Saturday, 10 May 2025
Crimes

จันทบุรีก็มี! กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ประกาศรวมตัวสนามสามเหลี่ยมทุ่งนาเชย ปราศรัยขับไล่นายกรัฐมนตรี 'พลเอกประยุทธ' โดยมี อดีต สส.พรรคเพื่อไทยแบบบัญชีรายชื่อร่วมด้วย

กลุ่มผู้ชุมชมเคลื่อนไหวทางการเมือง จำนวนกว่า 200 คน รวมตัวกัน ที่สนามสามเหลี่ยมทุ่งนาเชย อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ด้วยระบบ carmob โดยใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหะนะในการรวมกลุ่ม ซึ่งมีรถยนต์กว่า 60 คัน และรถจักรยานยนต์ เกือบ 100 คัน  ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ เข้าร่วมกว่า 200 คน 

นำโดยนายธีรภัทร์ วงษ์ศรีวรโชติหรือนายสำเริง / นายเสริม ศรีสวัส  ป๋าแก่) / นายชินวัฒน์  หาบุญพาด อดีตสมาชิกวุฒิสภาแบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนายปกร ฐานเดช (ป๋าเสริม) ซึ่งการชุมนุม ได้เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตลอดเวลา แต่กลุ่มผู้ชุมชุน ไม่ยอมแพ้  มีการ ขึ้นปราศรัย เป็นช่วง ๆ โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อเป็นเวที พร้อมติดป้าย ตามรถต่าง ๆ ด้วยคำพูดโจมตี พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี  

จากนั้นได้มีการเคลื่อนขบวนไปยังตัวเมืองจันทบุรี ขณะเดียว ใช้รถประกาศขับไล่ซึ่งระหว่างการชุมนุมนั้นได้มีการพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาโดยมีการขับไล่ด้วยคำพูด ”คนจันทบุรีไม่ทนคนจังไรประยุทธ์ออกไป” และมีการพูดถึงประเด็นการนำวัคซีนการบริหารจัดการสถานการณ์ โควิด-19 ที่ล้มเหลวรวมทั้งเศรษฐกิจตกต่ำ ตลอดระยะเวลา  2 ชั่วโมง โดยแกนนำจะสลับสับเปลี่ยนกันพูด หลังจากนั้นได้กลับมารวมตัวกัน ที่สนามสามเหลี่ยมทุ่งนาเชยตามเดิม เพื่อทำการเคารพธงชาติ ในเวลา 18.00 น.


ภาพ/ข่าว  ผู้สื่อข่าวจันทบุรี

‘พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ’ รอง ผบช.สตม.ตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรอง การเดินทางเข้า-ออก จังหวัดสมุทรปราการ

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

วันที่ 17 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองการเดินทางเข้า - ออก ป้องกันการแพร่ระบาด โรคไวรัสโควิด-19 จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ถ.สุขุมวิท(ขาเข้า) ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พบ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ , เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง ว.4 ร่วมบริเวณจุดตรวจ

ทั้งนี้ ได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิต เนื่องจาก ห้วงเวลานี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละ และอวยพรให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

ทั้งนี้ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับตำรวจทางหลวง ร่วมกันสกัดจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดกว่า 8 ล้านเม็ด คาด่านฯ ธัญบุรี

ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.,พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. และกองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทุกรูปแบบทุกพื้นที่

โดย กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฎฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส. บก.สส. บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส. บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญพร้อมขยายผล กระทั่งทราบว่า มีกลุ่มลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ลพบุรี มีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งขายให้กับลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้รถยนต์ประกอบด้วย

1.รถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว 6745 ลพบุรี

2.รถยนต์โตโยตต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กอ 3517 กทม.

3.รถยนต์ซูซุกิ เซียส สีเทา หมายเลขทะเบียน 6 กฮ 2781 กทม.

ในการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอิสาน พื้นที่จังหวัดเลย โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 21 (พุแค-หล่มสัก) เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ซึ่งชุดจับกุมได้ติดตามดูพฤติการณ์เรื่อยมา กระทั่งสืบทราบว่า นายธรรมธัชกับพวก  ไปรับยาเสพติดและนำมาพักไว้ในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมตลอดเส้นทาง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจัดชุดสืบสวนตลอดเส้นทาง  

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เฝ้าติดตาม กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหามาถึงบริเวณ  กม.26 มุ่งหน้าบางนา ถนนกาญจนาภิเษก หน้าด่านเก็บเงินธัญบุรี 1 จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. สกัดจับกุมไว้ได้ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1.นายธนกิจ ปลูกนิกร 2.นายธรรมธัช โสภา 3.นายวรกันต์ ในชัยภูมิ และ 4.นายสันติสุข นาควัน พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 7,950,000 เม็ด หลังจากนั้นได้นำผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว ตำรวจทางหลวง จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อกวดขัน  ผู้กระทำความผิดบนเส้นทางหลวงอย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง

 

แก๊งมอดไม้มุกดาหาร ไปไม่รอด!! หลังขับรถตกคูน้ำ ก่อนเผ่นหนีไป

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 นายวีระ ใสแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.2 (ดงหลวง) อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกไม้แปรรูป ตกลงไปในคูน้ำข้างถนนเปรมพัฒนา สายดงหลวง - นาแก จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ออกไปทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 4 ล้อยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 80 - 7151 มุกดาหาร ตกลงไปในคูน้ำข้างถนนจนพังเสียหายไม่สามารถขับต่อไปได้ เมื่อตรวจสอบที่บริเวณกระบะบรรทุกด้านหลังพบไม้แปรรูปซุกซ่อนอยู่โดยมีผ้าสแลนคลุมอำพรางไว้ จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายแม้ไม้แปรรูปดังกล่าวไปทำการตรวจตรวจสอบและนับจำนวนพบว่า เป็นไม้แปรรูปประเภทไม้มะค่าโมงจำนวน 31 แผ่น ขณะทำการตรวจสอบไม่พบคนขับรถคันดังกล่าว คาดว่าได้หลบหนีไปก่อนพี่เจ้าหน้าที่จะมาถึงที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการตรวจยึดไม้แปรรูปและรถบรรทุกดังกล่าวไว้เป็นของกลางพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดงหลวง ในฐานความผิดมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และซ่อนเร้นจำหน่าย หรือพาช่วยเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / พวงเพชร-เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

จับอีก!! APP เงินกู้จีนดอกเบี้ยโหด จ.ภูเก็ต พบลูกหนี้กว่า 20,000 ราย

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากลหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย  โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ศิลปคมณ์  เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุม

นายเลี่ยวฯ อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ในข้อหา “ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไว้เพื่อนำออกซึ่งใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สืบเนื่องจาก การขยายผลการจับกุมเครือข่ายปล่อยเงินกู้พื้นที่กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. และ ศปชก.สตม. ทำการสืบสวนขยายผลพบว่า เครือข่ายดังกล่าวย้ายไปอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และยังมีพฤติการณ์โทรทวงเงินพร้อมดอกเบี้ยโหดกับลูกหนี้ที่กู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อ “พลูตัส แค็ท โปร” (Plutus cat pro) ซึ่งแอปฯ ดังกล่าว ลักลอบเปิดสำนักงานอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายค้นและเข้าค้นยังอาคารเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 พบนายเลี่ยว อายุ 27 ปี สัญชาติจีน โดยรับว่าเป็นผู้ควบคุม ดูแล จัดการ และจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ระหว่างการเข้าค้น พบพนักงานจำนวน 19 คน และทำการตรวจยึดทรัพย์สินและเอกสารที่น่าเชื่อว่ามีไว้ใช้หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น สมุดบันทึกรายชื่อลูกหนี้, ซิมการ์ด, โทรศัพท์มือถือ และ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก รวมจำนวน 43 รายการ จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัวของนายหลิวฯ พบรายชื่อลูกหนี้ กว่า 20,000 ราย สอบถามพนักงานให้การว่าจะต้องโทรทวงหนี้ให้ได้วันละ 10-15 ราย ซึ่งจะได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000-15,000 บาท และค่าคอมมิชชั่น 8 บาท ต่อการทวงหนี้ได้ 1 ราย โดยจะให้ลูกหนี้ชำระเงินเข้าบัญชีธนาคารที่นายเลี่ยวฯ จ้างเปิดบัญชีไว้ ชุดสืบสวน ศปชก.สตม. จึงดำเนินการจับกุมนายเลี่ยวฯ ส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

แถลงจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี “ฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากลหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะ การกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ศิลปคมณ์  เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร  แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. และ ศปชก.สตม. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตาม นายจอห์นเด็ก หรือ MR.NAVJOT (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 195/2563 ข้อหา “ฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

นายจอห์นเด็ก นั้นเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในขบวนการฟอกเงินจากเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2562 ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย และพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีพฤติการณ์คือประกอบกิจการค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้าบังหน้าบริเวณย่านพาหุรัด และเป็นผู้ติดต่อประสานงานการโอนเงินจากการค้ายาเสพติดของเครือข่ายค้ายาเสพติดเพื่อซื้อทองคำจากร้านขายทองคำในประเทศไทย และนำทองคำหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดส่งกลับไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติด  ซึ่งเป็นลักษณะของการฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. ได้สืบสวนหาข่าว ติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้โดยตลอด จนกระทั่ง ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบุคคลต่างด้าวลักษณะเหมือน นายจอห์นเด็ก หรือ MR.NAVJOT (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 195/2563 อยู่บริเวณถนนสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณดังกล่าว จนพบกับผู้ต้องหาเดินอยู่อยู่ริมถนนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่าเป็นผู้ต้องหาจริง จึงแสดงหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 195/2563 ให้แก่ผู้ต้องหาดูและอ่านข้อความในหมายจับให้ผู้ต้องหาฟังผ่านล่ามแปลภาษา รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับในหมายจับดังกล่าวจริง และไม่เคยถูกดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่าง ๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

“รวบ BLOGGER หัวหมอ” เปิดเว็บหลอกทำเอกสารปลอม เหยื่อถูกตุ๋นเพียบ…เสียหายกว่า 5 ล้านบาท!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากลหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ศิลปคมณ์  เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย คือ

นายนิรันดร์ฯ อายุ 49 ปี สัญชาติไทย ในข้อหา มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกงประชาชน

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้รับแจ้งจากประชาชนกรณีถูกมิจฉาชีพ  แอบอ้างว่าสามารถออกวุฒิการศึกษา และออกใบแจ้งผลการสอบภาษาอังกฤษได้ จากเว็บไซต์ www.path168.com และ www.cer365.com โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหลักแสนบาท ซึ่งมีผู้หลงเชื่อชำระเงิน แล้วคนร้ายจะบ่ายเบี่ยง แจ้งเหตุขัดข้อง ว่าไม่สามารถดำเนินการได้จนกระทั่งออกอุบายให้ชำระเงินเพิ่ม แต่เมื่อผู้หลงเชื่อชำระเงินเพิ่มไปแล้วหรือต้องการยกเลิกการออกใบรับรองดังกล่าวและต้องการขอเงินคืน กลับถูกปฏิเสธและตัดช่องทางการติดต่อเชิดเงินหลบหนี ผู้ถูกหลอกจึง เชื่อว่าตนได้รับความเสียหายและแจ้งความร้องทุกข์ และเดินทางมาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ศปชก.สตม. เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวน ทราบว่าคนร้ายจะใช้บัญชีธนาคารของผู้อื่น ในการรับเงินโอนจากประชาชนที่หลงเชื่อ และคนร้ายจะใช้ให้บุคคลที่มีส่วนร่วมในขบวนการตระเวนกดเงินสดออกจากบัญชี แล้วนัดหมายกันส่งมอบเงินสดให้แก่ตน เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. สืบสวนจนกระทั่งพิสูจน์ตัวตนของผู้ที่มารับเงินสด และสืบทราบที่อยู่ปัจจุบัน จึงรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญาธนบุรี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้เข้าค้นระแวกประชาอุทิศน์ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. ตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี พบนายนิรันดร์ฯ แสดงตนเป็นผู้พักอาศัยในบ้าน โดยพบโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด ของผู้อื่น รวมทิ้งสั้น 99 รายการ จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายนิรันดร์ฯ พบว่ามีการสนทนากับประชาชนที่หลงเชื่อจำนวนมาก ที่เข้ามาติดต่อกับนายนิรันดร์ฯ เพื่อขอให้ออกวุฒิการศึกษา ออกใบคะแนนภาษาอังกฤษ จากการสอบถามนายนิรันดร์ฯ เบื้องต้นให้การว่าได้ว่าจ้างให้บุคคลหนึ่ง (จำชื่อ-สกุล ไม่ได้) เป็นผู้ทำเว็บไซต์ www.path168.com และ www.cer365.com เพื่อใช้เป็นอุบายหลอกลวงเอาทรัพย์สินผู้เสียหาย แต่ทั้งนี้นายนิรันดร์ฯ แจ้งว่าที่ผ่านมาไม่เคยปลอมแปลงเอกสารใด ๆ ตามที่โฆษณาไว้มาก่อน เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. จึงจับกุมตัวนายนิรันดร์ฯ พร้อมนำของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของกลางที่ตรวจยึดเบื้องต้น พบประชาชนผู้หลงเชื่อและโอนเงินกว่า 30 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย มากกว่า 5 ล้านบาท

สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

กลุ่มขันอาสา กลุ่มล้านนาปลดแอก และกลุ่มราษฎรลำปาง จัดกิจกรรม Carsmob ไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากโควิดและเรียกร้องวัคซีนและนายกรัฐมนตรีต้องลาออก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 ส.ค.2564 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมือง จ.ลำปาง กลุ่มขันอาสา กลุ่มล้านนาปลดแอกและกลุ่มราษฎรลำปาง จำนวนกว่า 300 คน นำโดย เกียรติ ลำปาง แกนนำกลุ่มล้านนาปลดแอก และผู้ประสานงาน ร่วมกันจัดกิจกรรม Carsmob ไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากโควิดและเรียกร้องวัคซีนไฟเซอร์ให้กับทุกคนและนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โดยมีป้าเป้า วรวรรณ แซ่อั้ง อายุ 67 ปี ขวัญใจผู้ชุมนุมเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยและปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

ก่อนเริ่มขบวนมีการตรวจคัดกรองป้าเป้าด้วยวิธี  Antigen Test Kid (ATK) และยืนยันผลการตรวจเป็นลบก่อนปล่อยขบวนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมกว่า 100 คันที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมพร้อมบีบแตร ชูสามนิ้ว และชูป้ายไล่ประยุทธ์ ไปตามถนนฉัตรไชย เลี้ยวซ้ายไปถนนตวงรัตน์ เลี้ยวขวาไปถนนไมตรีถึงบริเวณหน้าสถานีรถไฟนครลำปาง เลี้ยวขวามาตามถนนฉัตรไชยถึงจุดเริ่มต้นบริเวณสวนสาธารณะฯรวมระยะทางไป-กลับประมาณ 10 กม.โดยป้าเป้าขึ้นรถแห่ปราศัยนำขบวนดังกล่าวด้วย บรรยายกาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ป้าเป้า กล่าวว่า อยากจะพูดให้ทุกคนฟัง ทำไมถึงต้องสู้ เพราะสงสารเด็กคิดว่า ประเทศนี้เขากดขี่เราบังคับเรา ไม่เคยอยู่ข้างประชาชน อยากกู้ก็กู้แต่ประชาชนพวกเราต้องหาใช้หนี้โดยที่เราไม่ได้กินเงินภาษีเราเลย ประยุทธ์ต้องออกไป คนเราถ้าอยู่ดีกินดีใครจะออกมาไล่ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่เอาภาษีมาซื้ออาวุธฆ่าประชาชน

ทางด้าน เกียรติ ลำปาง ผู้ประสานงานกลุ่มฯ กล่าวว่า เรามาร่วมตัวกันวันนี้มีวุตถุประสงค์

1.เพื่อเรียกร้องวัคซีน

2.แสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด แล

3.พลเอกประยุทธ์ต้องลาออก

เนื่องจากที่ผ่านมา มีโรคระบาดแต่ประชาชนเข้าถึงวัคซีนไม่ได้มันคืออะไร เรื่องนี้เกิดมาปีครึ่งแล้วลูกหลานเรายังไม่ได้ฉีดวัคซีน ไปโรงเรียนไม่ได้ พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ไม่มีรายได้มันกระทบกันไปหมด วัคซีนคือโอกาส รัฐบาลต้องเปิดให้คนไทยเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงโดยเร็วที่สุด ซึ่งทุกวันนี้มีคนเสียชีวิตทั่วประเทศ รัฐบาลไม่ทำอะไ ถ้ายังเพิกเฉยเราก็จะจัดกิจกรรมเข้มข้นต่อไปอีก เพราะทุกวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีวัคซีนให้ประชาชน จึงฝากถึงพลเอกประยุทุธ์  ท่านอยู่มา 7 ปีครึ่งแล้วลาออกเถอะครับ อยู่มาเกือบ 8 ปี ประเทศมีหนี้มากมายมหาศาล ท่านยังจะอยู่ต่ออีกเหรอ ลาออกเถอะครับเพื่อให้คนอื่นที่มีความสามารถเข้ามาเป็นนายกฯแทนและต้องมาจากเสียงประชาชน ไม่ใช่จากการเลือกของ สว.


ภาพ/ข่าว  วินัย / ลำปาง รายงาน

'คาร์ม็อบขอนแก่น' ปิดถนนหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรถาค 4 ก่อนปาสีใส่ป้ายกองบัญชาการฯ ขณะที่กำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้นำโล่ออกมาบังจนเกิดเหตุชุลมุนเกิดขึ้น

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 22 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะราษฎรขอนแก่นได้กำหนดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ คู่ขนานกับการจัดกิจกรรมที่กรุงเทพฯและในอีกหลายจังหวัด โดยได้เคลื่อนขบวนออกจากหน้าตึกสำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และขับไปตามถนนสายต่าง ๆ ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จนกระทั่งมาถึงหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดถนนทุกช่องการจราจรพร้อมนำรถเครื่องขยายเสียงมาจอดที่บริเวณหน้าป้าย เพื่อปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมนำถังบรรจุถุงสีที่เตรียมไว้มาเทหน้าป้ายโดยมีกำลังตำรวจออกมายืมเป็นแนวเพื่อดูแลความสงบ

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำถุงบรรจุสีปาใส่ป้ายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 พร้อมกับปาประทัดแบบควัน โดยทาง พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้นำโล่ออกมากันผู้ชุมนุมไม่ให้ปาสีใส่ ทำให้เกิดเหตุชุลมุนปะทะเล็กน้อยแต่ก็ยังควบคุมสถานการณ์จนทรงตัวได้ ขณะที่ความเสียหายจะมีป้ายกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และเครื่องแบบชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใส่มาปฏิบัติหน้าที่

อย่างไรก็ตามขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างต่อเนื่อง โดยได้กล่าวปราศรัยบนรถเครื่องเสียงจากแกนนำกลุ่มต่าง ๆ ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและให้ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

บช.ปส.นำทีม สนธิกำลัง เปิดปฏิบัติการแผนสยบไพรี 64/14 ทลายแก๊งค้ายาเสพติด “กาก้า มังกรหลับ” ค้น 35 เป้าหมายทั่วประเทศ ยึดทรัพย์รวม 50 ล้านบาท

เวลา 05.00 น.วันที่ 24 ส.ค.64  พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.ได้นำกำลังตำรวจ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ตำรวจภูธร ภาค 5 ทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ตชด.ภาค 3 และฝ่ายปกครอง เปิดปฏิบัติการแผนสยบไพรี 64/14 เพื่อทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด "กาก้า มังกรหลับ" ในพื้นที่เป้าหมายจำนวน 35 จุด ทั่วประเทศ โดย จ.เชียงราย 23 จุด  จ.เชียงใหม่ 7 จุด จ.น่าน 2 จุด กรุงเทพฯ 1 จุด จ.สุราษฎร์ธานี 1 จุด และ จ.แม่ฮ่องสอน 1 จุด โดยผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 17 ราย ยึดทรัพย์ บ้านพร้อมที่ดิน 4 หลัง อาคารพาณิชย์ 2 คูหา ที่ดิน 1 แปลง รถยนต์ 5 คัน มูลค่าประมาณ 35 ล้านบาท

โดยปฏิบัติการมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่าย แก๊งกาก้า มังกรหลับ โดยมีคดีเกี่ยวข้อง 5 คดีคือ คดีแรกเกิดขึ้นเมื่วันที่ 1 ส.ค.2563 ได้จับนายวรเดช พรถาวรกุล กับพวกรวม 4 คน พร้อมไอซ์ 50 กิโลกรัม เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย  คดีที่ 2 วันที่ 28 ส.ค.2563 จับกุมนายมนตรี แซ่ลี กับพวกรวม 4 คน พร้อมยาบ้า 1,399,800 เม็ด ยาไอซ์ 6 กิโลกรัม และฝิ่นดิบ 4 กิโลกรัม เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ คดีที่ 3 วันที่ 3 ก.พ.2564 จับกุมนายบดินทร์ ตานะสาย กับพวกรวม 2 คน ของกลางยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ยาบ้า 341 เม็ด เหตุเกิดที่ ต.แม่สาย อ.แม่สาย และ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียราย จ.เชียงราย คดีที่ 4 วันที่ 13 มี.ค.2564 จับกุมนายสมพล ลีไพรอุทิศ กับพวกรวม 3 คน ของกลางยาบ้า 920,000 เม็ด และยาไอซ์ 52 กิโลกรัม เหตุเกิด ต.หนองหาร อ.สันทราย และ ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และคดีสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 มี.ค.64 จับกุมนายกฤษกร ประชุมพรรณ์ กับพวกรวม 7 คน ของกลางยาบ้า 8,085,000 เม็ด เหตุเกิด ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จากการขยายผลทางเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติออกหมายจับ จำนวน 39 ราย เป็นหมายจับข้อหา สมคบฯ พ.ร.บ.ยาเสพติด จำนวน 12 ราย หมายจับข้อหา สมคบฯ พ.ร.บ.ยาเสพติด และ ฟอกเงิน จำนวน 12 ราย และหมายจับข้อหา ฟอกเงิน จำนวน 15 ราย 

โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายมาแล้ว 10 จุด เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาในเขต จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่  ลพบุรี และลำพูน ดำเนินกรจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ยึดทรัพย์ได้มูลค่า 15,000,000 บาท ประกอบด้วยบ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง ที่ดิน 1 แปลง คอนโด 1 หลัง รถยนต์ 7 คัน รถจักรยานยนต์ 10 คัน ทองคำรูปพรรณ 14 รายการ และอาวุธปืน 6 กระบอกอีกด้วย

โดย พล.ต.อ.มนู เมฆหมก รอง ผบ.ตร.(ปป.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.มีกำหนดเดินทางไปยังห้อง ศปก.สภ.แม่สาย เพื่อรับฟังบรรยายสรุป ก่อนลงตรวจพื้นที่เป้าหมายในปฏิบัติการใน อ.แม่สาย พร้อมแถลงข่าต่อสื่อมวลชนต่อไป


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top