Saturday, 17 May 2025
World

'จีน' เล็งใช้การพิมพ์ 3 มิติ สร้างอาคารบนดวงจันทร์ หวังยืดระยะเวลา 'อยู่-สำรวจ' ให้นานขึ้น

(24 เม.ย.66) สำนักข่าวซินหัว หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี รายงานว่าจีนวางแผนใช้โครงการสำรวจดวงจันทร์ของประเทศเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างอาคารบนดวงจันทร์โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ

หนังสือพิมพ์ฯ อ้างอิงอู๋เหว่ยเหริน นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำขององค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน ระบุว่ายานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ-8 (Chang’e-8) มีกำหนดทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบแร่ธาตุบนดวงจันทร์ในสถานที่จริง รวมถึงตรวจสอบความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างการพิมพ์ 3 มิติ บนพื้นผิวดวงจันทร์

“หากต้องการอยู่บนดวงจันทร์ในระยะยาว เราจำเป็นต้องสร้างสถานีโดยใช้วัสดุบนดวงจันทร์” อู๋กล่าว

ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยในประเทศหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยถงจี้ และมหาวิทยาลัยซีอันเจียวทง ได้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติบนดวงจันทร์แล้ว

อนึ่ง ยานฉางเอ๋อ-8 จะเป็นยานสำรวจดวงจันทร์ลำที่สาม ต่อจากยานฉางเอ๋อ-6 (Chang’e-6) และยานฉางเอ๋อ-7 (Chang’e-7) ที่จะลงจอดบนดวงจันทร์ในโครงการสำรวจดวงจันทร์ครั้งต่อไปของจีน

‘ไต้หวัน’ จับตา ‘กองเรือบรรทุกเครื่องบินจีน’ อย่างใกล้ชิด หลังกองทัพจีนประกาศซ้อมรบใกล้กับทางตอนใต้ของเกาะ

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมไต้หวันจับตาใกล้ชิดกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพจีน เคลื่อนไหวอยู่ห่างจากเกาะไต้หวันไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 120 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 220 กิโลเมตร

ความเคลื่อนไหวของกองทัพไต้หวันเกิดขึ้นหลังกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีเรือซานตง เรือบรรทุกเครื่องบินหนึ่งเดียวของจีน เป็นเรือธงแล่นผ่านช่องแคบบาชี (อยู่ระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์) ออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อเข้าร่วมภารกิจซ้อมรบ

โดยเรือซานตงของจีนแล่นผ่านช่องแคบดังกล่าวไปในช่วงเดียวกันกับการพบกันของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวัน กับนายเควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาคองเกรสคนใหม่จากพรรครีพับลิกัน ที่นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งต่อมา กองทัพจีนประกาศเปิดปฏิบัติการซ้อมรบในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังประธานาธิบดีไช่เดินทางกลับถึงเกาะไต้หวัน

แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า กองเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนยังคงอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อร่วมภารกิจซ้อมรบห่างจากแหลมเอ๋อหลวนปี๋ ซึ่งเป็นส่วนใต้สุดของเกาะไต้หวันไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 120 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 220 กม.

ทางการไต้หวันยืนยันว่า กองทัพไต้หวันจับตาความเคลื่อนไหวของกองเรือดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเตรียมการอย่างเหมาะสมแล้วเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ย้อนอดีตร่วม 10 ปี รายได้ครอบครัวเอเชียในสหรัฐฯ พบ!! แซงหน้าชาวมะกัน สะท้อนการศึกษาสำคัญ มีผลต่อรายได้

(25 เม.ย.66) เพจ 'หรรสาระ By Jeans Aroonrat) ได้โพสต์ข้อมูลจาก US Census Bureau ซึ่งกล่าวถึงค่าเฉลี่ยรายได้ต่อครัวเรือนของครอบครัวจากเชื้อชาติต่างๆ ที่เข้าไปตั้งรกรากในสหรัฐฯ ช่วงปี 2013-2015 โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจมากๆ ว่า...

ชาวเอเชียหลายชาติในสหรัฐฯ มีรายได้ต่อครัวเรือนสูงกว่า ค่าเฉลี่ยรวมที่ $56,000 มาก และยังสูงกว่าครอบครัวคนผิวขาวเสียอีก 

ส่วนชาวผิวดำ และลาตินยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยการศึกษาของครอบครัวชาวเอเชียก็สูงปรี๊ด ด้วยค่านิยมที่อยากให้ลูกหลานเรียนจบมหาวิทยาลัย ที่ให้มีค่าเฉลี่ยการศึกษาในระดับปริญญาตรีสูงกว่าชาวอเมริกันทั่วไป 2-3 เท่า

‘ด่านบกกานฉีเหมาตู’ รายงานการค้าปี 2023 ‘จีน – มองโกเลีย’ ยอดสินค้าพุ่ง 10 ล้านตัน ทะลุเป้าเร็วกว่าปี 2022 เกือบ 4 เดือน!!

(25 เม.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฮูฮอต รายงานว่า หน่วยงานบริหารด่านบกกานฉีเหมาตู ซึ่งเป็นด่านทางหลวงขนาดใหญ่ที่สุดบนพรมแดนจีนและมองโกเลีย รายงานปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศผ่านด่านบกกานฉีเหมาตู ในปีนี้ได้สูงเกิน 10 ล้านตันแล้ว

รายงานระบุว่าด่านบกกานฉีเหมาตู ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในทางตอนเหนือของจีน ได้จัดการสินค้าราว 10.02 ล้านตัน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 22 เม.ย.66 หรือคิดเฉลี่ยอยู่ที่ 112,600 ตันต่อวัน

ทั้งนี้ ด่านบกกานฉีเหมาตูเป็นด่านทางหลวงแห่งแรกของมองโกเลียใน ที่มีปริมาณการค้าสินค้าสูงถึง 10 ล้านตันในปี 2023 ซึ่งบรรลุเป้าหมายเร็วกว่าปี 2022 เกือบ 4 เดือน

ด่านบกกานฉีเหมาตูมุ่งมั่นเพิ่มประสิทธิภาพพิธีการศุลกากร ด้วยการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ขณะเป็นช่องทางนำเข้าพลังงานที่สำคัญของจีน และศูนย์กลางสำคัญของระเบียงเศรษฐกิจจีน – มองโกเลีย – รัสเซีย


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/353900_20230425

'แจ็ค หม่า' หวนคืนบทบาท 'ครู' อีกครั้ง ตั้งใจอุทิศตนเพื่องานสังคมในวัย 58

แม้จะเคยทำงานมาหลายอาชีพ ทั้งงานบริการ รับจ้างทั่วไป เป็นไกด์ท้องถิ่น กว่าจะก่อตั้งธุรกิจ E-Commerce ระดับหมื่นล้านได้สำเร็จ เป็นมหาเศรษฐีเบอร์ต้นๆ ของโลก แต่มีอยู่อาชีพหนึ่งที่ แจ็ค หม่า รักมาก และพูดถึงเสมอ นั่นก็คือการเป็น 'ครู'

หลังจากห่างหายจากบรรยากาศหน้าชั้น กระดานดำมาเนิ่นนาน วันนี้ แจ็ค หม่า ตอบรับงานสอนเต็มตัวอีกครั้ง ในฐานะศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ให้กับ University of Hong Kong (HKU) หนึ่งในสุดยอดมหาวิทยาลัยด้านบริหารธุรกิจติดอันดับโลก เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ทาง HKU เคยมอบเกียรติบัตรสังคมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตให้กับแจ็ค หม่า มาแล้ว เพื่อเป็นเกียรติกับเขาที่สร้างผลงานอันโดดเด่นในวงการธุรกิจ E-commerce ที่ช่วยขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจในระดับมหภาค แม้ว่าตัวแจ็ค หม่า จะไม่เคยเรียนสาขาเทคโนโลยี หรือ ไอที มาก่อนก็ตาม 

และนอกจาก HKU แล้ว แจ็ค หม่า ยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณทิตจากอีกหลายสถาบันทั่วโลก อาทิ Tel Aviv University ของอิสราเอล, National Taiwan Normal University หรือ De La Salle University ที่ฟิลิปปินส์ ฯลฯ 

หากรวมทั้งคุณวุฒิ และ ประสบการณ์ที่ผ่านมา อาจจะไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับ แจ็ค หม่า ที่จะหางานสอน หรือจัดอบรม เปิดเวทีสัมมนาด้านธุรกิจร่วมกับสถาบันการศึกษาที่ไหนสักแห่ง ขอเพียงแค่เขาเอ่ยปาก 

แต่ด้วยนโยบายการกวาดล้างธุรกิจ Fintech ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่กระทบกับแผนการนำ Ant Group เข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้แจ็ค หม่า ต้องลดบทบาทในฐานะผู้บริหาร Alibaba ลงตั้งแต่ปี 2020 และ งดออกสื่อนานเกือบ 3 ปี และเพิ่งมีข่าวว่าได้เดินทางกลับสู่ประเทศจีนแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมทีผ่านมา หลังจากที่เขาใช้เวลาเก็บตัวเงียบๆ ในต่างประเทศนานนับปี 

และทันทีที่แจ็ค หม่า ปรากฏตัวออกสื่อ ทางมหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกง ได้ส่งจดหมายเสนอตำแหน่งทางวิชาการ เชิญแจ็ค หม่า มาเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ทันที ซึ่ง แจ็ค หม่า ได้ตอบตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยเบื้องต้นจะรับงานในตำแหน่ง 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษาภาคฤดูใบไม้ผลิ 1 เมษายนปีนี้ จนถึงเดือนมีนาคม ปี 2026 ซึ่งเขาขอเน้นงานศึกษาวิจัยด้านการเงิน การเกษตร และ นวัตกรรมองค์กร แต่ยังไม่มีแผนว่าจะมีการจัดสัมมนา หรือกล่าวสุนทรพจน์ออกงานสาธารณะหรือไม่ 

โฆษกของสถาบัน HKU กล่าวต้อนรับการมาของศาสตราจารย์แจ็ค หม่า และเชื่อมั่นในประสบการณ์ ความรู้ลึก รู้จริง ในการพัฒนาธุรกิจด้านนวัตกรรม ที่โดดเด่น หาตัวจับยากของเขา อีกทั้ง บนหน้าเว็บไซท์ของ ภาควิชาบริหารธุรกิจของสถาบัน ได้ขึ้นรูปโปรไฟล์ของ แจ็ค หม่า ไว้แล้วในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและกลยุทธ์

สื่อต่างชาติฮือฮา!! หลัง ‘ปชป.’ ดัน ‘เซ็กซ์ทอย’ ถูกกฎหมาย ชี้!! ดึงเม็ดเงินใต้ดินสู่คลัง-ลดอาชญากรรม-ลดอัตราหย่าร้าง

สื่อหลายชาติฮือฮา ‘ปชป.’ ไอเดียกระฉูด ดัน ‘เซ็กซ์ทอย’ ถูกกฎหมาย


(25 เม.ย.66) กลายเป็นเรื่องฮือฮาระดับโลกไปแล้วกับไอเดียกระฉูดของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เสนอให้ ‘เซ็กซ์ทอย (Sex Toy)’ หรืออุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ เป็นสินค้าถูกกฎหมาย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดยเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก

สถานีโทรทัศน์ France24 ของฝรั่งเศส เสนอข่าว Good vibrations: Thai party makes sex toy election pledge ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคสายอนุรักษ์นิยมในไทย ชูประเด็นแก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อกเซ็กซ์ทอย โดยให้เหตุผลด้านการย้ายเม็ดเงินจากใต้ดินเข้าสู่ระบบการเงินการคลังของประเทศ สื่อฝรั่งเศสยังกล่าวด้วยว่า แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีเสรีภาพทางเพศมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แต่ประเทศไทยซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ปัจจุบันเซ็กซ์ทอยยังถือเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย

สื่อเมืองน้ำหอมอ้างคำกล่าวของ รัชดา ธนาดิเรก (Ratchada Thanadirek) กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2566 ว่า เซ็กซ์ทอยมีประโยชน์เพราะอาจนำไปสู่การลดลงของการค้าประเวณีและการหย่าร้างเนื่องจากความใคร่ทางเพศไม่ตรงกัน รวมถึงอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งขึ้นในทศวรรษ 1940s (ช่วงปี 2483-2492 โดยพรรคก่อตั้งในปี 2489) แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 พรรคประสบความล้มเหลว และกระแสนิยมก็ยังไม่ค่อยดีนักกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566

‘โจ ไบเดน’ หอบสังขารวัย 80 ชิงตำแหน่งปธน. สมัยที่ 2 เผย!! มีเป้าหมายอยากทำภารกิจที่ค้างคา ให้สำเร็จ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ วัย 80 ปี ประกาศวันนี้ว่า เขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งจะทำให้เขาเป็นผู้สมัครที่อายุมากที่สุดในประวัติสาสตร์การเมืองของสหรัฐ โดยเขาระบุว่า ต้องการจะทำภารกิจให้เสร็จสิ้น

(25 เม.ย.66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายไบเดน ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ พร้อมกับคลิปวิดีโอระบุถึงเจตนารมย์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย เป็นสมัยที่ 2 ทั้งนี้ก็เพื่อจะทำงานให้ลุล่วงเสร็จสิ้น โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในปี 2024 ในช่วง 2 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสหรัฐ ในการชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 นี้ นายไบเดนดูเหมือนจะไม่มีคู่แข่งในพรรคเดโมแครตเพื่อเป็นตัวแทนพรรค แต่ในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดี อาจจะเป็นนัดล้างตาเพราะอาจจะเจอกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เหมือนการเลือกตั้งในปี 2020 และนายไบเดน จะต้องโดนตรวจสอบอย่างหนักและโดนจี้จุดเกี่ยวกับเรื่องอายุของเขา

‘บริษัทสตาร์ทอัพจีน’ โชว์การทดสอบ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ที่สามารถขึ้นลงบันไดว่องไวเหมือนหมาจริง!!

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชวนชมการทดสอบ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ จากลิมเอ็กซ์ ไดนามิกส์ (LimX Dynamics) บริษัทสตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ ในนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งสามารถขึ้นลงบันไดอย่างว่องไวคล้ายสุนัขจริง

‘สายการบินออสฯ’ ตัดสินใจพาผู้โดยสาร 300 ชีวิต บินกลับ!! เมื่อห้องน้ำถึง 5 ห้องบนเครื่อง เกิดปัญหา ‘ส้วมตัน’

(26 เม.ย. 66) เวลาอยู่กลางอากาศ นอกจาก ‘ห้องผู้โดยสาร’ แล้ว ‘ห้องน้ำ’ หรือพูดตามภาษาชาวบ้านว่า ‘ส้วม’ ก็เป็นอีกหนึ่ง must have หรือ สิ่งจำเป็นต้องมีบนเครื่องบิน ยิ่งเที่ยวบินระยะทางไกลที่ต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานราว 8-9 ชั่วโมง ให้อดน้ำอดข้าวใคร ๆ ยังพอทนได้ แต่ถ้าจะให้อดทนนั่งกลั้นอึ กลั้นฉี่ มันทนไม่ไหวจริงๆ และไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องทนด้วย เหอๆๆ

แต่ล่าสุด มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้เกิดขึ้นบนสายการบินออสเตรีย เที่ยวบินจากกรุงเวียนนา ไปยัง นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ใช้เวลาเดินทางราว 8 ชั่วโมง เมื่อมีห้องน้ำบนเครื่องบินโบอิง 777 ถึง 5 ห้องในจำนวน 8 ห้องเกิดปัญหา ‘ส้วมตัน’ กดไม่ลง ทำให้กัปตันและลูกเรือ ตัดสินพาผู้โดยสารราว 300 ชีวิต 'บินกลับ' หลังจากออกเดินทางไปแล้ว 2 ชั่วโมง จากนั้นได้จัดการหาเที่ยวบินใหม่ให้ผู้โดยสารทั้งหมด เริ่มต้นออกเดินทางใหม่อีกครั้ง

คิดก่อนจรดปากกา 14 พฤษภา เลือกตั้งประเทศไทย  ผลลัพธ์ครั้งนี้ อาจเปลี่ยนบทบาทไทยต่อเมียนมาไปอีกนาน

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นกับเมืองไทยในวันที่ 14 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ อาจจะไม่ได้แค่ชี้ชะตาอนาคตของประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่อาจชี้ชะตาต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วย โดยเฉพาะเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ซึ่งเอย่ากล้าพูดเลยว่าการเลือกตั้งหนนี้มีผลชี้ชะตาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน

อย่างที่ใครๆ ก็เห็นว่าที่ผ่านมามีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามเป็นตัวตั้งตัวตีในการต่อต้านกองทัพเมียนมา ซึ่งแน่นอนหากพรรคการเมืองดังกล่าวได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจได้ว่าฝ่ายต่อต้านกองทัพเมียนมาจะต้องพยายามดึงรัฐบาลไทยเข้ามาอยู่ในเกมเพื่อคว่ำบาตรรัฐบาลเมียนมาอย่างแน่นอน โดยเอย่าขอแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วนคือ 'ภายในประเทศ' และ 'ระหว่างประเทศ'

*** ภายในประเทศ : จะเห็นได้ว่าท่าทีของพรรคการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยเหล่านั้น หากได้เป็นรัฐบาลคงเอื้อต่อกลุ่มนอกประเทศของตัวเอง โดยที่ผ่านมาฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย ก็ใช้ไทยเป็นศูนย์บัญชาการนอกประเทศมาตลอด แต่ไม่เปิดเผย

ดังนั้น หากรัฐบาลใหม่ขึ้นมา เอย่าเชื่อว่ากลุ่มนี้คงไม่ต้องปิดบังตัวเองอีกต่อไป และคงตั้งฐานปฏิบัติการในไทยอย่างเป็นกิจลักษณะได้เต็มที่ เพราะไทยพร้อมสรรพด้วย NGO ที่พร้อมเป็นแหล่งฟอกเงิน แหล่งจัดหาทุนและอาวุธ รวมถึงหน่วยรักษาพยาบาลที่ใช้คำอ้างสวยหรูว่าเปิดมาเพื่อมนุษยธรรมแต่เบื้องหลังคือรักษาผู้บาดเจ็บจากการรบฝั่งเมียนมา

ต่อมาในประเด็นสังคมหากรัฐบาลไทยเปิดรับผู้ลี้ภัยเต็มที่ให้โอกาสเช่นเดียวกับที่เยอรมนีให้แก่ผู้อพยพชาวซีเรียก็คงไปดูว่า สถิติอาชญากรรมที่พุ่งพรวดขึ้นในเยอรมนีจนถึงขั้นที่คนเยอรมนีรับไม่ได้ แต่คนไทยอาจจะรับได้ก็เป็นได้ ตามคำที่ติดปากคนไทย ว่า “คนไทยลืมง่าย”

***ในด้านระหว่างประเทศ : เชื่อได้ว่าไทยและเมียนมาอาจจะลดความสัมพันธ์ลง และทำให้คนไทยเดินทางเข้าเมียนมายากขึ้นก็เป็นได้ เช่นเมียนมาอาจจะให้คนไทยต้องทำวีซ่าเหมือนเดิมเวลาเข้าเมียนมาก็เป็นได้

ในด้านเศรษฐกิจ หากไทยสนับสนุนการรบจนกะเหรี่ยงชนะและประกาศแยกการปกครองได้ ไทยเราหากจะส่งออกสินค้าไปขายเมียนมาหรือนำเข้าเมียนมาผ่านด่านแม่สอดต้องเสียภาษี 2 ต่อ คงต้องตั้งคำถามตัวโตๆว่า “ไทยได้อะไรจากสิ่งนี้”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top