Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

‘อัครเดช’ ไม่กังวล การอภิปรายของ ‘สว.’ เชื่อเข้าใจขอบเขต เพราะเป็นผู้ใหญ่ ย้ำ รมว.ทุกคนของพรรค ทำงานใกล้ชิด ปชช. มีผลงาน สัมผัสได้

(24 มี.ค.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า การขอเปิดอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา (สว.) เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ที่ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ว่า ถือเป็นข้อดีที่วุฒิสมาชิกใช้กลไกของรัฐสภาในการตรวจสอบถ่วงดุลการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ถือเป็นกลไกปกติในระบอบประชาธิปไตยที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะทำหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี ดังนั้นในส่วนรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะชี้แจงและตอบข้อซักถามของสว.

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรค 4 คนที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาบริหารงานใน 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม นายกฤษดา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และนายนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขณะนี้ได้เตรียมข้อมูลพร้อมที่จะตอบข้อซักถามของสว.แล้ว และถือเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีของพรรคจะได้ชี้แจงผลงานในการทำงานช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำงาน

“รัฐมนตรีของพรรคทำงานในกระทรวงที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนักมีผลงานชัดเจนสัมผัสได้ ผลงานของรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติหลายผลงาน ก็ถือเป็นหน้าเป็นตาของรัฐบาลอีกด้วย จึงถือเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีของพรรคจะได้ชี้แจงผลงานไปในตัว จึงไม่ได้มีความกังวล และมีความยินดีในการเปิดอภิปรายของสว. ผมไม่ห่วงการอภิปรายของสว. เนื่องจากเป็นการอภิปรายทั่วไปไม่ใช่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมเชื่อมั่นสว.เป็นผู้ใหญ่พอคงจะทราบข้อนี้เป็นอย่างดี ว่าการอภิปรายนอกเหนือประเด็นจากข้อสงสัยที่ยื่นเป็นญัตติมาแล้วจะอภิปรายนอกประเด็นตามที่ข้อบังคับการประชุมกำหนดนั้นทำไม่ได้”  โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว

รรท.ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยม สภ.โนนสูง และสถานีตำรวจท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา ให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมกำชับการปฏิบัติป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกมิติ 

วันนี้ (24 มี.ค.2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการ (รอง ผบ.ตร./รรท.ผบ.ตร.) ตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบนโยบายการปฏิบัติราชการแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผกก.สภ.โนนสูง และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ พร้อมคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยม ส.ทท. 2 กก.1 บก.ทท. 2 โดยมี พ.ต.ท.เทพทัฬห์ ขจรเกียรติอาชา สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.2 พร้อมข้าราชการตำรวจ ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.2 ให้การต้อนรับ โดยทั้ง 2 แห่ง คือ สภ.โนนสูง และ ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.2 นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้เดินตรวจดูอาคารสถานที่ทำการ เรือนแถว บ้านพัก อาคารที่พัก และภูมิทัศน์โดยรอบที่ทำการ เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา และสถานที่ให้บริการพี่น้องประชาชน เพื่อแก้ไขปรับปรุงในส่วนที่ยังบกพร่อง 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจทั้ง 2 แห่ง คือ สภ.โนนสูง และ สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.2 ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้กับประชาชน ให้เร่งแก้ไขปราบปรามอาชญากรรมทุกมิติ ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด , ปัญหาหนี้นอกระบบ การปล่อยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด , ปัญหาผู้มีอิทธิพล , ปราบปรามสินค้าเถื่อนหนีภาษีที่ลักลอบเข้ามาตามชายแดน , ปราบปรามบ่อนการพนัน อบายมุข สถานบริการผิดกฎหมาย , ปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ , ปราบปรามอาวุธเถื่อน อาวุธสงคราม อาวุธปืน , ปัญหาการเผาป่า  PM 2.5 , ปัญหาที่เกิดกับการท่องเที่ยว การยกระดับการบริการตรวจคนเข้าเมือง การทำผิดกฎหมายของคนต่างชาติ โดยต้องปฏิบัติด้วยความถูกต้อง รอบคอบ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อีกทั้งต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้  นอกจากนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับดูแลทุกข์สุขและสวัสดิการของผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี และเหมาะสมกับสภาพการทำงาน และเน้นเรื่องความสามัคคีในองค์กรตำรวจ

"คุณากร"  Kick Off กทม.ฉีดวัคซีน "โรคพิษสุนัขบ้า"  นำร่องเทคโนโลยี App เก็บข้อมูลสัตว์ 

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. กรมปศุสัตว์จัดกิจกรรม Kick Off โครงการเร่งรัดกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าและส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงสุนัขและแมวอย่างถูกวิธี

โดยมีนายคุณากร ปรีชาชนะชัย เลขารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธี นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ,นายบุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้บริหาร , นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ รองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่หนึ่ง,สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคันนายาว, หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ ณ วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร

นายคุณากร เลขารัฐมนตรีช่วยฯ กล่าวว่า โครงการนี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีประชากรสุนัขและแมวหลายชีวิต  มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคพิษสุนัขบ้าได้ง่าย จากสถิติเมื่อปี 2566 พบโรคพิษสุนัขบ้า ประมาณ 15 ตัวในเขตหนองจอก และลาดกระบัง จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ นอกจากนั้นจะขยายโครงการรณรงค์การฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำเรื่อง ”สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย“ ในพื้นที่ที่มีโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี เช่น ปทุมธานี อุบลราชธานี สงขลา และชลบุรี เป็นต้น โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งตอนนี้ กำลังพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน LINE เตรียมจัดเก็บข้อมูลประชากรสุนัขและแมวทั้งประเทศ เพื่อความสะดวกในการทำงาน ขณะลงพื้นที่ภาคสนามลดความซ้ำซ้อน และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเทศบาลเมืองบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี ได้ทดลองใช้งานแล้ว หลังจากนี้จะขยายไปทั่วประเทศ

นายบุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้กำหนดให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครในรูปแบบของการบูรณาการ การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ ร่วมกับกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ ปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร สำนักงานปศุสัตว์เขต 1 และหน่วยงานต่างๆ ในกรมปศุสัตว์ ได้ร่วมกันจัดทำโครงการเร่งรัดกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และได้รับความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เครือข่ายสถานพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัย เครือข่ายวิชาชีพการสัตวแพทย์ องค์กรอิสระ ประชาชน และเจ้าของสัตว์เลี้ยง การจัดโครงการในครั้งนี้ เป็นการจัดกิจกรรมออกหน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ถึงเดือนกันยายน 2567  พื้นที่เป้าหมาย 14 เขตปศุสัตว์ในกรุงเทพมหานคร มีเป้าหมายรวมผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว 5,000 ตัว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าไม่น้อยกว่า 10,000 ตัว ทั้งนี้ ประชาชนและเจ้าของสัตว์เลี้ยงในกรุงเทพมหานคร สามารถพาสัตว์เลี้ยง ไปรับบริการได้ที่จุดให้บริการ โดยสามารถตรวจสอบจุดให้บริการได้จากเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์

“อลงกรณ์-สภาอุตสาหกรรมฯ.”ตั้งคณะกรรมการโครงการพัฒนาสาหร่ายพืชแห่งอนาคตขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน(Blue Economy) หวังสร้างฐานผลิตใหม่23จังหวัดชายทะเลทดแทนการนำเข้าลดคาร์บอนแก้โลกร้อน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท(WCF:Worldview Climate Foundation)เปิดเผยวันนี้(25 มี.ค)ว่า ประเทศไทยผลิตสาหร่ายน้อยมากต้องพึ่งพานำเข้าสาหร่ายจากต่างประเทศจนติดท็อปเทนของโลก ในขณะที่มีชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยยาวกว่า3,000 กิโลเมตรใน23จังหวัดจึงมีศักยภาพในการผลิตทดแทนการนำเข้าและยังช่วยลดคาร์บอนด้วย ดังนั้นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) และมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท Worldview Climate Foundation จึงได้ทำเอ็มโอยู.ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาสาหร่ายตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำถือเป็นความร่วมมือที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน(blue economy)ในการใช้ทรัพยากรในทะเลและมหาสมุทรอย่างยั่งยืนเป็นครั้งแรกในประเทศไทยซึ่งในการประชุมล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สำนักงานใหญ่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.)ได้ข้อสรุปในการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการพัฒนาสาหร่ายพืชแห่งอนาคตทั้งนี้มูลนิธิฯ.ได้เสนอรายชื่อกรรมการและหน่วยงานรัฐเช่นกรมประมง กรมทรัพยากรชายฝั่งทะเลฯลฯเป็นกรรมการเรียบร้อยแล้วส่วนสอท.จะเสนอรายชื่อภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสอท.ชุดใหม่วันที่ 25 มีนาคมนี้เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการฯ.ในการขับเคลื่อนความร่วมมือในครั้งนี้ให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว

"สาหร่ายถือเป็นพืชแห่งอนาคตตัวใหม่ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์สามารถผลิตเป็น อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชภัณฑ์ ปุ๋ยชีวภาพ อาหารสัตว์พลาสติกชีวภาพสำหรับบรรจุภัณฑ์ กระดาษ สิ่งทอ สารกระตุ้นทางชีวภาพ (bio stimulants) และน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยตั้งเป้าหมายสร้างงานสร้างรายได้ให้กับ23จังหวัดชายทะเลซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในการผลิตสาหร่าย ยิ่งกว่านั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมสาหร่ายยังมีส่วนสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 “นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าประชุมตัวแทนมูลนิธิได้แก่นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานกรรมการมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท,รศ.ดร.สุชาติ นวกวงษ์ กรรมการมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท ,นางสาวสภาวรรณ พลบุตร ,นางสาวณัฐนิชา ผกาแก้ว ผู้ประสานงานมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท
และนายชนะพล พอสม Advisor, Worldview International Foundation ส่วนผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้แก่ นายเชิญพร เต็งอำนวย รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ,นางสาวศุภกาญจน์ พรหมราช ,นางสาวจิราวรรณ เดียขุนทด และนางสาวนฤดี มาทองหลาง จากสถาบันนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม

‘ดี้ นิติพงษ์’ แนะ!! ทริค 10 ข้อ ก่อน ‘อ่านตัวเลข’ จำนวนมาก หลัง ‘ธิษะณา’ ปล่อยไก่โชว์สกิลอ่านตัวเลขหลักร้อยล้านไม่ลงตัว

(25 มี.ค.67) จากกรณี น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงงบประมาณ ปี 2567 ในสภาฯ และได้ปล่อยไก่ อ่านตัวเลขหลักร้อยล้านกลางสภาฯ แต่อ่านอย่างไรก็ไม่ลงตัวสักทีนั้น

ล่าสุด ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nitipong Honark แนะนำทริคก่อนอ่านตัวเลขจำนวนมาก โดยระบุว่า เวลาต้องอ่านออกเสียงตัวเลขจำนวนมากจากในกระดาษหรือจอ ถ้ามีเวลาเตรียมตัว ให้ซ้อมอ่านออกเสียงสัก 5-10 ครั้งก่อนจะอ่านออกมาต่อหน้าสาธารณชน เพื่อป้องกันการผิดพลาด…

ฉันมักจะเห็นผิดพลาดกันบ่อยครั้ง ใครสติดีก็แก้ไขได้เร็ว ณ จุดนั้น ขออภัยคำเดียว แล้วครั้งที่สองก็ผ่านไปได้…แต่ถ้าไหวพริบและสติไม่ค่อยแข็งแรง ก็จะหลงไปกันใหญ่ เลขพันกัน อะไรมาก่อนไม่รู้แล้ว พันแสนหมื่นล้านร้อย…

สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาหรือไม่ทันเตรียมตัวซ้อมอ่านมาก่อน ขอแนะนำดังนี้…

พออ่านมาถึงตรงที่เป็นตัวเลขจำนวนเยอะ ๆ ยาว ๆ  ให้หยุดดูจำนวนรวมสักสองวินาที

2. หายใจลึก ๆ 

3. ตัวเลขส่วนใหญ่บนกระดาษหรือจอ มักจะมีเครื่องหมาย ‘ลูกน้ำ’ หรือ ‘จุลภาค’ (comma) คั่นตัวเลข ทุก ๆ 3 ตัว ถ้าไปเห็นตัวเลขที่ไหนเขียนมาให้ท่านอ่านโดยไม่มีลูกน้ำคั่น ให้ขออนุญาตผู้ชม เอาปากกามาเขียนลูกน้ำเอง ทุก ๆ 3 ตัว แล้วค่อยอ่าน หลังเสร็จงานควรกลับไปด่าไอ้คนที่เขียนตัวเลขยาว ๆ มาให้อ่านโดยไม่มีลูกน้ำ ว่า ไอ้หอยหลอด ไอ้ไม่มีการศึกษา หรือไอ้อะไรก็ได้ตามแต่พอใจ (ยกเว้นกรณีเลขสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะไม่ใช่จำนวน…แต่เป็นวาสนา)

4. เมื่อตั้งสติเห็นเลขยาว ๆ ที่เขามีลูกน้ำคั่นมาให้แล้ว ให้อ่านตามข้อ 5 เป็นต้นไป (ถ้าตัวเลขมีแค่สามตัว…อ่านไปเลย ถ้าสามตัวยังอ่านผิด กรุณาอย่าอ่านอะไรให้ใครฟังต่อไปอีก)

5. เลขหน้าลูกน้ำตัวแรกจากขวามือของจำนวนที่เขียน คือ ‘พัน’ ตัวที่สองต่อมาคือ ‘ล้าน’ ตัวที่สามต่อมาคือ ‘พัน’ ตัวที่สี่ต่อมาคือ ‘ล้าน’ สลับกันไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะยาวแค่ไหน ก็ต้องนับลูกน้ำอย่างนี้ ถอยหลังจากทางขวา มาทางซ้าย

6. ที่จะทำให้ออกทะเลได้ง่ายที่สุด คือ ตั้งหลักแรกไม่ได้ ว่าเป็น ‘พัน’ หรือเป็น ‘ล้าน’ ซึ่งมักจะทำให้หลงหลักพันพัวนัวเนียดิ้นไม่หลุดอยู่เสมอ

7. สายตาต้องไว กวาดไปนับลูกน้ำก่อน ว่ามีกี่ตัว ท่องถอยหลังมา ว่า พัน-ล้าน-พัน-ล้าน แล้วค่อยเริ่มต้นอ่าน

8. ถ้าตัวเลขมันยังไม่ถึงลูกน้ำตัวต่อไป ก็จะมีสองหลักตามมา คือ ‘ร้อย’ สลับกับ ‘แสน’ เพราะฉะนั้นเวลาเห็นเลขสามตัวนำหน้าลูกน้ำ ก็ให้พิจารณาดูว่าเป็น หลักร้อย หรือ หลักแสน

9. โดยทั่วไปตัวเลขที่ต้องอ่าน ก็มักจะยาวไม่เกินลูกน้ำ สามสี่ตัวดอก แต่ถ้าจำนวนมากกว่านั้น ก็ตั้งสติอ่านให้ช้าหน่อยก็ไม่มีใครว่ากระไร ทุกคนเข้าใจ

10. ถ้ามีอาชีพต้องอ่านตัวเลขบ่อย ๆ ให้ฝึกอ่านโดยใช้วิธีนี้บ่อย ๆ แล้วจะคล่องตัวจนแทบไม่ต้องตั้งหลักในการอ่านนานจนผิดสังเกต

11. แถมอีกนิด คือ ต้องแม่นวิชาเลขคณิตตอนประถมด้วยว่า ล้าน แสน หมื่น พัน ร้อย สิบ หน่วย  ต้องเป็นการนับให้ติดปาก สลับกันเมื่อไหร่ ฮาเมื่อนั้น

หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อแม่ประไพ พ่อทิดเอิบทั้งปวงของฉัน ถ้าหากมีใครใจดี เอาไปทำเป็นกราฟิกอินโฟได้ ก็จะอ่านง่ายกว่าเป็นอักษรบรรยายเช่นนี้  

ขอให้ประสบความสำเร็จในการอ่านตัวเลขโดยทั่วกัน

‘เฒ่าวัย 67 ปี’ ใช้มีดแทงป้าดับสลด เพราะ ‘พัดลม’ ตัวเดียว หลังตนเปิดจ่อ แต่โดนหันหนี ก่อน ตร.ตามจับตัวได้ที่คอนโด

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.67) ร.ต.ท.พชร ปุ้มฤทธิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับเเจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในร้านอาหารตามสั่ง ซอยเอกชัย 66 แขวงคลองบางพลาน เขตบางบอน กทม. ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง พบ ร่างน.ส.พรพิมล อายุ 64 ปี มีบาดเเผลถูกเเทงบริเวณหน้าอก 2 เเผล กู้ชีพปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมะลิ เเต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ห้องพัก ชั้น 7 ของคอนโดแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังพังประตูเข้าควบคุมตัวไว้ได้

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนายวรพงษ์ อายุ 67 ปี จากการตรวจค้นพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบถามเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การวกไปวนมา พยายามอ้างตัวว่าตัวเองเป็นตำรวจยศนายพล และบอกว่า “ผู้การจะต้องมารับผิดชอบในความปลอดภัยของตัวเองนะ” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน

จากการสอบถามแม่ค้าขายอาหารจุดเกิดเหตุเผยว่า นายวรพงษ์ ผู้ก่อเหตุ เดินมานั่งในร้านก่อนนั่งเฉย ๆ อยู่หน้าพัดลม ยังไม่ได้สั่งอาหารอะไรกิน จากนั้นน.ส.พรพิมล ผู้เสียชีวิต เดินเข้ามาในร้าน สั่งแกงจืดและไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะลุกไปหันพัดลมที่ผู้ก่อเหตุนั่งจ่ออยู่ ให้หันไปทางโต๊ะที่ผู้ตายนั่ง ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ลุกขึ้นพุ่งเข้าไปใช้มีดแทงทันที โดยที่ยังไม่ทันได้มีปากเสียงอะไรกันเลย

ทั้งนี้นายวรพงษ์ ชอบมานั่งเฉย ๆ บ่อยครั้งและไม่ได้สั่งอาหารกิน แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะรู้ว่าสภาพจิตดูไม่ค่อยปกติ และที่ผ่านมาก็มักจะเห็นพกมีดติดตัวไว้เป็นประจำ เท่าที่ทราบทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตทั้งสองคนจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป แต่ไม่เคยมีเหตุรุนแรงมาก่อน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้นก็พอพูดจารู้เรื่อง ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตมาก่อน ก่อนเกิดเหตุไปซื้อข้าว ระหว่างนั่งรอ ทันใดนั้นคู่กรณีเดินมานั่งและแย่งพัดลมตรงจุดที่นั่งอยู่ ทำให้โมโหใช้มีดแทงไปที่หน้าอก 2 แผลจนเสียชีวิต

แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ กับพกพาอาวุธมีดฯ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านบอกว่าผู้ชายคนนี้มีอาการป่วยทางจิตเวช ตำรวจจะติดต่อให้ญาตินำหลักฐานหรือเอกสารมายืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พบว่าเคยเป็นตำรวจหรือข้าราชการแต่อย่างใด คาดว่าที่ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจมาจากอาการทางจิตเวชก็เป็นได้

ทั้งนี้ ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายวรพงษ์ ไปที่ห้องกักขังผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุไม่ตอบคำถามใดๆ แต่ผู้ก่อเหตุได้หันไปทำท่า ‘วันทยหัตถ์’ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

‘เจี๊ยบ’ เหน็บ!! ‘ทักษิณ’ หลังย่องไปตัดผมที่สีลม ลั่น!! ไม่คิดจะนิ่งซัก 2-3 เดือน ไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย

(25 มี.ค. 67) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ อดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กภาพข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาตัดผมที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณตึกแถวย่านสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (สีลม) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อความระบุว่า…

“ไม่คิดจะหักห้ามใจพักผ่อนนิ่ง ๆ ซัก 2-3 เดือนไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย”

เฉลย!! 'สุนัข' ในตุรเคีย 'จ้องมอง-แบ่งอาหาร' ในท่อระบายน้ำ เพราะลูกแมวตัวเล็กอาศัยอยู่ โดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

(25 มี.ค.67) คุณประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้โพสต์เรื่องราวน่าประทับใจผ่านเฟซบุ๊ก 'Prapas Cholsaranon' ระบุว่า...

ผู้คนที่มาท่องเที่ยวที่ถนนเฟทิเย่ต์ เมืองอิซมิท ประเทศตุรเคีย เริ่มสงสัยเจ้าแอนนี่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่เอาแต่จ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวัน

มันทำอย่างนั้นไปทำไม

ยิ่งมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเจ้าแอนนี่นั่งเฝ้านั่งมองท่อระบายน้ำมาลงโซเชียลมีเดีย ผู้คนก็ยิ่งช่วยกันตั้งข้อสงสัย

คนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าหรืออาจเป็นเพราะกลิ่นจากท่อระบายน้ำที่ดึงดูดสุนัข

อีกกลุ่มหนึ่งคิดว่าหรือมันมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้ 

อีกกลุ่มก็ค้านว่ามันอาจเป็นแค่แสงวับ ๆ แวมๆที่สะท้อนลงไปผิวน้ำ

พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นหลายคนพยายามก้มมองลงไปในท่อระบายน้ำ แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด

บางคนก็พยายามเงี่ยหูฟังว่ามันจะมีเสียงอะไรให้ได้ยินบ้าง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินอะไร

ในที่สุดก็มีคนไปตามตำรวจดับเพลิงมาช่วยเปิดตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากออกดู 

เปิดแล้วเอาไฟฉายส่องลงไปก็ไม่เห็นอะไร

พอเอาฝาท่อมาปิด เจ้าแอนนี่ก็ยังคงนั่งมองท่อระบายน้ำต่อไป

อีกมุมหนึ่งของถนน โซฟีสาวน้อยใจบุญคนหนึ่งที่ชอบเอาอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัด เธอเห็นรูปของเจ้าแอนนี่ในโซเชียลมีเดีย เธอจำมันได้ว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ชอบมากินอาหารที่เธอนำมาให้

คราวนี้เธอจึงเพิ่งสังเกตว่า เจ้าแอนนี่ไม่ได้กินอาหารที่เธอให้จนหมดเหมือนสุนัขตัวอื่น เมื่อเธอให้ชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งแก่เจ้าแอนนี่ไป เธอจึงได้เห็นว่าเจ้าแอนนี่คาบเอาอาหารเดินหนีออกไปอีกทางหนึ่ง เธอรีบเดินตามเจ้าแอนนี่ไป แน่นอนมันไปที่ท่อระบายน้ำปริศนานั้น

เธอเห็นกับตาว่าเจ้าแอนนี่มันกัดเนื้อที่เธอให้ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำนั้น

โซฟีรีบโทรหาตำรวจดับเพลิง เธอคิดว่าในท่อระบายน้ำน่าจะมีสัตว์อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ 

ตำรวจดับเพลิงกลับมาที่บริเวณท่อระบายน้ำอีกครั้ง แล้วก็เปิดฝาท่อระบายน้ำ คราวนี้พวกเขาใช้อุปกรณ์ก้านยาว ๆ ราวสามสี่เมตรผูกกับสมาร์ตโฟนแล้วก็แหย่ลงไปแล้วบิดเข้าในทางขวางของท่อระบายน้ำที่ตามองเข้าไปไม่ถึง แล้วก็ถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ตโฟนไปตลอดเวลาของการแหย่ไม้ลงไป

ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเจ้าแอนนี่มันจ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวันด้วยเหตุผลอะไร เมื่อตำรวจดับเพลิงนำวิดีโอนั้นมาเปิดดู

ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ห้าตัวอาศัยอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

ตำรวจรื้อท่อระบายน้ำแล้วนำลูกแมวผอมโซที่หวาดกลัวผู้คนทั้งหมดออกได้

และตอนจบของพฤติกรรมอันน่าสงสัยของเจ้าแอนนี่ครั้งนี้ก็คือ ชาวบ้านและตำรวจต่างช่วยกันแบ่งลูกแมวไปเลี้ยงดู 

‘ตร.ขอนแก่น’ หวังดีช่วยเหลือชาวบ้านน้ำมันหมด แต่ดันเติมผิดประเภท พร้อมยืดอกรับผิด ขอรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการ

(25 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณี ตำรวจ สภ.ขอนแก่น ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่น้ำมันรถยนต์หมด จึงได้นำน้ำมันไปเติมให้กับรถยนต์คันดังกล่าวของประชาชน ซึ่งต่อมามีชาวเน็ตเข้ามาทักท้วงว่า เติมน้ำมันผิดชนิดหรือไม่นั้น

ล่าสุด เพจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบกับค่าเสียหายทั้งหมด

พร้อมระบุข้อความว่า รายงานเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือรถประชาชนน้ำมันหมด สภ.เมืองขอนแก่น ขอรายงานเหตุการณ์ วันนี้ (24 มี.ค.67) เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.วรทรรศน์ กัสนุกา รอง สว.(ป.)ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรประจำการ (20-1) พร้อมด้วย จ.ส.ต.ฉัตรชัย เมืองทอง ระหว่างออกตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนคร แจ้งว่าประชาชนรถยนต์น้ำมันหมดขอความช่วยเหลือ โดยได้ไปซื้อน้ำมัน จำนวน 300 บาท ตามที่เจ้าของรถแจ้งมาและนำไปเติมให้เรียบร้อย จากนั้นได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลเฟซบุ๊ก ได้มีคอมเมนต์แจ้งว่าได้เติมน้ำมันผิดประเภท

ต่อมาเวลา 20.00 น. จึงได้ทำการตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมัน พบว่าได้ซื้อน้ำมันผิดจริง (ดีเซล B7) ซึ่งเกิดจากการสื่อสารกันคลาดเคลื่อน โดย สภ.เมืองขอนแก่น จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการและกราบขออภัยเจ้าของรถที่เกิดเหตุการณ์นี้

“เราดูแลคุณ เพื่อให้คุณไปดูแลประชาชน”

‘แสนชัย’ จัดหนัก!! ‘นักมวยพม่า’ หลังแลบลิ้นยั่วใส่บนเวทีไทยไฟต์ ประเคน ‘หมัด-เท้า-เข่า-ศอก’ พร้อมเตะก้านคอจนน็อกไปยกแรก

(25 มี.ค.67) เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในศึก ไทยไฟต์ ปลวกแดง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในคู่ที่ 9 เป็นการชกของโคตรมวยสารคาม แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม อีกหนึ่งยอดมวยไทย วัย 43 ปี พบกับ มาน เย จอ ซัว นักมวยชาวเมียนมา ตัวตึงแห่งมัณฑะเลย์ วัย 28 ปี โดยชกในน้ำหนัก 68 กิโลกกรัม

ปรากฎว่าการชกจบลงเพียงยกแรก โดยทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น ทั้งคู่ต่างเปิดฉากแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด โดยที่ช่วงหนึ่ง มาน เย จอ ซัว ได้แลบลิ้นยั่ว แสนชัย

ทำให้ ยอดมวยสารคาม ประเคนอาวุธแบบจัดหนัก ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ใส่นักมวยเมียนมา ก่อนที่จะได้จังหวะเตะซ้ายก้านคอ เอาชนะน็อกนักมวยเมียนมา ไปได้ในยกที่ 1


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top