Saturday, 10 May 2025
Region

กระบี่ - กกต.กระบี่ ปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่โดยออกณรงค์การเลือกตั้ง อบต.โค้งสุดท้าย ครอบคลุม 8 อำเภอ 25 -27 พ.ย. เพื่อปลุกกระแสให้ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริต ใช้สิทธิ์โปร่งใส

นายวีระยี่แพร ผู้ตรวจการ เขตตรวจการที่ 5 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่จำนวน 10 คันออกจากบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของ ที่จะถึงวันเลือกตั้งอบต .พร้อมกันทั่วประเทศ โดยอบตไสไทย ยกทีมเข้าร่วมบรรยากาศคึกคัก

นางสาวขนิษฐา ปั้นทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ การเลือกตั้งอบต .ขึ้น ในช่วง 3 สัปดาห์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้งอบต.พร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสภาอบต และนายกอบต. ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ด้วยสโลแกน ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริตใช้สิทธิ์โปร่งใส  โดยรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่รณรงค์การเลือกตั้งอบต. ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวน 8 อำเภอ ระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจัด ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ของอำเภอทั้ง 8 อำเภอ    

ด้าน องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย ร่วมได้จัดรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ พร้อมขบวนรถกว่า 10 คัน นำเจ้าหน้าที่ ออกประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ตำบลไสไทย ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้ง 14 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 1 10,140 คน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด ในการเลือกตั้งอบต.เขตอำเภอเมืองกระบี่  

 

เชียงใหม่ - กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดงาน Northern Long Stay Fair 2021 กระตุ้นการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง ลำพูนและ แม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรม Northern Long Stay Fair 2021 กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบระยะยาว Long Stay ภายใต้โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพล้านนา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เป็นประธานกล่าวเปิดงาน  ที่ ศูนย์การค้าเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่

นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวทั้งทางด้านวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม การศึกษา รวมถึงอัธยาศัยของคนในพื้นที่ ถือว่าเป็นจุดแข็งของกลุ่มจังหวัดฯและมีนักท่องเที่ยว ธุรกิจการท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ถือได้ว่ามีความสำคัญและมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถขับเคลื่อนไปสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาคได้ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งการให้บริการการท่องเที่ยวแบบพักระยะยาว Long Stay นี้ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยววิธีการหนึ่ง ที่สามารถส่งเสริมให้แหล่งท่องเที่ยวและการบริการท่องเที่ยวมีความน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมตลอดปีเมื่อการท่องเที่ยวสามารถให้บริการได้ การจ้างงาน ก็เกิดขึ้น สินค้าทางการเกษตร ของฝาก ของที่ระลึกกิจกรรมต่างๆก็จะตามมา สามารถสร้างงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประชาชนผู้ประกอบการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนการดำเนินโครงการ Long stay อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถเข้าใจตลาดการท่องเที่ยวแบบ Long stay มากยิ่งขึ้น

ด้านนางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวทั้งทางด้านวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม การศึกษา รวมถึงอัธยาศัยของคนในพื้นที่ ถือว่าเป็นจุดแข็งของกลุ่มจังหวัดฯและมีนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay โดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่เกษียณอายุมากกว่า 50,000 คน นอกจากนั้นยังมีกลุ่มผู้สูงอายุจากประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาคือ อังกฤษ ออสเตรเลียเยอรมัน แคนนาดา และเนเธอร์แลนด์ สนใจมาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง โดยรายได้ของชาวต่างประเทศต่อเดือนที่มาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่จะอยู่ในช่วง 75,000- 100,000 บาทต่อคนต่อเดือน

 

นราธิวาส - จัดกิจกรรม สืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม! “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ แปลงนาบ้านโคกยาง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

แปลงนาบ้านโคกยาง หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธาน เปิด กิจกรรม สืบสาน วิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี นายอำเภอตากใบ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตากใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ และประชาชนชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม ในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ เกิดขึ้นโดยหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมสืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” เพื่อการฟื้นฟู รักษาประเพณี อันสวยงามในการร่วมมือ ร่วมใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ของสังคมพหุวัฒนธรรม ของพี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิม

ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ไม่ใช่มีแค่เรื่องดำนายังมีเรื่องกินเหนียวงานแต่ง งานฮารีรายอ ที่คนสมัยก่อนได้ทิ้งไว้เป็นมรดก มันเป็นนัยยะสำคัญของภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ในกระบวนการสร้างความรัก สร้างความเข้าใจต่อกัน  การสร้างสภาวะแวดล้อม ให้เกื้อกูลต่อการหนุนเสริมความไว้วางใจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย  ที่จะนำไปสู่เพื่อความสันติสุข นำสู่แนวคิดความเป็น“พลเมืองในบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม” กระตุ้นให้เกิดกลไก การจัดการชุมชนตามธรรมชาติ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพผู้นำและประชาชน ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ทรัพยากร ภูมิปัญญาและวิถีชุมชนที่ยั่งยืน เนื่องด้วยอำเภอตากใบ  เป็นแหล่งปลูกข้าวของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการปลูกสืบทอดกันจนเป็นวิถีชีวิต แต่ด้วยสภาพความเปลี่ยนไป ของบริบททั้งด้านสังคมและพื้นที่ ทำให้พื้นที่ทำนาลดลง แต่ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญ ในการสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและชุมชน กระผมต้องขอชื่นชมท่านทั้งหลาย ที่รวมกลุ่มกันปลูกข้าว ร่วมกันพัฒนาการผลิตและการตลาด  

โดยกิจกรรมการลงแขกดำนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี  เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือของคนในชุมชน พี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งมีความหลากหลาย ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับนโยบาย ของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องการให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ดีขึ้น เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นำมาสู่การอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุขที่แท้จริงในสังคม

 

ประจวบคีรีขันธ์ - ผวจ.ประจวบฯ เปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก!! สู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 เชิงรุก ที่โรงยิมเนเซี่ยม 2 สนามกีฬากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายแพทย์วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ นายแพทย์ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นายสินาทร โอ่เอี่ยม ปลัดจังหวัดฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี มีบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ มาให้บริการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนก้า เข็ม 1 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนทางระบบหมอประจวบพร้อม Version2 ลำดับคิวที่ 1,201-1,700 และผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 การให้บริการวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เข็ม 2 สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาตามนัดเดิม (มีใบนัด) จำนวน 100 ราย และการให้บริการวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เข็ม 3 สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม (ที่มีรายชื่อตามประกาศของ สสจ.ประจวบคีรีขันธ์) จำนวน 100 ราย

นายแพทย์ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลรณรงค์สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนสู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2564 โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ จึงได้เปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก นอกสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนให้ถึงตามเป้าหมายภาพรวมทั้งประเทศ ส่วนประชาชนที่ยังเป็นกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนหรือยังรอชนิดวัคซีนที่ต้องการ จะมีการรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อจะได้มาเข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งต่อไป

ปทุมธานี- ผู้ว่าฯ ปทุมธานี เป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เวลา 09:09 น. ที่ โดมอเนกประสงค์ วัดแสงสรรค์ คลอง2 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีเปิดจิตอาสาพระราชทาน เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทำความสะอาดวัดแสงสรรค์ และคลองส่งน้ำหน้าวัด(คลอง2) เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ 5 ธันวาคม 2564

โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นางสาวกันตรัตน์ เริ่มสูงเนิน นายอำเภอธัญบุรี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต พร้อมด้วย คณะจิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่องการบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่จากเทศบาล 4 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลนครรังสิต เทศบาลเมืองบึงยี่โถ เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ เทศบาลตำบลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานส่วนราชการในอำเภอธัญบุรี เข้าร่วมพิธีการและทำกิจกรรมจิตอาสาฯ ในครั้งนี้

 

สงขลา - “นิพนธ์ฯ” เปิดงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 11 (MONEY HATYAI 2021) หนุนผู้ประกอบการ - พี่น้องเกษตรกร เข้าถึงแหล่งเงินทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ - เพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินภาคใต้ กระจายทั่วประเทศ!!

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 11 (MONEY EXPO HATYAI 2021) ที่ วารสารการเงินธนาคาร ซึ่งได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “future Wealth” โดยมีคุณสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานการจัดงาน กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย คุณสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้บริหารธนาคารพานิชย์ สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสร้างโอกาสให้ประชาชนและผู้บริโภคในภาคใต้ ได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์บริการทางการเงินการลงทุน รวมทั้ง การให้ความรู้ทางการเงินต่อผู้เข้าชมงาน ให้สามารถวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินของตนเองและครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำพาประชาชนไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจหาดใหญ่และภาคใต้ สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการบริโภคภายในประเทศ และเพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินให้กระจายไปยังกลุ่มต่าง ๆ ของประเทศ

 

กรุงเทพฯ - ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ รุ่นที่ 18

พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดการอบรม หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ รุ่นที่ 18 ประจำปีงบประมาณ 2565 ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ภายใต้มาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวด

กองทัพเรือ เปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ (พสบ.ทร.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภายนอกกองทัพเรือ เกิดประโยชน์ในการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มมวลชน เพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพเรือ พร้อมเพิ่มความรับรู้ข้อมูลของภาคประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญทางทะเล โดยเป็นการอบรมหลักสูตรร่วมระหว่าง ข้าราชการและพลเรือน ซึ่งจะเปิดให้ข้าราชการพลเรือนและผู้บริหารองค์กรภาคเอกชน เข้าร่วมอบรมหลักสูตรกับนายทหารสัญญาบัตร ของกองทัพเรือ และเหล่าทัพอื่นที่ชั้นยศไม่ต่ำกว่านาวาเอก หรือเทียบเท่า

สำหรับผู้เข้าอบรม หลักสูตร พสบ.ทร.รุ่นที่ 18 มีจำนวนทั้งสิ้น 97 คน โดยแบ่งเป็นข้าราชการกองทัพเรือ 20 นาย ข้าราชการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 นาย ข้าราชการพลเรือนและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ระดับ 8 ขึ้นไป จำนวน 2 คน และบุคลากรจากภาคเอกชนระดับผู้บริหาร และเจ้าของกิจการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้การจัดอบรม จะมีการบรรยายให้ความรู้ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จากส่วนราชการและสถาบันต่าง ๆ

กาฬสินธุ์ - เตือนลมหนาวพัดแรง ไฟไหม้ทุ่งนา ค่าฝุ่นละออง 2.5 เพิ่ม!!

สภาพอากาศที่จังหวัดกาฬสินธุ์หนาวจัด ลมหนาวทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเหตุไฟไหม้ โดยเฉพาะบริเวณทุ่งนาบ่อยครั้ง ขณะที่นายอำเภอยางตลาด เตือนประชาชน เฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย และไฟไหม้ทุ่งนา ทำค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 สูงขึ้น เป็นสาเหตุเกิดมลภาวะเป็นพิษ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แนะชาวบ้านเร่งเก็บรักษาฟางหลังเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อป้องกันเหตุและสำรองเป็นอาหารสัตว์ในฤดูแล้ง

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ พบว่าอุณหภูมิยังคงต่ำ มีลมหนาวกระโชกแรงตลอดวัน ส่งผลกระทบต่อสุขของประชาชน ในกลุ่มเด็ก คนชราและผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะเดียวกันยังพบว่า เกิดเหตุไฟไหม้ทุ่งนาบ่อยครั้ง ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และสุขภาพอนามัยประชาชน รวมทั้งหมอกควันที่เกิดจากการเผาไหม้ ยังบดบังทัศนวิสัยในการใช้รถใช้ถนน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ด้านนายสันติ จัตุพันธ์ นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ฤดูหนาวที่สภาพอากาศแห้งแล้งและมีลมแรง เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเกิดอัคคีภัยได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณทุ่งนา ซึ่งมีฟางแห้งเป็นเชื้อไฟอย่างดี จึงมักจะเกิดเหตุไฟไหม้ทุ่งนาเป็นประจำ ประกอบกับมีลมพัดแรง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ลามทุ่งอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ทางอำเภอได้แจ้งเตือนไปยังกำนัน ใหญ่บ้าน ประชาชน ร่วมกันเฝ้าระมัดระวังเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ และเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม รวมทั้งกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชน ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 สูงขึ้นอีกด้วย

นายสันติกล่าวอีกว่า ในส่วนของประชาชนที่ประกอบอาชีพทำนา หลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ควรที่จะรีบจัดการจัดเก็บฟางไว้ในที่ปลอดภัยให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ และเก็บไว้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงในฤดูแล้ง นอกจากนี้ ผลดีของการเก็บฟางแห้งหรืออัดก้อน ยังได้ประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น จำหน่ายก้อนละ 25 บาท หรือนำไปประดับอาคาร สถานที่ เป็นจุดเช็คอินที่สวยงาม หรือไม่อย่างนั้นก็รีบทำการไถกลบ เพื่อให้เกิดการย่อยสลายเป็นปุ๋ยชีวภาพ ที่จะช่วยบำรุงดิน ลดต้นทุนใช้ปุ๋ยเคมี ในการทำนาครั้งต่อไปได้เป็นอย่างดี

ประจวบคีรีขันธ์ - มอบตรา SHA SHA+ ให้รถโดยสารสาธารณะหัวหิน สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว

วันที่ 8 ธ.ค. นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายเจนวิท ผลิศักดิ์ ผช.สาธารณสุข อ.หัวหิน นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ขนส่งจังหวัดประจวบฯ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA และ SHA + ประจวบคีรีขันธ์ และมาตรฐาน HDC เทศบาลเมืองหัวหินให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะในเขต อ.หัวหิน จำนวน 87 คัน ที่บริเวณสวนสาธารณะโผน กิ่งเพชร เขตเทศบาลเมืองหัวหิน

นายนพพร กล่าวว่า ในส่วนของ จ.ประจวบฯได้กำหนดแนวทางมาตรการที่เข้มข้นในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้จัดทำมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อโควิด โดยนำแนวทางมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ของ ททท. มาเพิ่มเติมข้อปฏิบัติให้มีมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น เน้นให้ทุกสถานประกอบการนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยนำมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ผนวกกับมาตรฐาน ALQ ของสถานกักกันแห่งรัฐ มาตรฐานสถานประกอบการแต่ละประเภท มาตรการ Thai Stop Covid Plus ของกรมอนามัย การใช้น้ำฆ่าเชื้อโรค ขั้นตอนทำความสะอาด เพื่อให้มาตรฐาน SHA+ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรคทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการ อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาคของโควิด-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการในเขต จ.ประจวบฯ-เพชรบุรี

นายอิศรา กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในจังหวัดตอนนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เยอะมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ศุกร์ - อาทิตย์ มีอัตราการเข้าพักประมาณ 80-90% บางแห่งก็เต็ม โดยเฉพาะในอำเภอหัวหินมีที่ห้องพักกว่าหมื่นห้อง เพราะฉะนั้นจะสามารถรองรับนักนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในพื้นที่ขณะนี้ประมาณ 100 คน เพราะฉะนั้นถือว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ส่วนหน่วยงานในพื้นที่อย่างเทศบาลเมืองหัวหิน ,สาธารณสุขอำเภอหัวหิน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกันรณรงค์ดูแลเรื่องมาตรการและสุขอนามัย เรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะ SHA และ SHA+ มีการมอบสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ให้กับผู้ประกอบการรถสาธารณะก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะว่าพวกเขาสัมผัสกับนักท่องเที่ยวโดยตรง การที่ผู้ที่ขับรถสาธารณะมีความรู้ มีการอบรมเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ก็ช่วยในเรื่องของการป้องกันและควบคุมโรคได้เป็นอย่างดี

ด้านนายกิติพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ในส่วนผู้ประกอบการรถสาธารณะในเขตอำเภอหัวหินที่ได้ผ่านมาตรฐาน SHA  SHA+ ประมาณ 87 คัน ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยๆทำเพิ่มกันอยู่ ซึ่งจะเป็นในชุดที่ 4 และชุดที่ 5 อยากเชิญชวนผู้ประกอบการรถโดยสารที่ยังไม่ได้ทำมาตรฐาน SHA ให้มาทำมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับตัวท่านและผู้โดยสาร เพื่อเป็นมาตรฐานในการให้บริการรถในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครับ

 

กรุงเทพฯ - โรงเรียนนายเรือ พัฒนาทำความสะอาด และมอบอุปกรณ์ ATK 400 ชุด ให้โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพฯ

โรงเรียนนายเรือ จัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในการพัฒนา และทำความสะอาด พร้อมมอบอุปกรณ์ Antigen Test Kit หรือชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน 400 ชุดให้แก่ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ  พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564  

พลเรือตรี สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือนำกำลังพลจิตอาสาโรงเรียนนายเรือ ร่วมกับครู อาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ

“เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในการพัฒนา และทำความสะอาดโรงเรียนวัดบวรนิเวศ พร้อมมอบอุปกรณ์ Antigen Test Kit หรือชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน  ให้แก่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ณ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top