Friday, 16 May 2025
Hard News Team

‘พรรคประชาชน’ จัดงานวันเด็ก ‘ไอติม’ ปลื้ม!! ร่าง พ.ร.บ.ไม่ตีเด็ก ผ่านสภาฯ ย้ำ!! สร้างระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์ เพื่อประโยชน์อันสูงสุด ของเด็กทุกคน

(11 ม.ค. 68) ที่อาคารอนาคตใหม่ ‘พรรคประชาชน’ จัดกิจกรรมวันเด็ก ‘เมื่อทุกคนเลือกห้องเรียนเองได้’ โดยบรรยากาศที่อาคารอนาคตใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก เด็ก ผู้ปกครอง และประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมตั้งแต่เช้า นอกจากนี้ยังมีการแถลงข่าวสรุปร่าง พ.ร.บ. การศึกษา ฉบับพรรคประชาชน พร้อมเปิดตัว e-book โดยเปิดให้เด็กและประชาชนที่มาร่วมงานสามารถชมเบื้องหลังการแถลงข่าวได้ 

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในวันเด็กทุก ๆ ปีคำขวัญวันเด็ก เป็นสิ่งที่สังคมมักให้ความสนใจ แม้เป็นธรรมเนียมที่เราคุ้นชินกันมายาวนานกว่า 60 ปี ตนและพรรคประชาชนมองว่าในฐานะคนทำงานการเมือง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กและเยาวชนในประเทศเรา อาจไม่ใช่คำขวัญ ที่เป็นการสรุปสิ่งที่ผู้ใหญ่ในสังคมคาดหวังจากพวกเขา แต่คือคำสัญญาว่าพวกเราจะทำให้อนาคตพวกเขาดีขึ้นได้อย่างไร 

ย้อนไปเมื่อวันเด็กปีที่แล้ว (13 ม.ค. 2567) คำสัญญาหนึ่งที่เราได้แถลงต่อสาธารณะ คือการผลักดันร่าง พ.ร.บ. ไม่ตีเด็ก เพื่อทำให้บ้าน สถานศึกษา และทุกพื้นที่ในสังคม เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เด็กทุกคนสามารถเติบโตขึ้นมาได้โดยไม่ถูกลงโทษในลักษณะที่เป็นการใช้ความรุนแรงต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก ผ่านไปไม่ถึง 1 ปี ภูมิใจที่พรรคประชาชนและฝ่ายต่างๆ ในรัฐสภาร่วมกันผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของทั้งสองสภาได้โดยสำเร็จ 

นายพริษฐ์กล่าวว่า ในวันเด็กปีนี้11 ม.ค. 2568 เราจึงใช้โอกาสเปิดตัวร่าง พ.ร.บ. การศึกษาของพรรคประชาชน ที่เราจะยื่นเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และหวังจะผลักดันร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อหวังให้สภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อยได้ลงมติรับหลักการร่างดังกล่าว ก่อนจะถึงวันเด็กในปีหน้า ตนเชื่อว่าพวกเราเห็นตรงกัน ว่าท่ามกลางปัญหาต่างๆของการศึกษาไทย ทั้งเรื่องคุณภาพ ความเหลื่อมล้ำ ความสุขผู้เรียน และภาระงานครู และความท้าทายใหม่ๆ ที่เข้ามา เราจะปล่อยให้การศึกษาไทยไปต่อแบบเดิมไม่ได้ แม้หลายปัญหาถูกแก้ไขได้โดยไม่ต้องรอการแก้ไขกฎหมาย แม้กฎหมายฉบับเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาการศึกษาได้ทั้งหมด แต่การผลักดัน พ.ร.บ.การศึกษา ฉบับใหม่ จะเป็นกระดุมเม็ดแรกที่สำคัญ ในการสร้างบทสนทนาและวางรากฐานสำหรับระบบการศึกษาที่เราอยากเห็น  เพื่อพลิกโฉมการศึกษาและพาไทยเท่าทันโลก พวกเราพรรคประชาชนจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนมาร่วมกันผลักดัน พ.ร.บ. การศึกษา ฉบับพรรคประชาชน ที่เราหวังว่าจะตอบโจทย์ผู้เรียน และยึดประโยชน์และอนาคตของผู้เรียนอยู่ในทุกมาตรา หากทำสำเร็จ พวกเราจะมีระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์ผู้เรียนในอย่างน้อย 5 ด้านสำคัญ

1.สิทธิและสวัสดิการด้านการศึกษา ที่ตอบโจทย์ผู้เรียน จะได้รับสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ที่ครอบคลุมและถูกรับประกันอย่างรัดกุมกว่าที่เคยเป็นมา (เช่น เรียนฟรีจนอย่างน้อยจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้บริการแหล่งเรียนรู้ของรัฐได้ฟรี การเรียนการสอนที่มีคุณภาพ อุปกรณ์การเรียนที่ครบถ้วน การส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ สถานศึกษาที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง)ผู้ปกครองและผู้ดูแล จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และช่องทางพัฒนาทักษะในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูก รวมถึงข้อมูล สถิติ สารสนเทศ ที่จำเป็นหรือเป็นประโยชน์ต่อการร่วมวางแผน-ติดตามการเรียนรู้ของลูก

2.บุคลากรทางการศึกษา ที่ตอบโจทย์ผู้เรียน
- ครู จะมีเวลา-แรงจูงใจ-สมรรถนะ-สวัสดิภาพที่มั่นคง ในการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ (เช่น การกำหนดมาตรฐานเพื่อลดภาระงานครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน ระบบการประเมินครูที่เชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียน การเข้าถึงการพัฒนาสมรรถนะของครูอย่างสม่ำเสมอโดยเน้นการใช้สถานศึกษาเป็นฐาน การมีส่วนร่วมของครูในการสรรหาและประเมินการทำงานหน้าที่ของผู้บริหาร)
- บุคลากรทางการศึกษา จะมีครอบคลุมได้หลากหลายตำแหน่ง ซึ่งสอดคล้องกับความท้าทายในการจัดการเรียนรู้ในยุคใหม่ (เช่น นักจิตวิทยา นักการภารโรง นักธุรการ นักการเงิน นักพัสดุ นักโภชนาการ นักเทคโนโลยีการศึกษา)

3.การเรียนการสอน ที่ตอบโจทย์ผู้เรียน
- หลักสูตร จะมี 3 ระดับ (กรอบหลักสูตรระดับประเทศ กรอบหลักสูตรระดับพื้นที่ หลักสูตรสถานศึกษา) เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการรองรับความหลากหลายของผู้เรียน โดยจะมีการทบทวนกรอบหลักสูตรระดับชาติอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 5 ปี เพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง
- ระบบการประเมิน จะต้องมีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบ มีการคำนึงถึงความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้ปฏิบัติงานในสถานศึกษา และชุมชนรอบข้างสถานศึกษา ไม่สร้างภาระต่อครูและบุคลากรทางการศึกษาเกินความจำเป็น และไม่กระทบต่อกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน เทคโนโลยีด้านการศึกษา (เช่น แพลตฟอร์มการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอน เครื่องมือสำหรับครูและห้องเรียน) จะต้องได้รับการส่งเสริมทั้งด้านการผลิต การพัฒนา และการยกระดับทักษะบุคลากรในการใช้งาน โดยมีมาตรฐานการจัดเก็บ แลกเปลี่ยน และใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านการศึกษา อย่างเป็นระบบ

4.สถานศึกษา ที่ตอบโจทย์ผู้เรียน
- สถานศึกษา จะมีอิสระและอำนาจมากขึ้น ในการจัดการศึกษา (เช่น อำนาจด้าน 'วิชาการ' ในการออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาของตนเอง อำนาจด้าน 'งบประมาณ' ในการได้รับเงินอุดหนุนแบบวงเงินรวม (block grant) ที่ไม่กำหนดวัตถุประสงค์ อำนาจด้าน 'บุคลากร' ในการร่วมสรรหาและบรรจุบุคลากรของตนเอง) คณะกรรมการสถานศึกษา จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยตัวแทนของภาคส่วนต่าง ๆ ที่หลากหลายขึ้น อำนาจหน้าที่ที่กว้างขวางขึ้น และการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นเรื่องค่าตอบแทน ทรัพยากร และองค์ความรู้
- สถานศึกษาหลากหลายรูปแบบ จะได้รับการปลดล็อก โดยเฉพาะการศึกษานอกระบบโรงเรียน (เช่น บ้านเรียน ศูนย์การเรียน) ที่จะสามารถจัดได้สำหรับนักเรียนทุกประเภท โดยที่รัฐจะต้องคำนึงถึงความเสมอภาคในการอุดหนุนผู้เรียนในสถานศึกษาทุกสังกัดและทุกรูปแบบ

5.กระทรวงศึกษาธิการ ที่ตอบโจทย์ผู้เรียน
- โครงสร้างกระทรวง จะมีการออกแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยกระบวนการการที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ซึ่งจะเกิดขึ้นภายใน 2 ปี หลัง พ.ร.บ. การศึกษา บังคับใช้ โครงสร้างกระทรวง (ส่วนกลาง) จะมุ่งสู่การทำงานอย่างเป็นเอกภาพ & เน้นบทบาทในการกำหนดมาตรฐานสำหรับสถานศึกษา (regulator) มากกว่าการดำเนินงานภายในสถานศึกษา (operator) (เช่น มาตรฐานทางวิชาการ เกณฑ์ในการบริหารงานบุคคล สูตรในการจัดสรรงบประมาณระหว่างสถานศึกษาที่เป็นธรรม)
- โครงสร้างกระทรวง (ในพื้นที่) จะจะมุ่งสู่การทำงานอย่างไม่ซ้ำซ้อน & เน้นบทบาทเรื่องการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนสถานศึกษา (facilitate) มากกว่าเรื่องการสั่งการและบังคับบัญชาสถานศึกษา (command & control)
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเข้ามามีบทบาทได้มากขึ้นในภารกิจด้านการศึกษาและการเรียนรู้ รวมถึงได้รับการปลดล็อกให้สามารถสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรให้กับผู้เรียนหรือสถานศึกษาทุกสังกัดทุกแห่งในท้องถิ่นของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองได้

นายพริษฐ์กล่าวว่า แม้ต่างพรรคการเมืองต่างมีร่าง พ.ร.บ. การศึกษา ของตนเอง ซึ่งอาจมีเนื้อหาทั้งส่วนที่เหมือนและแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่เราหวังว่าการผลักดัน พ.ร.บ. การศึกษา ฉบับใหม่ จะเป็นภารกิจที่ทุกพรรคพร้อมทำงานและผลักดันร่วมกันต่อไปในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อชีวิตความเป็นอยู่และอนาคตของเด็กทุกคน

‘เอกนัฏ’ หนุน!! เปลี่ยนใบอ้อยเป็นเงิน สร้างรายได้เกษตรกร วอน!! หยุดเผา ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 สร้างมูลค่าเพิ่ม อย่างยั่งยืน

(11 ม.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ปฏิรูปอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่มีความยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนแนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 โดยได้เสนอของบประมาณจากรัฐบาลกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด 100% ซึ่งจะมีการจ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด และเพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบด้านพลังงานป้อนโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวลหรือโรงงานที่ใช้พลังงานชีวมวล ซึ่งมาตรการดังกล่าว

จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยอย่างยั่งยืน เนื่องจากจะทำให้ชาวไร่อ้อยเห็นคุณค่าและช่องทางในการสร้างมูลค่าเพิ่มของใบและยอดอ้อย ทำให้ลดการเผาใบและยอดอ้อยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ด้านนายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ สอน. ได้ทำจดหมายขอความร่วมมือไปยังโรงงานน้ำตาลทั้ง 58 แห่ง ให้รับเฉพาะอ้อยสดเข้าหีบ โดยชะลอ ระงับ ยับยั้ง และยุติการเผาไร่อ้อย พร้อมทั้งยุติการรับอ้อยเผาไฟเข้าหีบ ระหว่างวันที่ 3 มกราคม 2568 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 12 มกราคม 2568 เวลา 23.59 น. เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กสำหรับเยาวชนไทยทั้งประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล สะท้อนได้จากสถานการณ์อ้อยเข้าหีบของโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ ณ วันที่ 8 มกราคม 2568 ที่มีตัวเลขอ้อยถูกเผาอยู่ในระดับคงที่กว่า 4 ล้านตัน คิดเป็น 20.18% ของปริมาณอ้อยที่รับเข้าหีบทั้งหมดกว่า 19 ล้านตัน 

“สอน. จึงขอความร่วมมือมายังเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ช่วยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีผลิตส่งเข้าหีบโรงงานน้ำตาล รวมทั้งไม่เผาใบอ้อยหลังเก็บเกี่ยว ขณะเดียวกันขอความร่วมมือจากโรงงานน้ำตาลให้งดรับซื้ออ้อยเผา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดการเกิดฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและชุมชนใกล้เคียง รวมทั้งผลักดันมาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด 100% เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และสร้างอากาศสะอาดและบริสุทธิ์ ไร้มลภาวะฝุ่น PM 2.5 ปฏิรูปอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ให้เป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่มีความยั่งยืน ในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล และแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่างถาวรตามนโยบาย รัฐมนตรีฯ” นายใบน้อยฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายกฯ เปิดงาน!! 'วันเด็ก' ที่กระทรวงศึกษาฯ แนะน้องๆ ต้องเรียนรู้ เพื่อปรับตัวสู่อนาคต

(11 ม.ค. 68) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด ‘เรียนดี มีความสุข Smart Kids ,Happy Future’ โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารเข้าร่วม

เมื่อมาถึงตัวแทนเด็กและเยาวชนมอบพวงมาลัยให้นายกฯ จากนั้นนายกฯสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ก่อนเดินมาที่เวทีจัดงาน โดยนายกฯมอบของขวัญให้กับเด็กซึ่งเป็นตัวแทนจากทั่วประเทศ ของขวัญเช่น ตุ๊กตาหมี ลูกฟุตบอล

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้ถือว่าเป็นปีแรกของตนในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก รมว.ศึกษาธิการ เตรียมงานไว้ดีมาก และเมื่อสักครู่ได้เห็นน้อง ๆ มาแสดงบนเวที เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ รู้สึกว่าน่ารักมาก เก่งมากจำบทได้และสามารถพูดได้ ตนประทับใจ ถือเป็นการเริ่มวันเด็กที่สดชื่นและสดใส ลีลาการเต้น สไตล์การเต้นต้องผ่านการฝึกฝน ความชอบ ความตั้งใจ และความสามัคคีในหมู่คณะ รวมถึงต้องอาศัยทุกอย่างให้โชว์ออกมาได้ดี และน่าประทับใจ ซึ่งพี่ขอชื่นชมและขอสนับสนุนให้น้องๆไปทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันไม่ใช่การที่เราซ้อมวันสองวันแล้วได้เลยน้อง ๆ ต้องซ้อมเป็นเดือนหรือเป็นปีไปชิงแชมป์โลก นำชื่อเสียงกลับมาให้กับประเทศได้มากขนาดนี้ ก็ขอชื่นชมจากใจจริง

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรามีครอบครัวมีพ่อ แม่ พี่ น้อง เราเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ สมัยใหม่ได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง โดยมีผู้ใหญ่คอยอยู่ข้าง ๆ คอยแนะนำและบอกเล่าประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่เจอมาเพื่อให้เด็กมีความรู้ มีข้อมูลที่มากพอ พร้อมที่จะตัดสินใจ และทำไมคำขวัญปีนี้ถึงพูดว่า ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง

ซึ่งทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตเราสามารถเรียนรู้ได้ทุกรุ่น ทุกวัยไม่จำเป็นว่าผู้ใหญ่โตแล้วไม่ต้องเรียนรู้ ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ทุกคนหันหน้าเข้าหากันเปิดใจ พร้อมเรียนรู้พร้อมรับฟังซึ่งกันและกัน นั่นคือโอกาสแห่งการเรียนรู้ นี่คือที่มาของคำขวัญวันเด็กในปีนี้ และแน่นอนว่าอยากให้น้อง ๆ ได้รู้ว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เทคโนโลยีเข้ามามาก แต่ทุกคนต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลก และยุคสมัยให้เรารู้คุณค่าของตัวเรา พร้อมที่จะปรับตัวสู่อนาคต

“ในโอกาสวันเด็กปีนี้ ขอให้น้องๆทุกคนได้มีโอกาสในการเรียนรู้เยอะๆ วันนี้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างสิ่งน่าเรียนรู้ไว้รอบตัวเราและสร้างสิ่งที่สนุก ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงศึกษาธิการมาก วันนี้น้องๆเรียนรู้ให้เต็มที่มีอนาคตที่สดใส เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯเดินทักทายเด็ก ๆ เยาวชน และเยี่ยมชมบูธภาครัฐและเอกชนภายในกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้เยี่ยมบูธของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายภาพเซลฟี่กับเด็ก ๆ พร้อมแจกลายเซ็นข้อความว่า “เป็นกำลังใจให้น้องต้องตา” นายกฯยังได้อุ้มเด็กน้อย ซึ่งเด็กได้ร้องไห้หลังนายกฯอุ้ม จากนั้นนายกฯเดินมายังซุ้มของคิงพาวเวอร์เพื่อแจกลูกบอลให้กับเด็ก ๆ และได้ถ่ายภาพร่วมกับลูกเสือเนตรนารี

ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กๆ และผู้ปกครองสนใจขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯเป็นจำนวนมาก

นาวิกโยธิน จัดกิจกรรมทางทหารให้เด็ก ๆ ในงานวันเด็กแห่งชาติ 'เด็ก ๆ คืออนาคตของชาติ' หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ขอร่วมสร้างความสุขและส่งเสริมศักยภาพให้เด็ก ๆ ได้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ

พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผบ.นย. และผู้ได้รับใบอนุญาต รร.นาวิกโยธินบูรณะ มอบหมายให้ พล.ร.ท.ฉัตรชัย ศุกระศร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพเรือ ผู้จัดการ รร.นาวิกโยธินบูรณะ เป็นผู้แทนในพิธีเปิดกิจกรรมวันวิชาการ และวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยจัดให้มีกิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน จำนวน 65 ทุน การแสดงของนักเรียน กิจกรรมทางวิชาการตามสาระการเรียนรู้ที่นักเรียนได้เรียนมาและนำมาเสนอให้ผู้ปกครองและผู้ร่วมงานได้ชมความสามารถของเด็กๆ การเล่นเกมส์ พร้อมรางวัลต่างๆ มากมาย การแสดงทางทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ ปืนใหญ่สนาม เครื่องยิงลูกระเบิดหนัก และรถติดจรวดต่อสู้รถถัง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงของสุนัขจากศูนย์สุนัขจรจัดและแมวจรจัด กองทัพเรือ 

โดยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน รร.นาวิกโยธินบูรณะ มีนักเรียน ประมาณ 900 คน ในจำนวนนี้มีกว่าครึ่งหนึ่งเป็นบุตรหลานของกำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยใกล้เคียง รวมถึงบุตรหลานของประชาชนภายนอก 

การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ เป็นการให้ความสำคัญต่อเด็ก และเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต เป็นอีกบทบาทหนึ่งของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่ร่วมมือกับคุณครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการดูแลบุตรหลาน ให้เป็นคนดีมีความรู้ เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ต่อไปในอนาคต

‘มนต์แคน แก่นคูน’ คว้าอันดับ 1 ศิลปินยอดนิยมบน YouTube ประเทศไทย ยอดสตรีมสูงสุดในไทยปีที่ผ่านมา ด้วยการรับชมกว่า 554 ล้านวิว

(11 ม.ค. 68) YouTube Charts เผยอันดับยอดสตรีมประจำปี จัดอันดับศิลปินยอดนิยมและเพลงยอดนิยมปี 2024 ย้อนหลัง 365 วัน ระหว่างวันที่ 3 มกราคม 2024 – 3 มกราคม 2025

จากสถิติในประเทศไทย ‘มนต์แคน แก่นคูน’ ครองอันดับ 1 ศิลปินยอดสตรีมสูงสุดในไทยปี 2024 ด้วยการรับชมกว่า 554 ล้านวิว

รองลงมาคือ ‘SARAN’ ที่รวมยอดสตรีมได้กว่า 416 ล้านวิว ตามมาด้วย ‘บุ๊ค ศุภกาญจน์’ 402 ล้านวิว ‘ILLSLICK’ 400 ยอดวิว ‘Silly Fools’ 369 ล้านวิว และ ‘Jeff Satur’ อยู่ที่ 383 ล้านวิว ตามลำดับ

ส่วนเพลงยอดสตรีมสูงสุดในไทยตกเป็นของ ‘สวยขยี้ใจ’ โดย บุ๊ค ศุภกาญจน์, ทิดแอม & Mos Kammakbin อยู่ที่ 157 ล้านวิว รองลงมาคือ ‘บุษบา’ โดย เมนทอล ที่ 155 ล้านวิว ตามมาด้วย ‘ลองฟังแล’ โดย โต๋เหน่อ ที่ 144 ล้านวิว ‘ความรู้สึกของตัวฉัน’ โดย มนัสวีร์ ที่ 141 ล้านวิว ‘Ghost’ โดย Jeff Satur ที่ 135 ล้านวิว และ ‘Galaxy Express’ โดย D Gerrard ที่ 116 ล้านวิว ตามลำดับ

นอกจากนี้ ‘มนต์แคน แก่นคูน’ ยังคว้าอันดับ 1 รางวัลนักร้องชาย แห่งปี 2567 จาก อีสานโพล (E-Saan Poll) อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โพสต์ “ ขอบคุณทุกแรงใจครับ”

กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงแนวชายแดนไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.68) เวลา 10.00 -13.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พลตรี ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 3 และพลตรี ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ตลอดจนผู้บังคับบัญชาให้การต้อนรับ พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง นายฉลอง ทองนะ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ นางสาวนวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และนาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ โดยร่วมประชุมเพื่อรับฟังสถานการณ์ความมั่นคงชายแดนฝั่งตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณีกองกำลังว้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ตลอดจนรับทราบปัญหาและอุปสรรคที่ต้องการให้คณะกรรมาธิการได้ผลักดัน พร้อมทั้งได้ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะนำข้อมูลและข้อคิดเห็นต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไป

กองทัพอากาศจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้คำขวัญ “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”

(11 ม.ค.68) กองทัพอากาศจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมี พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมนายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ เป็นประธานการจัดงานฯ ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาเยี่ยมชม กิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของกองทัพอากาศ พร้อมทั้งร่วมรับชมการแสดงภาคอากาศ และกิจกรรมต่างๆ ของกองทัพอากาศ

สำหรับกิจกรรมวันเด็กฯ ในปีนี้ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ มุ่งเน้นให้สร้างแรงบรรดาลใจกับเยาวชนด้วยการบินแสดงศักยภาพของยุทโธปกรณ์ยุคใหม่ของกองทัพอากาศ โดยส่งผลกระทบต่อการเดินทางของสายการบินเอกชนให้น้อยที่สุด และเน้นความปลอดภัยด้านนิรภัยภาคพื้นและภาคอากาศ รวมถึงรณรงค์การเสริมสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดพลาสติก และใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยภายในงานฯ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้
การจัดแสดงการบิน (Air Show) ของอากาศยานแบบต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ ที่บอกเล่าเรื่องราว การปฏิบัติภารกิจปกป้องน่านฟ้าไทย อาทิ
- การบินผ่านพิธีเปิด ด้วยเครื่องบิน F-16
- การบินแสดงสมรรถนะอากาศยาน ด้วยเครื่องบิน F-16
- การบินแสดงสมรรถนะอากาศยาน ด้วยเครื่องบิน Gripen
- การแสดงด้วยเครื่องบิน AT-6

การตั้งแสดงอากาศยาน รวมจำนวน 22 แบบ ได้แก่ เครื่องบิน F-16 A/B, Gripen, AT-6, F-5 E/F, T-50, AU-23, C-130, ATR-72, A-340, CT-4B, DA-40, DA-42, SAAB 340, BT-67, T-6C, บ.ทอ.6, T-33, T-28, P-64, O-1A เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC725 และ S-70i รวมถึงการตั้งแสดงยุทโธปกรณ์

กิจกรรมบนเวที ได้แก่ การแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ทหารอากาศและแขกรับเชิญ ได้แก่ น้องเทนนิส (เรืออากาศโทหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ) การเดินแบบโดยนักเรียนนายเรืออากาศและนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ การเล่นเกมส์แจกของรางวัล เป็นต้น

กิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ การแสดงศิลปะป้องกันตัวโดยใช้เครื่องดนตรีประยุกต์ ชื่อชุด 'การแสดงชัยมงคล 72 พรรษา เทิดไท้องค์ราชัน' การจัดนิทรรศการ ภายใต้ชื่อ 'FUTURE UNBEATABLE RTAF สานฝันน้องสู่ครอบครัว ทอ.' การออกบูธนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ การแสดง Fancy Drill การแสดงกระบี่กระบอง การแสดง Drum Zeed และการแสดงเครื่องบินเล็กบังคับวิทยุ

นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังได้จัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของส่วนกลางที่ตั้งดอนเมือง ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการการบินแห่งชาติ และสนามบินเล็กกองทัพอากาศ (ทุ่งสีกัน) ทั้งนี้ หากไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองได้ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติของกองทัพอากาศ ประจำปี 2567 ได้ที่ https://www.rtaf.live/ และเฟซบุ๊ก 'กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force' ระหว่างเวลา 08.00 - 10.00 น.

‘หมอผู้ชำนาญการกีฬา’ เตือน!! หยุดออกกำลังกลางฝุ่น หาก PM 2.5 ค่า AQI สูงกว่า 100 ชี้!! ‘ใส่แมสก์’ ออกกำลังกาย ยิ่งไม่ควร เสี่ยงต่อโรคปอด เพิ่มภาระให้กับระบบหัวใจ

(11 ม.ค. 68) จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งอยู่ในระดับ ‘ส่งผลกระทบต่อร่างกาย’ ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้ผู้ออกกำลังกายกลางแจ้งบางกลุ่ม เลือกใส่หน้ากากอนามัยขณะออกกำลังกายนั้น

ล่าสุด นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมผู้ชำนาญการเพื่อกีฬาและสุขภาพ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ช่วงที่ระดับฝุ่นละออง PM 2.5 สูง การดูแลสุขภาพสำหรับนักกีฬาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพโดยรวมดังนี้

1. ติดตามค่าฝุ่นละอองในอากาศ ตรวจสอบดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) หรือระดับ PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากค่า AQI เกิน 100 ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

2. เลือกสถานที่ออกกำลังกาย หากค่า AQI สูงกว่า 100 ควรเปลี่ยนมาออกกำลังกายในร่ม เช่น ยิม หรือสระว่ายน้ำระบบปิด หากค่า AQI เกิน 150 แม้ออกกำลังกายในร่ม ก็ควรมีเครื่องกรองอากาศเพื่อความปลอดภัย

3. หลีกเลี่ยงการสวมหน้ากากขณะออกกำลังกาย การสวมหน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกายอาจทำให้หายใจลำบากและเพิ่มภาระให้กับระบบหัวใจและหลอดเลือด จึงไม่ควรสวมหน้ากากขณะออกกำลังกายอย่างเด็ดขาด

การสูดดมฝุ่น PM 2.5 ขณะออกกำลังกาย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอด รวมทั้งภาระต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ส่วนการสวมหน้ากากขณะออกกำลังกาย อาจทำให้หายใจลำบาก ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เพิ่มภาระให้กับหัวใจและปอดเนื่องจากการหายใจที่ยากขึ้น หัวใจและปอดต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลมได้

'สุชาติ' มอบทุน!! ‘วันเด็ก’ ให้ 19 โรงเรียนในจังหวัดชลบุรี ย้ำ!! ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรมมอบทุนสนับสนุนและสิ่งของสนับสนุนกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2568 รวมทั้งสิ้น 19 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลบ้านบึง โรงเรียนวัดคลองใหญ่ โรงเรียนวัดหนองชันจันทนาราม โรงเรียนบ้านบึงกระโดน โรงเรียนชุมชนบ้านอ่างเวียน โรงเรียนบ้านหนองปรือ โรงเรียนบ้านเขาแรต โรงเรียนบ้านหนองประดู่ โรงเรียนอนุบาลเกาะจันทร์ โรงเรียนบ้านห้วยกุ่ม โรงเรียนวัดหนองขาม โรงเรียนบ้านหัวโกรก โรงเรียนวัดเสม็ด โรงเรียนวัดใหม่เกตุงาม โรงเรียนวัดบางเป้ง โรงเรียนวัดบ้านแหลมแท่น โรงเรียนอนุบาลวัดกลางดอนเมืองชลบุรี โรงเรียนอ่างศิลาพิทยาคม โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นไป รวมกว่า 1,000 คน โดยนายสุชาติฯ ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่น้อง ๆ เยาวชนเพื่อให้มีกำลังทรัพย์ในการเล่าเรียน และยังเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของเด็ก ๆ นอกจากนี้ ยังมีของเล่น อาทิ ตุ๊กตา ขนมต่าง ๆ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา อาทิ ลูกฟุตบอล เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้เรียนรู้ เพิ่มทักษะที่ตัวเองชอบ

นายสุชาติ กล่าวว่า “สำหรับงานวันเด็กในปีนี้ ผมขอมอบทุนการศึกษา และอุปกรณ์การเรียน การกีฬา เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนได้มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา และได้มีโอกาสในการเพิ่มทักษะต่าง ๆ เพราะทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง"

‘ทักษิณ - พิธา’ ชื่นมื่น!! ร่วมงานแต่ง สส.ลำปาง ย้ำ!! ไม่คุยเรื่องการเมือง แต่คุยเรื่องบ้านเมือง

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 68) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพฯ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินทางมาร่วมพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่างนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง เขต 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) บุตรชายนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร อดีตสส.ลำปาง พรรค พท. กับน.ส.รภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส.ลำปาง เขต 4 พรรคประชาชน (ปชน.)

โดยมีบรรดารัฐมนตรี สส.จากพรรค พท.และพรรค ปชน. เดินทางมาร่วมงานอย่างคึกคัก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า

ทันทีที่นายทักษิณมาถึง ได้มีรัฐมนตรี สส. อดีตสส. ของพรรค พท. มารอต้อนรับบริเวณด้านหน้าทางเข้า และมีนายอัศวิน อิงคะกุล ประธานกรรมการบริหารมิราเคิลกรุ๊ป ในฐานะเจ้าของโรงแรมอัศวินแกรนด์ คอนเวนชั่น มารอให้การต้อนรับและมอบกระเช้าดอกไม้ พวงมาลัยพร้อมด้วยกระเช้าส้ม ให้แก่นายทักษิณ

นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการมาออกงานคู่กับนายพิธาว่า ดี ๆ เดี๋ยวก็ได้เจอกันบ้าง ไม่ได้เจอกันเลย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงในหลายจังหวัดในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน แต่ก็ไม่ได้เจอกันเลย นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่ได้เจอกันเลย เดี๋ยวจะนั่งคุยกัน สำหรับประเด็นในการพูดคุยก็มี ส่วนจะได้มีการพูดคุยเรื่องการหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า คงไม่ได้คุยกันเรื่องการเมือง แต่คุยเรื่องบ้านเมือง

โดยนายทักษิณได้เขียนคำอวยพรให้คู่บ่าวสาวว่า “ขอแสดงความยินดีกับคุณธนาธรและคุณน.ส.รภัสสรณ์ ที่ได้ร่วมชีวิตกัน ขออวยพรให้มีแต่ความสุข ความสมหวัง และความสำเร็จในชีวิตคู่ตลอดไป ด้วยรักและปรารถนา”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top