Wednesday, 9 July 2025
Hard News Team

ชาวเน็ตโวยรมว.อนุทิน แบนบุหรี่ไฟฟ้า แต่กลับหนุนกัญชา

เพจ“มนุษย์ควัน” สวน สธ. อ้างปกป้องสุขภาพประชาชน แต่ทำบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนเกลื่อนตลาด เพราะคนใช้เพิ่มขึ้นกว่า 600% ตั้งคำถามทำไมบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบไร้ควันที่ถูกกฎหมายกว่า 70  กว่าประเทศทั่วโลกกลับถูกประเทศไทยแบน ด้านชาวเน็ตโวย รมว.อนุทิน ย้อนแย้ง แบนบุหรี่ไฟฟ้า แต่กลับหนุนกัญชาเสรี

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ “มนุษย์ควัน” ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย เผยภายหลังที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาย้ำแบนบุหรี่ไฟฟ้าว่า “รู้สึกผิดหวังที่ รมว.สธ. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบสุขภาพของประชาชน แต่กลับไม่ศึกษาข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเปิดทางเลือกที่มีสารพิษน้อยกว่าให้กับประชาชน ปัจจุบันคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย มีเอกสารงานวิจัยหรือข่าวจากต่างประเทศจำนวนมากที่ทำให้คนสูบบุหรี่รู้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการยอมรับในฐานะผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ แต่กลุ่มหมอที่รณรงค์ต่อต้านบุหรี่ในไทยกลับยัดเยียดข้อมูลเพียงด้านเดียว ให้กับ รมว. อนุทิน และคนในสังคมเพื่อหวังให้มีการแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป”

“ขณะที่ประเทศไทยยอมรับมาตรฐานของ อย.สหรัฐอเมริกาในเรื่องวัคซีนโควิด หรือเรื่องยา แต่กลับมีจุดยืนสวนทางกับอย. สหรัฐอเมริกา กระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษและนิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศที่สรุปตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ จึงอนุญาตให้ขายได้แบบมีการควบคุม ซึ่งช่วยให้ลดอัตราการสูบบุหรี่ของคนในประเทศได้จริง และไม่มีปัญหาการใช้ในเด็กและตลาดใต้ดิน เช่นในอังกฤษ บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเครื่องมือที่คนสูบบุหรี่นิยมใช้มากที่สุดเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ ขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ในนิวซีแลนด์ลดลงจาก 13.7% เหลือเพียง 10.9% ภายหลังที่มีการสนับสนุนให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าภายใต้นโยบายสร้างประเทศปลอดควันในปี 2025”

ผช.รมว.แรงงาน ต้อนรับ คณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี หารืออัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด มาตรการช่วยเหลือ และการขึ้นทะเบียนการจ้างงานคนพิการ

วันที่ 13 กันยายน 2565 เวลา 14.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายกิตติวุฒิ ศศิวิมลพันธุ์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และคณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เข้าพบเพื่อหารือ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดชลบุรี มาตรการช่วยเหลือนายจ้างให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และการขึ้นทะเบียนและการจ้างงานคนพิการตามาตรา 35 ณ ห้องประชุมแสงสิงแก้ว ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน ได้จัดให้บริการส่งเสริมการมีงานทำให้คนพิการ โดยรับขึ้นทะเบียนหางานและจัดหางานให้คนพิการที่ประสงค์จะทำงานในสถานประกอบการตามมาตรา 33 และประสานนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบการ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อส่งคนพิการเข้ารับการสัมภาษณ์และบรรจุงาน และรับขึ้นทะเบียนคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่ขอรับสิทธิตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 เพื่อรองรับความต้องการของนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีความต้องการจ้างงานคนพิการ และคัดลอกรายชื่อคนพิการ ที่ได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อนำไปพิจารณารับเข้าทำงานตามมาตรา 33 หรือ ทำสัญญาจ้างงานคนพิการตามมาตรา 35

อีกทั้ง ปัจจุบันกรมการจัดหางาน ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม (มาตรา 35 ประเภทจัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการ) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 โดยในปี 2565 ได้กำหนดเป้าหมายประเภทจ้างเหมาบริการไว้จำนวน 1,000 คน สามารถจ้างงานคนพิการตามโครงการฯ 1,499 คน เพิ่มจากเป้าหมาย ร้อยละ 45 ก่อให้เกิดรายได้แก่คนพิการ จำนวน 171,253,255 บาทต่อปี และจะขยายการมีงานทำให้คนพิการเพิ่มขึ้น ปีละ 20% ภายใน 4 ปี ถือเป็นการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สร้างโอกาสการมีงานทำและมีรายได้อย่างเป็นรูปธรรมและได้รับประโยชน์โดยตรง คนพิการสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี

‘เพื่อไทย’ โว!! ผลตอบรับ ‘เชียงใหม่’ ดีเกินคาด แซะ!! ‘ปชป.’ ทำความเข้าใจ ‘Soft Power’ ให้ดีก่อน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ จ.เชียงใหม่ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ จังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน ครบทั้ง 40 เขต และยังมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมครอบครัวเพื่อไทยอีกจำนวนมาก  

รวมทั้งการลงพื้นที่รับฟังปัญหา หารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่วันที่ 9-10 กันยายน 2565 นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย โดย ส.ส. สมาชิกพรรค คณะทำงานด้านนโยบาย จะนำข้อร้องเรียน ตลอดจนข้อเสนอแนะของพี่น้องประชาชน พัฒนามาเป็นนโยบายของพรรค เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนต่อไป

จากการเปิดตัวนโยบายแรก 2 นโยบาย ได้แก่ นโยบายด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ แนวคิดเกษตรก้าวหน้าที่จะนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำการเกษตร เพื่อผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยขายได้ราคามากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ถูกทอดทิ้งเหมือนในปัจจุบัน 

รวมทั้งนโยบายที่ 2 คือ ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ นโยบายที่จะสร้างเงินจากฝีมือของ 1 คนในครอบครัว เพราะพรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสว่าค่าแรงของ Soft Power มีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงแนวคิดในการจัดตั้ง The Thai Creative Content Agency : THACCA หน่วยงานพัฒนาศักยภาพ Soft Power ที่ใช้งบประมาณของรัฐบาลในการดูแลและนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบหน่วยงานนี้ 

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว 2 นโยบายดังกล่าว ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีและรอคอยการประกาศนโยบายใหม่ๆ ที่ทีมนโยบายของพรรคดำเนินการพัฒนาอย่างรอบคอบ เพื่อเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด หากชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ สิ่งที่เราคิดไว้ พร้อมทำทันที  

ส่วนกรณีที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้นางสาวแพทองธาร ว่าลอกนโยบาย ทั้งในเรื่องของคำว่าเซลล์แมนขายสินค้าเกษตรในต่างประเทศ หรือ Soft Power โดยระบุว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทำมาตลอดนั้น บุคคลผู้นั้นอาจจะไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่า Soft Power เพราะคือ การนำวัฒนธรรม เอกลักษณ์ หรือจุดเด่นมาเป็นจุดขาย ร่วมกับการใช้ความสมัยใหม่และเป็นสากล สร้างรายได้ ขยายไปในตลาดโลกนำรายได้เข้าสู่ประเทศ 

ซึ่ง Soft Power ของเพื่อไทย คือ ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่ในวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสังคมไทย มีความสร้างสรรค์ ความละเมียดที่ดำรงอยู่ที่แสดงออกผ่านการปรุงอาหาร การประดิษฐ์สร้างสรรค์ หัตถกรรม ไปจนถึงงานศิลปะทุกแขนง สามารถด้านกีฬา การเขียน software และความสามารถทาง e-sport ฯลฯ แต่หากมาดูผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับ Soft Power ของกระทรวงพาณิชย์ที่นำโดยนายจุรินทร์นั้น ยังถูกตั้งคำถามเพราะที่ผ่านมาคนไทยที่มีฝีมือหรือองค์กรภาคเอกชน ก็ล้วนดิ้นรนหาทางเติบโตเองทั้งสิ้น  

นอกจากนี้ หากจะกล่าวถึงคำว่า ‘เซลล์แมน’ หรือ ‘ทูตการค้า’ นั้น บุคคลที่ริเริ่มใช้คำนี้ คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่กระตุ้นให้ผู้แทนทางการทูตในต่างประเทศในขณะนั้น ร่วมมือกันขายภาพพจน์และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ไปเจาะตลาด สร้างรายได้ในต่างประเทศ

'อรรถวิชช์' ยื่นผู้ว่า สตง. สอบการแปรญัตติในสภา กทม.โยกงบเพิ่มโครงการสัมมนากว่า 111 ล้าน ยันต้องการช่วยผู้ว่าฯ กทม. ให้มีงบกลางดูแลวิกฤตมากขึ้น

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมทีมงาน ยื่นหลักฐานต่อนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2566 ของกรุงเทพมหานคร พร้อมหลักฐานเอกสารคำแปรญัตติ เปลี่ยนแปลงงบประมาณ 4,803,793,728 ล้านบาท โดยสภากรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายที่ผู้บริหารเสนอแปรญัตติเพิ่มเท่ากับจำนวนที่ปรับลด โดยพบว่ามีการเพิ่มงบโครงการสัมมนาพาคนไปเที่ยวในหลายสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นมีจำนวนถึง 72 โครงการ ใน 26 เขต รวมวงเงินสูงถึง 111,064,450 บาท ซึ่งเป็นรายการที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้งบในลักษณะที่กระจายตามเขตต่างๆ เพื่อพาประชาชนไปเที่ยวนั้น หลังจากปี 2557 ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำดังกล่าว 

ดร.อรรถวิชช์ กล่าวว่า กรณีเทียบเคียงกับ ส.ส.หลังการประกาศใช้ของรัฐธรรมนูญปี 2560 เราจะพบว่าสภาผู้แทนราษฎรเอง เมื่อได้มีการตัดงบประมาณในรายการใดและต้องมีการแปรญัตติเพิ่มกลับเข้าไป โดยงบถูกจะเพิ่มกลับไปใส่ในงบกลางเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้ใช้ในกรณีวิกฤตเช่นโรคระบาด หรือ น้ำท่วม เขาไม่เอามาหาร แล้วลงกระจายพาไปเที่ยวสัมมนาแบบงบประมาณ กทม.

'พงศ์พรหม' ห่วง!! 'ช่องว่าง' คุณภาพคนไทย VS ชาวโลก เริ่มห่าง!! พายุศก.ลูกใหม่ที่ต้องรีบแก้ ก่อนต่างชาติเทใจไปประเทศอื่น

(13 ก.ย. 65) พงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

เมื่อคืนแชร์เรื่องสัมภาษณ์เด็กเวียดนามไป

ที่ห่วงมาก ๆ คือตอนนี้เด็กเวียดนามสามารถเกาะกลุ่มความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไฝ่รู้ กล้าล้ม กล้าลุกแบบเด็กอเมริกัน, สิงคโปร์, จีน, ญี่ปุ่น, เยอรมันได้แล้ว

แต่ที่ผมห่วงเด็กไทยรุ่นใหม่ คือ 'ช่องว่าง' ความเก่งระหว่าง 'เด็กไทย' กับ 'เด็กโลก' มันห่างกันกว่าเดิม

ผมไม่เถียงเลย เด็กไทยรุ่นใหม่กลุ่มนึง ที่เก่ง ๆ เค้าเก่งกว่าคนรุ่นผมมาก

แต่ที่ด้อยกว่า ก็มีจำนวนมากจนน่าตกใจเช่นกัน

>> ทำงานไม่ Productive แต่ท้อเก่ง!!

เจ้าของกิจการทั้งไทย-เทศบ่นเรื่องเดียวกัน

ต่างชาติก็ทะยอยไปประเทศอื่น เหตุนึงก็เพราะหาพนักงานคุณภาพดียาก

>> การทำงานไม่ Productive

ตัวเองก็จะรู้สึกไปเองว่างานเยอะ ทั้งที่ไม่เยอะ เพียงแต่งานไม่จบ 

ต้องทำงานเล็ก ๆ ที่คนอื่นทำ 2 วันจบ โดยใช้เวลา 2 อาทิตย์

Research บอกชัดว่าคนทำงาน Productive จะมี Work Life Balance ดีกว่าคนอื่น ๆ
 
*** แต่เด็กไทยจำนวนมาก...ไม่ ***

ไม่ Focus ไม่พยายาม งานไม่จบ ก็บ่นว่าเหนื่อย

ต่างชาติเบื่อ เค้าก็ไปลงทุนประเทศอื่น

>> เทียบคนรุ่นผม

ผมเองเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง ผมจบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ด้วย GPA 2.41 แต่ในวันที่ออกจากรั้วมหาลัยแล้ว คนรุ่นเรา 'สู้' ทุกคน

ผมเข้าทำงานครั้งแรกที่ IBM ตอนนั้นนายผม Assign งานให้ทำด้วยโปรแกรม Excel ที่ผมไม่เคยรู้จัก

สิ่งที่ผมทำ คือ ผมอยู่ที่ IBM เพื่อทำความรู้จักโปรแกรม Excel เองถึง 3 ทุ่มแทบทุกคืน พอเริ่มจับอะไรได้ที ก็จะรวบรวมคำถามไปถามพี่กุ้ง กับพี่แหม่ม ฝ่ายบัญชีที

เรียนเองโดยไม่กวนเงินพ่อแม่ จนสามารถใช้ทำงานเพื่อส่งงานได้

ผมไม่เคยมองว่าการต้องกลับบ้านดึกเพื่อเรียน Excel เอง เป็นความเหนื่อย ไม่เคยโทษนายที่ให้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ

>> ในวันนั้นผมสมัครมาทำงานที่ IBM 

IBM ไม่ได้ง้อให้ผมมาทำงานซะหน่อย ผมก็ต้องทำให้เต็มที่ และคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดมันก็ผม

>> เข้า IBM ปีนั้นได้รู้จัก 'แนน'

แนนจบหอการค้าปีเดียวกัน แนนน่ารัก นิสัยดี สวยด้วย แต่ลุยงานเก่งกว่าผมอีก ผมอยู่ 3 ทุ่ม แนนมันลุยยัน 4-5 ทุ่ม

ปีนั้นน้ำท่วมอยุธยา คน IBM เราก็แห่ไปช่วยน้ำท่วมกัน

งานหนักเอา งานเบาสู้
งานเสร็จ ค่อยแดกเหล้า

>> ตอนจะต่อโท

ผมสอบ TOEFL ได้ห่วยมาก ถ้าจำไม่ผิด ผมสอบครั้งแรกได้ 430 หรืออะไรซักอย่าง ก็เลยต้องวางแผนพัฒนาตัวเอง

อย่าลืมว่าสมัยนั้นไม่มี Google หรือ YouTube ทุกคนต้องสู้เอง

ผมใช้วิธีเข้าร้านหนังสือ 'ดวงกมล' วันไหนมีเงิน ก็ซื้อหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์มาอ่าน และเก็บทุกฉบับไว้ที่บ้าน เพื่อนำมาอ่านให้ครบทุกข่าว จะได้ไม่เปลืองเงินที่ซื้อมา

วันไหนไม่มีเงิน ก็แอบไปยืนอ่านนิตยสารภาษาอังกฤษที่แผง หลบ ๆ คนขาย

'พิธา' มาเหนือ!! เปิดตัว 4 ผู้สมัครลำปางใต้นิยามดินน้ำลมไฟ พร้อมชูวิสัยทัศน์ เปลี่ยน ศก.สีเทา ให้เป็น ศก.สีขาว

'พิธา' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง 4 เขต ชูวิสัยทัศน์ เปลี่ยนลำปางจากเศรษฐกิจสีเทาของโรงไฟฟ้าเป็นเศรษฐกิจสีขาว สร้างอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงวัย-ผู้ป่วยติดเตียง-เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาในนามพรรคอนาคตใหม่ เราจะไม่มี ส.ส.เขต จ.ลำปาง ทว่าคะแนนเสียงในจังหวัดลำปางเราได้ความไว้วางใจจากประชาชนกว่า 25% ของคะแนนเสียงทั้งจังหวัด ซึ่งทุกคนอยู่ในใจเราตลอดเวลา และอยากที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับที่นี่ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชื่อ 'เศรษฐกิจสีขาว' คือเปลี่ยนเศรษฐกิจสีเทาที่เป็นควันพิษจากโรงไฟฟ้า ซึ่งทำลายสุขภาพของพี่น้อง ให้เป็นเศรษฐกิจสีขาวเรื่องการเป็นเมืองที่ดูแลสังคมผู้สูงวัยของประเทศไทยและของโลกนี้ เพราะ จ.ลำปาง มีผู้สูงอายุสูงที่สุดในประเทศไทย สังคม ไม่มีจังหวัดไหนที่เหมาะสมที่จะทุ่มงบประมาณ ทุ่มทรัพยากรมาดูแลพ่อแก่แม่เฒ่าเท่าที่ลำปาง สร้างอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงอายุ ทำให้จังหวัดลำปางเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัย และเมื่อเราดูแลผู้สูงวัยที่ลำปางได้ ก็จะดูแลผู้สูงวัยในประเทศไทยได้ ดูแลผู้สูงวัยในเอเชียได้ และดูแลผู้สูงวัยในโลกนี้ได้ เราจะเปลี่ยนสิ่งที่คนคิดว่าเป็นวิกฤตให้เป็นโอกาสคือบำนาญผู้สูงอายุ 3,000 บาทที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลหน้าของพรรคก้าวไกล

"อีกอย่างที่อยู่ในใจของผมและพรรคตลอดเวลาคือเรื่องของผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่ได้รับการดูแล พรรคก้าวไกลเสนองบประมาณสำหรับผู้ป่วยติดเตียง 9,000 บาทต่อเดือน และยังรวมถึงลูกหลานที่ทำงานไม่ได้เพราะต้องดูแลผู้ป่วย รัฐต้องมีเงินเดือนสำหรับผู้ดูแลด้วย นี่คือวิสัยทัศน์ของเราที่จะเปลี่ยนเศรษฐกิจสีเทาให้เป็นเศรษฐกิจสีขาว และถ้าเราสามารถทำที่ลำปางสำเร็จ ก็จะขยายไปสู่ระดับโลก ให้คนสูงวัยที่มีเงินมากมายมหาศาลในโลกใบนี้มาอยู่ที่ จ.ลำปาง สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดแห่งนี้ และเมื่อรวมกับเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การนำศิลปวัฒนธรรมของพื้นที่มีมาใช้ ก็จะทำให้ก้าวไปได้อีกไกลมาก ๆ" พิธา กล่าว 

พิธา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์นี้ไม่สามารถเป็นไปได้ถ้าเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่ดีพอ วันนี้จึงมาเพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 4 เขตของพรรคก้าวไกล จ.ลำปาง ที่ขอให้นิยามว่าเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ของลำปาง ได้แก่...

ดิน คือ ชลธานี เชื้อน้อย ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 ผู้คอยเกาะติดปัญหาของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ไม่ว่าจะเรื่องการอพยพคนออกจากพื้นที่ การที่ประชาชนเอาโฉนดที่รัฐออกให้เอาไปค้ำประกันธนาคารไม่ได้ รวมถึงการประชาชนโดนมติคณะรัฐมนตรีหลอกเช่าที่ที่หมดอายุแล้วเป็นต้น 

ขณะที่ น้ำ คือ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ว่าที่ผู้สมัครเขต 4 เป็นคนที่ติดตามปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง และมีความมุ่งมั่นตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องน้ำประปา ผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด 

ต่อมา ลม คือ ทิพา ปวีณาเสถียร ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 นี่คือลมแห่งการเปลี่ยนแปลง คือคนที่ไว้ใจได้ เพราะสู้มาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ แพ้เพียง 2,000 คะแนนเท่านั้น และครั้งนี้จะเป็นสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงของลำปาง 

และสุดท้าย ไฟ คือ กฤตภพ สติดีนิติวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 คนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งจัดกิจกรรมวิ่งเปลี่ยนงาว บนถนนที่สภาพผุพังเพราะมีปัญหาเรื่องป่าทับที่ นี่คือคนที่จะมาพัฒนาเรื่องการเกษตร เรื่องป่าชุมชน เพราะเป็นลูกหลานของเกษตรกร 

ทั้ง 4 คนนี้คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่จะทำให้ลำปางก้าวหน้า และการจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องกาพรรคก้าวไกล 

ชลธานี เชื้อน้อย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เปิดเผยว่า ความตั้งใจของตนเองที่เป็นมาตลอดคืออยากกลับมาอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน และเมื่อมาก็ได้พบว่าคนที่บ้านเราไม่มีทุนในการประกอบอาชีพ มองว่าเรื่องที่ดิน เรื่องเอกสารสิทธิ์ จะเป็นการสร้างทุนต่อยอดให้ได้ ทำให้พ่อแก่แม่เฒ่าได้พบกับลูกหลานที่กลับมาทำมาหากินที่บ้านเกิด โดยตั้งใจที่จะทำให้แม่เมาะเป็นต้นแบบพัฒนาทั้งจังหวัด เพราะถ้าสามารถออกเอกสารสิทธิ์ที่แม่เมาะได้ ทั้งจังหวัดลำปางต้องออกเอกสารสิทธิ์ได้  ขณะที่ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 กล่าวถึง ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาที่ไม่สะอาดว่าเป็นปัญหาแทบจะทุกพื้นที่ใน จ.ลำปาง จึงอยากเข้าไปผลักดัน พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด ให้มีการจัดสรรงบสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทำประปาหมู่บ้านที่ดีขึ้นได้

'ฝน วีระสุนทร' คนไทยคนแรกในตำแหน่งผู้กำกับร่วม ภาพยนตร์แอนิเมชั่น 'Wish' ของดิสนีย์

เพจเฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok โพสต์ข้อความน่ายินดี ระบุว่า...

👏👏👏 ขอแสดงความยินดีกับ คุณฝน วีระสุนทร ศิลปินชาวไทย 🇹🇭 คนแรกที่จะเป็นผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ คุณฝนเคยทำงานเบื้องหลังมาแล้วใน Frozen, Zootopia และ Raya and the Last Dragon เราตื่นเต้นที่จะได้รับชมฝีมือจากความสามารถอันโดดเด่นของเธอในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง “Wish”! 

'ลุงเนวิน' ปลื้ม!! 'บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด' สร้างสถิติใหม่ ยอดชมในสนามสูงสุด - โกยนัดเดียวกว่า 12 ล้าน

นายเนวิน ชิดชอบ บิ๊กบอส 'ปราสาทสายฟ้า' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ลุงเนวิน' ขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจและช่วยกันสร้างสถิติใหม่ ทั้งยอดจำนวนผู้ชมในสนามมากที่สุดประจำวีคที่ 5 ในเกมเปิดรังเจ๊า 'เมืองทอง ยูไนเต็ด' 1-1 รวมถึงกวาดรายได้จากนัดนี้ไปกว่า 12 ล้านบาท

โดยเกมดังกล่าว 'ปราสาทสายฟ้า' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รายได้ไปมากกว่า 12 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดค่าบัตรผ่านประตู จำนวน 1,622,640 บาท และยอดการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก จำนวน 10,539,198 บาท รวมทั้งสิ้น 12,161,838 บาท

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 13 กันยายน 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

'ชัยวุฒิ' แซะ 'ชลน่าน' การเมืองต้องทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อครอบครัวใด หลังหาเสียงจะพาคนที่รักกลับบ้าน

"การเมืองเป็นการเลือกคนมาทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่เลือกมาเพื่อช่วยคนใดคนหนึ่งหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง"

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 13 ก.ย. 2565

(13 ก.ย. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่พวกเราช่วยกันสร้าง เอาสิ่งที่รักที่สุดกลับคืนมา ว่ายังไม่เห็นรายละเอียด แต่ตนคิดว่าไม่น่าเกี่ยวกัน การเมืองเป็นการเลือกคนมาทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่เลือกมาเพื่อช่วยคนใดคนหนึ่ง ตนฟังแล้วก็ขัดๆความรู้สึกเหมือนกัน 

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยใช้แนวทางดังกล่าวหาเสียง จะได้รับความนิยมเยอะหรือไม่ นายชัยวุฒิ ตอบว่า คนที่ชอบเขาก็เลือก คนที่ไม่ชอบเขาไม่เลือกก็เป็นเรื่องปกติ ตนมองว่าการทำการเมืองควรมองเรื่องนโยบายและการทำงานเพื่อประชาชนไม่ควรทำเพื่อคนใดคนหนึ่งหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เมื่อถามว่าทางกฎหมายเรื่องดังกล่าวสามารถทำได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียดว่าเขาจะทำอย่างไร 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top