Saturday, 10 May 2025
Region

เชียงใหม่ - ‘คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช’ เปิดการประชุมวิชาการ อกท.ภาคเหนือ ครั้งที่ 42 ที่จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564 คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการประชุมวิชาการองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระดับภาค ภาคเหนือ ประจำปีการศึกษา 2564

โดยมีนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายประพัฒน์ วงค์ชมพู ปลัดอาวุโสอำเภอสันป่าตอง นายวันชัย โตมี ประธานกรรมการอำนวยการ อกท. ระดับภาค ภาคเหนือ / นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา ผู้มีเกียรติ และสมาชิก อกท.ร่วมพิธี ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ พัฒนาคุณภาพ และความเป็นเลิศทางวิชาชีพของสมาชิก อกท. และยังได้จัดให้มีการเชิดชูเกียรติสมาชิก อกท. ศิษย์เก่า ตลอดจนผู้ทำคุณประโยชน์แก่ อกท.รวมทั้งได้จัด เผยแพร่ผลงานกิจกรรมของสมาชิกและหน่วย อกท.และการอนุรักษ์และสืบสาน ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทยทำให้สมาชิก อกท. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาชีพเกษตร และสามารถปฏิบัติตน เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณค่าต่อสังคมในอนาคต

ขอเป็นกำลังใจให้สมาชิก อกท.ทุกคน ขอให้สมาชิกทุกคน ได้ยึดถือคติพจน์ของ อกท. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน และช่วยเหลือสังคม ตลอดไปและในฐานะที่ ทุกคนเป็นเยาวชนที่กำลังศึกษาในภาคการเกษตร ท่านต้องพัฒนาตนเอง ให้มีความรู้ ความสามารถอย่างกว้างขวาง ควบคู่ไปกับการมีคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้มีความพร้อมและมีความเชื่อมั่นที่จะออกไปประกอบอาชีพต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ  

การประชุมวิชาการครั้งนี้ จะเป็นเวทีให้ทุกคนได้แสดงออก ถึงความรู้ ความสามารถและทักษะสำคัญที่จะนำไปใช้ในการประกอบวิชาชีพ  รวมถึง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทักษะและประสบการณ์ สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปพัฒนาตนเองในงานอาชีพให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศชาติของเรา มีความมั่งคั่ง  เป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงมวลมนุษยชาติต่อไปขอให้สมาชิก อกท. ทุกคน มีความมานะ วิริยะ อุตสาหะ ขยัน หมั่นเพียร ตั้งใจศึกษา หาความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำพาตนเอง สังคม และประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

นายวันชัย โตมี ประธานกรรมการอำนวยการ อกท. ภาคเหนือ กล่าวว่า องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์การสากลของสมาชิก ดำเนินงานโดยสมาชิก และเพื่อสมาชิก มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ ระหว่างองค์การเกษตรกรในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ อย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมขององค์การนี้มุ่งเน้นฝึกฝนความเป็นเลิศด้านวิชาชีพ ฝึกคุณลักษณะการเป็นผู้นำที่ดี ส่งเสริมการมีคุณธรรมความเป็นพลเมืองดีให้แก่สมาชิกขององค์การ โดยมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับกระบวนการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา เปิดโอกาสและส่งเสริมให้เยาวชนอาชีวะเกษตร ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง ในสถานการณ์จริง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่หลากหลายเหมาะสมกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันและอนาคต องค์การนี้มีชื่อย่อว่า "อกท." โดยมีคติพจน์ขององค์การที่ว่า

“เราเรียนรู้ด้วยงานการฝึกหัด เราปฏิบัติเพื่อหวังทางศึกษา หาเลี้ยงชีพเพื่อชีวิตพัฒนา ใช้วิชาเพื่อบริการงานสังคม”

การจัดการประชุมวิชาการครั้งนี้ จัดในระหว่างวันที่  25-28  ธันวาคม 2564  ณ  วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ โดยมีสถานศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรกลุ่มภาคเหนือ เดินทางมาร่วมงาน  ประกอบด้วย  สมาชิกซึ่งเป็นนักเรียนนักศึกษา ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีในภาคเหนือรวม 12 สถานศึกษา ส่งสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมการประชุมวิชาการ ประกอบไปด้วย/กิจกรรมการสัมมนา การประกวด การแสดง การแข่งขัน และการเชิดชูเกียรติ หน่วยและสมาชิก อกท. จำนวนรวมทั้งสิ้น  500 คน ในการจัดการประชุมวิชาการ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ ทักษะและประสบการณ์ ด้านวิชาการของสมาชิก เพื่อเชิดชูเกียรติสมาชิก และ หน่วยที่ประสบผลสำเร็จ ในการดำเนินกิจกรรม ตลอดจนผู้ทำคุณประโยชน์แก่ อกท.เพื่อเผยแพร่ผลงาน กิจกรรมต่าง ๆ ของสมาชิกและหน่วย อกท.และเพื่อคัดเลือกตัวแทนสมาชิก อกท.ภาคเหนือ ไปร่วมการประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 42 ในระหว่างวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์  2564 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีองค์อุปถัมภ์ขององค์การ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564

กิจกรรมที่จัดขึ้นในการประชุมวิชาการ อกท. ภาคเหนือ ครั้งนี้ เป็นปีที่พิเศษกว่าปีก่อน เพราะเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้น เพื่อลดการรวมกลุ่ม การแข่งขันทักษะจึงแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่  แบบ Online และแบบ onsite ทักษะที่จัดการแข่งขันแบบ Online ได้แก่ การสัมมนาผลงานทางวิชาการของสมาชิก โดยมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย รับเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน ลดจำนวนคนเข้าร่วมได้ 192 คน ทักษะสาขาพืชศาสตร์  วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูนเป็นเจ้าภาพ ลดจำนวนผู้เข้าร่วม 50 คน นอกจากนี้ ยังมีทักษะที่จัด onsite ก่อนการจัดงานวันนี้ ได้แก่ ทักษะสาขาช่างกลเกษตร และทักษะสาขาสัตวศาสตร์  ลดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน ได้ไม่ต่ำกว่า 200 คน จึงเหลือทักษะที่ทำการแข่งขัน จำนวน 4 สาขา 20 ทักษะ การจัดนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการของสมาชิก การประกวด และการแสดง สิ่งประดิษฐ์ทางการเกษตร  

  

 

สุรินทร์ - มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ครบรอบปีที่ 53

พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ในพิธีประกอบด้วย พิธีสักการะอนุสาวรีย์ พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน พิธีสงฆ์และตักบาตร ณ พุทธศาสนสถาน ค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และกำลังพล มณฑลทหารบกที่ 25 รวมทั้งครอบครัว ร่วมพิธีฯ

ซึ่งเป็นการระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของ พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน กองทัพบกจึงได้ขอพระราชทานนามค่ายแห่งนี้ว่า “ค่ายวีรวัฒน์โยธิน” เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2511 เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังระลึกถึงคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ของท่าน ในการปฏิบัติการรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา

 

 

สระบุรี - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเปิดงาน "เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2565

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานเปิดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2565 ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ร่วมรับเสด็จ       

ทั้งนี้นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรี  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และประชาชน ร่วมเฝ้า ฯ รับเสด็จ

“เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ประจำปี 2565 จัดขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่พสกนิกรชาวไทย โดยร่วมกับพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ในวันที่ 16 มกราคม 2505 ซึ่งองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) หรือฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ถือเป็นฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นต้นแบบในการเรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงโคนมอย่างเป็นระบบ เกษตรกรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง ทั้งยังส่งเสริมการบริโภคนมเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ อ.ส.ค. จึงได้ถือเป็นประเพณีสืบต่อกันมา ที่จะให้มีการจัดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เป็นประจำทุกปี

สำหรับการจัดงานในปีนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เกี่ยวข้องในวงการโคนมและอุตสาหกรรมนมจะได้พบปะ แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ ทัศนคติ การเลี้ยง การผลิต ระหว่างเกษตรกรด้วยกัน รวมทั้งเป็นเวทีในการแสดงความก้าวหน้าเกี่ยวกับวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมนมของประเทศ

 

กระบี่ - นทท.ทะยอย กลับจากเกาะพีพี หลังหมดเทศกาลปีใหม่ พบอ่าวมาหยา นทท.ยังแห่เที่ยวแน่น

ที่ท่าเรือท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พากันทยอยเดินทางออกจากเกาะพีพี ด้วยเรือโดยสารประจำทาง เพื่อกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกหลังจากพาครอบครัวมาพักผ่อนในพื้นที่เกาะพีพี ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้เรือโดยสารเต็มความจุทุกเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.กระบี่และ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขากระบี่ คอยดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยประจำท่าเรือ

ขณะอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง หลังจากที่เปิดมาตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 3 ม.ค.พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่จองคิวเข้าเที่ยวผ่านแอปพลิเคชันคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติฯยังคงเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเต็มทุกเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานฯต้องดูแลความเรียบร้อยและห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ปะการังที่กำลังฟื้นฟูเกิดความเสียหายและไปรบกวนฝูงปลาฉลามครีบดำ นับ 100 ตัว ที่ใช้อ่าวมาหยาเป็นที่หากินและผสมพันธุ์

 

ลำปาง - ผบ.มทบ.32 ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล - รด.จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ฯ จุดบริการประชาชนหน้าค่ายฯ

พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 32,รด.จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ  จุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2565  โดยฝากความห่วงใยพร้อมให้ช่วยกันดูแลและอำนวยความสะดวกกับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่ช่วงนี้เป็นการเดินทางกลับให้มีความประทับใจและเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ซึ่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้ขอบคุณกำลังพล/จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ตั้งใจและร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างดี   

นราธิวาส - ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้ ลงพื้นที่ประชุมตรวจราชการ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการ

ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (กรมชลประทาน) นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวตอนรับ พลเอกพิเชฐ ตานะเศรษฐ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้ในการประชุมตรวจราชการเพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการของคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้

โดยมีพลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และรับฟังการบรรยายสถานการณ์อุทกภัยและพนังกั้นน้ำที่ทรุดตัวพร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหา และรับฟังความเห็นจากนางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส,นายปรีชา นวลน้อย ปลัดจังหวัดนราธิวาส,นายกิตติพันธ์ วุฒิวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส,นายรุ่งเรื่อง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโกลก,นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ,นายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี,นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ,นายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง,นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน,นายจิริสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอระแงะ,นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง  จากนั้นได้เดินทางไปยังบริเวณหน้า อบต.มูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพร่วมกับจังหวัดนราธิวาสเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้คณะได้เดินเท้าตรวจสภาพพนังกั้นน้ำที่ทรุดตัวเสียหาย

ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวขอบคุณพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยในความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และได้กรุณามอบหมายท่านที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รายภาคในพื้นที่ภาคใต้ และประธานอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้มารับทราบสภาพเหตุการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่จากเหตุอุทกภัยในห้วงที่ผ่านมา และให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพ ให้แนวทางคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้ชี้แจงถึงปัญหาอุทกภัยจังหวัดนราธิวาสมี 13 อำเภอซึ่งในห้วงปลายเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคมของทุกปีจะมีฝนตกหนัก ส่งผลให้แม่น้ำ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำโก-ลก และแม่น้ำบางนรา ซึ่งไหลผ่านพื้นที่ 9 อำเภอ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนประจำทุกปี

 

สงขลา - มรภ.สงขลา ผนึกองค์กรท้องถิ่น 3 สถาบันการศึกษาสตูล ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการ สร้างนวัตกรรมจัดการขยะ

มรภ.สงขลา เดินหน้าพัฒนาการศึกษารับศักราชใหม่ นำทีมบริหารสัญจร “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” พร้อมลงนามความร่วมมือ ทต.กำแพง วก.ละงู วท.สตูล วชช.สตูล ยกระดับการศึกษา กำหนดทิศทางพัฒนาหลักสูตรด้านท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ควบคู่สร้างนวัตกรรมจัดการขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร

รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มรภ.สงขลา นำคณะกรรมการบริหารและบุคลากรร่วมศึกษาฐานการเรียนรู้ “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” พร้อมรับฟังการบรรยายเรื่อง “โคก หนอง นา ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” โดย ผศ.ดร.เกียรติศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้ช่วยอธิการบดี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการประจำสำนักงานวิทยาเขตสตูล ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและด้านนวัตกรรมการจัดการขยะ ร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดสตูล รวม 4 องค์กร ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพละงู (วก.ละงู) วิทยาลัยเทคนิคสตูล (วท.สตูล) วิทยาลัยชุมชนสตูล (วชช.สตูล) และ เทศบาลตำบลกำแพง (ทต.กำแพง) จังหวัดสตูล เพื่อร่วมกันยกระดับการศึกษา การวิจัย บริการวิชาการด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ รวมถึงด้านการจัดการขยะมูลฝอยของชุมชนและศูนย์กำจัดขยะแบบครบวงจร พร้อมเปิดระดมความคิดเห็นจากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาหลักสูตร และสร้างแนวทางความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในจังหวัดสตูล

รศ.ดร.ทัศนา กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือด้านวิชาการร่วมกับ 3 สถาบันการศึกษาในพื้นที่ จ.สตูล ได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันดังนี้

1. ให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวด้านบริหารธุรกิจ/การจัดการธุรกิจในยุคดิจิทัลและอื่น ๆ ผ่านการเรียนการสอนทั้งในระดับรายวิชาและสาขาวิชา

2. มรภ.สงขลา จะจัดส่งอาจารย์สาขาวิชาการท่องเที่ยวนวัตกรรมการจัดการและอื่น ๆ เพื่อร่วมพัฒนาหลักสูตรการท่องเที่ยวและหลักสูตรบริหารธุรกิจ/การจัดการ/ธุรกิจดิจิทัลหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับทางวิทยาลัย เพื่อประโยชน์ในการเข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และสามารถเทียบโอนรายวิชาได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด

3. ส่งเสริมให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง (ปวส.) เข้ารับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย

4. สร้างกิจกรรมเพื่อก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาทักษะประสบการณ์วิชาชีพให้แก่กันทั้งกับนักศึกษาและอาจารย์

5. ให้มีผู้แทนเป็นผู้ดำเนินงาน ประสานงาน และตกลงรายละเอียดในการปฏิบัติงานตามข้อตกลงความร่วมมือนี้ โดยจะได้มีการจัดทำข้อกำหนดและเงื่อนไขในการนำเนื้อหาของวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการท่องเที่ยว และหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการ

6. มหาวิทยาลัยร่วมพัฒนาหลักสูตรความร่วมมืออื่น ๆ ตามความต้องการของท้องถิ่น รวมถึงร่วมจัดทำโครงการ/กิจกรรม และร่วมมือด้านการวิจัย การบริการวิชาการ และการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมร่วมกัน

7. บันทึกข้อตกลงนี้ให้มีผลใช้บังคับระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันทำบันทึกข้อตกลง

  

 

มหาสารคาม - เรตติ้งพุ่ง!! มมส.สร้างพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “เปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรก

กลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เชิญชวนศิษย์เก่า ประชาชน สั่งจองพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “รุ่นเปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรก สมทบงบประมาณสร้างป้ายคณะและพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอีสาน ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ 31 กรกฎาคม 2565 เปิดตัววันแรกคึกคัก ยอดสั่งจองคนหลายองค์

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ ร่วมกับ ดร.เชวงศักดิ์ พลลาภ ศิษย์เก่าสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานกลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ และตัวแทนศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ร่วมประชุมแนวทางการจัดสร้างป้ายคณะ และพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไป สั่งจองพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “รุ่นเปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการที่คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ควบรวมเป็นคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 เป็นต้นมา  โดยมีอาคารวัฒนธรรมศาสตร์เป็นอาคารหลักเขตพื้นที่ในเมือง และมีพระพุทธประติมากรรมยืนปางเปิดโลก พุทธลักษณ์อีสานล้านช้างอย่างถูกต้องงดงามเป็นศูนย์รวมใจ ทั้งนี้ได้รับการอนุมัติแบบก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ และพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้างเมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ที่ผ่านมานั้น

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัยกล่าวอีกว่า ในการออกแบบก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ดังกล่าว กลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ เห็นว่าจะเป็นศูนย์ปูชนียสถานสำคัญ ในการร้อยความสัมพันธ์ ความผูกพัน และสร้างพื้นที่ส่วนนี้เป็นแลนด์มาร์ก หรือเป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมสำคัญของภาคอีสานด้วย จึงได้มีมติจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกจำลอง รุ่นเปิดโลกรับทรัพย์ รุ่นแรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำคณะ ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ 31 ก.ค.65 ทั้งนี้ เพื่อหางบประมาณสมทบการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงได้ประชุมแนวทางการก่อสร้างและเชิญชวนสั่งจอง โดยมีความเชื่อว่าจะมีพุทธคุณต่อผู้ที่เคารพบูชา มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง หน้าที่การงานก้าวไกล และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เหมาะสำหรับการบูชาและมอบให้กับผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมปัจจุบัน

ด้าน ดร.เชวงศักดิ์ พลลาภ ศิษย์เก่าสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานกลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ กล่าวว่าในการก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ และจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกจำลอง รุ่นเปิดโลกรับทรัพย์ ดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้คณะศิษย์เก่า ทั้งชาว มศว. (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ), มมส.(มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) ตลอดจนบุคคลวงการศึกษา ชาว จ.มหาสารคาม และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมบูชา เพื่อหางบประมาณสมทบการก่อสร้าง   

โดยเปิดเช่าบูชาองค์ยืนขนาดสูง 20 นิ้ว จำนวน 499 องค์ และเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง จำนวน 10,000 เหรียญ ทั้งนี้ ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ และพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม ประกอบพิธีปลุกเสก 

ดร.เชวงกล่าวอีกว่า พระพุทธรูปปางเปิดโลกรุ่น "เปิดโลก รับทรัพย์" เพื่อหารายได้สร้างป้ายคณะและพระแท่นประดิษฐานพระพุทธรูปปางเปิดโลกอีสานล้านช้าง พระพุทธรูปประจำคณะ เป็นฝีมือของ ผศ.สันติสุข แหล่งสนาม และ ศาสตราจารย์ เข็มรัตน์ กองสุข ประติมากรคนสำคัญของประเทศไทย โดยจะประดิษฐานที่บริเวณด้านหน้าอาคารวัฒนธรรมศาสตร์ต่อไป ทั้งนี้ จะมีการประกอบพิธีเปิดป้ายและสักการะอย่างเป็นทางการ วันที่ 31 ก.ค.65 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 ปี ควบรวมคณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

 

 

ชลบุรี - ยืนยัน!! คลัสเตอร์ ทหารเรือสัตหีบ ไม่มีการแพร่ระบาดและสามารถควบคุมได้

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อบางสื่อรายงานข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งระบุว่าเกิด Cluster ในเขตพื้นที่ทหารเรือ โดยมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไม่สามารถควบคุมได้นั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือมีความไม่สบายใจต่อข่าวดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งผู้ปกครองและครอบครัวของทหารใหม่ในสังกัดกองทัพเรือ มีความกังวลและตื่นตระหนก

ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ สั่งการให้กรมแพทย์ทหารเรือ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ จากรายงานของกรมแพทย์ทหารเรือ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2565 มีรายงานการพบกำลังพลในสังกัดกองทัพเรือที่ติดเชื้อโควิด-19 ดังนี้ วันที่ 26 ธันวาคม 2564 ไม่มีผู้ติดเชื้อ วันที่ 27 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย วันที่ 28 ธันวาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 29 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 10 ราย  วันที่ 30 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 1 มกราคม 2565  มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย และ วันที่ 2 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย 

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า กำลังพลของกองทัพเรือที่ติดเชื้อในพื้นที่สัตหีบ ตามรายงานข้างต้น ไม่ได้อยู่ในสังกัดหน่วยเดียวกัน ไม่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ไม่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) และปัจจุบันสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏที่ระบุว่า ไม่สามารถควบคุมได้ ถือว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อให้กับกำลังพลในทุกระดับ

 

กาฬสินธุ์ - สหกรณ์มอบเงินชดเชยดอกเบี้ยสมาชิก แก่ปชช.ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และประสบภัยพิบัติกว่า 4 ล้านบาท เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ นำไปฟื้นฟูประกอบอาชีพ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา วัฒนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันมอบเช็คเงินสด ซึ่งเป็นเงินชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สหกรณ์ร่วมโครงการจำนวน 14 สหกรณ์ มีสมาชิกที่ได้รับเงินชดเชยดอกเบี้ยจำนวน 8,076 ราย มูลหนี้ต้นเงินรวม จำนวน 1,190,866,211.64 บาท เงินชดเชยดอกเบี้ย จำนวน 4,357,459.92 บาท

นายวิทยา วัฒนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะจ่ายเป็น 2 งวด งวดที่ 1 คือวันนี้ จำนวน 2,178,729.94 บาท และงวดที่ 2 จะจ่ายประมาณเดือนเมษายน จำนวน 2,178,729.98 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ตามวัตถุประสงค์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย และลดต้นทุนในการประกอบอาชีพการเกษตรแก่สมาชิก  และเพื่อให้สมาชิกที่ประกอบอาชีพการเกษตร มีโอกาสนำเงินส่วนที่ได้รับการช่วยเหลือไปฟื้นฟูประกอบอาชีพ ตลอดจนมีเงินทุนไว้ใช้จ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ด้วย

นายวิทยากล่าวอีกว่า สำหรับการมอบเงินชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ทางสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดมอบแล้ว 3 ครั้ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ครั้งแรกในปี 2562 จัดมอบไป 6 สหกรณ์ 1.สหกรณ์การเกษตรถาวรพัฒนากาฬสินธุ์ จำกัด 2.สหกรณ์การเกษตรท่าคันโท จำกัด 3.สหกรณ์การเกษตรนามน จำกัด 4.สหกรณ์การเกษตรเมืองกาฬสินธุ์ จำกัด 5.สหกรณ์การเกษตรร่องคำ จำกัด และ6. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนตำบลโคกสะอาด จำกัด จำนวนเงิน 3,246,202.12 บาท โดยจ่ายครบ 100%

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top