Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

‘มิสแกรนด์ฯ’ ประกาศร่วมมือกับ ‘Tiktok’ เอาผิดคนสั่งซื้อสินค้าแล้วกดยกเลิก หลังผู้เข้าประกวดไลฟ์ขายของแล้วโดนกันอ่วม ชี้!! จะดำเนินการตาม กม.ต่อไป

(25 มี.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก Miss Grand Thailand ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

จากการกรณีที่มีผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 บางส่วนโดนยกเลิกคำสั่งซื้อในการ Live ขายของบนแพลตฟอร์ม TikTok ทางองค์กรมิสแกรนด์ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว และได้ร่วมมือกับทาง TikTok เพื่อเอาผิดผู้ที่สร้างคำสั่งซื้อสินค้าแล้วยกเลิก โดยการกระทำในลักษณะนี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา และจะดำเนินการในขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป 

‘มาดามแป้ง’ เปิดแผนเอาใจแฟนบอล ในศึกฟุตบอลโลก 2026 สั่งเปิดทางเข้าราชมังฯ เพิ่ม 2 เท่า - เข้าสนามเร็วกว่าเดิม 3 ชม.

(25 มี.ค. 67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า…

เพื่อความสะดวกแฟนช้างศึก! มาดามแป้ง สั่งเปิดทางเข้าราชมังฯ เพิ่ม 2 เท่า-เข้าสนามเร็วกว่าเดิม 3 ชม.

‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อำนวยความสะดวกแฟนบอลเต็มที่ หลังสั่งเปิดทางเข้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน เพิ่ม 2 เท่า ในเกมสำคัญ เตรียมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 

โดยสั่งการเพิ่มช่องทางเข้า Main entrance 2 บริเวณด้านสระว่ายน้ำอีก 15 ช่อง รวมกับด้านหน้า เป็น 30 ช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแฟนบอล รวมถึงยังเปิดให้แฟนบอลเข้าสู่สนามเร็วขึ้นกว่าเดิม คือ ก่อนเกม 3 ชั่วโมง หรือ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เพื่อระบายความแออัด และช่วยให้การตรวจค้น รวมถึงตรวจบัตร มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย ‘มาดามแป้ง’ นายกสมาคมฯ ยังกล่าวขอบคุณ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหนึ่งในสภากรรมการ ที่ช่วยดูแล และ สั่งเข้มงวดเรื่องนี้เต็มที่ โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่บริเวณจุดต่าง ๆ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้แฟนบอล ทั้งในสนาม และ นอกสนาม

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึง พื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (สนามราชมังคลากีฬาสถาน) สามารถเข้าได้ 3 ทาง ประกอบด้วย

- ประตู 1 (ติดกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถนนรามคำแหง)
- ประตู 2 (ตรงข้ามกับ FBT ถนนรามคำแหง)
- ประตู 4 (ด้านหลัง ตรงข้ามกับแม็คโคร ถนนรามคำแหง 24)

จากนั้น เมื่อเข้ามาในพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว เปิดทางเข้า 2 ช่องทางดังนี้

- ทางเข้าที่ 1 MAIN ENTRANCE 1 สำหรับ แฟนบอล Zone N/W / ประตูเปิดเวลา 16.30 น.
- ทางเข้าที่ 2 MAIN ENTRANCE 2 สำหรับ แฟนบอล Zone E/S /  ประตูเปิดเวลา 16.30 น.

หมายเหตุ : ในวันแข่งขันไม่อนุญาตให้จอดรถภายในพื้นที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย

สำหรับ ทีมชาติไทย เตรียมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 ในวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี, Youtube Changsuek Official และ Facebook Changsuek Official

‘จุลพันธ์’ แง้ม!! 10 เมษา ‘ดิจิทัล วอลเล็ต’ ชัดเจน ยัน!! ประชาชนได้ใช้เงิน 1 หมื่น ไม่เกินสิ้นปี 67

(25 มี.ค.67) ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงข่าวรายละเอียดความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า คณะอนุกรรมการในการเสาะหาความจริงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ได้ดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว ได้เตรียมนัดหมายประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ โดยมีไทม์ไลน์ชัดเจนขึ้นทุกวัน 

ในภาพใกล้ ๆ นี้ 27 มีนาคม จะนัดหมายคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำเนียบ เพื่อที่คณะอนุกรรมการในการเสาะหาความจริง จะมารายงานเรื่องความคืบหน้า และสิ่งที่หน่วยงานต่าง ๆ ตอบคำถามมาแล้ว ได้มีการส่งคำถามไปไม่ต่ำกว่า 100 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นภาควิชาการ ประชาชน หอการค้า สภาอุตฯ ส่งคำตอบกลับมาเกือบครบถ้วน แต่ยังเปิดให้ตอบถึง 29 มีนาคมนี้ โดยจะนำความคืบหน้า รายงานที่ประชุม ข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. เข้าที่ประชุม รับทราบ และมอบหมาย นำเสนอ โดย ก.คลัง เรื่องปัญหาที่เกิดต่าง ๆ หากลไกเดินหน้า ให้ คกก.ได้รับทราบหลังจากนั้น มอบหมายให้ส่วนงานดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึง คกก.ขับเคลื่อน มาประชุม และสรุปส่ง คกก.ชุดใหญ่

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 10 เมษายน คณะกรรมการชุดใหญ่ สรุปรายละเอียดโครงการทั้งหมด เงื่อนไขทั้งหมด ส่งคณะรัฐมนตรีพิจารณา เห็นชอบ เดินหน้าต่อไป โดยขณะนี้กรอบการทำงาน พิจารณารอบคอบแล้ว ทั้งกรอบกฎหมาย ตัวเงิน และเทคนิค ระบบต่าง ๆ คร่าว ๆ 

ทั้งนี้ ไตรมาส 3 ปีนี้ จะมีการลงทะเบียน ร้านค้า ประชาชน ระบบค่อนข้างพร้อมแล้วในช่วงนั้น ขณะที่ไตรมาส 4 ก่อนสิ้นปี จะมีการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้ถึงมือประชาชนทุกคน อยู่ในกรอบที่กำหนดไว้

นายจุลพันธ์ย้ำว่า ในวันที่ 10 นี้ จะชัดเจนทุกอย่าง ยืนยันเดินหน้า ถึงมือประชาชนภายในปีนี้ สำหรับเงื่อนไขนั้น คิดว่าไม่ได้เปลี่ยน กรอบเดิม 50 ล้านคน แต่มีรายละเอียดเล็กน้อย ที่ต้องรอมติของที่ประชุมก่อน

‘หนุ่ม คงกะพัน’ สุดยอดเพื่อนแท้ ‘เมฆ วินัย ไกรบุตร’ ‘ช่วยเหลือ-เคียงข้าง’ จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ วงการบันเทิงไทยได้สูญเสีย ‘เมฆ วินัย ไกรบุตร’ นักแสดงมากฝีมือไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ สร้างความโศกเศร้า เสียใจแก้ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และเหล่าแฟนคลับเป็นอย่างมาก

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘เก้ากระบี่เดียวดาย’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับมิตรภาพดี ๆ ระหว่าง 2 เพื่อนซี้ ‘เมฆ วินัย ไกรบุตร’ และ ‘หนุ่ม คงกะพัน แสงสุริยะ’ โดยระบุว่า…

“เพื่อนมีไว้ทำไม?

เพื่อนมีไว้ทำไม? เป็นชื่อคอนเสิร์ต วันอังคารที่ ๒๖ มีนาคมนี้ เวลา ๑๘.๐๐  ๐๑.๐๐ น. (หกโมงเย็นถึงตีหนึ่ง) ณ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา ความจริงแล้วคอนเสิร์ตนี้มีกำหนดการวางไว้แต่แรก เพื่อเป็นการระดมทุนในการรักษาคุณวินัย ไกรบุตร และหาทุนทรัพย์มาช่วยดูแลครอบครัว เพราะว่าเดิมนั้นคุณวินัย เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการดูแลครอบครัว จนกระทั่งคุณวินัยป่วยเป็นโรคตุ่มน้ำพองเมื่อห้าปีก่อน 

เมฆ วินัย ไกรบุตร เกิดวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ที่ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ทำให้ชีวิตวัยเด็กของเขาต้องทำอาชีพหลายอย่างหลังจากเรียนจบจากเทคนิคเขาก็กลายเป็นชาวประมง และทำงานโรงแรม

จนกระทั่งอายุย่างเข้า ๒๒ ปี มีเพื่อนที่อยู่กรุงเทพฯ ไปเยี่ยมเขาและชวนเขาเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ ทำให้เมฆ วินัย ติดตามเพื่อนเข้ามาเพื่อลองหางานทำ ในตอนนั้นเขาต้องแชร์ห้องพักกับเพื่อน ๆ แถวมหาวิทยาลัยรามคำแหงสอง โดยการนอนสลับกันรอบเช้ากับรอบค่ำเพราะว่าหอพักไม่ให้นอนเกินสี่คน 

วันหนึ่งเมฆ วินัย ไปลองหางานแถวสยาม มาบุญครองก็พบกับโมเดลลิ่ง ขอถ่ายภาพเขาเพื่อส่งแคสติ้งโฆษณา ซึ่งความจริงแล้วก่อนหน้านั้นเขาเคยถูกทาบทามหลายครั้งแต่เนื่องจากเขากลัวจะโดนหลอก เขาจึงไม่กล้า แต่ในวันนั้นโมเดลลิ่งที่มาชักชวนเป็นผู้หญิงอายุไล่ ๆ กัน ทำให้เขาคลายกังวล และสุดท้าย เขาก็ได้งานโฆษณาตัวแรกจากทาง สยามสตูดิโอ 

โฆษณาธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปี ๒๕๓๕ นับว่าเป็นผลงานแรกในวงการบันเทิงของ วินัย ไกรบุตร หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นนายแบบสุดฮอตของยุคนั้น ด้วยความสูง ๑๘๐ เซนติเมตร ใบหน้าคมคายแบบชายไทย ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม นับว่ามีรูปลักษณ์ค่อนข้างเฉพาะตัว นอกจากผลงานโฆษณาแล้ว เขายังได้แสดงมิวสิควิดีโอหลายตัวของแกรมมี่ อาทิ โสภาสถาพร บิลลี่ โอแกน ต่างคนต่างไป - อรพรรณ พานทอง เสียมั้ย หนุ่ย อำพล (๒๕๓๕) และ ลักไก่ อัสนี-วสันต์ (๒๕๓๖)

แต่มาโด่งดังสุด ๆ กับ มิวสิควิดีโอเพลง ยอม ของวงหินเหล็กไฟ จากค่ายอาร์เอส ในปี ๒๕๓๖ ทำให้หลังจากนั้น ปีถัดมาเขาก็เข้าสู่วงการภาพยนตร์ในปี ๒๕๓๗ จากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกหอบรักมาห่มป่า ก่อนที่จะกลายเป็นพระเอกเต็มตัวกับ ภาพยนตร์เรื่อง ผู้ชายหัวใจไม่พายเรือ (๒๕๓๘) ประกบกับ ธัญญาเรศ รามณรงค์ 

ในช่วงที่เมฆ วินัย ยังเป็นนายแบบอยู่นั้น เขาอาศัยเช่าห้องพักอยู่กับเพื่อนหลายคน หนึ่งในนั้นคือเพื่อนที่เขาสนิทที่สุด ก็คือ ‘หนุ่ม คงกะพัน แสงสุริยะ’ ที่หลังจากที่เมฆ วินัยเริ่มเล่นหนัง ไม่นาน หนุ่ม คงกระพันเพื่อนสนิทของเขาก็มีผลงานเพลงชุดแรกกับทาง บริษัทสโตน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในชื่อชุด หนุ่ม คงกระพัน และมีเพลงโปรโมต คือเพลง บาทเดียว อย่างเลวร้าย และ จากนี้และตลอดไป ในปี ๒๕๓๘ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มแสดงละครในปี ๒๕๓๙ 

แม้ว่าจะเข้าวงการกันแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังแนบแน่น และพักอยู่คอนโดเดียวกันอีกสิบกว่าปี จนในตอนนั้นมีข่าวว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบชายรักชาย 

ในช่วงยุค ๙๐ ทั้งเมฆ วินัย และ หนุ่ม คงกะพัน ต่างแสดงละครเป็นหลักจนกระทั่ง เมฆ วินัยมีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนางนาก (๒๕๔๒) ที่กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้อย่างมาก จนทำให้เมฆ วินัย ต้องเดินสายโชว์ตัวตามงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยมีหนุ่ม คงกะพันขอติดตามเพื่อนสนิทไปด้วย 

เมื่อเพื่อนประสบความสำเร็จ เพื่อนอีกคนก็ยิ่งจะมีความสุข หนุ่ม คงกะพันรู้สึกดีใจแทนเพื่อนรักของเขา จากเด็กบ้านนอกที่เข้ามากรุงเทพและต้องแชร์ห้องพักกันนอน สู่การเป็นดาราชื่อดังระดับนานาชาติ 

เมื่อ วินัยประสบความสำเร็จทางด้านภาพยนตร์ หนุ่ม คงกะพันกลับพบเส้นทางที่ชัดเจนของตัวเอง คือการเป็นพิธีกร รายการสารคดีแนวสืบสวนสอบสวนหาความจริง อย่าง บางอ้อ และเรื่องจริงผ่านจอ 

เส้นทางของเพื่อนอาจจะไม่ได้เดินเคียงคู่กันไปได้ตลอด เมื่อต่างคนต่างเติบโตและมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ทั้งสองก็มีช่วงเวลาห่างกันไปบ้าง จนกระทั่งเมฆ วินัยป่วยด้วยโรคตุ่มน้ำพอง 

และอย่างที่ทราบกันดีว่าตลอดอาการป่วยของเมฆ วินัยนั้นจะมีหนุ่ม คงกะพัน ที่คอยอยู่ดูแลเสมอ ไม่เคยทอดทิ้งกัน แม้กระทั่งการขอขมาเจ้ากรรมนายเวร จนเป็นกระแสทางโซเซียลที่คนทั้งประเทศติดตามอย่างเอาใจช่วย 

จะเห็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของคนทั้งคู่ จนการขอขมากรรมเสร็จสิ้น จากการป่วยยาวนานถึงห้าปีของเมฆ วินัย การที่ต้องดูแลลูก ๆ สามคน ทำให้ทางหนุ่ม อยากจะจัดคอนเสิร์ตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนอีกครั้ง ในชื่อ คอนเสิร์ตว่า เพื่อนมีไว้ทำไม?

ซึ่งในตอนแรกก็จะให้คุณวินัยมาร่วมในคอนเสิร์ตนี้ด้วย แต่วันที่ ๒๐ มีนาคม เมฆ วินัยก็ได้เสียชีวิต จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้น เสียก่อน 

หลายคนเคยพูดคำว่า “เป็นเพื่อนกันไปจนวันตาย” แต่สำหรับบางคนแม้เพื่อนจะตายไปแล้วแต่ความเป็นเพื่อนนั้นก็ไม่ได้จบลงไปด้วย 

หลายคนบอกว่าตายไปแล้วจะเอาอะไรติดตัวไปด้วยก็ไม่ได้ แต่สำหรับข้าพเจ้ามองว่า แน่นอนขอรับเราอาจจะเอาวัตถุใดติดตัวไปกับเราไม่ได้เลย แต่ความรักเป็นสิ่งที่ไม่เคยจางหรือลดลงเลย แม้ว่าเราจะไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว หากเรามีเพื่อนที่ดีอย่าง คุณหนุ่ม คงกะพัน 

คอนเสิร์ต เพื่อนมีไว้ทำไม นั้นมีเพื่อนศิลปินมากมายมาแสดง ทั้งทางโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงก็ไม่คิดค่าสถานที่ ศิลปินที่มากว่าสามสิบชีวิตไม่คิดค่าตัว เป็นคอนเสิร์ตที่อบอวลไปด้วยมิตรภาพที่ส่งให้กับ คุณเมฆ วินัย ไกรบุตร 

หลายคนมักจะพูดถึง วินัย ไกรบุตร ในฐานะพระเอกร้อยล้านคนแรกของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย แต่สำหรับข้าพเจ้านั้น ความสำเร็จที่แท้จริงของคุณวินัย ไกรบุตร คือการมีเพื่อนที่ดี ภรรยาที่ดี ที่พร้อมจะเคียงข้างเขาทั้งวันที่สุข วันที่ทุกข์ และแม้แต่วันที่เขาไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม 

มีบางอย่างที่แม้แต่ความตายก็ไม่สามารถพรากไปจากผู้คนได้ ‘มิตรภาพ’ คือสิ่งหนึ่งที่ว่านั้นขอรับ 

The thought that you could die tomorrow frees you to appreciate your life now.
ความตายก็มีด้านดี ความคิดที่ว่าคุณอาจจะตายในวันพรุ่งนี้ จะทำให้คุณตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตในปัจจุบัน 

สำหรับคนที่ยังอยู่โปรดถนอมมิตรภาพที่มีไว้ด้วยหัวใจของท่าน เพราะไม่มีความสำเร็จใดมีความหมายเทียบเท่ากับ มิตรภาพอีกแล้ว 

ขอบคุณ คุณหนุ่มคงกะพัน และเพื่อน ขออำลาคุณเมฆ วินัย อีกครั้งขอรับ 

ปล. คอนเสิร์ต เพื่อนมีไว้ทำไม? ทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือได้โดยการซื้อบัตร แบบเหมาโต๊ะ มี 2 ราคาคือ 1. เหมาโต๊ะละ 20,000 จำนวน 10 โต๊ะ 2. เหมาโต๊ะละ 15,000 บาท จำนวน 23 โต๊ะ (1 โต๊ะ 8 ที่นั่ง พร้อมอาหาร 10 อย่าง เบียร์ 1 ทาวเวอร์ มิกเซอร์ฟรีตลอดทั้งงาน ) 

ท่านที่สนใจสามารถติดต่อ จองโต๊ะได้ที่ นวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล (เบญ) เบอร์โทร 089-055-3654 

นอกจากนี้ท่านที่สนใจแบบไม่เหมาโต๊ะ สามารถซื้อบัตรเข้างาน ได้ที่ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา ได้ในราคา 300 บาท ต่อ 1 ท่าน สามารถติดต่อสำรองบัตรได้ที่ โทร.(02) 944-5131- 2 หรือ Line @ tawandang2 และที่ FB : โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง รามอินทรา พบกันวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 18.00-01.00 น.

‘คนไทยในบรูไน’ เผย วัยรุ่นบรูไนปลื้มชุดนักเรียนไทย หลังเป็นกระแสฮิตที่หลายชาติเริ่มนำมาเป็นแฟชั่น

อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เห็นกันมาพักใหญ่แล้วว่า ‘ชุดนักเรียนไทย’ คว้าใจนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสแต่งชุดนักเรียนไทย ท่องเที่ยวในไทย รวมไปถึงถ่ายรูปและโพสต์อวดโฉมกันผ่านโซเชียล ยิ่งไปกว่านั้น อินฟลูเอนเซอร์ ดารา หรือแม้แต่ซูเปอร์สตาร์ชาวจีนก็ออกมาสลัดลุค แต่งชุดนักเรียนไทยกันมาแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกว่า น่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ

แต่ความฮิตฮอตของชุดนักเรียนไทยก็ไม่ได้เป็นที่นิยมแค่ในจีนเท่านั้น แว่ว ๆ มาว่า นักเรียนเวียดนามก็ชื่นชอบชุดนักเรียนของไทยมากเช่นกัน ถึงขั้นนัดกันใส่ชุดนักเรียนไทยถ่ายรูปในวันจบการศึกษา และลามกลายเป็นธุรกิจรับถ่ายรูปในธีมชุดนักเรียนไทย และถ่ายเลียนแบบซีรีส์ไทยที่ไปโด่งดังในเวียดนามด้วย

ก็กล้าเรียกได้เต็มปากว่า ‘ชุดนักเรียนไทย’ เท่ากับ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ที่แท้จริง

ล่าสุด (25 มี.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยในบรูไนฯ ได้บอกเล่าเกี่ยวกับ ‘ชุดนักเรียนไทย’ ที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นบรูไนฯ โดยระบุว่า…

“ลูกสาวมาเล่าว่า ม่ามีแต่คนอยากใส่ชุดนร.แบบไทยกันใหญ่เลย (ในหมู่วัยรุ่น) ไม่เว้นแม้แต่วัยรุ่นที่บรูไน เป็นเทรนที่กำลังมาแรง Soft Power ของแท้ อย่าให้นายกรู้นะ เดี๋ยวเค้าจะใส่ชุดนร.ไปต่างประเทศโชว์อีก”

สาวๆ กรี๊ด!! ‘สารวัตรแจ๊ะ’ แห่งสืบนครบาล IDMB ‘ประวัติดี-ผลงานเพียบ’ มักปรากฎตัวในหลายคดีดัง

(25 มี.ค. 67) ใครที่ได้ติดตามเฟซบุ๊กเพจ ‘สืบนครบาล IDMB’ ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะได้เห็นหนุ่มน้อยใส่แว่น สวมหมวกไหมพรมสีเทา กางเกงยีนส์ สวมเสื้อแจ็คเก็ต ‘สืบนครบาล’ ร่วมกับทีมงานจับกุมผู้ต้องหาบ่อยครั้ง

ประกอบกับน้ำเสียงดุดัน หนักแน่นกับผู้ต้องหา ซักถามกันแบบตรง ๆ แต่สุภาพอ่อนโยนกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี และด้วยความเป็นหนุ่มแว่น ตาคมกริบ ผิวขาวแบบโอปป้าเกาหลี ทำให้สาว ๆ ต้องใจละลายแทบกรี๊ดสิครับ กรี๊ดนะ กรี๊ดเลย ไม่ต้องกลั้นเอาไว้

ซึ่งหลายคนอยากรู้ว่านายตำรวจหนุ่มโอปป้าคนนี้เป็นใคร และหลายที่ได้เปิดวาร์ปไปแล้ว แต่ขอเปิดวาร์ปเท่าที่พอทำได้ เพราะเจ้าตัวยังคงต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชน สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี

โดยนายตำรวจหนุ่มคนนี้มีชื่อเล่นว่า ‘สารวัตรแจ๊ะ’ ยศพันตำรวจตรี ตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 69 ส่วนชื่อจริงและนามสกุลจริง ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

เริ่มต้นชีวิตข้าราชการตำรวจในตำแหน่งรองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ก่อนจะมารู้จักกับ ‘ผู้การจ๋อ’ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล

จากนั้นได้ย้ายไปอยู่กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจนครบาล 4 ต่อด้วยรองสารวัตร กลุ่มงานการข่าว กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ขส. บช.ปส.)

เคยร่วมงานกับ พล.ต.ต.ธีรเดช สมัยที่เป็นผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 ฉายา ‘ฉลามจ๋อ’ และเป็นหัวหน้าชุด PCT 5 ทำคดีใหญ่ ๆ หลายคดี ทั้งทลายเว็บพนันออนไลน์, รวบโจรกางเกงในลักทรัพย์มือถือร้านไอที, ทลายโกดังสินค้าออนไลน์ สั่งซื้อโทรศัพท์กลับได้ผงซักฟอก, รวบโจรหลอกลงทุนผลิตชุด ATK, รวบโจรหลอกขายน้องหมาไซบีเรียน, รวบอดีตรองผู้จัดการเขตธนาคารโกงเบี้ยประกัน, ตามจับผัวปืนโหดยิงเมีย, รวบหนุ่มข่มขืนสาว 8 ชั่วโมง เป็นต้น

กระทั่งย้ายข้ามห้วยจาก บช.ปส. มาอยู่นครบาล เป็นสารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถือเป็นลูกน้อง ลูกหม้อ ‘ผู้การจ๋อ’ แห่งสืบนครบาลเต็มตัว วาดฝีมือลวดลายตามจับกุมผู้ต้องหานับร้อยคดี

ที่ผ่านมาสารวัตรแจ๊ะได้เรียนรู้วิชาสืบสวนสอบสวนก่อนลงสนามจริง มีความสามารถในการวางแผน เก็บรายละเอียดทุกการเคลื่อนไหว ก่อนวาดลวดลายเขียนข่าวแจก แบบชนิดที่ว่าออกมาจากใจคนทำงาน

สำหรับหมวกไหมพรมสีเทานั้น เป็นหมวกที่ ‘ผู้การจ๋อ’ ให้มาเมื่อ 6 ปีก่อน ไว้ใส่เวลาทำงานเพื่ออำพรางใบหน้าในระหว่างลงพื้นที่สืบคดี กระทั่งกลายเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียลฯ ถึงขนาดเปรียบเทียบกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ‘โคจอน’ มาแล้ว

ส่วนสถานะหัวใจนั้น บอกได้คำเดียวว่าไม่ว่างแล้ว เพราะชีวิตอีกด้านหนึ่งยังเป็นพ่อลูกอ่อน แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีเวลาดูแลลูกน้อย เพราะต้องทำหน้าที่แกะรอยตามจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ ๆ

ถึงกระนั้น แฟนคลับทั่วฟ้าเมืองไทยต่างปันใจให้กับ ‘สารวัตรโอปป้าหมวกไหมพรม’ ไปแล้ว

‘น้องสาวคิมจองอึน’ เปรย!! หลัง ‘นายกฯ คิชิดะ’ อยากพบพี่ชาย ลั่น!! ไม่ง่าย เพราะขึ้นอยู่กับจุดยืนทางการเมืองของญี่ปุ่น

(25 มี.ค.67) สื่อรัฐบาล KCNA รายงานว่า ‘คิม โยจอง’ น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ ‘คิม จองอึน’ ผู้นำเกาหลีเหนือ เผยว่า ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงเจตนารมย์ว่าต้องการเข้าพบผู้นำเกาหลีเหนือเร็ว ๆ นี้ ผ่านช่องทางหนึ่ง

ซึ่ง คิม โยจอง บอกว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศขึ้นอยู่กับว่าญี่ปุ่นสามารถตัดสินใจทางการเมืองที่เป็นไปได้จริงหรือไม่

“นายกรัฐมนตรีควรรู้ว่า แค่เพียงเพราะเขาต้องการและได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถพบผู้นำของเราได้” คิม โยจอง กล่าว และเสริมว่า

“สิ่งที่ชัดเจนคือ ญี่ปุ่นเป็นปฏิปักษ์กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และละเมิดสิทธิอธิปไตยของประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูของเรา และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายเรา”

ทั้งนี้ คิชิดะ เคยกล่าวไว้ว่า เขาต้องการหารือกับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยปราศจากเงื่อนไขเบื้องต้นใด ๆ และมีความพยายามส่วนตัวที่ต้องการบรรลุการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

นอกจากนี้ น้องสาวคิม จองอึน ผู้นำพรรคแรงงาน เผยเมื่อเดือนก่อนว่า อาจมีวันหนึ่งที่คิชิดะได้เยือนเปียงยาง

“ในมุมมองของฉัน ถ้าญี่ปุ่นตัดสินใจทางการเมืองเพื่อเปิดทางเส้นทางใหม่สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน สองประเทศอาจเปิดโอกาสสู่อนาคตใหม่ได้” คิม โยจอง กล่าว

‘เพจดัง’ แฉ!! เคสคนพา ‘แมว’ ขอทานตามงานวัด นอนนิ่ง 4 ตัวไม่ขยับ เร่งหน่วยงานช่วยตรวจสอบ

(25 มี.ค. 67) กลายเป็นภาพสุดสะเทือนใจ ขอเหล่าทาสสัตว์ หลังเพจ ‘อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6’ ออกมาแฉเคสขอทานแมว นอนนิ่งเร่ขายกลางงานวัด โดยระบุว่า

“ทาสจะไม่ทน…นอกจากน้องหมาที่ราชบุรีแล้ว ที่กาญจนบุรีก็มีน้องแมวเอาน้องมาหากินใช่ไหมนอนนิ่งเลย ทรมานสัตว์มาก พิกัดวัดพระแท่นดงรัง (กาญจนบุรี)

- โห นิ่งผิดปกติมาก แย่มาก
- พรุ่งนี้มีงานวัดวันสุดท้าย อยากให้มีหน่วยงานรีบเข้าไปดูค่ะ ไม่รู้จบงานแล้วจะพาน้อง ๆ ไปทรมานที่ไหนต่อ เท่าที่เห็นน้ำก็ไม่มีกิน ละอากาศก็ร้อนมากด้วย
- เห็นไปทุกงานวัดค่ะ น่าจะไปมาหลายที่แล้ว เราสงสารน้องแมวมากเลย
- มันเดินสายไปทุกจังหวัดเลยครับที่มีงานใหญ่ ๆ ไอ้เด็กชุดลิเกนี่ แมว 4 ตัวนี้ 3 เดือนที่แล้วพึ่งจะมางานบ้านผม น่าจะทำกันเป็นขบวนการ”

ไม่เพียงแค่นั้น เพจดังกล่าวยังระบุอีกว่า “ใครรู้จักผู้ใหญ่ใจดีก็ช่วยแชร์ส่งต่อไปนะ ทางทีมงานส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นแล้ว”

งานนี้เมื่อแชร์ออกไป ชาวเน็ตต่างแห่กันคอมเมนต์ถกสนั่นถึงการทารุณกรรมสัตว์ พร้อมวอนให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบ และลงโทษขบวนการขอทานที่ใช้สัตว์เป็นตัวเรียกความสงสารคนใจบุญ หรือเหล่าทาสสัตว์เลี้ยงอย่างหนัก

“มูลนิธิสหชาติ” ผนึกกำลัง “สมาคมเดอะเชฟประเทศไทย” มุ่งทำความดีเพื่อคนในชาติ พร้อมมอบเสื้อเชฟ 135 ตัวให้กับสมาชิก

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่มูลนิธิสหชาติ พระอาจารย์ชายกลาง อภิญาโณ หรือฉายาพระเท้าเปล่า ประธานมูลนิธิสหชาติ มอบเสื้อเชฟแขนสั้น จำนวน 135 ตัว และกางเกงสีดำ 6 ตัว ให้แก่ เชฟทองเลี่ยม พุกทอง นายกสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย โดยมี นายสมชาย จรรยา ที่ปรึกษามูลนิธิ ร่วมพิธีมอบในครั้งนี้

พระอาจารย์ชายกลาง อภิญาโณ กล่าวว่า เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความสําคัญต่อมนุษย์ การแต่งกาย นอกจากจะแต่งเพื่อปกปิดร่างกายให้ดูสุภาพ เรียบร้อยแล้ว ยังช่วยทําให้ร่างกายอบอุ่น สวยงาม ทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงอาชีพของผู้ แต่งกายนั้นด้วย “เสื้อเชฟ” ที่ทางมูลนิธิสหชาติ มอบให้กับนายกทองเลี่ยม เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกในสมาคมฯ

สำหรับ “เสื้อเชฟ” ไม่ใช่มีไว้เพียงเพื่อทำให้ลูกค้าแยกแยะได้ว่าคนไหนเป็นเชฟเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ และความสำคัญเพื่อป้องกันเชฟจากการบาดเจ็บและความร้อนจากการทำอาหาร เพราะ “เสื้อเชฟ” นั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการทำงานในครัว โดยเฉพาะตัวเสื้อ จะทำจากผ้าเนื้อหนาที่สามารถช่วยป้องกันผิวหนังของเชฟจากความร้อนขณะอยู่หน้าเตาต่างๆ หรือป้องกันจากการโดนน้ำมันกระเด็น ดังนั้น การสวมชุดเชฟจะทำให้เชฟปลอดภัย

พระอาจารย์ชายกลาง กล่าวถึง มูลนิธิสหชาติว่า เป็นองค์กรการกุศล ที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ส่งเสริมและสนับสนุนกด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิสหชาติ ได้ขับเคลื่อนการสร้างคน คนสร้างชาติเพื่อปลูกฝังให้เยาวชนมีความรักชาติ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นทหารเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เด็กๆได้ตระหนักถึงหน้าที่รวมถึงประชาชนทุก รวมทั้งสนับสนุนการอนุรักษ์ช้างไทย และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

ด้าน เชฟทองเลี่ยม พุกทอง นายกสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย กล่าวว่า ทางสมาคมฯ จะร่วมมือช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณกุศลของมูลนิธิ จากโครงการที่ได้รับฟังจากพระอาจารย์ชายกลาง เป็นโครงการที่ดี ที่ท่านได้ดำเนินการช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือเด็กยากไร้ตามหมู่บ้านชนบท ที่อยู่ห่างไกล แล้วท่านยังมุ่งมั่นทำต่อในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ลูกหลานมีใช้ในอนาคตอย่างยั่งยืน 

รรท.ผบ.ตร. สานต่อ “ทำดี มีรางวัล” มอบเกียรติบัตรตำรวจจราจร สน.บางซื่อ ใช้ AED สภากาชาดไทย ช่วยชีวิตคนขับรถตู้หมดสติ วันนี้ (25 มี.ค.67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี

วันนี้ (25 มี.ค. 67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่ข้าราชการตำรวจ สน.บางซื่อ ที่ได้ช่วยชีวิตประชาชนบนท้องถนนด้วยการใช้เครื่อง AED ที่สภากาชาดไทยได้ทำการติดตั้งให้ 

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มี.ค.67 เวลาประมาณ 10.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนขับรถตู้หมดสติคาพวงมาลัย บริเวณแยกกำแพงเพชร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ด.ต.ไกรศร พลตาล ผบ.หมู่.งานจราจร สน.บางซื่อ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยมีสัญญาณชีพเพียงเล็กน้อย ด.ต.ไกรศรฯ จึงได้ดำเนินการตามหลักการช่วยฟื้นคืนชีพ กล่าวคือ ได้ขอความช่วยเหลือด้วยการวิทยุแจ้งรถกู้ภัยให้มายังที่เกิดเหตุ และเริ่มทำการฟื้นคืนชีพโดยการนำเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ซึ่งติดตั้งโดยสภากาชาดไทยที่แยกกำแพงเพชร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มาทำการช่วยเหลือ และทำการ CPR ตามขั้นตอน จนชายคนดังกล่าวกลับมามีสัญญาณชีพ จึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

โดยเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ดังกล่าว เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่ได้ทรงส่งเสริมและสนับสนุนให้มีติดตั้งเครื่อง AED ในทุก สน. และบริเวณทางแยกจราจรที่มีการสัญจรหนาแน่นและมีประชากรจำนวนมาก พร้อมทั้งทำการฝึกอบรม CPR และใช้เครื่อง AED ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมการปฏิบัติงานของ ด.ต.ไกรศรฯ ที่มีไหวพริบปฏิภาณสามารถนำองค์ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลและทักษะด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับการอบรมมาช่วยเหลือชีวิตของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และทันท่วงที จึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมต่อไป
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top