ตำรวจภูธรภาค 5 เร่งรัดการดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อ กรณีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Anti หมวกกันน็อกออนไลน์ ได้นำตัวผู้แทนผู้เสียหายจากการกระทำของขบวนการ Application เงินกู้ออนไลน์ผิดกฎหมาย มาขอความช่วยเหลือจาก ผบช.ภ.5 เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายดังกล่าวเคยเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเขต จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง และลำพูน แล้ว ถูกเพิกเฉย ไม่รับแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวัน
ตำรวจภูธรภาค 5 ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Anti หมวกกันน็อกออนไลน์ ได้มาพบและยื่นหนังสือต่อ ผบช.ภ.5 โดยแจ้งว่าทางกลุ่ม ได้ดำเนินการประสานงานกับหน่วยราชการ หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นสื่อกลางในการให้การช่วยเหลือ แนะนำแนวทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มขบวนการเงินกู้ผิดกฎหมายดังกล่าว และแจ้งด้วยว่ายังมีประชาชนที่อยู่ในเขตจังหวัดจังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง และลำพูน ที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ไม่ทราบถึงวิธีการดำเนินการและแนวทางในการติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือและแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งยังได้พาตัวแทนผู้เสียหายจำนวน 4 รายมาพบเพื่อให้รายละเอียดข้อเท็จจริง
ผบช.ภ.5 จึงสั่งการ ให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ของตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล สอบถาม ผู้เสียหายทั้ง 4 ราย สรุปได้ว่าทั้งหมดเป็นผู้เสียหาย จาก Application เงินกู้ออนไลน์ และมีที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ , สันทราย , แม่ออน และเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา โดยทุกสถานีตำรวจดังกล่าว ได้ดำเนินการรับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไปตามอำนาจหน้าที่แล้ว ทั้งนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศของตำรวจภูธรภาค 5 ได้รวบรวมข้อมูล จากผู้เสียหาย แยกเป็นบัญชี ธนาคาร ที่ Application เงินกู้ ใช้ในการรับโอนเงินกับผู้เสียหาย
โดยได้ทำการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่กลุ่มทวงเงินใช้ในการกระทำความผิดทวงหนี้โดยการข่มขู่ เพื่อเป็นข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติมจัดส่งให้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจที่รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อนึ่ง เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ได้ประชุมสั่งการให้หัวหน้าสถานีตำรวจ ในสังกัด จำนวน 159 สถานี ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ที่จะคิดกู้ยืมเงินผ่าน Application เงินกู้ออนไลน์ ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าได้หลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และได้กำชับให้พนักงานสอบสวน รับแจ้งความ และให้คำแนะนำแก่ผู้เสียหายในทุกคดี “ห้ามปัด ไม่รับแจ้งเหตุ” โดยในรอบปี พ.ศ.2564 นี้ ทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายแล้ว จำนวน 12 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 15 คน มีการตรวจยึดของกลางเช่น เงินสด รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์ บัญชีรายชื่อลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อไว้เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผล
