Tuesday, 29 April 2025
ElectionTime

‘พุทธิพงษ์’ ลุยแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ รองรับการขยายตัวของเมือง ดันแผนพัฒนาตามความต้องการให้ครอบคลุม-ตอบโจทย์ ปชช.

(31 มี.ค. 66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า…

“พร้อมแล้ว แก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ อย่างตรงจุด!
จากที่ตัวผมและทีมงาน ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทยได้ลงพื้นที่ครบทุกโซน ทั่วทั้งกรุงเทพฯ วันนี้จึงขอยกประเด็นปัญหาของพื้นที่ ‘กรุงเทพฯ ฝั่งธนฯ’ พร้อมทั้งวิธีรับมือ แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เพื่อช่วยตอบโจทย์ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเฉพาะเจาะจง

เนื่องจากพื้นที่นี้ มีหลายเขตที่รวมกันอยู่ค่อนข้างที่จะเยอะมาก ๆ ได้แก่ เขตพื้นที่ธนบุรี, คลองสาน, บางกอกใหญ่, บางกอกน้อย, บางพลัด, ตลิ่งชัน, ทวีวัฒนา, ภาษีเจริญ, บางแค, หนองแขม, บางขุนเทียน, จอมทอง, บางบอน, ราษฎร์บูรณะ และทุ่งครุ ทำให้จำนวนประชากรกว่า 1,707,430 คน กับทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความสะดวกสบายมากเพียงพอ เช่น โรงพยาบาลรัฐมีเพียง 4 แห่ง ศูนย์กีฬา หรือรถสาธารณะมีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร ผมและทีมงานตระหนักถึงปัญหานี้ดีครับ เราจึงได้คิดนโยบายที่จะช่วยปรับปรุงพื้นที่ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีมากเพียงพอกับจำนวนประชากร

‘มาดามเดียร์’ VS ‘ตั๊น จิตภัสร์’ ใครจะอยู่ใน 10 อันดับปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.

“อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปีของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะเป็นบ้านหลังไหนขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกันและให้โอกาสเราได้ทำงาน...”

นั่นคือความในใจของ จิตภัสร์ กฤดากร หรือ ‘ตั๊น’ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นที่มาของข่าวสะพัดว่า ‘ตั๊น จิตภัสร์’ จะอำลาพรรคพระแม่ธรณีไปอีกราย แต่ล่าสุดเธอยังอยู่ และยังอยู่ใน 100 รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์…

แทบทุกครั้งในส่วนของผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ ใน 20 ลำดับแรกพรรคประชาธิปัตย์จะกำหนดให้ลำดับที่ 5,10,15,20  เป็นผู้หญิง...ดังเช่นปี 2562 ลำดับ 5 คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพนิช, ลำดับ 10 ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (แม่เลี้ยงติ๊ก) ลำดับ 15 ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ (ซ้อเจน) และลำดับ 20 จิตภัสร์ กฤดากร

ลำดับ 20 ทำให้ตั๊น จิตภัสร์ ได้เป็น ส.ส.ในขยักสอง หลังการเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่...

ปีนี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลดจาก 150 เหลือ 100 ที่นั่ง ระบบเลือกตั้งเปลี่ยนจากบัตรใบเดียว เป็นบัตรสองใบ  หาร 100 คาดหมายกันล่าสุดว่า 1 เก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องใช้ถึง 370,000 คะแนน...ถ้าประชาธิปัตย์ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ 4 ล้านคะแนน ก็จะได้แค่ 10.81 ที่นั่ง…

หรือลำดับปลอดภัยหรือเซฟโซนได้เป็น ส.ส.แน่ แค่ลำดับ 10 เท่านั้น

ตามรายงานข่าว ระบุตรงกันแทบทุกสำนักว่า ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 10 รอบนี้ จะตกเป็นของ ‘มาดามเดียร์’ หรือวทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.ลำดับ 19 พรรคพปชร. ที่ย้ายมาซบตักแม่พระธรณีตั้งแต่เดือนก.ย. ปี 2565 และผลงานกำลังเข้าตากรรมการ…

ไม่แค่นั้น มาดามเดียร์เธอเป็นภรรยาของคุณฉาย บุนนาค บิ๊กบ๊อสค่ายเนชั่น...จึงไม่ต้องห่วงว่า นอกจากแสงจากตัวเธอเองแล้ว สปอตไลต์จากช่องเนชั่นยังช่วยฉายส่อง (กันแบบยกช่อง) อีกด้วย…

ลูกหม้ออย่าง ‘ตั๊น’ ก็พอจะมองอะไรออกว่าอะไรเป็นอะไร!!

แต่จะว่าไปถ้าจะคำนึงถึงความอาวุโส และผลงาน...คนที่เหนือกว่าทั้งตั๊น จิตภัสร์ และมาดามเดียร์ ก็คือดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ซึ่งไม่รู้ชะตากรรมว่าหนนี้จะจอดป้ายลำดับที่เท่าไหร่…

ล่าสุด ดร.รัชดาโพสต์ในเฟซบุ๊กจับใจความได้ว่า ลำดับที่ 5, 10, 15 อะไรนั่นเป็นแค่หลักประกันว่าสัดส่วนหรือโควตาของผู้หญิงในสิบคนต้องมีอย่างน้อยสองคน แต่ไม่ได้ห้ามว่ามีมากกว่าไม่ได้…

ก็ต้องจับตาดูอันดับปาร์ตี้ลิสต์พรรคประชาธิปัตย์ว่าปีนี้จะกลายพันธุ์ไปแค่ไหนหรือไม่..หรือยังคงมั่นกับหลักการที่ชอบธรรม ขณะนี้เชื่อกันว่าอันดับ 1-7 ที่เปิดกันออกมาแล้วไม่น่าจะพลิก…

‘ชพก.’ เปิดตัวผู้สมัคร กทม. 33 เขต คัดสรรคนรุ่นใหม่-ไฟแรง หนุนรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ช่วยคนไทยหลุดพ้นความยากจน

(31 มี.ค. 66) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นำทีมแถลงข่าวเปิดตัว 33 ผู้สมัคร กทม. ร่วมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายวรวุฒิ อุ่นใจ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค โดยบรรยากาศเปิดตัวเป็นแบบมวยไทยไฟต์ ผู้สมัครพร้อมชนกับปัญหาเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมแล้วที่จะต่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งการเงิน สินเชื่อ น้ำมันแพง ไฟฟ้าแพง ปัญหาฝุ่น และปัญหาต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหาของประเทศและของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร เราจึงส่ง 33 ชีวิต ที่อาสาตัวมารับใช้ชาวกรุงเทพมหานคร ต้องขอบคุณนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคและนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค ที่ได้เตรียมการคัดสรรตัวผู้สมัครและนโยบายที่จะใช้ต่อสู้กับปัญหาเพื่อคนกรุงเทพมหานคร พรรคชาติพัฒนาเคยปักธงในกทม.มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน และเราจะต้องปักธงได้อีกครั้งในนามพรรคชาติพัฒนากล้าได้อย่างแน่นอน

“ผมมั่นใจว่านโยบายเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนา อยู่บนพื้นฐานของกระแสโลก ถ้าเป็นร้านอาหาร เราคือเมนูเศรษฐกิจที่พร้อมเสิร์ฟที่สุด วันนี้คนตกงานมากมาย มีหนี้สินเยอะ เราต้องเตรียมความพร้อมที่จะแข่งขันกับต่างประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาให้มากที่สุด เกษตรกรไทยจะต้องร่ำรวยขึ้น อะไรที่เป็นจุดแข็งของประเทศเราหยิบมาใช้ทั้งหมดผ่านนโยบายเศรษฐกิจเฉดสีของเรา” นายสุวัจน์ กล่าว

ด้านนายกรณ์ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต เป็นคนรุ่นใหม่ที่พรรคได้คัดสรรมาแล้วว่า มีความพร้อมที่จะมาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ให้คนไทยมีโอกาส มีความเสมอภาคทางโอกาสที่จะลืมตาอ้าปาก หลุดพ้นกับดักความยากจน วันนี้ได้เวลาชกจริงกับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ช่วงนี้ประเทศมีปัญหามากมาย ทั้งเศรษฐกิจ ของแพง โอกาสการทำมาหากิน ภาระหนี้สิน นี่คือภารกิจสำคัญของพรรคชาติพัฒนากล้า ลำพังแค่ปัญหาเฉพาะหน้ายังไม่พอ เราต้องรื้อโครงสร้าง เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมีค่าครองชีพที่ถูกลงอย่างยั่งยืน

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะหัวหน้าทีมกทม.กล่าวว่า ผู้สมัครทั้ง 33 คนของเราพร้อมที่จะมาทุบ ฟัน ฟาด ต่อย ลุยกับปัญหาปากท้องที่ต้องแก้ไข โดยมีรายชื่อเรียงตามเขตดังต่อไปนี้

วิเคราะห์นโยบายพรรคการเมืองในเวทีเลือกตั้ง 66 เป็นไปได้ไหม? ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันของเพื่อไทย

วิเคราะห์นโยบายของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๖

เชื่อว่า เศรษฐกิจของประเทศน่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน เมื่อมีพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการกำหนดอัตราค่าจ้างและเงินเดือนโดยไม่ได้คำนวณจาก ‘ดัชนีราคาผู้บริโภค’ (Consumer Price Index : CPI)

เมื่อพรรคเพื่อไทย ชูนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำสูงกว่าปัจจุบันเกือบสองเท่าภายใน ๔ ปี แต่ตอนที่เรียนปริญญาโทผู้เขียนเคยเรียนวิชาที่มีการสอนเกี่ยวกับการคำนวณอัตราค่าจ้างเงินเดือนมา จึงมีข้อสงสัยสงสัยว่า วิธีคิดค่าจ้างขั้นต่ำของพรรคการเมืองพรรคนั้น ใช้ฐานคิดคำนวณจากอะไร ‘หลักการหรือหลักกู’

ศาสตราจารย์ สมพงษ์ จุ้ยศิริ

ด้วยความที่เป็นลูกศิษย์ของ ศาสตราจารย์ สมพงษ์ จุ้ยศิริ ปรมาจารย์ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ท่านหนึ่งของประเทศ จำได้ว่า ท่านสอนเรื่องการคำนวณอัตราค่าจ้างเงินเดือนว่า ต้องคำนวณจาก ‘ดัชนีราคาผู้บริโภค’ (Consumer Price Index : CPI)

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คือ เครื่องมือทางสถิติที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกของสินค้าและบริการโดยเฉลี่ยที่ผู้บริโภคจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการจำนวนหนึ่ง ณ เวลาหนึ่งเทียบกับปีฐาน (Base Year) โดยดัชนีราคาผู้บริโภคกำหนดขึ้นจากความต้องการศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวและการวัดระดับการครองชีพของประชากร เพื่อยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชากรให้ดียิ่งขึ้น

แนวคิดพื้นฐานของดัชนีราคาผู้บริโภค พัฒนามาจากแนวคิดของดัชนีค่าครองชีพ (Cost of living index) ซึ่งต้องการวัดค่าใช้จ่ายในการบริโภคของผู้บริโภคในเดือนหนึ่งๆ โดยยังรักษามาตรฐานการครองชีพตามระดับที่กำหนดไว้ได้ ซึ่งเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ เนื่องจากมาตรฐานการครองชีพยังขึ้นกับปัจจัยอื่น ได้แก่ รายได้ จำนวนสมาชิกในครัวเรือน ภาษี คุณภาพสินค้า เทคโนโลยี และราคาสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

ดังนั้น จึงได้มีการนำดัชนีราคาผู้บริโภคมาใช้แทนโดยให้มีปริมาณและลักษณะของสินค้าที่คงที่แต่เปลี่ยนแปลงเฉพาะราคาสินค้าเท่านั้น แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะไม่สามารถแทนดัชนีราคาค่าครองชีพได้อย่างสมบูรณ์ แต่อาจกล่าวได้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นตัวประมาณค่าดัชนีค่าครองชีพได้ดีในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการบริโภค 

‘ภูมิใจไทย’ ส่งนักการเมืองรุ่นใหม่ สู้ศึกดีเบต ‘New gen’ ชูแนวคิด เยาวชนไทย กล้าคิด-กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

(31 มี.ค. 66) ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือมติชน ประกอบด้วย มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติธุรกิจ, มติชนทีวี และมติชนสุดสัปดาห์ จับมืออีก 5 พันธมิตร ได้แก่ ทีดีอาร์ไอ, สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย, วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์, MFEC และศูนย์ข้อมูลมติชน เปิด ‘5 เวที 10 ยุทธศาสตร์ 2 กลยุทธ์’

โดยในเวทีที่ 3 ‘ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย’ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีตัวแทนนักการเมืองรุ่นใหม่ จาก 9 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชัน

ในรอบที่สอง ช่วงแบทเทิล คำถามที่ 5 นักการเมืองรุ่นใหม่มีแนวทางการปฏิบัติที่จะจัดการอย่างไรกับเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ประชาชนทั่วไป การคอมเมนต์บนโซเชียลฯ หรือแม้กระทั่งการทำภาพยนตร์ ซีรีย์ ที่ถูกจำกัด จะแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง

น.ส.อิสราพร บูรณอรรจน์ (อุ้ม) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เสรีภาพในการพูด คือ การทำศิลปะในการทำภาพยนตร์ ดนตรี อย่างมีอิสระเสรี เห็นด้วยเรื่องของความเหมาะสมในเมื่อความเหมาะสม ไม่ได้มีคำจำกัดความว่าอะไรดีอะไรไม่ดี บางอย่างก็เทา ๆ เราไม่มีสิทธิไปกำหนด ตนคิดว่า สื่อบันเทิง หรือการพูดที่ไม่เหมาะสมควรเป็นแค่การกำหนดว่าสื่อประเภทนี้เหมากับอายุเท่าไหร่ก็พอ

‘เพื่อไทย’ พบปะ-หารือ ผู้ประกอบการอัญมณี ยัน!! พร้อมผลักดันอุตฯ อัญมณีไทย เป็นศูนย์กลางของโลก

‘ปานปรีย์ พหิทธานุกร’ นำทีมเพื่อไทยพบผู้ประกอบการอัญมณีฯ ยืนยัน ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ พร้อมสร้างงาน-สร้างตลาด-สร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมอัญมณี ขณะที่ผู้ประกอบการฝากความหวัง ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางอัญมณีโลกให้ได้

(31 มี.ค. 66) พรรคเพื่อไทย นำโดย ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ กรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นิกร ซัจเดว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย วิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก. เขตบางรัก พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ได้แก่ กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อรรฆรัตน์ นิติพน นวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร เข้าพบปะหารือผู้ประกอบการอัญมณี สมาพันธ์อัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่า (ประเทศไทย) ที่อาคาร Jewely Trade Center ถ.สีลม

สมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ได้ด้วยการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60-70% สินค้ากลุ่มอัญมณีสร้างรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาท สร้างการจ้างงานนับล้านตำแหน่ง แต่ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ทรมานผู้ประกอบการอัญมณีเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้นำเสนอทางออกข้อเสนอแนะ แต่รัฐบาลไม่รับฟัง เพราะไม่มีการกระจายอำนาจ การตัดสินใจรวมศูนย์ที่คนเดียว หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล อยากเสนอให้ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีของโลก 

“ความหวังของผู้ประกอบการ การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเปลี่ยนประเทศไทย เป็นโอกาสของภาคประชาชนที่จะได้รู้ว่าปากกามีราคาอย่างไร ผมมั่นใจหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ การค้า จากหน้ามือเป็นหลังมือ ผมอยากเห็นผู้นำที่สร้างความเชื่อมั่นในระดับโลก อยากให้ดูรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา ยืนยันทุกรัฐบาล ทั้งรัฐบาล ดร.ทักษิณ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ รับฟังเรา วันนี้เราถูกบีบจนหายใจไม่ออก” สมชาย กล่าว 

ปานปรีย์ พหิทธานุกร กล่าวว่าอัญมณีเป็นสินค้าสำคัญของไทย เป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียง สร้างหน้าตาให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เวลานี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้ซื้อนิยมมาซื้ออัญมณีในไทยมากขึ้น หากจีนและอินเดียเติบโต จะทำให้อาเซียนเติบโตตามไปด้วย อยากให้ภาคเอกชนร่วมกันทำงาน หากเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมเข้าไปสนับสนุนเต็มที่ ทั้งอุตสาหกรรมอัญมณี และคนทำงานทุกด้าน รวมทั้งช่างฝีมือที่ยังรายได้น้อย อยากให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จะเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนมากขึ้น

‘สันติ-ชัยวุฒิ’ ชูนโยบาย พปชร.เข้าถึงทุกกลุ่ม วอนเลือกทั้งคนทั้งพรรค ดัน ‘บิ๊กป้อม’ นั่งนายกฯ

สันติ-ชัยวุฒิ เยือนกรุงเก่าพบปชช.ต่อเนื่อง ย้ำนโยบาย พปชร.เข้าถึงทุกกลุ่ม วอนเลือก ‘พล.อ.ประวิตร’ เป็นนายกฯผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจทุกระดับเข้มแข็ง

(31 มี.ค. 66) เวลา 17.30 น.นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อม ด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมเวทีปราศรัย วัดลาดทราย อ.วังน้อย จ.อยุธยา โดยมีนายพิตติพรรธน์ พรรณธนะ เขต 4 นายภูมินทร์ มงคล เขต 5 นายชณทัต ปัมะภูวดล เขต 3 แนะนำตัวให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเสนอนโยบายที่มุ่งช่วยปากท้อง พี่น้องชาวอยุธยา โดยมีประชาชน มาร่วมฟังปราศรัยกว่า 3,000 คน 

นายสันติ กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต มีความตั้งใจที่จะเสนอตัวในการรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างจริงใจและจริงจัง และขอมั่นใจได้ว่า ทั้งสามคนเป็นพลังของพรรคพลังประชารัฐ เป็นพื้นที่ความหวัง และความตั้งใจของพรรค ที่ทุกคนจะสามารถได้รับการตอบรับจากประชาชน เลือกมาเป็นตัวแทนที่สามารถผลักดันนโยบายต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน   พร้อมกับนำความเจริญและเดินหน้าพัฒนาจังหวัด ทั้งในด้านการส่งเสริมอาชีพ สร้างความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านกลไกของพรรค และรัฐบาล 

นอกจากบัตรสวัสดิการประชารัฐ ที่จะเพิ่มเงินเป็น 700 บาทต่อเดือน มีนโยบายบุตร ธิดา ประชารัฐ เพื่อส่งเสริมด้านสุขอนามัย และลดภาระการเลี้ยงดูบุตร ให้กับสตรีผู้เป็นเพศแม่ ซึ่งถือเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ในการเพิ่มจำนวนประชากร เพราะมีส่วนสำคัญในการสร้างบุคลากรเพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป แต่ต้องยอมรับประเทศประสบปัญหา ผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้พรรค ออกนโยบายดูแลผู้สูงอายุ เพิ่มเงินเบี้ยสวัสดิการประชารัฐ 345 678 ที่พร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปได้ 3,000 บาท 70 ปี 4,000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างแหล่งเงินให้เข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ผ่านนโยบายการเงินการคลัง ซึ่งจะดำเนินการให้เป็นจริง แต่ต้องอาศัยเสียงพี่น้องประชาชน มอบความไว้วางใจให้กับ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีและว่าที่ผู้สมัคร พปชร.เป็นรัฐบาล เพื่อนำนโยบายต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือ รวมถึงการแก้ไขระเบียบการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน โดยให้นำเงินฝากที่อยู่ในระบบ 19-20 ล้านล้านบาท ต้องกำหนดให้แบ่งสัดส่วนการปล่อยกู้อย่างทั่วถึง แบ่งเป็นการจัดสรรเงินฝากในสัดส่วน 50% เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้กับประชาชนทั้งคนชั้นกลาง ผู้มีรายได้น้อย โดยให้พี่น้องประชาชน ที่มีความต้องการวงเงินไม่เกิน ระดับ 100,000-500,000 บาท นำไปพัฒนาอาชีพ ไม่ใช่กระจุกไวปล่อยสินเชื่อเพียงระดับบนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถลืมตาอ้าปากได้

‘มาร์ค’ กลับถิ่นเก่า ควง ‘มาดามเดียร์’ ลุยบางคอแหลม อ้อนชาวบ้าน หนุน ‘อภิมุข’ เข้าสภาฯ รับใช้ประชาชน

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 66 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรค ปชป.ลงพื้นที่ชุมชนบ้านใหม่ ซอยเจริญกรุง 85 เขตบางคอแแหลม ช่วยหาเสียงสนับสนุนให้นายอภิมุข ฉันทวานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตยานนาวา-บางคอแหลม พรรค ปชป.

โดยทันที นายภิสิทธิ์เดินทางถึง นางสุไร แก้วทอง สข. คนแรกของประเทศไทยปี 2528 ที่เคย ช่วยอภิสิทธิ์หาเสียงสมัยลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก พร้อมกับชาวบ้านเก่าแก่ในชุมชน มารอต้อนรับ โดยมี มล.อภิมงคล โสณกุล อดีต ส.ส.เขตนี้ มาช่วยหาเสียงด้วย

ขณะเดียวกัน นายอภิมุข ได้นำโปสเตอร์ หาเสียง รูป นายอภิสิทธิ์ สมัยลงเลือกตั้งครั้งแรก ที่ นายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส.เขตนี้ ซึ่งเป็นพ่อ นายอภิมุข ฝากมาให้นายอภิสิทธิ์ด้วย

โดยในช่วงหนึ่งระหว่างการเดินพบปะประชาชน นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ทุกคนยังจำได้ว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตนเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่เขตนี้ ได้ทำงานรับใช้ประชาชนในฐานะ ส.ส.แต่ตนก็ไม่เคยทิ้งพื้นที่ เพราะตลอดเวลาในการทำงานการเมืองได้กลับมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ รวมถึงยังได้เฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพมาเป็นผู้แทน รับใช้ดูแลประชาชนในเขตพื้นที่ยานนาวา-บางคอแหลมอยู่ตลอด

โดยในอดีต ตนเคยมาเดินหาเสียงหาเสียงกับนายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส.กทม. คุณพ่อของนายอภิมุข ดังนั้น นายอภิมุขจึงไม่ใช่คนอื่นไกล และได้ทำงานรับใช้พี่น้องในฐานะ ส.ก.มายาวนาน และวันนี้มีความพร้อมที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ตนก็ให้ความมั่นใจเพราะว่าเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าใจเขาอยู่กับงานการเป็นผู้แทนฯ รับใช้ประชาชนและจะสามารถมาดูแลทุกข์สุขของทุกคนได้

‘ก้าวไกล’ เล่นใหญ่ รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารทั่วไทย ชี้!! นี่ต้องเป็นการจับ ‘ใบดำ-ใบแดง’ ครั้งสุดท้าย

(1 เม.ย. 66) พรรคก้าวไกล นำโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายปิยรัฐ จงเทพ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพ เขตพระโขนง-บางนา ได้เข้าสังเกตการณ์ ชวนพูดคุย และทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ณ หน่วยจับใบดำ-ใบแดง เขตพระโขนง โดยมีผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ทั่วประเทศกระจายทำกิจกรรมรณงค์ลักษณะเดียวกันในเขตเลือกตั้งของตนเอง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราตั้งเป้าจะยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารภายใน 1 ปี เพื่อให้เมษายนปีนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ที่ต้องมีคนมาจับใบดำ-ใบแดง หรือต้องมีคนเป็นทหารทั้งที่ไม่อยากเป็น

“เหตุผลที่พรรคก้าวไกลเสนอการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เพราะระบบเกณฑ์ทหารทำให้เกิดความสูญเสียในสองระดับด้วยกัน กล่าวคือ การสูญเสียเสรีภาพในระดับปัจเจกบุคคล ซึ่งกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพ โอกาสความก้าวหน้าทางการงาน และเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนอีกระดับหนึ่งคือ ‘การสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับประเทศ’ เพราะเป็นการดึงทรัพยากรมนุษย์ออกจากตลาดแรงงานในวันที่ประเทศไทยเผชิญกับ ‘สังคมสูงวัย’ และโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนคนวัยทำงานที่ลดลง” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ยืนยันว่า การยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะหากเราลดยอดกำลังพลที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง (เช่น พลทหารรับใช้) ควบคู่กับการยกระดับสวัสดิการ-สวัสดิภาพของพลทหาร และการกำจัดความรุนแรงในค่าย ยอดทหารที่สมัครใจเข้ามาจะเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่อภารกิจการรักษาความมั่นคงของประเทศ ซึ่งหากการยกเลิกเกณฑ์ทหารสามารถเกิดขึ้นได้จริงจะส่งผลดีกับทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่กองทัพ ที่จะได้ลบข้อครหาว่าเป็น ‘สถาบันอำนาจนิยม’ และก้าวสู่ ‘กองทัพยุคใหม่’ ที่เต็มไปด้วยบุคลากรที่สมัครใจทำงานและพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างแท้จริง

‘บิ๊กป้อม’ ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 - แคนดิเดตนายกฯ ‘พปชร.’ ชี้ จะได้รู้ว่า ปปช.เลือกมาจริง ลั่น!! ต้องการเป็นผู้นำที่สง่างาม

(1 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ’ ได้มีการโพสต์ข้อความ ระบุว่า…

“ที่ผ่านมา ผมสื่อสารให้พี่น้อง สื่อมวลชน และประชาชนได้เข้าใจถึงแนวคิดของผมว่า ทำไมต้องไปต่อ ผ่านจดหมายทั้ง 6 ฉบับ ซึ่งจบไปแล้ว และต้องขอขอบคุณที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ และค้นหาผ่าน Google ในแต่ละฉบับ โดยรวมแล้วมีกว่า 10 ล้านครั้ง

แต่สำหรับในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ก็คงจะต้องสื่อสารกับพี่น้องประชาชนในรูปแบบใหม่ ที่จะต้องตอบคำถามบ่อยหน่อย เพราะอาจจะมีบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผมและพรรค ควรจะต้องมีคำตอบเพื่อสร้างความเข้าใจ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะทำเป็น Facebook ป้อมรายวัน กรุณาติดตาม”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top