Saturday, 31 May 2025
NewsFeed

‘วิโรจน์’ ซัด!! ‘ก๊วนทะลุวัง’ ปมบีบแตรใส่-รบกวน ‘ขบวนเสด็จฯ’ เตือน!! ป่วนมาตรการอารักขาบุคคลสำคัญ เป็นเรื่องไม่ควรกระทำ

(10 ก.พ. 67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า…

“กรณี การบีบแตรใส่ และกระทำในลักษณะรบกวน #ขบวนเสด็จ ผมขออนุญาตให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความปรารถนาดี ดังนี้

1.) ยังไม่ต้องคำนึงถึงว่าการเดินทางดังกล่าวเป็นขบวนเสด็จ หรือไม่ก็ได้ แต่โดยปกติแล้วทุกประเทศ ย่อมต้องมีมาตรการในการอารักขาบุคคลสำคัญระหว่างการเดินทาง

บุคคลสำคัญ อาจจะเป็นผู้แทนจากต่างประเทศ หรือพระราชอาคันตุกะ ก็ได้ ซึ่งรัฐฯ จะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างเดินทางมิได้

2.) ดังนั้น การที่มีใครเข้าไปรบกวน กระบวนการในการอารักขาบุคคลสำคัญ ที่ดำเนินการตามมาตรการของรัฐฯ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ผมเข้าใจดีว่า ความคิดเห็นของผมบางท่านก็อาจจะไม่เห็นด้วย ซึ่งก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ผมได้

แต่ในฐานที่ผมมีความปรารถนาดีหากจำเป็นต้องสะท้อนถึงสิ่งที่ผมคิดว่าไม่ถูกต้อง ผมก็ต้องกล้าที่จะสะท้อนแบบตรงๆ แม้ว่าจะทราบดีว่าอาจจะเป็นความเห็นที่ไม่อยากฟัง ก็ตาม

ผมเชื่อว่า หลายท่านจะเข้าใจความปรารถนาดีของผมจริงๆ ความปรารถนาดี ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับทุกเรื่อง

ในบางเรื่องที่เห็นต่าง ก็ควรจะต้องบอกกันอย่างตรงไปตรงมา ถึงจะเป็นความปรารถนาดีที่แท้จริง”

ปทุมธานี เปิดการฝึกอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้กับกำลังพลของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รุ่นที่ 12

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 พลเอก สุวิทย์ เกตุศรี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง เป็นประธาน ในพิธีการเปิดการฝึกอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้กับกำลังพลของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รุ่นที่ 12 จำนวน 14 นาย ในห้วงระหว่างวันที่ 9-17 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 

โดยการฝึกอบรมโครงการฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการและความรู้ด้านการเกษตรให้กับกำลังพลกองทัพสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีเนื้อหาการฝึกอบรมทั้งในภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติตามหลักสูตร “การพัฒนากสิกรรมธรรมชาติสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง” ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ รวมทั้งหลักกสิกรรมธรรมชาติ ให้กับกำลังพลกองทัพสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อให้สามารถนำไปเผยแพร่องค์ความรู้ที่ได้รับ ตลอดจนนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์พูนสุข มีความมั่นคงถาวร

สวนนงนุชพัทยา ทำพิธีบวงสรวง 9 กษัตริย์นาคาซึ่งเป็นราชาของเหล่าพญานาคทั้ง 4 ตระกูล และลูกแก้ว 9 ประการ

วันนี้ เวลา 09.09 น. นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้จัดพิธีบวงสรวง “9 กษัตริย์นาคาราชาของเหล่าพญานาค 4 ตระกูล ลูกแก้ว 9 ประการ”  เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องศิลปะวัฒธรรม ความสวยงาม และยิ่งใหญ่สุดอลังการ ด้วยความสูงถึง 14 เมตร วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเป็นการรวบรวมรูปแบบของพญานาคเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนครบทั้ง 9ตระกูลไว้ที่สวนนงนุพัทยา  

ในการทำพิธีมีพระอธิการวชิรศักดิ์ ถาวรสักโธ (หลวงครูหนุ่ม)วันบ้านเตย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายกัมพล ตันสัจจา เป็นประธานในพิธีและมีแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก มีการจัดสถานที่สำหรับบวงสรวง ณ บริเวณ สวนดอกไม้พญานาค ซึ่งเป็นสวนที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ล่าสุดที่นับว่า เป็นประติมากรรมปูนปั้น ที่ถูกออกแบบให้มีความวิจิตรสวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งของสวนนงนุชพัทยา

การจัดสร้าง “ 9 กษัตริย์นาคาราชาของเหล่าพญานาค 4 ตระกูล ลูกแก้ว 9 ประการ” เป็นดั่งตำนานจอมกษัตริย์นาคา 9 พระองค์ ผู้ปกครองพิภพบาดาล ประกอบด้วย พญาอนัตนาคราช , พญามุจรินทร์นาคราช , พญาภุชงค์นาคราช , พญาศีรสุทโธนาคราช , พญาศรีสัตตนาคราช , พญาเพชรภัทรนาคราช หรือ พญาเกล็ดแก้วนาคราช ,พญานาคดำแสนสิริจันทรานาคราช  , พญายัสมันนาคราช และพญาครรตระศรีเทวานาคราช โดยมีการจัดสร้างขึ้นตั้งแต่วันที่10 ก.ย 2566 แล้วเสร็จในวันที่ 2 ก.พ 2567 รวมระยะเวลาในการจัดสร้าง 146 วัน

นักวิจัยเดนมาร์กฝึก AI ให้คาดคะเน ‘ชะตาชีวิต’ มนุษย์ พบแม่นยำเกือบ 80% บอกได้ถึงขั้นใครอยู่ใครไปใน 4 ปีข้างหน้า

(10 ก.พ. 67) Business Tomorrow เผย ทีมนักวิจัยจากเดนมาร์กพัฒนา AI สุดล้ำที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัว และคาดการณ์อนาคตของคนได้อย่างแม่นยำ ผ่านโมเดลที่ใช้ชื่อว่า ‘life2vec’ ซึ่งทำงานโดยใช้เทคนิค Machine Learning และ Natural Language Processing (NLP) วิเคราะห์ข้อมูลประชากรกว่า 6 ล้านคนจากเดนมาร์ก ครอบคลุมข้อมูลตั้งแต่ปี 2551-2559 

โมเดลนี้เรียนรู้จากข้อมูลสุขภาพ การศึกษา รายได้ อาชีพ และอื่นๆ ซึ่งสามารถคาดคะเนพฤติกรรมความคิด, ความรู้สึก หรือแม้กระทั่งแนวโน้มการเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้ทำการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง 100,000 คน ในช่วงอายุ 35-65 ปี ซึ่งผลที่ออกมานั้น life2vec สามารถคาดการณ์อนาคตได้แม่นยำถึง 78% ว่าใครจะยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตใน 4 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม life2vec ยังมีข้อจำกัดบางประการ อย่างเช่น ไม่สามารถคาดการณ์การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บอกอายุขัยที่แน่นอน หรือใช้งานในชีวิตจริงได้ แต่เทคโนโลยีนี้มีประโยชน์ต่อวงการสุขภาพ ธุรกิจประกันชีวิต และอาจนำไปสู่เครื่องมือใหม่ๆ ในการวางแผน ดูแล และป้องกันปัญหาสุขภาพ

‘ก้าวไกล’ แจง!! พิธา’ ไม่ได้เป็นนายประกันของ ‘ตะวัน ทะลุวัง’ แล้ว หลังเจ้าตัวยื่นคำร้องขอถอนประกันตัวเอง เมื่อต้นปี 66 ที่ผ่านมา

(10 ก.พ. 67) พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความใน X ถึงกรณีที่มีการสอบถามถึงสถานะของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะนายประกันของ ‘ทานตะวัน ตัวตุลานนท์’ หรือ ‘ตะวัน ทะลุวัง’ ว่า ขอชี้แจงว่าแม้ปัจจุบัน ในแง่กฎหมาย พิธาไม่ได้เป็นนายประกันของคุณทานตะวัน เนื่องจากคุณทานตะวันยื่นคำร้องขอถอนประกันตัวเองเมื่อต้นปี 2566 แต่พรรคก้าวไกลและพิธา ในฐานะนักการเมืองและในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่มีความห่วงใยบ้านเมืองและอนาคตของคนรุ่นใหม่ รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พรรคก้าวไกลทราบว่า การแสดงออกของคุณทานตะวัน อาจสร้างความไม่สบายใจต่อประชาชนจำนวนไม่น้อย รวมถึงทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับขอบเขตของการแสดงออก และเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิธีการต่างๆ ในการเพิ่มแนวร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องมองเรื่องนี้โดยไม่แยกขาดจากภาพใหญ่ด้วยเช่นกัน นั่นคือความขัดแย้งทางการเมือง และความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนที่ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งต้องอาศัยการพิจารณาร่วมกันของทุกภาคส่วนในสังคม ถึงต้นตอของปัญหาและการสร้างพื้นที่สำหรับทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกอย่างมีวุฒิภาวะและคลี่คลายความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศไทยให้เท่าทันโลก

‘ขนมครก’ ของไทย สุดปัง!! ขึ้นแท่นอันดับ 4 เมนูแพนเค้กที่ดีที่สุดในโลก

เว็บไซต์อาหารชื่อดัง ‘Taste Atlas’ จัดอันดับเมนูขนมประเภทแพนเค้ก ทำ ‘ขนมครก’ ของไทย ไต่ขึ้นอันดับ 4 เมนูแพนเค้กขึ้นชื่อระดับโลก!!

ขณะที่อันดับ 1 เป็น เครป จากฝรั่งเศส ตามมาด้วยอันดับ 2 Kaiserschmarrn จาก ออสเตรีย, เจียนปิง ของจีน ในอันดับที่ 3 ส่วนอันดับที่ 5 ได้แก่ Crêpes Normande ของนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส

อันดับที่ 6 Crespelle alla Valdostana จาก อิตาลี, อันดับที่ 7 Blini จากรัสเซีย, อันดับที่ 8 Jeon จากเกาหลีใต้, อันดับที่ 9 Okonomiyaki จาก ญี่ปุ่น และอันดับที่ 10 Dosa จากอินเดีย

‘รมว.ปุ้ย’ เยือนญี่ปุ่น กระชับความร่วมมือ ‘METI’ ลุ้น 800 เอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตฯ ฮาลาลในไทย

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 67 ที่นครโตเกียว นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น มุ่งต่อยอดความร่วมมือแลกเปลี่ยนกรอบการทำงาน (Cooperation Framework) กับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น (METI) มุ่งเน้นการดำเนินงานร่วมกัน พร้อมเข้าร่วมประชุมหารือกับองค์กรด้านการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานฮาลาล ของประเทศญี่ปุ่น (JAHADEP) เพื่อชักจูงการลงทุนอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย คาดว่ามีนักลงทุนญี่ปุ่นสนใจร่วมลงทุนราว 800 ราย และจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

นางสาวพิมพ์ภัทรา เปิดเผยว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่น ถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของกันและกันมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นประเทศที่มีสัดส่วนมูลค่าการลงทุนในประเทศเป็นอันดับ 1 ดังนั้น จึงต้องการเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือระหว่างกัน ในการพัฒนาอุตสาหกรรมซึ่งทั้งสองประเทศ เพื่อรองรับและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจจากกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรม เป้าหมายที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้คนทั่วโลก อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมการแพทย์และการดูแลสุขภาพ 

ล่าสุด เพื่อเป็นการร่วมกันขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตและก้าวทันยุคสมัย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงนามความร่วมมือระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง มีการแลกเปลี่ยนกรอบการทำงานระหว่างกัน 2 ฉบับ ในปี 2018 และ 2022 ที่มุ่งเน้นการยกระดับภาคอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ให้กับภาคอุตสาหกรรมของไทย และต่อยอดการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย รวมถึงกระตุ้นการเติบโต และสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็งแก่ภาคอุตสาหกรรมไทย – ญี่ปุ่น

โดยการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ รมว.อุตสาหกรรมและคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายไซโตะ เคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม เพื่อหารือแนวทางการต่อยอดความร่วมมือ พร้อมแลกเปลี่ยนกรอบการทำงาน ฉบับใหม่ระหว่างกัน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย...

1.) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อรองรับการขยายตัวในภาคการผลิต โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

2.) การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งรวมทั้งในระหว่างกระบวนการผลิตและในนิคมอุตสาหกรรม

3.) การเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงการส่งเสริมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการลดปริมาณของเสียหรือชิ้นส่วนจากยานยนต์ (End-of –Life Vehicle)

และ 4.) การพัฒนาพลังงานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์สมัยใหม่แห่งภูมิภาค

พร้อมกันนี้ ยังได้หารือกับ 2 องค์กรพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ องค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) มุ่งเน้นการเชื่อมโยงและขยายเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย - ญี่ปุ่น รวมทั้งยกระดับการบ่มเพาะ พัฒนาสร้างเครือข่ายสตาร์ตอัป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเชิงลึก การแพทย์ สิ่งแวดล้อม และอวกาศ นอกจากนี้ ยังได้เข้าหารือกับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEDO) 

โดยร่วมกันวางกรอบแนวทางความร่วมมือไว้ 4 กิจกรรม คือ…

1.) โครงการการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
2.) โครงการพัฒนารถบัส รถบรรทุก และรถฟอล์คลิฟต์ ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมตามนิคมอุตสาหกรรม
3.) โครงการ CCUS หรือการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
และ 4.) โครงการรีไซเคิลมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน ยังได้หารือกับองค์กรด้านการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานฮาลาลของประเทศญี่ปุ่น (JAHADEP) เพื่อการขยายความร่วมมือกับอุตสาหกรรมฮาลาลของญี่ปุ่นให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยและใช้ประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ด้านวัตถุดิบของไทย เพื่อเป็นฐานการผลิตและส่งออกอาหารญี่ปุ่นฮาลาล ไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพ ตามแนวคิดครัวไทยสู่ครัวโลก คาดว่าจะมีเอกชนสนใจมาลงทุนในประเทศไม่ต่ำกว่า 800 ราย และจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท 

ด้าน นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ‘ดีพร้อม’ ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมระหว่างไทยและญี่ปุ่น ด้วยการต่อยอดและขยายผลกรอบการทำงาน (Framework) ฉบับใหม่ ระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการขยายความร่วมมือและสร้างโอกาสให้กับอุตสาหกรรมไทยภายังใต้แนวนโยบาย DIPROM Connection 

“ความร่วมมือในครั้งนี้ เน้นให้อุตสาหกรรมปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในบริบทต่างๆ อาทิ การพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ เช่น Robotic, IoT, Automation เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการจัดการ รวมทั้งการยกระดับกระบวนการผลิตทั้งระบบสู่แนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว ทั้งในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และนำกลับมาใช้ใหม่ และการพัฒนาพลังงานทางเลือกสำหรับยานยนต์สมัยใหม่ การรีไซเคิล - อัปไซเคิล วัสดุต่างๆ อย่างครบวงจร โดยเฉพาะซากยานยนต์ที่มีเพิ่มขึ้นโดยตลอด ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็นไปตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และเปรียบได้กับบัตรผ่านทางสู่เวทีโลกในอนาคต” นายภาสกร กล่าวทิ้งท้าย

‘โพลมะกัน’ ชี้!! นายจ้าง 40% เลี่ยงรับคน GEN Z เข้าทำงาน เหตุ!! คนเหล่านี้ไม่มีความพร้อมสำหรับชีวิตการทำงาน

ความแตกต่างระหว่างวัยในการทำงานเป็นเรื่องธรรมดาไม่ว่าจะรุ่นเบบี้บูมเมอร์ เจน-เอ็กซ์ ไปจนถึงรุ่นมิลเลเนียล แต่ในการสำรวจล่าสุดที่ไปสอบถามความเห็นนายจ้างอเมริกันนับร้อย อาจทำให้คนรุ่นใหม่นอยด์ได้ เมื่อนายจ้างต่างยกให้คนเจน-ซี (Gen Z) เป็นช่วงอายุที่ถูกยี้ในตลาดแรงงานไปเสียแล้ว

การสำรวจความคิดเห็นกรรมการและผู้บริหารจำนวน 800 คนในสหรัฐฯ ในเรื่องการรับคนเข้าทำงานในตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2023 พบว่า นายจ้างราว 40% หลีกเลี่ยงการจ้างงานผู้ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย เพราะคิดว่าคนเหล่านั้นไม่มีความพร้อมสำหรับชีวิตการทำงาน

นายจ้างที่ร่วมการสำรวจ 20% กล่าวว่า ผู้ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ มักจะมาสัมภาษณ์งานพร้อมกับผู้ปกครองของตน นายจ้างอีก 21% กล่าวว่า ตนต้องเจอกับผู้สมัครงานที่ปฏิเสธที่จะเปิดกล้องในระหว่างการสัมภาษณ์งานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ บ้างก็มีปัญหาที่ไม่ยอมสบตาผู้สัมภาษณ์ บางคนแต่งกายไม่เหมาะสม และยังมีที่ใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย

ผลการสำรวจดังกล่าวไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับไมเคิล คอนเนอร์ส ผู้สรรหาบุคลากรด้านบัญชีและเทคโนโลยีในเขตกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้เตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานให้กับผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย

เขากล่าวว่า ดูเหมือนคนเหล่านี้จะขาดความจริงจังกับชีวิต ไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาต้องการได้งานหรือไม่ หรือว่าฝืนใจทำ เขายังไม่เคยเจอกับผู้สมัครที่ปฏิเสธที่จะเปิดกล้อง แต่เขาเจอกับนักศึกษาที่มาสัมภาษณ์งานออนไลน์ตามเวลาที่กำหนดไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการสัมภาษณ์งาน อย่างเช่น ที่นอกห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

ทั้งคอนเนอร์ส และ ไดแอน เกเยสกี ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่วิทยาลัย Ithaca ในนิวยอร์ก ต่างเห็นพ้องว่าการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเติบโตและวุฒิภาวะของผู้ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย

เกเยสกีกล่าวว่า “การเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายของพวกเขานั้นมีปัญหามากมาย พวกเขาไม่ได้มีงานสำเร็จการศึกษา ไม่ได้มีงานเต้นรำ หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ อย่างที่เคยมีมา นอกจากนี้พวกเขาไม่สามารถทำงานในช่วงฤดูร้อนของปีนั้นก่อนที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ และแม้กระทั่งตอนที่พวกเขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไปแล้ว สิ่งต่าง ๆ เช่น การมีวิทยากรรับเชิญ การฝึกงาน หรือการไปเรียนต่างประเทศ ก็ถูกระงับไปด้วยเช่นกัน”

เรื่องดังกล่าวส่งผลให้นักเรียนมีความมั่นใจเกี่ยวกับความสามารถของตนในการมีส่วนร่วมในโลกของการทำงานน้อยลง

ในส่วนของมหาวิทยาลัยที่จะสามารถช่วยให้นักศึกษามีความพร้อมสำหรับการทำงานได้ ก็คือสิ่งที่พวกเขาได้สัมผัสนอกห้องเรียน เช่น การได้พบปะพูดคุยกับผู้คนที่มีความแตกต่างจากตัวเอง การได้ทำงานในโครงการต่าง ๆ ในชุมชน และการได้ฝึกงาน ซึ่งหยุดไปในช่วงของการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ แล้วผลสำรวจยังชี้ว่า นายจ้างอีก 38% กล่าวว่า ตนหลีกเลี่ยงการจ้างงานผู้ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นการสนับสนุนคนงานที่มีอายุมากกว่า และพวกเขาก็ยินดีที่จะจ่ายเงินให้คนงานที่มีอายุมากกว่าหรือเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ เช่น ให้ทำงานทางไกลได้มากขึ้น

เกือบครึ่งหนึ่งของนายจ้างกล่าวว่า พวกเขาต้องไล่พนักงานที่เพิ่งเรียนจบออกจากงาน 63% กล่าวว่าพนักงานจบใหม่บางคนที่ตนจ้างมาไม่สามารถรับมือกับภาระหน้าที่ของตนได้ 61% บอกว่าพนักงานเหล่านั้นมาทำงานสายบ่อยครั้ง 59% บอกว่าพวกเขามักทำงานไม่ทันกำหนดเวลา และ 53% บอกว่าพนักงานใหม่ที่เป็นคนหนุ่มสาวมักเข้าประชุมสาย

คอนเนอร์สกล่าวว่า พนักงานจบใหม่เหล่านี้น่าจะบริหารงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีขึ้นมากหากได้ทำงานในออฟฟิศมากกว่านี้ เพราะการทำงานจากที่บ้านในช่วงเวลาหนึ่งอาจทำให้พวกเขาทำงานล่าช้าลง และว่าพวกเขาต้องการที่ปรึกษาเพื่อที่จะได้เรียนรู้และมีความก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน

เกเยสกีจากมหาวิทยาลัย Ithaca กล่าวด้วยว่า เธอพบว่านักศึกษามีปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบรรดาครูอาจารย์ก็พยายามรับมือกับปัญหานี้ด้วยการเข้มงวดในเรื่องการเข้าเรียนให้น้อยลง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในเรื่องกำหนดการส่งงาน และบรรดานายจ้างเองก็รับรู้ได้ถึงระดับของความวิตกกังวลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากนี้

คอนเนอร์สกล่าวอีกว่าแม้ว่าการเตรียมความพร้อมทางวิชาชีพของ คนรุ่น Gen Z จะแย่ลงในช่วงการเกิดโรคระบาดใหญ่ แต่เรื่องนี้เป็นเทรนด์ที่เขามองเห็นมาหลายปีแล้ว พร้อมชี้ว่า “คนรุ่นนี้คำนึงเรื่องงานอดิเรกของตนมากกว่าและมีความยืดหยุ่นในเรื่องนั้น” นอกจากนี้ความอยากมีเงินทองหรือความต้องการก้าวหน้าในอาชีพการงานก็ลดน้อยลง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ เท่านั้นเอง

นายจ้างครึ่งหนึ่งที่ร่วมการสำรวจกล่าวว่า นักศึกษาจบใหม่ที่พวกเขาสัมภาษณ์ได้เรียกร้องค่าจ้างที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งเกเยสกีเชื่อว่าอาจเป็นเรื่องของการที่คนหนุ่มสาวมีความตระหนักรู้มากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ และพวกเขาคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทต่าง ๆ เอารัดเอาเปรียบพนักงานตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย และเห็นถึงความร่ำรวยเป็นพันล้านของบรรดาเจ้าของบริษัท จึงทำให้พวกเขาต้องการที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

ผบ.ตร. ประชุมหารือ ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กำชับแนวทางการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด แต่ต้องไม่กระทบแก่พสกนิกรของพระองค์ท่าน

เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.67) เวลา 15:30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อประชุมหารือกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าทุกหน่วย วางแนวทางกำชับความเข้มข้นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร  

ในการประชุมได้กำชับการปฏิบัติจะต้องไม่กระทบกับพี่น้องประชาชนที่สัญจรบนท้องถนน และยังคงหลักด้านความปลอดภัยในขบวนเสด็จอย่างสูงสุด ตลอดจนกำชับการรวบรวมพยานหลักฐาน ในคดีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในขบวนเสด็จ ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งก่อน ขณะ และหลังขบวนเสด็จ อย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย  หากพบว่ามีความผิด ก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งให้นำบทเรียนที่เกิดผลกระทบต่อขบวนเสด็จมาทำการศึกษา เพื่อถอดบทเรียน ทำการประชาสัมพันธ์แนวทางในการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในกรณีร่วมเส้นทางกับขบวนเสด็จให้ทราบและปฏิบัติได้อย่างปลอดภัย และเพื่อให้เกิดมาตรฐานในการถวายความปลอดภัยให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และไม่กระทบกับพสกนิกรของพระองค์ท่าน

สมุทรปราการ-ผู้ว่าสมุทรปราการ อวยพรรับ 'ตรุษจีน' ฉลองรับปีมังกร 2567

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ  จัดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 ณ บริเวณศาลเจ้าหลวงปู่ไต้ฮงกง มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ 

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางสาวอรวรรณ ชิณศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้น นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ประธานในพิธี พร้อมด้วย นางสาวอรวรรณ ชิณศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ นำคณะผู้บริหาร คณะกรรมการ คณะเจ้าหน้าที่ จุดธูปเทียนกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์หลวงปู่ไต้ฮงกง เทพเจ้าผู้อนุเคราะห์สัตว์โลก และเทพเจ้าไท้ฮั้วโจวชือ แห่งโชคลาภ

โดยมี นายเอนกพงศ์ คูณทรัพย์สิน ประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายธนกฤต ปิยะสิรินันท์ อดีตประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ นายสุดใจ จิรยาภากร ประธาน กก.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ รองประธานมูลนิธิฯ คณะกรรมการฝ่ายกิจกรรมต่างๆ และคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ ร่วมให้การต้อนรับพร้อมทั้งร่วมในพิธี

โดยบรรยากาศภายในงาน มีการตั้งโต๊ะ ลงชื่อทำบุญพะเก่ง คือการจดชื่อให้พระอนัมนิกาย สวดชัยมงคลคาถา ขอพรและแก้ชง พร้อมแจกส้ม ซึ่งเป็นผลไม้มงคลที่มีความสำคัญ และ มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับเทศกาลวันตรุษจีน ในการไหว้เทพเจ้า ส้ม ในภาษาแต้จิ๋วเรียกว่า “ไต้กิก” แปลว่า เฮงๆ รวยๆ ส้มยังมีสีเหลืองอร่ามคล้ายทอง ดังนั้น มีส้ม จึงคล้ายกับมีทอง และขนมจันอับ (จั๊งอับ) หรือขนมแต้เหลี้ยว แทนความหมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป ประกอบด้วยขนมแห้งห้าอย่าง คือ ถั่วตัด งาตัด ถั่วเคลือบ ข้าวพอง ซึ่งเป็นธัญพืชจึงมีความหมายถึง “การเจริญงอกงาม” นำกลับไปรับประทานเป็นมงคลแห่งชีวิต ให้กับทุกท่าน ที่มาร่วมทำบุญกราบไหว้ขอพรหลวงปู่ไต้ฮงกง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล 

นอกจากนี้ ทางผู้ประกอบการ เจ้าของบริษัท ห้างร้าน และพ่อค้า ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างเดินทางมาร่วมกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์หลวงปู่ไต้ฮงกง เทพเจ้าผู้อนุเคราะห์สัตว์โลก และเทพเจ้าไท้ทุกปี ประกอบกับ ทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ยังมีการจัดเตรียมซุ้มอาหาร คาวหวาน และน้ำดื่ม ไว้คอยต้อนรับสาธุชนทุกท่าน เป็นระยะเวลา 9 วันด้วยกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top