Tuesday, 24 June 2025
TheStatesTimes

สำหรับพุทธศาสนิกชนชาวไทย ชื่อของ ‘หลวงพ่อคูณ’ ถือเป็นภิกษุสงฆ์ที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างสูง และวันนี้เมื่อกว่า 6 ปีก่อน ถือเป็นวันที่เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่อันโด่งดัง ได้มรณภาพลง

หลวงพ่อคูณ หรือ พระเทพวิทยาคม มีชื่อทางโลกคือ คูณ ฉัตร์พลกรัง เป็นชาวอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ท่านเป็นบุตรชายคนโตของครอบครัวที่ทำอาชีพเกษตกรรม โดยเข้ารับการอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 ณ วัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา มีฉายาว่า ปริสุทโธ 

หลวงพ่อคูณ ปฏิบัติธรรมด้วยการออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อฝึกปฏิบัติธรรมเบื้องสูง ครั้งหนึ่งเคยเดินทางไกลไปถึงประเทศลาว และประเทศกัมพูชา เมื่อเวลาผ่านไป จึงเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ต่อมาได้มีดำริให้ก่อสร้างวัดบ้านไร่ โดยเริ่มสร้างพระอุโบสถเมื่อปี พ.ศ.2496 ก่อนจะขยับขยายให้มีการสร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ รวมทั้งจัดให้มีการสร้างโรงเรียนวัดบ้านไร่ เพื่อการศึกษาของเยาวชนในละแวกดังกล่าวอีกด้วย

หลวงพ่อคูณ จัดเป็นภิกษุสงฆ์ที่มีกิจอันเรียบง่าย แต่มีลูกศิษย์ลูกหาที่ให้ความเคารพศรัทธาไปทั่วประเทศ ภาพที่ผู้คนจดจำได้เป็นอย่างดี คือการเดินเอาไม้เคาะหัว (แทนการรดน้ำมนต์) ให้กับประชาชนคนธรรมดาไปจนถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจเข้าใจได้ว่า เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่แท้จริงแล้ว ถือเป็นการทำเพื่อให้ผู้คนมีสติ

หลวงพ่อคูณมีอาการอาพาธ หมดสติโดยไม่รู้สาเหตุ และถูกนำส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ทีมแพทย์พยายามให้การรักษาอย่างเต็มกำลัง แต่อาการค่อย ๆ ทรุดลง ก่อนจะมรณภาพในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สิริอายุ 91 ปี 71 พรรษา

ต่อมา ท่านได้ฝากฝังไว้ในพินัยกรรม โดยมอบสังขารให้แก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อมอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำไปศึกษาค้นคว้า หรือที่เรียกกันว่า ‘ครูใหญ่’ และเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้า ได้ขอให้ทางมหาวิทยาลัย ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างเรียบง่าย โดยจัดให้มีการสวดอภิธรรม 7 วัน

อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการจัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพหลวงพ่อคูณขึ้น ณ เมรุชั่วคราว วัดหนองแวงพระอารามหลวง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2562 ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งในเวลาต่อมาว่า เหตุที่ต้องขอพระราชทานเพลิงศพ เนื่องจากเป็นไปตามวิถีของการจัดงานศพให้กับ ‘เหล่าบรรดาครูใหญ่’ ที่มอบสังขารให้กับทางมหาวิทยาลัย และเหตุที่เลือกวัดดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่าจะมีลูกศิษย์และประชาชน เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก จึงพยายามเลือกสถานที่ให้ลงตัวและเหมาะสมที่สุด

วันนี้ผ่านมากว่า 6 ปีกับการมรณภาพของพระครูชื่อดัง แต่คำสอนและความศรัทธาในตัวท่าน ยังอยู่ในการระลึกถึงของลูกศิษย์ลูกหา ตลอดจนประชาชนชาวไทยอยู่เสมอ


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พระเทพวิทยาคม_(คูณ_ปริสุทโธ)

วันนี้เป็นวันสำคัญที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยเป็นวันที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด ‘เขื่อนภูมิพล’ ซึ่งเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

เขื่อนภูมิพล เดิมมีชื่อว่า เขื่อนยันฮี ตั้งอยู่บนแม่น้ำปิง อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่า 57 ปีก่อน แนวคิดในการสร้างเขื่อนแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการที่ หม่อมหลวงชูชาติ กำภู อธิบดีกรมชลประทาน ณ ขณะนั้น มีโอกาสเดินทางไปดูงานชลประทานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเห็นความเป็นไปได้ที่จะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่บนแม่น้ำปิง จึงนำเสนอต่อรัฐบาลเมื่อปี พ.ศ.2492 

ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้ทำการสำรวจศึกษาโครงการ จนได้ข้อสรุปในการสร้าง และระบุสถานที่คือบริเวณตำบลยันฮี จังหวัดตาก การอนุมัติการก่อสร้างเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2496 โดยใช้งบประมาณกว่า 2,250 ล้านบาท

แรกเริ่มใช้ชื่อว่า เขื่อนยันฮี ต่อมาในรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อัญเชิญพระนามาภิไธยมาเป็นชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล และวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2504 การก่อสร้างแล้วเสร็จและทำรัฐพิธีเปิดเขื่อน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อนภูมิพลแห่งนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2507

เขื่อนภูมิพล มีลักษณะเป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้ง ความสูง 154 เมตร ความยาว 486 เมตร และมีความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร โดยอ่างเก็บน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อแรกก่อสร้างเสร็จถือเป็นเขื่อนรูปโค้งที่ใหญ่เป็นอันดับเจ็ดของโลก

วันนี้เขื่อนภูมิพล มีอายุกว่า 57 ปี และยังคงทำหน้าที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศต่อไป โดยมีภารกิจหลักคือ การระบายน้ำ โดยปริมาณน้ำที่ระบายออกไปจากเขื่อน จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งด้านการเกษตร สนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 9.5 ล้านไร่ รวมทั้งการคมนาคมและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้า ให้ตรงตามแผนที่กรมชลประทานกำหนดเอาไว้อีกด้วย


ที่มา: 
http://www.bhumiboldam.egat.com/index.php/2014-10-10-05-07-47/history
https://th.wikipedia.org/wiki/เขื่อนภูมิพล


 

บุกเมืองหลวงจีน!! ทุเรียนไทยแรงหยุดไม่อยู่ ลูกค้าชาวจีนอุดหนุนล้นหลาม หลังยกพลโชว์พลัง​ในงาน​ 'Thai Fruit Festival'​

เกษตรฯ ปักกิ่ง จับมือ ททท.ร่วมห้างใหญ่คาร์ฟูร์  นำทัพผลไม้ไทยบุกตลาดออนไลน์และออฟไลน์ยอดขายกระฉูด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังเดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วย​ '5  ยุทธศาสตร์'​ ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ​ ผ่านการเร่งขยายไปตลาดจีน​ เพื่อส่งออกผลไม้ไทยให้มากที่สุด​ โดยใช้ราชาแห่งผลไม้​อย่างทุเรียนเป็นหัวขบวน​ (Thai fruit brand leader) ด้วยกลยุทธ์ออนไลน์และออฟไลน์ระหว่างวันที่​ 14​ พ.ค.​ ถึง​ 31​ พฤษภาคม

สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานปักกิ่ง และห้างคาร์ฟูร์สาขา ซวงจิ่ง เมืองปักกิ่ง จัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้ไทย 'Thai Fruit Festival'​ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมไทยให้กับผู้บริโภคจีน 

โดย สปษ. ปักกิ่งได้จัดเรือผลไม้ขนาดใหญ่​ เพื่อนำเสนอทุเรียน มังคุด ลำไย มะพร้าวน้ำหอม ลิ้นจี่ เงาะ มะม่วง กล้วยไข่ ชมพู่ทับทิมจันทร์ รวมถึงผลไม้แกะสลัก ร่วมจัดแสดงผ่านช่องทางออฟไลน์ของห้างคาร์ฟูร์และช่องทาง Live Stream โดยมีนางสาวปทุมวดี อิ่มทั่ว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) ประจำกรุงปักกิ่ง ได้เข้าร่วมกิจกรรม​ Live-stream บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์ฟูร์​ เหม่ยถวนและซูหนิง เพื่อตอกย้ำความนิยมของผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงในจีน 

ไฮไลท์​ในงานอยู่ที่การนำเสนอข้อมูล​ ตั้งแต่วิธีการเลือก ประโยชน์ของผลไม้ยอดนิยมชาวจีน ได้แก่ ทุเรียน มังคุด และมะพร้าวน้ำหอม พร้อมแนะนำผลไม้ชนิดอื่นๆ ของไทย ที่ผู้บริโภคจีนยังไม่รู้จักมากนัก อาทิ ลองกอง ขนุน ชมพู่ เป็นต้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์คุณภาพมาตรฐานของผลไม้ไทยที่ส่งออกมายังประเทศจีน​ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคชาวจีน 

นอกจากนี้ยังมีการสาธิตทำข้าวเหนียวทุเรียนที่นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นการเผยแพร่วิธีการรับประทานทุเรียนที่แปลกใหม่ให้กับชาวจีน ในช่วง Live Stream มีกิจกรรมส่งเสริมการขายทุเรียนราคาพิเศษ และมอบรางวัลกับให้ผู้เข้าชมที่ร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับผลไม้ไทย

สำหรับกิจกรรมเทศกาลผลไม้ไทยในครั้งนี้จัดติดต่อกันนาน 15​ วัน ตั้งแต่วันที่ 14​ – 31​ พฤษภาคม 2564 สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยในช่องทางออนไลน์​ สามารถสร้างยอดวิวได้มากถึง 200,000 คน ซึ่งทางห้างคาร์ฟูร์​ สาขาซวงจิ่ง ได้นำเข้าผลไม้ไทยทั้งหมด​ เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลผลไม้ไทย ทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ กว่า 300 ตัน โดยแบ่งเป็นทุเรียน จำนวน 150 ตัน  มังคุด 20 ตัน และมะพร้าวน้ำหอม จำนวน 2,000 ลูก ตั้งเป้าว่าจะสามารถขายทุเรียนในเทศกาลผลไม้ไทยดังกล่าวได้มากกว่า 100 ตัน 

งานเทศกาลผลไม้ไทยครั้งนี้​ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ททท. ปักกิ่ง และห้างคาร์ฟูร์ สาขา ซวงจิ่ง ร่วมกันจัดขึ้น​ เพื่อส่งเสริมการค้าขายสินค้าผลไม้ไทย โดยจะเน้นการขายสินค้าผลไม้สดนำเข้าจากประเทศไทย คุณภาพสูง สินค้าอาหารแบรนด์ไทยชั้นนำ เป็นต้น 

ทั้งนี้งานเทศกาลผลไม้ไทยของห้างคาร์ฟูร์ ได้จัดขึ้นทุกปี และในปีนี้ได้ผลตอบรับเกินความคาดหมายและเป็นทางน่าพอใจเป็นอย่างมาก งานดังกล่าวยังได้รับความสนใจจากสื่อหลายสำนัก ได้แก่ Beijing TV, Beijing Youth Daily, Beijing News, Beijing business today, People's Daily ฯลฯ โดยหลังจากการไลฟ์สดสตรีมห้างคาร์ฟูร์สาขาซวงจิ่ง​ มีการขายสินค้าผลไม้ทั้งหมดมากกว่างานเทศกาลไทยในปีที่แล้วถึง 105% อัตราการขายผลไม้โซนร้อนมากกว่าปีที่แล้ว 201% อัตราการขายทุเรียนมากกว่าปีที่แล้ว 238% การซื้อทุเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ของห้างคาร์ฟูร์สาขาซวงจิ่งเพิ่มมากขึ้น​ 800% ส่วนการขายทุเรียนออนไลน์ของห้างคาร์ฟูร์ทั่วปักกิ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 551% โดยห้างคาร์ฟูร์สาขาซวงจิ่งเป็นสาขาที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศจีน

???? LOCK LENS GURU เปิดตัว ‘กูรู’ ทั้ง 5 ท่าน ในสัปดาห์นี้ !! (17 พ.ค. - 21 พ.ค)

???? LOCK LENS GURU เปิดตัว ‘กูรู’ ทั้ง 5 ท่าน ในสัปดาห์นี้ !!

???? เริ่ม วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม - วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม

???? ทุกเช้า 8 โมงตรง

???? มาร่วมเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจ ไปกับ ‘กูรู’ ตัวจริง พร้อมกัน เร็วๆนี้

 

????EP.16 วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม

???? GURU : ดร.โญธิน มานะบุญ

นักวิชาการอิสระ

▶️ หัวข้อ : Vietnamese Boat People รำลึก ‘เรือมนุษย์เวียดนาม’ ชีวิตสุดสิ้นหวังของผู้อพยพลี้ภัยกลางทะเล

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050108

 

????EP.17 วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม

???? GURU : ผศ.ดร.สุทัศน์ จันบัวลา

อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

▶️ หัวข้อ : ฟ้าผ่า ภัย(ไม่)เงียบ ที่มาพร้อมกับพายุ ฝนฟ้าคะนอง

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021041704

.

????EP.18 วันพุธที่ 19 พฤษภาคม

???? GURU : ดร.พีรภัทร ฝอยทอง

ทนายความและที่ปรึกษากฏหมาย

▶️ หัวข้อ : โทเคนดิจิทัล ทางเลือกใหม่ของการลงทุนในยุคดิจิทัล

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021042405

 

????EP.19 วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม

???? GURU : คุณอรุณรัตน์ เปรมสิริอำไพ

คอลัมน์นิสต์อิสระ นักแปล นักเล่าข่าว

▶️ หัวข้อ : รู้จัก Nongshim บะหมี่เบอร์ 1 สัญชาติเกาหลีใต้ สำเร็จบนความศรัทธา ที่แลกมาด้วยการตัดพี่ตัดน้อง

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021042508

.

????EP.20 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม

???? GURU : อาจารย์อาทิตยา ทรัพย์สินวิวัฒน์

อาจารย์ประจำสาขานวัตกรรมการสื่อสาร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

▶️ หัวข้อ : ถอดรหัส 'วันทอง' รอยต่อ 'ความสำเร็จ' ของช่องวัน ขึ้นแท่น “นัมเบอร์วัน” ละครหลังข่าว

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050213

 

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

 

???? ช่องทางรับชม LIVE

Facebook: THE STATES TIMES

YouTube: THE STATES TIMES

Vietnamese Boat People รำลึก ‘เรือมนุษย์เวียดนาม’ | LOCK LENS GURU EP.16

???? GURU : ดร.โญธิน มานะบุญ นักวิชาการอิสระ

 ▶️ หัวข้อ : Vietnamese Boat People รำลึก ‘เรือมนุษย์เวียดนาม’ ชีวิตสุดสิ้นหวังของผู้อพยพลี้ภัยกลางทะเล

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050108

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

.

.

ข้าราชการเชิงรุก​ -​ เปิดศึก​ Apple​ VS​ FB | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.4

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

สำหรับ​ EP.4 นี้​ ชวนคิดไปกับการทำงานของข้าราชการเชิงรุก​ และอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ของ​โลกแห่งการสื่อสาร...

4.1 วิเคราะห์การทำงานเชิงรุก พ่อเมืองลำปาง ‘ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร’ เหตุใดชาวลำปางกว่าสองแสนคน จึงพร้อมใจลงทะเบียนฉีดวัคซีน

4.2 ใหญ่ ฟัด ใหญ่ นโยบายใหม่ Apple เมื่อทุกความลับต้องเป็นความลับ กับจุดจบการล้วงข้อมูลของ Facebook และเหล่าโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม 

.

.

บางรัก-อุดมสุข | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.7

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไป เตรียมหารือนัดแรกในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ เล็งใช้นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์กลางฉีดวัคซีน

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศเป็นศูนย์กลางการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารกระทรวงฯ ผู้ว่าการ กนอ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  ว่า  ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ให้แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีการประชุมอย่างเป็นทางการถึงแนวทางการดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนนัดแรกในวันที่ 17 พ.ค.2564 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ในการให้วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่ประชาชนทั่วประเทศตามความสมัครใจ 

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯชุดดังกล่าว ประกอบด้วย นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานคณะกรรมการ, นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤต กระทรวงอุตฯ เป็นรองประธาน, นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ.เป็นรองประธาน, โดยมีกรรมการ ประกอบด้วย นายสหวัฒน์ โสภา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, ประธาน ส.อ.ท. หรือตัวแทน, ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน, ผู้อำนวยการกองกลาง และผู้อำนวยการกองตรวจราชการ เป็นต้น โดยหน้าที่หลักของคณะกรรมการชุดดังกล่าว คือ  

1.กำหนดแนวทางพื้นที่จุดบริการและเตรียมความพร้อมการให้วัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรม และประชาชน 2.ประสานงานและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้การบริการมีความพร้อมและมีประสิทธิภาพ 3. ติดตามและรายงานผลการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และ 4.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรม 

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นได้สำรวจพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เหมาะสมเพื่อรองรับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งมีทั้งในส่วนที่ กนอ.บริหารจัดการเอง และในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน รวมทั่วประเทศ 59 นิคมฯ แต่จะต้องรอความชัดเจนจากที่ประชุมคณะกรรมการฯ อีกครั้งว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนต่อวันจะได้ประมาณกี่ราย โดยคิดจากอัตราส่วนต่อผู้ปฏิบัติงานทั้งหมด เพื่อประเมินความพร้อมของสถานที่ ไม่ให้เกิดความแออัด ขณะเดียวกันต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ดำเนินการได้ทันท่วงที 

“เบื้องต้นในที่ประชุมได้หารือว่าจะแบ่งกลุ่มผู้ที่รับวัคซีนออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้ปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 2.โรงงานอุตสาหกรรมนอกนิคมอุตสาหกรรมที่แจ้งความประสงค์เข้ามา และโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในสวนอุตสาหกรรมที่กำกับดูแลโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) 3.ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งรูปแบบจะเป็นอย่างไรจะพิจารณาในที่ประชุมอีกครั้ง ขณะเดียวกันได้มีการประสานไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อหารือถึงการใช้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นศูนย์กลางฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งวางแนวทางการฉีดวัคซีนในแต่ละวันเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ การทำงานของคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการฉีดวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการฉีดให้ได้วันละ 5 แสนคน ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้รับเรื่องไปพิจารณาและจะประสานข้อมูลในเชิงลึกร่วมกับ กนอ.และกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด”ผู้ว่าการ กนอ.กล่าว

‘เกศปรียา’ ตั้งข้อสังเกต ทำไมรัฐบาลนี้บริหารสถานการณ์โรคระบาดแบบทำให้คนทั้งประเทศกลัววัคซีนไปได้

‘เกศปรียา แก้วแสนเมือง’ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เผยว่า ถ้าศึกษาข้อมูลจริง ๆ วัคซีน COVID-19 น่าจะไม่อันตรายเท่า วัคซีนบาดทะยัก วัคซีนพิษสุนัขบ้า ที่เราฉีดกันอย่างสบายใจมาเนิ่นนานแล้ว ชนิดใครโดนสัตว์เลี้ยงกัด หรือเกิดอุบัติเหตุตะปูตำก็เดินเข้าคลินิคไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักได้ ไม่ได้มีใครวิตกกังวลมากมายก่อนการรับวัคซีน ถามว่าวัคซีนทั้งสองมีโอกาสแพ้มั้ย ก็ต้องบอกว่ามีโอกาสแพ้ ซึ่งอาจจะเยอะกว่าวัคซีนโควิดด้วยซ้ำดูจากวิธีการผลิตวัคซีน โดยอธิบายง่าย ๆ ได้ว่า วัคซีนพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักใช้พิษจากเชื้อที่เพาะมาทำวัคซีน แต่วัคซีนโควิด-19 ใช้รหัสพันธุกรรมบางส่วนจากเชื้อที่หมดสภาพ (inactive) มาทำวัคซีน

แต่ประเด็นคือ ทำไมรัฐบาลถึงบริหารสถานการณ์โรคระบาดแบบทำให้คนทั้งประเทศกลัววัคซีนไปได้ขนาดนี้ ระดับคนมีการศึกษาระดับสูงสุดปริญญาเอกยังปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีน ตนวิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากการขาดความเชื่อมั่น ที่นายกรัฐมนตรีส่งสารไปสู่ประชาชน การที่พลเอก ประยุทธไม่ยอมฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ทั้งครั้งเเรกเเละครั้งที่สอง ทั้งที่ครั้งเเรกมีข่าวจะฉีดเป็นคนเเรก โดยอ้างอิงจากข่าวในเว็บไซต์ https://www.prachachat.net/politics/news-618072 แต่กลับเบี้ยวไม่มาตามนัด ทั้งที่ทาง รพ.บำราศนราดูร จัดเวทีเตรียมพร้อมไว้ฉีดซิโนเเวคให้เเล้ว เเต่ไม่มา โดย ศ.บ.ค. มาให้ข่าวอ้างว่า ซิโนเเวคไม่เหมาะกับคนอายุเกิน 60 ปี เเต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศ.บ.ค. กลับ ออกมายืนยันว่าคนที่มีอายุ เกิน 60 ปีสามารถฉีดได้ และครั้งที่สองที่พลเอกประยุทธ์ให้ข่าวจะฉีดเเอสตร้าเซเนก้า ทาง รพ.เดิม ก็จัดเตรียมพิธีการกันไว้อย่างดี แต่พอถึงวันก็ไม่มาฉีดอีก โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.bbc.com/thai/thailand-56369384 อีกทั้งมีข้ออ้างว่ายุโรปบอกว่าเเอสตร้าเซเนก้า จะทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือด พฤติกรรมผิดคำพูดไม่มาตามนัดไม่ใช่วิสัยของผู้บริหารที่ดี การโลเลเป็นการทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ประชาชนไม่มีความมั่นใจในวัคซีน

ดังนั้นถือเป็นความผิดพลาดขั้นสูงสุดของพลเอกประยุทธและรัฐบาล เพราะสาเหตุสำคัญที่มาจากเพราะความไม่เขื่อมั่นในข้อมูลที่รัฐบาลแถลงกลับไปกลับมา ซึ่งการแถลงแต่ละเรื่องออกมาทำให้คนรู้สึกว่ามีวาระซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนควรทราบ เพื่อประโยชน์ในการอยู่ในอำนาจแบบเห็นแก่ตัว การอยู่ในอำนาจของรัฐบาลเป็นประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งในการตัดสินใจทุกเรื่อง อย่างวัคซีนในช่วงการระบาดรอบที่ 2 เมื่อประชาชนทวงถามว่า ทำไมไทยไม่มีวัคซีนขนาดเพื่อนบ้านแบบกัมพูชา ลาว ยังมีปริมาณการฉีดวัคซีนมากกว่าไทย เป็นเพราะรัฐบาลตัดสินใจผิดพลาดไม่ร่วมกับโครงการจัดหาวัคซีนขององค์การอนามัยโลก (COVAX) ใช่หรือไม่ แทนที่รัฐบาลจะออกมาขอโทษประชาชนว่าตัดสินใจผิดพลาดต่อไปนี้จะเปิดเสรีให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้ กลับให้โฆษก ศ.บ.ค. ออกมาให้ข่าวเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า วัคซีนจะมาช้าหรือเร็วแทบไม่มีผลกับคนไทยเพราะเรามีหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยไว้ดูแลอนามัยส่วนตน ไม่ต้องเจ็บตัวจากการฉีดวัคซีน ซึ่งข่าวสารตรงนี้มีการทำเป็นอินโฟกราฟิกเผยแพร่ไปในวงกว้าง ประกอบกับข่าวอันตรายของผลข้างเคียงของวัคซีน ที่ไม่มีภาครัฐออกมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ด้วยการเปรียบเทียบวัคซีนโควิด-19 กับวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า หรือวัคซีนบาดทะยัก

การบริหารจัดการจัดหาวัคซีนก็จัดการในลักษณะที่ทำให้ประชาชนมองว่าไม่โปร่งใส ล่าช้า และน่าสงสัยว่าจะทำเพี่อผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ขอร้องว่า เว้นซักเรื่องหนึ่งได้ไหม เพราะเรื่องนี้มันมีผลกระทบมากมายกับชีวิตประชาชนทั้งประเทศโดยตรง ถ้าอยากมีผลประโยชน์ทับซ้อนก็ไปทับซ้อนกับเรื่องซื้ออาวุธที่รัฐบาลทหารถนัด เพราะอาวุธเหล่านั้นซื้อมาไม่ได้มีประโยชน์อะไร และไม่มีผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน กล่าวคือให้ไปหาผลประโยชน์กับของที่ซื้อมาไว้แล้วไม่ได้ใช้นั่นเอง แต่วัคซีนซื้อมาใช้กับประชาชนทั้งประเทศ ควรบริหารจัดการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชนในชาติสักเรื่องได้มั้ย 

เกศปรียา กล่าวต่อว่า เห็นรัฐบาลนี้ชอบอ้างว่าเข้ามาปล้นอำนาจไปจากประชาชนเพราะความรักชาติ และไปตำหนิทุกคนที่เห็นต่างว่าไม่รักชาติ แต่ดูพฤติกรรมที่รัฐบาลบริหารสถานการณ์โรคระบาดคราวนี้ พบว่าการตัดสินใจทำแต่ละอย่างดูเหมือนไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเลย แบบนี้เรียกรักชาติกว่าคนอื่นก็ได้เหรอ

ราเมศ ย้ำ ปชป. เคียงข้างพี่น้องเกษตรกร ประกันรายได้ 7.6 ล้านครัวเรือน ยิ้มได้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึง นโยบายประกันรายได้ในขณะนี้ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตรที่จะต้องมีราคาที่เป็นหลักประกันได้ว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ประสบกับสภาวะปัญหาขาดทุน และที่สำคัญการต่อยอดนโยบายในเรื่องการตลาดที่มีการเปิดตลาดทั้งในประเทศและนอกประเทศด้วยแล้ว เมื่อความต้องการตลาดมีมาก แน่นอนว่าย่อมทำให้วิถีชีวิตของพี่น้องเกษตรกรมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นเพราะราคาพืชผลเกษตรกรก็จะดีขึ้น เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาดก็เป็นอีกหนึ่งนโยบายเช่นกันที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนร่วมกันอย่างเป็นระบบ

พรรคได้หาเสียงเรื่องนโยบายประกันรายได้ไว้และเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยเจตนารมณ์ที่มุ่งหมายของพรรคคือพี่น้องเกษตรกรได้ประโยชน์ ขณะนี้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรก็จะเป็นหลักประกันได้ ให้มีราคาพืชผลทางการเกษตรที่อยู่ได้

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ล่าสุดพี่น้องเกษตรกรชาวสวนข้าวโพดกว่า 1.3 แสนไร่  21,071 ครัวเรือน ก็จะได้รับเงินประกันรายได้ งวด 7 และในส่วนโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 คือ พ.ศ.2563 / 2564 ในพืชทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยังเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ มีพี่น้องเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 7.6 ล้านครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการประกันรายได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top