Wednesday, 9 July 2025
Hard News Team

คลื่นมหาชนชาวอังกฤษ 'แห่จองที่นั่ง-เฝ้ารอข้ามวัน' รับขบวนแห่พระบรมศพ 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ตลอดเส้นทาง

ชาวอังกฤษนับแสนแห่จับจองที่นั่งตลอดเส้นทางขบวนแห่พระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แม้ต้องรอข้ามวัน เพื่อเก็บภาพแห่งประวัติศาสตร์ไว้ในความทรงจำได้อย่างใกล้ชิด

หลังจากที่มีการเคลื่อนพระบรมศพจากพระราชวังฮอลลิรูด สู่ มหาวิหารเซนต์ไจลส์ ในเมืองเอดินเบอระ ของสกอตแลนด์ ก็มีชาวอังกฤษมากมายมหาศาลมารอชมงานพิธีอย่างหนาแน่นตลอดเส้นทาง Royal Mile และยังมีประชาชนทั้งชาวอังกฤษ และ ชาวต่างชาติมากกว่า 20,000 คนต่อแถวเพื่อสักการะพระบรมศพ แม้จะรอนานแค่ไหนก็ตาม 

เอลิซาเบธ มบูไลเทเย ผู้ย้ายถิ่นมาจากอูกานดา เดินทางจากกลาสโกวมาต่อคิวกับลูกชาย ลูกสาวตั้งแต่เที่ยงวัน กว่าจะเข้ามาถึงสวนหน้ามหาวิหารเซนต์ไจลส์ได้ตอน 2 ทุ่ม บอกว่า แม่ของเธอเกิดปีเดียวกับ ควีน เอลิซาเบธที่ 2 และยังตั้งชื่อเธอตามสมเด็จพระราชินี ครอบครัวของเธอมีความผูกพันกับอังกฤษมาก ดังนั้นวันนี้จึงต้องมาร่วมงานให้ได้ 

อาห์เหม็ด ซากี, มูไทรา ทาน และ อนินดยา ฮัพซารี ทั้ง 3 เป็นนักศึกษาต่างชาติจากอินโดนิเซีย ที่เพิ่งมาเรียนระดับปริญญาโทในเมืองเอดินเบอระ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า "ไม่เคยนึกฝันว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานนี้ และถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิต" 

ฟิโอนา และ แมท ซิกสเวิร์ธ 2 สามีภรรยาวัย 35 ชาวอังกฤษ ที่เดินทางมาต่อคิวหลายชั่วโมงเพื่อสักการะพระบรมศพเปิดเผยว่า "ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่ผู้ที่นิยมชมชอบเรื่องราวในราชวงศ์ แต่ก็นับถือควีน เอลิซาเบธ ในฐานะสตรีที่มีความพิเศษกว่าใคร โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจที่ทรงงานหนักเพื่อชาวอังกฤษมาตลอด 70 ปี ซึ่งพิธีในวันนี้มีความหมายอย่างมากในประวัติศาสตร์อังกฤษ"

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ที่มาเฝ้ารอชมขบวนพระบรมศพ และพิธีสักการะในเมืองเอดินเบอระ ของสกอตแลนด์เท่านั้น ก่อนที่จะอัญเชิญพระบรมศพกลับไปประดิษฐานที่มหาวิหารเวสต์มนิสเตอร์ ในกรุงลอนดอน ในวันถัดมา ซึ่งตอนนี้ก็มีชาวลอนดอนหลายหมื่นคนไปจับจองพื้นที่ตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนพระบรมศพยาวเกือบ 10 กิโลเมตรแล้ว แม้จะต้องรอข้ามวันนานกว่า 30 ชั่วโมง
 

'ในหลวง-พระราชินี' ช่วยเหลือชาวปทุมธานีผู้ประสบอุทกภัย พระราชทานถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค

เมื่อวานนี้ (12 ก.ย. 65) พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ไปประชุมติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ณ ห้องประชุมส่วนราชการ อาคารหอประชุม 100 ปี เมืองธัญญบูรี เทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต และส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ซึ่งองคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการป้องกัน แก้ไขการเกิดอุทกภัยและการให้การช่วยเหลือไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้แต่ละหน่วยงานน้อมนำไปปรับแผนในการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป

หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวนรวม 800 ถุง ไปมอบแก่รองผู้ว่า นายอำเภอธัญบุรี และนายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต และราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ณ หอประชุมใหญ่อาคารหอประชุม 100 ปี เมืองธัญญบูรี  อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจ

ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวนางยุพดี รัตนสุขสกุล ครอบครัวนางภาณิชา สุวรรณกระจ่าง และครอบครัวนางประภา สุวรรณกระจ่าง จำนวน 3 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ประสบอุทกภัยอาศัยอยู่บริเวณชุมชนริมเขื่อนสะพานแดง เทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา

แกนนำเพื่อไทยร่วมลงนามแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคต 'สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2' แห่งสหราชอาณาจักร

(12 ก.ย.65) แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการฯ และ นางนลินี ทวีสิน ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ ร่วมลงนามแสดงความเสียใจ ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย โดยมี นายมาร์ค กูดดิ้ง (H.E. Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยให้การรับรอง

นายแพทย์ชลน่านเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยนำส่งสารถึงรัฐบาลสหราชอาณาจักรว่า พรรคเพื่อไทยเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทั้งนี้ราชอาณาจักรไทยและสหราชอาณาจักรมีสัมพันธไมตรีใกล้ชิดต่อเนื่องยาวนาน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระราชจริยวัตรอันอ่อนน้อม สง่างาม ตลอดพระชนม์ชีพทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติด้วยพระวิริยะอุตสาหะเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ดีและมีคุณธรรม

“พรรคเพื่อไทยขอถวายความอาลัยไปยังพระบรมวงศานุวงศ์แห่งสหราชอาณาจักรทุกพระองค์ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนและรัฐบาลสหราชอาณาจักร และขอให้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งรัฐผู้ทรงครองราชย์ยาวนาน เสด็จสู่สวรรคาลัยนิรันดร์”

'มาดามแป้ง' คอนเฟิร์ม 'ชนาธิป-สุภโชค' มาแน่ ร่วมลุยศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 48

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยืนยัน ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ สองแนวรุกที่ค้าแข้งในเจลีก ญี่ปุ่น ตอบรับมาช่วยทัพช้างศึก ลุยฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ณ จ.เชียงใหม่ เป็นที่แน่นอนแล้ว ภายใต้ปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ วันที่ 22-25 กันยายนนี้

ขุนพล ช้างศึก จับสลากมาพบกับ มาเลเซีย ส่วนอีกคู่เป็น ตรินิแดด และ โตเบโก พบกับ ทาจิกิสถาน โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม ที่เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าว และ จับสลากด้วยตัวเอง ถึง จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า 

ส.ส.ลาดกระบังเพื่อไทย ฟาดผู้ว่าฯ กทม. ซัด เคยขอเรือผลักดันน้ำไป แต่ไร้คำตอบ

ส.ส.กทม.เพื่อไทยเผยน้ำท่วมลาดกระบังรุนแรงต่อเนื่อง ขอเรือผลักดันน้ำตั้งแต่เดือนที่แล้วไม่มีสัญญาณที่ดี ไม่มีคำตอบ ทำได้แค่ให้กำลังใจชาวบ้าน ล่าสุดชัชชาติอ้างเปิดประตูน้ำลงคลองพระโขนงแล้วแต่เต็มร้อยไม่ได้

วันนี้ (12 ก.ย.) ทวิตเตอร์ @aim_theerarat ของ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ระบุว่า "สถานการณ์น้ำท่วมลาดกระบังยังรุนแรงต่อเนื่อง แขวงลาดกระบังท่วมทุกจุด ที่ไม่เคยท่วมก็ท่วม ประสานเรือผลักดันน้ำผ่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ยังไม่มีสัญญาณที่ดี ตั้งแต่ปี 54 ผ่านมา 8 ปี รัฐไม่เคยเตรียมการใด ๆ ความพร้อมในการรับมือไม่มี #น้ำท่วมกรุงเทพ #น้ำท่วมลาดกระบัง"

"ประสานงานเร่งให้ จนท.นำเรือผลักดันน้ำมาช่วยพร่องน้ำในคลอง ประสานไปทาง กทม.ยังไม่มีคำตอบ ตอนนี้จะส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพเรืออีกครั้ง แต่ถ้าฝ่ายบริหารยังนิ่ง ไม่สั่งการ ข้าราชการก็เกียร์ว่างไปด้วย ที่ทำได้เลยคือออกสำรวจจุดน้ำท่วม ให้กำลังใจชาวบ้านก่อน #น้ำท่วมกรุงเทพ"

ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คลองประเวศบุรีรมย์น้ำยังไม่ลด เมื่อคืนก็มีฝนตกเพิ่มขึ้นอีก 60 มม. แต่เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากรดีขึ้น คลองประเวศฯ ก็จะดีขึ้นด้วย โดยขณะนี้ได้สั่งการให้เปิดประตูระบายน้ำในเขตลาดกระบังลงคลองพระโขนงมากขึ้น แต่จะเปิด 100% ไม่ได้ ต้องค่อยๆ เปิดเพื่อให้น้ำทยอยเข้ามา และดูดด้านปลายออก ในส่วนของระยะยาวในอีก 2-3 ปีข้างหน้าคงต้องปรับปรุงประสิทธิภาพคลองให้ดีมากขึ้น

‘รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์’ ฟันธง ไม่มีเด็ดขาด! เขตของบพาคนเที่ยว ชี้เป็นการศึกษาดูงาน

‘จักกพันธุ์’ ฟันธง ไม่มีเด็ดขาด! เขตของบ พาหัวคะแนนเที่ยว แจง ทำตามหลักทุกอย่าง ต้องผ่านด่านฝ่ายบริหาร ใช้อำนาจกรอง

เมื่อวันที่ 12 กันยายน สืบเนื่องกรณี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 65 จำนวน 79,719 ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ่อนไหวน้ำท่วม พบว่าเขตจตุจักร ซึ่งมีจุดเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม 11 จุด มีโครงการโยธาทางระบายน้ำถูกตัดงบประมาณทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโครงการพาคนไปเที่ยวสัมมนาสูงถึง 9,783,300 บาท ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ตอบประเด็นดังกล่าวว่า ไม่น่าเป็นเช่นนั้น โดยสั่งการให้ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช ดูแลอยู่ 

ล่าสุด นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า หลังเรื่องผ่านสภา กทม. ก็มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ซึ่งมีทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กับข้าราชการ และในส่วนของฝ่ายบริหาร ร่วมกันพิจารณา ซึ่งคราวนี้การพิจารณาไม่แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา โดยหลังผ่านการพิจารณา คณะกรรมการก็จะไปพิจารณาว่าโครงการไหน รายการใดที่จะสามารถผ่านไปดำเนินการใช้ในปีต่อไปได้

“คราวนี้ ยืนยันว่าคณะกรรมการวิสามัญ ไม่ได้ตัดงบประมาณเกี่ยวกับเรื่องการระบายน้ำเลย แต่ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการวิสามัญชุดนี้ก็พิจารณาว่าโครงการไหน หรือรายการไหน อาจจะมีการเบิกจ่ายเงินล่าช้า หรือการทำงานไม่เป็นไปตามสัญญา ก็อาจจะมีการลดจำนวนงบลง แต่ยืนยันไม่มีการตัด

ในส่วนของเขตจตุจักรก็เหมือนกัน เฉพาะเขตจตุจักร ใช้งบประมาณไปประมาณ 536 ล้านบาท ในรอบแรก คณะกรรมการวิสามัญ ตัดไปแค่ 60,000 บาท ซึ่งเป็นการพิจารณาเกี่ยกับการก่อสร้างพื้นที่สีเขียว แต่หลังจากนั้น เขตจุตจักร คณะกรรมการพิจารณาแล้ว ท่านผู้อำนวยการเขต แปรฯงบประมาณมากพอสมควร ประมาณเกือบ 20 ล้านบาทได้ ในจำนวนนี้ ก็มีเกี่ยวกับเรื่องการขอเงินไปลอกท่อระบายน้ำเพิ่มเติม 3 ล้าน และทำฝาท่อระบายน้ำเพิ่ม 2 ล้าน ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญให้ผ่านหมด” นายจักกพันธุ์ระบุ

นายจักกพันธุ์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน งบประมาณโดยรวมของสำนักงานเขตจุตจักร มีงบเพื่อการแก้ไขน้ำท่วมขัง เกือบ 20 ล้าน คณะกรรมการวิสามัญ ไม่ตัดเลย ขณะเดียวกัน งบแปรฯของสำนักงานเขตจตุจักร ได้ขอเงินโครงการดูงานสัมมนามา 5 โครงการ

“โครงการแรก เป็นการสัมนนา โครงการของข้าราชการ โครงการที่ 2 ของคนงาน สำนักงานเขตจตุจักร อีกโครงการ เกี่ยวข้องกับทางชุมชน ไปศึกษาดูงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานเขตจตุจักร ต้องการพิจารณาการทำงาน โดยประชาชนมีส่วนร่วมด้วย” นายจักกพันธุ์กล่าว

เมื่อถามว่าตอนนี้ ทาง กทม.ไม่มีข้อกังวลใด ๆ เรื่องการตัด-เพิ่มงบตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัย ? นายจักกพันธุ์ ชี้ว่า ก็เป็นการขอจัดตั้งงบประมาณ และแปรญัตติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า ถ้ากรณีสำนักงานเขตใดพิจารณาแล้ว อาจจะขอยกเลิกโครงการ ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ

เมื่อถามว่าทางเขตจตุจักร ของบไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับอะไร ?
นายจักกพันธุ์เผยว่า โครงการแรก เป็นการดูงานของข้าราชการ สำนักงานเขตจตุจักร โครงการที่ 2 เป็นการศึกษาดูงานของลูกจ้าง คนงานของเขตจุตจักร อีก 3 โครงการ เป็นการพาชุมชนไปศึกษาดูงานต่างจังหวัดเช่นกัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องของฝ่ายพัฒนาชุมชน ซึ่งผู้อำนวยการเขตเองก็มีความประสงค์เอาประชาชนในพื้นที่ของท่านมามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสำนักงานเขต

ส่วนเขตอื่นก็มีโครงการลักษณะนี้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมีจำนวนโครงการมากน้อย แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนของข้าราชการ บุคลาการ ของสำนักงานเขตนั้น ๆ

เมื่อถามว่า ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ มีข้อสังเกตเรื่องการของงบหรือไม่อย่างไร ?
นายจักกพันธุ์ระบุว่า โดยปกติที่ผ่านมา โครงการเช่นนี้มีมาทุกปี ขณะเดียวกัน ปี 2561-2562 มีปัญหาเรื่องโควิด-19 โครงการเหล่านี้จึงหายไป หากเอาคนนับ 100 คน ไปนอนรวมกัน กินอยู่ด้วยกัน อาจมีปัญหาติดโรคภัยไข้เจ็บ

ไทยเนื้อหอม!! เตรียมเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน หลังค่ายรถรุมขยายโรงงาน เงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท | Summary Reporter EP.11

ไทยเนื้อหอม!! เตรียมเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน หลังค่ายรถรุมขยายโรงงาน เงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท

'อรรถวิชช์' ชี้ งบสัมมนาไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน เสนอโยกเงินเข้างบกลาง ให้ผู้ว่าฯ ใช้แก้วิกฤติน้ำท่วม

'อรรถวิชช์' ย้ำ งบ กทม.พาเที่ยวสัมมนา ไม่เหมาะกับสถานการณ์ เสนอโยกเงินเข้างบกลางให้ผู้ว่า กทม.ใช้แก้วิกฤตน้ำท่วม เตรียมยื่น สตง. สอบด่วนบ่ายสองพรุ่งนี้ ลั่นถึงเวลาปฏิรูประบบการใช้งบกทม. ให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจบริหารเต็มที่

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวภายหลังจากพบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 ว่า สาเหตุที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องงบประมาณกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการจัดสัมมนาแล้วพาคนไปเที่ยวในช่วงน้ำท่วมนั้น เพราะอยากเห็นการปรับปรุงรูปแบบบริหารงบประมาณงบประมาณกรุงเทพขนานใหญ่ ซึ่งในสภาผู้แทนราษฎรเวลาตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไปนั้น งบดังกล่าวกลับไปให้นายกรัฐมนตรี ใช้เป็นงบกลางเมื่อเกิดเรื่องวิกฤติ แต่สภากรุงเทพมหานครกลับนำงบประมาณที่ถูกตัดไปเพิ่มโครงการใหม่ อย่างเช่น จัดสัมมนาพาคนไปเที่ยวในเขตจตุจักร โดยมีงบประมาณสูงถึงเกือบ 10 ล้านบาท หรืออย่างงบในสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย มีค่าพิมพ์คู่มือ 69 ล้านบาท และยังมีโครงการย่อยอีกมากมาย ซึ่งเป็นโครงการใหม่นำมาใส่ภายหลัง โดยพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. ตนจะส่งให้ผู้ว่า สตง. นำไปตรวจสอบและให้คำแนะนำ

ชาวสวนปาล์มเฮ!! พาณิชย์ เคาะงบ 6,128 ล้านบาท ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน รอบใหม่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ปีที่ 4 โดยหลักเกณฑ์เหมือนกับ 3 ปีที่ผ่านมาทุกประการ ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาทครอบครัวละไม่เกิน 25 ไร่ และผลปาล์มต้องอายุ 3 ปีขึ้นไป 

โดยกำหนดจำนวนเกษตรกรไว้ 3.8 แสนครอบครัว จะมีการจ่ายเงินส่วนต่าง 12 งวด ถ้าราคาปาล์มในตลาด ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท โดยจะกำหนดราคาอ้างอิงทุก 30 วัน เริ่มจ่ายส่วนต่างงวดแรก 15 ก.ย. 65 – 15 ส.ค. 66 วงเงินที่เตรียมไว้สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างปาล์ม 6,128 ล้านบาท

'ปวีณา' พาผู้เสียหาย ร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกหลอกค้าประเวณี-หลอกทำงานต่างประเทศ

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พาผู้เสียหายวัย 16 ปี ที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศเมียนมา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานการสนทนาหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อพูดคุยเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สืบสวนติดตามและดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายข้ามชาติกลุ่มนี้

โดย นางปวีณา เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ครอบครัวเหยื่อวัย 16 ปี ได้ร้องทุกข์เข้ามายังมูลนิธิปวีณา หลังลูกสาวถูกหลอกให้ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะและถูกบังคับให้ค้าประเวณี ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ทางมูลนิธิจึงพาครอบครัวผู้เสียหายไปร้องทุกข์ที่กรมการกงสุลฯ และประสานทหารเมียนมาชุด TBC ที่ดูแลพื้นที่แม่สอดเมียวดีเข้าไปพาตัวออกมาจากร้านคาราโอเกะที่ถูกหลอกไปทำงาน จนสามารถพาตัวเหยื่อกลับมายังประเทศไทยได้เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา 

ขณะที่ แม่ของเหยื่อผู้เสียหายวัย 16 ปี เล่าว่าลูกสาวได้ถูกคนไทยทักมาใน Facebook ชักชวนให้ไปทำงานร้านคาราโอเกะ อ้างว่าจะให้ค่าตอบแทนทำงาน 5 วัน จำนวนเงิน 50,000บาท ลูกสาวจึงมาขอตนว่าอยากไปทำงาน ตนถึงให้ไป แต่ปรากฏว่าลูกสาวทักข้อความมาบอกว่าตัวเองถูกหลอกและถูกบังคับให้ค้าประเวณี ก่อนบอกว่าอยากตาย ตนจึงรีบไปแจ้งความตำรวจแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณา

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ บอกว่าเบื้องต้นได้พาเหยื่อเขาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยได้รับหลักฐานโทรศัพท์มือถือที่เป็นข้อมูลสำคัญในการติดต่อกับเครือข่ายนี้ โดยเบื้องต้นมองว่าจะต้องสืบถึงตัวชาวไทยที่เป็นนกต่อในประเทศ ก่อนขยายผลไปหาเครือข่ายในต่างประเทศต่อไป โดยมองว่าหากไม่มีคนไทยที่หลอกคนไทยด้วยกันเองตั้งแต่แรกก็จะไม่มีคนถูกหลอกไปเป็นค้ามนุษย์ในลักษณะนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top