Tuesday, 29 April 2025
ElectionTime

‘เทวัญ’ ลุยฝนช่วย ‘วิว เยาวภา’ หาเสียงที่ตลาดเช้าโคราช ชู ‘โคราชโนมิกส์’ แก้ปัญหาปากท้อง-พัฒนาอีสานสู่ระเบียง ศก.

(30 เม.ย. 66) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคชาติพัฒนากล้า เบอร์ 5 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย น.ส.เยาวภา บุรพลชัย หรือ ‘วิว’ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมเดินตลาดทักทายพี่น้องประชาชนที่ตลาดสุพัตตราและเดินทักทายพูดคุยกับพี่น้องประชาชน บริเวณชุมชนบ้านหนองปรือ และชุนชนบึงแสนสุข ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พูดคุยสอบถามถึง ปัญหาปากท้อง และการค้าขายในชุมชนในตลาด

พร้อมนำเสนอนโยบาย งานดี มีเงิน ของไม่แพง ค่าน้ำมัน ค่าไฟต้องถูกลง รื้อโครงสร้างพลังงาน ลดค่าการกลั่น หั่นค่า FT เร่งช่วยปัญหาปากท้องประชาชน และนำเสนอนโยบายสำหรับคนโคราชโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีนโยบายแก้ปัญหา และพัฒนาเมืองโคราช สำหรับคนโคราช โดยเฉพาะ ด้วยนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ คือ

‘ดร.แด๊ก’ ปลุกคนใต้ เลือก ‘รทสช.’ หนุน ‘ลุงตู่’ นั่งนายกฯ ชี้ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ มั่นใจ!! ในบรรดาแคนดิเดตฯ ไม่มีใครสู้ได้

‘ธนกร’ ปลื้มคนใต้แห่รับ รทสช.ปลุก ปชช.เลือก ‘ลุงตู่’ ไปต่อ เกทับผลโพลเป็นรอง ยกเป็นผู้นำที่ไม่โกหก ซื่อสัตย์ สุจริต มั่นบรรดาแคนดิเดตนายกฯ ไม่มีใครสู้ได้

(30 เม.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงภาคใต้วันแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง ว่า บรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก พี่น้องตรังและพัทลุง มารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นจำนวนมาก ตนสัมผัสได้ถึงกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ และกระแสตอบรับพรรครวมไทยสร้างชาติสูงในพื้นที่ภาคใต้

นายธนกร กล่าวว่า วันนี้ตนสามารถบอกพี่น้องได้เลยว่าในบรรดาผู้นำในบรรดาแคนดิเดตนายกฯไม่มีใครจะทำได้เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ พูดง่าย ๆ ว่าคือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่โกง และมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในประชาชน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย แต่ตนไม่เข้าใจเลย เห็นฝ่ายค้านที่พูดทุกวันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีผลงานเลย แล้วพี่น้องเห็นไหม รถไฟฟ้าทั้ง 11 เส้นทางมีผลงานหรือไม่ ถนนเป็นหมื่นกิโล มีหรือไม่ สนามบินเยอะแยะมากมาย รถไฟทางคู่มีผลงานหรือไม่ รถไฟความเร็วสูงมีผลงานหรือไม่ แล้วฝ่ายค้านบอกว่าไม่มี ตนบอกตรงนี้ได้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์มีผลงานมากมาย เยอะแยะ ดูแล อสม.ดูแลผู้สูงอายุ ดูแลสวัสดิการต่าง ๆ

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องได้ไปต่อ ตนไม่อยากคิดเลยถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ไปต่อประเทศจะเป็นอย่างไร พี่น้องเห็นหรือไม่ว่า วันนี้ผู้นำแต่ละคนเวลาขึ้นเวที เขาบอกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นฝ่ายเผด็จการ แล้วพรรคเพื่อไทยเป็นประชาธิปไตย แล้วพี่น้องคิดว่าเป็นประชาธิปไตยตรงไหน เพราะเขาฟังแค่คนคนเดียว คนที่อยู่ต่างประเทศ ฉะนั้น ถ้าไม่มีคนต่างประเทศ แคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่คนนั้นแน่นอน พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอะไรเลยเป็นการสืบทอดอำนาจของครอบครัว และแคนดิเดตนายกฯ อีกคนเป็นพ่อค้า ลงมาเล่นการเมืองคงคิดแต่ผลกำไร ไปกินข้าวกับชาวนาวันเดียว จะไปรู้จักความลำบากได้ดีเท่าพวกเราหรือไม่ เพราะพวกเราอยู่กับชาวนามาตั้งแต่แรก ตนว่าวิธีคิดแบบนี้มันจะลำบาก

‘ดร.รงค์’ เปิดใจครั้งแรก ไม่ขออยู่ร่วมพรรคนายทุน ถึงจะรัก ‘ลุงตู่’ หมดใจ แต่วันนี้ขอเลือกอยู่กับ ‘ลุงป้อม’ ว่าที่นายกฯ คนที่ 30

‘ดร.รงค์’ เปิดใจครั้งแรก ไม่ขออยู่ร่วมพรรคนายทุน ถึงจะรัก ‘ลุงตู่’ หมดใจ แต่วันนี้ขอเลือกอยู่กับ ‘ลุงป้อม’ ว่าที่นายกฯ คนที่ 30

(30 เม.ย. 66) รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 1 เขต 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ขณะลงพื้นที่หาเสียงได้กล่าวถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ ‘พรรคลุงตู่’ ว่า ตนเป็นอีกหนึ่งคนที่รักลุงตู่ แต่เลือกที่จะอยู่พรรคลุงป้อม เพราะตนมองว่าพรรคของลุงตู่เป็นพรรคนายทุน โดยระบุว่า…

‘ลุงป้อม’ ชู ปุ๋ยครึ่งราคา-เพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนเก็บเกี่ยวข้าว หวังสร้างความมั่นคงให้ชาวนา ช่วยกระดูกสันหลังของชาติพ้นความจน

(30 เม.ย. 66) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้ความสำคัญกับเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีจำนวนมากที่สุด มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมากจากผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ อาทิ ข้าว, อ้อย, มันสำปะหลัง, ปาล์มน้ำมัน และยางพารา แต่เมื่อพิจารณาถึงรายได้ของเกษตรกรไทยแล้ว กลับเป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าอาชีพอื่น ๆ ขาดความมั่นคง ก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพชีวิต อีกทั้ง มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง

นายชาญกฤช ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐจึงออกนโยบายเฉพาะเพื่อเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ โดยเริ่มจากนโยบายที่ 1 นโยบายเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกร ครัวเรือนละ 30,000 บาท นโยบายที่ 2 นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐจะช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และล่าสุด นโยบายที่ 3 นโยบายเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา อัตราไร่ละ 2,000 บาท จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาทต่อราย

‘เศรษฐา’ ลั่น!! พร้อมยกราคาข้าวให้สูงขึ้นเทียบ ‘รบ.ยิ่งลักษณ์’ หนุนส่งออกข้าวไทยสู่เวทีโลก ปลุก ปชช.เลือก ‘พท.’ ให้ชนะขาด

(30 เม.ย. 66) พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม 6 เขต ประกอบด้วย

เขต 1 นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ เบอร์ 4
เขต 2 นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ เบอร์ 7
เขต 3 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เบอร์ 9
เขต 4 นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ เบอร์ 2
เขต 5 นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ เบอร์ 1
เขต 6 นายรัฐ คลังแสง เบอร์ 8

โดยมีประชาชนมารับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่แม้จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ราคาข้าวสูงมาก สูงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน พี่น้องอยากให้ราคาข้าวกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ แน่นอนว่าราคาข้าวจะกลับมาดี ถ้าพี่น้องเลือกนายยุทธพงศ์ให้ชนะขาด ยืนยันว่าพรรค พท.จะเดินหน้าเอาข้าวไปขายทั่วโลก มีอีกหลายประเทศยังไม่รู้จักข้าวไทย ถ้าหลายประเทศสนใจ มีออเดอร์สั่งซื้อเยอะ ราคาข้าวก็จะขึ้นสูงแน่นอน พี่น้องจำไว้เลยสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ราคาข้าวดี เพราะ รมช.เกษตรฯ คือ นายยุทธพงศ์ นำมาซึ่งราคาข้าวที่เป็นที่น่าพอใจ

นอกเหนือจากราคาข้าว ปัญหาความยากจนและรายได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรามีนโยบายพักต้นพักดอกให้เกษตรกร 3 ปี เราจะติมเงินให้ 2 หมื่นบาท สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทใน 4 ปี ปีหน้าขึ้นทันที 400 บาท นอกจากนี้ยังมีนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ทำพรรคคู่แข่งดิ้น ออกมาบอกว่าทำไม่ได้บ้าง ผิดกฎหมายบ้าง อย่าไปเชื่อ เราทำได้แน่นอน เงินจะเข้าสู่ระบบหลายหมื่นล้าน ไม่ต้องไปรอรัฐบาลที่ไร้หัวใจ บัตรคนจนเราไม่ยกเลิก แต่เมื่อพรรคพท.มา พี่น้องจะมีแต่ความร่ำรวย ไม่ต้องพึ่งบัตรคนจน เก็บบัตรคนจนไว้เป็นที่ระลึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เคยให้ท่านไว้เพื่อเรียกพวกท่านว่า ‘คนจน’

‘องอาจ’ แท็กทีม ‘ส.ก.ประชาธิปัตย์’ ลุยหาเสียงเขตบางพลัด ช่วย ‘ชนินทร์’ ผู้สมัคร กทม.ทำคะแนน ระหว่างรักษาตัวหลังติดโควิด

(30 เม.ย. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่ กทม. กล่าวว่าในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา ขณะที่นายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางพลัด บางกอกน้อย เบอร์ 7 ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทีมงานพรรค ปชป.ในพื้นที่เขตบางพลัด บางกอกน้อย ซึ่งประกอบไปด้วย นายนภาพล จีระกุล ส.ก. เขตบางกอกน้อย และ พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ส.ก.เขตบางพลัด ได้ร่วมกันเดินหาเสียง พร้อมกับตน และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทุกวันตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีสาขาพรรค ตัวแทนพรรค และผู้สนับสนุนพรรค ปชป.จำนวนมาก เมื่อทราบว่า นายชนินทร์  ติดโควิด ไม่สามารถออกมารณรงค์หาเสียงได้ จึงร่วมกันออกมาช่วยเดินรณรงค์หาเสียงตามพื้นที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าอาการติดโควิดของนายชนินทร์ ด้วยความเป็นห่วง และส่วนมากได้ฝากแจ้งถึงนายชนินทร์ว่า ขอให้หายจากการติดโควิดในเร็ววัน

‘กรณ์’ อ้อนคนสามพราน เทคะแนนให้ ‘ดร.ระวัง’ อดีต ส.ส. 2 สมัย ขอโอกาส ‘ชพก.’ แก้วิฤกตปากท้อง มั่นใจ!! ปักธงนครปฐมทั้ง 6 เขต

(30 เม.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค นายอรัญ พันธุมจินดา รองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ผศ.ดร.ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 เบอร์ 11 จังหวัดนครปฐม หาเสียง โดยมี พ.ต.ท.บุญลือ เสริมบุญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 และ นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ร่วมให้กำลังใจและขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาลงพื้นที่เพื่อช่วย ผศ.ดร.ระวัง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 จ.นครปฐม อดีต ส.ส.สองสมัย โดยได้พบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดวัดไร่ขิง และเข้าถวายสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิง และสิ่งศักดิ์สิทธิประจำวัด โดยนายกรณ์ บอกว่า วันนี้มีประชาชนผู้มีศรัทธาเดินทางมายังวัดไร่ขิงเป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรคที่สนับสนุนเศรษฐกิจสายมู ความศรัทธา แรงบันดาลใจ ที่ทำให้เกิดความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ และสามารถกระจายรายได้ไปยังชาวบ้านในชุมชน ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในบริเวณวัดได้ด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนพบว่า กระแสความนิยมของ ผศ.ดร.ระวัง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในฐานะที่เป็น อดีต ส.ส.2 สมัย ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาจจะเคยเห็นว่าตนลงพื้นที่กับคนรุ่นใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่ การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคชาติพัฒนากล้า มีการผสมผสานของนักการเมืองที่หลากหลาย มีประสบการณ์คนละด้านมาช่วยกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า บรรยากาศเศรษฐกิจในเวลานี้ หลายคนบ่นกับตนว่าเศรษฐกิจตอนนี้ฝืดเคือง กำลังซื้อของพี่น้องประชาชนลดลง และนี่คือภาระหน้าที่สำคญของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เรามีความตั้งใจตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคว่า เรามาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  สร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน เป้าหมายของพรรค สรุปได้ 3 คำคือ ประชาชน มีงานดีทำ มีเงินในกระเป๋า และสินค้าต้องไม่แพง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องปากท้องที่ต้องเร่งแก้ไข

“การเมืองขัดแข้งกันมาเยอะ และก็ยังมีความพยายามหาเรื่องทะเลาะกันว่า ยุคนี้เป็นกันเรื่องยุคเผด็จการ หรือประชาธิปไตย แต่พรรคชาติพัฒนากล้ามองว่า เนื่องจากประชาชนทุกคน มีโอกาสไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกัน พรรคการเมืองทุกพรรคตกลงร่วมใจเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นความเป็นประชาธิปไตยก็จะมีขึ้นโดยปริยาย แต่ประเด็นปัญหาที่แท้จริง ที่รอการแก้ไขคือ ปัญหาปากท้อง” นายกรณ์ กล่าว

‘มาดามเดียร์’ บุกตลาดวัดไทร ช่วยหาเสียงหนุน ‘วณิชชา ม่วงศิริ’ ขอโอกาสคนกรุงอีกครั้ง!! เลือก ‘ปชป.’ ทำงานจริง ไม่ทิ้งพื้นที่

(30 เม.ย.66) ที่ตลาดวัดไทร เขตจอมทอง กทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทักทายประชาชน พ่อค้าแม่ค้าในตลาดวัดไทร เขตจอมทอง เพื่อช่วยหาเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-บางบอน หมายเลข 9 พร้อมกันนี้ น.ส.วทันยา และ น.ส.วณิชชา ยังได้รับฟังเสียงสะท้อนปัญหาและความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชนที่เดินเข้ามาสะท้อนให้รับฟังตลอดเส้นทางที่เดินหาเสียง ทั้งนี้ น.ส.วทันยา และ น.ส.วณิชชา ได้เดินทางต่อไปยัง ชุมชนบางบอลวิลล่า เขตบางบอน เพื่อพบปะกับประชาชนด้วย

โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เป็นวันที่เราจะได้เลือกอนาคตของตัวเอง เลือกอนาคตประเทศ ทั้งนี้เรื่องของการเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด หลายคนอาจจะสงสัยว่าเลือกตั้งไปแล้วจะเปลี่ยนแปลงได้จริงหรอ ซึ่งการเลือก ส.ส. ที่จะไปเป็นตัวแทนของเรานั้น เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด เพราะหน้าที่หนึ่งของ ส.ส. คือ การไปเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนในสภา นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้นหากเรามี ส.ส. ที่ใส่ใจ ตั้งใจทำงาน ปัญหาของเราก็จะได้รับการแก้ไข อย่างวันนี้เราเจอฝุ่น pm2.5 ที่อันตรายเหมือนการตายผ่อนส่ง และที่ผ่านมาสภาฯได้มีการเสนอกฎหมายอากาศสะอาดเข้าไป แต่กลับไม่สามารถเข้าสู่วาระการประชุมได้ เพราะนักการเมืองที่คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง เล่นเกมการเมือง อย่างที่เราเห็นข่าวในช่วงท้ายของอายุสภาฯ เกิดเหตุการณ์สภาล่มอยู่บ่อยครั้ง ทำให้กฎหมายอากาศสะอาดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภา

‘ชวน’ การันตี!! ‘จุรินทร์’ เป็นคนดี-ซื่อสัตย์ เหมาะนั่งเก้าอี้นายกฯ วอนชาวพังงาหนุน ‘ปชป.’ มั่นใจ!! คว้าเก้าอี้ ส.ส. ภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 40

(30 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายบำรุง ปิยนามวาณิช ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และ น.ส. รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค ร่วมกันขึ้นรถแห่หาเสียงตั้งแต่เที่ยงวัน โบกมือทักทายเพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพังงา บัตรสีม่วง เบอร์ 1 และ บัตรสีเขียว พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

โดยนายชวน ได้กล่าวบนรถแห่ ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่าให้ระบบเงินซื้อเสียง เข้ามาทำลายการเมือง ทำลายประชาธิปไตยสุจริต ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกคนดี คนพังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมารักษาเกียรติ ศักดิ์ศรีของชาวพังงา และสนับสนุน กันตวรรณ ตันเถียร เบอร์ 1 ให้ได้เป็น ส.ส. ระบบเขต พร้อมทั้งขอบคุณชาวพังงาที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อให้เราได้เสียงมากพอ ให้ลูกหลานชาวพังงาได้เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้าไปทำงานในสภา

พร้อมกับระบุว่า ตนใช้เวลาพิสูจน์ถึง 22 ปี ในเส้นทางการเมือง ส่วนนายจุรินทร์ก็ใช้เวลาพิสูจน์ร่วม 30 ปี ถ้าไม่ใช่เป็นคนดีจริง พรรคก็ไม่เลือกให้มาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกับได้ยืนยันความสามารถของนายจุรินทร์ในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถ จึงขอให้ประชาชนทั้งประเทศช่วยกันสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้วยการสนับสนุนประชาธิปัตย์ทั้งคนทั้งพรรค ซึ่งระหว่างที่รถแห่ผ่านบริเวณชุมชน มีพี่น้องประชาชนชาวพังงา ได้ยินเสียงจึงออกมาโบกมือทักทายยิ้มแย้มให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงความมั่นใจในจำนวนที่นั่งของภาคใต้ ว่า จากการพูดคุยกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ และจากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง ก็เชื่อมั่นว่า ภาคใต้มีโอกาสที่จะได้ 40+ เป็นไปได้สูงมาก ซึ่งคนที่รับผิดชอบโดยตรงประเมินให้ฟัง และตนก็รู้สึกเช่นเดียวกันจากการลงพื้นที่ แต่ในภาคใต้เป็นธรรมดาที่มีหลายพรรคลงมา เหมือนกับหลายยุคหลายสมัยที่มีหลายพรรคลงมาแข่งขันกัน แต่สุดท้ายประชาธิปัตย์ยังยืนหยัดอยู่ได้ เพราะผลงาน อุดมการณ์ ความเป็นสถาบันทางการเมือง และการทำการเมืองสุจริต ไม่ซื้อเสียง ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีของคนภาคใต้ ที่ทำให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่หนักแน่น มั่นคง มีอุดมการณ์ สามารถฝากอนาคตของบ้านเมืองเอาไว้ได้

“ผมลงพื้นที่เองก็เห็น และสัมผัสได้ว่า พี่น้องชาวใต้มีความรู้สึกอย่างไรกับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ และจากการสำรวจภายในของพรรค ก็สอดคล้องกับที่รองหัวหน้าภาคใต้ประเมินให้ฟัง ตรงกันหมดชัดเจน และผลโพลบางโพลก็บอกว่า ในซีกรัฐบาลเดิม เราก็มีโอกาสที่จะมาที่ 1 ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เราก็จะทำงานหนัก ไม่หยุดหรอก จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และถึงหมดการเลือกตั้งแล้ว ประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่เพื่อรับใช้พี่น้องต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

สำหรับที่จังหวัดพังงา ตนมีความเชื่อมั่นว่าชาวพังงายังสนับสนุนผู้สมัครของพรรคทั้ง 2 เขต และไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 จากการที่ตนเป็น ส.ส.จังหวัดพังงา 6 สมัย และเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ 5 สมัย รวม 11 สมัย ไม่เคยทิ้งจังหวัดพังงา จึงมั่นใจว่าพี่น้องชาวพังงาจะสนับสนุนต่อไปทั้งคนทั้งพรรค

‘ศิธา-ทสท.’ ลั่น!! ไม่มีใครเป็นซูเปอร์แมนที่รู้ทุกเรื่อง 'ไม่ร่วมมือ-ฉายเดียว-คิดว่าเก่ง' ประเทศจะไปได้ไม่ไกล

จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกคน’ รายการที่ล้วงลึกทุกฉากการเลือกตั้ง 2566 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ใน EP.5 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.66 ได้เชิญ ‘น.ต.ศิธา ทิวารี’ แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย มาร่วมถกประเด็นก่อนการเลือกตั้ง โดยช่วงหนึ่งคุณศิธาได้กล่าวว่า...

“กรณีบางพรรคเขาเสนอตัวคนเดียว ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ดั้งเดิมอยู่แล้ว เขาก็อาจไม่ต้องนำเสนอนโยบายอะไรเยอะ แต่ของผม พรรคไทยสร้างไทย เรามองว่าประเทศไทยจะต้องตอบโจทย์ปัญหาได้ด้านและครอบคลุมในเรื่องที่ถูกมองข้ามมากกว่านี้ ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องเงินทุนของกลุ่มผู้ประกอบการ SME ทราบหรือไม่ว่า กว่าพวกเขาจะหาเงินมาได้ หาเงินกู้มาได้ มันยากแค่ไหน และส่วนใหญ่ก็เข้าถึงแหล่งเงินที่มีดอกเบี้ยราคาถูกไม่ได้

"ไทยสร้างไทย ก็เข้าใจดีว่า คนไทยกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องนี้ เขาก็จะโฟกัสกับปัญหาและรอคอยทางแก้เหล่านี้เป็นหลัก และเราต้องเข้าไปเติมเต็มแบบรอบด้าน อย่างพรรคเราเองก็ตั้งใจที่จะช่วยคนตัวเล็ก เราก็มีแนงทางไว้แล้ว แต่เรื่องนี้กับพรรคอื่นอาจจะมองเป็นเรื่องหลังๆ เพราะบางทีก็ไปคิดว่า 'คนจนเบี้ยวง่าย' แต่ผมว่าคนจนเขาไม่เบี้ยวนะ เขาก็ต้องรักษาเครดิตเขาอยู่แล้ว หากเขาต้องดำเนินธุรกิจในระยะยาว"

น.ต.ศิธา กล่าวอีกว่า "ผมมองว่าวันนี้ความเป็นธรรมกับบ้านเมืองของเราน้อยมาก โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่ควรเกิดขึ้นกับประชาชน ยิางภายหลังจากทุกครั้งที่เกิดรัฐประหาร ซึ่งมักจะเกิดผลพวงแห่งการขัดแย้งและเผชิญหน้าแบบไม่มีใครถอยให้กัน ประโยชน์ที่คิดที่จะทำ มันก็เกิดจากมุมตัวเอง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top