Wednesday, 15 May 2024
เลือกตั้ง66

‘สุวัจน์’ นำทีมผู้สมัคร ‘ชพก.’ ขึ้นรถแห่ปราศรัยรอบเมืองโคราช ย้ำนโยบายพัฒนาอีสานสู่ระเบียง ศก.ใหม่ มั่นใจ!! ตอบโจทย์ ปชช.

ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย!! ‘สุวัจน์’ นำผู้สมัครพรรคชาติพัฒนากล้า ขึ้นรถแห่ปราศรัยรอบเมืองนครราชสีมา มั่นใจ!! นโยบายตอบโจทย์แก้ปัญหาประชาชนได้จริง ย้ำ หนุนพรรค ส.ส.อันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล

(10 พ.ค. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย นำ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคฯ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 หมายเลข 5 นครราชสีมา, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 6 เขต 2 และผู้สมัครฯ ในเขตอื่นๆ ของพรรคชาติพัฒนากล้า ขึ้นรถแห่ปราศรัยรอบเมืองช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชน พ่อค้าแม่ค้า สองฝั่งถนน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เขต 1 และ เขต 3 อย่างดี

ส่วนการปราศรัยบนรถแห่ นายสุวัจน์ ยังคงนำเสนอนโยบายแก้ปัญหาต่างๆ ทุกด้านของพรรคชาติพัฒนากล้า ให้กับประชาชนได้ตัดสินใจ และมีความมั่นใจว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้เข้าไปทำงานในสภาฯ เพื่อทำตามที่ได้สัญญาเอาไว้ แต่จะได้กี่ที่นั่งนั้นมีอยู่ในใจแล้ว แต่ต้องรอดูวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้อีกที

ซึ่งช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ยังคงใช้วิธีเดินหาเสียงสลับขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียง รวมถึงจัดปราศรัยย่อยจนถึงเวลาสิ้นสุดหาเสียงตามที่กฎหมายกำหนด

โดยเน้นชูนโยบายพัฒนาโคราช-อีสานระเบียงเศรษฐกิจใหม่, สร้างงานดี มีเงิน ของไม่แพง, โคราชเมืองคมนาคมที่ทันสมัย, น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง น้ำประปาเพียงพอ, มอเตอร์เวย์ทั่วไทยทุกทิศ, การเพิ่มนักท่องเที่ยว 80 ล้านคน เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาท, ปรับโครงสร้างพลังงาน, ลดค่ากลั่นน้ำมัน ลงลิตรละ 5 บาท เพื่อให้ค่าครองชีพของประชาชนลดลง เป็นต้น

ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้ามีความมั่นใจว่า การนำเสนอนโยบายของพรรคฯ สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาของประชาชนได้จริง

ส่วนเรื่องกระแสนิยมของบางพรรค เช่น พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่กระแสพุ่งสูงขึ้นทุกวัน ตรงนี้เชื่อว่า ทุกพรรคต่างทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้า เคารพเสียงข้างมาก ยังคงสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียง ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง ได้จัดตั้งรัฐบาล ให้เป็นไปตามกติกา

เพราะต้องการสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่ดีให้กับประเทศไทย ทำให้เป็นการเมืองที่พี่น้องประชาชนสบายใจ การเมืองไม่ขัดแย้ง และให้เกียรติพรรคที่มีเสียงมาเป็นอันดับ 1 เมื่อได้เสียงเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ก็ควรได้จัดตั้งรัฐบาล วอนทุกฝ่ายให้ยอมรับกติกาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นฉันทามติของประชาชน

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. ปทุมธานี ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 7 เขตของจังหวัดปทุมธานี ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อำเภอเมืองปทุมธานี (เฉพาะ ต.บ้านฉาง ต.บางหลวง และ ต.บางเดื่อ) อำเภอลาดหลุมแก้ว และอำเภอสามโคก
>>เขต 2 อำเภอเมืองปทุมธานี (ยกเว้น ต.บ้านฉาง ต.บางหลวง ต.บางเดื่อ และ ต.สวนพริกไทย)
>>เขต 3 อำเภอคลองหลวง (เฉพาะเทศบาลเมืองท่าโขลง และ ต.คลองสาม)
>>เขต 4 อำเภอเมืองปทุมธานี (เฉพาะ ต.สวนพริกไทย) อำเภอคลองหลวง (เฉพาะเทศบาลเมืองคลองหลวง) และอำเภอธัญบุรี (เฉพาะ ต.ประชาธิปัตย์)
>>เขต 5 อำเภอคลองหลวง (เฉพาะ ต.คลองสี่ ต.คลองห้า ต.คลองหก และ ต.คลองเจ็ด) อำเภอธัญบุรี (เฉพาะ ต.บึงยี่โถ ต.รังสิต และ ต.ลำผักกูด) และอำเภอหนองเสือ (เฉพาะ ต.บึงชำอ้อ ต.บึงกาสาม และ ต.นพรัตน์)
>>เขต 6 อำเภอลำลูกกา (เฉพาะ ต.คูคต และ ต.ลาดสวาย)
>>เขต 7 อำเภอธัญบุรี (เฉพาะ ต.บึงสนั่น และ ต.บึงน้ำรักษ์) อำเภอหนองเสือ (เฉพาะ ต.บึงบอน ต.บึงบา ต.หนองสามวัง และ ต.ศาลาครุ) และอำเภอลำลูกกา (เฉพาะ ต.บึงคำพร้อย ต.ลำลูกกา ต.บึงทองหลาง ต.ลำไทร ต.บึงคอไห และ ต.พืชอุดม)

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. ขอนแก่น ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 11 เขตของจังหวัดขอนแก่น ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.ในเมือง ต.เมืองเก่า และต.พระลับ)

>>เขต 2 อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.บ้านเป็ด ต.ศิลา ต.โคกสี ต.หนองตูชม ต.แดงใหญ่ ต.บึงเนียม ต.สําราญ และต.สาวะถี)

>>เขต 3 อ.กระนวน อ.ซําสูง อ.น้ําพอง (เฉพาะต.บัวเงิน ต.พังทุย ต.ทรายมูล ต.บัวใหญ่ และต.บ้านขาม) อ.เขาสวนกวาง (เฉพาะต.เขาสวนกวาง และต.คําม่วง)

>>เขต 4 อ.น้ําพอง (เฉพาะต.น้ําพอง ต.สะอาด ต.กุดน้ําใส ต.วังชัย ต.หนองกุง ต.ม่วงหวาน และต.ท่ากระเสริม) อ.อุบลรัตน์ อ.เขาสวนกวาง (เฉพาะต.ดงเมืองแอม ต.นางิ้ว และต.โนนสมบูรณ์) อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.บ้านค้อ และต.โนนท่อน)

>>เขต 5 อ.ภูเวียง (เฉพาะต.ภูเวียง ต.บ้านเรือ ต.ดินดํา ต.หว้าทอง ต.ทุ่งชมพู ต.นาหว้า ต.หนองกุงธนสาร ต.นาชุมแสง และต.สงเปือย) อ.สีชมพู (เฉพาะต.สีชมพู ต.บริบูรณ์ ต.ดงลาน ต.บ้านใหม่ ต.ภูห่าน ต.หนองแดง ต.ศรีสุข และต.วังเพิ่ม) อ.หนองนาคํา อ.เวียงเก่า

>>เขต 6 อ.ชุมแพ อ.ภูผาม่าน อ.สีชมพู (เฉพาะต.ซํายาง และต.นาจาน)

>>เขต 7 อ.หนองเรือ อ.บ้านฝาง อ.ภูเวียง (เฉพาะต.หนองกุงเซิน และต.กุดขอนแก่น)

>>เขต 8 อ.มัญจาคีรี อ.พระยืน อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.บ้านทุ่ม ต.บ้านหว้า ต.ดอนช้าง ต.ดอนหัน และต.ท่าพระ)

>>เขต 9 อ.พล อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่

>>เขต 10 อ.หนองสองห้อง อ.โนนศิลา อ.เปือยน้อย อ.โคกโพธิ์ไชย อ.ชนบท (เฉพาะต.ห้วยแก ต.วังแสง และต.ปอแดง)

>>เขต 11 อ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด อ.ชนบท (เฉพาะต.ศรีบุญเรือง ต.ชนบท ต.โนนพะยอม ต.บ้านแท่น และต.กุดเพียขอม)

‘ปชป.’ ปล่อยหมัดเด็ดโค้งสุดท้าย ชูแก้หนี้ครัวเรือน ทำได้ใน 90 วัน ยัน!! ไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ แนะ ปชช.ดูนโยบายประกอบการตัดสินใจ

(11 พ.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าว ‘มาตรการแก้หนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ 90 วัน ทำได้จริง’ โดย นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบาย นายเกียรติ สิทธีอมร และ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต ทีมเศรษฐกิจ

โดยนายพิสิฐ กล่าวว่า แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน กับกลุ่มที่มีเงินเดือนและเกษตรกร ในกลุ่มที่มีเงินเดือนซึ่งถือเป็นปัญหา โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการครู ที่ถูกฟ้องเรียกหนี้ 50,000 ราย พรรคฯ มีแนวทางแก้ไข 6 ประการ แก้ได้ในระยเวลาอันสั้น ทำได้ใน 90 วัน คือ

1.) แก้หนี้ครัวเรือนโดยอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านบาท
2.) กำกับตรวจสอบการชักจูงให้ประชาชนก่อหนี้ได้ง่ายเกินไป
3.) ลดยอดหนี้โดยหักจากเงินเดือนไม่เกิน 4% เพื่อให้เหลือใช้
4.) ปลดล็อกนำเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชี้พ เพื่อมาลดหนี้บ้าน
5.) แก้ไข พ.ร.บ.ล้มละลาย ให้ประชาชนฟื้นฟูหนี้ได้ และ แก้ พ.ร.บ.เช็ค ยกเลิกโทษจำคุก กรณีเช็คเด้ง ให้มีเฉพาะคดีทางแพ่ง
6.) ปรับโครงสร้างหนี้แก้ไขกฎหมายเช่าซื้อที่ไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมาการเช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้ขาย พรรคฯ จะทำให้ความเป็นเจ้าของเป็นของลูกหนี้ สามารถใช้เป็นหลักประกันได้

“เราเชื่อว่าถ้าดำเนิการตามที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ เราจะสามารถลดหนี้ครัวเรือนได้จากปัจจุบัน 87% ให้เหลือต่ำว่า 80% ของจีดีพี หรือลดได้ 1 ล้านล้านบาท โดยไม่สร้างหนี้สาธารณะ และเราสามารถแก้หนี้ได้โดยไม่ต้องใช้เงินงบประมาณเลย” นายพิสิฐ กล่าว

ด้านนายเกียรติ กล่าวว่า หากประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลจะลดรายจ่ายใน 90 วัน ดังนี้

1.) ลดค่าไฟ 1-1.5 บาท ต่อหน่วย ยกเลิกค่าเอฟทีทั้งหมด
2.) ปรับราคาก๊าซป้อนโรงไฟฟ้าและค่าผ่านท่อให้เป็นธรรม
3.) กำหนดสัดส่วนการผลิตระหว่างฯ กับเอกชน แก้ปัญหากำลังการผลิตสำรองเกิน
4.) ทบทวนราคา สัญญารับซื้อไฟฟ้า และการนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนค่าน้ำมัน จะลดได้ 2-3 บาท ต่อลิตร โดยกำกับค่าการกลั่น ค่าการตลาดให้เป็นธรรม
5.) ทบทวนโครงสร้างราคาและภาษีให้สะท้อนต้นทุนจริง
6.) ทบทวนเงินเข้ากองทุน ทบทวนการกำหนดราคาไบโอดีเซล และแก๊สโซฮอล์

นายเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังจะลดก๊าซหุงต้ม โดยลดลง 80-100 บาท ต่อถัง (15 กก.) ตรวจสอบปริมาณการผลิต นำเข้าและใช้ในประเทศจริง ตรวจสอบต้นทุนและปริมาณที่ผลิตในประเทศ ทบทวนสูตรคำนวณราคาทุกกลุ่มผู้ใช้ แก้ปัญหาการลักลอบส่งไปต่างประเทศ ยกเลิกสิทธิพิเศษกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

“ใกล้เลือกตั้งแล้ว อยากฝากถึงประชาชนให้พิจารณาตัวนโยบายของพรรคต่าง ๆ เพราะสะท้อนถึงแนวคิดของพรรคนั้น ๆ ซึ่งนโยบายของประชาธิปัตย์จะทำให้ลดหนี้ครัวเรือนจาก 87% เหลือน้อยกว่า 80% ของจีดีพี โดยไม่สร้างหนี้สาธารณะ ไม่เป็นภาระลูกหลาน เราแก้หนี้ได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณใด ๆ เพราะเราดำเนินการโดยมาตรการทางกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากอีกหลายพรรค” นายเกียรติ กล่าว

ขณะที่ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ กล่าวว่า 3 มาตรการ ที่ประชาธิปัตย์ทำได้ทันทีเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน คือ 1.) ลดค่าใช้จ่าย 2.) ลดภาระหนี้สินประชาชน และ 3.) เพิ่มรายได้ โดยในส่วนของการเพิ่มรายได้ ภายใน 90 วัน เราสามารถหารายได้เพิ่มจากการค้าชายแดนและการรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งจากการลงพื้นที่ที่มีการค้าขายทั้งเข้า-ออกสามารถทำได้ดีขึ้น ถ้ามีการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย จะทำให้การค้าชายแดนภาคใต้เติบโตขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ม.ร.ว.ศศิพฤนท์​กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้นต้องรีบเจรจา หารือกับกลุ่มบริษัททัวร์เอเจนซี โดยเฉพาะเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อจำนวนมาก และมาพักเป็นเวลานาน ให้กลุ่มบริษัททัวร์เอเจนซีมีความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวในช่องไฮซีซันที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจไปสู่ฐานรากอย่างทั่วถึง รวมทั้งพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย จะต้องจัดให้กลุ่มนี้มีพื้นที่ในการค้าขาย ยกระดับคุณภาพให้เป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยวที่เข้ามา รวมไปถึงการปรับแก้เรื่องการเข้าเมือง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างมหาศาล สร้างงาน สร้างเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. นนทบุรี ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 8 เขตของจังหวัดนทบุรี ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อ.เมืองนนทบุรี (เฉพาะต.บางกระสอ ต.ท่าทราย และต.บางเขน)
>>เขต 2 อ.เมืองนนทบุรี (เฉพาะต.บางกร่าง ต.บางศรีเมือง ต.บางรักน้อย ต.สวนใหญ่ และต.ตลาดขวัญ)
>>เขต 3 อ.บางกรวย และอ.เมืองนนทบุรี (เฉพาะต.บางไผ่)
>>เขต 4 อ.ปากเกร็ด (เฉพาะต.บางพูด ต.บ้านใหม่ ต.คลองเกลือ และต.บางตลาด)
>>เขต 5 อ.ปากเกร็ด (ยกเว้นต.บางพูด ต.บ้านใหม่ ต.คลองเกลือ และต.บางตลาด) อ.บางบัวทอง (เฉพาะต.ลําโพ และต.ละหาร) และอ.เมืองนนทบุรี (เฉพาะต.ไทรม้า)
>>เขต 6 อ.บางใหญ่
>>เขต 7 อ.บางบัวทอง (เฉพาะต.บางบัวทอง ต.พิมลราช และต.โสนลอย) และอ.ไทรน้อย (เฉพาะต.ไทรน้อย และต.คลองขวาง)
>>เขต 8 อ.บางบัวทอง (เฉพาะต.บางคูวัด ต.บางรักพัฒนา และต.บางรักใหญ่) และอ.ไทรน้อย (ยกเว้นต.ไทรน้อย และต.คลองขวาง)

‘ศุภชัย’ จวก ‘กก.อิสลาม’ กระบี่ ปมออกจดหมายหนุนบางพรรค จี้!! กกต.เร่งตรวจสอบด่วน ชี้ เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง

‘ศุภชัย’ จี้!! กกต.ตรวจสอบ ปม กก.อิสลาม กระบี่ ออกจดหมาย ให้สนับสนุนพรรคประชาชาติ ชี้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ระบุไม่ควรนำ เรื่องการเมืองไปแปดเปื้อน ขอให้ยุติการกระทำ

(11 พ.ค. 66) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยนำภาพเอกสารของ สำนักงานคณะกรรมการอิสลาม จังหวัดกระบี่ ที่ กอจ.กบ.072/2566 ลงวันที่ 9 พ.ค.66 ลงนามโดย อัสนาวี มุคุระ ประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดกระบี่ เรื่องแจ้งเพื่อทราบ โดยส่งไปที่อิหม่ามทุกมัสยิดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พร้อมแนบเอกสารคุตะบะฮ์ วันศุกร์ เรื่องข้อพึงสังวรการเลือกตั้งในมิติอิสลาม 1 ฉบับ

มีข้อความว่า เพื่อให้สัปปุรุษทุกท่านที่มีอายุครบ 18 ปีขึ้นไป ได้ปฏิบัติตามกฎหมายไปใช้สิทธิ์กันอย่างทั่วถึงทุกคน และให้หลีกเลี่ยงการซื้อสิทธิ์ขายเสียงโดยเด็ดขาด และขอความร่วมมือทุกคนสนับสนุนพรรคการเมืองมุสลิม คือพรรคประชาชาติ หมายเลข 11 อย่างพร้อมเพรียงกัน จึงเรียนมาเพื่อทราบและปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน

นายศุภชัย ระบุว่า วันนี้ตนได้รับข้อมูลตามเอกสารที่โพสต์แล้ว น่าตกใจยิ่ง เพราะหากเป็นจริง การกระทำของท่านย่อมทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศที่ท่านได้รับในตำแหน่งโดยเฉพาะ และการกระทำของท่าน เป็นการกระทำที่ผิดหน้าที่อำนาจตามกฎหมาย และประการสำคัญท่านกำลังทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และมัสยิดใดไปดำเนินการดังกล่าว ย่อมสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายเช่นกัน จึงขอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว

“ผมขอเรียกร้องมายังทุกจังหวัดที่มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ที่จะกระทำผิดในลักษณะนี้ขอจงยุติการกระทำเสีย การเทศนาธรรมของมุสลิมในการละหมาดวันศุกร์เป็นช่วงเวลาที่ทรงคุณค่าต่อมุสลิมที่ไปร่วมกันละหมาด จึงไม่ควรนำเรื่องการเมืองไปแปดเปื้อน อันมิใช่หลักการอิสลามที่จะกระทำ” นายศุภชัย ระบุ

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. บุรีรัมย์ ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 10 เขตของจังหวัดบุรีรัมย์ ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อ.เมืองบุรีรัมย์ (เฉพาะต.ในเมือง ต.บ้านบัว ต.พระครู ต.ถลุงเหล็ก ต.หนองตาด ต.บ้านยาง ต.บัวทอง ต.ชุมเห็ด ต.กลันทา ต.กระสัง ต.สะแกโพรง และต.ลุมปุ๊ก) อ.บ้านด่าน (เฉพาะต.ปราสาท และต.บ้านด่าน)
>>เขต 2 อ.เมืองบุรีรัมย์ ( เฉพาะต.หลักเขต ต.สวายจีก ต.เสม็ด ต.สองห้อง ต.สะแกซำ ต.เมืองฝาง และต.อิสาณ) อ.พลับพลาชัย (เฉพาะต.สําโรง ต.สะเดา และต.จันดุม)
อ.ชํานิ อ.ประโคนชัย (เฉพาะต.ไพศาล)
>>เขต 3 อ.กระสัง อ.ห้วยราช อ.พลับพลาชัย (เฉพาะต.โคกขมิ้น และต.ป่าชัน)
>>เขต 4 อ.สตึก อ.แคนดง อ.บ้านด่าน (เฉพาะต.โนนขวาง และต.วังเหนือ)
>>เขต 5 อ.นาโพธิ์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.พุทไธสง อ.คูเมือง (ยกเว้นต.พรสําราญ)
>>เขต 6 อ.ลําปลายมาศ อ.คูเมือง (เฉพาะต.พรสําราญ) อ.หนองหงส์ (เฉพาะต.ไทยสามัคคี ต.สระทอง และต.เสาเดียว)
>>เขต 7 อ.ปะคำ (เฉพาะต.ไทยเจริญ ต.หนองบัว และต.โคกมะม่วง) อ.โนนสุวรรณ อ.หนองกี่ อ.หนองหงส์ (เฉพาะต.หนองชัยศรี ต.ห้วยหิน ต.เมืองฝ้าย และต.สระแก้ว)
>>เขต 8 อ.นางรอง อ.เฉลิมพระเกียรติ (เฉพาะต.เจริญสุข และต.ถาวร) อ.ปะคำ (เฉพาะต.ปะคำ และต.หูทำนบ) อ.โนนดินแดง (เฉพาะต.โนนดินแดง)
>>เขต 9 อ.โนนดินแดง (ยกเว้นต.โนนดินแดง) อ.ละหานทราย อ.บ้านกรวด (เฉพาะต.บ้านกรวด ต.ปราสาท ต.บึงเจริญ ต.จันทบเพชร และต.หนองไม้งาม) อ.เฉลิมพระเกียรติ (เฉพาะต.ยายแย้มวัฒนา ต.อีสาณเขต และต.ตาเป๊ก)
>>เขต 10 อ.ประโคนชัย (ยกเว้นต.ไพศาล) อ.บ้านกรวด (เฉพาะต.เขาดินเหนือ ต.โนนเจริญ ต.หินลาด และต.สายตะกู)

‘ภูมิธรรม’ ปลุก ปชช. กา ‘พท.’ อย่าปล่อยโอกาสหลุดมือ ลั่น!! หากได้ ส.ส. เกิน 300 เสียง ประเทศไทยเปลี่ยนแน่

(11 พ.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า อย่าให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเป็นหมัน ไล่ระบอบประยุทธ์ออกไป เลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล

การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมไทย เพราะเป็นการเลือกตั้งที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน โดยยังคงมีกลไก รธน.ที่กำหนดให้ สว. 250 คน มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ อันเป็นแต้มต่อที่สำคัญในการสืบทอดอำนาจต่อเนื่องของระบอบประยุทธ์ นั่นหมายความว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมสามารถจับมือรวมกันแค่ 126 เสียง ก็สามารถชนะการโหวตเลือกนายกฯ ได้แล้ว และประเทศไทยก็จะมีนายกฯ ในแบบเดิมที่ทำให้พี่น้องประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานมานานถึง 8-9 ปี

นายภูมิธรรม ระบุว่า แต่หากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง จะตั้งรัฐบาลได้จริง จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียงของ ส.ส. ให้ได้มากเกิน 250 คน และจะมั่นใจมากกว่าหากได้ ส.ส. มากถึง 300 คน ซึ่งพรรคการเมืองที่มีโอกาสจะทำให้เป็นรูปธรรมได้จริง ๆ คือ พรรคเพื่อไทย แม้ว่าในช่วงหลังหลายโพลจากหลายสำนักระบุว่า บางพรรคมาแรงแซงพรรคเพื่อไทย ก็ตาม แต่หากดูจากข้อมูลในพื้นที่ซึ่งเป็นคะแนนจริง ๆ ไม่ใช่คะแนนในอากาศ ซึ่งเราติดตามอย่างใกล้ชิด ยังบ่งชี้ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง

ทำไมถึงมั่นใจอย่างนั้น จริงอยู่กระแสอาจมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกของพื้นที่ กทม.ปริมณฑลและเขตเมืองใหญ่ แต่ในจำนวนเขตเลือกตั้ง 400 เขตนั้น 300 กว่าเขตเป็นพื้นที่ อบต. เทศบาลตำบล กระแสไม่มีผลมากเท่ากับความผูกพันและการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่าง ส.ส.กับ ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ จำนวน ส.ส.เขตพื้นที่จึงเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง และต่อการจัดตั้งรัฐบาล ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันซึ่งจะทำให้เกิดการตัดคะแนนกันเอง ปล่อยให้ตาอยู่อย่างลุงและเครือข่ายชนะไปย่อมไม่เกิดผลดี

“ผมไม่อยากให้ความหวังในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของพี่น้องประชาชนต้อง กลายเป็นคะแนนตกน้ำและตาอยู่ได้ชัยชนะไป นั่นจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากถ้าความหวั่นเกรงของผมเป็นจริง บรรยากาศที่เอื้อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นง่ายนัก หากการตัดสินใจเลือกที่จะกาบัตรนั้นทำให้ความหวังที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นหมันอย่างน่าเสียดาย เราจะได้ระบอบประยุทธ์กลับมา และต้องทนอยู่ต่อไปอีก 4 ปี

ผมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย คือคำตอบที่เป็นจริงในการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความหวัง เกิดการแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่เป็นจริง เพราะปัญหาของประเทศวันนี้อยู่ในขั้นวิกฤติระดับ โคม่า ต้องการทีมมืออาชีพเข้ามาแก้ไข ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยพิสูจน์ให้เห็นเป็นผลงานเชิงประจักษ์มาแล้ว วันนี้พรรค เพื่อไทย มีทั้งผู้นำที่พร้อม มีนโยบายที่พร้อม และมีทีมทำงานที่พร้อม 14 พ.ค.กาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นายภูมิธรรม ระบุ

‘ศิลัมพา’ ยก ‘บิ๊กตู่’ ตัวจริงวางรากฐานประเทศ แนะ ‘คนรุ่นใหม่’ ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

(11 พ.ค.66) นางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรุงเทพมหานคร เขต 24 เบอร์ 7 กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรค หาเสียงด้วยการเน้นโปรโมตนโยบายที่จะทำเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยระบุว่า...

พรรคการเมืองที่หาเสียงด้วยการเคลมว่า เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ และพร้อมจะดำเนินนโยบายเพื่อคนรุ่นใหม่นั้น ถือเป็นการขายสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับไปดูผลงานของรัฐบาล ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเห็นว่า โครงการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมานั้น ล้วนทำเพื่อคนไทยทุกกลุ่ม และยังได้วางรากฐานไว้เพื่อเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ด้วย

ยกตัวอย่างโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว ที่จะเกิดประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ เช่น โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ ‘อีอีซี’ ที่จะสร้างตำแหน่งงานนับแสนตำแหน่ง, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และการสนับสนุนอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะเป็น New S Curve ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในอนาคต

ขณะเดียวกัน รัฐบาลที่ผ่านมายังได้วางโรดแมปในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย โดยเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป มุ่งสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ EV ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกขบวน และสูญเสียตลาดไปให้กับประเทศคู่แข่ง

รวมไปถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายต่างในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเปิดทดลอง 2 สาย คือสายสีเหลืองและสายสีชมพู และในอนาคตอันใกล้ จะเชื่อมโยงสายสีต่างให้สามารถเดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ได้ผลักดันโครงการต่าง ๆ สำเร็จไปแล้วจำนวนมาก แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังต้องผลักดันต่อ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ตั้งระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค รวมถึงสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และยังมีอีกหลายนโยบายที่จะต้องทำต่อ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น

“ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เราเริ่มเห็นพรรคการเมืองบางพรรคการ ชูนโยบายมุ่งเจาะฐานเสียงคนรุ่นใหม่ด้วยวาทกรรมต่าง ๆ รวมถึงการขายฝันโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่อยากจะฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่พิจารณาข้อมูลให้ถี่ถ้วนว่า โครงการที่นำมาหาเสียงนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ ได้ลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างชัดเจนมาแล้ว ไม่ใช่แค่การสรรหาวาทกรรมที่สวยหรูมาหาเสียงเท่านั้น และสุดท้ายปลายทางสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำมานั้น ล้วนเกิดประโยชน์กับคนไทยทุกคน” น.ส.ศิลัมพา กล่าว

‘กรณ์’ ปราศรัยชุมพร ช่วย ‘ทนายลิขิต’ หาเสียงโค้งสุดท้าย อ้อนชาวใต้ เลือก ‘ชพก.’ เข้าสภาฯ เป็นกระบอกเสียงให้ ปชช.

(11 พ.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางไปยังจังหวัดชุมพร เพื่อร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับทนายลิขิต ศรีชาติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 6 ที่อำเภอท่าแซะ โดยทนายลิขิต เปิดใจว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เป็นพรรคที่มีหัวหน้าพรรคคุณภาพที่สุด เพราะมีนายกรณ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเป็นหัวหน้าพรรค เพราะตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ได้รับความเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ซึ่งเป็นต้นทุนค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้แทนของจังหวัดชุมพร ไม่เคยมีใครนำปัญหาของพี่น้องประชาชนเข้าไปพูดในสภาฯ เลยนับสิบปี ถ้าอยากเห็นปัญหาของพี่น้องของประชาชนถูกนำเสนอในสภาฯ และได้รับการแก้ไข 14 พฤษภาคม เลือกทนายลิขิต เบอร์ 6 เขต 2 ชุมพร เปลี่ยนแปลงแน่นอน

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงท้ายของการหาเสียง หากจะวัดว่ากระแสของผู้สมัครยังดีอยู่หรือไม่ ให้ดูความกระตือรือร้นของทีม จากเส้นทางคาราวานภาคใต้ที่ตนได้เดินสายมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทีมงานของผู้สมัคร แต่ละจังหวัดยังแข็งขัน แรงไม่ตก และโดยเฉพาะที่ จ.ชุมพร แข็งแรงมาก และก็อยากบอกให้ทุกคนมีกำลังใจคือกระแสของพรรคดีวันดีคืน เพราะตนได้รับของฝากมาจากทุกจังหวัด ของฝากที่ว่าคือ ประชาชนฝากปัญหาความเดือดร้อน ทั้งหนี้สิน ค่าครองชีพ ตลอดจนโอกาสในการทำมาหากิน ซึ่งของฝากเหล่านั้นตนไม่ถือว่าเป็นภาระ แต่เป็นกำลังใจที่ประชาชนยังเชื่อมั่น ศรัทธา ที่จะฝากความหวังไว้กับเรา ไม่มีใครถามว่า เราอยู่ฝ่ายไหน เขาไม่ได้ชอบวิธีการสาดโคลนกันไปมา โดยที่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนอยู่ในวงการการเมืองมา 18 ปี เส้นทางเต็มไปด้วยความขัดแย้ง นักการเมือง ต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบที่สร้างมันขึ้นมา เพราะเป็นอุปสรรคปัญหาต่อการดำรงชีวิตของประชาชน พอกันทีความขัดแย้ง พรรคเรามีแนววิธีการหาเสียงไม่ใส่ร้ายใคร แต่มีวิธีการหาเสียงที่ชัดเจนว่าเราจะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน พี่น้องหลายคนยังลังเล ว่าถ้าเลือกไปจะชนะไหม เพราะไม่ได้อยู่ในพรรคกระแสหลัก เข้าไปจะทำอะไรได้

ขอบอกว่า ความใหญ่ เล็ก ของพรรคการเมือง ไม่สำคัญเท่ากับขนาดของหัวใจ ว่าจะกล้าแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้หรือไม่ เลือกพรรคใหญ่เข้าไป ไม่ทำอะไรทั้งที่มีอำนาจอยู่ในมือ เพราะถูกอำนาจผูกขาดครอบงำ พรรคยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งต้องใช้เงินมากขึ้น และวงจรอุบาทว์มันก็จะวนเวียนไม่รู้จักจบสิ้น และนี่คือสาเหตุที่พวกเราทุกคนเลือกที่จะอยู่พรรคชาติพัฒนากล้า ไม่ต้องใช้เงิน ยุทธศาสตร์หาเสียงของเราเป็นแนวทางใสสะอาด ขยัน ยกมือกราบไหว้ จุดยืนของเราไม่ขัดแย้งกับใคร ไม่เป็นศัตรูกับใครตราบใดที่เขาเห็นตรงกับเราคือปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน และกล้าชนกับทุนผูกขาด และเราก็พร้อมร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างมากโดยไม่ต้องอาศัยเสียง สว.

“ถ้าประชาชนเลือกคนของพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าไปเป็นผู้แทน ไม่ว่าจะเป็นทนายลิขิต ศรีชาติ จาก จ.ชุมพร, จูรี นุ่มแก้ว จ.สงขลา, เทมส์ ไกรทัศน์, อรทัย เกิดทรัพย์ จ.ภูเก็ต และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากกรุงเทพฯ รับรอง ว่าคนพวกนี้จะเป็นปากเป็นเสียง กล้าพูด และกล้าชนกับทุนผูกขาด ได้อย่างแน่นอน” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราเลือกทนายลิขิต เพราะเราเชื่อและศรัทธา เพราะฉะนั้น วันที่ 14 พฤษภาคม ไม่ต้องลังเล กาเบอร์ 6 เพื่อให้ทนายลิขิต ไปทำหน้าที่ในสภาฯ เป็นผู้แทนของชาวชุมพร เขต 2”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top