Saturday, 10 May 2025
Region

ชลบุรี - ‘สวนนงนุชพัทยา’ ร่วมกับ ‘วัดคีรีวงก์(วัดน้ำตก)’ จัดอบรม กินอาหารสมุนไพร - อย่างไรให้ปลอดภัย - ปลอดโรค

ที่ สวนนงนุชพัทยา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ร่วมกับพระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ จัดอบรม หัวข้อ "กินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค รุ่นที่ 4" โดยมี พนักงานสวนนงนุช ประชาชนทั่วไปที่ชื่นชมสมุนไพร และเจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทย เข้าร่วมอบรมอย่างพร้อมเพรียง

พระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์กล่าวว่า สำหรับการจัดอบรมกินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค ในครั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในเรื่องของการรับประทานอาหารให้เกิดประโยชน์ ปลอดภัย ปลอดโรค ด้วยสมุนไพรที่มีอยู่เดิมมาต่อยอดในการนำมาประกอบอาหาร โดยจะเห็นได้จากในสมัยอดีตคนไทยไม่ค่อยเป็นโรค ซึ่งเป็นผลมาจากการทานอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นยารักษาโรค เช่น เมนูผัดกะเพราที่จะช่วยในเรื่องไขมันเกาะตับ ขับลมในลำไส้, เมนูผัดขิง ช่วยในเรื่องลดอาการไข้ ขับลม,เมนูแกงป่าช่วยในการหมุนเวียนเลือดลม,เมนูผัดผักบุ้งช่วยในเรื่องบำรุงสายตา,เมนูส้มตำช่วยในการขับถ่าย,เมนูเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวช่วยบำรุงหัวใจ และเมนูชาขิงน้ำผึ้ง ช่วยในเรื่องเจ็บคอ ขับลม คลื่นไส้

สำหรับการอบรมในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักรู้ในเรื่องของคุณประโยชน์ของพืชสมุนไพรไทย ที่สามารถนำมาปรุงอาหารให้มีรสชาติและคุณค่าที่ดีต่อสุขภาพโดยเน้นการทานอาหารที่มีส่วนประกอบของพืชสมุนไพรไทยแทนยา อีกทั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม นำความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องการนำสมุนไพรไทยไปใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองและครอบครัวเน้นถึงวิธีการปรุงอาหารหลากหลายเมนูให้ถูกต้องด้วยสมุนไพรไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าสูงสุด รวมถึงการเพิ่มรสชาติและประโยชน์ของอาหารไทยชนิดต่าง ๆ ด้วยการเติมสมุนไพรไทยเข้าไปให้เหมาะสม โดยกำหนดจัดอบรมระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2564 โดยการจัดอบรมครั้งนี้ได้ดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตามมาตรฐาน SHA+ และ Safe travels ที่ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 

นครศรีธรรมราช - ม.อ. ร่วมกับ สมาคมศิษย์เก่าฯ และภาคีเครือข่าย เดินหน้าส่งมอบแท็บเล็ต โครงการ “กองทุนไอทีพี่ ม.อ. ช่วยน้องเรียนออนไลน์”

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และภาคีเครือข่าย ส่งมอบแท็บเล็ตโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยระบบออนไลน์ จำนวน 109 เครื่อง ให้กับ 20 โรงเรียนในภาคใต้ โดยมี ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติศักดิ์ ราชบริรักษ์ นายกสมาคมศิษย์เก่าฯ ร่วมส่งมอบแก่ผู้บริหารและผู้แทนจากโรงเรียนภายใต้โครงการฯ ในพื้นที่ภาคใต้ ณ ห้องประชุม 1 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 64

​สำหรับโรงเรียนเป้าหมายที่เข้ารับมอบแท็บเล็ต ภายใต้โครงการ “กองทุนไอทีพี่ ม.อ. ช่วยน้องเรียนออนไลน์” ในครั้งนี้ ประกอบด้วย โรงเรียนในจังหวัดสงขลา ได้แก่ โรงเรียนชุมชนวัดควนมีด, โรงเรียนบ้านสะพานหัก, โรงเรียนบ้านหาร, โรงเรียนวัดสลักป่าเก่ามูลนิธิ และ โรงเรียนมิฟตาฮุดดีน (บ้านพลีใต้) จังหวัดสตูล ได้แก่ โรงเรียนบ้านวังปริง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ โรงเรียนวัดสระไคร, โรงเรียนบ้านนาเส, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 6, โรงเรียนวัดนาหมอบุญ และโรงเรียนวัดไม้เสียบ จังหวัดปัตตานี ได้แก่ โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ, โรงเรียนบ้านคลองช้าง, โรงเรียนบ้านระแว้ง, โรงเรียนบ้านท่าเรือ และโรงเรียนมุสลิมสันติชน จังหวัดยะลา ได้แก่ โรงเรียนบ้านปงตา และจังหวัดนราธิวาส ได้แก่ โรงเรียนวัดประชุมชลธารา, โรงเรียนบ้านริแง และโรงเรียนบ้านบาตูมิตรภาพที่ 66

​โครงการ “กองทุนไอทีพี่ ม.อ. ช่วยน้องเรียนออนไลน์” เป็นความร่วมมือของสมาคมศิษย์เก่า ม.อ. และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมทั้ง ภาคีองค์กรศิษย์เก่าทุกคณะ และชมรมศิษย์เก่าระดับจังหวัด เพื่อระดมทุนจัดหาอุปกรณ์การเรียนให้นักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล - มัธยมศึกษา ในพื้นที่ 9 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เชียงใหม่ - “หมีแพนด้าหลินฮุ่ย” ออกสวนหลังบ้านรับลมหนาว ที่สวนสัตว์เชียงใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าแห่งประเทศไทย ได้นำ หมีแพนด้า“หลินฮุ่ย”    ออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง(สวนหลังบ้าน) ให้สัมผัสอากาศหนาวเย็น เพื่อเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 นี้เท่านั้น

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีอุณภูมิลดลงจากปกติ ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยว ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ จึงได้จัดกิจกรรมดี ๆ ขึ้น คือการนำหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้

ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ปีที่ 17 ของการนำหมีแพนด้าออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง(สวนหลังบ้าน) ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี และในปีนี้ ฤดูหนาวได้มาเยือนภาคเหนือของเรา ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าช่วงเวลาที่จะมีอากาศหนาวเย็นเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ถึงปลายเดือนมกราคม 2565 และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างช้า ๆ

อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้กับหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ให้ได้ออกมารับแสดงแดดในยามเช้า และได้เดินออกกำลังกาย ซี่งจะทำให้หมีแพนด้าหลินฮุ่ยมีความสุข สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยสวนสัตว์เชียงใหม่ได้ดำเนินการปรับปรุง จัดตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม มีการปลูกต้นไม้ ต้นไผ่ ทำลำธาร แอ่งน้ำ และสร้างของเล่นเลียนแบบธรรมชาติ ให้หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” สนุกสนานกับธรรมชาติอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

ทั้งนี้ สวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนจากงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ค่ายสมเด็จพระบรมราชชนนี ในการช่วยค้นหาวัตถุหรือโลหะต่าง ๆ ภายในบริเวณส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ก่อนที่จะมีการนำหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ออกมายังส่วนจัดแสดงในวันนี้ด้วยครับ

 

เพชรบุรี - ห่วงใย!! แจกหมวกนิรภัย ช่วยลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2565

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นางจันทิมา มีโส ผู้อำนวยการภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ภาค 7 นางสาวพนอจิต คลอวุฒิเสถียร ผอ.คปภ.จ.เพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ร่วมรับมอบหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน๊อค ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี

นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณน้ำใจแห่งความห่วงใย จาก คปภ. ซึ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลกังวลมาก ๆ ก็คือความปลอดภัยทางถนน ทั้งการกำหนดมาตรการและรณรงค์ให้ประชาชนขับขี่โดยสวมหมวกกันน็อคเป็นหลัก ไม่ใช้ความเร็วสูง โดยจะได้นำหมวกกันน็อคสำหรับเด็กจำนวน 100 ใบ ส่งต่อให้กับโรงเรียนอนุบาลที่เป็นเด็กขนาดเล็ก ส่วนหมวกกันน๊อคสำหรับผู้ใหญ่ 100 ใบ จะนำไปไว้ที่จุดตรวจต่าง ๆ ซึ่งจะมีรถสัญจรไปมาค่อนข้างมาก ซึ่งหากช่วง 7 วันนี้มีพี่น้องประชาชนขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อค เราจะเรียกมาเตือนแล้วมอบหมวกกันน็อคให้ ซึ่งถ้าพี่น้องประชาชนสวมหมวกกันน็อคก็จะช่วยลดอันตรายจากอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากมอเตอร์ไซค์ ขับขี่อย่างปลอดภัย ในช่วง 7 วันอันตรายนี้

 

ประจวบคีรีขันธ์ - ผอ.สบอ.3 ตรวจแหล่งท่องเที่ยวประจวบฯ ช่วงปีใหม่ พบ นทท.ตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแหล่งท่องเที่ยวภาย ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเตรียมความพร้อมการต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมไปถึงความพร้อมของศูนย์บริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายยุทธพล อังกินันท์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. และ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยรวมไปถึงการดูแลป้องกันการบุกรุกป่าในพื้นที่รับผิดชอบ จากนั้นได้มอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ไว้ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน

 

เชียงใหม่ - เปิดอย่างเป็นทางการ งานเกษตรแม่โจ้ (ออนไลน์) Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม 2564 ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564 Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability โดยมี นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้  รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมให้การต้อนรับและเที่ยวชมงาน ณ แปลงสาธิตพืชผัก มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า งานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564  Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 - 29  ธันวาคม 2564 เพื่อฉลองการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ครบรอบ 87 ปี และการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบอุดมศึกษาภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ การพลิกโฉมมหาวิทยาลัยเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ การพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ปีที่ 100 (2477-2577) การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต สร้างสังคมแห่งการ “กินดี” “อยู่ดี” และ “มีสุข” เผยแพร่องค์ความรู้ทางการเกษตรสู่สาธารณชน อันเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์และสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยด้านการบริการวิชาการและงานวิจัยต่าง ๆ ให้ได้รับการต่อยอด

รวมถึงเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมเครือข่ายของมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วนให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจและชุมชนในทุกมิติ  โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และการปฏิบัติงาน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมงานเกษตรแม่โจ้ในครั้งนี้”

 

นราธิวาส - ผอ.ศปพร. ลงพื้นที่ อวยพรปีใหม่ - มอบถุงยังชีพ แทนใจให้แก่สมาชิกกลุ่มศิลปาชีพปักผ้า บ้านโต๊ะเด็ง และกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  พร้อมด้วย พันเอก ยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 /หัวหน้าคณะทำงานฯ ที่ 3  หัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำท้องถิ่น  เดินทางไปยังวัดรัตนานุภาพ และวัดลอยประดิษฐ์ ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เพื่อกราบนมัสการ ถวายภัตตาหารเพล และปัจจัย แด่พระสงฆ์ ตามโครงการเสริมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง กิจกรรมการสนับสนุนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงภัย ไม่สามารถบิณฑบาตได้ รวมถึงเพื่อสอบถามพระสงฆ์ ถึงเหตุการณ์ ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดีในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนสอบถามความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ และการปฏิบัติศาสนกิจในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้นได้เข้าเยี่ยมเยียน พบปะ และให้กำลังใจ อวยพรปีใหม่ ให้ แก่พี่น้องสมาชิก กองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

โดย พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เน้นย้ำ แผนการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของตนเอง รวมทั้งความสำนึกในหน้าที่ของการเป็นราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านเสริมสร้าง วินัย ความซื่อสัตย์ สุจริต เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน รู้จักเคารพสิทธิผู้อื่น สร้างความคุ้นเคยและให้ปฏิบัติงานร่วมกันได้ซึ่งจะก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ และเหนือสิ่งอื่นใด จะเป็นการแสดงออกถึงความจงรัก ภักดี และความหวงแหนในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงพลังในความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่และยึดมั่น สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามพระราชเสาวนีย์แม่ของแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สืบไป 

จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมและพบปะให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ เป็นของขวัญเทศกาลปีใหม่ให้กับสมาชิกโครงการศิลปาชีพ กลุ่มปักผ้า ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยได้รับฟังบรรยายสรุปประวัติความเป็นมา สอบถามปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินงาน สอบถามความต้องการในช่วงสถานการณ์โควิด ตลอดจนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่  ซึ่งโครงการศิลปาชีพ กลุ่มศิลปาชีพปักผ้า บ้านโต๊ะเด็ง

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ดำเนินกิจการปักผ้า เพื่อนำส่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  สำหรับวัสดุอุปกรณ์ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิศิลปาชีพฯ คณะทำงานฯ ที่ 3 จัดนายทหารประสานงานอำนวยความสะดวกในการดำเนินงาน และประสานเรื่องต่าง ๆ ของสมาชิก ปัจจุบันกลุ่มศิลปาชีพปักผ้า บ้านโต๊ะเด็ง มีสมาชิก จำนวน 45 ราย ซึ่งเป็นพี่น้องไทยมุสลิมหญิงล้วน  การปักผ้าเป็นอาชีพเสริม หลังว่างจากการกรีดยาง โดยส่งครูผู้ช่วยของกลุ่มเข้าไปเรียนรู้ ณ ศิลปาชีพปักผ้าค่ายจุฬาภรณ์ เพื่อนำความรู้ที่ได้ มาถ่ายทอดให้แก่สมาชิกและพัฒนาต่อยอด จนสามารถสร้างเป็นรายได้เสริมให้เลี้ยงดูครอบครัวตนเองได้ และในเวลาต่อมา ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ เป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.นางสุรณี พันธุ์นรา อายุ 65 ปี 2.นายสุรินทร์ บุตรจีน อายุ 70  ปี และ 3. นายสุเทพ ผึ้งตำบล อายุ 80 ปี โดยได้พูดคุยสอบถามอาการ สภาพ

 

กาฬสินธุ์ - คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ ห้ามเอาเปรียบผู้บริโภค!! รณรงค์กระเช้าสุขภาพ

กาฬสินธุ์ - คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ ห้ามเอาเปรียบผู้บริโภค!! รณรงค์กระเช้าสุขภาพ

คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ลงพื้นที่ตรวจสอบฉลากสินค้า ประเภทการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ และประชาสัมพันธ์การมอบกระเช้าของขวัญ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ “Healthier Choice”  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ คุมเข้มมาตรฐาน ไม่เอาเปรียบผู้บิโภค แนะเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ

ที่ห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซา นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ และคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.กาฬสินธุ์ ตรวจสอบฉลากสินค้า ประเภทการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ และประชาสัมพันธ์การมอบกระเช้าของขวัญ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ “Healthier Choice”  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีนายประพันธ์ โพธิ์วันนา ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบฉลากสินค้า ประเภทการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ และประชาสัมพันธ์การมอบกระเช้าของขวัญ ในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มอบนโยบายและขอความร่วมมือให้ สคบ.ประจำจังหวัด ติดตามสำรวจและตรวจสอบการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่องลักษณะของสินค้าที่ควบคุมฉลาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบธุรกิจละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ขายสินค้าเกินราคา ไม่นำสินค้าไม่มีคุณภาพหรือสินค้าที่หมดอายุ มาบรรจุลงในกระเช้าของขวัญปีใหม่ และขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจในการแสดงฉลากสินค้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดกระเช้าของขวัญว่ามีอะไรบ้าง และต้องแสดงรายการวันผลิต วันหมดอายุ ให้มีตัวอักษรที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อผู้ที่ซื้อกระเช้าของขวัญ จะสามารถมองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน  

นายศุภศิษย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยังมีนโยบายส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภคด้วย “สัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ Healthier Choice” มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคมีทางเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายที่รณรงค์ในการลดหวาน มัน เค็ม และภาควิชาการ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้บริโภค ในการเลือกซื้อหาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีปริมาณโซเดียม น้ำตาล และไขมันต่ำลง เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะโภชนาการเกินและโรคที่เกี่ยวข้องในคนไทย

 

 

กระบี่ - สสจ.กระบี่ยืนยัน! พบนักท่องเที่ยวต่างชาติติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มเข้ม งานเคาท์ดาวน์ อ่าวนางบีช เฟสติวัล 2022 ถ้ามาตรการไม่เป็นไปตามที่กำหนด สามารถพิจารณาให้หยุดงานได้ทันที

วันที่ 28 ธ.ค.64 นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "จากการที่จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 1,900 คนเศษ จากการตรวจทุกราย พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 ราย ในจำนวนนี้เป็นสายพันธ์โอมิครอน 3 ราย จากสายการบิน Finnair 2 ราย อยู่ในระหว่างการรักษา โดยมีกลุ่มเสี่ยง 200 ราย ซึ่งเฝ้าระวังครบ 7 วัน ตรวจเชื้อแล้วไม่พบ ส่วนอีก 1 ราย จากไฟล์ส่วนตัว ที่บินตรงเข้ามา ซึ่งได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว"

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ได้ลงทะเบียนไว้ อีก 1,400 คนที่จะเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่โดยตรง ก็จะต้องใช้หลักเกณฑ์ใหม่ คือเมื่อมาถึงต้องตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการวางแผนว่าใครจะเป็นเจ้าภาพในการตรวจ รวมถึงค่าใช้จ่าย จากเดิมที่ตกลงไว้ คือ ตรวจ RT-PCR ครั้งเดียว ส่วนอีก 1 ครั้งให้นักท่องเที่ยวตรวจเองแบบ ATK และส่งผลมายืนยัน  ด้านมาตรการเฝ้าระวังได้มีการ ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  หรืออยู่ในที่สาธารณะ ส่วนมาตรการอื่น ๆ ได้มีการประชาสัมพันธ์และเข้มข้นตลอดเวลา  ร่วมทั้งเร่งฉีดวัคซีนของคนกระบี่เองให้ได้ครบตามกลุ่มเป้าหมาย

นายนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในที่ประชุมกรมการจังหวัดว่า "งานเคาท์ดาวน์ อ่าวนาง ได้มอบหมายให้ สสจ และผู้บังคับการตำรวจประสานกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพบว่าไม่ทำตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ปิดได้ทันที" ผู้ว่าย้ำ ต้องเข้มงวดเข้าใจว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจแต่ชีวิตก็ต้องรักษาด้วย

ด้านพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่ย้ำ ดูแลการจัดงานเคาท์ดาวน์ อ่าวนางบีช เฟสติวัล 2022 อย่างเข้มงวดในการจราจรและความปลอดภัย โดย จัดทำแผนจราจรบริเวณการจัดงาน จัดทำป้ายบอกเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ไปร่วมงาน ด้านความปลอดภัย ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ดังนี้ จำกัดคนเข้างาน ( 4 ตร.ม.ต่อ 1 คน ร่วมงานได้ไม่เกิน 1,000 คน) และกำหนดแบ่งเป็นโซน คือ โซนคอนเสิร์ตและไม่ใช่คอนเสิร์ต ซึ่งผู้เข้าชมคอนเสิร์ต ให้นั่งชมเท่านั้น) ผู้ที่เข้าร่วมงานต้องลงทะเบียน มีผลการฉีดวัคซีน และผลตรวจ ATK  เป็นลบภายใน 72 ชม.

 

เพชรบูรณ์ - เปิดงานเนื่องในวัน ‘ป้องกันอุบัติเหตุแห่งชาติ ประจำปี 2564’ และพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกัน - ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

ที่บริเวณหน้าพุทธอุทยานเพชรบุระ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์  เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเนื่องในวันป้องกันอุบัติเหตุแห่งชาติ ประจำปี 2564 และพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565  โดยมีนายนพดล คำนึงเนตร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่ายป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนต่าง ๆ ร่วมกิจกรรม 

       

นายนพดล คำนึงเนตร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี คณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียและผลกระทบจากอุบัติภัย รวมทั้งเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันบูรณาการความร่วมมือในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีกิจกรรม การอ่านสารนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี2564 /จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมสร้างความตระหนัก และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชน /จัดกิจกรรมฝึกทักษะการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อการกู้ชีพกู้ภัยหรือซ้อมแผนตามความเสี่ยงภัยของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งการจัดนิทรรศการ การแสดงสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ มีเป้าหมายให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตลดลงเมื่อเทียบกับสถิติช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง โดยให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้กำหนดเป้าหมายดำเนินงานด้วยตัวเอง เน้นการดำเนินงานในอำเภอที่มีสถิติความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง และไดกำหนดช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 - วันที่ 4 มกราคม 2565 รวม 7 วัน กำหนดแคมเปญในการรณรงค์ว่า “ชีวิตวิถีใหม่ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ”

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top