพไท” ฟันธง “อุ๊งอิ๊ง” คือ นายกฯของเพื่อไทย ชี้หนี้ไม่พ้นการสืบทอดอำนาจคนตระกูลชินวัตร เย้ยคนใน พท.ก็แค่ “เบ๊” รับใช้เท่านั้น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก ว่า เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ตนได้นั่งดูการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยด้วยความสนใจ และได้ลุ้นบทบาทการขึ้นเวทีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง พอๆกับการนั่งลุ้นของ นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จากดูไบ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า น.ส.แพทองธาร มีพัฒนาการทางการเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าเปรียบเทียบกับตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าการเมืองใหม่ๆ น.ส.แพทองธาร ฉายแวว มีบทบาทเด่นกว่า และมีหน่วยก้านทางการเมือง ที่ดีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มาก 

“การขึ้นเวทีปราศรัยของคุณแพทองธาร เห็นได้ว่า มีการพูดจาได้ฉะฉาน แสดงบทบาทบนเวทีพร้อมที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองได้อย่างสบายๆ และเชื่อว่าคุณแพทองธาร จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ห้วงเวลาต่อจากนี้ ไปจนถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ก็จะทำให้คุณแพทองธาร จะมีพัฒนาการและความแข็งแกร่งทางการเมืองมากยิ่งขึ้น สมกับที่คุณทักษิณได้คาดหวัง และวางแผนไว้”นายเทพไท ระบุ

นายเทพไท ระบุต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน.ส.แพทองธาร จะเป็นผู้นำตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ตามที่นายทักษิณได้วางแผนไว้ ถ้าย้อนไปดูการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทักษิณ ในอดีตที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นการส่งเสริมบทบาท ของคนในครอบครัว วงศ์วานหว่านเครือของตัวเองทั้งสิ้น เช่น 1.ส่งเสริมให้มีบทบาทในตำแหน่ง ส.ส. มี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง น้องสาว นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ฯลฯ 2.สนับสนุนให้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย และน.ส.ยิ่งลักษณ์น้องสาว เคยสนับสนุนคนอื่นอย่างนายสมัคร สุนทรเวช แต่ก็ผิดหวัง เพราะควบคุม สั่งการไม่ได้ดั่งใจ

'นายกฯ' สั่ง เดินหน้า สร้างความเชื่อมั่นดึงต่างชาติลงทุนไทย มอบทีมเศรษฐกิจเดินสายโร้ดโชว์ ประเดิมญี่ปุ่น 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้ตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19(ศบค.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาก็ได้มีมติยกเลิกข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test&Go เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยมีผลเริ่มวันที่ 1 พ.ค. 2565 ไปแล้วนั้น

ทางด้านการลงทุนเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานดูแลรับผิดชอบ จัดทำแผนเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศหลายมาตรการ  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของนักลงทุนในต่างประเทศระหว่างวันที่ 19-23 เม.ย. ที่ผ่านมานายสุพัฒนพงษ์  ได้นำคณะไปจัดกิจกรรมส่งเสริมและชักจูงการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นต่างชาติที่มีการลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด และเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายสำคัญของโลก ซึ่งในโอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีและคณะได้ให้ข้อมูลนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรม S-Curve  รวมถึงมาตรการจูงใจนักธุรกิจและนักลงทุนเดินทางเข้ามาพำนักในประเทศไทยโดยถือวีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว (Long – Term Resident Visa: LTR)  

 “ต่อเนื่องจาการผ่อนคลายมาตรการเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีให้มีการมีการเจรจาทั้งทางการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อเร่งให้การค้าและการลงทุนเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย ซึ่งตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีเนื่องจากหลายประเทศได้เปิดประเทศ สามารถเดินทางได้มากขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนของการโร้ดโชว์ในต่างประเทศนั้นเริ่มจากญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก ซึ่งตามแผนงานของสำนักงานบีโอไอจะทยอยเดินทางไปประเทศที่มีการลงทุนในไทยมากและเปิดประเทศแล้ว เช่น ยุโรป สหรัฐฯ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบที่รองนายกรัฐมนตรีนำคณะไปในนามของรัฐบาลและระดับการให้ข้อมูลโดยสำนักงานบีโอไอเอง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว 

“บิ๊กตู่”ควง สุชาติ - พีระพันธุ์ ล่องใต้ บอกไปทำงานดูแลประชาชน ไร้นัยยะการเมือง 

นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจาก ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 56 ตำบลโคกม่วง อำเภอคลองหอยโข่ง  จังหวัดสงขลา ในการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง เพื่อติดตามโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 แก้ไขอุทกภัย อ.หาดใหญ่  พร้อมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดพัทลุง และผู้บริหารท้องถิ่น 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า การลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้เพื่อไปทำงาน ดูแลประชาชน ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด

ในช่วงเช้านายกรัฐมนตรี มีภารกิจตรวจติดตามโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 การแก้ไขอุทกภัย อำเภอหาดใหญ่  ในการจัดทำโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ปรับปรุงคลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) ให้มีศักยภาพเพียงพอในการป้องกันน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ และเป็นพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ณ คลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) อำเภอหาดใหญ่  ซึ่งปัจจุบันโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 92.10% โดยประตูระบายน้ำหน้าควน 2 ซึ่งอยู่บริเวณปากคลองระบายน้ำ ร.1 ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถบริหารจัดการน้ำโดยการเปิดปิดบานเพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่คลองระบายน้ำ ร.1 และคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งได้ทำการปรับปรุงโดยการขุดขยายความกว้างของคลองระบายน้ำจากเดิมท้องคลองกว้าง 24 เมตร ขยายเป็น 70 เมตร พร้อมทั้งก่อสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 ทำให้คลองระบายน้ำ ร.1 ในปัจจุบันจะสามารถช่วยในการระบายน้ำในช่วงฤดูฝนได้สูงสุดประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

“นายกฯ” ปลื้ม นักกีฬา “เชียร์ฮิปฮอป” คว้าแชมป์โลก สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

เมื่อวันที่25 เม.ย.นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมนักกีฬาเชียร์ฮิปฮอป ทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการกีฬาไทย คว้าเหรียญทอง ประเภทดับเบิ้ลเชียร์ฮิปฮอป จากการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่สหรัฐอเมริกาโดย สมาคมกีฬาเชียร์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คัดตัวแทนเยาวชนไทย 2 คน ได้แก่  “แบงค์” หรือนายนพรัตน์ บุญรัตน์ สมาชิกจากทีม Group Royal Crew-GRC and Mix Them Up  และ “ดรณ์” หรือนายกร คุ้มราช เป็นสมาชิกจากทีม The Zoo and Awesome เข้าแข่งขันกับนักเต้นฮิปฮอปทั่วโลก ในรายการ THE 2022 ICU WORLD CHAMPIONSHIPS ณ ESPN Wide World of Sports Complex เมืองออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุด จัดโดยสหพันธ์กีฬาเชียร์นานาชาติ (THE INTERNATIONAL CHEER UNION -ICU)  มีนักกีฬาทั้งหมด 17 ประเทศ โดยทั้งสองคนสามารถเอาชนะนักกีฬาตัวเต็งจากหลายประเทศทั้งเอกวาดอร์ เม็กซิโก เปอร์โตริโก้ และ เยอรมนี  

 

สมุทรปราการ-ครบรอบ 23 ปี วันเทศบาล!!” ปลัดกระทรวงมหาดไทย” “นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย” ตรวจเยี่ยมเทศบาลตำบลแพรกษา เผย เป็นต้นแบบด้านการศึกษา ส่งเสริมการใส่ผ้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 5 เทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานตรวจเยี่ยมเทศบาลตำบลแพรกษา เนื่องในวันเทศบาล ประจำปี 2565 ซึ่งตรงกับวันที่ 24 เมษายน ของทุกปี อีกทั้ง ครบรอบ 23 ปี วันก่อตั้งเทศบาลตำบลแพรกษาแห่งนี้อีกด้วย

โดยมี นายศุภมิตร ชิณศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายเมธากุล สุวรรณบุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ นายมาชัย ไพศาลธนสมบัติ ปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภา พนักงานเทศบาล ประธานชุมชน ตลอดจนประชาชนชาวแพรกษาร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งในช่วงเช้าทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ โดยการถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น ได้มีการแสดงโดยนักเรียนโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา

โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลแพรกษา ภายใต้การปกครองดูแลของนาง อรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ถือว่าเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนการบริหารงาน การให้บริการด้านสาธารณะ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวแพรกษามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลสำเร็จตามที่ปรากฎ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการศึกษาโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา ถือว่าเป็นโรงเรียนที่ดีเยี่ยมจนเป็นที่ยอมรับและได้รับการยกย่อง คณะครูผู้ฝึกสอนรวมถึงนักเรียนโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา สังกัดเทศบาลตำบลแพรกษา ล้วนแต่มีความสามารถและมีการบริหารด้านการศึกษาที่ดีเยี่ยม อีกทั้ง เป็นสถาบันการศึกษาของภาครัฐเป็นสถานศึกษาท้องถิ่นที่ดีที่สุดในประเทศ ทั้งในด้านกิจกรรม ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านวิชาการ และกล้าแสดงออก เนื่องจากมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยมทำให้นักเรียนรู้จักเสียสละ รู้จักการช่วยเหลือสังคม ซึ่งหมายความว่าสังคมเราก็จะเป็นสังคมที่ดีและน่าอยู่

ในด้านการดูแลพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลแพรกษา การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข โดยจะเห็นได้ว่าเทศบาลตำบลแพรกษานั้น ได้มีการดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดีทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะในยามที่เกิดการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 เทศบาลตำบลแพรกษาก็ได้วางระบบเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 การลงพื้นที่มอบสิ่งของและการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ การอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ติดเชื้อรวมถึงการรณรงค์การรับวัคซีนและการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนชาวแพรกษาเพื่อป้องกันโรค โควิด-19

‘เอมมานูเอล มาครง’ คว้าชัยเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศส เป็นผู้นำฝรั่งเศสคนแรกรอบ 20 ปี ได้นั่งเก้าอี้สมัยที่ 2 

ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสอย่างไม่เป็นทางการ "เอมมานูเอล มาครง" ผู้นำฝรั่งเศส วัย 44 ปี ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเบื้องต้นร้อยละ 58 สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 20 ปี ที่ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 

วันนี้ (25 เม.ย. 65) ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสรอบสองตัดสินที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง" นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยมและสนับสนุนสหภาพยุโรปหรืออียู วัย 44 ปี ชนะเลือกตั้งเหนือ "นางมารีน เลอ เปน" คู่แข่งจากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ที่ประกาศนโยบายต่อต้านสหภาพยุโรป หรือ อียู และต่อต้านผู้อพยพ วัย 53 ปี

ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ "มาครง" ได้คะแนนเสียงร้อยละ 58 ส่วน "เลอ เปน" ได้ คะแนนเสียงร้อยละ 42 แม้ช่องว่างของคะแนนเลือกตั้งที่ชนะกัน ไม่ทิ้งห่างมากเท่ากับเมื่อครั้งการเลือกตั้งเมื่อปี 2560 แต่ก็ทำให้นายมาครง สร้างประวัติศาสตร์ เป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 20 ปี 

นายมาครงพร้อมบริจิต มาครง สตรีหมายเลข 1 เดินทางมาถึงเวทีที่จัดตั้งขึ้นที่ลานหน้าหอไอเฟล แลนด์มาร์ก สัญลักษณ์สำคัญของฝรั่งเศส ในกรุงปารีส เพื่อแถลงต่อกลุ่มผู้สนับสนุนตามที่ประกาศไว้ช่วงวันเลือกตั้ง  

ก่อนขึ้นเวทีทักทายและแถลงขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุน และ ชาวฝรั่งเศส ตลอดเวลา 5 ปี เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งด้านดีและยากลำบากรวมทั้งวิกฤติการณ์ที่ไม่ธรรมดา แต่วันนี้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวเขาให้บริหารประเทศฝรั่งเศสต่อไปอีก 5 ปี ประกาศจะเป็นประธานาธิบดีของชาวฝรั่งเศสทุกคน ไม่มีค่ายหรือแบ่งฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่คนที่เลือก มารีน เลอ เปน นักการเมืองฝ่ายขวาจัด 

ขณะที่ นางบริจิต ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ช่องหนึ่ง รับรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายมาครงชนะเลือกตั้งอีกสมัย รู้สึกมีความสุขและเชื่อมั่นในนายมาครง ผู้เป็นสามี ที่สร้างประวัติศาสตร์ มาครง มีเป้าหมายอันแรงกล้าที่จะทำทุกอย่างเพื่อฝรั่งเศส

ด้าน มารีน เลอ เปน ผู้สมัครฝ่ายขวาจัด วัย 53 ปี ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสครั้งนี้นับเป็นรอบที่ 3 กล่าวยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส รอบสองรอบตัดสิน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top