Tuesday, 29 April 2025
ElectionTime

‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ส่งกำลังใจถึง ‘ป๊อป นิธิ’ หลังเจอดรามา ภรรยาคนดังช่วยหาเสียง ชี้ เลือกคนทำงานอย่ามองแค่กระแส มั่นใจ!! ประชาชนดูออก

(27 เม.ย.66) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 22 เขตสวนหลวง เบอร์ 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสวิจารณ์กรณีที่ภรรยาของน.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน เบอร์ 1 พรรคพปชร. ซึ่งเป็นนักแสดง มาช่วยหาเสียง จนเกิดเป็นประเด็นดรามา ว่า ประเด็นที่ น.ส.ปานวาด เหมมณี มาช่วยหาเสียง มองว่าการเมืองตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเปลี่ยนแปลงกันได้ คนที่เคยไปร่วมชุมนุม เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่สถานการณ์เปลี่ยนไปและคนที่คิดว่าดีกลับไม่ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ เราก็ลบรูปทิ้งแล้วก็เชียร์พรรคการเมืองใหม่ที่คิดว่าเป็นกระแสนิยม ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบทั้งสิ้น และตนเติบโตมาในยุคที่การชุมนุมประท้วงสร้างผลกระทบให้คนจำนวนมาก ทหารเข้ามายึดอำนาจ แต่จุดเด่นของพรรคพปชร.คือการก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงไม่โทษและไม่ตำหนิใครแต่จะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป

'พิธา' กร้าว!! ขับเคลื่อน 300 นโยบายก้าวไกล '100 วันแรก - 1 ปีแรก - สมัยแรก' เห็นผล!!

'พิธา' เสนอโรดแมปรัฐบาลก้าวไกล เตรียมรื้องบ 250,000 ล้านทำสวัสดิการประชาชน พร้อมเสนอกฎหมาย 45 ฉบับ ทันทีที่เปิดสภา

(27 เม.ย.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนงานรัฐบาลก้าวไกลในการขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 300 นโยบายของพรรคก้าวไกล โดยพิธากล่าวว่าพรรคก้าวไกลได้วางกรอบเวลาในการขับเคลื่อนนโยบายหลักที่สามารถผลักดันได้ใน 100 วันแรก 1 ปีแรก และสมัยแรก ภายใต้กรอบ ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’

สำหรับแผนงาน 100 วันแรกในการสร้าง ‘การเมืองดี’ พิธาประกาศว่าพรรคก้าวไกลสามารถใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ทันที ด้วยการเสนอทำประชามติภายใน 100 วันแรก ให้มี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหมด นอกจากนี้ พิธายังเตรียมเสนอให้ ครม. นำกฎหมายสมรสเท่าเทียมขึ้นมาพิจารณาต่อ ทบทวนการดำเนินคดีการเมืองและเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั้งหมดในฐานะกฎหมายของ ครม. รวมทั้งออกและยกเลิกกฎ ประกาศกระทรวงต่างๆ เพื่อปฏิวัติระบบราชการให้โปร่งใส และปลดล็อกกฎของมหาดไทยที่ฉุดรั้งความอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ส่วน ‘ปากท้องดี’ พิธาประกาศว่าใน 100 วันแรก พรรคก้าวไกลจะกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องทันทีด้วยการทำนโยบายหวยใบเสร็จ เพิ่มกำลังซื้อครั้งใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อยให้คึกคักได้ตลอดปี นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลมีแผนจะดึงดูดการค้าและการลงทุนโดยการใช้กองทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness Fund) ซึ่งมีเหลืออยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สร้างเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เปลี่ยนสูตรการจัดสรรก๊าซธรรมชาติทันที เพื่อลดค่าไฟ 70 สตางค์ภายใน 1 ปี และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาท พร้อมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือ SME รัฐช่วย SME จ่ายประกันสังคม 6 เดือน ค่าแรงหักภาษีได้ 2 เท่า 2 ปี

อีกส่วนของนโยบายเศรษฐกิจที่ทำได้เลยใน 100 วันแรก คือการปลดล็อกกฎกระทรวงและนโยบายของรัฐบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทำ ‘สุราก้าวหน้า’ ด้วยการปลดล็อกกฎกระทรวงการคลัง ออกมติ ครม. ที่ปลดล็อกการออกโฉนดที่ดินให้นิคมสหกรณ์และนิคมสร้างตนเอง 6.5 ล้านไร่ ทันที และ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ (Net Metering) เพื่อให้ ‘หลังคาสร้างรายได้’ ให้คนไทยทั้งประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าได้เองบนหลังคาบ้าน

สุดท้าย ‘มีอนาคต’ สิ่งที่ทำได้ใน 100 วันแรก คือ ‘ปฏิวัติการศึกษา’ กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ครูละเมิดสิทธิพักใบประกอบทันที และเลิกให้ครูนอนเวร ‘คืนศักดิ์ศรีประเทศไทยในเวทีโลก’ ด้วยการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน และสร้างอำนาจต่อรองในการรักษาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับประเทศนอกกลุ่ม และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยทางการเมืองด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ‘คืนสุขภาพดี ทั้งกาย-ใจ’ เซ็นงบเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค (PP) ปลดล็อกงบประมาณในการป้องกันเชื้อ HIV ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขในรัฐบาลประยุทธ์ไม่ยอมเซ็น เพิ่มตรวจสุขภาพจิตในการตรวจสุขภาพประจำปีได้ เริ่มการบริจาคอวัยวะเชิงรุก และปราบฝุ่น PM2.5 กำหนดมาตรฐานห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผาทันที

ส่วนแผนงาน 1 ปีแรก พรรคก้าวไกลเตรียมทำ 2 ส่วน คือการยื่นเสนอกฎหมายและรื้องบประมาณ 2567 พิธากล่าวว่าพรรคก้าวไกลมีกฎหมายอยู่ในมือแล้ว 45 ฉบับที่พร้อมเสนอทันทีที่สภาฯ เปิด เป็นกฎหมายการเมือง 11 ฉบับ สิทธิเสรีภาพประชาชน 8 ฉบับ ปฏิรูประบบราชการ 6 ฉบับ ปฏิรูปที่ดิน 8 ฉบับ บริการสาธารณะ 8 ฉบับ แรงงาน 2 ฉบับ เศรษฐกิจ 4 ฉบับ และสิ่งแวดล้อม 2 ฉบับ

อีกส่วนคืองบประมาณ พรรคก้าวไกลเตรียมรื้องบประมาณ 2567 ใหม่ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในระบบราชการและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะทำให้ได้งบประมาณใหม่ 250,000 ล้านบาท งบประมาณส่วนนี้ พรรคก้าวไกลจะนำไปจัดสรรเป็นโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนพิสูจน์สิทธิ์และปลดหนี้เกษตรกร ทำ boxset ของขวัญแรกเกิดเด็กทุกคนทันที คนละ 3,000 บาท เงินเลี้ยงดูเด็กเล็ก 1,200 บาท/เดือน รวมทั้งเริ่มการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงวัยและคนพิการปีแรกขยับจาก 600 บาท เป็น 1,200 บาท และจะขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นขั้นบันไดให้ถึงคนละ 3,000 บาท/เดือน ภายในปีที่ 4 นอกจากนี้จะจัดสรรงบประมาณไปในอีกหลายภาคส่วนเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงขนส่งสาธารณะ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สนับสนุนค่าเดินทาง-ค่าตรวจในการตรวจสุขภาพประจำปี และเศรษฐกิจสร้างสรรค์

‘เพื่อไทย’ ปล่อยโปสเตอร์นโยบายพรรค ผ่านพยัญชนะ ‘ก-ฮ’ ตอกย้ำ!! พท. คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66 เพจพรรคเพื่อไทย โพสต์โปสเตอร์นโยบายเริ่มต้นด้วยพยัญชนะ ก-ฮ สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก โดยภาพดังกล่าวระบุว่า..

ภาพดังกล่าวได้ออกแบบให้คล้ายโปสเตอร์สื่อการสอนพยัญชนะภาษาไทย จำนวน 44 ตัว เรียงลำดับตั้งแต่ ก.ไก่ ไปจนถึง ฮ-นกฮูก แต่ปรับคำขยายความให้เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยแทน เพื่อสร้างการจดจำใหม่ เช่น ตัวอักษร ก.เกษตรกร พักหนี้ 3 ปี, ง.เงิน ดิจิทัล 10,000 บาท , ฑ.บัณฑิต เงินเดือนเริ่ม 25,000 บาท, ร.รถไฟ ความเร็วสูง รวมทั้ง อ.อากาศสะอาด เป็นต้น เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าพรรคเพื่อไทย คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกกลุ่ม นโยบายต่างๆ จึงมีความครอบคลุมทุกความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกคน โดยที่พยัญชนะในโปสเตอร์ดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายนโยบายดีๆ ที่พร้อมดำเนินการทันทีหลังแลนด์สไลด์

‘ประชาธิปัตย์’ เปิดนโยบาย ‘เกษตรทันสมัย’ 26 ด้าน ดันไทยสู่มหาอำนาจอาหารโลก สร้างเงินให้ประเทศ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

(27 เม.ย.66) (พรรคประชาธิปัตย์) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว วาระประเทศไทย ครั้งที่ 4 'ปชป. กับนโยบายเกษตร' นำโดย นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์, ม.ร.ว. ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ ณ ห้องประชุมชั้น 3 พรรคประชาธิปัตย์ อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เล็งเห็นว่า เกษตรคืออนาคตของประเทศและเป็นดีเอ็นเอ (DNA) ของพรรคจึงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปภาคเกษตรเพื่อให้เกษตรกรเข้มแข็ง เกษตรไทยแข็งแกร่งจึงกำหนดเป้าหมายของนโยบายเกษตรทันสมัยภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก”และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต 1. ประเทศไทยต้องเป็นมหาอำนาจอาหารโลก Top10 2. เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 100 % และ 3. เพิ่ม GDP เกษตรเป็น 10% 

นโยบายเกษตรทันสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 จึงกำหนด 26 นโยบายสำคัญๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรสู่การบรรลุเป้าหมาย เช่น ต่อยอดประกันรายได้จ่ายส่วนต่าง เกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้าน เติมทุนชาวนา 3 หมื่นต่อครัวเรือน องค์กรประมงท้องถิ่น1แสน ตอบแทน อาสาสมัครเกษตร 1 พันต่อเดือน ธนาคารหมู่บ้านชุมชน 2 ล้าน ปรับลดปลดหนี้พักหนี้เกษตรกร ปลดล็อก พรก.ประมง"

‘ชัยวุฒิ’ ช่วย ‘ชิงชัย’ หาเสียงเมืองตาก เชื่อเป็นนักการเมืองน้ำดี ดูแลปชช.ได้ ประกาศ!! การเมืองต้องสร้างสรรค์ หมดยุคปั่นกระแสคนไทยเกลียดกัน

(27 เม.ย.66) ที่ จ.ตาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ลงพื้นที่พร้อมนายชิงชัย ก่อประภากิจ ผู้สมัคร ส.ส.ตาก เขต2 เบอร์ 8 พรรคพปชร.หาเสียงที่ตลาดเช้า อ.เเม่สอด จ.ตาก ขอคะแนนเลือกพรรค และผู้สมัครพรรคพปชร.

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นายชิงชัย หรือนายกฯเคี้ยง เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นอดีตเป็นนายกอบจ.ตาก ที่พี่น้องชาวตากรู้จักอย่างดี จึงหวังว่าจะเลือกนักการเมืองนำดีเข้าไปดูเเลประชาชน 

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงกระแสในโลกโซเชียล กรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ระบุถึงการถูกควบคุมตัวในวันรัฐประหาร ปี 2549 ทำให้เดินทางมางานศพบิดาไม่ทัน ถูกอายัดเงินจนต้องวิ่งหาเงินจัดงานศพ ต่างจากที่เคยให้สัมภาษณ์ ไว้ก่อนหน้าว่าถูกกักตัวเพียง 4-5 ชั่วโมง ว่า เป็นเรื่องปกติของนักการเมือง เมื่อถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งมักจะพูดแนวนี้ เพื่อให้มีดรามาให้คนสงสารเรียกคะแนน แต่ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ที่สําคัญวันนี้มีโซเชียลมีเดีย ทำให้มีการยุยง ปลุกปั่น หรือพูดในทางลบ ให้คนไทยเกลียดชังกัน พูดให้คนเกลียดประเทศ

‘อนุทิน’ ชี้!! ใครจะมาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ต้องหนุน กม.กัญชา เพื่อ ‘การแพทย์-สุขภาพ’

(27 เม.ย.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย จะมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพียงพอที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่มีเนื้อหาครอบคลุมการนำกัญชา กัญชง มาใช้อย่างถูกวิธี เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

นายอนุทิน กล่าวว่า กฎหมายกัญชา ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร สภาฯให้ความเห็นชอบในหลักการ วาระที่ 1 แล้วในชั้นกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาจนมีมาตราเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากกรรมาธิการฯ ซึ่งมีตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง มากขึ้นจาก 45 มาตรา เป็น 95 มาตรา 2 เท่าของที่พรรคภูมิใจไทย นำเสนอกฎหมาย ซึ่งต้องถือว่าแน่นหนามากแล้ว และเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ยังไงก็ต้องผ่าน แต่คราวที่แล้วเป็นช่วงท้ายของอายุสภาฯ เลยมีเรื่องทางการเมืองเกี่ยวข้องอยู่ เกรงว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้รับคะแนนนิยมมากเกินไป จึงใช้เทคนิคทางการเมือง ทุกพรรคที่อยู่ในกรรมาธิการฯ ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลให้ความเห็นชอบ ในมาตราต่างๆที่ร่างขึ้นมาใหม่ บางพรรคที่บอกไม่เห็นชอบ เป็นเสนอให้นำกัญชาไปใช้ในทางสันทนาการ การจัดโซนนิ่งด้วยซ้ำ ในขณะที่พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยเสนอเรื่องพวกนี้ เพราะพรรคภูมิใจไทย ไม่เคยเสนอเรื่องพวกนี้ พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนในทางการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ เท่านั้น

หาก ‘กกต’ จับมือ ‘iLaw’ ตั้งทีมสังเกตการณ์เลือกตั้ง 66 ทั้งที่รับเงินจากต่างชาติ หวังร้ายต่อประชาธิปไตยไทย

จากเมื่อวันที่ 23 เม.ย. พ.ศ. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ได้เข้าพบกับ ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง มอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานกับ iLaw เกี่ยวกับการแจ้งเหตุการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เพื่อสัมภาษณ์และจัดทำคลิปเผยแพร่เกี่ยวกับการแจ้งเหตุ แจ้งข้อมูล เบาะแสการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เงินรางวัล และการคุ้มครองพยาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กับ iLaw เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

การที่กกต.ร่วมมือกับ iLaw ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การจัดทำคลิปแจ้งเหตุ-เบาะแสทำผิดเลือกตั้งนั้น อาจจะด้วยเป็นเจตนาดีของกกต.เอง แต่กกต.ก็ควรจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงหน่วยงานหรือองค์กรที่จะทำกิจกรรมร่วมกันด้วย เพราะภารกิจหลักที่สำคัญยิ่งของ กกต. คือ จัดการเลือกตั้งตามหลัก “สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย”

โดยตัวเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเอง น่าจะทราบดีว่า iLaw เป็นกลุ่มองค์กรเอกชนที่รับเงินสนับสนุนจาก NED ของสหรัฐฯ (หรือเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็น CIA ภาคประชาชน) เพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ ซึ่ง iLaw ก็ยอมรับเองว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึง พ.ศ. 2565 iLaw ได้รับการสนับสนุนงบประมาณหลักสำหรับการดำเนินงาน จากองค์กรต่าง ๆ ดังนี้

1. Open Society Foundation (OSF)

2. National Endowment for Democracy (NED)

3. Fund for Global Human Rights (FGHR)

4. American Jewish World Service (AJWS)

ที่มา : https://www.ilaw.or.th/about

ทั้ง ๆ ที่มีหน่วยงานทั้งเอกชนและรัฐของไทยเองตั้งมากมายออกมาช่วยกันตรวจสอบเลือกตั้งให้สุจริต แต่กกต.กลับไปร่วมมือกับองค์กร NGO ที่รับเงินต่างประเทศ ซึ่งกกต.อาจจะเข้าข่ายทำผิดกฎหมายเสียเอง

โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก “ความจริงที่คนไทยต้องทำใจ!! หาก 'สหรัฐฯ' และ 'โซรอส' ยังไม่หยุด ความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของไทยจะไม่สูญสิ้น” https://thestatestimes.com/post/2023042648

'กรณ์' สวน 'สุพัฒนพงษ์' ค่าไฟแพง คนนั่งคาตำแหน่งต้องรับผิดชอบ  ชี้!! ต้นทุนไฟลด ไม่ต้องเก็บค่า FT ปล่อยสะท้อนต้นทุนแท้จริง

(27 เม.ย.66) นายกรณ์ จาติกวาณิช แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี หัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่จังหวัดร้อยเอ็ด ถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไม่เห็นด้วยกับการงดเก็บค่าเอฟทีในฤดูร้อนนี้ ตามที่พรรคชาติพัฒนาเสนอไป ว่า การลักไก่คิดค่าไฟแพงตั้งแต่ ม.ค.- เม.ย.66 ที่ 4.72 บาทนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะก๊าซถูกในอ่าวไทยผลิตมากขึ้น ราคา LNG  นำเข้าราคาลดลง เงินบาทก็แข็งค่า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจึงลดตั้งแต่ ธ.ค.65 เป็นต้นมา แต่รอบบิล ม.ค.- เม.ย.66 รัฐไม่ยอมลดค่าไฟให้ แต่ผลักภาระให้ประชาชนแทนในช่วงหน้าร้อนนี้

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ได้ทักท้วงเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีช่วงอากาศหนาว ที่คนใช้ปริมาณไฟน้อย แต่มาแจ็กพอตแตกก็เดือนเมษาหน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้ไฟมากขึ้น แต่เมื่อต้นทุนถูกลงแล้ว จึงควรลดค่าเอฟที 93.43 สตางค์/หน่วยเป็น 0 บาท 3 เดือนได้ ซึ่งสอดคล้องตามต้นทุนจริง ส่วนการขาดทุนของ กฟผ. 

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะรักษาการรองนายกเศรษฐกิจเอง กำกับดูแลกระทรวงการคลังอยู่แล้วก็สามารถมาช่วยปรับโครงสร้างต้นทุนการเงินของ กฟผ. ได้ไม่ใช่มาผลักภาระให้ประชาชนแบบนี้

‘เพื่อไทย’ ชู 3 นโยบาย เพื่อสตรีและผู้มีประจำเดือน มุ่งมั่นให้หญิงไทยทุกคนได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม

(27 เม.ย.66) พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความนำเสนอ 3 นโยบายเพื่อสตรีและผู้มีประจำเดือน ระบุว่า...

1.) ผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า 
นโยบายสำหรับผู้มีประจำเดือนทุกคนต้องเข้าถึงสวัสดิการผ้าอนามัย รัฐฯ สามารถวางระบบแจกผ้าอนามัยผ่าน 3 ช่องทาง โดยประชาชนต้องใช้บัตรประชาชนหรือแอปพลิเคชันของรัฐในการยืนยันสิทธิ

[ ช่องทางที่ 1 ]
แจกผ่านหน่วยงานใต้การกำกับของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

สำหรับ ประชากรนอกตลาดแรงงานรายได้น้อย, ประชากรวัยเรียนที่ไม่อยู่ในระบบการศึกษา และ ประชากรในครอบครัวยากจน คนไร้บ้าน คนข้ามชาติ ไร้สัญชาติ ที่ต้องมีประกันสังคมตามบัตรชมพูและเหลือง

จากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนรายได้น้อย ที่เข้าไม่ถึงผ้าอนามัยเป็นกลุ่มที่ใช้สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘บัตรทอง’ และ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ อยู่แล้ว อีกทั้งระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้ายังมีหน่วยงานครอบคลุมทั่วประเทศ ได้แก่ สถานีอนามัย ร้านขายยาคุณภาพ ศูนย์เทศบาล ศูนย์สุขภาพชุมชน ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงสามารถรับผิดชอบการแจกจ่ายผ้าอนามัยให้แก่ประชาชนกลุ่มนี้ พร้อมให้ความรู้เรื่องสุขภาวะในคราวเดียวกัน

[ ช่องทางที่ 2 ]
แจกผ่านกระทรวงศึกษาธิการ กรมราชทัณฑ์​ กระทรวงยุติธรรม

สำหรับประชากรวัยเรียนที่อยู่ในระบบการศึกษา (ประถมศึกษาตอนปลาย–มหาวิทยาลัย) และ คนในเรือนจำ

ปัจจุบันคนในเรือนจำถูกจำกัดสิทธิเข้าถึงผ้าอนามัยเพียง 3 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ ส่วนประชากรวัยเรียนมักมีข้อจำกัดด้านรายได้ในการซื้อผ้าอนามัยอย่างเพียงพอ ทำให้ขาดสุขอนามัยที่ดี รัฐบาลจึงจำเป็นต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม เพื่อจัดหาผ้าอนามัยแก่ประชากรวัยเรียนและคนในเรือนจำอย่างเพียงพอ

[ ช่องทางที่ 3 ]
แจกผ่านแอปพลิเคชัน

สำหรับ ประชากรวัยทำงานในระบบแรงงาน

รัฐฯ สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อแจกผ้าอนามัย โดยอาจพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ หรือใช้แอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น เป๋าตังค์ โดยเพิ่มเมนู ‘กระเป๋าสุขภาพ’ ให้ประชาชนสามารถเลือกรับผ้าอนามัยได้ตามประเภทและจำนวนที่ต้องการ ได้แก่ ผ้าอนามัย 25 ซม., ผ้าอนามัย 29 ซม., ผ้าอนามัย 35 ซม., และ ผ้าอนามัย 40 ซม. ทั้งแบบมีปีกและไม่มีปีก พร้อมฟังก์ชันให้ประชาชนเลือกสถานที่และวันเวลาเข้ารับผ้าอนามัย หรือแจ้งความประสงค์ว่า ต้องการให้จัดส่งถึงบ้านโดยผู้ขอเป็นผู้รับผิดชอบค่าจัดส่ง

สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ กีบุ๊ก : https://bit.ly/3V9qfFi
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/pheuthaiparty/posts/pfbid0sh5PwEWPTUKHhpbibBCruaNVTcyhWRSxCgo8CfhQ7SzZCDi1VmX47WfGCRxSn5WWl

2.) การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรี สำหรับผู้หญิงทุกคน
เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทยเกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 1 พรรคเพื่อไทยได้เห็นถึงความสำคัญของสุขภาวะในเพศหญิงและมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากกามดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ HPV ให้แก่ผู้หญิงทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

3.) ยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทักษะ

‘มาดามเดียร์’ ช่วย ‘ศิลป์ชัย’ ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงที่นครศรีฯ ขอแรงหนุนจาก ปชช. กลับมาเทคะแนนให้ ‘ปชป.’ ยกจังหวัด

(27 เม.ย. 66) ที่ตลาดอำเภอสิชล น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ ‘มาดามเดียร์’ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 5 (อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอลานสกา) หมายเลข 4 ลงพื้นที่ตลาดอำเภอสิชล ช่วยหาเสียงสนับสนุนให้นายศิลป์ชัย สุนทรมัฏฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 10 (อำเภอขนอม อำเภอสิชล และอำเภอท่าศาลา) หมายเลข 1 ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และเข้ามาขอถ่ายรูปจำนวนมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top