Tuesday, 24 June 2025
Hard News Team

อึ้ง!! การค้าน้ำมัน 'รัสเซีย-อินเดีย' พุ่ง!! เติบโตมหาศาล 25 เท่าหรือ 2500%

World Maker เผย รัสเซีย-อินเดียค้าน้ำมันพุ่ง 25x !!! ล่าสุดเติบโตถึง 25 เท่าหรือ 2500% โดยการส่งมอบ 3 เดือนที่ผ่านมาคิดเป็นมากกว่า 10 เท่าของการส่งมอบตลอดปีที่แล้ว !!! เรียกได้ว่าเติบโตกันอย่าง 'มหาศาล' เลยทีเดียว ! และที่สำคัญคือราคา Discount จากตลาดโลกอย่างน้อย 30% !! งานนี้โกยกันยับทั้งคนซื้อทั้งคนขาย !

⚠️ล่าสุดดูเหมือนว่าการค้าระหว่างรัสเซีย-อินเดียโดยเฉพาะทางด้านน้ำมัน กำลังเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล โดยตัวเลขการส่งมอบพุ่งขึ้นถึง 25 เท่าหรือ 2500% ขณะที่การส่งมอบในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวสูงถึง 24 ล้านบาร์เรล !! เทียบกับปีที่แล้วเพียง 960,000 บาร์เรลเท่านั้น !

📌โดยรวมแล้วอินเดียรับน้ำมันดิบจากรัสเซียไปกว่า 34 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่ามูลค่าการนำเข้าทั้งหมดตลอดปี 2021 ถึง 10 เท่าหรือ 1000% ! ท่านผู้อ่านลองคิดดูเอาเองว่าตัวเลขนำเข้าเพียง 3 เดือนสูงกว่าตัวเลขตลอดปีที่แล้วถึง 10 เท่ามันมากแค่ไหน !!

ส่วนตัวเลข 24 ล้านบาร์เรลในเดือนนี้นั้น เพิ่มขึ้นจาก 7.2 ล้านบาร์เรลในเดือนเมษายน และขยายจาก 3 ล้านบาร์เรลในเดือนมีนาคม และที่ยิ่งไปกว่านั้น คาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการส่งมอบสูงถึง 28 ล้านบาร์เรล !! (เพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านบาร์เรลจากเดือนนี้)

การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกที่พึ่งประกาศคว่ำบาตรน้ำมันทางเรือ (คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการส่งมอบทั้งหมด) ต่อรัสเซีย ทำให้รัสเซียต้องเร่งปรับเปลี่ยน Supply Chain ไปยังตลาดอื่น ๆ แทน โดยเฉพาะในเอเชียและตลาดเกิดใหม่ ซึ่งสร้างโอกาสให้โรงกลั่นของอินเดียสามารถยกระดับการซื้อน้ำมันจากรัสเซียได้ในราคาพิเศษอย่างมาก ! รวมถึงประเทศจีนที่กำลังเร่งซื้อพลังงานจากรัสเซียอย่างมหาศาล

สัญญาณบวกชัด!! หลัง 'สัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ' แน่นแฟ้น!! ลุ้น!! ทุนซาอุฯ ขอเอี่ยวหลากอุตสาหกรรมไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายยาเซอร์ บิน อุสมาน อัล-รูมัยยาน (Yasir bin Othman Al-Rumayyan) ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund: PIF) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับหนึ่งของโลก ก็ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีคำสั่งให้มาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหาโอกาสเพิ่มความร่วมมือกับประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยซาอุดีอาระเบียประสงค์ที่จะมีความร่วมมือกับไทยทางการค้าการลงทุน และด้านพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสำรวจพลังงานและแก๊ส ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อหาโอกาสสร้างความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว การกีฬา E-sports และ Soft power รวมทั้ง ซาอุดีอาระเบียหวังจะมี Business Dialogue ร่วมกับไทย เพื่อสร้างโอกาส และสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างกัน และใช้ไทยเป็นฐานลงทุนในภูมิภาคด้วย

ก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการผนึกกำลังด้านพลังงานครั้งสำคัญของบริษัท ซาอุดี อารัมโก (Saudi Aramco Oil Company) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย กับ บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ร่วมลงนามผนึกความร่วมมือด้านพลังงานในหลายมิติ ทั้งธุรกิจต้นน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงการสร้างความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ว่า นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ ปตท. ในการกระชับความร่วมมือกับ ซาอุดี อารัมโก ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่ความร่วมมือด้านพลังงานแห่งอนาคต ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างสมดุลระหว่างการดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน และสร้างโอกาสให้กับประเทศสู่การใช้พลังงานสะอาดในภายภาคหน้า เพิ่มขีดความสามารถตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานและเคมีภัณฑ์ทั่วโลก รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ของ ปตท.ที่จะขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตอีกด้วย
 

สลดใจ!! นักเรียนสวนกุหลาบเกือบ 3,000 คน ขาดแคลนโรงอาหาร วอน สส.พลังประชารัฐ ผลักดันงบจัดสร้างเพื่อช่วยเหลือลูกๆ สวนกุหลาบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการประสานถึงปัญหาความเดือดร้อนของนักเรียนโรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากโรงอาหารภายในสถานศึกษาแห่งนี้ มีไม่เพียงพอ ประกอบกับ มีนักเรียนจำนวนมากถึง 2,700 คน ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ต้องทนทุกข์กับปัญหานี้มานานหลายปี จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังสถานศึกษาแห่งนี้ พบว่าสถานศึกษาแห่งนี้มีนักเรียนศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 - ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 จึงทำให้สถานที่โรงอาหารภายในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ ไม่เพียงพอรองรับกับจำนวนนักเรียนที่มีจำนวนมากเกือบ 3,000 คน นักเรียนบางรายต้องหอบหิ้วอาหารกลางวันไปทานบนอาคารเรียนเพื่อลดความแออัดเบียดเสียดภายในโรงอาหาร บางรายต้องหาที่นั่งตามใต้ต้นไม้เพื่อนั่งรับประทานอาหาร และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ น้องๆนักเรียนบางคนต้องนั่งตากเดือด เนื่องจากไม่มีโต๊ะให้นั่งรับประทานอาหาร

เครือข่าย “กัญชา-เบียร์คราฟ-บุหรี่ไฟฟ้า” จับมือทวงสิทธิเชื่อเอาขึ้นบนดิน ได้ประโยชน์กว่าแบน

วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. 3 เครือข่ายดังจัดเสวนา “จากกัญชา ถึงบุหรี่ไฟฟ้าและคราฟเบียร์ ถูกกฎหมายแล้วดีอย่างไร” ชี้สังคมจะได้ประโยชน์จากการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย เผยความยากในการเคลื่อนไหวให้ถูกกฎหมาย ต้องสู้กับความเข้าใจผิด และผลประโยชน์ขัดแย้ง ด้านทนาย “รณณรงค์” เผยกฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการค้า แต่ผู้บริโภคกลับมารับโทษ ค่าประกันเป็นแสนเพราะกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 31 พ.ค 65 เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” ร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายประชาชน “กลุ่มกัญชาชน”  และ “กลุ่มประชาชนเบียร์” จัดเสวนาหัวข้อ “จากกัญชาถึงบุหรี่ไฟฟ้าและคราฟเบียร์”เนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. เพื่อชี้ถึงปัญหาการแบนจนทำให้บุหรี่ไฟฟ้า เบียร์คราฟ เป็นสินค้าผิดกฎหมาย ขณะที่กัญชาซึ่งได้รับการควบคุมแล้ว กลับยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ณ ร้าน Highland ถ.ลาดพร้าว ซอย 2 กรุงเทพฯ

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ เผยว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ หลายประเทศก็อนุญาตให้ใช้เพื่อเลิกบุหรี่ได้ แต่กลับเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย โดยจุดประสงค์การเรียกร้องสิทธิไม่ได้ต้องการสนับสนุนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสรี  แต่เป็นการให้เกิดการควบคุมให้ถูกต้อง
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ กล่าวเสริมในประเด็นการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมายว่า 

“พวกเราเคยยื่นรายชื่อผู้สนับสนุนกว่า 4 หมื่นรายชื่อ พร้อมแนบงานวิจัยจากต่างประเทศจำนวนมากขึ้นที่ยืนยันตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ รวมทั้งแนวทางการควบคุมของบางประเทศ เช่น อังกฤษ ที่แนะนำให้ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเลิกบุหรี่ได้ และเราหวังให้งานวิจัยเหล่านี้ควรต้องถูกนำมาพิจารณา แต่ก็ยังมีกลุ่มรณรงค์เลิกบุหรี่ที่อคติกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ปรับแก้มาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีความก้าวหน้าเสียที”

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดังซึ่งร่วมเสวนาในวันนี้ด้วยกล่าวว่า “ความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ทำให้ที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่พออัยการสั่งไม่ฟ้อง เคสการจับกุมก็น้อยลง แต่ก็อยากฝากไปถึงผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกคนว่าอย่ามีส่วนในการทำความผิดโดยการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ และขอให้หาทางต่อสู้ให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนว่าผู้ใช้ผิดหรือไม่ เช่นรวมตัวกันไปยื่นเอกสารให้ ผบ.สตช. พิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการจังหวัดปทุมธานีเป็นแนวทางบังคับใช้กฎหายของตำรวจ เป็นต้น”

พม. โดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเชิงปฏิบัติการสร้าง ความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558

วันนี้ (31 พฤษภาคม 2565 ) เวลา 09.00 น. นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ณ โรงแรมบางกอกชฎา เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 

นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 มุ่งเน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ คุ้มครองและป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศในสังคม นับเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี แล้ว ตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว แม้จะเห็นว่าสังคมมีการยอมรับผู้หญิงหรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้น แต่ยังพบว่าการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศยังปรากฎให้เห็นในสังคม เช่น ปัญหาการถูกจำกัดสิทธิ โอกาส และความก้าวหน้าในการทำงาน ปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เป็นต้น 

นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างเพศ คือ การสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เข้าใจและตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศอย่างแท้จริง บนฐานความเข้าใจว่า “ควรเคารพในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่มีความแตกต่างหลากหลายในเรื่องเพศ ไม่เลือกปฏิบัติด้วยปัจจัยเพศภาวะ” กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเล็งเห็นว่ามูลนิธิ สมาคม ชมรม องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน หรือองค์กรเอกชน เป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในสังคม จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ขึ้น ในวันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2565 ณ โรงแรมบางกอกชฎา กรุงเทพฯ โดยการประชุมดังกล่าว มุ่งหวังสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านความเท่าเทียมระหว่างเพศตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศร่วมกับ มูลนิธิ สมาคม ชมรม องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน หรือองค์กรเอกชน 

‘พิธา’ เปรียบงบ 66 เหมือน ‘ช้างป่วยที่เต้นระบำไม่ได้’ ยัน!! ควรทำให้ดี เพื่อชี้ชะตาไทยใน 10 ปีข้างหน้า

(31 พ.ค.65) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงินงบประมาณ 3,185,000 ล้านบาท ว่า ครั้งนี้คือ การอภิปรายงบประมาณครั้งสุดท้ายของการจัดสรรงบประมาณ โดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งงบประมาณคือภาพสะท้อนว่า ประเทศของเราให้ความสำคัญกับอะไร ทุ่มทรัพยากรลงทุนไปกับเรื่องไหน และจากการลงทุนในวันนี้ อนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

“พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณอย่างมาก เรานำเทคโนโลยีมาใช้แปลงเล่มงบประมาณ 2 ลัง 20,000 หน้า ให้กลายเป็นไฟล์ CSV เพื่อง่ายต่อการนำข้อมูลมาใช้ เราใช้การมีส่วนร่วมจากประชาชนมาร่วมกันวิเคราะห์ มีตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงน้อง ม.5 ที่มาช่วยกันถอดงบตั้งแต่ในด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ทำให้พบว่าประเทศไทยนี้เป็นประเทศเจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นประเทศแห่งการประชุม หากลองใส่ keyword ลงไปในไฟล์ คำว่า ‘รับรอง’ ขึ้นมา 380 ล้านบาท ใส่คำว่า ‘เบี้ยประชุม’ ขึ้นมา 940 ล้านบาท ใส่คำว่า ‘สัมมนา’ ขึ้นมา 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศไทยยังเป็นรัฐของผู้รับเหมาด้วย ซึ่งสะท้อนจากงบก่อสร้างที่มีอยู่ในงบประมาณหลายแสนล้านบาท”

พิธา ยังย้ำว่า ปีนี้คือจุดตัดสำคัญและเป็นปีแห่งการฟื้นฟู เพราะวิกฤต Covid ทั่วโลกกำลังคลี่คลาย เราเพิ่งมีการเลือกตั้งที่กรุงเทพมหานครที่ทำให้ประชาชนมีความหวังผ่านการเลือกตั้ง และที่สำคัญก็คือกำลังจะครบ 8 ปีการดำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจจะทำให้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป การจัดงบประมาณในปีนี้ จึงมีความสำคัญมาก ต้องมียุทธศาสตร์มากกว่าปกติ ต้องสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูประเทศ เพราะถ้าเราจัดได้ดีประเทศก็จะไปได้ดีในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ถ้าเราไม่ปรับตัวอีกหลังจากทศวรรษที่สูญหายเพราะการมีผู้นำประเทศอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ และระบอบ คสช. แล้วยังจัดงบประมาณแบบเดิมๆ ความหายนะที่เกิดขึ้นกับประชาชนจะตามมาและลูกหลานอนาคตก็จะพัฒนาไม่ได้

พิธา กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมของงบประมาณปี 66 เป็นเหมือน ‘ช้างป่วยที่เต้นระบำไม่ได้’ ในขณะที่เรากำลังเจอสถานการณ์รายได้ผันผวน รายจ่ายแข็งตัว การกู้ที่จะมีต้นทุนมากขึ้น ในเรื่องของรายจ่าย ส่วนใหญ่ยังใช้งบไปเพื่อเป็นรายจ่ายบุคลากรที่สูงถึง 40% อีกส่วนเป็นงบที่เอาไว้ชำระหนี้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นงบบุคลากร ใช้หนี้สาธารณะ ใช้หนี้นโยบาย หนี้ ธกส. สุดท้ายเหลือจริงๆ แค่ 1 ใน 3 เพื่อเอาไว้รับมือกับปัญหาปีต่อปีและความท้าทายในอนาคต

ต่อมา เรื่องรายได้ มีปัญหาว่าเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 2-3 แสนล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเค้าโครงเศรษฐกิจของเราเน้นแต่การท่องเที่ยวในเชิงปริมาณไม่ใช่เชิงคุณภาพ และเน้นอุตสาหกรรมส่งออกรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถจัดเก็บรายได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมีเศรษฐกิจที่อยู่นอกระบบการเก็บภาษีสูงถึง 40% และระบบภาษีแบบ 1 คนเลี้ยง 9 คน มีจำนวนผู้เสียภาษีเพียง 4 ล้านคนจากแรงงาน 40 ล้านคน

“เมื่อรายได้ผันผวนลดลงได้แต่รายจ่ายแข็งตัว ก็ต้องกู้มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีวิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลก ธนาคารกลางในประเทศพัฒนาแล้วต่างขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ถึงธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้รัฐบาลก็ต้องกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น” พิธา ระบุ
 

"เชียงราย" แม่สายเมืองท่องเที่ยวสวยงามโครงการเคเบิ้ลไฟฟ้าใต้ดิน

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา นาย ณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สายได้ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมตัดเสาไฟฟ้าต้นแรกโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเคเบิ้ลใต้ดินจากหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1

ไปจนถึงสี่แยกศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและเทศบาลตำบลแม่สายจัดขึ้น ณ.บริเวณหน้าด่านพรมแดนแห่งที่1โดยมีนาย ชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สาย นางสาว อุบล ใจวรรณะ นายกเทศมนตรีเทศบาลแม่สายมิตรภาพ พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานราชการ

“อลงกรณ์” เผย จีนปลดล็อกเซี่ยงไฮ้ 1มิ.ย. เปิดโอกาสส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรเพิ่ม ชี้อาจเป็นสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายซีโร่โควิดของรัฐบาลจีน

วันนี้ (31 พ.ค) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เขียนเฟซบุ๊กส่วนตัวอย่างน่าสนใจกรณีจีนประกาศปลดล็อกเมืองเซี่ยงไฮ้แบบไม่มีเงื่อนไขหลังจากล็อกดาวน์ปิดตายมาเป็นเวลานานพร้อมกับวิเคราะห์ว่าอาจเป็นสัญญาณการปรับเปลี่ยนนโยบายซีโร่โควิด (Zero Covid) ของรัฐบาลจีนที่ใช้มาเป็นเวลากว่า 2 ปีโดยมีข้อความดังนี้

“ข่าวดีวันนี้จากจีนครับ
ปลดล็อคเซี่ยงไฮ้ 100 %
อาจเป็นสัญญาณเปลี่ยนนโยบาย Zero Covid ของจีน

การส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรที่อั้นมาหลายเดือนจากปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์ติดขัดและตลาดค้าปลีกค้าส่งในเมืองต่างๆของจีนปิดไปหลายร้อยแห่งโดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่าใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ถูกล็อกดาวน์เป็นเดือน กระทบต่อการค้าระหว่างจีนกับโลกรวมทั้งประเทศไทย

ระบบขนส่งสาธารณะไทย บุคคลใดบ้างที่ได้รับการ ลดหย่อนค่าโดยสาร ?? 

บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด หรือ TSB ผู้นำระบบแพลตฟอร์มการให้บริการนวัตกรรมรถบัสพลังงานไฟฟ้า หรือ E-Bus จึงพัฒนารถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า พร้อมแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายใต้สโลแกน "เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม" ลงทุนในระยะแรกกว่า 2 พันล้านบาท พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ และจัดซื้อรถบัสโดยสารไฟฟ้าพลังงานบริสุทธิ์ 100% ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มาให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากถึง 2.72 ล้านคน โดยเปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา

วันนี้มาเจาะลึกค่าบริการขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าที่ถือว่าเป็นค่าครองชีพประชาชน โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดบุคคลที่ได้รับการลดหย่อนค่าโดยสารตามเงื่อนไข ดังนี้ 

‘เจษฎา’ แซะ 'จักรทิพย์' โพสต์วิธีแก้น้ำท่วมกรุง หรือว่าเตรียมความพร้อมสำหรับเลือกตั้งใหม่

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ แชร์โพสต์เฟซบุ๊กของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งโพสต์ข้อความ “หาที่ให้น้ำอยู่ หาทางให้น้ำไป ปัญหาน้ำท่วม ผมจะใช้ระบบ AI วัดระดับปริมาณน้ำ และมี Application แจ้งเตือน”

โดย รศ.ดร.เจษฎา ระบุว่า “อยู่ๆ คุณจักรทิพย์ ก็ออกมาโปรโมตแนวคิดแก้ปัญหา กทม.ใหญ่เลย หลังจากจบการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไปแล้ว หรือว่าเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่ครับ”


ที่มา: https://mgronline.com/uptodate/detail/9650000051640


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top