‘ส.ส.เพื่อไทย’ ซัด!! ‘รบ.ประยุทธ์’ เอื้อนายทุนผลิตสุรา ยก ‘รบ.ทักษิณ’ เทียบ ดันสุราพื้นบ้าน ทำเศรษฐกิจโต

วันนี้ (8 พ.ย. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ส.ส.มหาสารคาม คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การกระตุ้นและการพัฒนาเศรษฐกิจให้ประเทศมีความมั่นคง คือการพัฒนาฐานรากของประเทศให้มีความแข็งแรง การพัฒนาส่งเสริมสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่รัฐบาลไทยรักไทยทำไว้แต่เดิมนั้น เป็นการกระตุ้นด้านเศรษฐกิจจากรากหญ้าสู่ยอดไผ่ ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจดี ประเทศชาติก็แข็งแรง อย่างเช่น พ.ร.บ.สุรา รัฐบาลควรส่งเสริมสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านนี้ มากกว่าผูกขาดเพื่อเอื้อกลุ่มทุนใหญ่เท่านั้น เมื่อปี 2544 รัฐบาลนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร มีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน หนึ่งในนั้นคือการส่งเสริมให้มีการผลิตสุราแช่ชนิดสุราผลไม้ สุราแช่พื้นเมืองและสุรากลั่น ล้วนแต่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จำหน่ายสุราพื้นเมือง ส่งผลให้มีโรงงานสุราเกิดขึ้นจำนวนมากในชุมชนต่างๆ 

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากนโยบายสุราหมักแช่เสรีนี้ไม่ถูกขัดขวาง ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายย่อย สามารถผลิตและอุตสาหกรรมการผลิตสุราอาจได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างผู้ประกอบการรายย่อยให้แข็งแรง ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมสุรา เพราะมีพื้นฐานจากการเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่มีผลผลิตทางการเกษตรหลากหลาย ทั้งผลไม้นานาชนิด มีวัตถุดิบน้ำตาลหลากหลาย ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสุราที่ดีแทบทั้งสิ้น ยังไม่รวมภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยในการผลิตสุรา หากอุตสาหกรรมสุราได้รับการสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม จะขยายไปสู่อุตสาหกรรมสุราอื่นๆ นี่คือหนึ่งนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลนายกฯ ทักษิณได้ทำไว้ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้นแข็งแรง ดังนั้นการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงแข็งแรงอย่างแท้จริง จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้มีความแข็งแรงจากภายใน ดีกว่าการอาศัยเพียงทุนและกำลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภายนอกประเทศ 

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ขณะนี้กำลังคลี่คลาย ระดับน้ำกำลังลดและเข้าสู่ภาวะปกติ จึงขอให้รัฐบาลเร่งรัดการชดเชยช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการชดเชยด้านที่อยู่อาศัยและด้านการเกษตร เพราะเมื่อน้ำลดในระดับที่สามารถเพาะปลูกได้ ประชาชนก็จะลงมือทำการเกษตรในทันที เงินชดเชยนี้ก็จะได้ทันต่อการเป็นทุนในการเพาะปลูกหลังน้ำลด ที่สำคัญขอให้รัฐบาลชดเชยให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย ประชาชนจะได้ไม่ลำบากจนเกินไป