Tuesday, 29 April 2025
ElectionTime

‘สกลธี’ จี้ กกต.เร่งสร้างความเข้าใจบัตรเลือกตั้ง เหตุ ปชช.ยังสับสน แนะ อย่าทำงานเน้นความสะดวกส่วนตน จนกระทบผู้ใช้สิทธิ์

(29 เม.ย. 66) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่สวนพฤกษชาติคลองจั่น ถนนนวมินทร์ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ร่วมกับนางนฤมล รัตนาภิบาล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 14 (บางกะปิ-วังทองหลาง) หมายเลข 5 เพื่อพบปะประชาชน

โดยนางนฤมล กล่าวว่า ตนเป็น ส.ก.มา 3 สมัย จึงรู้ปัญหาและความต้องการของคนในพื้นที่ดี เขตบางกะปิเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่น จึงมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ขาดพื้นที่สีเขียว และปัญหาน้ำท่วมเพราะท่อตัน อีกทั้งยังมีการจราจรหนาแน่น ซึ่งแม้จะมีรถไฟฟ้าเข้ามา 2 เส้นทางคือสายสีส้มและสายสีเหลือง แต่ยังขาดการเชื่อมโยงกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกมากอย่างที่ควร

​“ปัญหาเหล่านี้จะหวังพึ่งท้องถิ่นอย่าง กทม.อย่างเดียวไม่ได้ เพราะมีงบประมาณไม่พอ และบางปัญหาบางพื้นที่ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน หากดิฉันได้รับโอกาสให้เข้าไปทำงานในฐานะ ส.ส. จะสามารถประสานงานกับทุกหน่วยงานและแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ให้พี่น้องประชาชนได้มากกว่าเดิม จึงอยากขอโอกาสจากชาวบางกะปิ วังทองหลางด้วย” นางนฤมล กล่าว

‘เพื่อไทย’ ปลุกใจชาวศรีสะเกษ ปชช.หนาแน่น เชียร์ให้เป็นนายกฯ อ้อน!! เดินเข้าคูหา กา พท. 2 ใบ เพื่อไปแก้ทุกปัญหาของพี่น้องชาวไทย

(29 เม.ย.66) ที่จ.อุบลราชธานี นายเศรษฐา ทวีสิน ​แคนดิเดตนายกฯ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แวะทานไข่กระทะที่ร้านสามชัย โดยนายเศรษฐา เลือกกินเกาเหลาเลือดหมูกับก๋วยจั๊บญวน และไข่กระทะ เป็นอาหารเช้า

จากนั้นนายเศรษฐา นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งส.ส.พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ​กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ​ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ​​ผู้สมัครส.ส. ศรีสะเกษ เขต 3 ​พรรคเพื่อไทย เบอร์ 9, นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ​​ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 4​ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 8 และนายอมรเทพ สมหมาย​​ ผู้สมัครส.ส. ศรีสะเกษ เขต 5​ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 7 ขึ้นปราศรัยเวทีย่อย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจร่วมฟังปราศรัยมากกว่า 10,000 คน

นายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า เสียงโห่ร้องไล่พล.อ.ประยุทธ์เมื่อสักครู่นี้ดังไปทั่วประเทศแล้ว ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน ทำงานได้เงินไม่พอใช้ ต้องอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี พอแล้วใช่หรือไม่ อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 66 พวกเราชาวเพื่อไทยหวังว่าจะเป็นวันประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนการเมืองไทย ขอให้พี่น้องเดินเข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ไม่มีพรรคพี่ ไม่มีพรรคน้อง ไม่มีปันใจ ภารกิจนี้ใหญ่หลวง ถ้าเราไม่ได้แลนด์สไลด์ 2 ลุง กลับมาแน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาเรื่องค่าไฟแพง ราคาพืชผลที่ตกต่ำ ปัญหาแล้ง ถ้าพรรคเพื่อไทยมา เราจะแก้ปัญหาทั้งหมด เราจะทำให้รายได้ของพี่น้องเกษตรกรโตขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี นายกฯจากพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปต่างประเทศ ไปเปิดตลาดใหม่ๆ เอาสินค้าของพี่น้องประชาชนคนไทยไปขายทั่วโลก นอกจากนี้ หนี้เกษตรกรจะพักทั้งหนี้ทั้งดอกให้เกษตรไทย 3 ปีเต็มๆ พี่น้องจะต้องมีสิทธิในที่ดินทำกิน พรรคเพื่อไทยจะออกโฉนดให้พี่น้องประชาชนจำนวน 50 ล้านไร่ในเวลา 4 ปี นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีก 15 ล้านไร่เพื่อป้องกันปัญหาน้ำแล้ง

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายด้านเศรษฐกิจหลายนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทในปี 70 โดยปีแรกที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลค่าแรงขึ้นทันทีเป็น 400 บาท และเงินเดือนปริญญาตรีต้อง 25,000 บาท นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ใครว่าเราทำไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น เราอยากทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีต้นทุน มีศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องคอยแบมือขอเงินตลอดไป เป้าหมายสูงสุดของพรรคเพื่อไทยคือทำให้พี่น้องพ้นจากความยากจน ขณะที่เรื่องสุขภาพ และจิตใจของพี่น้องประชาชนเราก็ไม่เคยละเลย เราจะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติด ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาลูกหลานเราถูกมอมเมา ราคายาบ้าถูกกว่าน้ำอัดลม มันเป็นไปได้อย่างไร จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผู้เสพต้องกลายเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัด ผู้ค้ายาต้องถูกปราบปรามอย่างเด็ดขาด ไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน ถ้าตนเป็นนายกฯกระทรวง ทบวง กรมใด ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติดต้องขึ้นตรงกับนายกฯ ต้องมีการยึดทรัพย์ผู้ค้าให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด กัญชาก็เช่นกัน เราไม่ยอมให้กัญชามามอมเมาลูกหลานแน่นอน อย่าเลือกพรรคที่สนับสนุนกัญชาเสรี วันนี้ตนมาที่นี่ ดูจากแววตา และเสียงตอบรับของพี่น้อง ตนหวังว่า ส.ส.ศรีสะเกษทั้ง 9 คน ของพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงตอบรับจากจากพี่น้องทุกคน ถ้าพลาดไปแม้แต่คนเดียว การจะทำนโยบายต่างๆคงเกิดขึ้นได้ยาก วันนี้ตนในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ มาขอวิงวอน มาขอความรัก ความเห็นใจ ว่าการเดินทางเข้าทำเนียบ เราต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างเต็มที่ เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เป็นภูมิต้านทาน ให้เราไปต่อสู้เพื่อพี่น้อง เอาความยากจนออกจากชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

‘กกต.’ แจ้ง!! ยกเลิกลงทะเบียน ‘เลือกตั้งนอกราชฯ’ ที่ซูดาน หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรง ชี้ แต่สามารถใช้สิทธิในไทยได้

(29 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ พิจารณาเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร ของเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้กำหนดให้วันที่ 28-29 เม.ย.เป็นวันออกเสียงลงคะแนนนอกราชอาณาจักร ณ ที่เลือกตั้งสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม สาธารณรัฐซูดาน แต่เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในกรุงคาร์ทูม ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.เป็นต้นมา อันเป็นเหตุให้การออกเสียงลงคะแนนในที่เลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม สาธารณรัฐซูดาน ไม่สามารถกระทำได้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร จึงประกาศให้งดการออกเสียงลงคะแนน

‘อนุทิน’ ย้ำ!! ยังไม่เปิดดีลจับขั้วตั้งรัฐบาล รอหลังผลเลือกตั้งเท่านั้น ลั่น!! พร้อมร่วมงานทุกพรรค พร้อมหนุนนายกฯที่เสนอ แต่ไม่เอานายกฯคนนอก

(29 เม.ย.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์” ทางไทยพีบีเอส ย้ำว่า จนถึงขณะนี้พรรคภูมิใจไทย ยังไม่ประสานเจรจาหรือเปิดดีลกับพรรคการเมืองใดในการจับมือจัดตั้งรัฐบาล โดยการพูดคุยเจรจาจะมีขึ้นหลังจากทราบผลการเลือกตั้งแล้วเท่านั้น

“ยังไม่จำเป็นต้องตัดสินใจ หรือสร้างเงื่อนไขให้เป็นข้อจำกัด เมื่อเรามั่นใจว่าจะได้ ส.ส.มากขึ้น เราควรจำกัดเงื่อนไขให้น้อยที่สุด หรือ ไม่มีเงื่อนไขเลย แล้วค่อยว่ากันหลังรู้ผลเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย พร้อมร่วมงานกับทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิม หรือ พรรคการเมืองต่างขั้ว และโดยหลักการ…พรรคการเมืองที่เป็นพรรคอันดับ 1 ควรได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล และรวบรวมเสียงสนับสนุนเพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี พร้อมกับปฏิเสธแนวทางของพรรค ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นส.ส. ตามการรายงานของสื่อบางสำนัก โดยยืนยันว่า พร้อมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในบัญชีที่แต่ละพรรคเสนอ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส. เพียงแต่ไม่สนับสนุนแนวทางนายกฯคนนอก

‘เพื่อไทย’ ชู 70 นโยบาย ดัน 'เศรษฐกิจไทย' โตต่อเนื่อง พร้อมวางแผนจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับชีวิต ปชช.

“ประชาธิปไตยที่กินได้ คือ ฐานคิดของพรรคเพื่อไทย เรามุ่งหวังสร้างเศรษฐกิจให้คนยากจนกลายเป็นชนชั้นกลาง รายได้ที่ดีและเศรษฐกิจที่ดีจะทำให้ประชาชนไม่ต้องหาเช้ากินค่ำ”

(29 เม.ย.66) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีดีเบตเทียบวิสัยทัศน์ งัดนโยบาย ที่ห้อง Auditorium 11-101 อาคารรัตนคุณากร มหาวิทยาลัยรังสิต ถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยซบเซา GDP เติบโตเพียง 2% พรรคเพื่อไทยจึงมองเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเชื่อมโยงส่งเสริมศักยภาพ SME ประกอบกับการสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่พร้อมกับพัฒนาการขนส่งคมนาคมให้กระจายออกด้วยการเพิ่มสนามบินนานาชาติและสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง อัพเกรดการท่องเที่ยวให้ไม่มี low season และใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก

ลิณธิภรณ์อธิบายเสริมว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลจะใช้เงินบาทที่ค้ำประกันโดยรัฐ และใช้เทคโนโลยี block chain กำหนดรูปแบบของการใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแบบจำเพาะเจาะจงได้ และเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่จะเติมให้กับประชาชนนั้นจะมาจากภาษีตามประมาณการการจัดเก็บภาษีในปี 2567 และการบริหารจัดการงบประมาณให้มีประสิทธิภาพลดความซ้ำซ้อน โดยคาดการณ์ว่ารัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีจากร้านค้าจากการใช้จ่ายเงินดิจิทัลในส่วนนี้ได้อย่างน้อย 1.1 แสนล้านบาท

ลิณธิภรณ์กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยมี 70 นโยบายเร่งเศรษฐกิจโตซึ่งจะทำให้ขึ้นค่าแรงได้ถึง 400 กว่าบาทภายในปีแรกของการเป็นรัฐบาล ดังนั้น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 นั้นไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ทำได้แน่นอน ส่วนเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทเราจะเริ่มจากภาคราชการก่อน เมื่อประกอบกับเศรษฐกิจที่เจริญเติบโต มั่นใจว่าเอกชนก็จะขยับตามเอง นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายแก้ปัญหาตกงานด้วยแพลตฟอร์ม Learn to Earn ซึ่งมีระบบจับคู่งานกับทักษะเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ มีใบประกาศให้ไว้ใช้สมัครงาน เพิ่มโอกาสด้านการศึกษาและศักยภาพทางด้านอาชีพตลอดชีวิต และโครงการ 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ สร้างโอกาสให้คนในระดับครัวเรือน

ในส่วนของปัญหาค่าครองชีพนั้น ลิณธิภรณ์ยืนยันว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะเดินหน้าลดค่าครองชีพ ลดต้นทุนการผลิต พร้อมพักชำระหนี้ แก้ปัญหาค่าไฟแพงด้วยการรื้อเรื่องอัตรากำลังการผลิตส่วนเกิน และควบคุมให้แปรผันพร้อมกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รื้อโครงสร้างราคาให้แปรผันจริงตามต้นทุน ลดสัดส่วนการซื้อแก๊ซธรรมชาติ เพิ่มการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ solar cells ลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มาจากสายส่ง และเร่งเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนแหล่งก๊าซธรรมชาติ

‘อนุทิน’ ลงพื้นที่ชัยภูมิ ช่วย ‘เชวงศักดิ์’ หาเสียง ชี้ เป็นคนสู้ไม่ถอย ลั่น!! ในสภาฯ ภท. เสียงดังยิ่งกว่าฟ้าร้อง ทุกปัญหาต้องได้แก้ไข

(29 เม.ย.66) ที่โดมเทศบาลภูเขียว ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ เขต 6 นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ หมายเลข 3 ท่ามกลางประชาชน ที่มารับฟัง กว่า 3 พันคน

โดย นายอนุทิน ได้กล่าวแนะนำตัวผู้สมัครในพื้นที่ ว่านายเชวงศักดิ์ เป็นคนที่สู้ไม่ถอย เพราะขนาดรอบที่แล้วแพ้เลือกตั้งแต่ไม่ท้อ ยังขยันทำงานลงพื้นที่ เมื่อพบปัญหาจะนำมาปรึกษากับตน และหาทางแก้ไขอยู่ตลอด นายเชวงศักดิ์ใช้ทุกช่องทางในการหาทางพัฒนาพื้นที่ นี่คือจุดเด่นที่ความใจสู้ ใช้ผลงาน ใช้ความขยัน ซื้อใจประชาชน อีกจุดเด่น คือ เป็นคนรักเดียวใจเดียว นอกจากรักพี่น้องประชาชนไม่เสื่อมคลาย ก็ยังรักภูมิใจไทย แบบไม่คิดตีจาก ที่ผ่านมา มีคนมาจีบเยอะ แต่นายเชวงศักดิ์ไม่ไปไหน โดยบอกว่าชอบพรรคภูมิใจไทย ชอบนโยบายพรรค ชอบสไตล์การทำงาน ไม่ยุ่งกับใคร ทำงานลูกเดียว ตนได้ฟังก็ชื่นใจ 

จากนั้น นายอนุทิน ได้นำเสนอนโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย อาทิ การพักหนี้ 3 ปี วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท นโยบายเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท กองทุนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กรมธรรม์ 100,000 บาทให้ครอบครัว โดยผู้สูงวัย สามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้ได้ 20,000 บาท ก่อนเสียชีวิต นโยบายเพิ่มค่าตอบแทน อสม. 2,000 บาท กองทุนฌาปณกิจสงเคราะห์ อสม. ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ลดค่าใช้จ่าย 450 บาทต่อครัวเรือน สิทธิ์ในการซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด และนโยบายเกษตรร่ำรวย คอนแทรคฟาร์มมิ่ง รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทิน ปราศรัยปรากฏว่ามีเสียงฟ้าร้อง เนื่องจากภายนอกอาคารมีฝนตกหนัก นายอนุทิน กล่าวว่า เสียงที่ได้ยิน ยังเบากว่าเสียงของ ส.ส.ภูมิใจไทยในสภาฯ นายเชวงศักดิ์ เมื่อได้ทำงานเป็นผู้แทนประชาชน จะเสียงดังกว่าเสียงฟ้าร้อง เสียงจะดังกังวาล เพราะภูมิใจไทย เป็นพรรคที่ใหญ่พอ เวลาพูดอะไร ในสภาฯ ก็ต้องรับฟัง เหมาะสมจะเป็นผู้แทนของคนในพื้นที่

‘มาร์ค’ ปราศรัย กทม.โซนเหนือ ลั่น นโยบายไม่หวือหวาแต่อยู่มานาน วอนพี่น้องเลือก ปชป. 2 ใบ ยืนยัน!! สามารถเป็นหลักพาบ้านเมืองเดินต่อได้

(29 เม.ย.66) ที่สนามฟุตบอล ศูนย์เยาวชนหลักสี่ (ท่าทราย) เขตหลักสี่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดปราศรัยกรุงเทพฯโซนเหนือ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปชป.ดูแลกทม. พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.กทม. โซนเหนือ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยเวลา 18.00 น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสมาพบพี่น้องที่นี่ หลายครั้งการทำงานการเมืองตนก็ได้มาพบปะพี่น้องที่นี่ วันนี้ทุกคนคงทราบตนไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง  แต่เป็นสมาชิกของพรรคปชป. และได้เดินทางไปเพื่อสนับสนุนผู้สมัครของพรรค และพรรค ซึ่งเบื้องต้นตนไปไหนทุกที่พอบอกว่าไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขาก็สงสัยว่ามาทำไม เพราะไม่ได้มาหาเสียงให้ตัวเองแน่นอน ตนบอกสิ่งแรกคืออย่างน้อยที่สุดเพื่อมากราบขอบพระคุณพี่น้องทุกคน เพราะนักการเมืองอย่างตน เหมือนกับนักการเมืองหลายคนในพรรคปชป. เรามีโอกาสไปเป็นผู้แทนฯ มีโอกาสไปมีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร หรือตนมีโอกาสเป็นนายกฯ เราไม่ใช่คนมีเงิน เราไม่ใช่คนมีอิทธิพล เราไม่ใช่คนที่จะสามารถไปสถาปนาเอาสิ่งเหล่านี้มาให้ตัวเองได้ เรามีโอกาสไปทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนที่สนับสนุนเรา

“หลายคนสอบถามว่าไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ยังอยู่กับพรรคปชป. ใช่หรือไม่ หลังจากผมพูดว่ากรีดเลือดออกมาเป็นสีฟ้า วันนี้ไม่พูดแล้ว เพราะหลังจากพูดไปคนบอกว่าแล้วยังบริจาคเลือดได้หรือเปล่า เพราะปกติผมเป็นคนบริจาคเลือด เขากลัวว่าเดี๋ยวเลือดสีฟ้าแล้วไปบริจาคไม่ได้ แต่ผมมีหรือไม่มีตำแหน่ง หัวใจ อุดมการณ์เหมือนเดิม ไปไหนบางคนบอกว่าใช้ได้ ความหล่อคงที่ ความดีเหมือนเดิม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนมาวันนี้มีเรื่องหลัก 2 เรื่อง เพราะในวันที่ 14 พ.ค.การเลือกตั้งครั้งนี้เขามีบัตรเลือกตั้งสองใบ ใบแรกเลือกส.ส.เขต สีม่วง โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ผู้สมัครคือ พล.ต.ต.วิชัย สังขประไพ ผู้สมัครส.ส.เขต หลักสี่ เบอร์ 14 ส่วนเรื่องที่สองคือบัตรอีกใบสีเขียวขอให้เลือกเบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ เพราะความเป็นสถาบัน และเป็นหลัก และปชป.เป็นของพี่น้องทุกคน และทำให้ทุกคนที่ก้าวเข้ามาสู่ปชป. เป็นคนที่มีอิสระในการทำงาน และสามารถเติบโตทางการเมืองได้ และความเป็นหลักตรงนี้เราสามารถสร้างนัการเมืองจำนวนมากจนกระทั่งหลายครั้งเราก็ส่งออกไปอยู่พรรคอื่น แต่นักการเมืองที่อยู่กับปชป.เป็นหลักได้ และเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรค ทุกคนมีความเป็นอิสระในการแสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการทำงาน

‘จุรินทร์’ ยกทัพ ‘ปชป.’ ปลุกพลังชาวสุราษฎร์ฯ เลือก ส.ส.ยกทีม อ้อน!! เลือก ปชป. ทั้ง 2 ใบ เพื่ออนาคตประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม

(29 เม.ย.66) ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคฯ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่ตลาดใหม่ อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี ปลุกพลังคนสุราษฎร์ฯ ทั้งจังหวัด เลือกคนของเรา พรรคของเรา ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 พร้อมด้วย ผู้สมัคร 7 เขต คือนายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 10 นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ผู้สมัคร เขต 2 เบอร์ 2 นายปิยะรัฐ จิรัตน์ฐิกุล ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 5 นายสมชาติ ประดิษฐพร ผู้สมัคร เขต 4 เบอร์ 1 นายสินิตย์ เลิศไกร ผู้สมัคร เขต 5 เบอร์ 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ผู้สมัคร เขต 6 เบอร์ 2 นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร ผู้สมัคร เขต 7 เบอร์ 9 โดยบรรยากาศคึกคักที่สุด มีประชาชนเดินทางมาฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น เมื่อนายจุรินทร์ เดินทางถึงเวทีปราศรัย มีพ่อแม่พี่น้องทั้งหญิง-ชาย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนรุ่นใหม่เข้ามาให้กำลังใจมอบดอกกุหลาบ ควงแขนถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดสนิทสนม เป็นกันเอง ทำให้กว่าที่นายจุรินทร์จะได้ขึ้นเวทีปราศรัยต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมง

ทั้งนี้นายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้เคลื่อน 3 ทัพบุกไปทั่วประเทศ เที่ยวนี้เราเอาจริง สู้ไม่ถอย และจากการตระเวนไปในหลายพื้นที่มีเสียงตอบรับดีขึ้นเป็นลำดับ ขอถือโอกาสขอบคุณหัวใจคนสุราษฎร์ฯที่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็น 1 ใน 2 จังหวัดที่ประชาธิปัตย์ชนะยกทีม และในการเลือกตั้งเที่ยวนี้ ประชาธิปัตย์พร้อมทั้งคน ทั้งพรรค และความพร้อมในเรื่องจุดยืนนโยบาย และความเป็นประชาธิปัตย์ ที่เชื่อว่าหลายคน และทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ล้วนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของประชาธิปัตย์ ล้วนมีความภูมิใจในฐานะที่เราเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ได้ต่อสู้รับใช้พี่น้องมาอย่างยาวนาน

“ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องขอบอกว่าพรรคให้โอกาสอดีตผู้แทนราษฎรของประชาธิปัตย์ทุกคนเสมอมาและพร้อมที่จะส่งอดีตผู้แทนราษฎรลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งพี่น้องเองก็มีความผูกพันมากกับตัวเป็นผู้สมัคร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ผู้แทนฯที่พรรคได้ประกาศลงเลือกตั้งในนามประชาธิปัตย์ได้ย้ายพรรคไป จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่พรรคฯจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้คนใหม่ได้มีโอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี” นายจุรินทร์กล่าว

‘มิ่งขวัญ’ นำเสนอ ‘นโยบายเปลี่ยนชีวิตคนไทย’ ชูแก้ปัญหา ศก.-ปากท้อง ‘ลดค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน’

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โชว์วิสัยทัศน์ผ่านเวทีดีเบตเจาะสมรภูมิเลือกตั้งทั่วไทยเลือกตั้ง 2566 นำเสนอนโยบายเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนไทย พร้อมตอบปัญหาของพี่น้องชาวไทย เชื่อมั่นและเน้นย้ำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ พาประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศที่ดีขึ้น ก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวข้ามความยากจนเลือกพลังประชารัฐหมายเลข 37

(29 เม.ย. 66) ช่องone31 เปิดเวทีดีเบตเจาะสมรภูมิเลือกตั้งทั่วไทยเลือกตั้ง2566 "เปลี่ยนชีวิตคนไทย" โดยครั้งนี้ได้ตัวแทนจาก 9 พรรคการเมืองระดับบิ๊ก 
- พรรคภูมิใจไทย โดย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
- พรรคชาติพัฒนากล้าโดย กรณ์ จาติกวณิช
- พรรครวมไทยสร้างชาติ โดย จุติ ไกรฤกษ์
- พรรคเสรีรวมไทย โดย เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
- พรรคประชาธิปัตย์ โดย วทันยา บุนนาค
- พรรคเพื่อไทย โดย พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
- พรรคก้าวไกลโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
- พรรคไทยสร้างไทย โดย ศิธา ทิวารี
- พรรคพลังประชารัฐ โดย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
ที่ส่งเหล่าแม่ทัพใหญ่มาร่วมโชว์วิสัยทัศน์ในโค้งสุดท้ายนำเสนอนโยบายเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนไทย

เปิดคำถามแรกด้วยการประชันวิสัยทัศน์ : สังคมสูงวัย พรรคพลังประชารัฐ นำโดย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีผู้สูงวัย 12.7 ล้านคน เราเลยมีแคมเปญ 37 เมื่ออายุ 60 ปี รับ 3,000 บาท เมื่ออายุ 70 ปี รับ 4,000 บาท เมื่ออายุ 80 ปี รับ 5,000 บาท นี้คือแรงจุงใจที่จะมีชีวิตยืนยาว

‘เต้’ หิวแสง!! เผย ‘แอม ไซยาไนด์’ ควรไปเป็นแม่ครัวรัฐบาล จะได้ทำอาหารเสิร์ฟให้รัฐบาลชุดนี้กิน สร้างคุณูปการแก่ประเทศ

‘เต้ มงคลกิตติ์’ หาเสียงกาญจนบุรี หิวแสงจัด บอกเสียดาย ‘แอม ไซยาไนด์’ ฆ่าคนบริสุทธิ์หลายศพ ควรไปเป็นแม่ครัวรัฐบาลชุดปัจจุบัน เสิร์ฟอาหารให้ลุง ๆ กิน จะเป็นคุณูปการแก่ประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมผู้บริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เดินทางไปกราบไหว้สักการะศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และ กราบบวงสรวงสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้นเดินทางขึ้นรถปราศรัยหาเสียงรอบตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ส่งผู้สมัคร ส.ส. 35 จังหวัด 102 เขต มาลงพื้นที่ทราบมีการแจกเงินแล้ว เรามีโอกาสสู้กับพวกซื้อเสียงได้ แต่ไม่บอกว่าพรรคไหนซื้อเสียงให้ กกต.ไปสืบเอง เขาจ่ายกันแล้วหัวละ 1,000 บาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top