Friday, 16 May 2025
Hard News Team

ผบ.ตร. บินด่วนนราธิวาส เร่งตรวจสอบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ถล่มแฟลตตำรวจ เบื้องต้น ผู้กองจราจร เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

จากกรณี เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 12.50 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส (แฟลต ตร)  ถ.สุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย  คือ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ รอง สว.จร.เมืองนราธิวาส และบาดเจ็บจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่ามีคนร้ายจำนวน 1 คน แต่งกายคล้าย จนท.ได้นำรถยนต์กระบะประกอบระเบิด(คาร์บอมบ์) นำมาจอดไว้ภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปิดกั้นพื้นที่ รอเข้าตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย 

‘ดร.ดิลก’ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ กรมหมื่นสรรควิไสยนรบดี เจ้าชายนักเศรษฐศาสตร์คนแรกแห่งสยามที่คนไทยควรรู้จัก

หลังจากจบการประชุมเขตเศรษฐกิจ APEC 2022 เรื่องทางเศรษฐศาสตร์ก็ประดังประเดเข้าในหัวผม แต่มีเรื่องหนึ่งที่เด่นชัดและผมอยากนำมาเขียนเล่า ให้ท่านผู้ติดตามได้รู้จักกับ เจ้าชาย ‘นักเศรษฐศาสตร์’ ผู้รอบรู้ทางด้าน ‘ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ’ ของเมืองไทย และเป็นท่านแรกๆ ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสยาม แต่ติดที่ว่าท่านทรงอาภัพด้วยทรงมีพระชนมายุค่อนข้างสั้น และเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์นั้นไม่น่าจะที่จะมีใครอยากเอ่ยถึงนัก

พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 44 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาทิพเกสร เมื่อวันเสาร์ เดือน 6 ขึ้น 9 ค่ำ ปีวอก ฉศก จ.ศ. 1246 ตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2427 โดยเจ้าจอมมารดาเจ้าทิพเกสร นับเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือท่านแรกที่เข้ามาเป็นบาทบริจาริกาในพระพุทธเจ้าหลวง ท่านเป็นหลานทวดของพระเจ้ากาวิละ พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 1 เหตุที่ทรงมีสายพระโลหิตสัมพันธ์กับเจ้านายฝ่ายเหนือเช่นนี้จึงได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระราชบิดาว่า ‘ดิลกนพรัฐ’ อันมีความหมายว่า ‘ศรีเมืองเชียงใหม่’ 

พ.ศ. 2440 พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐได้ทรงเข้าเรียนที่โรงเรียนวอร์เรนฮิลล์ เพื่อศึกษาในระดับประถมศึกษาตอนปลาย ก่อนที่จะย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมชาร์เตอร์เฮ้าส์ ทั้งๆ ที่โรงเรียนมัธยมกินนอนที่อีตัน ได้ตกลงรับเข้าศึกษาแล้ว โดยเหตุผลที่พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ ผู้ดูแลการศึกษาของพระราชโอรสในอังกฤษขณะนั้น มีความเห็นว่าพระเจ้าลูกยาเธอยังขาด ‘ความพร้อม’ ที่จะไปเรียนที่อีตัน 

ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2443 พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ ได้เสด็จกลับกรุงเทพฯ เพราะเจ้าจอมมารดาเจ้าทิพเกสรป่วยหนักและถึงแก่อนิจกรรม คราวนั้นพระเจ้าลูกยาเธอฯ ได้ประทับอยู่เมืองไทยนานถึง 8 เดือน จนกระทั่งเสร็จสิ้นงานศพของพระมารดา จึงได้เสด็จกลับไปศึกษาต่อที่อังกฤษในเดือนมิถุนายน 2444 การว่างเว้นการเรียนไปนานหลายเดือน ทําให้พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐทรงเรียนตามพระสหายในชั้นเรียนไม่ทัน จึงต้องทรงย้ายไปเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมของเอกชนที่ ‘แครมเม่อร์’ 

ในปีเดียวกันนี้ ปรากฏว่าพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐทรงมีความขัดแย้งกับพระยาประสิทธิศัลยการและนายเวอร์นี ซึ่งได้รับหน้าที่ผู้ดูแลการศึกษาของบรรดาพระราชโอรสในอังกฤษ ณ ขณะนั้น พระองค์เจ้าดิลกฯ ได้ทรงมีลายหัตถ์ ถึงพระยาสุริยานุวัตร (เกิด บุนนาค) ปรารภถึงปัญหาการศึกษาเล่าเรียนว่าไม่ต้องพระประสงค์ที่จะอยู่โรงเรียนของเอกชน พระยาสุริยานุวัตร อัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลความว่า ผู้ดูแลฯ มักจะตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ไปโดยไม่รับฟังเหตุผลจากพระเจ้าลูกยาเธอฯ 

ในหลวง ร.5 ทรงมีพระราชดําริว่า พระยาสุริยานุวัตร ดูเหมือนจะเชื่อพระเจ้าลูกยาเธอฯ มากเกินไป และทรงกล่าวถึงพระราชโอรสว่าเมื่อกลับเมืองไทยก็มิได้แสดงความเฉลียวฉลาด และก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงด้วย หากเป็นผู้มีความเพียร ดังนั้นเมื่อเรียนที่อังกฤษมีปัญหาก็ควรจะให้ย้ายไปเรียนที่เยอรมัน แม้จะต้องเริ่มต้นกันใหม่ก็คงจะไม่ ‘ถอยหลังเข้าคลองเท่าไรนัก’ 

การย้ายไปเรียนเยอรมันนี่แหละถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเจ้าชายนักเศรษฐศาสตร์ พระองค์ย้ายไปศึกษาที่เยอรมนีในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2444 โดยทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนมัธยมที่เมืองฮาลเล ภายใต้การควบคุมดูแลของ ดร. ตริน ศาสตราจารย์ชาวเยอรมัน โดยพระองค์ทรงสําเร็จชั้นมัธยมศึกษาภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น

พ.ศ. 2446 เมื่อมีพระชันษา 15 ปีบริบูรณ์ และได้ประทับอยู่ในยุโรปมาแล้วกว่า 6 ปี พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ ได้ทรงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยมิวนิคในหลักสูตรวิชา ‘เศรษฐกิจการเมือง’ ซึ่งก็คือ ‘เศรษฐศาสตร์’ ในปัจจุบันนั่นเอง 

ภายหลังที่ได้ทรงศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยมิวนิคเป็นเวลา 2 ปี ก็ได้ทรงย้ายไปศึกษาในแขนงวิชาเดียวกัน ณ มหาวิทยาลัยทึบบิงเงิน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของเยอรมนีตอนใต้อีกแห่งหนึ่ง พระองค์ได้ทรงสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า ‘ดอกเตอร์วิทสตาตส์วิสเซนชัฟท์’ (เยอรมัน: Doktor der Wirtschafts-wissenschaften) ใน พ.ศ. 2450 ขณะทรงมีชันษาได้ 23 ปี 

โดยวิทยานิพนธ์ของพระองค์มีชื่อว่า Die Landwirtschaft in Siam โดย Dilock Prinz Von Siam แปลว่า ‘การเศรษฐกิจในประเทศสยาม โดย พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ’  ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2449/2450 ซึ่งในสมัยนั้นการศึกษา ‘ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ’ เป็นที่สนใจ โดยเฉพาะประเทศในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังมีการศึกษาอยู่ค่อนข้างน้อย ก่อนหน้านี้หนังสือเล่มนี้หายากมากๆ แต่ปัจจุบันได้รับการแปลและสามารถหาอ่านได้ มีทั้งสิ้น 5 บท โดยสรุปเนื้อหาได้ดังนี้... 

บทแรก เป็นเรื่องกว้างๆ ทางด้านภูมิศาสตร์ของสยาม อันรวบรวมเอารัฐไทรบุรี, กะลันตัน และตรังกานู  เข้าไว้ด้วย ซึ่งในขณะนั้น ยังเป็นส่วนหนึ่งของพระราชอาณาจักรสยามอยู่

บทที่สอง ทรงกล่าวถึงระบบกฎหมาย พระเจ้าแผ่นดินและบรมวงศานุวงศ์ เจ้าเมืองออก ขุนนาง ข้าราชการ ราษฎร ไพร่และทาส ในแต่ละส่วนนั้นก็ยังซอยย่อยลงไปอีกตามลำดับชั้น ทรงให้รายละเอียดเกี่ยวกับแรงงานเกณฑ์ไว้เป็นจำนวนมาก ตลอดถึงทั้งข้อสังเกตบางประการในเรื่องไพร่สม ซึ่งเป็นที่น่าสนใจต่อนักประวัติศาสตร์มากๆ 

ในบทต่อมา ทรงอธิบายการเศรษฐกิจของชาวสยาม ทรงกำหนดอธิบายประเทศสยามว่า เป็นรัฐเกษตรกรรมแท้ๆ โดยมีปัจจัย 3 ประการคือ...
- สยามขาดแคลนแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เหล็ก
- อยู่ในเขตอากาศร้อนไม่เหมาะกับการอุตสาหกรรม 
- เกษตรกรรมขยายต่อเนื่อง ได้ผลตอบแทนที่ง่ายและดีกว่า

ทรงตั้งข้อสังเกตว่า อุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของสยามก็คือการขาดแคลนเงินทุน ทั้งทรงกล่าวถึงการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีแหละให้ทบทวนฐานรายได้ของรัฐเสียใหม่ด้วย รวมไปถึงการถือครองที่ดินและการเสียภาษีที่ดิน (โคตรทันสมัย !!!!) เพื่อนำเงินภาษีเหล่านั้นมาเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจ 

ทั้งยังได้เขียนถึงปัญหาผู้ใช้แรงงานสยาม ซึ่งถูกแย่งงานจากคนจีน ที่มีค่าแรงถูกและต้นทุนอื่นๆ ต่ำ โดยเหตุผลที่พระองค์ได้ทรงบันทึกไว้ ช่างเป็นภาพที่ชัดในหัวผมมากๆ ดังนี้…

“ชาวสยามยอมอดยากหิวโหยเสียดีกว่าที่จะยอมมีชีวิตแบบพวกกุลีจีน พวกเขายะโสกับความเป็นอิสระ เขาจะยอมเชื่อฟังก็แต่ในสิ่งที่เข้ากับเขาได้เท่านั้น นี้...ผู้ใช้แรงงานชาวสยามรักสนุกเฮฮา ผ้านุ่งห่มดีๆ แลของสวยของงาม...พวกเขาพร้อมเสมอที่จะชวนญาติมิตรมาร่วมวงกินอาหารมื้อใหญ่ มีมโหรีแลฟ้อนรำบำเรอ พวกเขายินดีที่จะจ่ายประดาสิ่งที่เขามีอยู่ทั้งหมดออกไป จะมีก็แต่ต่อเมื่อเขาจำเป็นจะต้องใช้เงินอีกคราวเท่านั้น เขาจึงจะหวนกลับไปทำงานกันอีก...อ่านแล้วคุ้นๆ กับปัจจุบันนี้พอสมควรเลย ใช่ไหม ???? (ทุกวันนี้เป็นแรงงานพม่า กัมพูชา ฯลฯ) 

ILINK แย้ม Q4 สดใส รับงาน 'เกาะเต่า' หนุนกำไรพีคยาว วางงบร้อยล้าน ขยายคลังสินค้าใหม่

ILINK โชว์ยอดขายธุรกิจจัดจำหน่ายโต 2 หลัก (double-digit growth) ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ตอบรับกระแสดิจิทัล และเทรนโซล่ารูฟพุ่ง พร้อมโชว์ความแข็งแกร่ง เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 งานโครงการ Submarine Cable ของไทย หลังคว้างานยักษ์ติดตั้งเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า โดยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ หรือ ILINK นำเสนอข้อมูลภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทฯ ผ่านงาน Opp Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า “9 เดือนแรกของปีนี้ ILINK ทำรายได้ 4,862.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.29% และมีกำไรสุทธิ 261.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน และสำหรับไตรมาส 3/65 ILINK มีรายได้ 1,806.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.42% และทำกำไรสุทธิ 85.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% จึงมั่นใจว่าทิศทางผลประกอบการไตรมาส สุดท้ายของปี จะเติบโตทะลุเป้าแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการชนะงานจ้างก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 เควี ไปยังเกาะเต่า ที่จะช่วยหนุนทั้งรายได้และกำไรยาวไปถึงปี 2567”

‘เสาชิงช้า-กิโยติน’ สิ้นมงคลดลวิบัติ ใยผู้ดูแล จึง ‘ละเว้น-ปล่อยปละ’ ม็อบ

เสาชิงช้าสร้างมาแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชในปี ๒๓๒๗ หน้าเทวสถานโบสถ์พราหณ์ และหน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม พราหมณ์ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์นี้บ้างก็ว่าสืบทอดมาจากกรุงศรีอยุธยา หรือมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดเพชรบุรี และสืบตระกูลพราหมณ์ราชสำนักมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้มีพระราชครูวามเทพมุนีเป็นหัวหน้าคณะพราหมณ์ประจำเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ 

ในหนังสือพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เขียนอธิบายไว้โดยละเอียดว่าพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย หรือพระราชพิธีโล้ชิงช้า นั้นเดิมจัดขึ้นในเดือนอ้าย ต่อมาขยับมาเป็นเดือนยี่ เพื่อนมัสการบูชาพระอิศวร พระนารายณ์ และพระพิฆเนศ โดยเป็นพิธีขึ้นปีใหม่ของพราหมณ์ โดยที่พราหมณ์ได้อัญเชิญพระเป็นเจ้าเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์พร้อมกันนี้ก็ได้เชิญเทพยดาองค์อื่นๆ เช่น พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระคงคา และพระธรณีมาเข้าเฝ้าและร่วมในพิธีด้วย 

การพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย เดิมเน้นเป็นพิธีฮินดู-พราหมณ์ แต่อย่างเดียว แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดให้จัดพิธีอย่างพุทธเข้าไปเป็นหลักด้วย เช่น มีพระราชพิธีสงฆ์ให้พระสงฆ์รับพระราชทานฉันที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ มีการสวดมนต์ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นต้น 

การพระราชพิธีที่เป็นของฮินดู-พราหมณ์แต่เดิมก็ยังคงอยู่ มีการพระราชทานแต่งตั้งพระยายืนชิงช้า ซึ่งโดยปกติจะเป็นตำแหน่งของเกษตราธิการในจตุสดมภ์ ๔ คือเจ้าพระยาพลเทพ แต่ในภายหลังก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสมในแต่ละปีไป ความเรียงอธิบายขั้นตอนและสิ่งประกอบในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวายในพระราชนิพนธ์พระราชพิธีสิบสองเดือนนั้น ละเอียดลออ ครบถ้วน หากอ่านจนครบจะเข้าใจและเห็นภาพได้อย่างกระจ่างชัดจนสามารถนำมารื้อฟื้นพระราชพิธีได้ 

อย่างไรก็ตามพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวายนี้ได้ถูกยกเลิกไปหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และกรุงเทพมหานครได้ใช้เสาชิงช้าเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อีกทั้งการบูรณะเสาชิงช้าในยุคหลังก็ดำเนินการโดยกรุงเทพมหานคร ถือว่ากรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลสถานที่ ทั้งนี้เสาชิงช้านั้นตั้งอยู่หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครด้วย โดยที่เสาชิงช้าเป็นสถานที่สำคัญมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนากรมศิลปากรจึงได้ขึ้นทะเบียนเสาชิงช้าเป็นโบราณสถานของชาติ

‘Jiwaru DAYS’ เพลงพิเศษเพื่อ BNK48 รุ่นแรก ความทรงจำสุดท้าย ก่อนแยกย้ายไปตามฝันตน

ดูเหมือน Jiwaru DAYS เพลงใหม่ของวง BNK48 ที่ถูกร้อยเพลงขึ้นมาเป็นเพลงของรุ่น 1 โดยเฉพาะนี้ กำลังส่งสัญญาณแห่งการจากลาระหว่าง ‘เหล่าโอตะ’ และ ‘พวกเธอ’ BNK48 1ST Generation 

Jiwaru DAYS เป็นบทเพลงที่สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และมิตรภาพที่ดีของ BNK48 รุ่นแรก และน่าจะเป็นอีกบทเพลงที่ชวนให้คิดถึงเรื่องราวในวันวาน จนเรียกน้ำตาจากเมมเบอร์และแฟนๆ ได้ทั่วทั้งงานที่จะจัดขึ้นแบบในช่วงปลายปีนี้ ก่อนที่ BNK รุ่นแรกจะแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง

คิดๆ แล้วก็ใจหาย!! เพราะนี่ คือ โมเมนต์ที่อาจจะทำให้แฟนคลับได้สัมผัส 2 ห้วงอารมณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้ง ‘ความสุข’ + ‘ความเศร้า’ ใต้วินาทีแห่งการจากลาที่คงไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้น แต่สุดท้ายมันก็ฉุดรั้งเอาไว้ไม่ได้ คงจะเหลือไว้แค่เพียงภาพความทรงจำของวันเก่าๆ ที่ผ่านมาร่วมกัน เมื่อนึกถึงทีไร ก็จะมีแต่ความสุข เหมือนกับความหมายของชื่อเพลง ‘Jiwaru Days’ 

โดยซิงเกิลพิเศษนี้ จะเน้นสื่อสารถึงเรื่องราวการจากลาของกลุ่มเพื่อนที่มีความผูกพันร่วมกัน เสมือนเป็นบทสรุปตลอด 6 ปีที่ผ่านมาของกลุ่มเด็กสาวผู้พกความฝันอันยิ่งใหญ่ในหัวใจ กอดคอกันก่อร่างสร้าง BNK48 ให้เป็นที่รู้จักอย่างทุกวันนี้ จนถึงปัจจุบันที่พวกเธอจะต้องแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางใหม่และรับบททดสอบอีกขั้นในหนทางข้างหน้า ซึ่งสไตล์ของเพลงจะมาในแนว J-pop จังหวะสนุกสนาน แบบฉบับ 48 Group เน้นเมโลดี้เพราะๆ น่ารักๆ...ถึงได้บอกไงว่า เป็นการจากลาที่จะเต็มไปด้วยความสุขผสมความเศร้าแบบไม่ต้องปฏิเสธ!! 

สำหรับวง BNK48 ซึ่งมีเพลงที่โด่งดังอย่างมากจาก Koisuru Fortune Cookies (คุ้กกี้เสี่ยงทาย) ภายใต้บริษัท independent Artist Management (iAM) เป็นวงไอดอลของประเทศไทย ที่มีแนวคิดเหมือนวงพี่ AKB 48 จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมี Concept ชวนฝันแก่แฟนๆ คือ ‘ไอดอลที่คุณสามารถไปพบได้ (Idols you can meet)’ 

คอนเซปต์นี้สำคัญมากนะคะ เพราะเป็นการเปลี่ยนความคิดแบบเก่าที่ปกติแฟนคลับจะสามารถพบเจอเกิร์ลกรุ๊ปทั่วไปได้เฉพาะตามงานคอนเสิร์ต หรือรายการโทรทัศน์เท่านั้น แต่วง BNK48 นั้นจะพยายามลดระยะห่างระหว่างสมาชิกและแฟนคลับ โดยการเพิ่มการปฏิสัมพันธ์ด้วยหลากหลายวิธี ได้แก่ การสร้างโรงละครประจำวงที่มีการแสดงทุกสัปดาห์ การจัดตั้งงานจับมือ การถ่ายทอดสดในไลฟ์สตูดิโอ (ตู้ปลา) ฯลฯ 

ส่วนที่มาของชื่อ BNK48 (เผื่อใครยังไม่ค่อยคุ้น) มาจาก BANGKOK หรือ กรุงเทพมหานคร และเลข ‘48’ มาจากนามสกุลของ โคตาโระ ชิบะ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เอเคเอส โดยคำว่า ‘ชิ’ และ ‘บะ’ เป็นคำพ้องเสียงของภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลความหมายได้เป็นเลข ‘4’ และ ‘8’ ตามลำดับ

BNK 48 เป็นหนึ่งในวงน้องสาวที่มีอยู่ 12 วง โดยมีสถานะเป็นวงน้องสาวต่างประเทศลำดับที่ 2 ของ AKB 48 ซึ่งวงเหล่านี้มีรูปแบบการจัดการและลักษณะคล้ายๆ กันหลายประการ เช่น การก่อตั้งโรงละครประจำวง, การจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างงานเลือกตั้งเซ็มบัตสึ และหากวงน้องสาวมีต้นกำเนิดนอกประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีการออกซิงเกิลเพลงที่เป็นการแปลจากเพลงต้นฉบับของวงพี่สาวให้อยู่ในฉบับภาษาท้องถิ่น เป็นต้น รวมไปถึงระบบแลกเปลี่ยนสมาชิกที่เปิดโอกาสให้สมาชิกวงสามารถย้ายไปเป็นสมาชิกวงอื่นในเครือเดียวกันได้ นอกจากนี้ วง BNK 48 ยังมีวงน้องสาวเป็นของตัวเองในประเทศไทยคือ CGM 48 ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2562 โดยมีที่ตั้งและทำกิจกรรมอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก

ทั้งนี้ BNK48 ได้เริ่มเปิดรับสมัครสมาชิกครั้งแรกเมื่อกลางปี พ.ศ. 2559 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560 พร้อมกับซิงเกิลแรกในชื่อ อยากจะได้พบเธอ ด้วยสมาชิก 30 คน ทั้งนี้ สมาชิกของวงนั้นมีจำนวนไม่แน่นอน เนื่องจากมีการเปิดรับสมาชิกรุ่นใหม่และมีการจบการศึกษาอยู่ตลอดเวลา 

จากนั้นในช่วงแรกได้มีการประชาสัมพันธ์วงผ่านรายการโทรทัศน์ BNK48 Senpai และผลงานเพลงตามงาน Roadshow ต่างๆ จนมีชื่อเสียงขึ้นในปี พ.ศ. 2560 ในผลงานเพลง ‘คุกกี้เสี่ยงทาย’ รวมถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในไทยครั้งแรกอย่าง งานจับมือ, งานถ่ายรูปคู่ หรือ 2-shot, งานเลือกตั้งเซ็มบัตสึ และการแสดงในโรงละคร ทำให้วงเป็นที่กล่าวถึง และมีผลงานต่างๆ ตามมาทั้งตัวบุคคลและทีม ตั้งแต่งานเพลง การแสดงซีรีส์ และภาพยนตร์ ตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จนเกิดปรากฏการณ์ ‘เหล่าโอตะ’ (แฟนคลับ) ที่ตามติดพวกเธอมากขึ้นๆ และกลายเป็นวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อไอดอลวงอื่นๆ ที่มีแฟนคลับน่ารักๆ จนศิลปิน ไอดอล มีพลังในการผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง จนถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ให้แก่วงการไอดอลไทยกันเลยทีเดียว 

สำหรับเมมเบอร์รุ่นที่ 1 วง BNK48 มีทั้งหมด 22 คน ได้แก่ เฌอปราง-เฌอปราง อารีย์กุล, โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค, เนย-กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน, ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร, เจนนิษฐ์-เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ, มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์, ตาหวาน-อิสราภา ธวัชภักดี, อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ, ปูเป้-จิรดาภา อินทจักร, จ๋า-ณปภัช วรพฤทธานนท์, ไข่มุก-วรัทยา ดีสมเลิศ, แก้ว-ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ, น้ำใส-พิชญาภา นาถา, ก่อน-วฑูศิริ ภูวปัญญาสิริ, จิ๊บ-สุชญา แสนโคต, มายด์-ปณิศา ศรีละเลิง, เคท-กรภัทร์ นิลประภา, มิโอริ-มิโอริ โอคุโบะ, ซัทจัง-สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์, เจน-กุลจิราณัฐ วรรักษา และเปี่ยม-รินรดา อินทร์ไธสง 

'ยิ่งลักษณ์' เคลื่อนไหวแล้ว! หลังถูกออกหมายจับปม ย้ายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ ระบุ ย้ายข้าราชการคนเดียว แล้วถูกดำเนินคดี ถูกกลั่นแกล้งไม่จบ

(22 พ.ย. 65) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ Yingluck Shinawatra @PouYingluck หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับคดี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพวก ใช้อำนาจโอนนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้นให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบเมื่อช่วงเดือน ก.ย.54 โดยฟ้องเมื่อเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา

‘สุทิน’ ยัน!! หาก ‘ตู่-ป้อม’ แตกกันไม่กระทบฝ่ายค้าน แต่อาจเกิดศึกชิงรัก-หักเหลี่ยมภายในรัฐบาล

(22 พ.ย. 65) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวุฒิสภา ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ พิจารณาแนวทางการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญไปพร้อมกับการเลือกตั้งว่า การที่เสนอให้ทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งเพื่อไม่ต้องการให้เสียเวลา แต่การที่วุฒิสภา ตั้งกมธ. ขึ้นมาศึกษาก็สามารถทำได้ แต่เมื่อตั้งกมธ. มาแล้วก็สามารถทำได้ แต่ต้องรับผิดชอบให้มีคำตอบทันกับการเลือกตั้งว่าทำหรือไม่ทำ แต่ถ้าตั้งไปเรื่อย และไม่ได้รับผิดชอบเวลา ก็ต้องมีการตั้งข้อสังเกตว่ายื้อหรือไม่ 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะลาขาดจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คิดว่าจะมีจุดเปลี่ยนทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีใครรู้แน่ เราก็เพียงแค่คาดหมาย และวิเคราะห์พฤติกรรมเอา ซึ่งมีหลายอย่างบ่งชี้ว่า ทั้ง 2 คนไม่ได้ไปด้วยกัน และมีหลายอย่างที่บ่งชี้ว่า ไปด้วยกัน ฉะนั้นการที่ทั้ง 2 คน ไปหรือไม่ไปด้วยกันก็มีผลทางการเมือง ถ้าเขาไปด้วยกันก็ทำให้เขามีเอกภาพ แต่ถ้าไม่ไปด้วยกันก็ไม่เป็นเอกภาพ หรือถ้าแยกออกจากกันแล้วเป้าหมายของพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ตรงไหน และเป้าหมายนั้นทันหรือไม่ทันเวลา เพราะมีผลเกี่ยวกับกฎหมายลูก ฉะนั้นจากนี้เป็นต้นไปทั้ง 2 คนถือว่าทำให้การเมืองของประเทศผันผวนได้ 

‘ตำรวจแม่พริก’ จับพิรุธคนขับรถสิบล้อขนสินค้า ตรวจค้นพบ ยาบ้า 5 ล้านเม็ด - ยาเคกว่า 100 กิโล

ผบ.ตร. ชื่นชม ตำรวจแม่พริก ลำปาง มีไหวพริบ รวบหนุ่มขับรถสิบล้อ ขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด เคตามีนกว่า 100 กิโล ตบตา จนท.ซุกซ่อนมากับทิชชู รับมาจากเชียงใหม่ นำส่งสงขลา สั่งการย้ำขยายผลยึดทรัพย์ พร้อมกำชับตำรวจเร่งแก้ปัญหาผู้เสพร่วมกับทุกภาคส่วน 

วันนี้ (22 พ.ย. 65) เวลา 10.00 น. ที่ ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบชภ.5, พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล สอนสำราญ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จว.ลำปาง, นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, ผู้แทน ปปส., ผู้แทน มทบ.32  ร่วมกันแถลงผลการจับกุม คดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด เคตามีน (ยาเค) จำนวน 101 กิโลกรัม และรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 พ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก จ.ลำปาง ได้เรียกตรวจรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 66-9601 กทม. พบ นายวัชระ คะรวนรัมย์ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 57 ม.5 ต.คูมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ คนขับรถมีท่าทางพิรุธ จึงได้ขอทำการตรวจค้นโดยได้นำรถยนต์บรรทุก เข้าเครื่อง XRAY ประจำด่านตรวจแม่พริก พบวัตถุสงสัยคล้ายก้อนยาเสพติด ปะปนมากับกล่องสินค้า จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดพบ ยาบ้าจำนวน 850 ก้อน ประมาณ 5 ล้านเม็ด และเคตามีนอีก จำนวน 101 ก้อน ก้อนละ 1 กก. รวมเป็น 101 กก. 

สอบสวนนายวัชระ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายวสันต์ ให้มาขนยาเสพติดดังกล่าว โดยซุกซ่อนยาเสพติดมากับสินค้าจำพวกกล่องทิชชูเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ โดยต้นทางของยาเสพติดมาจาก  อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ปลายทาง จ.สงขลา และนายวัชระ รับว่าได้เสพยาบ้ามาด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีและทำการขยายผลยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป 

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่องในทุกมิติ ต้องขอชื่นชมในไหวพริบของตำรวจด่านแม่พริก จ.ลำปาง ที่มีปฏิภาณไหวพริบในการตรวจค้น จนนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้ โดย ด่านตรวจยาเสพติดแห่งนี้ มีผลงานจับกุมยาเสพติดมาต่อเนื่อง

ศรชล.ภาค 1 บูรณาการร่วม ทรภ.1 จับกุมเรือขนน้ำมันเถื่อนในทะเล

วันที่ 21 พ.ย.65 เวลา 23.00 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค1) บูรณาการร่วม ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) ดำเนินการตรวจสอบ และ จับกุมเรือประมงดัดแปลงลักลอบขนน้ำมันผิดกฎหมาย บริเวณ ปากน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง 

จากการปฏิบัติการด้านการข่าว นำไปสู่การตรวจสอบ และจับกุมเรือ บ.ดิวันมารีน 8 พร้อมไต๋เรือและลูกเรือ รวม 5 คน ที่บริเวณปากน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ตรวจสอบในเบื้องต้นพบเรือ บ.ดิวันมารีน 8 ซึ่งเป็นเรือประมงดัดแปลง มีการลักลอบขนนำ้มันผิดกฎหมาย (น้ำมันเถื่อน) ขึ้นสู่บก 

 

WICE โชว์งบ 9 เดือน กำไรโต 29% พร้อมให้ข้อมูลทิศทาง Q4/65 โตต่อเนื่อง ในงาน Opportunity Day

นายเอกพล พงศ์สถาพร (กลาง) ประธานกรรมการ ร่วมด้วย นายชูเดช คงสุนทร (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และ นางสาวบุศรินทร์ ต่วนชะเอม (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ให้ข้อมูลผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2565 รายได้รวม 5,851 ล้านบาท กำไรสุทธิ 458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% พร้อมให้ข้อมูลทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/65 มั่นใจทำผลประกอบการนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top