Wednesday, 26 June 2024
Hard News Team

กองทัพอากาศ เผย ก.ต่างประเทศ ประสานขอเครื่องแอร์บัสบินรับ ขรก.สถานทูต-นักเรียนไทยในอินเดียกลับรักษาตัว หลังมีผู้ติดเชื้อหลายราย

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564  แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้เตรียมความพร้อมเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 15 หรือแอร์บัส A320  พร้อมเจ้าหน้าที่นักบิน แพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยทั้งหมดจะสวมชุดป้องกันพีพีอี เพื่อเดินทางไปรับคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 หลายรายที่ประเทศอินเดีย คาดว่าจะออกเดินทางได้จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน  6  ดอนเมือง ในวันที่ 1 พ.ค. แต่ทั้งนี้ต้องรอกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการแจ้งยืนยันอีกครั้ง

เนื่องจากกองทัพอากาศมีหน้าที่ดำเนินการตามที่มีการร้องขอให้ช่วยสนับสนุนเท่านั้น อย่างไรก็ตามทราบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทย ประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และนักเรียนไทย โดยก่อนหน้านั้นทางสถานทูตไทยประจำกรุงนิวเดลี ได้ประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ประสานกองทัพอากาศนำเครื่องบินไปรับเจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทยประจำกรุงนิวเดลีที่ป่วยกลับมารักษาในประเทศไทย เนื่องจากมีเครื่องมือทางการแพทย์ และโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า โดยกองทัพอากาศจะดำเนินการเหมือนครั้งที่ผ่านมาที่เดินทางไปรับผู้ช่วยทูตทหารอากาศประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย พร้อมทั้งเตรียมแผนอพยพคนไทยไว้หากรัฐบาลสั่งการลงมา  

แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการรักษาตัวของผู้ช่วยทูตทหารอากาศประจำกรุงนิวเดลีนั้น ล่าสุดทราบว่าอาการทรงตัว 

‘บิ๊กตู่’ยันพรรคร่วมแน่นแฟ้น พร้อมร่วมมือทำงานต่อ  ‘วอน’ ทุกฝ่ายให้กำลังบุคบากรทางการแพทย์ทุกคน 

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ตามที่สื่อมวลชนได้ตั้งคำถามถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถึงความแน่นแฟ้นของพรรคร่วมรัฐบาลหลังเกิดความระหองระแหงขึ้น ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความมุ่งมั่นในการที่จะร่วมมือกันทำงานและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทั้งหมดเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนว่า ขณะนี้ ในส่วนของนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดยังทำงานด้วยความเข้มแข็ง

สำหรับสิ่งต่างๆในขณะนี้นั้นขอให้ประชาชนทุกคนได้ให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งหมอพยาบาล เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า ทุกคนและประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการดูแลสุขภาพตัวเองและความร่วมมือกิจกรรมต่างๆ ทั้งการทำงานที่บ้านหรือเวิร์คฟอร์มโฮม(wfh) การลดการเดินทางหรือการลดรวมกลุ่มกันด้วยเหตุผลต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอขอบคุณความร่วมมือของทุกคนและขอให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา โควิด-19 ในปัจจุบัน

ศบค.เผย ติดเชื้อ 1,583 ราย ตายเพิ่ม 15 ราย สะสม 203 ราย   กทม.ติดเชื้ออันดับหนึ่ง คืบหน้าฉัดวัคซีนกว่า1 ล้านโดส

วันที่ 30 เมษายน 2564 พญ.พรรณประภา ยงค์ ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,583 ราย จากระบบเฝ้าระวัง 1,366 ราย ตรวจพบจากการคัดกรองเชิงรุก 213 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย รวมติดเชื้อสะสม 65,153 ราย หายป่วยแล้ว 36,254 ราย เสียชีวิต 15คน รวมเสียชีวิตสะสม 203 ราย โดยการระบาดรอบเดือนเม.ยมีผู้ติดเชื้อสะสม 36,290 ราย เสียชีวิตสะสม 109 คน

โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด5 อันดับแรก คือ กทม.เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ และนนทบุรี ซึ่งกทม.วันนี้พบ 417 ราย สมุทรปราการ 138 รายชลบุรี 131 ราย เชียงใหม่ 66 ราย และนนทบุรี 50 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต 15 ราย เป็นชาย9ราย หญิง 6 ราย อยู่ในกทม. 9 ราย ชลบุรี พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครปฐม ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละหนึ่งราย เฉลี่ยอายุผู้เสียชีวิต 75 ปี มีโรคประจำตัว ที่เสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดสมองและอ้วน ปอดเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยติดเตียง 

โดยมีประวัติเสี่ยงคือสัมผัสใกล้ชิดกับสมาชิกที่ติดเชื้อในครอบครัว สัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน สัมผัสผู้ติดเชื้อสถานบันเทิงสัมผัส ดูแลผู้ป่วยติดเตียง และไม่ทราบประวัติ

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก ยืนยันสะสมทั่วโลกกว่า  151ล้านราย ติดเชื้อใหม่กว่า 8แสนรายเสียชีวิตกว่า 15,000 คน รวมสะสมเสียชีวิตกว่า 3 ล้านคน โดยสหรัฐอเมริกาอินเดียบราซิลฝรั่งเศสและรัสเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมตามลำดับ

โดยฝั่งเอเชียพบว่าประเทศอินเดียมีผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงต่อเนื่องอยู่ที่กว่า 3 แสนรายต่อวันและต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่ประเทศมาเลเซียเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และลาว ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่อง

พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ความคืบหน้าการฉีดวัคซีน ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 29 เม.ย.2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 1,411,614 โดส เฉพาะวันที่ 29 เม.ย. 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน 
เข็มที่ 1 จำนวน 16,035 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 50,933 ราย

คลอดมาตรฐานบริการอาหารรับท่องเที่ยว

กรมการท่องเที่ยว แจ้งว่า ขณะนี้จัดทำและปรับปรุงมาตรฐานบริการอาหารเพื่อการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีหลักเกณฑ์มาตรฐานที่เน้นในเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการอาหาร และเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ ซึ่งตามมาตรฐานได้กำหนดคุณสมบัติและข้อกำหนดเบื้องต้น คือผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนตามกฎหมายและปฏิบัติตามกฎระเบียบ และพ.ร.บ.สาธารณสุขด้วย 

สำหรับคุณสมบัติและข้อกำหนดเบื้องต้น แยกเป็น 3 เรื่องใหญ่ คือ เรื่องสถานที่ ต้องมีสถานที่เตรียมปรุงอาหารที่สะอาด เป็นระเบียบถูกสุขลักษณะ ผนังและเพดานควรมีสีอ่อน มีแสงสว่างเพียงพอ โต๊ะเตรียมปรุงอาหาร แข็งแรง สะอาด สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. ผนังบริเวณเตาไฟทนความร้อน ภายในมีการระบายอากาศดี มีที่ดูดอากาศหรือปล่องระบายควัน ขณะที่สถานที่รับอาหารก็ต้อง สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะเช่นกัน และสถานที่ยังต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข รวมทั้งกฎระเบียบอื่น ๆ เช่นเดียวกับการมีระบบป้องกันภัยด้วย 

ส่วนต่อมาคือ เรื่องกระบวนการ โดยได้มีการกำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการต้องไม่มีการเตรียมปรุงอาหารหน้าหรือในห้องน้ำ และปรุงอาหารสุกโดยใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่วางอาหารนานเกิน 2 ชั่วโมง อีกเรื่อง คือ การจัดเก็บอาหารที่ปรุงเสร็จ กำหนดไว้ว่า จะต้องมีการป้องกันการปนเปื้อนระหว่างรอเสิร์ฟ และมีการป้องกันการปนเปื้อนระหว่างการขนส่งอาหารจากครัวไปสู่โต๊ะอาหารด้วย 

ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็ม 1 และ 2 ในไทย 28 ก.พ.-28 เม.ย. 64 ยอดฉีดสะสมทะลุ 1.3 ล้านโดส

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วงวันที่ 27 เมษายน ในประเทศไทย ดังนี้... 

- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 20,761 ราย
- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 44,172 ราย

ส่วนจำนวนผู้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 28 เม.ย. พ.ศ.2564 (60 วัน) มีการฉีดไปแล้ว 1,344,646 โดส ในพื้นที่ 77 จังหวัด ดังนี้... 

- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 1,059,721 ราย
- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 284,925 ราย

สำหรับ เป้าหมายการฉีดฉีดวัคซีนของรัฐบาลนั้น ตั้งใจจะฉีดคนไทยให้ได้ร้อยละ 70 หรือประมาณ 50 ล้านคนภายในปี 64 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในปีนี้และสามารถเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจได้ในปี 65 ฟื้นเศรษฐกิจ


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/208016

"ศรีสุวรรณ" จี้ กกต.สั่งเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนาหนองไผ่ให้เป็นโมฆะ เหตุพบผู้สมัครมีลักษณะต้องห้ามลงสมัครเหตุเคยถูกให้ออกจากราชการทั้ง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำไมจึงผ่านการสมัครรับเลือกตั้งได้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้มีคำสั่งหรือมีมติให้การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลนาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สรินทร์เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ พร้อมต้องดำเนินคดีเอาผิดบุคคลดังกล่าว ด้วยเหตุพบข้อพิรุธเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนองไผ่ บางรายว่าอาจเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เนื่องจากความปรากฏว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลนาหนองไผ่รายหนึ่งที่เป็น อดีตกำนัน และอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ได้กระทำความผิดวินัย และจ.สุรินทร์ ได้มีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งมานานแล้ว อันเนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ในสมัยนั้น ได้พิจารณาและมีมติว่า บุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิดโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบกับกิจการขององค์การบริหารส่วนตำบลนาหนองไผ่ โดย ป.ป.ป. ได้ลงมติในเรื่องดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการจ.สุรินทร์ในฐานะผู้บังคับบัญชา  เพื่อดำเนินการทางวินัย ตาม มาตรา19 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ 2518 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2530 ในสมัยนั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า เมื่อบุคคลดังกล่าว เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือ ถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 50(8) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ที่บัญญัติไว้ความว่า บุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือ เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือ ถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

การที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลตำบลตำบลนาหนองไผ่ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและประกาศให้เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี และได้ออกหลักฐานการสมัครให้ด้วยนั้น ย่อมเป็นการขัดต่อกฎหมายข้างต้นและหรือขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายโดยชัดแจ้ง เพราะหลักฐานชี้ชัดว่าบุคคลดังกล่าวรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีคุณสมบัติจะลงสมัคร ทางเราจึงมายื่นคำร้องต่อ กกต. ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย

"แรมโบ้" ดีใจตรวจหาเชื้อโควิดไม่พบเชื้อ  กักตัวผ่านไปแล้ว 1 อาทิตย์ เมื่อครบ 14 วันผลเป็นปกติ กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม

 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วานนี้ (29 เม.น.) ได้ไปตรวจผลหาเชื้อโควิดที่ สถาบันบำราศนราดูร ผลปรากฏว่าเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิดในร่างกาย เนื่องจากตนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว14 วันตามมาตรการของ ศบค.และสาธารณสุข หลังจากที่พนักงานขับรถ ติดเชื้อโควิดพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล


ทั้งนี้ ตนได้ตรวจหาเชื้อมาก่อนหน้านี้ เป็นระยะๆเพราะต้องทำงานใกล้ชิดกับมวลชน ที่เดินทางมายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์บริการประชาชน1111 สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในช่วงก่อนหน้านี้ และเมื่อทราบว่าพนักงานขับรถตนติดเชื้อโควิด ตนจึงได้ไปตรวจผลออกมาไม่พบเชื้อ อีกทั้งได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้วครบสองเข็ม จึงมั่นใจว่า ภูมิต้านทานแข็งแกร่ง ยิ่งผลตรวจที่สถาบันฯเมื่อวานนี้ออกมาว่าไม่ติดเชื้อ ยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้น

"อย่างไรก็ดี ผมกักตัวมาแล้ว 7 วัน จะครบ 14 วัน ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ โดยจะไปตรวจครั้งสุดท้ายเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่า ไม่ติดเชื้อโควิดอย่างแน่นอน และพร้อมจะกลับไปทำงานตามปกติเช่นเดิมต่อไป" นายเสกสกลกล่าว

สภาฯขานรับมาตรการเข้มป้องกันโควิด-19 ห้ามนั่งรับประทานอาหารร่วมกันภายในโรงอาหาร ใส่หน้ากากในรัฐสภา 100%  ลดเจ้าหน้าที่ทำงานเหลือไม่เกิน 30 % ส่วนวุฒิฯให้ขรก.ทำงานที่บ้านทั้งหมด ถึง 31 พ.ค. 

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ปรับเพิ่มมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในรัฐสภา บริเวณโรงอาหาร ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกข้อกำหนด ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนด เนื่องจากรัฐสภา ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด โดยไม่อนุญาตให้มีการนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน จึงได้นำโต๊ะและเก้าอี้ออกนอกพื้นที่ ให้เป็นไปตามข้อกำหนด และให้ข้าราชการ นำกลับไปทานส่วนตัวในพื้นที่ของตนเองเท่านั้น เพื่อลดการรวมกลุ่มระหว่างการรับประทานอาหาร


ขณะเดียวกัน ยังคงเข้มงวดต่อบุคคลที่จะเข้ามาภายในอาคารรัฐสภา โดยจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายในรัฐสภา 100% นอกจากนั้นการใช้ลิฟท์โดยสารขึ้นลง จำกัดครั้งละไม่เกิน 6 คน เป็นต้น

สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการชุดต่าง ๆ ของสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งงดการประชุมหลายคณะ เพื่อให้ความร่วมมือต่อการลดการแพร่ระบาดโควิด-19 และลดการรวมตัวของคนจำนวนมากเกินกว่า 20 คน ส่วนคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ได้สั่งงดการประชุมทั้งหมดออกไปก่อน

นอกจากนั้นขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯได้ปรับลดจำนวนข้าราชการ ให้มาปฏิบัติที่ในรัฐสภาไม่เกินร้อยละ 30 ส่วนอีกกว่าร้อยละ 70 ได้มีประกาศให้ข้าราชการปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อลดการรวมตัวกัน ส่วนสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ประกาศให้ข้าราชการ ปฏิบัติงานจากที่บ้านทั้งหมด จนถึง 31 พ.ค.นี้

กระหึ่มเทคโนโลยีโอนเงิน! ธนาคารกรุงเทพ ร่วมนำร่อง บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านพร้อมเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทย-สิงคโปร์ ง่ายสุดใช้แค่เบอร์มือถือที่ผูกพร้อมเพย์/เพย์นาว รับเงินแบบเรียลไทม์ ทั้งโอนทั้งรับ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นางพรนิจ ตุลย์วัฒนจิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในธนาคารนำร่องให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านพร้อมเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (PromptPay International) ระหว่างไทยและสิงคโปร์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการโอนเงิน หรือรับเงินโอนระหว่างไทย-สิงคโปร์ ได้โดยสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยใช้ข้อมูลเพียงเบอร์มือถือที่ผูกไว้กับพร้อมเพย์ (ประเทศไทย) หรือเพย์นาว (สิงคโปร์) สามารถทำรายการได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ โดยปลายทางได้รับเงินทันทีเต็มจำนวน นอกจากนี้ ธนาคารกรุงเทพยังได้รับคัดเลือกให้เป็น Settlement Bank (ธนาคารที่รับผิดชอบการชำระดุลสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ) ในบริการพร้อมเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์อีกด้วย

“บริการนี้เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญระหว่างธนาคารกลางของไทยและสิงคโปร์ และธนาคารพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ใช้ข้อมูลน้อยลงเพียงมีเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์/เพย์นาวไว้เท่านั้น เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้ารายย่อยในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินให้เพื่อนเพื่อฝากซื้อสินค้า โอนเงินค่าการศึกษา ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โอนเงินกลับบ้านให้ครอบครัวสำหรับคนสิงคโปร์ที่ทำงานในไทย หรือคนไทยที่ทำงานในสิงคโปร์ เป็นต้น กลุ่มลูกค้ารายย่อยสามารถทำรายการได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศที่ลดลงอย่างมาก”

สำหรับขั้นตอนการใช้โอนเงินไปยังสิงคโปร์ผ่านระบบพร้อมเพย์ ลูกค้าสามารถทำรายการได้ผ่านโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ โดยล็อกอินเข้าใช้งานและเลือกเมนู “โอนเงินไปต่างประเทศ” จากนั้นเลือก “พร้อมเพย์อินเตอร์เนชั่นแนล” และทำตามขั้นตอนการโอนเงิน โดยระบุปลายทางเป็นเบอร์มือถือของสิงคโปร์ที่ลงทะเบียนไว้กับ PayNow ลูกค้าสามารถระบุยอดเงินโอนที่ต้องการได้ทั้งสกุลเงินบาท (THB) และสิงคโปร์ดอลลาร์ (SGD) วงเงินทำรายการสูงสุด 1,000 SGD/วัน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันรายการด้วยรหัสผ่าน (Mobile PIN) เรียบร้อยแล้ว เงินจะถูกโอนไปยังปลายทางทันที พร้อมกับได้รับ e-slip เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ การโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลไปยังเบอร์มือถือของสิงคโปร์นั้น เบอร์มือถือดังกล่าวจะต้องลงทะเบียนเพย์นาวกับธนาคารในสิงคโปร์ที่ร่วมรายการ ซึ่งในปัจจุบันมีธนาคารเข้าร่วมโครงการ 3 แห่ง ประกอบด้วย DBS Bank (DBS) Oversea-Chinese Banking Corporation (OCBC) และ United Overseas Bank (UOB)

พิเศษสำหรับรายการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไปยังสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน-31 กรกฎาคม 2564 จะมีค่าธรรมเนียมเพียง 75 บาท/รายการ (ปกติ 150 บาท/รายการ)

ภายใต้ความร่วมมือในโครงการนี้ ลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารทั้ง 3 แห่งในสิงคโปร์ สามารถโอนเงินมายังประเทศไทยให้กับผู้รับผ่านเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารกรุงเทพแทนการระบุเลขที่บัญชีธนาคาร ซึ่งผู้รับเงินจะได้รับเงินโอนจากสิงคโปร์ได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน โดยได้รับเงินเต็มจำนวนเป็นสกุลบาท สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารกรุงเทพ สามารถทำรายการผ่านโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพ รวมถึงช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ทันที

“ธนาคารกรุงเทพมีความมุ่งมั่นยกระดับบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทย และบริการระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำรายการผ่านช่องทางดิจิทัลและอิเล็กอทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า เช่น การเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ทำหน้าที่เป็น Settlement Bank หรือธนาคารที่รับผิดชอบการชำระดุลสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้บริการ Cross-Border QR Payment ระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม จนถึงครั้งล่าสุดที่ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในธนาคารนำร่องให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านพร้อมเพย์ดังกล่าว เพื่อตอกย้ำจุดยืนในการเป็น ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ ต่อไปอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง” นางพรนิจ กล่าว

"กล้าเติมอิ่ม" กรณ์ ลุยช่วยผู้เดือดร้อนจากโควิด แจกข้าวกล่องพี่น้องฝั่งธนฯ พร้อมขยายผลทั่วกรุงเทพฯ 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ตามที่พรรคกล้าได้ระดมข้าว 2 ตัน ทำข้าวกล่อง 30,000 ชุดเพื่อแจกโรงพยาบาลสนาม โดยถือเป็นการช่วยคนได้สองต่อ ต่อแรกคือชาวนาที่ จ.มหาสารคาม ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น และต่อที่สองคือ ข้าวกล้องอินทรีย์จะตกถึงมือผู้ป่วยและคนเดือดร้อน นอกจากนี้ยังได้เปิดศูนย์ #กล้าสู้โควิด ช่วยผู้ป่วยหาเตียงสำเร็จไปแล้วว่า 70 เคส 

โดยเมื่อวันก่อนได้ทำข้าวกล่องแจกพี่น้องชุมชน “ยานนาวา-บางคอแหลม” และวานนี้ (29 เมษายน) ก็ไปแจกที่ที่ “ตลิ่งชัน-ภาษีเจริญ” กับผู้กล้าของเราคือ “หมอแม็พ” กันตพงศ์ ดีชัยยะ และจะกระจายไปทุก ๆ เขตทั่วกรุงเทพฯ 

สำคัญที่สุดขอขอบคุณเชฟอาสา เชฟแอ้ม นรี บุญยเกียรติ ขอบคุณหลายๆ ท่าน ที่ทยอยส่งวัตถุดิบมาให้ รวมไปถึง อาสาสมัครของแต่ละชุมชนนะครับ ในทุกวิกฤตเราจะเห็นความสวยงามแบบนี้ ก็คือความสามัคคีในการช่วยกันลงมือทำของคนไทย

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ทุกท่านสามารถมาลุย  “กล้าเติมอิ่ม” กับเราได้  3 วิธี คือ 1. ร้านอาหารใด ต้องการร่วมโครงการกับเรา ช่วยทำอาหารให้เรา เราจะยินดีมาก 2. ใครสนใจ สมทบวัตถุดิบในการทำอาหาร รวมถึงภาชนะรีไซเคิลได้ในการใส่ข้าวกล่อง inbox มาที่เพจ Korn Chatikavanij ได้เลย จะมีทีมงานติดต่อไป 3. สามารถสมทบทุนข้าวจากชาวนา ได้ที่ โครงการ เกษตรเข้มแข็ง >> เลขที่บัญชี 902-7-11390-2 ธนาคารกรุงเทพ ได้เช่นกัน

#คนละไม้คนละมือ #สู้โควิด
#การเมืองสร้างสรรค์ #ปฏิบัตินิยม
#พรรคกล้า #เรามาเพื่อลงมือทำ


 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top