Wednesday, 15 May 2024
เลือกตั้ง66

ศลต.ตร.บังคับใช้กฎหมายเข้ม โค้งสุดท้าย ‘เลือกตั้ง66’ เน้นย้ำ! ซื้อสิทธิขายเสียงมีความผิด จับกุมแล้ว 3 ราย แนะนำประชาชน 12 ข้อ ต้องรู้! ห้ามทำ ผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง

วันนี้ ( 13 พฤษภาคม 2566 ) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตร. ) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.)  เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศลต.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน สั่งการให้ ศลต.ตร. เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษาคม 2566 มีความเข้าใจในกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และเพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
 
โฆษก ศลต.ตร. กล่าวว่า ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงการกระทำที่ต้องงดเว้น ห้ามกระทำ ตามกฎหมายเลือกตั้ง “พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561” ที่ประชาชนพึงหลีกเลี่ยง ซึ่งมักพบการกระทำความผิด ดังนี้
 
1. การซื้อสิทธิขายเสียง การกระทำการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ผู้สมัคร หรือ “การซื้อขายเสียง” เข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  โดยผู้ซื้อเสียง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี  ส่วนผู้ขายเสียง เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนหรืองดเว้นไม่ลงคะแนน ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
 
2. การพนันขันต่อผลการเลือกตั้ง โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 1 ถึง 5 ปี ปรับ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
 
3. การจัดยานพาหนะขนคนไปเลือกตั้ง หากทำเพื่อจูงใจหรือควบคุมให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด มีความผิด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
 
4. การกระทำใด เป็นการขัดขวาง หรือหน่วงเหนี่ยว เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ มีความผิด ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกำหนด 10 ปี
 
5. การรื้อ ย้าย ปลด ทำลาย หรือเก็บป้ายหาเสียง ต้องทำโดยเจ้าของ หรือผู้รับมอบอำนาจเท่านั้น ผู้อื่นจะกระทำไม่ได้ ฝ่าฝืนมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
 
ขณะที่ ศลต.ตร.เน้นย้ำ  สิ่งที่ห้ามทำ หลังเวลา 18.00 น.ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
1. ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก  หรือจัดเลี้ยงสุราในเขตเลือกตั้ง ซึ่งครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
2. ห้ามมิให้มีการโฆษณาหาเสียงให้พรรคการเมือง หรือผู้สมัคร ส.ส. ทุกรูปแบบ รวมถึงให้งดเว้นการสวมใส่เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ฯลฯ ที่มีสัญลักษณ์โลโก้พรรคการเมือง หมายเลขพรรคการเมือง หรือผู้สมัคร (โดยเฉพาะเมื่อเข้าคูหา หรือบริเวณใกล้เคียงหน่วยเลือกตั้ง ) และให้งดเว้นการโพสต์ข้อความ อัปโหลดภาพ หรือคลิปที่มีเนื้อหาลักษณะหาเสียงเลือกตั้ง ลงบนโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ฝืนก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เช็กหน่วยเลือกตั้ง เช็กสิทธิเลือกตั้ง ง่ายนิดเดียว เตรียมความพร้อมก่อนออกไปใช้สิทธิ 14 พ.ค.นี้

เลือกตั้ง 66 ประชาชนต่างพร้อมที่จะออกไปใช้สิทธิ ในการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป หรือ เลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะลงคะแนนในวันอาทิตย์ ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.

สำหรับประชาชนไทยทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป จะมีสิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยสามารถเช็กสิทธิได้ล่วงหน้าอย่างง่ายๆ บนเว็บไซต์ หรือ ในเอกสารที่จะส่งไปที่บ้านตามที่อยู่บัตรประชาชน

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยสำนักบริหารการทะเบียน ได้เปิดให้ประชาชนเข้า ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงการ แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ได้ที่เว็บไซต์ สำนักบริหารการทะเบียน www.bora.dopa.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับวิธี เช็กสิทธิเลือกตั้ง ผ่านเว็บไซต์ สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเข้าเว็บไซต์ www.bora.dopa.go.th และกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก จากนั้น จะมีรายละเอียดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ตรวจสอบ ชื่อ จังหวัดที่มีสิทธิเลือกตั้ง เขตที่มีสิทธิเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งที่เท่าไร สถานที่เลือกตั้งอยู่ที่ไหน ลำดับที่อยู่ในบัญชีการเลือกตั้งอยู่ที่เท่าไร

ส่วนวันที่ 14 พ.ค. เมื่อไปถึงคูหาที่มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว สามารถตรวจสอบเบอร์ผู้สมัครที่ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ได้อีกครั้ง ส่วนบัตรเลือกตั้งจะมีด้วยกัน 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้งสีม่วง เลือก ส.ส. แบบแบ่งเขต บัตรเลือกตั้งสีเขียว เลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

‘ปลัด กทม.’ ตรวจเช็กความเรียบร้อย ก่อนเลือกตั้ง 66 วันพรุ่งนี้ ยัน!! เรียบร้อยดี ไม่พบปัญหา คาดรู้ผลไม่เป็นทางการ 3-4 ทุ่ม

(13 พ.ค. 66) ที่สำนักงานเขตมีนบุรี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการตรวจรับหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง ให้แก่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.)

นายขจิต เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า วันนี้เป็นการส่งมอบวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง ให้แก่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค. 66) ถือว่ามีความสำคัญ เจ้าหน้าที่จะต้องมีการนับบัตรเลือกตั้งให้ครบตามจำนวนที่ได้รับ รวมถึงสำนักงานเขตได้มีการพูดคุยให้รายละเอียดต่างๆ กับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ทาง กกต.ได้มีการส่งมอบโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีรูปผู้สมัคร และพรรคการเมืองในแต่ละเขตให้นำไปติดที่หน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิได้ดูก่อนเข้าคูหาอีกด้วย

“สำหรับภาพรวม 50 เขต วันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยยังไม่ได้รับแจ้งปัญหาอะไร ส่วนการนับคะแนนในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค. 66) จะเริ่มนับได้หลังจากปิดการลงคะแนน โดยเป็นการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับให้ทุกคนไม่ประมาทและทำตามขั้นตอนด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบเร่ง ขอให้เน้นความถูกต้องไว้ก่อน ซึ่งวันนี้เขตได้แจ้งรายละเอียดขั้นตอนการจัดการเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนจัดการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม คาดว่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 21.00-22.00 น.”  นายขจิต ระบุ

ทั้งนี้ กทม.ขอเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค. 66) พร้อมเพรียงกัน โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแสดงตนขอใช้สิทธิ บัตรประชาชนที่หมดอายุแล้วก็สามารถใช้ได้ นอกจากนี้ นำเอกสารทางราชการที่มีรูปและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไปแสดงตนได้ เช่น หนังสือเดินทาง (Passport) ใบขับขี่ เป็นต้น หากลืมบัตรประชาชนสามารถแสดงตนด้วยบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในมือถือก็ได้ แต่ต้องลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น ThaiD ก่อนจึงจะใช้ได้ และเพื่อความสะดวกต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง และรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2566 ได้ทางแอพพลิเคชั่นสมาร์ตโหวต (Smart Vote) และไทยดี (ThaiD) ได้ทั้งใน App Store และ Google Play

'ผศ.ดร.เอราวัณ' ควง 'รศ.ดร.ดนุวัศ' ใช้สิทธิเลือกตั้ง 66 ชวนคนไทยไปใช้สิทธิออกเสียง เลือกคนดีเข้าดูแลประเทศ

(14 พ.ค.66) สองนักวิชาการ พร้อมใจกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 66 ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฯ และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมด้วย รศ.ดร.ดนุวัศ สาคริก รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ บริเวณข้างโรงเรียนอนุบาลไสวตาแตง แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร 

โดยอาจารย์ทั้งสองเห็นว่าการมาใช้สิทธิเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นสิทธิของพลเมืองและมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

‘เศรษฐา’ เข้าคูหาแบบชิว ๆ ไม่ถือฤกษ์ใด ๆ พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิเต็มที่

(14 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงจอดรถอาคารชุดซิตี้เลคทาวเวอร์ ซอยสุขุมวิท 16 หน่วยเลือกตั้งที่ 15 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย ของเขตเลือกตั้งที่ 4 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่นายเศรษฐา ทวีสิน มาใช้สิทธิลงคะแนนในลำดับที่ 154 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา แต่งกายแบบสบายๆโดยสวม เสื้อโปโลสีดำ กางเกงสีเทาขาว รองเท้าผ้าใบสีขาว และเดินเท้ามารอใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 07.53 น. เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งอยู่ใกล้กับบ้านที่พัก โดยเมื่อมาถึงนายเศรษฐาได้หยุดดูป้ายประชาสัมพันธ์เบอร์ผู้สมัครและพรรคการเมือง ก่อนจะไปตรวจสอบลำดับรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่บอร์ด ก่อนเข้าคูหาหย่อนบัตร

จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังลงคะแนน ว่า รู้สึกดี เป็นวันที่สำคัญของพี่น้องประชาชนคนไทย ที่ทุกสี่ปีจะมีการใช้สิทธิเลือกตั้ง อยากเชิญชวนให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิใช้เสียง

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนออกจากบ้านถือฤกษ์ยามใดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีครับ ซึ่งวันนี้เดินมาก่อนเวลาเปิดหีบลงคะแนนเล็กน้อย ส่วนหลังจาก ใช้สิทธิเลือกตั้งเสร็จแล้วจะกลับบ้านรับประทานอาหารเช้า ก่อนไปวัดทำบุญ จากนั้นในช่วงเที่ยงจะไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนๆ ส่วนช่วงบ่ายมีนัดกับแพทย์ตามปกติ และคาดว่าประมาณ 17.30 น. จะเข้าไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า นานแล้วที่ไม่ได้มีการเลือกตั้งถึง 4 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถือว่ามีการตื่นตัวมากกว่า และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยมาใช้สิทธิใช้เสียงในแต่ละพื้นที่

‘อภิสิทธิ์’ ดีใจ!! เห็นคนไทยตื่นตัวออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน

(14 พ.ค.66) เวลา 08.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ภายในโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา โดยนายอภิสิทธิ์มีชื่ออยู่ในลำดับที่ 45 จากยอดรวมผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดของหน่วยเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 569 คน

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ตนดูจัดการเลือกตั้งในช่วงเช้านี้ ก็เห็นว่ามีความเรียบร้อยดี ทั้งนี้ หลังจากตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ไม่ได้ไปไหน แต่จะรอติดตามผลการเลือกตั้งอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ประชาชนออมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของประเทศ สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กำหนดอนาคตของประเทศ โดยหวังว่าทุกอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความสุจริตและเที่ยงธรรมที่สุด ขณะเดียวกันขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้มข้นในเรื่องการจัดการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส และขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน

เมื่อถามว่ามองการตื่นตัวของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มองยาก เนื่องจาก ในอดีตเวลาไปหาเสียงได้เห็นว่าประชาชนตื่นตัว แต่เมื่อวันใช้สิทธิเลือกตั้ง กลับมีประชาชนออกมาน้อย ส่วนครั้งนี้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งมีประชาชนไปใช้สิทธิมากพอสมควร แต่ในวันนี้ (14 พ.ค.) ดูคึกคัก โดยประชาชนคงออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้นในช่วงบ่าย

‘อุ๊งอิ๊ง’ พาครอบครัวชินวัตร เข้าคูหาเลือกตั้งย่านคันนายาว พร้อมแนะ ปชช. ให้เผื่อเวลา เนื่องจากคนเยอะ อาจใช้สิทธิไม่ทัน

(14 พ.ค. 66) ที่บริเวณลานกีฬา 1 เคหะธานี 3 แขวงรามอินทรา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา และน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 15 เขตเลือกตั้งที่ 15 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว โดยมีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทา ร่วมเดินทางมาด้วย โดยทันทีที่ น.ส.แพทองธารและครอบครัว เดินทางมาถึงหน่วยเลือกตั้งที่ 15 ได้เข้าตรวจสอบรายชื่อลำดับการใช้สิทธิ์เลือกตั้งของตัวเอง ซึ่งพบว่าคุณหญิงพจมาน น.ส.แพทองธาร และ น.ส.พินทองทา อยู่ในลำดับที่ 453-455  

น.ส.แพทองธาร กล่าวภายหลังการใช้สิทธิ์เลือกตั้งว่า ตนรู้สึกดีที่เห็นจากช่วงเช้าที่ได้ดูข่าวเห็นคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่เขตเลือกตั้งนี้ก็มีคนเยอะมาก และต่อคิวกันนานพอสมควร วันนี้ถือเป็นวันที่สำคัญที่พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และอยากให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิกันเยอะๆ เพราะหนึ่งเสียงมีความหมายและเปลี่ยนอะไรได้เยอะจริงๆ จึงอยากให้ผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เผื่อเวลาออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งจะปิดหีบในเวลา 17.00 น. เนื่องจากจะมีคนมารอคิวอยู่และท่านอาจจะใช้สิทธิไม่ทัน

เมื่อถามว่าหลังจากใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วจะเข้าพรรคเพื่อลุ้นผลการเลือกตั้งกี่โมง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนจะขอกลับไปหาลูกก่อน เพราะหน่วยเลือกตั้งอยู่ใกล้บ้าน คาดว่าในช่วงบ่ายใกล้ปิดหีบเลือกตั้งจะเดินทางเข้าพรรค

เมื่อถามว่าก่อนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ดูฤกษ์หรือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร เพียงแต่ได้กราบคุณแม่เพราะถือว่าเป็นพระในบ้าน และเป็นพระในใจของลูกอยู่แล้ว แล้วก็ถือว่าเป็นการกราบคุณพ่อด้วย พอกราบแล้วก็รู้สึกดี

เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้กำลังใจหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้คุยกับคุณพ่อ แต่คุยกันเมื่อวานนี้ (13 พ.ค. 66) ท่านบอกให้ตนนอนเยอะๆ เพราะรู้ว่าเรามีลูกเล็กและตื่นบ่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งจากองค์กรต่างประเทศและสถานทูต เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง และติดตามดูการลงคะแนน รวมถึงติดตามดูการให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร ด้วย

‘พี่เบิร์ด’ เลือกตั้งโซนพระโขนง ชวนคนไทยออกมาร่วมใช้สิทธิ ฝากถึง ‘นายกฯ-รัฐบาลใหม่’ ขอให้รัก ‘คนไทย-เมืองไทย’

(14 พ.ค. 66) ไม่เคยนอนหลับทันสิทธิ สำหรับ นายธงไชย แมคอินไตย์ หรือ ‘พี่เบิร์ด’ โดยในวันนี้เจ้าตัวได้เดินทาง มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 60 เต็นท์บริเวณชุมชนหมู่บ้านสุขใจ ซอยวชิรธรรมสาธิต 43 สุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง โดยมีแฟนคลับมายืนรอตั้งแต่ช่วงเช้า พร้อมด้วยประชาชนที่ทยอยเดินทางออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศบริเวณหน่วยเลือกตั้งคึกคัก

เมื่อเดินทางถึงหน่วยเลือกตั้ง เบิร์ดเข้าไปตรวจสอบรายชื่อและลำดับที่ของตนเองบริเวณบอร์ดด้านหน้าหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นเดินมาลงลายมือชื่อพร้อมรับบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ใบ เดินเข้าคูหาลงคะแนนเสียงและหย่อนบัตรเลือกตั้งลงในหีบบัตร หลังจากนั้นจึงออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกของการมาใช้สิทธิของตนในวันนี้ พร้อมเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้

เบิร์ด ธงไชย เปิดเผยว่า “เบิร์ดอยากให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ ใช้หน้าที่ของตัวเอง รักใครชอบใครทุกคนมีในใจที่แตกต่างกัน ดังนั้น ออกมาใช้เสียงของตัวเองนะครับ ออกมาทำตามหน้าที่คนไทย สำหรับใครก็ตามที่ได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นรัฐบาล เบิร์ดขอให้รักคนไทย รักเมืองไทย เบิร์ดอยากเห็นเมืองไทยสวยงาม คนไทยรักกัน และบ้านเมืองสงบสุข เบิร์ดชอบคำหนึ่ง คือ การบริหารบ้านเมือง เราคนไทยก็มีส่วนเหมือนกัน เราทำให้บ้านเมืองดีขึ้นได้ด้วยตัวของเราเอง ดังนั้น ใครที่ยังไม่ได้ออกมาเลือกตั้ง รีบออกมากันนะครับ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เบิร์ดอยากให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความสุข ความภาคภูมิใจที่ได้ใช้ สิทธิตัวเองในการเลือกคนมาบริหารบ้านเมืองของเราครับ”  

‘พ่อเฒ่า 5 แผ่นดิน’ อายุ 105 ปี เข้าคูหาเลือกตั้ง 66 ด้านเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกใกล้ชิด

(14 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการใช้สิทธิเลือกตั้งของแต่ละหน่วยในพื้นที่ จ.ราชบุรี เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ยังไม่เปิดหีบเลือกตั้ง โดยมีประชาชนมาเข้าคิวต่อแถวรอใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 ม.3 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม หลังเปิดหีบเลือกตั้งประชาชนก็เริ่มทยอยกันเข้ามาใช้สิทธิของตนเอง

ซึ่งมี นายปุ่น นิลบดี อายุ 105 ปี บ้านเลขที่ 63/1 ม.3 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม หรือที่เรียกกันว่า “คุณตา 5 แผ่นดิน” ได้นั่งรถเข็นโดยมีลูกสาว อายุ 66 ปี เข็นคุณตา 5 แผ่นดิน มาใช้สิทธิ หลายคนที่ไปใช้สิทธิตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้มีการถ่ายภาพบรรยากาศตามสถานที่เลือกตั้ง รวมถึงจำนวนคนที่ไปรอคิว เพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างคับคั่ง

รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ และน้อง ๆ รด.จิตอาสาคอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้ได้ใช้สิทธิอย่างถูกต้อง หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งตรวจสอบรายชื่อ ดูลำดับมาแล้วจะทำให้รวดเร็วขึ้น

‘หนุ่มเชียงราย’ กาเบอร์ผิด ฉีกบัตรเลือกตั้งทิ้งทั้ง 2 ใบ อ้าง!! ไม่ได้ตั้งใจทำลายบัตร คิดว่าขอเปลี่ยนใบใหม่ได้

(14 พ.ค. 66) ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 เขตเลือกตั้งที่ 4 หมู่บ้านแม่คาวโตน หมู่ 6 ตำบลสันกลาง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งได้ตรวจพบมีชาย 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่า ลุงกาน (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว ได้ฉีกบัตรเลือกตั้ง จึงได้ควบคุมตัวไว้

จากการตรวจสอบทราบว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเวลาประมาณ 10.40 น. และเมื่อลงทะเบียนแล้วเข้าไปในคูหาเลือกตั้งกลับฉีกบัตรเลือกตั้งแบบผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัตรสีม่วง ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบเลือกพรรค บัตรสีเขียวถูกฉีกจนขาดครึ่ง นอกจากนี้ ที่หลังบัตรสีเขียวยังพบมีการกาบัตรตรงจุดที่ไม่ได้กำหนดให้เลือกเอาไว้ด้วย

จากการสอบถามเบื้องต้น ลุงกาน (นามสมมุติ) ให้การว่าตนไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายบัตรเลือกตั้ง เพียงแต่เข้าไปในคูหาแล้วกากบาทผิดหมายเลข จึงคิดว่าที่หน่วยเลือกตั้งน่าจะมีบัตรสำรองให้ จึงได้ฉีกบัตรเดิมแล้วจะขอเปลี่ยน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแจ้งว่ากระทำไม่ถูกต้องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งได้ประสานชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปรับตัวพร้อมของกลางบัตรที่เสียหายเพื่อนำตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.พาน ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top