Tuesday, 20 May 2025
เลือกตั้ง66

‘เทวัญ’ ลุยฝนช่วย ‘วิว เยาวภา’ หาเสียงที่ตลาดเช้าโคราช ชู ‘โคราชโนมิกส์’ แก้ปัญหาปากท้อง-พัฒนาอีสานสู่ระเบียง ศก.

(30 เม.ย. 66) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคชาติพัฒนากล้า เบอร์ 5 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย น.ส.เยาวภา บุรพลชัย หรือ ‘วิว’ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมเดินตลาดทักทายพี่น้องประชาชนที่ตลาดสุพัตตราและเดินทักทายพูดคุยกับพี่น้องประชาชน บริเวณชุมชนบ้านหนองปรือ และชุนชนบึงแสนสุข ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พูดคุยสอบถามถึง ปัญหาปากท้อง และการค้าขายในชุมชนในตลาด

พร้อมนำเสนอนโยบาย งานดี มีเงิน ของไม่แพง ค่าน้ำมัน ค่าไฟต้องถูกลง รื้อโครงสร้างพลังงาน ลดค่าการกลั่น หั่นค่า FT เร่งช่วยปัญหาปากท้องประชาชน และนำเสนอนโยบายสำหรับคนโคราชโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีนโยบายแก้ปัญหา และพัฒนาเมืองโคราช สำหรับคนโคราช โดยเฉพาะ ด้วยนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ คือ

‘ดร.แด๊ก’ ปลุกคนใต้ เลือก ‘รทสช.’ หนุน ‘ลุงตู่’ นั่งนายกฯ ชี้ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ มั่นใจ!! ในบรรดาแคนดิเดตฯ ไม่มีใครสู้ได้

‘ธนกร’ ปลื้มคนใต้แห่รับ รทสช.ปลุก ปชช.เลือก ‘ลุงตู่’ ไปต่อ เกทับผลโพลเป็นรอง ยกเป็นผู้นำที่ไม่โกหก ซื่อสัตย์ สุจริต มั่นบรรดาแคนดิเดตนายกฯ ไม่มีใครสู้ได้

(30 เม.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงภาคใต้วันแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง ว่า บรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก พี่น้องตรังและพัทลุง มารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นจำนวนมาก ตนสัมผัสได้ถึงกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ และกระแสตอบรับพรรครวมไทยสร้างชาติสูงในพื้นที่ภาคใต้

นายธนกร กล่าวว่า วันนี้ตนสามารถบอกพี่น้องได้เลยว่าในบรรดาผู้นำในบรรดาแคนดิเดตนายกฯไม่มีใครจะทำได้เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ พูดง่าย ๆ ว่าคือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่โกง และมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในประชาชน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย แต่ตนไม่เข้าใจเลย เห็นฝ่ายค้านที่พูดทุกวันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีผลงานเลย แล้วพี่น้องเห็นไหม รถไฟฟ้าทั้ง 11 เส้นทางมีผลงานหรือไม่ ถนนเป็นหมื่นกิโล มีหรือไม่ สนามบินเยอะแยะมากมาย รถไฟทางคู่มีผลงานหรือไม่ รถไฟความเร็วสูงมีผลงานหรือไม่ แล้วฝ่ายค้านบอกว่าไม่มี ตนบอกตรงนี้ได้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์มีผลงานมากมาย เยอะแยะ ดูแล อสม.ดูแลผู้สูงอายุ ดูแลสวัสดิการต่าง ๆ

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องได้ไปต่อ ตนไม่อยากคิดเลยถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ไปต่อประเทศจะเป็นอย่างไร พี่น้องเห็นหรือไม่ว่า วันนี้ผู้นำแต่ละคนเวลาขึ้นเวที เขาบอกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นฝ่ายเผด็จการ แล้วพรรคเพื่อไทยเป็นประชาธิปไตย แล้วพี่น้องคิดว่าเป็นประชาธิปไตยตรงไหน เพราะเขาฟังแค่คนคนเดียว คนที่อยู่ต่างประเทศ ฉะนั้น ถ้าไม่มีคนต่างประเทศ แคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่คนนั้นแน่นอน พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอะไรเลยเป็นการสืบทอดอำนาจของครอบครัว และแคนดิเดตนายกฯ อีกคนเป็นพ่อค้า ลงมาเล่นการเมืองคงคิดแต่ผลกำไร ไปกินข้าวกับชาวนาวันเดียว จะไปรู้จักความลำบากได้ดีเท่าพวกเราหรือไม่ เพราะพวกเราอยู่กับชาวนามาตั้งแต่แรก ตนว่าวิธีคิดแบบนี้มันจะลำบาก

‘ดร.รงค์’ เปิดใจครั้งแรก ไม่ขออยู่ร่วมพรรคนายทุน ถึงจะรัก ‘ลุงตู่’ หมดใจ แต่วันนี้ขอเลือกอยู่กับ ‘ลุงป้อม’ ว่าที่นายกฯ คนที่ 30

‘ดร.รงค์’ เปิดใจครั้งแรก ไม่ขออยู่ร่วมพรรคนายทุน ถึงจะรัก ‘ลุงตู่’ หมดใจ แต่วันนี้ขอเลือกอยู่กับ ‘ลุงป้อม’ ว่าที่นายกฯ คนที่ 30

(30 เม.ย. 66) รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 1 เขต 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ขณะลงพื้นที่หาเสียงได้กล่าวถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ ‘พรรคลุงตู่’ ว่า ตนเป็นอีกหนึ่งคนที่รักลุงตู่ แต่เลือกที่จะอยู่พรรคลุงป้อม เพราะตนมองว่าพรรคของลุงตู่เป็นพรรคนายทุน โดยระบุว่า…

‘ลุงป้อม’ ชู ปุ๋ยครึ่งราคา-เพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนเก็บเกี่ยวข้าว หวังสร้างความมั่นคงให้ชาวนา ช่วยกระดูกสันหลังของชาติพ้นความจน

(30 เม.ย. 66) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้ความสำคัญกับเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีจำนวนมากที่สุด มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมากจากผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ อาทิ ข้าว, อ้อย, มันสำปะหลัง, ปาล์มน้ำมัน และยางพารา แต่เมื่อพิจารณาถึงรายได้ของเกษตรกรไทยแล้ว กลับเป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าอาชีพอื่น ๆ ขาดความมั่นคง ก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพชีวิต อีกทั้ง มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง

นายชาญกฤช ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐจึงออกนโยบายเฉพาะเพื่อเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ โดยเริ่มจากนโยบายที่ 1 นโยบายเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกร ครัวเรือนละ 30,000 บาท นโยบายที่ 2 นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐจะช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และล่าสุด นโยบายที่ 3 นโยบายเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา อัตราไร่ละ 2,000 บาท จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาทต่อราย

‘เศรษฐา’ ลั่น!! พร้อมยกราคาข้าวให้สูงขึ้นเทียบ ‘รบ.ยิ่งลักษณ์’ หนุนส่งออกข้าวไทยสู่เวทีโลก ปลุก ปชช.เลือก ‘พท.’ ให้ชนะขาด

(30 เม.ย. 66) พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม 6 เขต ประกอบด้วย

เขต 1 นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ เบอร์ 4
เขต 2 นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ เบอร์ 7
เขต 3 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เบอร์ 9
เขต 4 นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ เบอร์ 2
เขต 5 นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ เบอร์ 1
เขต 6 นายรัฐ คลังแสง เบอร์ 8

โดยมีประชาชนมารับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่แม้จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ราคาข้าวสูงมาก สูงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน พี่น้องอยากให้ราคาข้าวกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ แน่นอนว่าราคาข้าวจะกลับมาดี ถ้าพี่น้องเลือกนายยุทธพงศ์ให้ชนะขาด ยืนยันว่าพรรค พท.จะเดินหน้าเอาข้าวไปขายทั่วโลก มีอีกหลายประเทศยังไม่รู้จักข้าวไทย ถ้าหลายประเทศสนใจ มีออเดอร์สั่งซื้อเยอะ ราคาข้าวก็จะขึ้นสูงแน่นอน พี่น้องจำไว้เลยสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ราคาข้าวดี เพราะ รมช.เกษตรฯ คือ นายยุทธพงศ์ นำมาซึ่งราคาข้าวที่เป็นที่น่าพอใจ

นอกเหนือจากราคาข้าว ปัญหาความยากจนและรายได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรามีนโยบายพักต้นพักดอกให้เกษตรกร 3 ปี เราจะติมเงินให้ 2 หมื่นบาท สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทใน 4 ปี ปีหน้าขึ้นทันที 400 บาท นอกจากนี้ยังมีนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ทำพรรคคู่แข่งดิ้น ออกมาบอกว่าทำไม่ได้บ้าง ผิดกฎหมายบ้าง อย่าไปเชื่อ เราทำได้แน่นอน เงินจะเข้าสู่ระบบหลายหมื่นล้าน ไม่ต้องไปรอรัฐบาลที่ไร้หัวใจ บัตรคนจนเราไม่ยกเลิก แต่เมื่อพรรคพท.มา พี่น้องจะมีแต่ความร่ำรวย ไม่ต้องพึ่งบัตรคนจน เก็บบัตรคนจนไว้เป็นที่ระลึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เคยให้ท่านไว้เพื่อเรียกพวกท่านว่า ‘คนจน’

‘องอาจ’ แท็กทีม ‘ส.ก.ประชาธิปัตย์’ ลุยหาเสียงเขตบางพลัด ช่วย ‘ชนินทร์’ ผู้สมัคร กทม.ทำคะแนน ระหว่างรักษาตัวหลังติดโควิด

(30 เม.ย. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่ กทม. กล่าวว่าในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา ขณะที่นายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางพลัด บางกอกน้อย เบอร์ 7 ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทีมงานพรรค ปชป.ในพื้นที่เขตบางพลัด บางกอกน้อย ซึ่งประกอบไปด้วย นายนภาพล จีระกุล ส.ก. เขตบางกอกน้อย และ พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ส.ก.เขตบางพลัด ได้ร่วมกันเดินหาเสียง พร้อมกับตน และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทุกวันตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีสาขาพรรค ตัวแทนพรรค และผู้สนับสนุนพรรค ปชป.จำนวนมาก เมื่อทราบว่า นายชนินทร์  ติดโควิด ไม่สามารถออกมารณรงค์หาเสียงได้ จึงร่วมกันออกมาช่วยเดินรณรงค์หาเสียงตามพื้นที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าอาการติดโควิดของนายชนินทร์ ด้วยความเป็นห่วง และส่วนมากได้ฝากแจ้งถึงนายชนินทร์ว่า ขอให้หายจากการติดโควิดในเร็ววัน

‘กรณ์’ อ้อนคนสามพราน เทคะแนนให้ ‘ดร.ระวัง’ อดีต ส.ส. 2 สมัย ขอโอกาส ‘ชพก.’ แก้วิฤกตปากท้อง มั่นใจ!! ปักธงนครปฐมทั้ง 6 เขต

(30 เม.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค นายอรัญ พันธุมจินดา รองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ผศ.ดร.ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 เบอร์ 11 จังหวัดนครปฐม หาเสียง โดยมี พ.ต.ท.บุญลือ เสริมบุญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 และ นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ร่วมให้กำลังใจและขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาลงพื้นที่เพื่อช่วย ผศ.ดร.ระวัง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 จ.นครปฐม อดีต ส.ส.สองสมัย โดยได้พบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดวัดไร่ขิง และเข้าถวายสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิง และสิ่งศักดิ์สิทธิประจำวัด โดยนายกรณ์ บอกว่า วันนี้มีประชาชนผู้มีศรัทธาเดินทางมายังวัดไร่ขิงเป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรคที่สนับสนุนเศรษฐกิจสายมู ความศรัทธา แรงบันดาลใจ ที่ทำให้เกิดความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ และสามารถกระจายรายได้ไปยังชาวบ้านในชุมชน ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในบริเวณวัดได้ด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนพบว่า กระแสความนิยมของ ผศ.ดร.ระวัง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในฐานะที่เป็น อดีต ส.ส.2 สมัย ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาจจะเคยเห็นว่าตนลงพื้นที่กับคนรุ่นใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่ การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคชาติพัฒนากล้า มีการผสมผสานของนักการเมืองที่หลากหลาย มีประสบการณ์คนละด้านมาช่วยกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า บรรยากาศเศรษฐกิจในเวลานี้ หลายคนบ่นกับตนว่าเศรษฐกิจตอนนี้ฝืดเคือง กำลังซื้อของพี่น้องประชาชนลดลง และนี่คือภาระหน้าที่สำคญของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เรามีความตั้งใจตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคว่า เรามาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  สร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน เป้าหมายของพรรค สรุปได้ 3 คำคือ ประชาชน มีงานดีทำ มีเงินในกระเป๋า และสินค้าต้องไม่แพง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องปากท้องที่ต้องเร่งแก้ไข

“การเมืองขัดแข้งกันมาเยอะ และก็ยังมีความพยายามหาเรื่องทะเลาะกันว่า ยุคนี้เป็นกันเรื่องยุคเผด็จการ หรือประชาธิปไตย แต่พรรคชาติพัฒนากล้ามองว่า เนื่องจากประชาชนทุกคน มีโอกาสไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกัน พรรคการเมืองทุกพรรคตกลงร่วมใจเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นความเป็นประชาธิปไตยก็จะมีขึ้นโดยปริยาย แต่ประเด็นปัญหาที่แท้จริง ที่รอการแก้ไขคือ ปัญหาปากท้อง” นายกรณ์ กล่าว

กกต. จัดสิ่งอำนวยความสะดวก ‘คนพิการ-ผู้สูงอายุ’  เพื่อให้ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

วันนี้ (2 พ.ค. 66) นายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการกกต. ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการอำนวยความสะดวกคนพิการและผู้สูงอายุ ศูนย์อำนวยการและประสานงานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานกกต. กล่าวว่า สำนักงานกกต.ได้จัดเตรียมการอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ ในการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ภายใต้แนวคิดผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนต้องได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนี้

1. จัดทำสื่อคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. (อักษรเบรลล์) เพื่อใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.แก่ผู้พิการทางสายตา พร้อมจัดทำไฟล์เสียงคำบรรยายคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. โดยสามารถสแกน QR Code เสียงบรรยายได้จากหน้าปกคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. ตรงมุมด้านล่างซ้ายมือของคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. (อักษรเบรลล์)

2. จัดทำวีดิทัศน์อินโฟกราฟิกและเพลงขับร้องโดยอรรณพ ทองบริสุทธิ์ ปอ AF 7 พร้อมล่ามภาษามือ เพื่อสื่อสารและสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. 

3. สำนักงานกกต.จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้จัดทำป้ายไวนิลแนะนำผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยจะติดตั้งบริเวณด้านหน้าที่เลือกตั้งที่มองเห็นชัดเจน และติดตั้งภายในที่เลือกตั้งที่สามารถมองเห็นได้ในระดับสายตาเพื่อให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งรับทราบและสามารถจดจำข้อมูลของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย ข้อมูล ชื่อ-สกุล รูปถ่าย หมายเลขผู้สมัคร ตราสัญลักษณ์พรรคการเมือง 

4. สนง.กกต. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดให้ความรู้ความเข้าใจในการอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยจัดทำสื่อวีดิทัศน์สาธิตการใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้พิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ พร้อมล่ามภาษามือ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้พิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยมีการถ่ายทำที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จังหวัดนนทบุรี ได้รับความร่วมมือจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน ทางสายตา และทุพพลภาพทางกาย มาร่วมแสดงและสาธิตในการถ่ายทำวีดิทัศน์ดังกล่าว วีดิทัศน์ดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของทั้งสองหน่วยงาน

นอกจากนี้ ในการลงคะแนนเลือกตั้ง สำนักงานกกต.ยังได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุโดยในหน่วยเลือกตั้งปกติ จัดให้มีบัตรทาบสำหรับคนพิการทางสายตาและอำนวยความสะดวกอื่น ๆ โดยมีคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) รด.จิตอาสา ลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย เป็นผู้ช่วยเหลือในการใช้สิทธิลงคะแนน รวมทั้งยังจัดที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ โดยผู้ใช้สิทธิที่ลงทะเบียน ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ ณ ที่เลือกตั้งกลางที่กำหนดไว้ 26 แห่ง ใน 21 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 2,380 คน

การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไทย ในสหรัฐอเมริกา มีผู้ใช้สิทธิเกือบ 4 พันคน ทั้งแบบเข้าคูหาและทางไปรษณีย์

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน

ในการเลือกตั้งทั่วไปของไทย พ.ศ. 2566 การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไทยในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ถือว่าเป็นหน่วยเลือกตั้งที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่ง ด้วยเป็นประเทศที่มีประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

ขั้นตอนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2566 ในสหรัฐอเมริกา มีดังนี้

1) ผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งแบบคูหา (เฉพาะผู้ที่เลือกใช้สิทธิกับสถานเอกอัครราชทูตฯ เท่านั้น) ท่านที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งแบบคูหา สามารถมาลงคะแนนเลือกตั้งที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน (ที่อยู่ 1024 Wisconsin Avenue N.W. Washington D.C. 20007) ระหว่างวันที่ 28 - 30 เมษายน 2566 เวลา 9.00 - 17.00 น. 

(ในภาพ นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน กำลังใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งประจำที่เลือกตั้ง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน)

รถขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าขบวนแรก ถึงที่หมายด้วยความเรียบร้อย ตำรวจคุ้มกันเข้มตลอดเส้นทาง ปล่อยคาราวานบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าอีก 2 สาย ขึ้นเหนือ - อีสาน 'ศลต.ตร.' เตือนเลือกตั้งล่วงหน้า ห้ามขาย จ่ายแจก จัดเลี้ยงสุรา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมาย ศูนย์รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศลต.ตร. ร่วมในภารกิจการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 ในด้านการรักษาความปลอดภัย การรักษาความสงบเรียบร้อย และการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

วันนี้ (วันที่ 2 พฤษภาคม 2566) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ โฆษก ศลต.ตร.กล่าวความคืบหน้าภารกิจขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปยังหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤษภาคม 2566 ว่าหลังจากวานนี้ (1 พฤษภาคม 2566) สำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ ศลต.ตร. ได้ปล่อยขบวนรถขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าขบวนแรก ไปยังหน่วยเลือกตั้งในภาคใต้ วันนี้รถทุกคันในขบวนภาคใต้ตอนบน ถึงจุดหมายปลายทาง ส่วนขบวนของภาคใต้ตอนล่างถึงที่หมายแล้ว 95% เหลืออีกไม่กี่ขบวนอยู่ระหว่างการนำส่งไปยังที่หมายปลายทางซึ่งการเดินทางการขนส่งภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

โฆษก ศลต.ตร. กล่าวว่า วันนี้ขบวนรถขนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ได้เดินทางออกจาก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เขตหลักสี่ กทม. เพื่อขนส่งบัตรฯ ไปยังหน่วยเลือกตั้งภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในเวลา 08.00 น. และ 12.00 น. ตามลำดับ โดย ศลต.ตร.ได้จัดกำลังตำรวจประจำในรถขนส่งไปรษณีย์ รถตำรวจทางหลวงขับนำ และปิดท้ายขบวน ประสานงานตำรวจท้องที่ทุกจุด อย่างรัดกุมเต็มรูปแบบเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top