Wednesday, 14 May 2025
World

โลกพบสัญญาณ 'แสง' จากต่างกาแล็กซี เดินทางมาไกลที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

กล้องโทรทรรศน์วิทยุ GMRT ของอินเดีย ตรวจพบสัญญาณของแสงจากอะตอมไฮโดรเจน ซึ่งใช้เวลาเดินทางมากับคลื่นวิทยุจากแหล่งกำเนิดในห้วงอวกาศลึกอย่างยาวนาน 8,800 ล้านปี ก่อนจะมาถึงโลก

สัญญาณของแสงดังกล่าว สามารถบ่งบอกถึงสภาพของห้วงจักรวาลในอดีตขณะที่ยังมีอายุน้อยราว 5,000 ล้านปี นับว่าเป็นหลักฐานทางดาราศาสตร์ชิ้นที่เดินทางมาไกลที่สุด เท่าที่เคยมีการค้นพบและศึกษากันมาในประเภทของอะตอมไฮโดรเจน ทั้งยังมีความเก่าแก่ใกล้เคียงกับจุดกำเนิดของเอกภพหรือเหตุการณ์บิ๊กแบงอย่างมากด้วย

สัญญาณดังกล่าวมาจากกาแล็กซี SDSSJ0826+5630 ที่มีการก่อตัวของดาวฤกษ์อย่างหนาแน่น กาแล็กซีแห่งนี้ได้ส่งสัญญาณวิทยุออกมาหลายแบบ รวมถึงสัญญาณวิทยุจากอะตอมไฮโดรเจนไม่มีประจุไฟฟ้า ซึ่งมีลักษณะเป็นคลื่นแสง

คลื่นแสงดังกล่าวมีความยาวคลื่นมากเป็นพิเศษถึง 21 เซนติเมตร และยังยืดออกเป็น 48 เซนติเมตรเมื่อเดินทางมาถึงโลก เนื่องจากเกิดปรากฏการณ์ที่แสงจะเลื่อนไปทางสีแดง (redshift) จนมีความยาวคลื่นมากขึ้นและมีพลังงานลดลง หลังเดินทางห่างออกไปจากแหล่งกำเนิด

ทั้งนี้ได้มีการใช้เทคนิคเลนส์ความโน้มถ่วง (Gravitational Lensing) ขยายสัญญาณแสงพลังงานต่ำที่ตรวจจับได้ยากให้ปรากฏชัดเจนขึ้น โดยแรงโน้มถ่วงของกาแล็กซีมวลมากอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างโลกกับแหล่งกำเนิดสัญญาณแสง จะทำให้สัญญาณแสงบิดโค้งและดูเหมือนขยายตัวขึ้น เหมือนมองภาพผ่านเลนส์ของแว่นขยาย 

กล้องโทรทรรศน์วิทยุ GMRT ถือว่ามีความไวสูงสุดของโลกในการรับคลื่นวิทยุจากห้วงอวกาศที่ย่านความถี่ 30-1500 เมกะเฮิร์ตซ์ ผลงานตรวจจับสัญญาณแสงจากอะตอมไฮโดรเจนซึ่งเดินทางมายาวนานที่สุดครั้งนี้ ทำลายสถิติเดิมที่โครงการสำรวจอวกาศ CHILES ตรวจพบและบันทึกไว้ได้ที่ 4,400 ล้านปี

'ชาวสเปน' รวมตัวขับไล่ 'รัฐบาลซานเชซ' กลางกรุงมาดริด หลังไม่พอใจ 'กม.แบ่งแยกดินแดน - ลดโทษคดีทางเพศ'

เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.66) เอเอฟพีรายงานว่า ประชาชนจำนวนหลายพันคนในกรุงมาดริด ออกมารวมตัวเดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ

ผู้เข้าร่วมชุมนุมต่างโบกธงชาติสเปน พร้อมตะโกนร้องขับไล่ให้ซานเชซลาออกจากตำแหน่ง บางคนชูป้ายที่มีรูปถ่ายของนายกรัฐมนตรีที่มีข้อความเรียกเขาว่า 'คนทรยศ'

จากการประเมินของทางการมาดริด กลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนประมาณ 30,000 คนและรวมตัวกันที่จัตุรัสซิเบเลสในเมืองหลวงของสเปน แต่แกนนำในการจัดตั้งการชุมนุมกล่าวว่ามีผู้คนมารวมตัวกันมากกว่า 700,000 คน

การประท้วงถูกจัดตั้งโดยกลุ่มประชาสังคมฝ่ายขวาหลายสิบกลุ่ม และได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านอนุรักษนิยม

หนุ่มจีนโพสต์เจอ ‘หมึกบลูริง’ เสิร์ฟในร้านหม้อไฟ ชาวเน็ตคอมเมนต์เตือน ‘ห้ามกิน - พิษร้ายแรงถึงตาย’

เมื่อไม่นานมานี้ ชาวเน็ตคนหนึ่งได้โพสต์ภาพหมึกขนาดเล็กหลายตัวที่ถูกวางไว้บนน้ำแข็ง ลงบนเวยปั๋ว (Weibo) พร้อมแท็กหาแอ็กเคานต์นิตยสารที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต (National History) ซึ่งเป็นนิตยสารที่เผยแพร่โดยไชน่า เนชั่นแนล จีโอกราฟิก (China National Geographic) เพื่อสอบถามเกี่ยวกับหมึกที่เขาพบในร้านหม้อไฟ จนกลายเป็นที่พูดถึงของชาวเน็ต

“...เจอในร้านหม้อไฟ นี่ใช่หมึกบลูริงไหม? เอาใส่หม้อได้หรือเปล่า? กำลังออนไลน์อยู่ ด่วนหน่อย” โพสต์ข้อความที่ชาวเน็ตคนดังกล่าวแท็กหานิตยสารเพื่อสอบถาม พร้อมกับรูปหมึกซึ่งหนึ่งในนั้นมีหมึกที่มีลวดลายเป็นวง ๆ สีน้ำเงินทั่วตัวไปจนถึงหนวด

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตหลายคนที่เห็นโพสต์ดังกล่าวได้รีบเข้ามาคอมเมนต์ ห้ามเจ้าของโพสต์กินหมึกตัวดังกล่าว เช่น “ห้ามกินเด็ดขาด” “ในการจัดสิบอันดับสัตว์ที่มีพิษมากที่สุดในโลก หมึกบลูริงอยู่อันดับสาม!”

‘กัมพูชา’ ไม่สน IFMA แบน ‘กุน ขแมร์’ โต้กลับไม่ส่ง ‘มวยไทย’ ชิงชัยซีเกมส์ที่ไทย

จากกรณีที่ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพซีเกมส์ 2023 ตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อการแข่งขันกีฬา ‘มวย’ (มวยไทย) เป็น ‘กุน ขแมร์’ โดยอ้างว่าเป็นกีฬาที่เป็นต้นแบบของ ‘มวยไทย’ ใช้สำหรับการแข่งขันครั้งนี้

ก่อนที่สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ยืนยันว่าประเทศไทย จะไม่ส่งนักกีฬามวยไทยร่วมการแข่งขันซีเกมส์ 2023 พร้อมกับออกปากเตือนว่าชาติใดที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 'กุน ขแมร์' ในมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียนครั้งนี้ อาจโดนแบนจากสมาพันธ์มวยไทยนานาชาติในรายการอื่น ๆ ด้วย 

อย่างไรก็ตามล่าสุด วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกกัมพูชา หรือ CAMSOC ออกมาตอบโต้ทันควันว่า...

“แม้ว่าสหพันธ์กีฬาไทยจะมีปัญหากับการตัดสินใจของเราและขู่ว่าจะคว่ำบาตร แต่ ‘กุน ขแมร์’ ก็จะยังคงเป็นรายการในซีเกมส์ครั้งที่ 32 ตามกฎแล้ว หากมีประเทศที่เข้าร่วมตั้งแต่ 4 ประเทศขึ้นไป จะมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน จนถึงขณะนี้ อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ลาว, เมียนมา และ มาเลเซีย กำลังเตรียมส่งนักกีฬาเข้าร่วม ดังนั้นเราไม่สนว่าจะมีชาติใดชาติหนึ่งตัดสินใจไม่เข้าร่วม”

อดีตนักมวยทีมชาติไทย แสดงตัวเป็นคนในภาพ หลังถูกแอบอ้างเป็นศิลปะการต่อสู้ ‘BOKATOR’

ภายหลังกลายเป็นวิวาทะระดับประเทศ เมื่อประเทศกัมพูชา ที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ 2023 ประกาศว่า ไม่มีการแข่งขันกีฬา ‘มวย’ (มวยไทย) ตามที่เคยจัดกันมา แต่เปลี่ยนเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของตน ชื่อ ‘กุน ขแมร์’ พร้อมกับระบุว่า ชาติสมาชิกสหพันธ์ซีเกมส์ ยินดีส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครบ 4 ชาติ ตามกติกาของการแข่งขันซีเกมส์ทุกประการ

อีกทั้งยังไม่สนใจคำประกาศของสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ที่ประกาศแบนชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ และมีคำยืนยันว่า ประเทศไทย จะไม่ส่งนักกีฬามวยไทยเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ 2023

ก่อนที่ วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งกัมพูชา จะระบุว่า ไม่สนใจที่จะโดนแบนจากองค์กรมวยจากประเทศไทย และพร้อมจะตอบโต้ด้วยการไม่ส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขัน ‘มวยไทย’ ในซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเช่นกัน

ขณะที่ในโลกออนไลน์ แฟนกีฬาชาวกัมพูชา มีการนำภาพตัดต่อการต่อสู้ที่อ้างว่าเป็นการต่อสู้ BOKATOR ศิลปะการต่อสู้โบราณของชาติตน ก่อนโดนแหกว่าภาพดังกล่าวดั้งเดิมเป็นการต่อสู้ของ ‘มวยไทย’

'ยูเนสโก' เตรียมจด 'ประเพณีสงกรานต์' เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชิ้นที่ 4 ของไทย

ยูเนสโกเตรียมพิจารณาขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์’ เป็น ‘มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม’ ชิ้นที่ 4 ของประเทศไทย ต่อจาก ‘โขน’ ‘นวดไทย’ และ ‘รำโนราห์’

องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้นำ ‘ประเพณีสงกรานต์’ (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น เพื่อพิจารณาในที่ประชุม ให้เป็น ‘มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม’ ชิ้นที่ 4 ของประเทศไทย ต่อจาก โขน นวดไทย และรำโนราห์

ทั้งนี้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage - ICH) ไม่ใช่มรดกโลก (World Heritage site) แต่เทียบเท่า ‘มรดกโลก’ เนื่องจากองค์การ UNESCO ได้ระบุไว้ว่า ‘มรดกโลก’ ใช้เรียกเฉพาะสถานที่เท่านั้น เช่น แหล่งโบราณคดี, อุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

ชี้เป็น ชี้ตาย!! เมื่อการกราดยิงเป็นเรื่องปกติในสังคมอเมริกา ไม่เกี่ยวกับ ‘ผู้ป่วยทางจิต’ และ ‘เด็กติดเกม’

หลายหนที่เจอคำถามว่าทำไมคนอเมริกันถึงบ้าคลั่งสาดกระสุนฆ่าคนบริสุทธิ์ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในที่สาธารณะบ่อยๆ จนคล้ายกับว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมอเมริกัน ทำให้เพื่อนหลายคนในเมืองไทยถามว่า ทำไมจึงมักเกิดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ขึ้นในประเทศที่ ‘ว่ากันว่า’ เจริญแล้ว

นิยามของการการกราดยิงของหน่วยงานอย่าง ‘เอฟบีไอกัน’ คือต้องมีผู้ถูกยิงในเหตุการณ์เดียวกัน 4 คนขึ้นไป รวมถึงตัวผู้ก่อเหตุได้ด้วย สามารถก่อการได้ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป แต่ส่วนมากมักพบว่ากระทำการเพียงลำพัง

คนส่วนมากมักคิดว่า มือปืน มีอาการป่วยทางจิต แต่จากงานศึกษาของมหาวิทยาลัยโคลอมเบียพบว่า มือปืนผู้ก่อเหตุนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาป่วยทางจิต 

งั้นการเล่นเกมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงล่ะเป็นมูลเหตุนำไปสู่การกราดยิงด้วยหรือเปล่า? 

จากงานสำรวจของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียพบว่า ไม่มีความสัมพันธ์ใดเลยระหว่างเกมและเหตุการณ์กราดยิง 

สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า อเมริกาเป็นประเทศที่เกิดเหตุกราดยิงเพื่อสังหารหมู่เป็นจำนวนมากครั้งที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของเหตุกราดยิงทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลก 

ไม่แปลกหรอก!! เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่มีจำนวนอาวุธปืนหมุนเวียนในตลาดมากที่สุดในโลก อยู่ที่ประมาณ 270-310 ล้านกระบอก เทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศอยู่ที่ราว 319 ล้านคน ซึ่งหมายความว่าชาวอเมริกันแทบทุกคนมีปืนเป็นของตัวเองอย่างน้อยคนละ 1 กระบอก

หลังเหตุการณ์กราดยิงในที่สาธารณะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนอเมริกันเลยหันมาถกเถียงอย่างดุเดือดว่า ควรออกกฎหมายจำกัดสิทธิในการพกปืนหรือไม่ เพราะการมีปืนไว้ครอบครองนั้นง่ายมาก ทุกคนเลยอยากซื้อปืนโดยอ้างว่ามีไว้ป้องกันตัว แต่ไม่มีใครย้อนคิดถึงสาเหตุของการมีปืนไว้ประจำบ้านว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน

ด้านฝ่ายที่ไม่อยากให้ควบคุมอาวุธปืน ก็ชักแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายว่า...อเมริกาเป็นประเทศที่ก่อร่างตั้งตัวด้วยการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ตั้งแต่ใช้ปืนไล่ยิงอินเดียนแดง เพื่อแย่งแผ่นดิน มาจนถึงการลุกขึ้นไล่ชาวยุโรปชาติอื่นที่มาตั้งอาณานิคมบนแผ่นดินใหม่ออกไป แล้วหันไปรบกับชาวอังกฤษจากแผ่นดินแม่ ดังนั้นปืนคือ สิ่งจำเป็นตั้งแต่ในยุคเริ่มบุกเบิก

การให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ใช้ป้องกันตนเอง ถูกตราไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของปวงประชามะริกัน ฝ่ายที่สนับสนุนการมีปืนในครอบครองอ้างว่าการครอบครองอาวุธปืนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา แถมแย้งว่าหากมีการออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนจะยิ่งทำให้ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่สามารถปกป้องตัวเองจากภัยคุกคามต่าง ๆ ได้ จากนั้นก็ยกสโลแกนเก๋ ๆ ขึ้นมาตบท้ายว่า…

“Gun does not commit crime, people do !” 
“ปืนไม่เคยก่ออาชญากรรม...แต่คนต่างหากที่ทำ !

ส่วนฝ่ายที่อยากให้มีการควบคุมอาวุธปืน ก็ลุกมาโต้แย้งแสดงเหตุผลนานาประการเช่นกัน ว่าจำเป็นต้องมีกฎหมายที่เข้มงวดกว่านี้ในการครอบครองปืน เพื่อลดความเสี่ยงที่เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก 

ดาราไต้หวันเที่ยวไทย อ้าง!! ถูกตำรวจไทย 'ค้น-กักตัว' พร้อมรีดไถเงินกว่า 20,000 บาท ถึงจะยอมปล่อยตัว

จากเพจ 'หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว' ได้โพสต์เรื่องราวของ ดาราชาวไต้หวันเที่ยวไทย ซึ่งอ้างว่าถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า 20,000 ถึงยอมปล่อยตัว ว่า...

พอดีมีลูกเพจส่งข่าวมาให้ ขอให้ช่วยแปลข่าวนี้ พอไปเช็กหลายเว็บไซต์ข่าวในไต้หวัน คือ หลายสื่อได้ลงจริงค่ะ 

ดารานักแสดงชาวไต้หวันคนนี้ชื่อว่า 安于晴 อันหยูชิง หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Charlene An ซึ่งเธอได้โพสต์ลงอินสตราแกรมจนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวันเมื่อช่วงต้นมกราคมที่ผ่านมา

เธอได้โพสต์ว่า “เมื่อช่วงวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ขณะที่นั่งรถแท็กซี่กับเพื่อน ๆ กลับโรงแรม ระหว่างทางช่วงราว ตี 1 กว่า ๆ กลับถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุดและขอค้นตัว ค้นกระเป๋า โดยมีการมาจับค้นที่กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสตางค์ 

มีการถามถึงเรื่องวีซ่า เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดูเเละบอกว่าได้ของวีซ่า VOA เข้ามา (VOA คือวีซ่าที่ขอที่สนามบินเมื่อมาถึงไทยเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) 

แต่เเล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจค้นเธอกลับบอกว่า ไม่ยอมรับวีซ่า VOA  ต้องใช้เป็นวีซ่าจริง ๆ ที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น คือยังไงก็จะพยายามหาข้อหายัดใส่เธอให้ได้

คนในกลุ่มเธอได้มีการอัดคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน และเพื่อป้องกันตัว แต่ถูกเจ้าหน้าบอกให้ลบคลิป ยื้อไปมาเจรจาตกลงกัน เธอเล่าต่อว่าเขาจะพาไปสถานีตำรวจเธอก็บอกไปก็ไป (แต่ก็ไม่ได้พาเธอไป) 

เธอยืนจนเมื่อยจนนั่งยองกับพื้นก็บอกให้เธอลุก ทำเสียงดุดันใส่เธอ บังคับให้เธอพูดขอโทษ (ทั้งที่เธอไม่ผิดอะไร) เธอก็ยอมทำทุกอย่าง เธอแทบอ้อนวอนให้ปล่อยเธอไปเพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอกลัวมาก เธอบอกว่าตอนนั้นราวกลับในหนังพวกเมซิกันที่จับค้นค้ายาอะไรแบบนั้นเลย แต่เธอไม่ใช่ เธอนักท่องเที่ยว!!  ทำแทบทุกอย่างแต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอ จนเธองงว่าเธอทำผิดอะไร

เธออ้อนวอนเจรจาอยู่นาน แทบจะกราบ เธอบอกพยายามพูดภาษาไทยนิด ๆ พูดว่าขอโทษ ขอร้อง เเต่ไม่เป็นผล เธอทำทุกอย่าง เหลือเพียงแต่คุกเข่าไหว้แค่นั้น สุดท้ายยื้ออยู่ราว 2 ชั่วโมง และได้พาเธอไปที่ลับตาคน โดยมีการหลบกล้อง cctv หน้าสถานทูตจีน (จากที่เธอบอกต่อสื่อ) เเล้วบอกว่า “ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย!!” ทางดาราสาวบอกว่า คือ ง่าย ๆ จะเอาเงินนั่นแหละ เธอเลยถึงบางอ้อ 

สุดท้ายพอเธอยอมจ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกเเท็กซี่ให้พวกเธอกลับโรงแรม เธอยังเล่าต่อว่า ข้างๆเธอยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เป็นผู้หญิง 5 คน โดนอย่างเธอ ไม่แน่ใจว่า กลุ่มที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เธอเรียกพวกนี้ว่า 黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง หมายถึง ตำรวจเลว) คือ จ้องจะจับแต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวเอเชียหรือไม่?!

Netflix เอาจริง!! ลุยเก็บค่าบริการเพิ่ม จากบัญชีที่แชร์รหัสผ่านภายในมีนาคมนี้

Netflix แจ้งผู้ถือหุ้นว่า ภายในไตรมาสแรกนี้จะเก็บเงินเพิ่มจากบัญชีที่แชร์รหัสผ่านนอกบ้านในหลายประเทศมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้เริ่มไปแล้วในบางประเทศ อย่างคอสตาริกา ชิลี และเปรู ซึ่งเก็บเพิ่ม 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100 บาท  

(26 ม.ค.66) สำนักข่าว Insider รายงานว่า ภายในสิ้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ Netflix (เน็ตฟลิกซ์) ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลกจะเริ่มเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากผู้ใช้บริการที่แชร์รหัสผ่านกันในวงกว้างมากขึ้น เป็นการสิ้นสุดการแชร์รหัสผ่านของผู้ใช้บริการที่อยู่อาศัยอยู่คนละบ้าน 

Netflix บอกเป็นนัยถึงการปราบปรามการแชร์รหัสผ่านเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2565 หลังจากสูญเสียสมาชิกครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษจำนวน 200,000 ราย ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 

ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2566 Netflix กล่าวโดยคาดว่าจะ “เปิดตัวการแชร์รหัสผ่านแบบชำระเงินในวงกว้างมากขึ้น” ในไตรมาสแรกนี้ ซึ่งหมายความว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคม ผู้ใช้บริการในหลายประเทศ หรือทุกประเทศอาจไม่สามารถให้รหัสผ่านภายใต้การใช้บริการแพ็กเกจเดิมได้อีกแล้ว

Netflix กล่าวว่าการแชร์รหัสผ่าน Netflix เกิดขึ้นในกว่า 100 ล้านครัวเรือน ซึ่ง “บั่นทอนความสามารถในระยะยาวของเราในการลงทุนและปรับปรุง Netflix” และเสริมว่า ในขณะที่ข้อกำหนดในการใช้งานจำกัดการใช้บัญชีสำหรับครัวเรือนเดียว “เราตระหนักดีว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงสำหรับสมาชิกที่ใช้บัญชีร่วมกันในวงกว้างมากขึ้น”

“ตามที่เราเปิดตัวการแชร์รหัสผ่านแบบชำระเงิน สมาชิกในหลายประเทศจะมีตัวเลือกในการจ่ายเพิ่มหากต้องการแชร์รหัสผ่านบัญชี Netflix กับคนที่ไม่ได้อาศัยในบ้านเดียวกัน” จดหมายของผู้ถือหุ้นระบุ

ภายใต้ข้อกำหนดใหม่ของ Netflix สมาชิกจะสามารถถ่ายโอนโปรไฟล์ผู้ใช้ไปยังบัญชีใหม่ได้ 

ณ ตอนนี้ Netflix มีการทดลองใช้การแชร์รหัสผ่านแบบชำระเงินแล้วในคอสตาริกา ชิลี และเปรู ซึ่งเก็บเพิ่ม 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเพิ่มบัญชีสมาชิกที่อาศัยอยู่นอกครัวเรือน 

จดหมายผู้ถือหุ้นกล่าวว่า ผู้ใช้ชาวละตินอเมริกาบางคนยกเลิกการสมัครสมาชิก เป็นผลมาจากมีการคิดค่าบริการการแชร์รหัสผ่าน และ Netflix คาดว่า ผู้ใช้บริการจะลดลงในระยะสั้น แต่เมื่อผู้ที่ยืมบัญชีผู้อื่นเริ่มสมัครเข้าเป็นสมาชิกเอง รายได้โดยรวมของบริษัทควรจะดีขึ้น 

นักวิจัยอิสราเอล เผยประโยชน์ ‘ฝังเข็มจีน’ ช่วยลดเจ็บปวด-กังวล ระหว่างผ่าตัดมะเร็ง

เมื่อวานนี้ (25 ม.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คลาลิท (Clalit) องค์กรด้านสาธารณสุขขนาดใหญ่สุดของอิสราเอล เปิดเผยว่าคณะนักวิจัยอิสราเอลพบว่าการฝังเข็มแบบจีนช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและความวิตกกังวลระหว่างการผ่าตัดมะเร็งวิทยานรีเวช (gynecological oncological)

การศึกษาใหม่นี้ถูกตีพิมพ์ลงบทวารสารสหวิทยาการโรคมะเร็งในสหรัฐฯ โดยคณะนักวิจัยของคลาลิทพบว่าการฝังเข็มแบบจีนระหว่างการผ่าตัดช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและความวิตกกังวลในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งทางนรีเวช อาทิ มะเร็งรังไข่และมะเร็งมดลูก

การศึกษาได้ตรวจสอบผลของวิธีการรักษาแบบเฉพาะทางซึ่งผสมผสานเทคนิคการกดจุด การสัมผัส และการผ่อนคลายก่อนการผ่าตัด เข้ากับการรักษาด้วยการฝังเข็มระหว่างการผ่าตัดในผู้ป่วยจำนวน 99 ราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top