Saturday, 17 May 2025
World

3 แบงก์ใหญ่ เงินไหลออก กว่า 2 ล้านล้านบาท  สวนทาง Apple เสนอเงินฝากดอกเบี้ย 4.15%

ถึงยุคที่ธนาคารทั่วโลกกำลังจะถูก Disrupt แล้วหรือไม่ ?!? เพราะหลังจากเกิดวิกฤต Bank Run ขึ้นมา Apple บริษัท Smartphone ยักษ์ใหญ่ของโลกก็ได้ประกาศเสนอบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงถึง 4.15% ซึ่งผู้บริโภคสามารถฝากเงินผ่าน Saving Account ของบริษัทได้ทันทีเพียงแค่เป็นลูกค้าของ Apple เท่านั้น !!! (ตอนนี้ยังเปิดใช้แค่ลูกค้าที่มีบัตร Apple Card ในสหรัฐฯ)

(18 เม.ย.66) World Maker เผยว่า บัญชีดังกล่าวเป็นการร่วมมือกับ Big Bank แห่ง Wall Street อย่าง Goldman Sachs โดยไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ แต่มีการกำหนดเงินฝากสูงสุดที่ 250,000 ดอลลาร์ซึ่งหมายความว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่จาก Federal Deposit Insurance Corp. อีกด้วย !!

ระดับดอกเบี้ยที่ 4.15% นั้นถือว่าสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารขนาดเล็ก-กลางหลายแห่งในตอนนี้เลยทีเดียว ! ซึ่งแน่นอนว่าหากธนาคารใหญ่เริ่มจับมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่มากขึ้นเช่นนี้ จะถือเป็นการ Disrupt โดยตรงต่อธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถเสนอดอกเบี้ยได้สูงในระดับนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการบริหารงบไม่ดี

มีรายงานว่าแม้แต่ธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่งคือ Charles Schwab, State Street และ M&T ก็ได้เผชิญเงินไหลออกสูงถึง -6 หมื่นล้านดอลลาร์หรือกว่า -2 ล้านล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และแนวโน้มดังกล่าวอาจดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับธนาคารหลายแห่ง หากพวกเขายังไม่ยอมขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากให้กับผู้บริโภค

นอกจากบัญชีดอกเบี้ย 4.15% แล้ว นักลงทุนและผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังถอนเงินออกจากธนาคารหลายแห่งเพื่อไปพักเงินใน Money Market Funds แทน เนื่องจากกองทุนเหล่านี้ให้ดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ประมาณ 4.65% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับดอกเบี้ยของ FED ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าแรงกดดันต่อธนาคารที่เสนอดอกเบี้ยต่ำจะมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่ดอกเบี้ยหลัก ๆ ในตลาดการเงินยังคงสูงเช่นนี้

มีเพียงธนาคารยักษ์ใหญ่ไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังสามารถแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งนอกจาก Goldman Sachs แล้วก็จะมี Big Bank อย่างเช่น JPMorgan, Wells Fargo, Morgan Stanley, Citigroup และ Bank of America ที่ถือเป็นเสาหลักอยู่ในตอนนี้ แต่ทั้ง 6 ยักษ์ใหญ่ต่างก็ต้องแข่งขันกันเองด้วย ดังนั้นจะเสนอดอกเบี้ยต่ำกว่ากันมากนักไม่ได้

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของ Apple ถือเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์แปลง iPhone ให้กลายเป็น “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าทุกคนสามารถเชื่อมโยงการเงินของตัวเองและวิถีชีวิตประจำต่าง ๆ ได้ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว (ซึ่งในอนาคตอาจไม่ใช่แค่ iphone แต่ยังรวมถึง Product ใหม่ ๆ ด้วย)

แม้ว่าจะไม่สามารถใช้เงินในบัญชีออมทรัพย์ได้โดยตรง แต่ลูกค้า Apple Card จะสามารถโอนเงินจากบัญชีดังกล่าวมายังบัญชีกระแสเงินสด Apple Cash ก่อนจะใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งก็แทบไม่ต่างกัน !

ที่น่าสนใจมาก ๆ คือความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่เท่าที่เราเห็น แต่อาจเป็นการเตรียมยกระดับระบบต่าง ๆ ไปสู่ดิจิทัลมากขึ้นเพื่อก้าวสู่โลกอนาคต เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ทาง Apple ยังได้ร่วมมือกับบางรัฐในสหรัฐฯ เพื่อให้บริการออกใบขับขี่เวอร์ชั่นดิจิทัล ขณะเดียวกันก็มีการเจรจากับ Alphabet เพื่อที่จะใช้ Google เป็น Browser เริ่มต้นของ Safari ใน iPhone

อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า Apple จะไม่มีคู่แข่ง เพราะปัจจุบันธนาคารบางแห่งก็เสนอดอกเบี้ยเงินฝากออนไลน์มากถึง 5% แต่ถึงกระนั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภาคธนาคารกำลังถูก Disrupt ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่บริหารงบไม่ดี ไม่มีความสามารถในการทำกำไร และไม่สามารถเสนอดอกเบี้ยที่สูงตามอัตราหลักของตลาดได้

เช็กแถวทหารในเขตยึดครอง 'เคอร์ชอน-ลูฮันส์ค' หลังกองทัพยูเครนประกาศเตรียมบุกตีเมือง

(19 เม.ย.66) รัฐบาลเครมลินเผยแพร่คลิปวิดีโอ วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขณะเดินทางเยี่ยมผู้บังคับบัญชา และกองทหารรัสเซีย ในเขตยึดครองที่เคอร์ชอน และ ลูฮันส์ค เมื่อวันอังคาร (18 เมษายน 66) ที่ผ่านมา แต่ไม่ยืนยันว่าผู้นำรัสเซียได้เดินทางไปเขตด่านหน้าจริงๆ ในวันใด

โดยปูตินเดินทางมาถึงพื้นที่ในเขต เคอร์ชอน และ ลูฮันส์ค ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อฟังรายงานสถานการณ์สู้รบของกองทัพรัสเซียในยูเครน และเยี่ยมเยียนกองทหารเนื่องในโอกาสฉลองเทศกาลอีสเตอร์ของนิกายออร์โธดอกซ์ 

ปูตินกล่าวว่า - เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับตัวเขาที่ต้องมาฟังความเห็น และแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตรงกันคนที่ประจำอยู่แถวหน้าด้วยตัวเอง 

แม้ปูตินจะแทบไม่เคยเดินทางออกจากรัสเซียเลยตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน โดยเฉพาะ พื้นที่ เมืองเคอร์ชอน ลูฮันส์ค โดเนสค์ ซาโปริซเซีย ที่รัสเซียเพิ่งประกาศผนวกดินแดนในเดือนกันยายน 2565 ที่ทำให้รัสเซียถูกประณามว่าเป็นการยึดครองดินแดนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

แต่เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา ผู้นำรัสเซียได้เดินทางไปเยือนไครเมีย ตามด้วย มาริอูโปล และเป็นครั้งแรกที่ปูตินมาเยือนเมืองในเขตยึดครองยูเครนถึง 2 เมือง และเกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพยูเครนประกาศเตรียมพร้อมที่จะโจมตีครั้งใหม่เพื่อยึดคืนดินแดน

จับตา 'ไช่อิงเหวิน' สตรีผู้อาจพา 'ไต้หวัน' เป็นยูเครน 2 หลังตามซบลุงแซมเป็นซีรีส์ เย้ย 'สีจิ้นผิง' จนกัดกราม

ดูทรงแล้วประธานาธิบดีหญิงแห่งไต้หวัน ไม่หวั่นอาเฮียแผ่นดินใหญ่ เพราะหันไปซบอกเหี่ยวๆ ของลุงแซมเต็มที่ 

นางเคยให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันว่า ถึงจีนแผ่นดินใหญ่จะย้ำแล้วย้ำอีก ว่าจะรวมชาติไต้หวันด้วยสันติวิธี แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าอาเฮียจะเปรี้ยวตีนขึ้นมาถึงขั้นหักหาญด้วยกำลัง ไต้หวันเลยพุ่งไปขอความช่วยเหลือจากอเมริกา แถมบอกต่อด้วยว่าไต้หวันจะไม่รีรอที่จะมองหาความช่วยเหลือจากตะวันตก แบบเดียวกับเคียฟ หากว่ามีขัดแย้งปะทุขึ้น 

คือ...น่าจะอยากเป็นยูเครน 2 ว่าซั่น!!

ตอนนั้นอังเคิลแซมฟังแล้วรีบเบ่งกล้ามอวดโลก พลางยืดอกเหี่ยวๆ โชว์ซิกแพ็กที่ไม่ค่อยมี เพราะฉุบวมทั้งน้ำอัดลมและเบียร์ เด้งรับคำอวยของไต้หวันทันที พลางป้อนยาหอมเพียบ แถมเจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งกองทัพสหรัฐฯ รับปากสนับสนุนด้านการทหารแก่ไต้หวัน

พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ย้ำว่าอเมริกามีพันธสัญญาผ่านกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน แถมประธานาธิบดีไบเดนเคยบอกหลายวาระเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า อเมริกาจะเดินหน้าให้การสนับสนุนด้านการทหารและจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ไต้หวัน

ความขุ่นเคืองของสองจีนประทุขึ้นจนถึงจุดเดือด เมื่อป้าแนนซี่ เพโลซี่ปากแจ๋วไปไต้หวัน อาเฮียสีที่นั่งเจี๊ยะเต้อยู่บนเหล่าเต๊งถึงกับสั่งเลี๊ยะพะ ด้วยการซ้อมรบด้วยอาวุธจริงรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ป้าแนนซี่เห็นท่าไม่ดี กลัวออกจากเกาะไม่ได้เลยเผ่นไปก่อน ไม่ได้อยู่นาน แต่เหมือนกวนติงกันเห็นๆ คณะตัวแทนจากอเมริกาคณะนั้นคณะนี้แห่แหนไปไต้หวันรัวๆ เล่นเอาเฮียสีขบกรามกรอดๆ 

เท่านั้นยังไม่พอ 'ไช่ อิงเหวิน' เดินสายไปเยือนประเทศแถบละตินอเมริกา นางไม่แคร์ใดๆ ทั้งที่จีนแผ่นดินใหญ่ทั้งปลอบทั้งขู่ แต่หนูก็จะไป โดยมีเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อ้าแขนรอรับอยู่ในแคลิฟอร์เนีย   

พญามังกรหนวดกระดิก ขู่ฟ่อทันทีว่า ลื้อทำตัวแบบนี้ เดี๋ยวเจอจัดหนักจากอั๊วแน่นอน ฆ่าได้หยามไม่ได้ ทำนองนั้น แล้วเฮียสีสั่งซ้อมรบรัวๆ ล้อมเกาะไต้หวันอีกรอบ ซึ่งอเมริกาก็แล่นเรือไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่แถวไต้หวันทันทีที่จีนแผ่นดินใหญ่ซ้อมเสร็จ 

กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันปี 1979 กำหนดให้สหรัฐฯ รับประกันกับเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ในด้านทรัพยากรต่างๆ สำหรับปกป้องตนเอง และปกป้องการเปลี่ยนแปลงสถานะแต่เพียงฝ่ายเดียวของปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ มอบการปกป้องด้านการทหารแก่เกาะแห่งนี้

ระหว่างการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนตุลาคม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่าปักกิ่งจะทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายรวมชาติกับไต้หวันอย่างสันติ แต่สงวนสิทธิใช้กำลังแก้ไขปัญหาถ้ามีความจำเป็น...แปลแบบชาวบ้านว่า ทางจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่หักหาญน้ำใจ คือจะไม่ปล้ำด้วยกำลัง จะค่อยๆ โอ้โลมจนกว่าไต้หวันจะใจอ่อน หากไม่ยอมขึ้นมา ก็จำเป็นต้องฟาดกันแรงๆ 

ที่สำคัญเฮียสีบอกตรงๆ ว่า จะต้องให้กองทัพจีนเป็นเจ้าโลกทางการทหารด้วยการชนะทุกสมรภูมิให้ได้ (อเมริกาเองมองว่าจีนต้องการบรรลุเป้าหมายเป็นเจ้าโลกในด้านการทหารในอีกราวๆ 50 ปีข้างหน้า และเป็นเจ้าในระดับภูมิภาคภายในปี 2027)

ไต้หวันปกครองตนเองมาตั้งแต่กองกำลังชาตินิยมที่นำโดย เจียง ไคเช็ก หลบหนีไปยังเกาะแห่งนี้ในปี 1949 หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่คอมมิวนิสต์ กลายเป็นหนามยอกอกตำใจจีนแผ่นดินใหญ่นับแต่นั้นมา เพราะจีนแผ่นดินใหญ่วางนโยบาย 'จีนเดียว' เพราะฉะนั้นการรวมชาติเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  

ในสมุดปกขาวที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคมเน้นย้ำว่าปักกิ่งมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายรวมชาติอย่างสันติ แต่เมื่อกองทัพจีนใหญ่โตมโหฬารกว่าไต้หวันหลายเท่า  ประธานาธิบดีไช่ จึงเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมถึง 13% และจะทุ่มงบประมาณ 19,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านการทหารในปี 2023 แล้วขู่อาเฮียแผ่นดินใหญ่ฟ่อๆ ว่า ถ้าอยากรุกรานไต้หวัน ก็ต้องจ่ายแพงอย่างแน่นอน

'UNFPA' ชี้!! ประชากรอินเดียใกล้จะแซงหน้าจีนแล้ว แต่นี่จะเป็นโอกาสหรือวิกฤตที่นำไปสู่หายนะกันแน่?

กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เปิดเผยในวันนี้ (19 เม.ย.) ว่า อินเดียกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกแซงหน้าจีน ด้วยการมีประชากรมากกว่าจีนเกือบ 3 ล้านคนในช่วงกลางปีนี้

รายงานสถานการณ์ประชากรโลกปี 2566 (State of World Population Report, 2023) ของ UNFPA ได้ประมาณการจำนวนประชากรของอินเดียไว้ที่ 1.4286 พันล้านคน มากกว่าจีนที่มีประชากรจำนวน 1.4257 พันล้านคน ขณะที่สหรัฐอเมริกาตามมาเป็นอันดับที่ 3 แบบห่าง ๆ ด้วยตัวเลขประชากรประมาณ 340 ล้านคน โดยรายงานฉบับนี้สะท้อนข้อมูลที่มีอยู่ ณ เดือนก.พ. 2566

ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรที่ใช้ข้อมูลก่อนหน้านี้ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า จำนวนประชากรอินเดียจะแซงหน้าจีนในเดือนนี้ แต่ในรายงานฉบับล่าสุดของ UNFPA ไม่ได้ระบุแบบเฉพาะเจาะจงว่า จำนวนประชากรของอินเดียจะแซงหน้าจีนเมื่อใด

เกี่ยวกับจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นของอินเดีย ด้าน มาเฮช วิยาส หัวหน้าผู้บริหารของศูนย์สังเกตการณ์เศรษฐกิจอินเดีย (CMIE) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยข้อมูลในมุมไบ กล่าวว่า ประชากรวัยหนุ่มสาวที่เพิ่มขึ้นทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในวัยทำงาน (15-64 ปี) และนี่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป

จากข้อมูลของวิยาส สภาวะดังกล่าวได้ช่วยให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียตั้งแต่ปี 1990 “ในทศวรรษที่ 1990 อินเดียประสบความสำเร็จค่อนข้างดีในการเคลื่อนย้ายแรงงานจากฟาร์มไปยังโรงงาน ... นี่คือการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่เกิดจากการแทรกแซงนโยบายและได้รับความช่วยเหลือจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากร”

วิยาสเสริมว่า นอกจากแรงงานจำนวนมากแล้ว ในทางทฤษฎี ประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมากสามารถกลายเป็นแหล่งการลงทุนในอนาคตได้เช่นกันหากพวกเขามีรายได้ดีและเก็บออมเงินได้

แต่การที่แรงงานรุ่นใหม่จะมีรายได้และเก็บออมเงินได้ดีนั้น จำเป็นต้องมีงานที่ให้ผลตอบแทนดีเพียงพอซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับเศรษฐกิจสมัยใหม่

ข้อมูลจากทางการอินเดียระบุว่า อัตราการว่างงานอย่างเป็นทางการของอินเดียแตะระดับสูงสุดในรอบ 45 ปีที่ 6.1% ในปี 2017-2018 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 2.7% ของเมื่อช่วงปี 2011-2012 ส่วนเมื่อปี 2021-2022 ระดับการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.1%

แต่ข้อมูลบางชิ้นบ่งชี้ว่า จำนวนผู้ว่างงานของอินเดียกำลังสูงขึ้นมาก จากข้อมูลของ CMIE พบว่า อัตราการว่างงานของอินเดียในเดือนมีนาคม 2023 อยู่ที่ 7.8% และสูงขึ้นไปอีกถึง 8.5% ในหลายเมืองของอินเดีย

ตามการวิเคราะห์ของทางการ แต่ละปีมีแรงงานเกือบ 5 ล้านคนเข้าสู่ตลาดแรงงานในอินเดีย แม้จะมีโครงการสนับสนุนที่เชื่อมโยงกับการผลิตของรัฐบาลซึ่งคาดว่าจะสร้างงานได้ 6 ล้านตำแหน่งใน 5 ปี ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับตลาดแรงงานที่กำลังเติบโตของอินเดีย

ฮิมานชู รองศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยยาวาฮาร์ลาล เนห์รู กล่าวว่า “การว่างงานเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเศรษฐกิจอินเดียในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และมันไม่มีสัญญาณของการพัฒนาที่ดีขึ้นเลย”

ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของธนาคารโลก การเติบโตของการลงทุนในอินเดียลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากค่าเฉลี่ยรายปีที่ 10.5% ระหว่างปี 2000-2010 เหลือ 5.7% ระหว่างปี 2011-2021

รายงานระบุปัจจัยหลายประการที่ทำให้การเติบโตของการลงทุนลดลง ตั้งแต่ความกังวลเกี่ยวกับแหล่งจ่ายไฟและโครงสร้างพื้นฐานกลุ่มถนนและทางรถไฟ

นอกจากนี้ การล็อกดาวน์จากโควิด-19 ยังส่งผลให้แรงงาน 40 ล้านคนจากชนบทของอินเดียที่ทำงานในเมือง อพยพย้ายถิ่นครั้งใหญ่กลับไปยังหมู่บ้านของตน เมื่อตลาดงานฟื้นตัวหลังจากการระบาดลดลง ก็ส่งผลให้สัดส่วนแรงงานในฟาร์มเพิ่มขึ้น ในขณะที่สัดส่วนของงานภาคโรงงานการผลิตลดลง

‘มุนบิน’ สมาชิกวง ASTRO เสียชีวิตในวัย 25 ปี ต้นสังกัดยืนยัน แฟนคลับร่วมไว้อาลัยกับการจากไปกะทันหัน

(20 เม.ย.66) เกิดเหตุสลดใจสั่นสะเทือนวงการ K-Pop เมื่อ ‘มุนบิน’ (Moonbin) นักร้องวงบอยแบนด์ไอดอล ASTRO (อัสโตร) ที่มีวัยเพียง 25 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตที่บ้านพักของตัวเอง เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการปลิดชีพตัวเอง

เว็บไซต์ soompi รายงานว่าตำรวจสถานีกังนัม ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 19 เมษายนว่า ผู้จัดการของมุนบินพบว่าเขาเสียชีวิตที่บ้านพักในย่านกังนัมจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจแถลงว่า “ดูเหมือนมุนบินจะปลิดชีวิตตนเอง” โดยขณะนี้ทางตำรวจกำลังดำเนินการชันสูตรศพเพื่อระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

ในขณะที่ของค่ายเพลง Fantagio ต้นสังกัดของมุนบิน ได้แถลงข่าวยืนยันการเสียชีวิตของเขาแล้ว พร้อมขอร้องให้แฟน ๆ อย่าให้ความสนใจกับรายงานข่าวที่เป็นการคาดเดา และมีความประสงค์ร้ายซึ่งจะส่งผลกระทบต่อครับครัวของมุนบินที่กำลังเสียใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ทางค่ายยังแจ้งด้วยว่าครอบครัวของมุนบินประสงค์จะจัดพิธีศพเป็นการภายใน มีเพียงสมาชิกในครอบครัว และคนในบริษัทเข้าร่วมเท่านั้น

‘จีน’ เตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญมาไทย หลัง ‘หลินฮุ่ย’ เสียชีวิต เพื่อร่วมพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง

เมื่อวันที่ 19 เม.ย.66 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์แห่งประเทศจีน ยืนยันกรณีการตายของ ‘หลินฮุ่ย’ แพนด้ายักษ์เพศเมีย อายุ 21 ปี ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ของไทยเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (19 เม.ย.) ที่ผ่านมา

หลินฮุ่ยเกิดเมื่อเดือนกันยายน 2001 และถูกโยกย้ายมาอยู่ไทยเมื่อปี 2003 ภายใต้โครงการความร่วมมือจีน-ไทย ด้านการวิจัยเกี่ยวกับแพนด้ายักษ์ และอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ศูนย์ฯ ระบุว่าหลินฮุ่ยมีอาการโคม่าฉับพลันตั้งแต่คืนวันอังคาร (18 เม.ย.) โดยศูนย์ฯ ได้รับรายงานสถานการณ์จากสวนสัตว์ฯ ซึ่งพยายามดำเนินการรักษาอย่างเต็มที่ ทว่าหลินฮุ่ยตายลงตอนราว 02.00 น. ของวันพุธ (19 เม.ย.)

CATL เปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ช่วย EV วิ่งได้ 1,000 กม.ต่อ 1 ชาร์จ พร้อมวาดฝันจะนำไปใช้กับ ‘เครื่องบินไฟฟ้า’ ด้วย

Contemporary Amperex Technology บริษัทแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ของจีน หรือที่รู้จักในชื่อ CATL เปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ที่วาดฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งสามารถใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าให้กับเครื่องบินได้

(20 เม.ย.66) เพจ 'เดือดทะลักจุดแตก' เผย CATL ของจีน เปิดตัว 'แบตเตอรี่' อัดพลังงานแน่นสุดโลก:  2 เท่าของปัจจุบัน: 500 วัตต์-ชั่วโมง/กก.! ก้าวกระโดด จากใช้กับ EV สู่เครื่องบินได้!?

ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน แบตเตอรี่ รุ่น Qilin ของ CATL ความหนาแน่นพลังงาน 255 วัตต์-ชั่วโมง/กิโลกรัม เพียงพอทำให้รถยนต์ไฟฟ้า EV วิ่งได้ 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

สถานทูตฯ ให้คนไทยในซูดานลงทะเบียน เพื่อเตรียมอพยพและให้ความช่วยเหลือ

จากกรณีเกิดการสู้รบกันระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่กรุงคาร์ทูมของสาธารณรัฐซูดาน 

ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ขอให้คนไทยในซูดานลงทะเบียน เพื่อเตรียมอพยพและให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน

‘จีน’ เผย!! เที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชี้!! ‘ไทย’ ติดโผ 5 อันดับแรก เที่ยวบินไปจีนมากที่สุด

ปักกิ่ง, 20 เม.ย. (ซินหัว) — หนังสือพิมพ์ข้อมูลเศรษฐกิจรายวัน (Economic Information Daily) รายงานว่าเมื่อวันพุธ (19 เม.ย.) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) รายงานว่าเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2023 หลังจากที่สำนักงานฯ เริ่มรับเรื่องยื่นขอดำเนินการเที่ยวบินระหว่างประเทศอีกครั้งของสายการบินจีนหลายราย

สำนักงานฯ ระบุว่าช่วงเปลี่ยนฤดูระหว่างฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิของปี 2023 ได้ช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเที่ยวบินระหว่างประเทศให้รวดเร็วขึ้นอย่างมาก

ช่วง 10-16 เม.ย. เที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นจริงมีจำนวน 2,242 เที่ยว (ไป-กลับนับเป็น 1 เที่ยวบิน) แตะระดับร้อยละ 29.4 ของตัวเลขช่วงก่อนเกิดโรคระบาด และมีจุดหมายปลายทางใน 59 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 82 ของตัวเลขก่อนเกิดโรคระบาด

‘เวียดนาม’ โวย!! ‘จีน’ สั่งห้ามทำประมงฝ่ายเดียวในทะเลจีนใต้ ชี้ ละเมิดอธิปไตยประเทศ-ทวีความขัดแย้งในเขตน่านน้ำ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 66 ทางเวียดนามได้ออกมาคัดค้านคำสั่งฝ่ายเดียวของจีน ที่ห้ามการทำประมงในทะเลจีนใต้ โดยยืนยันว่า ‘เป็นการละเมิดอธิปไตยของเวียดนาม’ พร้อมกับเรียกร้องไม่ให้จีนทำให้สถานการณ์ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น

จีนออกคำสั่งห้ามทำประมงในทะเลจีนใต้มาตั้งแต่ปี 2542 โดยให้เหตุผลว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 16 สิงหาคม มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืนและปรับปรุงระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งเวียดนามก็ออกมาคัดค้านคำสั่งของจีนตลอดเวลาเช่นเดียวกัน

คำสั่งห้ามดังกล่าวครอบคลุมน่านน้ำ 12 องศาเหนือของเส้นศูนย์สูตร รวมถึงกินเข้าไปยังพื้นที่บางส่วนของเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีแซด) ในพื้นที่ 200 ไมล์ทะเลของเวียดนาม ทั้งยังรวมถึงหมู่เกาะพาราเซล ซึ่งเป็นดินแดนที่ทั้งจีนและเวียดนามต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top