Wednesday, 14 May 2025
Region

ชลบุรี - ทัพเรือภาคที่ 1 มอบอาหารกล่องจาก “ครัวเรือรบ” ภายใต้แนวคิด “From The Sea” ต้านภัยโควิด-19 ให้ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ป่วย และเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

วันที่ 1 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น. พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พลเรือตรี จรัญวีร์  ญาดี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และ คุณนุชนภา อินทร์พรหม ประธานชมรมภริยาทหารเรือ ทัพเรือภาคที่ 1 เดินทางไปมอบอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่ม จำนวน 86 ชุด ณ จุดประชาสัมพันธ์ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ภายใต้โครงการมอบอาหารกล่องจาก “ครัวเรือรบ” ภายใต้แนวคิด “From The Sea” ต้านภัย COVID-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ป่วย COVID-19 และเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นนักรบชุดกราวน์ ที่ต้องรับมือกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยตรง โดยมี พลเรือตรี ชลธร สุวรรณกิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ให้การต้อนรับ และนำไปแจกจ่ายให้แก่ ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ณ โควิดคลินิก และแจกจ่ายให้แก่บุคลากรแพทย์และพยาบาลด่านหน้าที่ต้องต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ต่อไป

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 มาเข้ารับบริการที่โควิดคลินิก รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อจำเป็นต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการคัดแยก ให้ความรู้ และรับไว้รักษา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และจะต้องอยู่ในพื้นที่จำกัดบริเวณโดยไม่สามารถออกไปรับประทานอาหารกลางวันได้

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จึงได้มีนโยบายให้การสนับสนุนในโครงการมอบอาหารกล่องจาก “ครัวเรือรบ” ภายใต้แนวคิด “From The Sea” ต้านภัย COVID-19 มอบให้ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่โควิดคลินิก อีกทั้งยังเป็นการให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ โครงการนี้ได้จัดขึ้นตั้งแต่ วันที่ 11 สิงหาคม 2564 เรื่อยมาอย่างต่อเนื่อง รวมอาหารกล่อง พร้อมน้ำดื่มที่ได้ให้การสนับสนุนไปแล้วทั้งสิ้น จำนวน 1,116 ชุด และจะยังคงให้การสนับสนุนเช่นนี้ไปจนถึงวันที่ 9 กันยายน 2564 โดยที่ผ่านมาในโครงการนี้มีกำลังพลจากหมวดเรือเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน และหมวดบินเฉพาะกิจ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจัดทำอาหารกล่องมามอบให้แก่ทางโรงพยาบาล ภายใต้โครงการดังกล่าวด้วย

“ครัวเรือรบ From The Sea” ต้านภัย COVID-19

#พลังสามัคคีพลังราชนาวี

#ทัพเรือภาคที่1


ภาพ/ข่าว  กองกิจการพลเรือนทัพเรือภาคที่ 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี

สตูล - ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล จัดกิจกรรม "อาสาสมัครรักษ์ทะเลไทย ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล"

วันนี้ 1 กันยายน 2564  ที่ บารารีสอร์ท ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.จังหวัดสตูล) จัดกิจกรรม "อาสาสมัครรักษ์ทะเลไทย ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล" ในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนาวาเอก จุมพจน์ เสนาะพิณ รองผอ.ศรชล.จังหวัดสตูล ,หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายอาสาสมัครนักดำน้ำเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ทะเลของจังหวัดสตูล เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยทรัพยากรแนวปะการัง แหล่งหญ้าทะเล สัตว์ทะเลหายาก ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล รวมถึงมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความสวยงาม มีการพัฒนาตามแนวชายฝั่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาขยะเพิ่มขึ้นตามมา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจากลดปริมาณขยะในทะเลแล้ว ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ให้กับชุมชน ชาวประมง ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะรอเพียงหน่วยงานราชการที่กำกับดูแลด้านการรักษาทรัพยากรให้คงอยู่ในสภาพสมบูรณเพียงฝ่ายเดียวคงเป็นไปได้ยาก ประชาชน และทุกภาคส่วน จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อปกป้องรักษา ร่วมกันในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และใช้ประโยชนร่วมกันอย่างยั่งยืน

นาวาเอก จุมพจน์ เสนาะพิณ ผอ.ศรชล.จังหวัดสตูล กล่าวว่า กิจกรรม "อาสาสมัครรักษ์ทะเลไทย ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน 2564 มีผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นเครือข่ายอาสาสมัครนักดำน้ำ จำนวน 20 คน ดำน้ำลงไปเก็บขยะใต้ทะเลขึ้นมาทำลาย เพื่อลดปริมาณขยะในทะเล และบริเวณชุมชนชายฝั่ง โดยไม่ให้มีผลกระทบกับแหล่งทรัพยากรทางทะเล ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน อนุรักษ์ และฟื้นฟู แหล่งทรัพยากรแนวปะการัง แหล่งปะการังเทียม ที่ได้รับความเสียหายจากการปกคลุมของขยะชนิดต่าง ๆ รวมถึงเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้ความรู้ สร้างจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วมให้แก่ชุมชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ในการป้องกันขยะลงสู่ทะเล ต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ลำปาง - มทบ.32 นำถุงยังชีพมอบช่วยเหลือประชาชน ห้วงสถานการณ์โควิด-19 ทหารพร้อมเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน ในทุกโอกาส

“ภัยโควิดทำชีวิตลำบาก ทหารอาสาช่วยขจัดความทุกข์ยาก ตามขีดความสามารถที่มี ค่ายสุรศักดิ์มนตรีพร้อมเคียงข้าง ดูแลชาวเขลางค์ด้วยใจ” ในห้วงสถานการณ์โควิดปัจจุบัน ยังคงมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่ได้รับผลกระทบฯมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก/เดือดร้อน ในการนี้ มณฑลทหารบกที่ 32/ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 32 ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ได้จัดถุงยังชีพ/สิ่งของอุปโภคบริโภคจำนวนหนึ่งตามที่หน่วยมี นำมามอบให้ “มีแล้วแบ่งปัน” ช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อ 1 กันยายน 2564 เวลา 10.30 น. พลตรีอโณทัย  ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วยพันเอกถิรวัฒน์ ศรีสุวรรณ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32/เสนาธิการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 32 ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่มีฐานะยากจน, ป่วยติดเตียง จำนวน 4 รายในพื้นที่บ้านท่าส้มป่อย ตำบลทุ่งฝาย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งในจำนวนนี้มีคุณยายคุ่ย กาวิวงศ์ อายุ 102 ปีรวมอยู่ด้วย สร้างความดีใจ และอบอุ่นใจเกิดแก่ครอบครัวที่หน่วยเข้าให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหน่วยจะดำเนินกิจกรรม “มีแล้วแบ่งปัน” ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง...ทหารพร้อมเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน ในทุกโอกาส


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

กระบี่ - สถาปัตยุคศรีวิชัย "พระธาตุวัดคลองท่อม" เป็นสถาปัตยกรรมถอดแบบยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย กำลังก่อสร้างใหญ่ที่สุดภาคใต้ (สูง49 ม.)และพบได้ไม่กี่แห่งในไทย

"พระธาตุวัดคลองท่อม" เป็นสถาปัตยกรรมถอดแบบยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ปัจจุบัน ความงดงามแบบนี้ มีไม่กี่แห่ง พบในภาคใต้ ซึ้งปัจจุบันกำลังก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่สุดในภาคใต้ (ความสูง 49 เมตร) ณ.วัดคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ด้วยแรงศรัทธาเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยพระครูสถิตนราธิการ และสาธุชนทั้งหลาย ร่วมกันทำบุญบริจาค

โดยลักษณะ "พระธาตุวัดคลองท่อม"เป็นสถูปทรงมณฑปให้มีฐานและเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม ส่วนฐานปากระฆังสร้างเป็นชึ้นลดหลั่นกันไป มีเจดีย์ประดับมุมและซุ้มบันแถลงในแต่ละทิศ

ยุคศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 13 - 18)

ยุคศรีวิชัย พบในภาคใต้ ศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยไม่ทราบแน่ชัด ในประเทศไทยจะพบร่องรอยการ สร้างสถูปตามเมืองสำคัญ เช่น เมืองครหิ อำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองตามพรลิงก์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

โดยการก่อสร้างพระธาตุวัดคลองท่อม ได้มีการเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 61 ณ มณฑณพิธีสถานที่ก่อสร้างพระธาตุวัดคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ในงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุวัดคลองท่อม โดยมี พระราชวชิรากร(พระอาจารย์ชัย) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุชิรมงคล (วัดบางโทง) เป็นประธานวางแท่นศิลาฤกษ์ พระครูสถิตนราธิการ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม พร้อมด้วย นายไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอคลองท่อม โดยคาดว่าจะใช้งบก่อสร้าง ประมาณ 70 ล้าน ซึ้งมีความสูงจากฐานถึงยอด 49 เมตร นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมในยุคอาณาจักรศรีวิชัย ซึ้งในปัจจุบันหาพบได้น้อยมากในภาคใต้ และมีความใหญ่โตที่สุดในภาคใต้ของไทย ปัจจุบันดำเนินกำลังก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างหลัก


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

สุรินทร์ - มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบสิ่งของพระราชทาน แด่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัย

วันที่ 1 กันยายน 2564 เวลา 13:30 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายนราธร  ศรประสิทธิ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์/กรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ 

โดยนำสิ่งของพระราชทานมาให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอัคคีภัยตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีอยู่ทางจังหวัด ให้แก่ครอบครัว นายสวัสดิ์  สุระ อายุ 80 ปี ผู้ประสบอัคคีภัย บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 4 บ้านสามแยก ตำบลตาคง อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2564 เวลา 11.20 น. ได้เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักอาศัยของ นายสวัสดิ์ สุระ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของอัคคีภัย ในการสร้างขวัญและกำลังใจในการต่อสู้ฝ่าฟันให้พ้นวิกฤตภัยครั้งนี้ไปด้วยดี สร้างความปลาบปลื้มให้กับ ครอบครัว นายสวัสดิ์ สุระ ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัยอย่างหาที่สุดมิได้

โดยมีหน่วยงานร่วมให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย ประกอบไปด้วย สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ อำเภอสังขะ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์  วิทยาลัยการอาชีพสังขะ องค์การบริหารส่วนตำบลตาคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนจิตอาสาตำบลตาคง สำหรับการช่วยเหลือในระยะต่อไป องค์การบริหารส่วนตำบลตาคง จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการต่อไป โดยมี นายธาตรี  สิริรุ่งวานิช นายอำเภอสังขะ กล่าวรายงาน


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า  

กรุงเทพฯ - สโมสรลูกเสือนาวี ร่วมบริจาคชุด PAPR ประสิทธิภาพสูง มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

ตามที่สโมสร​ลูกเสือ​นาวี​ ได้เชิญชวนให้สมาชิกฯ ร่วมบริจาคเงินกับมูลนิธิ​ราชประชานุเคราะห์​ ใน​พระ​บรมราชูปถัมภ์​ เพื่อจัดทำโครงการจัดหาชุดป้องกันเชื้อโรค แบบคลุมศรีษะ​พร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพ​สูง (ชุด PAPR)​ โดย ได้รวบรวมเงินที่ได้ร่วมบริจาค มอบให้มูลนิธิฯ จำนวน 44 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 87,750 บาท และ ดร.แสวง - คุณนิตยา บุญ​ญา​สุวัฒน์​ ร่วมสมทบรวมเป็นเงิน 100,000 บาท

สโมสร​ลูกเสือ​นาวี​ พร้อมสมาชิก ได้แก่ พล.ร.อ.ศุภพง​ษ์​ ศิริ​สนธิ พล.ร.อ.ทักษิณ ฤกษ์​สังเกตุ ดร.แสวง บุญ​ญา​สุวัฒน์ อ.เสาวลักษณ์​ พากเพียร​ทรัพย์​ คุณส่วน ดวงจันทร์ และคุณฐิติมา หาญวิวัฒน์​กุล ร่วมเป็นตัวแทนผู้บริจาคเงิน ร่วมมอบให้กับ ท่านองคมนตรี​ พลเรือเอก​ พงษ์​เทพ​ หนู​เทพ​ ประธาน​กรรมการบริหารมูลนิธิ​ฯ และพลเรือเอก​ ปวิตร รุจิเทศ รองประธานมูลนิธิฯ ​ณ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์​ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สะพานขาว กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64 เวลา 11.00 น.


ภาพ/ข่าว สนง.โฆษกกองทัพเรือ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

กาฬสินธุ์ - 50 ปี ที่รอคอย บ้านคำคารับสัญญาเช่าที่ถูกกฎหมาย ชาวบ้านเฮ! หลังได้รับเอกสารสิทธิเช่าที่จากกรมธนารักษ์ อย่างสมบูรณ์แบบ

ชาวตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์  ได้เฮหลังต้องต่อสู้เรียกร้อง ยาวนานกว่า 50 ปี  เพื่อเป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย วันนี้ฝันเป็นจริงหลังได้รับเอกสารสิทธิเช่าที่จากกรมธนารักษ์ อย่างสมบูรณ์แบบ

ที่ศาลาประชาคมบ้านคำคา ตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายยุทธนา หยิบการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ โครงการธนารักษ์ประชารัฐ โดยมีนายอุดร สีลาพันธ์ ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์  นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ ร่วมพิธีรับมอบ ท่ามกลางความยินดีของผู้ร่วมกิจกรรม โดยได้มอบให้กับตัวแทน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และด้วยความห่วงใยจากสถานการณ์โควิด-19 ยังได้นำเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยมอบให้แก่ชุมชน กิจกรรมธนารักษ์ประชารัฐ จัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมสูงสุดป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019  จำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 50 คน จำกัดเวลาดำเนินกิจกรรมไม่เกิน 30 นาที  ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ อสม.

นายยุทธนา หยิบการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ได้มอบเอกสารเช่าที่ราชพัสดุให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กส.584 บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว ตำบลโนนศิลา  อำเภอสหัสขันธ์ จำนวน 1,163 ราย และ อำเภอสามชัย 1,475 ราย รวมทั้งหมด  2,638  ราย ตามโครงการธนารักษ์ประชารัฐ  สนองนโยบายภาครัฐที่ต้องการจะลดความเหลื่อมล้ำ เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ดึงเข้าระบบอย่างถูกต้องตามระเบียบทางราชการ ถูกกฎหมาย แม้จะไม่สามารถทำการซื้อขายได้ แต่นำไปเป็นหลักทรัพย์ประกันเงินกู้ รวมถึงการเข้าถึงการช่วยเหลือจากภาครัฐ

นายราชัน คุณาประถม กำนันตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า จากในอดีตได้เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บุกรุก เป็นกลุ่มคนผิดกฎหมาย แม้ว่าจะเป็นผู้เสียสละพื้นที่ให้มีการสร้างเขื่อนลำปาว บ้านแตกสาแหรกขาด เพราะตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนลำปาว อำเภอสหัสขันธ์ ได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปที่ตำบลโนนบุรี  เพื่อสร้างอำเภอแห่งใหม่ ขณะที่อำเภอเก่าน้ำจากเขื่อนลำปาว ได้เอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้าง ในปี พ.ศ.2510 ถนนถูกตัดขาด ไม่มีถนนเข้าหมู่บ้านก็ต้องระดมเงินทำถนนกันเอง จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 54 ปี เป็นระยะเวลาได้ต่อสู้ เรียกร้อง จากรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้หลุดพ้นหมู่บ้านชายขอบ ผิดกฎหมาย ผู้บุกรุก และตัดขาดซึ่งการช่วยเหลือจากภาครัฐ โครงการธนารักษ์ประชารัฐ ได้เข้าถึง และทำให้ชาวบ้านไม่ต้องเดือดร้อนอีกต่อไป จะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐตามระบบ เป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย  ขอขอบคุณกรมธนารักษ์  และที่สำคัญคือท่านนายกประยุทธ์ฯ ที่ช่วยชาวบ้านให้พ้นทุกข์เสียที


(เสียง กำนันราชัน คุณาประถม)

 

ลำปาง - มทบ.32 รับมอบ ชุดเตียงกระดาษ น้ำดื่ม และชุด PAPR จากกฟผ.แม่เมาะ ใช้ใน รพ.สนามทบ.(มทบ.32)

ด้วยความห่วงใย ในสถานการณ์โควิด จิตมุ่งช่วยกัน ฟันฝ่าวิกฤต พิชิตภัยโควิดด้วยกัน”จากความร่วมมือร่วมใจแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของทุกภาคส่วน ได้แสดงความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกันเต็มกำลังขีดความสามารถ เป็นผลส่งให้สถานการณ์โควิดในพื้นที่จังหวัดลำปาง มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ถึงกระนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ หากเมื่อมีสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น หน่วยงานที่ถือว่าเป็นด่านหน้าต้องพร้อม!

ในการนี้เมื่อ 2 กันยายน 2564 เวลา 11.30 น. นายมาโนช ชูชาติวรรณกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ พร้อมด้วยนายประกอบ ปะระมะ หัวหน้ากองชุมชนสัมพันธ์โรงไฟฟ้าแม่เมาะและคณะ กฟผ.แม่เมาะ ได้เดินทางมามอบเตียงกระดาษ-ที่นอน-หมอน-ผ้าห่มและชุดของใช้ส่วนตัว จำนวน 20 ชุด, น้ำดื่ม 50 แพ็ค , หมวกป้องกัน PAPR พร้อมชุดกรองจ่ายอากาศบริสุทธิ์ จำนวน 2 ชุด ให้กับ โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี สำหรับใช้การในกิจการของโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรีและโรงพยาบาลสนามกองทัพบก ศูนย์คัดกรองกองทัพภาคที่ 3 (มณฑลทหารบกที่ 32)

โดยมี พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32, พันเอกวิชาญ ศรีภัทรางกูร รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32, พันเอก อรรณพ ธรรมลักษมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี, พันเอกเมธา ณ พิกุล รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 และพันเอกอณุศิษย์ พรมมาตย์ รองผู้อำนวยการฯ เป็นผู้รับมอบ ณ สโมสรนายทหารค่ายสุรศักดิ์มนตรี (ที่ตั้งโรงพยาบาลสนามกองทัพบกฯ) ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

ทั้งนี้ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้กล่าวขอบคุณในความมีน้ำใจของคณะ กฟผ.แม่เมาะที่ได้นำสิ่งของมามอบให้เพื่อให้หน่วยได้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่หากป่วยโควิดเข้ามาแล้วหน่วยจะได้ทำการรักษาหรือช่วยเหลือได้อย่างเต็มกำลังขีดความสามารถ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าทุกสิ่งที่หน่วยได้รับจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชนชาวลำปางอย่างแน่นอน


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

เพชรบูรณ์ - มณฑลทหารบกที่ 36 จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 89 พรรษา

ที่ มณฑลทหารบกที่ 36 จัดกำลังพลจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 89 พรรษา 12 สิงหาคม 2564 ณ อาคารอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 36 ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์

โดยมีผู้ร่วมบริจาคโลหิต 104 ราย คิดเป็นปริมาณโลหิต 41600 cc , บริจาคดวงตา 4 ราย และบริจาคอวัยวะ 4 ราย

ในการนี้ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 พร้อมด้วยประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 36  และคณะได้เดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้มาร่วมบริจาค


ภาพ/ข่าว  ราเมธ บงแก้ว / มนสิชา คล้ายแก้ว

สุรินทร์ - จัดกิจกรรม “หมอครอบครัว ส่งภูมิถึงบ้าน ต้านโควิด” รุกฉีดวัคซีน ผู้ป่วยติดเตียง

วันที่ 2 กันยายน 2564 เวลา 15.00 น. ณ คลินิกหมอครอบครัวสระโบราณ นายสุวพงศ์  กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “หมอครอบครัว ส่งภูมิถึงบ้าน ต้านโควิด” อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายแพทย์ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ ในนามของคลินิกหมอครอบครัวโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวรายงาน จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดสุรินทร์ พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 12,157 ราย และในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 734 ราย ซึ่งกักตัวที่ชุมชนหรือที่บ้าน 249 ราย โรงพยาบาลสนามศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านอาเลาะ 116 ราย โรงพยาบาลสนามอุทธยานธรรมหลวงปู่ดูลย์ อตุโล สำราญนิเวศน์ จำนวน 199 ราย และโรงพยาบาลสุรินทร์ 170 ราย โดยมีผู้ป่วยอาการน้อยและปานกลาง 695 ราย อาการหนัก 39 ราย และเสียชีวิต 36 ราย

ด้วยการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและป้องกันโรคโควิด-19 โรงพยาบาลสุรินทร์ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามวัคซีน เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลดความรุนแรง และอัตราตายของโรค ให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ ณ อาคาร 44 ตึกคณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมา ผลการดำเนินงานฉีดวัคซีนทั้งสิ้น 73,392 โดส แบ่งเป็น Sinovac 37,853 โดส Astrazeneca 30,890 โดส Pfizer 4,649 โดส โดยจัดบริการฉีดในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 15,907 โดส เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค 2,761 โดส  บุคคลที่มีโรคประจำตัว 7,662 โดส ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 35,134 โดส ประชาชนทั่วไป 11,858 โดส เพื่อให้การดำเนินงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกิดความครอบคลุมและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มวัย ในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ โรงพยาบาลสุรินทร์ 

จึงจัดกิจกรรม “หมอครอบครัว ส่งภูมิถึงบ้าน ต้านโควิด” อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ในวันนี้ ณ คลินิกหมอครอบครัวสระโบราณ โดยมี นายแพทย์สันติชัย ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ นายกฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ นายอำเภอเมืองสุรินทร์  นางสาวสมธิดา จะเกรง ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  สาธารณสุขอำเภอเมืองสุรินทร์  คณะแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่คลินิกหมอครอบครัวโรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมพิธี


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top