Tuesday, 20 May 2025
เพื่อไทย

‘หมอชลน่าน’ ประกาศ ‘เพื่อไทย’ พร้อมปักธงลงพื้นที่ทั่วไทย พิชิต 250 เสียง ส.ว. เพื่อแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

(6 ธ.ค. 65) พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2565 ณ หอประชุมชั้น 7 พรรคเพื่อไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน Think Big, Act Smart, For All Thais’ โดยในช่วงแรกของงานได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ที่เป็นการสรุปภาพการเปลี่ยนแปลง และการทำงานของ ‘พรรคเพื่อไทย’ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โดยมี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘2565 พรรคเพื่อไทย’ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปาฐกถาหลักในหัวข้อ ‘ประเทศไทย 2570’

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว เริ่มต้นกล่าวว่า จากนี้ไปไม่เกิน 5 เดือน จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายชนะเลือกตั้งถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์ เพราะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสูงสุดที่ 136 เสียง แต่เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะกลไกในรัฐธรรมนูญ ให้วุฒิสมาชิก 250 คนเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะนี่คือกติกาที่บิดเบี้ยว อำนาจรัฐ อำนาจเงิน พรรคเพื่อไทยที่ชนะแต่เหมือนแพ้ เราจึงต้องชนะแลนด์สไลด์ได้สมาชิกสภาเกิน 250 คน และจัดตั้งรัฐบาลของพี่น้องประชาชนให้ได้

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าการแลนด์สไลด์นั้นเป็นเป้าหมาย หนทางการเข้าสู่เป้าหมายคือการได้ทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชน โดยปรารถนาพาพี่น้องและประเทศชาติพ้นจากวิกฤต จึงมีคำถามว่าทำไมต้องเป็นพรรคเพื่อไทย ก็เพราะเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนสูงสุด ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย เราชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง และภายหลังปี 2562 พรรคเพื่อไทย ต้องกลับมามองสำรวจตัวเองภายใต้การเปลี่ยนแปลงของบริบทการเมืองอย่างมากมาย มีคนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น เราจึงต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงปรับตัวเองให้ทันสมัยอยู่เสมอ พรรคเพื่อไทยได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการ การมีส่วนร่วม ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร รีแบรนด์พรรคและสัญลักษณ์อย่างเข้มข้นตลอดปีที่ผ่านมา จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความพร้อมสูงสุด พรรคเพื่อไทยเป็นคำตอบแห่งอนาคตที่ใช่ที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศที่ยุ่งยากซับซ้อนขณะนี้

แต่การที่พรรคเพื่อไทยจะชนะแลนด์สไลด์นั้นไม่ง่าย แม้เราจะมีกระแส มีความนิยมจากพี่น้องประชาชน แต่พวกเขามีกระสุน มีอำนาจรัฐ มีอำนาจเงิน มีอำนาจการจัดการเลือกตั้งให้ผลเลือกตั้งเป็นไปดังต้องการ แต่พรรคเพื่อไทยมี 3 ยุทธศาสตร์ที่จะพาพี่น้องแลนด์สไลด์ไปด้วยกันคือ  

1. นโยบายที่เป็นประชาธิปไตย กินได้ ทำได้จริง ทำมาแล้ว และจะทำให้ดีมากกว่าเดิม 
2. แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคให้เป็นจริง 
และ 3. ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เข้าถึงพื้นที่ เข้าใจพี่น้องประชาชน

พรรคเพื่อไทย จึงเชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีที่สุด ที่ทุกท่านจะชนะเลือกตั้ง ชนะอย่างถล่มทลาย แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ จะเป็นความพ่ายแพ้ เป็นสงครามครั้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย เพราะการพ่ายแพ้ครั้งนี้หมายถึง พี่น้องประชาชนเราจะถูกครอบงำภายใต้อำนาจรัฐและอำนาจเงินตลอดไป

“ดังนั้น สู้ครั้งนี้ต้องชนะ เลือกพรรคเพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ชนะขาด เพื่อให้เพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อม ประชาชนพร้อม ประเทศพร้อมเดินไปข้างหน้าไปด้วยกัน พี่น้องที่เคารพครับ เราเคยคิดใหม่ทำใหม่ เราทำได้จริง ทำได้สำเร็จมาแล้ว ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเรา คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

‘คนเพื่อไทย’ โร่แจ้งความ หลังมีภาพร่วมเฟรมตู้ห่าว ยัน!! ไม่รู้จักกันส่วนตัว เจอกันตอนนี้ก็จำหน้าไม่ได้

(6 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 14.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีถูกโยงเป็นข่าวและมีภาพปรากฏออกมาว่ามีความรู้จักสนิทกับนายหาวเจ๋อตู้หรือตู้ห่าว กลุ่มทุนจีนสีเทาว่า ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวนานมากแล้ว โดยเป็นการเปิดตัวโรงงานแถว จ.สมุทรปราการ ซึ่งตนไปเป็นเพื่อนกับคุณลุงที่ถูกเชิญไปร่วมงานเท่านั้น โดยงานดังกล่าว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.ขณะนั้นเป็นประธาน แต่กลับถูกโยงทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย เพราะถูกนำมาเล่นข่าวในช่วงจะเลือกตั้ง ตนเป็นนักการเมืองที่ถูกป้ายสี ดังนั้นตนจึงได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายตู้ห่าวเลย เห็นหน้าตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้เลย

นายวิชาญ กล่าวกรณีนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยที่จะย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า พรรคดูแลและให้โอกาสนายประเดิมชัยตั้งแต่ปี 62 ตั้งแต่สมัยนายประเดิมชัยเป็น ส.ก. ส่วนการตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคใดก็ถือเป็นสิทธิ ซึ่งเราก็จะได้คัดสรรบุคคลลงสมัครแทนนายประเดิมชัยต่อไป ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้คุยกับนายประเดิมชัยในเรื่องดังกล่าว แต่ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีกระแสข่าวว่าจะย้ายพรรค แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยดูแลสมาชิกทุกคนเท่าเทียมกัน

'เสี่ยเฮ้ง' โต้แรงนโยบายหาเสียงเพื่อไทย คิดได้แค่นี้ประเทศไม่รอด ท้า!! แน่จริงขึ้นค่าแรงบริษัทในเครือขั้นต่ำ 600 ให้ดูหน่อย

หลังจากเมื่อวันที่ (6 ธ.ค. 65) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ด้วยการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และจบปริญญาตรีมีเงินเดือน 25,000 บาท ปักธงเป็นรัฐบาลครบวาระ 4 ปี โดย อธิบายว่าประเทศไทยมี 20 ล้านครอบครัว สามารถสร้างงานทักษะสูงได้ 20 ล้านตำแหน่ง และมีรายได้รวมกันถึงปีละ 4 ล้านล้านบาทนั้น ในปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป 

ขณะเดียวกันก็จะใช้ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เป็นพลังขับเคลื่อน โดยการดึงศักยภาพของอย่างน้อย 1 คนในทุกครอบครัวให้ได้รับโอกาสในการอบรม บ่มเพาะ ทักษะสร้างสรรค์ที่มีความถนัดให้ดีขึ้น รวมทั้งการสร้างทักษะสร้างสรรค์ Soft Power ด้านต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีรายได้คนละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี 

จากนโยบายดังกล่าวนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้สัมภาษณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่ามีความคิดเห็นในนโยบายดังกล่าวอย่างไร?

โดยในประเด็นการสร้างงานทักษะสูง 20 ล้านตำแหน่ง สุชาติ กล่าวว่า “วันนี้มีคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคม 11 ล้านกว่าคน แรงงานนอกระบบอีก 20 ล้านคน หาบเร่แผงลอย นายจ้าง ธุรกิจส่วนตัว รวมแล้ว 2 ระบบ ประมาณ 30 ล้านคน ข้าราชการอีกกี่ล้านคน นักศึกษาอีกกี่ล้านคน เด็กที่ยังเรียนอยู่อีกกี่ล้านคน แล้วถ้าบอกว่า 20 ล้านตำแหน่ง คุณจะเอาคนไทยที่ไหนมาทำงาน ผมไม่เข้าใจเลย เพราะเค้าทำงานกันเกือบหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาการบริหารงานของผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ถึง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยนโยบายของรัฐบาลต่างๆ เราได้จ้างงานไปกว่า 1,590,000 อัตรา มากกว่าก่อนที่ไม่มีโควิด-19 เพราะฉะนั้นตัวเลขที่บอกว่าสามารถสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง มันโอเว่อร์ไป” 

ในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท มีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนนั้น สุชาติ แสดงความเห็นว่า “ค่าแรง 600 บาท ผมเรียนอย่างนี้นะครับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเป็น ร้อย ๆ อาชีพ ในการปรับค่าแรงให้กับวิชาชีพต่าง ๆ เช่น ช่างปูกระเบื้อง ค่าแรงเกือบ 1,000 บาท ทุกอย่างถ้ามีฝีมือปรับตามกระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่นำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีประกาศออกมาใช้แล้ว เป็นร้อยอาชีพ 

"ส่วนค่าแรง 600 บาท กำลังพูดถึงค่าแรงคนที่ไม่มี Skill ไม่มีฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่ค่าแรงส่วนใหญ่ของประเทศเค้ามีค่าแรง 100 บาทต้นๆ และถ้าเกิดปรับค่าแรงเป็น 600 บาท ผมถามว่าแรงงานต่างด้าวก็มาบ้านเราหมด ซึ่งอัตราแรงงานไร้ฝีมือในบ้านเราก็เพียงพออยู่แล้ว ประมาณ 2 ล้านกว่าคน โดยเป็นคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย แบบนี้ก็จะทำให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้ามามากขึ้นได้

"ผมขอฝากข้อคิดไว้ข้อคิดหนึ่ง การทำแบบนี้แรงงานไทยที่กำลังทำงานอยู่ จะสุ่มเสี่ยงตกงาน ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการต้องจ้างแรงงาน 25,000 บาท ตามกฎหมายกำหนด แบบนี้ผู้ประกอบการจ้างเหมาดีกว่าไหม มีงานก็จ้างไม่มีงานก็ไม่จ้าง กระทบต่อแรงงานแน่นอน ภาคเอกชนไม่รับคนเพิ่มและอาจใช้วิธีแบบนี้เพื่อลดต้นทุน ส่วนในประเด็นปรับเงินเดือน 25,000 บาท ถ้าคนทำงานเดิมที่มีเงินเดือน 20,000 กว่า และคนใหม่เข้ามาทำงาน เงินเดือนขึ้นไป 25,000 บาท ระบบเงินเดือนจะปรับยังไง ต้นทุนบริษัทจะไปทางไหน นโยบายสุดโต่งแบบนี้ สุ่มเสี่ยงทำให้ลูกจ้าง แรงงานตกงานได้เลยและจะทำให้บริษัทต่างชาติที่จะมาเปิดและใช้แรงงานในไทย ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นแน่นอน ตรงนี้คุณคิดหรือเปล่าถ้าคุณเสนอตัวเป็นผู้นำประเทศ” 

เจ้ากระทรวงแรงงานยังกล่าวอีกว่า “คุณอุ๊งอิ๊ง ไม่เคยลำบากยากจนมากก่อน ไม่เคยเป็นนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยตนเอง เกิดมาก็พ่อรวยแล้ว ถามว่าวันนี้คุณรู้ไหมว่าต้นทุนในแต่ละบริษัท ต้นทุนการตลาดต่างๆ ระบบเงินเดือน มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ใช่อยู่ ๆ อยากจะขึ้นค่าแรงก็พูดได้ คุณรู้ไหมว่าการที่คุณหาเสียงโดยการเอาความยากลำบาก หรือความเสี่ยงปิดกิจการของนายจ้างเอามาเล่นแบบนี้ไม่ได้ คุณกำลังจะทำให้ธุรกิจในประเทศมีปัญหา นายจ้างต้องเลิกกิจการนะ

"คุณกำลังเล่นการเมืองโดยเอาเงินเอกชนมาหาเสียงตัวคุณเอง นักลงทุนที่จะมาลงทุนใน EEC (โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) หรือต่างชาติ อย่างซาอุดีอาระเบีย จะมาลงทุนในเอเปคที่เราคุยไว้ ใครจะมาลงทุน ผมถามหน่อย คุณอุ๊งอิ๊งรู้ไหมว่าแรงงานขั้นต่ำที่คุณอุ๊งอิ๊งพูดมีคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคม ที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าว 1 ล้านคน ที่เหลือก็เป็นระบบเงินเดือนฐานเงินเดือน ถ้าเราทำให้เอกชนแข็งแรง เอกชนที่ไหนเค้าจะปล่อยให้ลูกน้องเค้าเงินเดือนน้อยล่ะ 

"ถ้าคุณมีกิจการดี ส่งออกดี คุณไม่กลัวลูกน้องคุณไปอยู่บริษัทอื่นที่เงินเดือนเยอะกว่าเหรอ คุณก็ต้องปรับ วันนี้บริษัทผลิตรถยนต์ โบนัส 7 ถึง 8 เท่า เพราะนโยบายกระทรวงแรงงานเราแข็งแรงส่งเสริมเอกชน พอเค้าแข็งแรง เค้าก็ดูแลลูกน้องในระบบได้ คุณอุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทยออกนโยบายแบบนี้คุณไม่เคยลำบาก คุณรวยแล้ว คุณรู้ไหมความลำบากเป็นอย่างไร การบริหารกระทรวงแรงงานเราไม่ได้ขึ้นที่ค่าแรงงานอย่างเดียว แต่เราลงไปดูแลสวัสดิการต่าง ๆ ด้วย 

'ก้าวไกล' ขอโทษ 'เพื่อไทย' หลังว่าที่ผู้สมัครมือลั่น วิจารณ์ค่าแรง 600 ไม่รอดแน่ SME ตายเป็นเบือ

ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง พรรคก้าวไกล วิจารณ์นโยบายอุ๊งอิ๊ง ค่าแรง 600 ไม่รอดแน่ ขนาดปี 54 วันละ 300 SME ตายเป็นเบือ เจอทัวร์ลงจนต้องลบทิ้ง กระทั่งออฟฟิเชียลก้าวไกลขอโทษ ด่วนวิจารณ์ขาดไตร่ตรองรอบคอบ 

วันนี้ (7 ธ.ค. 65) จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศน์ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2565 ของพรรคเพื่อไทย หนึ่งในนั้นคือค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนของผู้ที่จบปริญญาตรี 25,000 บาทขึ้นไป กำลังเป็นที่วิจารณ์ว่าทำได้จริงหรือไม่?

ปรากฏว่าเฟซบุ๊ก 'Tipa Paweenasatien - ทิพา ปวีณาเสถียร' ของ น.ส.ทิพา ปวีณาเสถียร ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 1 พรรคก้าวไกล นักธุรกิจโรงน้ำแข็งและน้ำดื่มในจังหวัดลำปาง ก็ได้โพสต์ข้อความระบุ ดังนี้...

"ค่าแรงในลำปาง ปี 54 จาก 156-กระโดดเป็น 300, 310, 315- SME ตายเป็นเบือ! ถ้าจาก 315-ขยับเป็น 600-ฉันก็คงไม่รอด!!" เรียกเสียงฮือฮาให้แก่ชาวเน็ต

ต่อมาทวิตเตอร์ @MFPThailand ของพรรคก้าวไกล ก็รีบโพสต์ข้อความขอโทษ พรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า...

"สืบเนื่องจากกรณีการแสดงความเห็นของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยต่อนโยบายขึ้นค่าแรงของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลเสียใจอย่างมากที่ว่าที่ผู้สมัครของพรรค ได้ด่วนวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดังกล่าวโดยขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ พรรคขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และขออภัยพรรคเพื่อไทย และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศอย่างสูง พรรคก้าวไกลตระหนักดีว่าการขึ้นค่าแรงอย่างเป็นธรรม สอดคล้องกับค่าครองชีพ จะทำให้พี่น้องชาวไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ซึ่งก็ถือเป็นแนวนโยบายและคุณค่าหลักที่พรรคก้าวไกลยึดถือเช่นกัน

'ทักษิณ' ลั่น!! ถ้าไม่มีระบบเฮงซวยมารังควาน ค่าแรง 800 บาทต่อวัน "ยังทำได้เลย"

(7 ธ.ค. 65) เฟซบุ๊ก ‘CARE คิด เคลื่อน ไทย’ ได้สรุปการไลฟ์สดพูดคุยกับโทนี่ วู้ดซัม หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในหัวข้อ จาก ‘คิดใหม่ ทำใหม่’ ถึง ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ ตอนหนึ่งว่า วันนี้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยประกาศว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายใน 4 ปี ล่าสุดมีคนออกมาโวยวาย บอกทำไม่ได้หรือเพ้อฝัน บางคนก็ออกมาโวยวายว่า พอกันที พรรคการเมืองเลิกหาเสียงเรื่องรายได้ขั้นต่ำสักที

ผมว่าคุณเข้าใจเศรษฐศาสตร์น้อยไป เข้าใจและเห็นใจเพื่อนมนุษย์น้อยไป วันนี้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็พูดชัดเจนว่า “จะทำให้เศรษฐกิจดี แม้โลกจะอยู่ในภาวะถดถอย” จะดันเศรษฐกิจไทยให้โตเฉลี่ย 5% เฉลี่ยนะครับ ดีไม่ดีปีแรกอาจจะโต 7% ก็ได้เพราะมาจากฐานที่รัฐบาลทหารทำไว้ต่ำ พอเศรษฐกิจดี นักธุรกิจมีเงินเยอะ ก็มีเงินจ่ายค่าแรงสูงขึ้น ดังนั้น keyword คือ การปั้นเศรษฐกิจให้ดีทำให้ขึ้นค่าแรงได้

‘สุทิน’ เย้ย ‘มิ่งขวัญ’ หากขายได้คงไม่ย้ายพรรค ชี้!! คนเก่งแต่อยู่ผิดที่ ก็หมดค่า หมดราคา

(7 ธ.ค. 65) เวลา 9.30 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัว นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ว่า ตนคิดว่าคนคนเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาคนกลุ่มความคิดเดิม ๆ ได้ และคนที่เข้าไปอาจจะเสียด้วย วัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องใหญ่ คนเก่งขนาดไหนหากไปอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ใช่ ก็จะลดทอนความสามารถของคนลง หากวัฒนธรรมองค์กรดี ๆ ถึงคนจะไม่เก่งเข้าไปอยู่ก็จะส่งเสริมทำให้คนเก่งขึ้น

เมื่อถามว่า นายมิ่งขวัญยังสามารถขายได้ในสนามเลือกตั้งหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า นายมิ่งขวัญตั้งพรรคเองมา 2 ครั้ง หากเขาคิดว่าตัวเขาเองขายได้ ก็คงไม่ย้ายไปพรรคอื่น

อิ๊งค์' นำทัพ 'เพื่อไทย' บุกภาคใต้ 'เต้น' โว!! ปักธงแลนด์สไลด์

'เพื่อไทย' ยกคณะปราศรัยภาคใต้ 11 ธ.ค. พา 'อิ๊งค์' ทัวร์สิชล ดูประมงท่องเที่ยว ลั่นขอยกระดับราคา ยางพารา ปาล์ม 'ณัฐวุฒิ' โวปักธงแลนด์สไลด์

(7 ธ.ค. 65) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ครอบครัวเพื่อไทยนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยและรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง, นายสุธรรม แสงประทุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง และตนเองจะเปิดเวทีปราศรัย ครอบครัวเพื่อไทย ที่ภาคใต้ครั้งแรก ในชื่องานว่า ‘แหลงจริง ทำได้ คนใต้หรอยแรง!’ ที่หอประชุมเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่า หอประชุมทุ่งท่าลาด

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าในกิจกรรมดังกล่าว จะมีการปราศรัยในเรื่องของนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้คือนโยบายแนวทางการยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร การรักษาเสถียรภาพราคา เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้พี่น้องเกษตรกร ทั้งราคาปาล์มน้ำมัน ยางพารา ซึ่งเมื่อวานนี้ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้ปราศรัยประกาศวิสัยทัศน์ ประเทศไทย 2570 ไปแล้ว ก็จะถือเป็นโอกาสได้ไปขยายความรายละเอียดในแต่ละนโยบาย สื่อสารประเด็นให้ชัดเจน เป็นที่เข้าใจให้ตรงกันมากยิ่งขึ้น นอกจากเพียงแค่การพูดคุยเรื่องเป้าหมายการแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังมีเรื่องการกระจายอำนาจ การแก้ไขปัญหาการประมงในพื้นที่ และการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ชายฝั่งอ่าวไทยก็เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หนึ่ง จึงเป็นนโยบายที่สำคัญที่พรรคเพื่อไทย จะได้ถือโอกาสพูดคุยกับพี่น้องในพื้นที่ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ จะเป็นโอกาสได้แนะนำผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคเพื่อไทยในกลุ่มภาคใต้ ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้พร้อมด้วยทีมคณะผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ทุกจังหวัดอีกด้วย

เพื่อไทย โต้ ‘สุชาติ’ อัดวิจารณ์ค่าแรง 600 บาทต่อวัน ลั่น!! ไม่กระทบงบแผ่นดิน เหน็บ พปชร. ขึ้น 400 ยังทำไม่ได้

ส.ส.โจ้ โต้กลับ ‘รมว.แรงงาน’ ติงนโยบายค่าแรง 600 บาทพรรคเพื่อไทย ลั่นไม่กระทบงบแผ่นดินฟุ้งถ้าประชาชนเห็นว่าดีจริงต้องเลือกให้ ‘แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน’ เหน็บ ‘ประยุทธ์’ บริหารเศรษฐกิจเหลว เก่งแต่กู้ขนาดขึ้นค่าแรง 400 บาทยังทำไม่ได้

วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่บอกว่า พรรคเพื่อไทย หากจะหาเสียงอะไร ก็แล้วแต่ ควรคำนึงถึงหายนะทางเศรษฐกิจด้วย อย่าหาเสียงเพราะนึกสนุกแบบนี้ (กรณีเพื่อไทยประกาศนโยบายค่าแรง 600 บาท/วัน) เพราะสิ่งที่พูดออกมามันเหมือนการโยนระเบิดเวลาให้เจ้าของกิจการ การหาเสียงแบบนี้เป็นการโยนภาระให้ภาคเอกชน แต่ตัวเองได้คะแนนเสียงซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้จะกระทบต่อนักลงทุนต่างประเทศ เพราะจะไม่กล้าเข้ามาลงทุน หากจะหาเสียงอะไรก็แล้วแต่ ควรคำนึงถึงหายนะทางเศรษฐกิจด้วย

นายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า นายสุชาติ รมว.แรงงาน ที่ออกมาโวยวาย เรื่องค่าแรงงาน 600 บาท/วัน ภายใน 4 ปี เพราะนายสุชาติ อาจจะไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์ และระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ การที่คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พูดเรื่อง ค่าแรงงาน 600 บาท/วัน ภายใน 4 ปี คือ การที่พรรคเพื่อไทยได้ มาเป็นรัฐบาล และ พรรคเพื่อไทย บริหารเศรษฐกิจ เป็นแบบมืออาชีพ เศรษฐกิจประเทศไทยจะโตเฉลี่ย อย่างน้อยร้อยละ 5 ต่อปี พอเศรษฐกิจดี นักธุรกิจมีเงินเยอะ มีรายได้เยอะ ก็มีเงินจ่ายค่าแรงงานสูงขึ้น ไม่ได้กระทบอะไร กับภาระงบประมาณแผ่นดินเลย

'อุ๊งอิ๊ง' เชื่อคนเห็นด้านดี-ไม่ดี 'บิ๊กตู่' มาแล้ว ไม่ต้องว่ากัน ส่วนตนขอทำหน้าที่และนโยบายให้ดีที่สุด

'อุ๊งอิ๊ง' เผยประชาชนรู้ดี 'ประยุทธ์' อยู่มานานเห็นทั้งด้านดี ไม่ดี ท่องคาถาขอนำเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจ มากกว่ามุ่งต่อสู้-ต่อว่ากัน

(7 ธ.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เหลือเวลาอีก 2 ปีสำหรับเส้นทางการเมือง จะเป็นเรื่องที่ดีกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ไม่สามารถตัดสินใจแทนพล.อ.ประยุทธ์ได้ แต่พรรคมีความพร้อมและมีความชัดเจนที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ความชัดเจนที่เกิดขึ้นมากที่สุดของประเทศ คือประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น ควรจะชัดเจนในเรื่องที่ควรจะชัดเจนมากกว่าในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับประชาชน

ถามว่า รู้สึกอย่างไรที่จะได้สู้กับพล.อ.ประยุทธ์ในสนามการเมืองในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าการแข่งขันทางการเมืองคือเป็นการเมืองอย่างหนึ่งที่เราจะต้องแข่งขันเพื่อให้ประชาชนเลือก คือการแข่งขันสำหรับตน ซึ่งการแข่งขันอื่น ๆ มันไม่ใช่การแข่งขัน มันคือการที่ต้องทำนโยบายที่ต้องทำให้ประชาชนมากกว่า เราโฟกัสตรงนั้น เกมต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นนอกเหนือจากการเลือกตั้ง คิดว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรให้ความสำคัญ ความสำคัญคือนโยบาย และปัญหาของประเทศ ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองจะหวนนึกถึงอดีตหรือไม่ ถ้าเรามัวแต่นึกถึงอดีตเราก็จะไปข้างหน้าไม่ได้

‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ‘ทำได้’ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ชี้!! ต้องรอให้เศรษฐกิจทั้งประเทศพร้อมก่อน

พรรคเพื่อไทย นำโดย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนผู้จบการศึกษาปริญญาตรี 25,000 บาท 

แพทองธาร กล่าวว่าตนเข้าใจดีว่าเหตุใดจึงมีการถกเถียงในเรื่องนี้ เพราะภาพรวมเศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่ดี พรรคเพื่อไทยจึงแสดงวิสัยทัศน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ถ้าเราปรับภาพรวมเศรษฐกิจทั้งประเทศให้เติบโตไปพร้อมกัน เหมือนสมัยที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเคยปรับค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวัน 10 ปีผ่านไป ค่าแรงขั้นต่ำยังปรับขึ้นมาแค่ 54 บาท จึงเป็นเหตุให้เกิด รวยกระจุก จนกระจาย คนได้ประโยชน์จากค่าแรงขั้นต่ำ คือคนกลุ่มเล็ก ๆ บนยอดสามเหลี่ยม 

แต่ฐานรากคือคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจนเดือดร้อน คนใช้แรงงานยังไม่ได้รับเกียรติไม่ได้รับศักดิ์ศรีเพียงพอ เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำในประเทศอื่น อีกทั้งหากภาพรวมเศรษฐกิจของทั้งประเทศดีขึ้น แรงงานมีรายได้มากขึ้นจะสามารถจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น ช่วยผลักดันเศรษฐกิจทั้งระบบ ดังนั้น การเติบโตของเศรษฐกิจในแนวทางของพรรคเพื่อไทย คือต้องการให้ทั้งประเทศ คนทุกชนชั้น เติบโตได้ทุกโอกาส สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยดูแลครอบครัวของตัวเองได้ การคิดเล็กไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงเป็นที่มาของแนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’

“เราต้องเป็นทุนนิยมที่มีหัวใจ ค่าแรงต้องปรับขึ้นเมื่อเศรษฐกิจทั้งประเทศพร้อม วันนี้ค่าแรงยังปรับขึ้นเป็น 600 บาท ไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่เมื่อเศรษฐกิจดีแล้ว จีดีพี จะเติบโตที่ 5% ปีแรกอาจสูงกว่า หรือปีต่อมา อาจลดน้อยลงตามเลขเฉลี่ยแต่ละปี ทั้งหมดคือหัวใจหลัก” แพทองธาร กล่าว

นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช กล่าวว่า จุดยืนหรือหัวใจหลักของพรรคเพื่อไทยคือ สร้างรายได้ ขยายโอกาส แต่ปัญหาขณะนี้คือหนี้ เราจึงต้องแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีก็ไปกู้ กู้แล้วก็ขยายเพดานหนี้จึงทำให้ค่าจ้างแรงงานยังต่ำ ประเทศรายได้ก็ต่ำ ความเหลื่อมล้ำก็สูง เราจึงต้องใช้นโยบายหลายเรื่องราวที่แถลงเมื่อวานเรียงร้อยและผลักดันไปพร้อมกัน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น คือต้องสร้างรายได้ใหม่ไปพร้อมกัน 

การปรับค่าแรงงานขั้นต่ำ ไม่ใช่การทำลายโครงสร้าง แต่เป็นการทำงานร่วมกันในระดับไตรภาคีคือ เห็นพ้องร่วมกันระหว่างรัฐ - ผู้ประกอบการ - ประชาชน ค่าแรงขั้นต่ำคิดขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น พรรคเพื่อไทยรู้ว่าผลิตภาพการผลิต คือที่มากำไรของผู้ประกอบการที่จะนำมาจ่ายเงินเดือน - โบนัส แรงงานได้ ส่วนรายได้เข้าประเทศอื่น ๆ อย่าง ภาคการท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทยคิดจากฐานของรายได้ภาคท่องเที่ยวก่อนเกิดการระบาดของโควิด ซึ่งอยู่ที่มูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อไทยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาท ซึ่งสามารถทำได้แน่นอนด้วยการสร้างแรงดึงดูดด้วยศักยภาพการท่องเที่ยวที่ไทยมีอยู่มากมาย และการจัดการการบิน - สนามบิน - การอำนวยความสะดวกด่านตรวจคนเข้าเมือง พรรคเพื่อไทยมีผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นผู้แทนจากภาคธุรกิจ จากภาคประชาชน จึงมีความมั่นใจว่าเราคิด ทำ และขับเคลื่อนทั้งระบบได้อย่างแน่นอน

ด้าน เผ่าภูมิ โรจนสกุล ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวโดยแบ่งเป็น 4 ประเด็นคือ

1. ค่าแรง 600 บาท กับปี 2570 เหมาะสมไหม และทำได้หรือไม่? ประเด็นนี้ ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศเลย ถ้าผู้นำมองประเทศไทยแค่เป็นลูกจ้างผลิตกินค่าแรงราคาถูก ก็ผลิตแต่แรงงานไร้ฝีมือ แต่ถ้าเป็นเพื่อไทย จะยกระดับการผลิตไปอีกขั้น จากผลิตตามคำสั่งเป็นการเป็นผู้สร้างนวัตกรรม จากการเกษตรตามยถากรรรม จะเป็นการเกษตรที่กำหนดราคาได้ จากเป็นบริการราคาถูก จะเป็นภาคบริการชั้นสูง คู่แข่งเราต้องไม่ใช่เวียดนาม แต่ต้องเป็นสิงคโปร์และประเทศพัฒนาแล้ว นี่คืวิสัยทัศน์ของผู้นำที่มองต่างก็จะนำไปสู่ราคาค่าแรงที่ต่าง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top