‘บัญญัติ’ ขึ้นเวทีปราศรัยพังงา เล่าอดีตสมัยร่วมงาน ‘จุรินทร์’ ยัน!! เป็นคนมากความสามารถ-ผลงานชัด ขอพี่น้องโปรดหนุน ‘ปชป.’ ยกทีม

(1 พ.ค. 66) เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ที่จังหวัดพังงาทั้ง 2 เขต มีเวทีปราศรัยหาเสียง ให้กับนางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส. จังหวัดพังงา เขต 1 เบอร์ 1 นายราเมศ รัตนะเชวง ส.ส. จังหวัดพังงา เขต 2 เบอร์ 5 และ บัตรสีเขียว พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ซึ่งนอกจากมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคแล้ว ยังมี นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยอย่างคับคั่ง

นายบัญญัติ อดีตหัวหน้าพรรคได้ระบุสาเหตุที่ตนมาปราศรัยที่จังหวัดพังงา เป็นเพราะตนเคยร่วมงานกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นเวลานาน และเมื่อคราวมีปราศรัยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจุรินทร์ ก็ได้ไปขึ้นเวทีปราศรัยด้วย และที่ตนมาช่วยเขต 2 พังงาด้วย ก็เพราะมีความผูกพันกับนายราเมศ รัตนะเชวง ที่เป็นคนหนุ่มและเป็นกำลังสำคัญของพรรค มีความรู้มีความสามารถถ้าพี่น้องให้โอกาสราเมศเข้าไปทำงานในสภาได้ ก็เชื่อว่าเขาจะเป็นดาวสภาในอนาคต 

พร้อมกับกล่าวอีกว่า ด้วยเวลา 3 ชั่วโมงในเดินทางจากสุราษฎร์ธานีถึงพังงา ตนพยายามคิดหาว่าจะมีเหตุผลอะไรหรือไม่ที่คนพังงาจะไม่เลือกคนพังงาด้วยกัน แต่ตลอด 3 ชั่วโมงนั้น ตนก็ไม่พบว่าจะมีเหตุผลอะไรที่คนจังหวัดพังงาจะไม่สนับสนุนนายจุรินทร์คนนี้ให้ก้าวเดินต่อไปอย่างยิ่งใหญ่ในทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งประสบการณ์การเป็น ส.ส. 11 สมัย มีความชัดเจนในทางการเมือง แม้แต่นายชวน หลีกภัย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความระมัดระวังในการทำงาน เนื่องจากหากแต่งตั้งใคร คนนั้นไปทำเรื่องเสียหาย อาจเดือดร้อนมาถึงตัวได้ แต่ก็ยังแต่งตั้งให้นายจุรินทร์ เป็นเลขารัฐมนตรี ของตัวเองถึง 2 ครั้ง 2 หน ถือเป็นการแสดงความไว้วางใจของนายชวน ที่มีต่อนายจุรินทร์ 

สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ปี 2548 ตนก็เลือกนายจุรินทร์ ให้มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ก็ถือว่าตนก็มีความไว้วางใจต่อนายจุรินทร์เช่นกัน ในเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน เมื่อจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็มักจะมอบหมายให้นายจุรินทร์ ทำหน้าที่เป็นคนสรุปในตอนท้ายทุกครั้งไป และที่สำคัญในเวลาที่นายจุรินทร์ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญๆ ก็มีผลงานมากมาย เช่น สมัยที่เป็น รมว.ศึกษาธิการ สมัยนั้น รัฐธรรมนูญกำหนดว่า รัฐต้องจัดดำเนินการให้มีการศึกษาฟรี อย่างน้อย 12 ปี แต่นายจุรินทร์ รมว.ศึกษาธิการ จัดทำ “เรียนฟรี” ไปเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดคือทำให้ “เรียนฟรี 15 ปี” ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ สมัยที่นายจุรินทร์ เป็น รมว.สาธารณสุข ก็ทำให้สถานีอนามัย ยกระดับขึ้นเป็น รพ.สต. ครบทุกตำบล พอมาเป็น รมว.พาณิชย์ ก็ดูแลนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ที่ทำให้คนอีสานชอบใจมาก


ที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกเกิดปัญหามากจากวิกฤตโควิด หลายประเทศส่งออกสินค้าไม่ได้ แต่นายจุรินทร์ กลับสร้างยอดส่งออกให้กับประเทศไทยได้สูงเป็นประวัติการณ์ ร่วม 10 ล้านล้านบาท  และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผลสำรวจที่บ่งบอกว่า นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ที่นายจุรินทร์ ผลักดันมาตลอด 4 ปี เป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด และในผลสำรวจเดียวกัน ยังระบุอีกว่า นายจุรินทร์ เป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์ สุจริตด้วย 

“นายจุรินทร์ ของเราเป็น 1 ไม่เป็น 2 ไม่รองใคร และเมื่อผมเห็นบรรยากาศในวันนี้แล้ว จึงมั่นใจว่าพี่น้องจะหนุนนายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. จะเป็นการเลือกตั้งที่จะแสดงให้เห็นว่าพี่น้องพร้อมใจให้จังหวัดพังงายกทีมยกคณะเช่นเดียวกับที่คนสุราษฎร์เลือกประชาธิปัตย์ยกทีม” นายบัญญัติ กล่าว  

ด้านนายชินวรณ์ อดีตวิปพรรค ระบุว่า ตนร่วมงานกับนายราเมศมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผู้มีความรอบรู้เรื่องกฎหมาย มีโอกาสร่างกฏหมายที่ประชาธิปัตย์เสนอทุกฉบับ รวมทั้งร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบนี้ด้วย ราเมศเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและทำหน้าที่นอกจากเป็นเลขานุการประธานรัฐสภาแล้วยังมีบทบาทเป็นโฆษกพรรค และออกมาให้ชี้แจง แสดงข้อเท็จจริงเพื่อต่อสู้ให้กับประชาธิปัตย์ในหลายเรื่องอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเป็นคนหนุ่มที่มีสามารถ หากได้เป็นผู้แทนเข้าสภา ก็จะทำงานได้ในทันที ดังนั้นขอให้พี่น้องเลือกราเมศ เบอร์ 5 เพื่อให้ลูกหลานชาวพังงาได้เป็นผู้แทนทำงานให้ประเทศต่อไป