Saturday, 31 May 2025
NewsFeed

‘รทสช.’ รุกเอง!! เตรียมยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ  เร่งหาแนวทางป้องกันพฤติกรรมข่มขู่-ป่วนขบวนเสด็จฯ

(11 ก.พ. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า…

“เรื่องพฤติกรรมไปรบกวนขบวนเสด็จฯ ค่อนข้างชัดเจนว่า ฝ่ายต่างๆ ก็ออกมาประณาม แม้กระทั่งกลุ่มที่ไปยุยงกันเองแต่ต้น ก็แห่กันตัดหางประณามพฤติกรรมดังกล่าว เพราะค่านิยมการให้ร้าย ข่มขู่ ท้าทาย ไม่ให้เกียรติพระบรมวงศานุวงศ์นั้น เป็นการกระทำที่ด้อยค่าสังคม ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมถอย

ประเด็นของผมคือ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัย ถวายการอารักขา ฝ่ายข่าว ส่วนล่วงหน้า ส่วนติดตาม ควรจะทบทวนแผนและแนวทางการปฏิบัติ (Protocol) ให้รัดกุม และเร่งรัดการนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว หากไม่แสดงท่าทีให้ชัดเจน จะเกิดแรงปะทะในหมู่ประชาชน ขยายรอยร้าว สร้างความแตกแยกโดยใช่เหตุ 

ดังนั้น วันอังคารนี้ผมจะนำประเด็นเข้าที่ประชุมพรรคขอมติ ให้ยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ และให้ สส.รทสช. เสนอเรื่องต่อกรรมาธิการฯ ทุกคณะที่เกี่ยวข้อง ทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยฯ รวมถึงแนวทางการป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้าย ในลักษณะเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
 

‘แอน จักรพงษ์’ เฉลยปม ‘แอนนาเสือ’ เหตุไม่เข้ารอบ เพราะแบบนี้นี่เอง

(11 ก.พ.67) แม้จะผ่านพ้นไปแล้วนับปีกับการประกวด ‘Miss Universe 2022’ โดยตัวแทนประเทศไทย ที่ได้ส่งเข้าประกวดในปีนั้น คือ ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ เจ้าของตำแหน่ง Miss Universe Thailand และแม้ไม่เข้ารอบ แต่ก็ได้รับรางวัล ‘The ImpactWayv Award’ มาครอง ถือว่าทำได้อย่างเต็มที่ และสู้อย่างเสือ สมศักดิ์ศรีแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา  ‘แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ เจ้าขององค์กรนางงามจักรวาล ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง X เผยถึงสาเหตุที่ทำให้ ‘แอนนาเสือ’ ไม่เข้ารอบ โดยระบุว่า…

“ซื้อเวมาปีแรก… พอไปถึงนิวออร์ลีนส์ บอกดิฉันทันทีว่า กรรมการคัดเลือก 16 คนเรียบร้อยแล้ว… ไม่มีไทย! ...ดิฉันเถียงแทบตาย คุณป้าทั้งสองบอกอีวายเอาเข้าระบบไปแล้ว ทบทวนอะไรไม่ได้เลย! ดิฉันเลยขอว่า ต้องมีรางวัลพิเศษให้กับนางเสือหลังจากสปีชดิฉันจบ… อีวายคงไม่ต้องเกี่ยวมั้งคะ?!”

อาจด้วยเพราะสาเหตุของความไม่ยุติธรรมและความไม่เป็นระบบนี้เอง ทำให้ แอน จักรพงษ์ เข้าซื้อกิจการของ Miss Universe Organization (MUO) ซึ่งเป็นผู้จัดการประกวดนางงามจักรวาลหรือ ‘Miss Universe’ ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น ไม่เกิน 20,000,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 800 ล้านบาท

‘โฆษก รทสช.’ อัด!! ‘พิธา’ หยุดใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่ ปม ‘ตะวัน’ ชี้ ป่วนขบวนเสด็จฯ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับเจนเนอเรชัน

(11 ก.พ.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรีในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการที่ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน ก่อเหตุก่อกวนขบวนเสด็จ  ว่า ตนได้ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจที่ นายพิธา พยายามใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่มาแบ่งแยกคนในสังคม

เพราะกรณีนี้ เป็นเรื่องของคนที่ทำผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นสิ่งที่ นายพิธา ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นอดีตนายประกันให้กับ น.ส.ทานตะวัน และเคยอภิปรายสนับสนุน น.ส.ทานตะวันในสภา ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ กับการกระทำดังกล่าวที่เป็นการกระทำที่ย่ำยีหัวใจคนไทยเป็นจำนวนมาก

“ผมจึงอยากบอกกับนายพิธาว่า ขอให้เลิกใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่กับคนทุกรุ่นได้แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นไหน แต่มันเป็นเรื่องของคนที่ทำผิดกฎหมายและเป็นเรื่องของคนที่ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อย่าใช้วาทกรรมมาปลุกระดมคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่อีกจำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วย และรังเกียจกับการกระทำของ น.ส.ทานตะวัน กับพวกในครั้งนี้” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

นอกจากนี้ นายอัครเดช ยังกล่าวอีกว่า จากกรณีนี้มีแกนนำและสส.ของพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว แทนที่นายพิธาจะออกมาประณามการกระทำดังกล่าว กลับออกมาพูดคล้ายแบ่งแยกคนในสังคม ที่จะสร้างความแตกแยกให้กับคนในสังคมอีกหรือไม่ จึงขอให้นายพิธาได้กลับไปทบทวนสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ ทั้งการเคยไปประกันตัว น.ส.ทานตะวัน และการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ออกมา ว่ามันเป็นการย่ำยีหัวใจคนไทย ที่รักและเทิดทูนสถาบันเป็นจำนวนมากหรือไม่

‘จีน’ เผยยอด ODI ที่ไม่ใช่ภาคการเงิน ปี 2023 พุ่งสูงต่อเนื่อง ตอกย้ำความสำเร็จ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ กระตุ้นการค้า-ลงทุน

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 67 สำนักข่าวซินหัว, ปักกิ่ง รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีน เผยว่า การลงทุนขาออกของจีนในต่างประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพในปีที่แล้ว โดยการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) (ที่ไม่ใช่ภาคการเงิน) ของจีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 9.16 แสนล้านหยวน (ราว 4.62 ล้านล้านบาท) ในปี 2023

เมื่อวัดด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศข้างต้น ในช่วงเวลาเดียวกันนี้อยู่ที่ 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.68 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 จากปีก่อนหน้า

การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ที่ไม่ใช่ภาคการเงิน) ในประเทศที่เข้าร่วมในแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง แตะที่2.24 แสนล้านหยวน (ราว11.31ล้านล้านบาท บาท) ในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี

กระทรวงฯ ระบุว่าปริมาณการซื้อขายของโครงการตามสัญญาต่างๆ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.13 ล้านล้านหยวน (ราว 5.71 ล้านล้านบาท) ในปี  2023

‘บริษัททัวร์หัวใส’ จัดทริปเที่ยวพระตะบอง พาชม ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ เปิดให้ลงทะเบียน 14 ก.พ.นี้ แถมรับจำนวนจำกัดเพียง 8 คนเท่านั้น!!

จากกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เคยโพสต์รูปภาพบนอินสตาแกรมส่วนตัว เมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นรูปบ้านของ ‘เจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ ต้นตระกูลอภัยวงศ์ ในเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชาพร้อมข้อความระบุว่า “My grandmother used to live in this house almost 1 century ago บ้านเก่าคุณยาย” ซึ่งแปลได้ว่า ยายของตนเคยอาศัยที่บ้านหลังนี้มานาน 1 ศตวรรษที่แล้ว

ทำให้กลายเป็นประเด็นที่เกิดการถกเถียงกันในโซเชียลมีเดียอยู่หลายวัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา นายพิธา ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ‘คุณยายอนุศรี’ ซึ่งเป็นคุณยายของตนนั้น เคยแต่งงานกับคุณเกษม อภัยวงศ์มีบุตรด้วยกัน 2 คน ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณป้าของตน ณ ปัจจุบัน คุณยายเกิดที่พระนคร เคยย้ายไปอยู่พระตะบองพักนึงจริงและตนไม่ได้มีเชื้อสายเขมร ไม่ได้เป็นลูกครึ่ง ตามที่สื่อบางสำนักตั้งคำถาม พร้อมย้ำว่าตนไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นลูกหลาน อภัยวงศ์

หลังจากเป็นประเด็นร้อนทำเอาโซเชียลไฟลุกอยู่หลายวัน ล่าสุด บริษัทท่องเที่ยว ‘พิพิธเพลินใจ แทรเวล’ ผุดไอเดียพาลูกทัวร์เยี่ยมชม ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ ณ เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา พร้อมสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ระหว่างไทยและกัมพูชาในอดีตเมื่อนานมาแล้ว

โดยทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พิพิธเพลินใจ แทรเวล’ ได้โพสต์ข้อความ เปิดรับลงทะเบียนทัวร์บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศรโดยระบุว่า…

“เปิดรับลงทะเบียนพร้อมรายละเอียด โปรแกรมราคา วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

15-17 มีนาคม 2567 ไปเยี่ยมไปเยือน ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ เมืองพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชากัน

บ้านที่สร้างเกือบจะแล้วเสร็จแต่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรยังมิทันได้เข้าพำนัก ก็มีเหตุการณ์เสียดินแดนให้กับฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคมเสียก่อน

ย่ำไปในรอยไทย เมืองพระตะบอง-ศรีโสภณ ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 พร้อมเปิดรับลงทะเบียนวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ รับ 8 ท่านเท่านั้น”

‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงพระราชทานเงินเดือน 26 ล้านบาท ตลอดการเป็นทูลกระหม่อมอาจารย์ 35 ปี แก่ ‘รร.นายร้อย จปร.’

ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระราชทานเงินเดือน 26 ล้านบาทของพระองค์ ตลอดเวลา 35 ปีที่เป็นทูลกระหม่อมอาจารย์ พร้อมดอกเบี้ย ให้กับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) เหล่าศิษย์ จปร.ต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

 

โดย ผู้พันเบิร์ด พันเอกวันชนะ สวัสดี ได้เปิดเผยกับ วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ว่า ได้รับทราบจาก พลโทสิทธิพล ชินสำราญ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2560 นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 5 ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมบ้านสวนปทุม หลายท่านอาจสงสัยว่าเป็นสถานที่อะไร สถานที่นี้ คือ ‘พระตำหนักของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ’ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึกที่ได้รับมาจากสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งของที่ทรงซื้อมาโดยพระองค์เอง

 

ซึ่งในวันนั้น พระองค์จะเป็นผู้บรรยายเรื่องราว ประสบการณ์ในที่ต่างๆ ผ่านข้าวของแต่ละชิ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความรู้ที่น่าสนใจ และน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

 

หลังเสร็จสิ้นการบรรยายและเดินชมของในทุกห้องแล้ว พลโท สิทธิพล จึงได้มีโอกาสสอบถามข้าราชบริพารว่า ปกติแล้วมีคณะอื่นเข้ามาที่บ้านสวนปทุมแห่งนี้หรือไม่ ข้าราชบริพารตอบว่า มีกลุ่มนักเรียนนายร้อย ซึ่งนับเป็นโชคดีมากเพราะไม่มีคณะอื่นเข้ามาเลย นอกจากนักเรียนนายร้อยเท่านั้น

 

แต่ยังมีเรื่องที่ผู้บัญชาการเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่ง มีความสำคัญและซาบซึ้งกินใจเช่นกัน นั่นก็คือในวันนั้นพระองค์ได้พระราชทานเช็คเป็นจำนวน 19,201,788.48 บาท เงินจำนวนนี้ แท้จริงแล้วคือ เงินเดือนของพระองค์เอง

 

พลโทสิทธิพล เล่าให้ฟังต่อว่า ในปี 2558 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานเงินเดือนทั้งหมดของพระองค์ ที่รับราชการมาตลอด 35 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26 ล้านบาท โดยในปีนั้นได้พระราชทานมาแล้ว 7 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ส่วนที่เหลือพระองค์บอกว่ายังอยู่ในธนาคารอีก 19,000,000 บาท และจะครบกำหนดเบิกได้ในปี 2560

 

กระทั่งเมื่อปี 2560 มาถึง พระองค์ได้ทรงพระราชทานส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด ให้กับ ‘กองทุนพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า’ รวมทั้งหมด 26,894,502.19 บาท

 

โดยทรงพระราชทานเช็คให้ ‘กองทุนพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า’ มาแล้ว 7,431,194.22 บาท เมื่อ 29 กย. 2558

 

จากนั้น เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2560 ทรงพระราชทานเช็คเงินจำนวน 19,201,788.48  บาท ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2560 และให้ดอกเบี้ย ตั้งแต่ 13 ต.ค. 2558–13 ก.ค. 2560 อีกจำนวน 271,519.49 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26,894,502.19 บาท

 

ซึ่งเอาไว้สำหรับพัฒนาการศึกษาของนักเรียนนายร้อย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อเหล่านักเรียนนายร้อย ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันอย่างหาที่สุดมิได้

 

แต่อันที่จริงแล้ว คุณประโยชน์ทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้ก่อเกิดกับเฉพาะนักเรียนนายร้อยเท่านั้น เพราะในท้ายที่สุดแล้วนักเรียนนายร้อยเหล่านี้ ก็จะออกมารับใช้ประเทศชาติในงานด้านความมั่นคง นำมาซึ่งความผาสุกของประชาชนคนไทยทั้งชาติ

 

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ จึงมีต่อปวงชนชาวไทยทุกคน และประเทศชาติไทยอย่างแท้จริง

 

‘ไก่ย่างห้าดาว’ จัดโปรฯ หลังต้นทุนวัตถุดิบปรับราคาลง ประกาศลดราคาสินค้า 4-10 บาท สานฝันคนชอบกินไก่

(11 ก.พ. 67) แม้เปิดปีมังกรมา ผู้บริโภคจะเผชิญกับภาวะข้าวยากหมากแพง เพราะสินค้าจำนวนหลายรายการตบเท้าขึ้นราคา หรือหากแบรนด์ไหนไม่ขยับขึ้น ก็มีการใช้กลยุทธ์การ ‘ลดไซส์’ เพื่อคงราคาขายเดิมไว้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดแค่ในไทยแต่เป็นทั่วโลก จนมีกระแส ‘Shrinkflation’

ท่ามกลางของแพง ‘ธุรกิจห้าดาว’ หรือที่คนรู้จักกันในชื่อเล่น ‘ไก่ย่างห้าดาว’ ได้ประกาศปรับลดราคาสินค้าลง 4-10 บาท โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 12 กุมภาพันธ์ 2567

ทั้งนี้ ธุรกิจห้าดาวระบุว่า บริษัท ขอแจ้งการปรับลดราคาจำหน่ายผู้บริโภค โดยโครงสร้างราคาใหม่นี้ผู้ประกอบการยังคงได้รับ ‘กำไรเท่าเดิม’ ซึ่งการปรับลดราคาต้นทุนวัตถุดิบมีผลตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567

พร้อมกันนี้ บริษัทได้ยืนยันในเรื่องของการพยายามที่จะพัฒนาคุณภาพและความคุ้มค่า เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเป้าหมายของครอบครัวห้าดาวมาโดยตลอด

สำหรับรายการสินค้าที่ปรับลดราคามีทั้งสิ้น 9 รายการ ลดตั้งแต่ 4-10 บาท เช่น ไก่ย่างพริกไทยดำ (ตัว) ราคาใหม่175 บาท ลดลง 10 บาท จากราคาเดิม 185 บาท, ไก่ย่างสูตรต้นตำรับ (ตัว) ราคาใหม่ 165 บาท ลดลง 10 บาท จากราคาเดิม 175 บาท, ไก่กรอบห้าดาว (ชิ้น) ราคาใหม่ 29 บาท ลดลง 6 บาท จากราคาเดิม 35 บาท, ไก่ทอดเกลือ(ครึ่งตัว) ราคาใหม่ 75 บาท ลดลง 4 บาท จากราคาเดิม 79 บาท และไก่จ๊อสามสี (ไม้) ราคาใหม่ 25 บาท ลดลง 5 บาท จากราคาเดิม 30 บาท เป็นต้น

พลันที่แบรนด์ประกาศลดราคาสินค้า ทำให้ค่อนข้างได้ใจ และได้รับคำชมจากผู้บริโภค เพราะหลายคนมองเป็นเรื่องราวดีๆ ท่ามกลางผู้ประกอบการ หรือธุรกิจอาหารไม่น้อยที่มีการปรับขึ้นราคาขาย รับกับภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิตวัตถุดิบอยู่ในช่วงขาขึ้น

ทั้งนี้ การปรับราคาสินค้า ส่วนใหญ่เมื่อขยับขึ้นแล้ว การหั่นราคาลงค่อนข้างน้อย

‘ธุรกิจห้าดาาว’ เป็นธุรกิจอาหารของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ดำเนินการภายใต้ ‘ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน’ ซึ่งพอร์ตโฟลิโอของบริษัทยังมีแบรนด์ธุรกิจอาหารอื่นๆ รวม 6 แบรนด์ ได้แก่ ไก่ห้าดาว แฟรนไชส์ไก่ย่าง ไก่ทอดที่เป็นตำนานของธุรกิจห้าดาว, ไฮพอร์ค แฟรนไชส์หมูพรีเมียม ราคาสุดคุ้ม, เป็ดเจ้าสัว แฟรนไชส์เป็ดพะโล้ เป็ดย่าง ที่มีซอสสูตรลับชูรสชาติความอร่อย

ข้าวมันไก่ไห่หนาน แฟรนไชส์ข้าวมันไก่พรีเมียม ต่อยอดจากไก่ห้าดาว, กระทะเหล็ก แฟรนไชส์อาหารตามสั่งต้นตำรับรสชาติไทย และสตาร์คอฟฟี่ แฟรนไชส์เครื่องดื่มที่ต่อจิ๊กซอว์ความครบครันให้ธุรกิจห้าดาวนั่นเอง

 

‘ธนกร’ จี้!! ‘พิธา-ชัยธวัช’ เตือนกลุ่มทะลุวัง หยุดก้าวล่วงสถาบันฯ แนะ ‘ก้าวไกล’ กลับไปทบทวนนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งดูใหม่

(11 ก.พ. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มทะลุวัง กับกลุ่มศูนย์รวมประชาชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสยาม ว่า ตนเข้าใจถึงความไม่พอใจของกลุ่มศปปส.ที่ไม่เห็นด้วยกับการขับรถ บีบแตร รบกวน ขบวนเสด็จฯ และประเทศกิจกรรมทำโพลในเรื่องดังกล่าว โดยเชื่อว่าคนไทยทั้ง รวมถึงตนเองนั้น ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่การใช้ความรุนแรไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดี จึงขอให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างความขัดแย้ง ทำร้ายร่างกายถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และแย้ง และไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา คนไทยด้วยกันต้องรักกันสามัคคีกัน ส่วนกลุ่มทะลุวังออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าว ทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำ ตามกระบวนการกฎหมายซึ่งคดีความอยู่ในชั้นศาลหลายคดีอยู่แล้ว

นายธนกร กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลและนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดูเหมือนไม่ได้ออกมาตักเตือนกลุ่มทะลุวัง แต่ยังมองว่าควรเปิดพื้นที่ให้เยาวชนแสดงความเห็นและโยงไปถึงการเสนอนิรโทษกรรมคดีด้วยนั้น แม้ว่านายพิธาจะเคยเป็นนายประกันให้ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ‘ตะวัน’ ในคดีทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และปัจจุบันจะถอนจากการเป็นนายประกันก็ตาม ทั้งนายพิธาและนายชัยธวัช ควรตักเตือนกลุ่มดังกล่าวให้หยุดก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจใหม่ ให้มีการแสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์และถูกต้องตามกฎหมายจะดีกว่า

หากจะดีกว่านั้น ควรพูดคุยกับเครือข่ายเยาวชน ให้หันมาช่วยกันพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมจะดีกว่า พื้นที่พูดคุยสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศมีอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่เรื่องที่กลุ่มทะลุวังเคลื่อนไหวอยู่

“การที่นายชัยธวัชและนายพิธา ไม่ได้ตักเตือนกลุ่มเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในทางที่ผิด และยังมองว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง ควรเปิดพื้นที่ให้แสดงออกนั้น น่าจะมาจากความเข้าใจที่ผิดตั้งแต่ต้น เพราะสถาบันฯ ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ที่สำคัญเป็นการทำผิดคดีอาญาที่ร้ายแรง ไม่ควรเหมารวมว่าเป็นคดีทางการเมือง ที่จะเสนอสภาฯ ให้มีการนิรโทษกรรมได้ ขอให้พรรคก้าวไกล ทบทวนเรื่องนี้โดยด่วน ควรกลับไปพูดคุยกับเครือข่ายให้หยุดก้าวล่วงสถาบันฯ และหันมาช่วยกันพัฒนาประเทศในด้านที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า เพราะผมเชื่อว่าองค์ความรู้ที่ทันโลกของคนรุ่นใหม่ จะช่วยพัฒนาประเทศได้ จะมายุ่งกับสถาบันฯ อันเป็นที่รักและศรัทธาของคนไทยทำไม” นายธนกร กล่าว

เชียงใหม่-รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ติดตามการดำเนินงานสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ให้การต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด และคณะ ในการติดตามการดำเนินงานสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยมี พลเอกโกศล ประทุมชาติ กรรมการ บริหาร ทำหน้าที่ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และนายกฤษดา ลาพิมลรองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร, นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  
          
โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพกับสัตว์เชื่อง เยี่ยมชมกิจกรรมโครงการสร้างรายได้ให้กับชุมชน 4 ตำบลรอบ ๆ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ประกอบไปด้วยเทศบาลตำบลหนองควาย เทศบาลเมืองแม่เหียะ เทศบาลตำบลสุเทพ เทศบาลตำบลบ้านปง กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และชุมชนบ้านไร่กองขิง

ขณะเดียวกันได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร และข้อมูลโครงการของสำนักงานเชียงใหม่ในซาฟารี เยี่ยมชมการแสดง  Tiger Show ซึ่งเป็นการแสดงความสามารถของเสือและสิงโต นั่งรถชมสัตว์ในโซน Savanna Safari ให้อาหารสัตว์ และชมกิจกรรมน้ำพุดนตรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และสูงที่สุดในเอเชีย โดยมีความสูงถึง 30 เมตร พร้อมทั้งได้เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมกิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต่อไป

นภาพร/เชียงใหม่

'ทรัมป์' ลั่น!! หากได้เป็นผู้นำอีกครั้ง  จะปล่อยรัสเซียขยี้ 'ชาตินาโต' ให้แหลก

(12 ก.พ.67) เพจ 'เดือดทะลักจุดแตก' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ตามคำมั่น คือ ชาติสมาชิก 'นาโต' ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2% ของ GDP

แล้วถามว่าชาติสมาชิกทำตามนั้นหรือไม่ ก็ตามภาพถ้าสีแดง ๆ คือไม่ถึง 2% แต่ถ้าสีน้ำเงิน ๆ คือผ่าน 

แน่นอนว่าอเมริกาออกเยอะสุด (ภาพนี้เฉพาะฟากยุโรป ส่วนอเมริกาเหนือมีโน้ตไว้ข้างล่าง) 

คำถามคือทำไมอเมริกาต้องมาแบก นี่ไม่เคยมีใครตั้งแง่แบบนี้มาก่อน กระทั่ง โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี --- ถึงขั้นขู่จะเลิกควักกระเป๋าแล้วด้วยซ้ำ

พอเป็น โจ ไบเดน เรื่องนี้ก็เงียบไป เพราะไบเดนใช้ 'นาโต' เป็นเครื่องมือในการสร้างพล็อตให้ยูเครนเล่น และแล้วก็เกิดสงครามจนได้

ยังไงก็ตาม อย่าลืมว่ายุคทรัมป์ ไม่เกิดสงคราม (มีแต่สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี แต่ไม่ได้เป็น 'โปรดิวเซอร์' ให้เกิดสงครามที่รบกันแล้วเสียเลือดเนื้อจริง ๆ)

ทรัมป์ก็แค่เอะอะมะเทิ่งเรียกแขก ตามสไตล์ (แต่ทำจริงก็มีให้เห็นแล้วเหมือนกัน!)

มันไม่ได้แปลว่ารัสเซียจะบ้าจี้ แล้วทำอะไรทะเล่อทะล่า และน่าจะมองเป็นแง่ดีด้วยซ้ำ เพราะไอ้ที่ยูเครนซ่าส์จนรัสเซียต้องมาสั่งสอนก็ไม่ใช่เพราะ 'นาโต้' ให้ท้ายหรอกหรือ ... ? (ทั้ง ๆ ที่ยูเครน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเลยด้วยซ้ำ)

การที่อเมริกาออกหน้า ประกาศว่า ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ ฉันไม่ยุ่ง ยิ่งทำให้แต่ล่ะชาติสมาชิกระมัดระวังเนื้อระวังตัว ไม่บุ่มบ่ามเกินงาม

โอกาสเกิดสงครามก็ยากขึ้น

ย้ำว่า!! อย่าลืมว่ายุคทรัมป์ ไม่มีสงคราม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top