Tuesday, 29 April 2025
ElectionTime

‘จุรินทร์’ ปราศรัยบ้านเกิด ‘พังงา’ ขอให้มั่นใจ!! ‘ปชป.’ พาประเทศฝ่าวิกฤต ลั่น!! หากได้เป็น รบ. จะเดินหน้านโยบาย “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” 

(30 เม.ย.66) ที่ จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขึ้นเวทีปราศรัย ที่จ.พังงา พร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายบำรุง ปิยนามวาณิช ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ผู้สมัคร ส.ส. จ.พังงา เขต 1 เบอร์ 1 นายราเมศ รัตนะเชวง ส.ส. จ.พังงา เขต 2 เบอร์ 5 และ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

นายจุรินทร์ ปราศรัยเพื่อชักชวนให้พี่น้องชาวพังงา เลือกคนจ.พังงาให้ได้เป็นผู้แทนราษฎร พร้อมกล่าวว่า เวลามีเลือกตั้ง คนแรกที่จะโดนมากที่สุด คือนายจุรินทร์ คนที่พูดก็คือพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม มักจะพูดว่านายจุรินทร์ ไม่มีผลงาน เป็นผู้แทนฯพังงามาตั้งหลายสมัย แต่อยากจะถามสักคำว่า คนที่พูดแบบนี้ ได้เคยทำอะไรให้พังงาบ้างมั้ย นอกจากมาลงสมัครแล้วก็โจมตีนายจุรินทร์ โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าจะให้พูดว่าได้ทำอะไรมาบ้าง คงต้องพูดกันถึงเช้า วันนี้จดมาเต็มที่เลยเพื่อมาพูดให้เต็มบรรทัดว่า พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ นางกันตวรรณ เป็นผู้แทนฯได้ทำอะไรมาบ้าง จะได้รู้เสียบ้าง ทำมาตั้งแต่บางคนยังไม่เกิดเลย” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงทั่วประเทศ ประชาธิปัตย์ดีขึ้นแล้ว เสียงตอบรับก็ดีขึ้นในทุกภาค ปักษ์ใต้บ้านเราเที่ยวที่แล้วเรามีผู้แทน 50 คน ประชาธิปัตย์เหลือ 22 คน แต่เที่ยวนี้ได้คุยกับ นายเดชอิสม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ประเมินกันแล้ว เรามั่นใจว่าเที่ยวนี้เฉพาะในปักษ์ใต้ เราจะได้ ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 40 บวก จากผู้แทนฯ 60 คน และทุกภาคทั่วประเทศ ก็เชื่อว่าคะแนนประชาธิปัตย์ดีขึ้น ล่าสุดซุปเปอร์โพลได้ไปสำรวจมา เฉพาะ 4 พรรคที่ร่วมรัฐบาล พรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมมากเป็นลำดับ 1 คือพรรคประชาธิปัตย์ และถ้าประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็จะเดินหน้านโยบาย “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” และ 16 นโยบาย ที่ได้ประกาศไว้ 

'จันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี' พปชร. เขต 2 เบอร์ 9 อำนาจเจริญ ดูแลชาวบ้านมาตลอดกว่า 20 ปีทั้งที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส.

'ชาวอำนาจเจริญ' ขอเทใจ "เลือกเธอคนเดียว" จันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี พปชร. เขต 2 เบอร์ 9

การลงสนามการแข่งขันครั้งนี้ในจังหวัดอำนาจเจริญ เขต 2 เป็นการสู้กันระหว่าง 'พรรคเพื่อไทย' เจ้าของพื้นที่ กับ 'พรรคพลังประชารัฐ' ผู้ท้าชิงที่เป็นขวัญใจชาวบ้านและประชาชน ทั้งอำเภอเลือกเธอคนเดียวอย่าง 'จันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี' เบอร์ 9

นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เขต 2 อำนาจเจริญ พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 9 กล่าวว่า ตนเองได้ลงพื้นที่ของเขต 2 ซึ่งมีอยู่ 5 อำเภอประกอบด้วย อำเภอลืออำนาจ, ชานุมาน, ปทุมราชวงศา, พนา และเสนางคนิคม ทุกอำเภอทุกพื้นที่ ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ประชาชนชอบนโยบายของพรรค โดยเฉพาะนโยบายเพิ่มเงินผู้สูงอายุ ที่จัดทำเป็นขั้นบันได เริ่มตั้งแต่ 3,000 บาท อายุ 60 ปีขึ้นไป / 4,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป และ 5,000 บาท อายุ 80 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ นางจันทร์เพ็ญ มองว่า เพราะประเทศไทยนั้นเข้าสู่ภาวะผู้สูงวัยแล้ว ณ วันนี้ การดูแลผู้สูงอายุจึงจำเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามทางพรรคก็ไม่ทิ้งคนรุ่นใหม่หรือเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติด้วยเช่นกัน โดย พรรคพลังประชารัฐนั้น ให้ความสำคัญกับการสร้างชาติ แปงเมือง ดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์ที่จะเป็นผู้ดูแลชาติต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย 'แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ' ซึ่งดูแลรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 266,000 บาท ต่อเด็ก 1 คน (ตั้งครรภ์ 1 ถึง 5 เดือน รับเดือนละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 50,000 บาท ต่อคน และเด็กแรกเกิด รับเดือนละ 3,000 บาท นาน 6 ปี รวมเป็นเงิน 216,000 บาท)

‘เพื่อไทย’ ตะลุยสยาม ชู 70 นโยบาย ขอคะแนนคนรุ่นใหม่  อ้อน!! ใครยังไม่ตัดสินใจ ช่วยเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์

‘มาดามนครบาล’ ตะลุยสยาม ขอคะแนนคนรุ่นใหม่ ‘อ๋อม-สกาวใจ, ก้อง-อายุน้อยร้อยล้าน’ ชู 70 นโยบายครอบคลุมอ้อนคนที่ยังไม่ตัดสินใจ เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.66 พรรคเพื่อไทยนำทีมโดยคณะผู้บริหาร และผู้สมัคร ส.ส.คนรุ่นใหม่ อาทิ เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 2, กานกนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต1, อรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 21, สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 13, พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขต15, ลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 2, จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 31, และ วิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ รองประธานสภา กทม.และ สก.เขตคันนายาว พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนที่บริเวณลานหน้าร้านสีฟ้า ตรงข้ามสยามสแควร์วัน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก 

พวงเพ็ชร ชุนละเอียด กล่าวว่า หลังจากได้เดินสยามสแควร์วันนี้ ทำให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มีความตื่นตัวทางการเมือง เขามีความสามารถหลากหลาย เราจึงมาประชาสัมพันธ์ว่า พรรคเพื่อไทยคือพรรคของคนทุกรุ่นทุกวัย เรามีนโยบายมากกว่า 70 ข้อ ที่ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะส่งเสริมความกล้าแสดงออกความสามารถและเสริมทักษะตามความถนัดอย่างมีศักยภาพ

ด้าน สกาวใจ พูนสวัสดิ์ กล่าวว่า ขอคนรุ่นใหม่พิจารณานโยบายของพรรคเพื่อไทย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ต้องมองว่าพรรคไหนที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วมีศักยภาพในการจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยไม่ต้องรวมกับพรรคอื่น นอกจากพรรคที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่จับขั้วกับพรรคที่มาจากเผด็จการอย่างแน่นอน และอยากขอให้คนรุ่นใหม่ช่วยกันคิดว่า เลือกพรรคไหนแล้วจะสามารถสกัดอำนาจ 3 ป.ได้อย่างแท้จริง เพราะหากวันนี้เรายังแบ่งใจไปเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือไปเลือกพรรคอื่น โดยไม่เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศไทยอาจจะต้องกลับไปอยู่ภายใต้อำนาจของ 3 ป.อีกอย่างแน่นอน

‘กกต.’ ย้ำเตือน!! ห้ามขาย-แจกจ่าย-จัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ช่วงวันเลือกตั้ง 7 พ.ค.-14 พ.ค. หากฝ่าฝืนเจอโทษหนัก

(1 พ.ค.66) นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ในฐานะที่กำกับดูแลการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศกำหนดให้วันที่ 14 พฤษภาคม เป็นวันเลือกตั้งและวันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า อยากขอย้ำเตือนและพึงระมัดระวังเรื่องการขาย จําหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้งระหว่าง เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้งและวันเลือกตั้งล่วงหน้า ตามที่มาตรา 147 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กำหนดไว้ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

'พรรคเพื่อไทย' ตอกย้ำ!! นโยบายเพื่อแรงงานไทย ลั่น!! ภายในปี 70 คนไทยไม่จน มีอนาคต มีศักดิ์ศรี 

(1 พ.ค. 66) พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ตอกย้ำนโยบายเพื่อแรงงานไทยเนื่องในโอกาสวันแรงงานที่ 1 พฤษภาคม ว่า...

เนื่องในวันแรงงาน พรรคเพื่อไทยมาพร้อมนโยบายเพื่อแรงงานไทย ในปี 2570 มีอนาคต มีศักดิ์ศรี ไม่ยากจนอีกต่อไป

>> ‘ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน’
ถึงเวลาแล้วที่ค่าแรงของคนไทยต้องปรับขึ้น ไม่ถูกแช่แข็งอีกต่อไป โดยในปี 2570 พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 600 บาทต่อวัน เพื่อให้เศรษฐกิจโตขึ้น แรงงานได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ให้แรงงานได้มั่งมีไปพร้อมๆ เจ้าของกิจการ

>> ‘ปริญญาตรี/ข้าราชการ เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาท/เดือน’
วุฒิปริญญาตรี ข้าราชการ มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาท/เดือน ภายในปี 2570 เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ให้คนไทยได้มีค่าแรงเพียงพอใช้จ่ายค่าของครองชีพส่วนอื่นๆ ทั้งยังมีเงินเหลือวางแผนอนาคต

ศึกษานโยบายเพิ่มรายได้ภาคแรงงานได้ที่ https://shorturl.at/bszPU 

>> ‘OFOS ศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง’
พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนไทยที่สามารถขับเคลื่อนประเทศนี้ได้ ด้วยนโยบาย ‘1 Family 1 Soft power’ที่จะเปิดโอกาสให้คนไทยได้พัฒนาทักษะและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้อยู่เสมอ ผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐให้เกิดศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ทั่วประเทศ และสามารถสร้างได้อย่างน้อย 20 ล้านตำแหน่ง ให้คนไทยเลือกงานที่รัก ทำสิ่งที่ชอบได้

คุยกับ 'พิชาญศักดิ์ บุญมาศ' ผู้สมัคร พปชร.เขต 9 นครศรีธรรมราช 'มุ่งมั่น-ตั้งใจ' พัฒนา 'ท่าศาลา' ให้เป็นเมืองหลวงแห่งสุขภาพ

พิชาญศักดิ์ บุญมาศ หรือ 'หมออุ้ย' ตัดสินใจทิ้งมีดผ่าตัด ทิ้งเข็มฉีดยา มุ่งหน้าเข้าหาชุมชน พบปะพี่น้องประชาชนในเขต 9 นครศรีธรรมราช (ท่าศาลา พรหมคีรี นพพิตำ) เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ

หมออุ้ย เปิดใจกับ THE STATES TIMES ว่า "ในเขต 9 เรากำลังทำงานแข่งกับตัวเอง เราต้องเป็นคนนำทัพรบ และเปลี่ยนแปลงสนามรบตรงนี้ให้ได้ ต้องปักธงพรรคพลังประชารัฐตรงนี้ และเมื่อได้เป็นผู้แทนในเขต 9 ผมจะต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต่อสู้กับปัญหาความยากจน ต่อสู้กับปัญหาสุขภาพ และปัญหาสังคม เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง”

หมออุ้ย อธิบายว่า คำว่าเปลี่ยนแปลงในที่นี้ หมายถึงว่าการทำการเมืองในครั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าประชาชนไม่เหมือนเดิม ประชาชนเข้าถึงได้ ใช้เทคโนโลยีเป็น ค้นหาข้อมูลได้ คิดเป็น เขต 9 จะเป็นเมืองแห่งโอกาส ผู้สมัครต้องนำเสนอนโยบาย

“สำหรับผมนำเสนอตัวเอง เสนอความตั้งใจ นี้คือยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ โดยไม่หวั่นเกรงต่อเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากความตั้งใจ ทำการเมืองแบบเป็นมิตรกับทุกคน ไม่โจมตีใคร การเลือกตั้งเป็นสิ่งสวยงาม เป็นประชาธิปไตย ถ้าเข้าใจก็ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า”

หมออุ้ย กล่าวย้ำว่า ท่าศาลา มีมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่มากที่สุด มีศูนย์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุด ดีที่สุด แต่ยังขาดจิ๊กซอว์ และกลไกอื่นๆ มาเชื่อมโยง

“ผมหมออุ้ยในฐานะเป็นอาจารย์หมอ เคยเป็นรองคณบดี เคยทำหลักสูตรแพทย์ เป็นนายกฯหมอนานาชาติ ด้วยวิสัยทัศน์ตรงนี้เองเราจะขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์กลาง เป็นเมืองหลวงแห่งการแพทย์ เป็นในทุกมิติตั้งแต่ระดับล่างจนถึงนานาชาติให้ได้ ภายในระยะเวลา 4 ปี ถ้าเรามีแม่เหล็ก มีผู้นำ มีแม่ทัพที่มุ่งมั่น คิดว่าใน 4 ปีนี้เราทำได้ครับ”

คุณหมอพิชาญศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้การหาเสียง ถ้าเปรียบเป็นมวยไทยก็เข้าสู่ยกที่ 4 แล้ว ต้องทำงานการเมืองแข่งกับตัวเอง โดยมีประชาชนเป็นคนตัดสิน ส่วนตัวในฐานะผู้เล่น รู้สึกพึงพอใจในเสียงตอบรับที่ดี ประชาชนให้กำลังใจ

“รอบนี้การเมืองในเขต 9 เป็นการเมืองที่สดใส ประชาธิปไตยเบ่งบาน ประชาชนคิดได้ คิดเป็น ที่สำคัญประชาชนให้โอกาสกับทุกพรรคการเมือง หมออุ้ยพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเขต 9 ให้เป็นเมืองหลวงแห่งสุขภาพ เป็นมิติใหม่ทางการเมือง เวลาที่เหลืออยู่เชื่อว่าเราทำได้"

‘ชพก.’ เปิดนโยบายเอาใจในวันแรงงาน หนุน ‘ไรเดอร์’ ชี้ 3 ข้อ จ้างงานเป็นธรรม-มีสวัสดิการ-หนุนให้มีโอกาสเติบโต

(1 พ.ค. 66) เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบาย “งานดี” เพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งพรรคได้เสนอให้มีการเพิ่มตำแหน่งงานนักวิจัยและนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจัดตั้งศูนย์พัฒนานวัตกรรมเพื่อแปรรูปสินค้าเกษตร 1 แห่งทุกจังหวัด, ส่งเสริมการจ้างงานและยกระดับศักยภาพผู้สูงวัยด้วยการ สนับสนุนเงินเดือนลูกจ้างผู้สูงอายุเดือนละ 5,000 บาท รวม 500,000 ตำแหน่งให้แก่หน่วยงานที่จ้างบุคลากรอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีนโยบายการลดจำนวนทหารที่มาจากการเกณฑ์ทหาร และเพิ่มจำนวนทหารประจำการแบบสมัครใจโดยใช้สวัสดิการเป็นแรงจูงใจ พร้อมเปิดตำแหน่งงาน 25,000 อัตราในหน่วยราชการต่างๆ เพื่อรองรับทหารหลังปลดประจำการ

สำหรับกลุ่มแรงงานที่ทำงานบนแพลตฟอร์มเช่นไรเดอร์นั้น หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า กลุ่มไรเดอร์ทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าพนักงานประจำด้วยซ้ำ ทั้งนี้ไรเดอร์ เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่มีอะไรที่จะต้องปรับเพื่อความยุติธรรมต่อผู้ให้บริการ เพราะพวกเขาก็คือผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำสามารถทำได้ และต้องมาดูว่าควรมีจุดเริ่มต้นเท่าไร แต่ก็ต้องมีจุดเริ่มต้นที่โปร่งใส  

นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวเสริมว่า จากที่ได้รับฟังปัญหาของไรเดอร์แต่ละคน ซึ่งต้องสู้ชีวิต และไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายๆ เรื่อง ทั้งค่าจ้างแรงงาน สิทธิขั้นพื้นฐาน โอกาสในการเติบโต รวมไปถึงความปลอดภัยในอาชีพ จึงได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ 3 ข้อ คือ 1.การแก้ปัญหาค่าจ้างไม่เป็นธรรม รัฐบาลต้องเป็นคนกลาง ระหว่างแพลตฟอร์ม กับ ไรเดอร์ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นธรรม 2.ไรเดอร์ ควรต้องได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน รวมถึงแพลตฟอร์มต้องทำประกันอุบัติเหตุให้ไรเดอร์ในสังกัด 3.แพลตฟอร์มต้นสังกัดควรส่งเสริมให้ไรเดอร์ได้มีโอกาสเติบโตเป็นผู้ประกอบการ 

‘บัญญัติ’ ขึ้นเวทีปราศรัยพังงา เล่าอดีตสมัยร่วมงาน ‘จุรินทร์’ ยัน!! เป็นคนมากความสามารถ-ผลงานชัด ขอพี่น้องโปรดหนุน ‘ปชป.’ ยกทีม

(1 พ.ค. 66) เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ที่จังหวัดพังงาทั้ง 2 เขต มีเวทีปราศรัยหาเสียง ให้กับนางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส. จังหวัดพังงา เขต 1 เบอร์ 1 นายราเมศ รัตนะเชวง ส.ส. จังหวัดพังงา เขต 2 เบอร์ 5 และ บัตรสีเขียว พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ซึ่งนอกจากมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคแล้ว ยังมี นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยอย่างคับคั่ง

นายบัญญัติ อดีตหัวหน้าพรรคได้ระบุสาเหตุที่ตนมาปราศรัยที่จังหวัดพังงา เป็นเพราะตนเคยร่วมงานกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นเวลานาน และเมื่อคราวมีปราศรัยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจุรินทร์ ก็ได้ไปขึ้นเวทีปราศรัยด้วย และที่ตนมาช่วยเขต 2 พังงาด้วย ก็เพราะมีความผูกพันกับนายราเมศ รัตนะเชวง ที่เป็นคนหนุ่มและเป็นกำลังสำคัญของพรรค มีความรู้มีความสามารถถ้าพี่น้องให้โอกาสราเมศเข้าไปทำงานในสภาได้ ก็เชื่อว่าเขาจะเป็นดาวสภาในอนาคต 

พร้อมกับกล่าวอีกว่า ด้วยเวลา 3 ชั่วโมงในเดินทางจากสุราษฎร์ธานีถึงพังงา ตนพยายามคิดหาว่าจะมีเหตุผลอะไรหรือไม่ที่คนพังงาจะไม่เลือกคนพังงาด้วยกัน แต่ตลอด 3 ชั่วโมงนั้น ตนก็ไม่พบว่าจะมีเหตุผลอะไรที่คนจังหวัดพังงาจะไม่สนับสนุนนายจุรินทร์คนนี้ให้ก้าวเดินต่อไปอย่างยิ่งใหญ่ในทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งประสบการณ์การเป็น ส.ส. 11 สมัย มีความชัดเจนในทางการเมือง แม้แต่นายชวน หลีกภัย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความระมัดระวังในการทำงาน เนื่องจากหากแต่งตั้งใคร คนนั้นไปทำเรื่องเสียหาย อาจเดือดร้อนมาถึงตัวได้ แต่ก็ยังแต่งตั้งให้นายจุรินทร์ เป็นเลขารัฐมนตรี ของตัวเองถึง 2 ครั้ง 2 หน ถือเป็นการแสดงความไว้วางใจของนายชวน ที่มีต่อนายจุรินทร์ 

สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ปี 2548 ตนก็เลือกนายจุรินทร์ ให้มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ก็ถือว่าตนก็มีความไว้วางใจต่อนายจุรินทร์เช่นกัน ในเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน เมื่อจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็มักจะมอบหมายให้นายจุรินทร์ ทำหน้าที่เป็นคนสรุปในตอนท้ายทุกครั้งไป และที่สำคัญในเวลาที่นายจุรินทร์ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญๆ ก็มีผลงานมากมาย เช่น สมัยที่เป็น รมว.ศึกษาธิการ สมัยนั้น รัฐธรรมนูญกำหนดว่า รัฐต้องจัดดำเนินการให้มีการศึกษาฟรี อย่างน้อย 12 ปี แต่นายจุรินทร์ รมว.ศึกษาธิการ จัดทำ “เรียนฟรี” ไปเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดคือทำให้ “เรียนฟรี 15 ปี” ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ สมัยที่นายจุรินทร์ เป็น รมว.สาธารณสุข ก็ทำให้สถานีอนามัย ยกระดับขึ้นเป็น รพ.สต. ครบทุกตำบล พอมาเป็น รมว.พาณิชย์ ก็ดูแลนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ที่ทำให้คนอีสานชอบใจมาก

ใต้สะเทือน!! รทสช. โหม 'ประยุทธ์' เยือนทุกถิ่น ปลุกสู้ทุกศึก แม้แต่สงขลายังตลาดแตก สะท้อน!! ไม่เลือกพี่ตู่ พิธามาแน่

คิวเอี๊ยด!! แบบต้องทุ่มสุดตัว เริ่มแรกก็นอนพักค้างที่จังหวัดสงขลาเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 เม.ย.66 ก่อนที่จะตะลุยหาเสียงให้ผู้สมัคร 4 จุดใหญ่ๆ แต่ก็คุ้มอยู่!! เพราะสร้างปรากฎการณ์ 'ตู่ ตลาดแตก' ให้เห็นกับตา ซึ่งต้องนับว่า การลงไปภาคใต้ โฉบไปที่จังหวัดตรัง – พัทลุง และไปนวดเน้นพื้นที่สงขลา ทำให้กระแสพรรครวมไทยสร้างชาติกระเพื่อมแรงเอามากๆ...

ที่ต้องนวดขยี้ที่สงขลามากหน่อยเพราะชิงกัน 9 ที่นั่ง  คะแนนของ 4 พรรคใหญ่คือ ประชาธิปัตย์, รวมไทยสร้างชาติ, พลังประชารัฐ และภูมิใจไทยสูสีดูดี๋กันแทบทุกเขต อ้อ!! แว่วจากข่าวกรองด้วยว่า นี่เป็นอีกหนึ่งสนามที่คาดว่าสัปดาห์สุดท้ายกระสุนดินดำจะกระหน่ำสาดใส่กันเป็นไฟประลัยกัลป์...

แต่ที่น่าเศร้านิด คือ คนใต้ที่เคยได้ชื่อว่าตื่นตัวทางการเมืองสูง หลอกยาก...บัดนี้หลายพื้นที่ยอมถูกหลอกกินทั้งเบ็ดกินทั้งเหยื่อเป็นที่เรียร้อยแล้ว ผู้สมัคร นักการเมืองสีเทา 2-3 รายกำลังเยื้องกรายเข้าสภา...!!

ตามหน้าเสื่อหน้าไพ่ 4 พรรคที่เอ่ยนามมามีสิทธิเข้าสภา...แต่เล็ก เลียบด่วน ขออนุญาตข้ามรายละเอียดไปก่อน...ขอไปโฟกัสตรงปรากฏการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันก่อน

ไปสงขลารอบนี้แสดงว่าลุงตู่ต้องการเก็บทุกเม็ดทุกคะแนน...เพราะไปปราศรัยถึง 4 จุด เริ่มจากเขต 1 ของเจือ ราชสีห์ ที่ต้องบดขยี้กับรุ่นหลานอย่างสรรเพชร   บุญญามณี ลูกชายนิพนธ์ แม่ทัพใหญ่ ปชป. ที่เขต 1 นี่เองที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศขยับวัยจาก 'ลุงตู่' เป็น 'พี่ตู่'

จากนั้นเดินทางไป อ.รัตภูมิ เขต 5 ช่วย ปรีชา สุขเกษม   คนหนุ่มนักสู้ที่ถูกมือดีเอาสีดำไปละเลงป้าย...ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ต้องขึ้นเวทีจัดหนักไปหลายดอก และลุงตู่ก็กอดคอปรีชาปราศรัยเวทีนี้ร่วมชั่วโมง...ทำเอาผู้กำกับ สภ.รัตภูมิ ร้อนๆ หนาวๆ...ไปทีเดียว

แต่อีกคนที่คงจะหนาวๆ ร้อนๆ อยู่เหมือนกันก็คือ เจ้าของพื้นที่ บิ๊กเนม...รองหัวหน้าพรรค ปชป.อย่าง 'นายกชาย' หรือเดชอิศม์ ขาวทอง ที่ยังไงๆ ก็แพ้ไม่ได้...

‘ผู้การแต้ม’ ปราศรัยตอกย้ำจุดยืน ‘3 ไม่’ ของ ‘ประชาธิปัตย์’ ย้ำ!! “ไม่แก้ม.112 ไม่เอายาเสพติด ไม่เอาทุจริตคอร์รัปชัน”

(1 พ.ค. 66) มีรายงานว่า ‘ผู้การแต้ม’ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพฯ เขต จตุจักร-หลักสี่ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีปราศรัยใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ โซนกรุงเทพฯเหนือ ที่สนามฟุตบอล ศูนย์เยาวชนหลักสี่ ในช่วงเย็นของวันที่ 29 เมษายน 2566 นอกจากการนำเสนอนโยบายแล้วในช่วงท้ายของการปราศรัยยังได้ตอกย้ำจุดยืน 3 ไม่ ของพรรคประชาธิปัตย์ คือ ไม่แก้มาตรา 112 ไม่เอายาเสพติด และไม่เอาทุจริตคอร์รัปชัน

โดยในเวทีดังกล่าวมีแกนนำของพรรคนำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตจากฝั่งกรุงเทพโซนเหนือ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงยังมีบุคคลสำคัญคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมขึ้นปราศรัยเพื่อขอเสียงสนับสนุนให้พรรคและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคด้วย โดยมีประชาชนร่วมรับฟังจำนวนมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top