'อุ๊งอิ๊ง' เชื่อคนเห็นด้านดี-ไม่ดี 'บิ๊กตู่' มาแล้ว ไม่ต้องว่ากัน ส่วนตนขอทำหน้าที่และนโยบายให้ดีที่สุด

'อุ๊งอิ๊ง' เผยประชาชนรู้ดี 'ประยุทธ์' อยู่มานานเห็นทั้งด้านดี ไม่ดี ท่องคาถาขอนำเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจ มากกว่ามุ่งต่อสู้-ต่อว่ากัน

(7 ธ.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เหลือเวลาอีก 2 ปีสำหรับเส้นทางการเมือง จะเป็นเรื่องที่ดีกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ไม่สามารถตัดสินใจแทนพล.อ.ประยุทธ์ได้ แต่พรรคมีความพร้อมและมีความชัดเจนที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ความชัดเจนที่เกิดขึ้นมากที่สุดของประเทศ คือประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น ควรจะชัดเจนในเรื่องที่ควรจะชัดเจนมากกว่าในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับประชาชน

ถามว่า รู้สึกอย่างไรที่จะได้สู้กับพล.อ.ประยุทธ์ในสนามการเมืองในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าการแข่งขันทางการเมืองคือเป็นการเมืองอย่างหนึ่งที่เราจะต้องแข่งขันเพื่อให้ประชาชนเลือก คือการแข่งขันสำหรับตน ซึ่งการแข่งขันอื่น ๆ มันไม่ใช่การแข่งขัน มันคือการที่ต้องทำนโยบายที่ต้องทำให้ประชาชนมากกว่า เราโฟกัสตรงนั้น เกมต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นนอกเหนือจากการเลือกตั้ง คิดว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรให้ความสำคัญ ความสำคัญคือนโยบาย และปัญหาของประเทศ ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองจะหวนนึกถึงอดีตหรือไม่ ถ้าเรามัวแต่นึกถึงอดีตเราก็จะไปข้างหน้าไม่ได้

“วันนี้อิ๊งค์มีหน้าที่เสนอวิสัยทัศน์ของพรรคเพื่อไทยว่า มีนโยบายอย่างไร ช่วยให้ประชาชนพ้นจากความทุกข์ที่เผชิญอยู่ อิ๊งค์มีหน้าที่ที่จะบอกว่าประชาชนยังมีความหวัง เพราะพรรคเพื่อไทยทำงานกันมาหนักหน่วง หาข้อมูลและแนวทางอย่างจริงจังที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน นั่นคือหน้าที่ของอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า มองคู่แข่งอย่างพล.อ.ประยุทธ์อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วช่วงเวลาหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านดีหรือด้านไม่ดีอะไรก็ตามประชาชนจะเห็นเอง สมัยนี้คิดว่าประชาชนทราบและมีการเข้าถึงข่าวอย่างเสรี ฉะนั้น จึงไม่มีคอมเมนท์อะไร เราก็ทำหน้าที่ของเราไป ไม่ต้องสู้กัน ไม่ต้องว่ากัน เราทำหน้าที่และนโยบายของเราให้ดี ถ้าถึงเวลาประชาชนอยากเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาทำงานตรงนี้แทน เราต้องเต็มที่ คือหน้าที่หลัก ซึ่งตนไม่ถนัดในการสู้กัน


ที่มา : https://www.thaipost.net/politics-news/279099/