Wednesday, 15 May 2024
เลือกตั้ง66

‘ชาวเน็ต’ แห่ติดแฮชแท็ก ‘กกต.ต้องติดคุก-กกต.มีไว้ทำไม’ พร้อมล่ารายชื่อถอดถอน ยอดพุ่งทะลุล้าน หลัง กปน.ทำงานผิดพลาด

(7 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพบความผิดพลาดของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งกรณีการกรอกรายละเอียดหน้าซองบรรจุบัตรเลือกตั้งผิดพลาด ไม่กรอกรายละเอียด เขียนรหัสเขตเลือกตั้งผิดพลาด หรือบางหน่วยไม่เขียนเลย ทำให้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดียเรียกร้องให้จับตาการทำงานของ กกต.และเกิดความไม่พอใจต่อการทำงานของ กกต.ขึ้น

จนล่าสุดส่งผลให้แฮชแท็ก ‘กกต.ต้องติดคุก’ และ ‘กกต.มีไว้ทำไม’ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการโพสต์ภาพการทำงานที่ผิดพลาดของ กปน.ในระหว่างการลงคะแนน พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ตลอดจนเปิดที่มาของ 7 กกต.ชุดปัจจุบันว่า ผ่านการเห็นชอบโดย คสช. และเรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบด้วยการลาออก เนื่องจาก 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งปี 62 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการเลือกตั้งครั้งนี้ อีกทั้งยังแปลตัวย่อของ ‘กกต.’ ว่า 'โกงการเลือกตั้ง'

‘จิรพงษ์’ เผย กังวล หลังเลือกตั้งล่วงหน้า นนทบุรี พบข้อผิดพลาด แต่มั่นใจ!! ปชช.ช่วยเป็นหูเป็นตา เชื่อ กระแสตอบรับ ‘พท.’ ยังดี

(7 พ.ค. 66) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีเลขา กกต.รับ พบความผิดพลาดในการเลือกตั้งล่วงหน้า จังหวัดนนทบุรีร่วม 100 ใบ โดยเขตเลือกตั้ง-รหัส ผิด ซึ่งได้มีการสั่งให้แยกหีบเพื่อคัดกรองใหม่ พร้อมบันทึกวิดีโอแยกบัตร รวมถึงเตรียมสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่แล้วว่า รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย แต่ตนเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะช่วยกันจับตาการทำงานเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

ตนซึ่งเป็นอดีต ส.ส.นนทบุรี เชื่อว่า ผลงานจากการทำหน้าที่ของตนในฐานะผู้แทนราษฎร รวมถึงการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ แม้แต่ช่วงโควิดและน้ำท่วม จะยังอยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชน จ.นนทบุรี และให้การสนับสนุนตน ข่าวที่เกิดขึ้นจะเป็นกระแสตีกลับที่ทำให้ประชาชนเลือกตนเข้ามาต่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจลุงมากขึ้นด้วย

‘กกต.’ ชี้แจง หลังเลือกตั้งล่วงหน้าพบปัญหาในหลายพื้นที่ ยัน!! ภาพรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอผู้ใช้สิทธิ์โปรดวางใจ

กกต.แจงยิบเลือกตั้งล่วงหน้าปัญหาเพียบ แต่!! ยันภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ชี้ ปมเขียนรหัสเขตผิด แก้ไข รับรองส่งถึงเขตของผู้มีสิทธิ์ เผย กรณีอ้างรายชื่อพรรคหายเคสเกิดที่ชลบุรี เหตุไอโม่งฉีกหาย 3 แผ่น แจ้งความแล้ว

(7 พ.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงข่าวสรุปภาพรวมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. ว่า หลังปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไป 1 ชั่วโมงแล้ว อยู่ระหว่างการคำนวณว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนเท่าไหร่ แต่คาดการณ์ด้วยสายตา คาดว่าไม่น่าจะน้อยกว่า 70% สถานการณ์ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ใช้เวลาเฉลี่ย 3-5 นาที ต่อคน ส่วนปัญหาอุปสรรคมีอยู่ 3 อย่าง ได้แก่

1.) สภาพอากาศที่ร้อนจัด
2.) บางแห่งสถานที่คับแคบ เมื่อเทียบสัดส่วนผู้มาลงคะแนน ทำให้รอคิวนานจนเกิดความแออัดบ้างในบางจุด
3.) สภาพการจราจร 

ส่วนปัญหาในการอำนวยความสะดวกกับประชาชน และการลงคะแนน อย่างแรกคือ การจ่าหน้าซองผิดเขต แต่อยากให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสบายใจว่า บัตรถึงเขตที่ท่านมีชื่อในทะเบียนอย่างถูกต้อง เพราะมีระบบการตรวจสอบ โดยในการจ่าหน้าซอง จะมีประธานเขต จังหวัดเขตเลือกตั้ง และรหัสเขต สิ่งที่เราใช้ตรวจสอบคือรหัสเขตเลือกตั้ง ที่ประชาชนเคยบอกว่าทำไมเราไม่เอารหัสไปรษณีย์ ก็เพราะเราจะตรวจสอบอีกครั้งว่า ถ้าหากกรอกเขตผิดพลาด เราก็จะรู้จากรหัสเขตเลือกตั้ง ดังนั้น จึงไม่ใช่รหัสไปรษณีย์ตั้งแต่ต้น

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบจากกระดาษจดลำดับที่ ตอนที่เข้าไปที่หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งจะบอกเขตเลือกตั้ง จังหวัด รหัสเขตเลือกตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเป็นคนจดและมอบให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเข้าคิวออกเสียงลงคะแนน

อย่างไรก็ตาม การ กปน.ที่จ่ายบัตรที่ระบุเขตคาดเคลื่อน อาจจะเกิดจากชุดที่ใช้ลงคะแนน อย่างเช่น เมื่อเช้า ชุดที่ 4 อาจจะสำคัญผิดว่าเป็นเขตที่ 4 แต่ตัวรหัสกรอกถูกต้อง เพราะกรอกตามกระดาษจดลำดับที่ ซึ่งจะเก็บไว้ทุกแผ่น จึงสามารถตรวจสอบได้ทุกซองที่จะส่งไปที่เขตเลือกตั้ง จึงอยากให้สบายใจ ว่าเราออกแบบมาเพื่อใช้เวลามีปัญหาจากการทำงานของคน แต่ระบบสามารถแก้ไขตรงนี้ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องทำอยู่แล้ว สำหรับกรณีหน่วยเลือกตั้งที่ จ.นนทบุรี ที่เคยให้ข่าวว่ามีการลงรหัสเขตเลือกตั้งผิดกว่า 100 รายนั้น หลังปิดหีบได้ตรวจสอบล่าสุดแล้วพบว่ามีเพียง 48 ราย

“อยากให้สบายใจว่าไม่ว่าจะจ่าหน้าซองผิดอย่างไร ก็มีระบบตรวจสอบที่สามารถนำซองที่มีทั้งบัตรแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อที่ส่งไปที่เขตอย่างถูกต้อง” นายแสวง กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า ไม่มีการลงรายละเอียดหน้าซองเลยนั้น ก็จะส่งไปที่เขตไม่ได้ แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานว่าพบปัญหานี้ แต่ก็จะมีการตรวจสอบ

เลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า อย่างที่ 2 เรื่องความผิดพลาดเรื่องเอกสารว่า มีชื่อพรรคบ้างไม่มีบ้างนั้น จริงบ้างเท็จบ้าง ซึ่งเราได้รับรายงานตั้งแต่เช้า จาก ผอ.จังหวัดก่อนจะเป็นข่าว และมีการแก้ไขแล้ว บางเรื่องเกิดจากคนไปฉีก ในข่าวบอกว่าเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่ใช่ จ.สุรินทร์ เพราะสุรินทร์ไม่มีโรงเรียนตามที่เป็นข่าว แต่ที่จริงเป็นเหตุที่เกิดที่ จ.ชลบุรี ซึ่งรายงานมาตั้งแต่เช้า จากคนไปฉีก หายไป 3 แผ่น แล้วถ่ายรูปให้เป็นข่าว แต่ก็มีการแก้ไข เช่นเดียวกับในจังหวัดอื่นก็มีการแก้ไข และไม่มีปัญหาอีก และมีการแจ้งความแล้ว

‘บิ๊กตู่’ ลุยปราศรัยใหญ่ที่ภูเก็ต ชาวบ้านส่งเสียงเชียร์กระหึ่ม ตอกย้ำความนิยม ‘รทสช.’ โค้งสุดท้าย ชี้!! กระแสดีไม่มีตก

ชาวภูเก็ตแห่ฟัง ‘ลุงตู่’ ปราศรัยกว่า 4 หมื่นคน ส่งเสียงเชียร์กระหึ่ม ตอกย้ำกระแสความนิยมโค้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าตัวชี้ มีคนไล่ให้ไปเลี้ยงหลานเพราะแก่แล้ว แต่ยืนยันยังไม่แก่และไม่มีหลาน ก็เลยต้องอยู่ทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อ ย้ำ!! มีหัวใจสีม่วงของคนใกล้ตายที่จะไม่โกหก แตกต่างกับบางคนที่ใกล้ตายแต่กลับโกหก กลับไปกลับมาไม่น่าเชื่อถือ อ้อน คนภูเก็ตเลือก ‘รทสช.’ จะได้นโยบายสนับสนุนคนทุกช่วงวัยอย่างแน่นอน

(7 พ.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางพร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค, นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย

เขต 1 นายปิยะ สีดอกบวบ เบอร์ 8
เขต 2 นางนวลจันทร์ สามารถ เบอร์ 3
เขต 3 ว่าที่ร้อยตรีชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง เบอร์ 7

ร่วมเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร บริเวณวงเวียนสี่แยกท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมพบปะประชาชนที่เดินทางมารอต้อนรับก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังลานเวทีกลางสะพานหิน จ.ภูเก็ต เพื่อขึ้นปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุน และประชาชนชาวภูเก็ตที่มารอฟังการปราศรัยและส่งเสียงเชียร์นับหมื่นคน พร้อมมอบดอกไม้ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ รวมถึงตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 คน

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวทักทายประชาชนระบุว่า ตนเดินทางมาภูเก็ตหลายครั้งแล้ว หวังว่าทุกคนคงจำหน้าตนได้ ก่อนที่จะแนะนำตัวผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 3 คนได้แก่ เขต 1 นายปิยะ สีดอกบวบ เบอร์ 8, เขต 2 นางนวลจันทร์ สามารถ เบอร์ 3, เขต 3 ว่าที่ร้อยตรีชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง เบอร์ 7 รวมทั้งเบอร์ 22 เบอร์พรรคลุงตู่

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่าในช่วงสถานการณ์โควิด 19 จ.ภูเก็ต เคยเงียบเหงา แต่ตนตัดสินใจที่จะเปิด จ.ภูเก็ต เป็นที่แรกเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ทุกคนลืมหน้าอ้าปากได้ และหลังจากนี้จะยังมีการจัดงานเอ็กซ์โปด้วย จึงอยากให้ทุกคนให้โอกาสเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติให้มาทำงานต่อ เพราะที่ผ่านมาเป็นผลงานที่เชื่อว่าทุกคนจำได้ดีและพรรคเองก็ยังมีนโยบายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงในทุกเรื่องด้วย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญนอกจากธรรมชาติที่สวยงามของภูเก็ตแล้ว ยังเป็นรอยยิ้มของคนภูเก็ต ตนเป็นทหารมาก่อน รังเกียจตนหรือไม่ และทหารที่ดูแลบ้านเมืองก็เป็นลูกหลานของทุกคนทั้งสิ้น อย่าให้ใครมาบอกว่าข้าราชการคือช้างป่วย ถ้าทหารและข้าราชการเป็นช้างป่วย ประเทศจะมั่นคงอย่างนี้หรือไม่ ดังนั้น จึงควรยุติเรื่องความแตกแยกภายในประเทศ เพราะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก พร้อมยกบทกลอน

“อันศึกนอกศึกในนั้นไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”

ขออย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะการแตกแยกในครอบครัว พ่อทะเลาะกับลูก แม่ทะเลาะกับลูก อย่างนี้ทำไม่ได้ ดังนั้น อย่าให้ใครมาปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกนี้ 

‘วิเวียน-ชพก.’ จ่อร้อง กกต. หลังเลือกตั้งล่วงหน้า เขต 8 สุดมั่ว!! แอปฯ ‘Smart Vote’ ใส่รูปผิดคน ทำ ปชช.สับสน-ผู้สมัครเสียโอกาส

(7 พ.ค. 66) นางสาววิเวียน จุลมนต์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 8 (จตุจักร หลักสี่) เบอร์ 10 พรรคชาติพัฒนากล้า ออกมาโวย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังได้รับแจ้งจากประชาชนที่ไปเลือกตั้งว่า ไม่มีภาพของตนในแอปพลิเคชันบนมือถือ ว่า ตนลงพื้นที่อย่างหนักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ภายใต้ความร้อน 43 องศา แต่ก็ยังไม่ร้อนเท่ากับวันนี้ ที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าภาพของตนหายไปจากแอปพลิเคชัน ‘Smart Vote’ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ได้เผยแพร่ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจของประชาชน

‘กกต.-ไปรษณีย์’ นำทีมสื่อร่วมสังเกตการณ์นับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ยัน ไม่มีบัตรเสีย-ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน มั่นใจ!! เลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ

‘กกต.-ไปรษณีย์’ นำทีมสื่อมวลชนสังเกตการณ์นับจำนวนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนส่งถึง 400 เขต ภายในวันที่ 12 พ.ค. 66 ขออย่ากังวลปมจ่าหน้าซองผิด ตรวจสอบได้ส่งถึงทุกคะแนนไม่มีบัตรเสีย การันตีไม่ทำคะแนนตกน้ำ มั่นใจ!! ไม่กระทบการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

(8 พ.ค. 66) ที่สำนักงานไปรษณีย์ สำนักงานใหญ่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย ได้นำคณะสื่อมวลชนร่วมติดตามการนับจำนวนและคัดแยกบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ที่ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และบัตรลงคะแนนผู้พิการ ผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ส่งเข้ามาถึงประเทศไทยแล้ว

นายดนันท์ กล่าวว่า ในส่วนของบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรมีทยอยเข้ามา กว่า 60,000 ใบ หรือประมาณ 67% จาก 45 ประเทศ จากจำนวนทั้งหมด 67 ประเทศ มีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ กรมการกงสุล กกต. และไปรษณีย์ตรวจคัดแยก ขณะนี้ บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ถูกได้ขนส่งมายังศูนย์คัดแยกเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างทำการคัดแยกโดยคณะกรรมการที่ประกอบด้วย กกต. และไปรษณีย์ โดยในเบื้องต้นอยู่ในส่วนของการตรวจนับ และคัดแยก ยังไม่ถึงการคัดกรองที่จำตรวจเรื่องของการจ่าหน้าซองบัตร

อย่างไรก็ตาม กระบวนการคัดแยก ตรวจสอบจะใช้เวลาภายในวันที่ 7-9 พ.ค. ช้าสุดคือ วันที่ 10 พ.ค.นี้ และเริ่มส่งไปยัง 400 เขต คาดว่าจะถึงภูมิลำเนาของภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ยืนยันว่าการดำเนินการในศูนย์คัดแยกจะมีวอร์รูมคอยมอนิเตอร์ดูการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต.มาร่วมทำงานด้วย สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าพื้นที่ต้องลงทะเบียน ยืนยันตัวตน ห้ามนำอุปกรณ์ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเข้าไป และเมื่อออกจากศูนย์ จะต้องมีการตรวจค้นก่อน สำหรับขั้นตอนการตรวจนับและคัดแยกบัตรเลือกตั้ง จะตรวจรหัสซ้ำ 3 รอบ เพื่อให้แน่ใจว่าบัตรลงคะแนนจะถูกส่งตรงตามที่ผู้ลงคะแนน

ด้าน นายแสวง กล่าวว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าประมาณ 91.83% ต้องขอบคุณผู้มาใช้สิทธิ์ ที่มาด้วยแรงศรัทธาประชาธิปไตย ซึ่งสำนักงาน กกต.สัญญาว่า จะรักษาทุกเสียงที่ประชาชนได้ลงคะแนนไว้ ส่วนกรรมการประจำหน่วย และอนุกรรมการประจำเขต ซึ่งการทำงานอาจจะมีการผิดพลาดบ้าง แต่ขอบคุณที่อดทนทั้งต่อสภาพอากาศ และแรงเสียดทานทางการเมือง ทำงานร่วมกว่า 16 ชั่วโมง รวมถึงประชาชนที่ร่วมกันตรวจสอบการทำงานของ กปน. และ กกต. ซึ่งมีทั้งเรื่องจริง เรื่องเท็จ แต่สั่งให้ ผอ.ทุกจังหวัด รายงานเข้ามาทุกเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร มีการแก้ไขอย่างไร เป็นเรื่องดีที่สิ่งที่เราทำอยู่นั้นอยู่ในสายตาของประชาชนเสมอ

ส่วนวันเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. จะไม่ให้มีสิ่งผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นอีก และคาดว่าเลือกตั้งในวันดังกล่าว การบริหารจัดการจะง่ายกว่านี้ เพราะไม่ต้องส่งไปรษณีย์ และบุคลากรที่จะทำงานมีมากกว่านี้ การลงคะแนนตรงตามหน่วยเลือกตั้งนั้นๆ ประชาชนจะไม่สับสน แต่คิดว่าเรื่องหีบไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือ ปัญหาการจ่าหน้าซอง แต่ก็ยืนยันว่าเรามีกระบวนการตรวจสอบ ขอให้ผู้ใช้สิทธิ์มั่นใจว่า ซองบรรจุบัตรเลือกตั้งจะถูกส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิ์

นายแสวง ยังกล่าวถึงกระบวนการตรวจสอบคัดแยกบัตร กรณีกรรมการประจำหน่วยเขียนรหัสจังหวัด หรือเขตเลือกตั้งผิดพลาดว่า หลังปิดหีบจะมีการตรวจสอบว่าต้นขั้วที่ใช้ไป กับจำนวนบัตรที่ออกเสียงตรงกันหรือไม่ และกรรมการประจำหน่วยจะทำบัญชีมา เมื่อไปรษณีย์ได้รับถุงบัตรมาแล้ว ก็จะทำการตรวจเบื้องต้น เมื่อคัดแยกเสร็จก็จะดูว่า จำนวนซองที่คัดแยกกับยอดต้นขั้วตรงกันหรือไม่ ดังนั้น ยอดจะกระทบกันโดยอัตโนมัติ

“ถ้ามีการจ่าหน้าซอง ถ้าถูกต้องทั้ง 3 จุด ก็จะถูกแยกออกไปเลย แต่ถ้ามีปัญหากรอกครบแต่เขียนเขตหรือรหัสเลือกตั้งผิด จะยึดรหัสเขตเลือกตั้ง 3 ตัวท้าย ซึ่งอยู่ด้านล่างของซองเป็นหลัก แต่ถ้ากรอกไม่ครบ หรือไม่มีรายละเอียดใดๆ หรือไม่มีการกรอกอะไรเลย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมี แต่ถ้ามีจะถูกส่งมาให้คณะกรรมการ ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และไปรษณีย์วินิจฉัยว่า ซองนี้จะไปลงเขตใด ซึ่งจะต้องไปสอบทานกับต้นขั้วก่อน ยอมรับว่าอาจจะยุ่งยากพอสมควร” นายแสวง กล่าว

เมื่อถามว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า มีการกรอกรหัส 3 ตัวท้ายผิด นายแสวงกล่าวว่า เขตเลือกตั้งนั้นคิดว่าประชาชนทราบ แต่รหัสเขต 3 ตัวท้าย ไม่รู้ว่าประชาชนเข้าใจหรือไม่ อาจจะเข้าใจว่า กปน.ต้องกรอกรหัสไปรษณีย์ที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของ กปน. แต่การที่เราออกแบบการจ่าหน้าซอง ให้เขียนถึง 3 ชั้น เพื่อที่เวลาเกิดปัญหาก็จะสามารถตรวจสอบได้ และสามารถส่งบัตรเลือกตั้งนั้นส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์อยู่ ดังนั้น ยืนยันว่า แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตการทำงานของ กปน. แต่ยืนยันว่าบัตรทุกใบไม่เป็นบัตรเสีย คะแนนเสียงไม่ตกน้ำ

‘อนุทิน’ ชี้ หาเสียงด้วยวาทกรรม ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนประเทศ ลั่น!! ขอทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่แบ่งแยก คำนึงถึงประโยชน์ ปชช.

‘อนุทิน’ ชี้ โค้งสุดท้าย สาดวาทกรรม คนไม่เกี่ยวการเมือง จุ้นจนวุ่นวาย สร้างความแตกแยกไม่จบสิ้น เหน็บ บางพรรค ทำงานเหมือนบริษัท สั่งซ้ายหันขวาหัน ดักคอ พวกจับขั้วก่อน ถามประชาชนหรือยัง

(8 พ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ว่า ตน ไม่ได้สนใจเรื่องนอกพรรคเลย เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้จนจำไม่ได้แล้วว่าไปไหนบ้าง ตอนนี้ลงพื้นที่อย่างเดียว ไม่ได้ติดตามข่าวอื่น ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ลูกพรรคไม่ได้ติดต่อเรื่องใดๆ มาที่ตน ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร วันนี้คงไม่คิดเรื่องอย่างนี้แล้ว เพราะต้องคิดอย่างเดียวว่า จะต้องทำให้ประชาชนมั่นใจและเลือกเขาเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้พรรคภูมิใจไทยมีหมัดเด็ดในการหาเสียงอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรานำเสนอนโยบาย ที่มั่นใจว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน และพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยยึดมั่นของการเป็นพรรคการเมือง ที่ไม่เน้นความแตกแยก เราไม่ชอบความแตกแยก ไม่แบ่งฝ่าย ตั้งใจทำงาน เพื่อเอาประเทศไทยออกจาก ประเทศที่ไม่มีความสามัคคีของคนในชาติ ให้เร็วที่สุดให้ได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวแบ่งแยก และมีขั้วเก่าขั้วใหม่เกิดขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า “กระแสมันมีคนสร้างขึ้นมา กระแสถูกสร้างโดยคน ผมคิดว่าประชาชนแยกแยะออกว่า ไปเชื่อในข้อมูลใดแล้ว เขาได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ หรือทำให้เสียประโยชน์อะไร เขาแยกแยะออก ตอนนี้มันเหมือนไม่ใช่เรื่องของการเมือง คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเยอะแยะไปหมด ไม่รู้เข้ามาทำไม เพราะมันเป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของนักการเมือง เป็นเรื่องของผู้สมัคร ก็ควรที่จะต้องจำกัดวงผู้เล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้สมัครแต่ละคนที่เข้ามา ก็ต้องถือว่าผ่านคุณสมบัติเข้ามาแล้ว ซึ่งตรวจคุณสมบัติ โดย กกต.ว่า ผู้สมัครคนนั้นมีประวัติไม่ดีอะไรหรือไม่ หรือมีประวัติอาชญากรรมหรือไม่ ถ้ามีก็เข้ามาสมัครไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องถือว่าเขามีคุณสมบัติครบถ้วน มันไม่ใช่หน้าที่ของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และมาเที่ยวว่ากล่าวให้ร้าย ก็จะทำให้ความแตกแยกไม่จบไม่สิ้นเสียที พรรคภูมิใจไทยถึงไม่โต้ไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะถ้าไปโต้ตอบหรือไปสนใจ ก็จะทำให้มีความรู้สึก และถ้ามีความรู้สึกแล้ว ก็จะต้องโต้ตอบจนเกิดความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น เรามั่นใจว่าทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนแล้ว เราก็จะเดินถนนของพรรคภูมิใจไทย”

เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้งออกมาเป็นไปตามกระแส จะทำให้ทิศทางของประเทศเปลี่ยนไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระแสไหนล่ะ หากเป็นกระแสของพรรคภูมิใจไทยเราก็เชื่อมั่น ตอนนี้ต่างคนต่างมีแฟนคลับของตัวเอง ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เวลาตนที่ไปปราศรัยที่ไหน ได้ให้สัญญากับชาวบ้านว่า ถ้าได้กลับเข้ามาทำงานให้ประชาชนอีก ก็จะดำเนินการตามนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แม้แต่นโยบายที่ทำมาแล้ว ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป ไม่มีการกีดกัน ตนคิดว่าเราทำงานการเมืองสร้างสรรค์ดีกว่า พอแล้วสำหรับการทะเลาะกัน เพราะผลสุดท้ายคนที่เสียประโยชน์ คือประชาชน นักการเมืองไม่มีใครเสียประโยชน์ การที่จะบอกว่าไม่เอาพรรคนั้นไม่เอาพรรคนี้ หรือต้องการจับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ ก็ต้องถามว่าพรรคการเมืองเป็นของคนใดคนหนึ่งหรือเปล่า เข้ามาได้มามีบทบาท ก็เพราะประชาชนเลือกมา

‘สาธิต’ จ่อแจ้งความ ‘ก้าวไกล’ ปมปราศรัยใส่ร้าย ‘ปชป.’ ที่ระยอง ยัน!! ทำหน้าที่ รมต.-ส.ส.เต็มที่ เพื่อช่วยคนระยองผ่านพ้นวิกฤต

‘สาธิต’ แจงยิบ ซัดกลับ ‘ก้าวไกล’ ปราศรัยป้ายสี ยันทำหน้าที่ รมต.-ส.ส.จับมือทุกฝ่ายช่วยคนระยองฝ่า 3 ปัญหาร้อนสำเร็จ โร่แจ้งความบ่ายสอง เร่งเก็บหลักฐานร้อง กกต. ฟันผิด กม.เลือกตั้ง

(8 พ.ค. 66) ที่อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.ระยอง แถลงว่า กรณีที่พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จัดการปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีกล่าวปราศรัยที่เข้าข่ายใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เกิดความเข้าใจผิดต่อตัวตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพวกตนไม่สนใจทำหน้าที่ใดๆ ใน 3 เหตุการณ์ คือ

1.) เหตุการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง
2.) เหตุการณ์ทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาใน จ.ระยอง
3.) เหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลบริเวณ จ.ระยอง ซึ่งยืนยันว่าตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ละเลย และไม่มีสักวันที่จะไม่คิดถึงประชาชนชาวระยอง

โดยขอชี้แจงว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนพนันนั้น ตนในฐานะ รมช.สาธารณสุข ได้เร่งลงพื้นที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จนสามารถคลี่คลายได้ภายใน 14 วัน อีกทั้ง ตนพร้อมด้วย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ และนายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมมือกับภาคประชาชนในจังหวัดออกมาเรียกร้องให้มีการปิดบ่อน และโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นที่มีส่วนปล่อยปละละเลย ขณะเดียวกัน ตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องเรื่องนี้ และ นพ.บัญญัติ ได้ตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรด้วย

จนในที่สุด นายกฯ ได้ดำเนินการให้มีการสั่งโยกย้ายครั้งใหญ่ ทั้งการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และการย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และผู้กำกับ 5 เสือ ใน สภ.เมืองระยอง รวมถึงมีการจับกุมเจ้าของบ่อนใหญ่ใน จ.ระยอง ตนยืนยันได้เลยว่าพวกเราทำงานกันเป็นทีม และทำงานติดต่อกันประสบผลสำเร็จ ดังนั้น คนที่จะอวดอ้างผลงานตรงนี้ได้ไม่ใช่พรรคก้าวไกล แต่เป็นภาคประชาชนใน จ.ระยองที่ร่วมทำงานกับ ส.ส.ระยอง ของเขาอย่างเต็มกำลัง

ส่วนกรณีทหารอียิปต์นั้น ทันทีที่ทราบว่าทหารคนดังกล่าวถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีประวัติว่าเคยเข้ามาใน จ.ระยอง ตนเร่งนำแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดใน จ.ระยอง ด้วยการลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงทั้งหมด นำตัวทหารรายนี้ไปตรวจ และนำกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับทหารอียิปต์ไปสอบสวนโรค ทำตามกระบวนการทุกอย่าง จนสามารถควบคุมโรคได้ จากนั้นตนได้นำข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาจัดสัมมนาใน จ.ระยอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นสู่ จ.ระยอง รวมถึงร่วมมือกับทุกฝ่ายเป็นเวลาหลายวันในการคลี่คลายสถานการณ์ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ จ.ระยองได้สำเร็จ

สำหรับเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 ตนพร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565 เพื่อบินสำรวจที่เกิดเหตุ และสั่งการให้ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมต้องแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งได้เรียกบริษัท SPRC ให้เร่งปฏิบัติตามแผนเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงขอกำลังจากกองทัพเรือมาควบคุมเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล ต่อมาวันที่ 28 ม.ค.2565 ตนและเจ้าหน้าที่ของหลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงเพื่อดำเนินการป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันไหลเข้าฝั่ง นอกจากนี้ ได้ทำงานอีกหลายอย่าง ทั้งการประกาศแจ้งเตือนและตั้งศูนย์บัญชาการให้ข้อมูลแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจ.ระยอง รวมถึงบังคับให้บริษัท SPRC ต้องเยียวยามากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งเขาได้ชดเชยเยียวยาแล้วเกือบ 100% โดยยังขาด 3% ที่กำลังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง

‘กรณิศ’ ยัน!! ไม่เอากัญชาเสรี หนุนใช้เพื่อการแพทย์-ศก.เท่านั้น ขอโอกาส ปชช. หนุน ‘ภท.’ เข้าสภาฯ เพื่อเร่งออก กม.ควบคุม

(8 พ.ค. 66) นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตคลองเตย-วัฒนา เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนบางส่วนสงสัย และสอบถามกันเยอะว่าพรรค และตนสนับสนุนกัญชาเสรีหรือไม่ เพราะบางพรรคหาเสียงโจมตีนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ของพรรค จนประชาชนเกิดความสับสน ตนขอย้ำกับทุกฝ่ายว่า ตนและพรรคไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค และตนมีจุดยืน คือ สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น สำหรับการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน

“ที่ผ่านมาพรรคได้แสดงจุดยืนด้วยการเสนอร่างพระบัญญัติกัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพราะประเทศไทย จะต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา จึงจะทำให้การใช้และการคุ้มครองผู้บริโภคเกิดความสมดุล แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการขัดขวางจากกลเกมทางการเมือง และต้องตกไป กรณีนี้คิดว่าสังคมน่าจะเข้าใจได้กับเกมการเมืองในบางช่วงที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้พรรคได้คะแนนนิยมในเรื่องร่างกฎหมายดังกล่าว” นางกรณิศ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top