‘คนละครึ่ง’ ดึงเงินได้เกินคาด
แม้ช่วงแรกที่โครงการของรัฐอย่าง ‘คนละครึ่ง’ จะถูกสบประมาทเบาๆ ว่าไม่น่ากระตุ้นกำลังซื้อคนไทยได้มากนัก แต่กลับกันโครงการนี้ เริ่มดูดเงินจากกระเป๋าประชาชนให้ออกมาใช้จ่ายกันได้เยอะเกินคาด
แล้วตอนนี้โครงการคนละครึ่งเดินหน้าไปถึงไหน?
อัพเดทข้อมูลของกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2563
มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 5.7 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 7,387,647 คน
มียอดการใช้จ่ายผ่านแอพฯ เป๋าตังของธนาคารกรุงไทยราว 1.1 หมื่นล้านบาท เงินที่ประชาชนใช้จ่ายเองอยู่ที่ 5.61 พันล้านบาท ภาครัฐร่วมจ่ายไป 5.40 พันล้านบาท คิดเป็น 18.01% จากกรอบงบ 30,000 ล้านบาท มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 212 บาทต่อครั้ง
แต่ส่วนใหญ่ใช้ต่อบิลทะลุเกิน 300 บาท จังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด คือ กรุงเทพ / สงขลา / นครศรีธรรมราช / สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่
สำหรับโครงการคนละครึ่ง ของกระทรวงการคลัง เป็นโครงการเพื่อร้านค้ารายเล็ก และจำกัดสิทธิ์ไม่ให้ร้านค้ารายใหญ่เข้าร่วม โดยรัฐบาลจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ประชาชนครึ่งหนึ่ง คิดเป็นวงเงินคนละไม่เกิน 3 พันบาท และใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าได้ไม่เกินวันละ 300 บาท
ฉะนั้นหากคิดจากฐานผู้รับสิทธิ์ที่กำหนดไว้ทั้งหมดที่ 10 ล้านคน จะทำให้เกิดเม็ดเงินไหลเวียนจากฝั่งประชาชน 3 หมื่นล้านบาท และพอมาบวกกับอีกครึ่งจากรัฐบาล จะทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินไปสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไหลไปร้านค่าย่อยๆ ได้ราว 6 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ยังเหลือพื้นที่อีกราว 2.3 ล้านคนที่สามารถลงรอบใหม่ได้ในวันนี้ (11 พฤศจิกายน พ.ศ.2563)