Thursday, 15 May 2025
Region

เพชรบูรณ์ - โครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายพ่อขุนผาเมือง (กองพลทหารม้าที่ 1) มอบพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ จำนวน 13 ครัวเรือน

กองพลทหารม้าที่ 1 ได้จัดพิธีมอบพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ให้กับเครือข่ายเกษตรกร กำลังพลและทหารพันธุ์ดีที่มีความประสงค์ ขอรับพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ จำนวนทั้งสิ้น 13 ครัวเรือน ประกอบด้วยต้นพันธุ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร กบนา ไก่ดำ และหมูป่า

ตามที่ กองพลทหารม้าที่ 1 ได้ดำเนินโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายพ่อขุนผาเมือง (กองพลทหารม้าที่ 1) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อผลิตพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีสายพันธุ์ที่ดีตอบสนองต่อ ความต้องการของเกษตรกร ตลอดจนการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช ส่งเข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก สำหรับนำไปช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และพระราชทานแก่ราษฎรทั่วไป

ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา การดำเนิน โครงการมีความก้าวหน้ามาโดยต่อเนื่อง มีพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ที่เพียงพอสำหรับแจกจ่าย ให้กับเครือข่ายเกษตรกรแนวร่วม โครงการทหารพันธุ์ดี กำลังพลและทหารพันธุ์ดีของหน่วย นำไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ เพื่อสร้างแหล่งอาหาร สำหรับใช้บริโภคในครัวเรือน และนำไปต่อยอดในการสร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวต่อไป 


ภาพ/ข่าว  ราเมธ บงแก้ว / มนสิชา คล้ายแก้ว

ชลบุรี - ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการมอบต้นกล้าผักสวนครัวจาก “สวนผักรักษ์สุข” ให้กำลังพล เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์เริ่มต้นตามแนวทางศาสตร์พระราชาสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

วันที่ 24 ส.ค. 64 พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีมอบต้นกล้าผักสวนครัวจากผลผลิตของ “สวนผักรักษ์สุข” ให้กับ น.อ.กฤษฎา จิระไตรพร ผู้บังคับการกองสนับสนุน กองเรือยุทธการ เพื่อนำไปมอบให้กับกำลังพลกองเรือยุทธการ โดยมีคุณสุนันท์  สมานรักษ์ ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชากองเรือยุทธการ ร่วมในพิธี ณ สวนผักรักษ์สุข บ้านพักนายทหารผู้ใหญ่กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

กองเรือยุทธการได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลของกองเรือยุทธการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากนโยบายผู้บัญชาการกองเรือยุทธการประจำปี งบประมาณ 2564 กำหนดให้มีการส่งเสริม สนับสนุนหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ และ ครอบครัว ปลูกผักสวนครัว โดยได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือ “ศาสตร์พระราชา” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนารถบพิตร รัชกาลที่ ๙ มาเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่กำลังพลกองเรือยุทธการ และได้มีแนวทางปฏิบัติ ให้หน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ พิจารณาใช้พื้นที่บริเวณรอบอาคารกองบัญชาการของหน่วยปลูกผักสวนครัว ประกอบกับใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางจัดการต่อผลผลิตเพื่อใช้เป็นอาหารในครัวเรือน ซึ่งจะส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัว

ในการนี้ชมรมภริยากองเรือยุทธการ ได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ พัฒนาพื้นที่โดยนำ “โคก หนอง นา โมเดล” เป็นแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่ว่างบริเวณบ้านพักนายทหารผู้ใหญ่ กองเรือยุทธการ จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ “สวนผักรักสุข” ตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2564 ปัจจุบัน พืช ผัก ผลผลิตเจริญงอกงาม สามารถจำหน่าย ทำให้เกิดรายได้ และนำมาแจกจ่ายให้แก่กำลังพลของกองเรือยุทธการได้อีกด้วย

การมอบต้นกล้าผักสวนครัวที่ปลูกใน “สวนผักรักษ์สุข” จำนวนกว่า 800 ต้น ประกอบด้วยฟ้าทะลายโจร , มะเขือ , พริก และโหระพา เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ครอบครัวที่มีความตั้งใจในการดำเนินกิจกรรมแต่ขาดปัจจัยการผลิต ได้มีปัจจัยต้นทุนของการผลิตเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้กำลังพลและครอบครัวของกองเรือยุทธการ สามารถเริ่มต้นปลูกผักสวนครัว ในพื้นที่บริเวณบ้านพักตนเอง เพื่อใช้เป็นอาหารในครัวเรือน ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้อย่างดี เป็นจุดเริ่มต้นของการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้อย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

อยุธยา – เทศบาลเมืองลำตาเสา เริ่มฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มเข็มแรก พร้อมนายกเทศมนตรีเมืองลำตาเสา ได้ร้องเพลงให้ประชาชนที่นั่งรอสังเกตอาการฟัง

วันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ เทศบาลเมืองลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวนกุล นายกอบจ.พระนครศรีอยุธยา นาง สมศรี พันธ์เจริญวรกุล นายกเทศมนตรีเมืองลำตาเสา ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล จากโรงพยาบาลพญาไท1 ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ที่ได้รับการจัดสรรมาจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของเทศบาลเมืองลำตาเสา  

โดยทางเทศบาลเมืองลำตาเสาจัดสถานที่ จุดคัดกรอง ฉีดวัคซีน จุดรอสังเกตอาการหลังการฉีดวัคซีน  ซึ่งทางเทศบาลเมืองลำตาเสาได้รับการจัดสรรมา จำนวน 3,500 โดส ในรอบแรกจะฉีดวัคซีน วันละ 500 คนต่อวัน เป็นเวลา 3 วัน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด แลระจะเร่งฉีดวัคซีนในรอบที่2 ต่อไปเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในจุดที่รอสังเกตอาการหลังรับการฉีดวัคซีน ประชาชนต้องรอประมาณ 30 นาที เพื่อเป็นการคลายกังวลของประชาชน ทางเทศบาลได้ให้มีการแสดงดนตรี นางสมศรี พันธ์เจริญวรกุล นายกเทศบาลเมืองลำตาเสา ได้ร้องเพลง ให้ประชาชนที่นั่งรอสังเกตอาการฟังเพลงทั้งเพลงในจังหวะ สนุกสนาน และจังหวะที่ผ่อนคลาย สร้างความสนุกสนานทั้งผู้รับการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่เทศบาล และพยาบาลที่มาให้บริการฉีดวัคซีนด้วย


ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญอาหารพระราชทาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอาหาร แก่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  โดย พลเอก ศิวะ  ภระมรทัต ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ เป็นผู้อัญเชิญอาหารพระราชทาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมี นายแพทย์โชคชัย ลีโทชวลิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้แทนรับมอบ พร้อมทีมผู้บริหาร ทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เข้าร่วมพิธีรับพระราชทานอาหารเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และพสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอาหาร แก่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ ที่เสียสละกำลังกาย และอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งประกอบเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ได้แก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว และน้ำยาป่าลูกชิ้น พร้อมทั้งพระราชทาน เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาดังกล่าวอีกด้วย 


ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

สุรินทร์ - มณฑลทหารบกที่ 25 บูรณาการ เปิดการฝึกซักซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปีงบประมาณ 2564

วันที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่ สโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีเปิดการซักซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมี พันเอกรุจหาญ รุจธารจรูญ หัวหน้ากองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 25 กล่าวรายงาน ซึ่งกองทัพบกได้อนุมัติให้หน่วยดำเนินการฝึกซ้อมบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือประชาชน ระดับมณฑลทหารบก

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาองค์ความรู้ และเพิ่มศักยภาพกำลังพล ให้เข้าใจระบบการควบคุมบังคับบัญชา ขอบเขตความรับผิดชอบ มีความรู้ความสามารถในการประเมินสถานการณ์ แนวโน้มทิศทางและระดับความรุนแรง พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 25 จึงจัดให้มีการฝึกซักซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระหว่างวันที่ 24 ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2564

โดยจัดกำลังพลเข้ารับการฝึกจากหน่วยงานภายใต้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งทหาร พลเรือนและภาคประชาชน จำนวน 60 นาย ประกอบไปด้วย มณฑลทหารบกที่ 25  โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลนอกเมือง ทำการฝึก 3 ส่วนหลักได้แก่ ส่วนบังคับบัญชา ส่วนปฏิบัติการ และส่วนสนับสนุน ด้วยวิธีการแก้ปัญหาบนโต๊ะหรือในที่บังคับการ การฝึก 3 สถานีได้แก่ สถานีหลักการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน(CPR) สถานีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นและการดับเพลิง และสถานีปฏิบัติการพายเรือ การใช้เครื่องยนต์ การช่วยเหลือคนจมน้ำ และจัดให้มีการตรวจความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือและการฝึกบรรเทาสาธารณภัยในสถานการณ์จำลอง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ในการปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

ปทุมธานี – “บิญฑ์ –ไทด์” 2 ดารากิจอาสา เหมาบ่อปลากะพงมาขายราคาถูก เพื่อช่วยหลือผู้เลี้ยงปลา ในช่วงระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19

วันที่ 25 ส.ค 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากแฟลตคอม ตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานีพบ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง ได้นำปลากระพง มาจำหน่ายราคาถูก ให้กับพี่น้อง หมู่ 5 ต.คูบางหลวง ชาวแฟลตคอม ในราคาโลละ 50 บาท มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากให้ตวามสนใจเข้ามาซื้อปลา

ด้าน คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้กระผมพร้อมด้วยทีมงานได้เหมาบ่อปลากระพงมาให้พี่น้องได้บริโภคของดีราคาถูกจำนวน 4 ตันและยังมีขนมหม้อแกง พร้อมด้วยฟักทองมาแจกให้กับพี่น้องชาวแฟลตคอมด้วย”

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายอนุสรณ์ บุญมั่น ประชาชนชาวตำบลคูบางหลวง ที่ได้มาต่อแถวซื้อปลากระพง ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ คุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ / คุณเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ และทีมงานที่ได้นำ ปลากะพงสด ๆ จากบ่อมาจำหน่ายในราคาถูกวันนี้เลยมาซื้อ จำนวน 4 กิโลกรัม เพื่อนำไปประกอบอาหาร ในค่ำคืนนี้และอยากจะให้ดาราทั้ง 2 ท่านได้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายที่นี่อีกครั้งครับผม”


ภาพ/ข่าว  สหรัฐ แก้วตา รายงาน

สระบุรี - รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีน "ซิโนแวค” ให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค ในเขตตำบลตาลเดี่ยว

วันนี้ 25 ส.ค. 64 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี นางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีน "ซิโนแวค” ให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค ในเขตตำบลตาลเดี่ยว โดยมี นายอำเภอแก่งคอย นายก อบต.ตาลเดี่ยว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี และบุคลากรทางการแพทย์ ให้การต้อนรับ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้พบปะทักทายเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายซึ่งมาให้บริการประชาชน รว และให้กำลังใจกับประชาชนที่มารอรับการฉีดวัคซีน ซึ่งวันนี้มีกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค ที่ได้ลงทะเบียนไว้ และมารับบริการ รวม 1,000 คน

สำหรับตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายแห่ง และช่วงที่ผ่านมาพบว่าเกิดคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอแก่งคอยหลายแห่ง ทำให้พนักงานในโรงงานนำเชื้อมาติดคนในครอบครัวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรค สตรีมีครร 12 สัปดาห์ขึ้นไปให้เร็วที่สุด


ภาพ/ข่าว  ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน

กรุงเทพฯ - มูลนิธิมาดามแป้ง ร่วมกับ เมืองไทยประกันภัย ส่งกล่องน้ำใจให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 HI ในชุมชนคลองเตย และ20 จังหวัดทั่วประเทศ

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 มูลนิธิมาดามแป้ง ร่วมกับ บมจ. เมืองไทยประกันภัย ส่งมอบกล่องน้ำใจมูลนิธิมาดามแป้ง #ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ให้แก่ศูนย์บริการสาธารณสุข 41 เพื่อส่งต่อให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่พักรักษาตัวแบบ HI : Home Isolation ในเขตคลองเตย 450 กล่อง โดยมีนางกอบกุล จันทร์ตระกูล หัวหน้ากลุ่มงานพยาบาลและบริหารทั่วไป เป็นตัวแทนผู้รับมอบ และอีก 50 กล่อง ได้มอบให้กับผู้ป่วยที่เดือดร้อนในต่างจังหวัดใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ เชียงราย กาฬสินธุ์ สุพรรณบุรี สงขลา ฯลฯ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 200,000 บาท โดยกระจายไปอย่างทั่วถึงผ่านกลุ่มอาสากล้าใหม่มูลนิธิมาดามแป้ง

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ในสถานการณ์เช่นนี้ยอมรับได้ว่าทุกพื้นที่ต่างก็ได้รับผลกระทบ ในฐานะที่ทำงานกับคนในชุมชนคลองเตยใกล้ชิดตลอด 7 ปี ซึ่งได้ส่งความห่วงใยไปถึงทุกคนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมา จึงได้จัดทำกล่องน้ำใจ #ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ขึ้น ซึ่งของใช้ด้านในนอกจากเป็นของจำเป็นที่เราคัดสรรอย่างดีแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนมาจากภาคเอกชน และเงินบริจาคของประชาชนที่กรุณาร่วมบุญกับเรามาตลอดด้วย นับเป็นการส่งต่อน้ำใจจากทุกโมเลกุลของสังคมอย่างแท้จริง”

“สำหรับของภายในกล่องน้ำใจนั้น ประกอบด้วย ยาสามัญประจำบ้าน อาหารแห้ง อย่างข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง และสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วย ได้แก่ ปรอทวัดไข้ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอลล์ ฯลฯ ซึ่งเรายังได้วางแผนให้ความช่วยเหลือสังคมกระจายออกไปมากที่สุดและอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” มาดามแป้ง กล่าวเพิ่มเติม

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ สามารถบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย บัญชีเลขที่ 092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ หรือร่วมสมัครเป็นทีมอาสากล้าใหม่กับเราได้ที่ http://bitly.ws/dsfM

กรุงเทพฯ - ผบ.ทร.มอบเสื้อเบลเซอร์ให้ "น้องแต้ว" ส่งเรียนหลักสูตรนายทหารสัญาบัตร จ่อติดยศเรือตรี

พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ของกองทัพเรือ(เสื้อเบลเซอร์)ประจำปี 2564 พร้อม ส่งเข้าอบรมหลักสูตรข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรแล้วจึงจะสามารถเข้ารับการ ประดับยศเรือตรี และยังมอบเงินรางวัลพิเศษ ให้แก่ "น้องแต้ว"อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬาเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 เป็นกรณีพิเศษ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายความสามารถการกีฬาของกองทัพเรือ ประจำปี 2564 พร้อมเงินรางวัลพิเศษ ให้แก่ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬามวยสากลหญิงทีมชาติไทย เป็นกรณีพิเศษ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พลเรือเอก วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ/ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

พลตำรวจโท ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกสมาคม/ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค/ผู้จัดการทีม พลเรือตรี ดุลยพัฒน์ ลอยรัตน์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารเรือ/ ประธานกรรมการกีฬามวยกองทัพเรือ และ พลเรือตรี ธวัชชัย ม่วงคำ หัวหน้าสำนักงานบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ร่วมพิธี เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจแก่น้องแต้ว ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง มวยสากลหญิง รุ่นน้ำหนัก 60 กิโลกรัม จากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬากีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 

โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้สวมเสื้อเบลเซอร์  ให้แก่ น้องแต้ว ซึ่งตามระเบียบกองทัพเรือ ว่าด้วยเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ประเภทนักกีฬาชั้น 1 นั้น นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะได้รับเครื่องหมายความสามารถการกีฬา ประเภทนักกีฬาชั้น 1 (เสื้อเบลเซอร์) ซึ่งเป็นเครื่องหมายความสามารถสูงสุดด้านกีฬาของกองทัพเรือ นับได้ว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งของนักกีฬา ในสังกัดกองทัพเรือ ในการที่ได้สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้แก่กองทัพเรือ และประเทศชาติ

นอกจากนั้นในส่วนของเงินรางวัลที่มอบให้แก่อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ ในครั้งนี้ประกอบด้วย เงินรางวัล 40,000 บาท และเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน เดือนละ 5,000 บาท โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์การเสนอขอเลื่อนยศและการให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬากองทัพเรือเป็นกรณีพิเศษ ตามที่กองทัพเรืออนุมัติเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2550  ที่ระบุไว้ว่า " ในส่วนของนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะได้รับเงินรางวัลจากสวัสดิการกองทัพเรือ จำนวน 40,000 บาท และเงินค่าตอบแทนรายเดือนจากกองทุนพัฒนากีฬากองทัพเรือ เดือน 5,000 บาท จนกว่าจะเกษียณอายุราชการ บำเหน็จ 2 ขั้นและการเลื่อนยศ" ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชมในความสำเร็จของแต้ว ซึ่งนับเป็นการสร้างชื่อเสียง รวมถึงเกียรติประวัติให้แก่ครอบครัว ประเทศชาติ และกองทัพเรือ เป็นอย่างมาก โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

"กีฬาเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาคนให้มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีสมรรถภาพทางกายและทางจิตใจที่เข้มแข็งสมบูรณ์ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 ที่ผ่านมานี้ นักกีฬาทีมชาติไทยได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีเยี่ยม ในการแสดงออกถึงความเป็นนักสู้ ผู้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งถือได้ว่าเป็นความสำเร็จและมีความสำคัญยิ่งกว่าผลของการแข่งขัน ผมขอชื่นชมน้องแต้ว และนักกีฬาทุกท่าน ที่เสียสละเวลาและความสุขสบายส่วนตนตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งผลจากความมุ่งมั่นตั้งใจเหล่านั้น ทำให้ท่านทั้งหลายได้ก้าวสู่ความสำเร็จ ในการนำชื่อเสียงและเกียรติประวัติ มาสู่ประเทศชาติและราชนาวี  ทั้งจะเป็นแรงผลักดันให้ท่านตั้งใจฝึกซ้อมพัฒนาทักษะทางการกีฬาของตนเองต่อไป"

ขณะที่ความคืบหน้าการบรรจุ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ เพื่อเข้ารับราชการในกองทัพเรือตามข่าวที่เคยออกมาก่อนหน้านั้น พลเรือเอก วศินสรรพ์ฯ เผยว่า อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจาก คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท จากคณะศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศาสนาและวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข ซึ่งตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศและเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้น  ในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป ให้เสนอขอปรับวุฒิ และแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามหลักเกณฑ์จะเสนอเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตร ได้รับการแต่งตั้งยศเป็น “เรือตรี” โดยในขณะนี้กองทัพเรือ ได้บรรจุ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ ในตำแหน่ง “อาจารย์พละศึกษา แผนกปกครอง วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ” โดยในขณะนี้ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ อยู่ในระหว่างเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรแล้วจึงจะสามารถเข้ารับการ ประดับยศ เรือตรี ต่อไป

ด้าน อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรฯ กล่าวว่า “ความสำเร็จของแต้วในวันนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งสมาคมมวยสากลฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพเรือ ที่นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในชีวิตการรับราชการ และได้เปิดโอกาสให้แต้วได้ทำตามความฝัน ซึ่งแม้จะไม่เป็นไปตามความฝันในครั้งนี้ แต่อีกฝันหนึ่งของแต้ว ที่กำลังจะกลายเป็นความจริง ก็คือการได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือ

สุดท้ายนี้ แต้วต้องขอขอบคุณ ท่านผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ให้การสนับสนุนและให้รางวัลด้วย การให้บรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โดยในขณะนี้แต้วกำลังเข้ารับการศึกษาอบรมในหลักสูตรข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร รุ่นที่ 34 ร่วมกับเพื่อน ๆ อีกเกือบ 50 คน โดยในช่วงแรกจะเป็นการเรียนออนไลน์ และช่วงหลังจะเป็นการฝึกที่โรงเรียนนายเรือ เพื่อให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษามีความเป็นทหารทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงได้รับความรู้ และประสบการณ์ต่าง ๆ จากครูผู้สอน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามหน้าที่ของแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอสัญญาว่าพร้อมที่จะสู้ใหม่อีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส อย่างแน่นอน”

ปัตตานี - จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ 12 อำเภอ บรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรในสถานการณ์การโควิด-19เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัดปัตตานี ได้บูรณาการเปิดให้บริการประชาชนภายใต้โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 ณ สำนักงานเกษตรจังหวัดปัตตานี

นายชาลี สิตบุศย์ เกษตรจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า การจัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 14 หน่วยงาน กิจกรรมภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การปล่อยขบวนรถคาราวานออกให้บริการความรู้และปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกร ณ จุดให้บริการในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ มีเป้าหมายเกษตรกร 360 ราย เพื่อให้บริการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างรวดเร็วทั่วถึงและครบถ้วน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top