จับตา 'ไช่อิงเหวิน' สตรีผู้อาจพา 'ไต้หวัน' เป็นยูเครน 2 หลังตามซบลุงแซมเป็นซีรีส์ เย้ย 'สีจิ้นผิง' จนกัดกราม

ดูทรงแล้วประธานาธิบดีหญิงแห่งไต้หวัน ไม่หวั่นอาเฮียแผ่นดินใหญ่ เพราะหันไปซบอกเหี่ยวๆ ของลุงแซมเต็มที่ 

นางเคยให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันว่า ถึงจีนแผ่นดินใหญ่จะย้ำแล้วย้ำอีก ว่าจะรวมชาติไต้หวันด้วยสันติวิธี แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าอาเฮียจะเปรี้ยวตีนขึ้นมาถึงขั้นหักหาญด้วยกำลัง ไต้หวันเลยพุ่งไปขอความช่วยเหลือจากอเมริกา แถมบอกต่อด้วยว่าไต้หวันจะไม่รีรอที่จะมองหาความช่วยเหลือจากตะวันตก แบบเดียวกับเคียฟ หากว่ามีขัดแย้งปะทุขึ้น 

คือ...น่าจะอยากเป็นยูเครน 2 ว่าซั่น!!

ตอนนั้นอังเคิลแซมฟังแล้วรีบเบ่งกล้ามอวดโลก พลางยืดอกเหี่ยวๆ โชว์ซิกแพ็กที่ไม่ค่อยมี เพราะฉุบวมทั้งน้ำอัดลมและเบียร์ เด้งรับคำอวยของไต้หวันทันที พลางป้อนยาหอมเพียบ แถมเจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งกองทัพสหรัฐฯ รับปากสนับสนุนด้านการทหารแก่ไต้หวัน

พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ย้ำว่าอเมริกามีพันธสัญญาผ่านกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน แถมประธานาธิบดีไบเดนเคยบอกหลายวาระเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า อเมริกาจะเดินหน้าให้การสนับสนุนด้านการทหารและจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ไต้หวัน

ความขุ่นเคืองของสองจีนประทุขึ้นจนถึงจุดเดือด เมื่อป้าแนนซี่ เพโลซี่ปากแจ๋วไปไต้หวัน อาเฮียสีที่นั่งเจี๊ยะเต้อยู่บนเหล่าเต๊งถึงกับสั่งเลี๊ยะพะ ด้วยการซ้อมรบด้วยอาวุธจริงรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ป้าแนนซี่เห็นท่าไม่ดี กลัวออกจากเกาะไม่ได้เลยเผ่นไปก่อน ไม่ได้อยู่นาน แต่เหมือนกวนติงกันเห็นๆ คณะตัวแทนจากอเมริกาคณะนั้นคณะนี้แห่แหนไปไต้หวันรัวๆ เล่นเอาเฮียสีขบกรามกรอดๆ 

เท่านั้นยังไม่พอ 'ไช่ อิงเหวิน' เดินสายไปเยือนประเทศแถบละตินอเมริกา นางไม่แคร์ใดๆ ทั้งที่จีนแผ่นดินใหญ่ทั้งปลอบทั้งขู่ แต่หนูก็จะไป โดยมีเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อ้าแขนรอรับอยู่ในแคลิฟอร์เนีย   

พญามังกรหนวดกระดิก ขู่ฟ่อทันทีว่า ลื้อทำตัวแบบนี้ เดี๋ยวเจอจัดหนักจากอั๊วแน่นอน ฆ่าได้หยามไม่ได้ ทำนองนั้น แล้วเฮียสีสั่งซ้อมรบรัวๆ ล้อมเกาะไต้หวันอีกรอบ ซึ่งอเมริกาก็แล่นเรือไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่แถวไต้หวันทันทีที่จีนแผ่นดินใหญ่ซ้อมเสร็จ 

กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันปี 1979 กำหนดให้สหรัฐฯ รับประกันกับเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ในด้านทรัพยากรต่างๆ สำหรับปกป้องตนเอง และปกป้องการเปลี่ยนแปลงสถานะแต่เพียงฝ่ายเดียวของปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ มอบการปกป้องด้านการทหารแก่เกาะแห่งนี้

ระหว่างการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนตุลาคม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่าปักกิ่งจะทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายรวมชาติกับไต้หวันอย่างสันติ แต่สงวนสิทธิใช้กำลังแก้ไขปัญหาถ้ามีความจำเป็น...แปลแบบชาวบ้านว่า ทางจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่หักหาญน้ำใจ คือจะไม่ปล้ำด้วยกำลัง จะค่อยๆ โอ้โลมจนกว่าไต้หวันจะใจอ่อน หากไม่ยอมขึ้นมา ก็จำเป็นต้องฟาดกันแรงๆ 

ที่สำคัญเฮียสีบอกตรงๆ ว่า จะต้องให้กองทัพจีนเป็นเจ้าโลกทางการทหารด้วยการชนะทุกสมรภูมิให้ได้ (อเมริกาเองมองว่าจีนต้องการบรรลุเป้าหมายเป็นเจ้าโลกในด้านการทหารในอีกราวๆ 50 ปีข้างหน้า และเป็นเจ้าในระดับภูมิภาคภายในปี 2027)

ไต้หวันปกครองตนเองมาตั้งแต่กองกำลังชาตินิยมที่นำโดย เจียง ไคเช็ก หลบหนีไปยังเกาะแห่งนี้ในปี 1949 หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่คอมมิวนิสต์ กลายเป็นหนามยอกอกตำใจจีนแผ่นดินใหญ่นับแต่นั้นมา เพราะจีนแผ่นดินใหญ่วางนโยบาย 'จีนเดียว' เพราะฉะนั้นการรวมชาติเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  

ในสมุดปกขาวที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคมเน้นย้ำว่าปักกิ่งมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายรวมชาติอย่างสันติ แต่เมื่อกองทัพจีนใหญ่โตมโหฬารกว่าไต้หวันหลายเท่า  ประธานาธิบดีไช่ จึงเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมถึง 13% และจะทุ่มงบประมาณ 19,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านการทหารในปี 2023 แล้วขู่อาเฮียแผ่นดินใหญ่ฟ่อๆ ว่า ถ้าอยากรุกรานไต้หวัน ก็ต้องจ่ายแพงอย่างแน่นอน

งานนี้ลุงแซมยิ้มร่า เพราะขายอาวุธได้เพียบ ไต้หวันเป็นลูกค้าซื้ออาวุธรายใหญ่อีกรายของอเมริกา แต่กระนั้นไต้หวันก็ยังไม่พอใจ เริ่มเรียกร้องให้ตะวันตกมอบเงินทุนสนับสนุนกองทัพไต้หวัน อย่างที่กำลังสนับสนุนยูเครนอยู่ตอนนี้

ล่าสุดไต้หวันสั่งซื้ออาวุธลอตใหญ่จากอเมริกา โดยจะซื้อ 'ฮาร์พูน' ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นของอเมริกาสูงสุด 400 ลูก แบบนี้ลุงแซมก็ยิ้มร่าเลยนะเนี่ย เพราะออเดอร์เข้าเพียบ ไต้หวันกลายเป็นลูกค้าซื้ออาวุธรายใหญ่ของอเมริกาไปในที่สุด

ถามตรงๆ ว่าคิดดีแล้วเหรอที่จะไปพึ่งพิงอเมริกา เพราะเอาเข้าจริง ไอ้ลุงแซมนี่แหละตัวเบี้ยวเลย ต่อให้สัญญาเป็นมั่นเหมาะขนาดไหน หากชาติตัวเองต้องเสียประโยชน์ ลุงแซมสามารถกลับลำได้หน้าตาเฉย และไม่ใช่หนเดียวด้วยที่ทำแบบนี้ แต่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประวัติศาสตร์


เรื่อง: เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้