Tuesday, 30 April 2024
ประเทศไทย

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! สับปะรดกระป๋องไทยครองตลาดโลก พร้อมกำชับแผนส่งเสริมศักยภาพการผลิต-การตลาด

‘โฆษกรัฐบาล’ เผย ‘นายกฯ’ ปลื้มผลไม้ไทยมีชื่อเสียง สับปะรดกระป๋องของไทยครองอันดับ 1 ของโลก และมะม่วงเบาสงขลา ขึ้นทะเบียน GI แล้ว กำชับทำงานเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

(4 ม.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ส่งออกสับปะรด และผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ครองสัดส่วนตลาดโลกถึง 32% และชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนชื่อเสียงผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องของไทยจนมียอดส่งออกอันดับ 1

โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า ไทยมีชื่อเสียงในฐานะประเทศผู้ส่งออกสับปะรด และผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ครองสัดส่วนตลาดโลก 32% อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 22% 

ทั้งนี้ พื้นที่และโรงงานสับปะรดส่วนใหญ่ของไทยอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเปรียบเสมือนมหานครสับปะรดของไทยและของโลก และรัฐบาลยังได้จัดทำแบบแผนพัฒนาสับปะรด 5 ปี (2566-2570) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตสับปะรด เพิ่มศักยภาพการผลิต การแปรรูป และการตลาด ทั้งนี้ยังมีแผนใช้กองทุนพัฒนาผลไม้เป็นกลไกสำคัญเพื่อยกระดับรายได้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสับปะรด อย่างยั่งยืนด้วยแนวทางเกษตรมูลค่าสูง

ดึงสติโซเชียล!! หลังคนจีนแห่เที่ยวไทย จงเป็นเจ้าภาพที่ดี ที่อยู่กับโควิดให้เป็น

จากกรณีจีนเปิดประเทศ และมีการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) จะมีจำนวนประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน โดยคาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คนนั้น ทำให้มีคนจาก 2 ฟากฝ่ายที่ทั้งยินดีต้อนรับ และอคติว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจะนำพาเชื้อโควิดเข้ามาระบาดสู่ไทยครั้งใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ 2 แพทย์ชั้นนำของไทยได้ให้ความกระจ่างแบบไม่ต้องตื่นตระหนก เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี และมีความปลอดภัยไว้ ดังนี้...

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวไว้ว่า “คนจีนนำรายได้เข้าประเทศเราไม่น้อย ดังนั้นสิ่งที่เราควรระวัง ไม่ใช่ระวัง ‘เขา’ แต่เราต้องลดความเสี่ยง ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ล้างมือบ่อยๆ ยังทำได้ไม่ว่ากับโควิด-19 สายพันธุ์ไหนๆ และวัคซีนยังมีอยู่ให้รีบไปฉีดเลย ไม่ต้องรอ”

2022 TIME TO RECORD เหตุการณ์ต้องจำแห่งปี 2022 โดย THE STATES TIMES | THE STATES TIMES Y WORLD EP.47

2022 เหตุการณ์ต้องจำแห่งปี ที่คนไทยจะไม่มีวันลืม

จะมีเหตุการณ์ใดกันบ้าง กับ 2022 TIME TO RECORD เหตุการณ์ต้องจำแห่งปี

โดย THE STATES TIMES

.

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World

‘เพื่อไทย’ จี้ รัฐบาลผุดแผนรองรับ นทท.จีน หวั่นโควิด-19 ระบาดซ้ำ กระทบภาคเศรษฐกิจ

(5 ม.ค. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ภายหลังการระบาดของไวรัสโควิดตั้งแต่ปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนหายไป เราก็มีความคิดถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมาก และต้องขอบคุณที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในประเทศไทยส่งผลให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น ดังนั้นการที่จีนจะเปิดประเทศในต้นปี 2566 ประเทศไทยมีความยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ทั้งจากประเทศจีนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ในส่วนของการต้อนรับนักท่องเที่ยว การบริหารการท่องเที่ยว ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานการยกระดับความปลอดภัย เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ดังนั้นในการเปิดประเทศรอบใหม่ อยากเห็นว่ารัฐบาลมีการถอดบทเรียนที่ผ่านมาหรือไม่อย่างไร เพราะเชื่อว่าไม่มีผู้ประกอบการคนไหนอยากให้เหตุการณ์ที่ผ่านมาย้อนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง

'Forbes' ยก ‘ไทย’ ติดท็อป 10 ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณ

ไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของเอเชีย และเป็นลำดับที่ 9 ของโลก ในฐานะ ‘ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ’ ประจำปี 2023 จากการจัดอันดับของ Annual Global Retirement Index

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 66) เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยผลสำรวจ 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ (10 Cheapest Places To Live Afer Retiring) ประจำปี 2023 ซึ่งจัดทำโดย Annual Global Retirement Index ซึ่งระบุว่า ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับคนหลังเกษียณเท่านั้น แต่ยังรวมอยู่เป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไม่แพง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอาจอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องทำงานหรือใช้เงินจำนวนมาก โดยประมวลข้อมูลจากทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต สภาพอากาศ วีซ่า ค่าอาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับ 9 จากทั้งโลก (เท่ากับอิตาลี) และอันดับ 1 ในเอเชีย โดยอธิบายว่าถึงประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก แม้ว่าการท่องเที่ยวจะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แต่ประเทศไทยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตทั้งผ่อนคลายและเต็มไปด้วยการผจญภัย ประเทศไทยเป็นดินแดนที่สวยงามทั้งภูมิประเทศและขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก ทำให้ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี

Annual Global Retirement Index ยังแนะให้ผู้สนใจเลือกที่จะใช้ชีวิตทั้งในกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสีแลตึกใหญ่ หรือเลือกอยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือทีอากาศเย็นสบาย ขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัยก็ไม่แพง สามารถเลือกซื้อคอนโดมิเนียมขนาด 2 ห้องนอนได้ในราคาไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเลือกเช่าได้ในราคาเพียงเดือนละ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ไทยรับนักท่องเที่ยวจีน 200 คน เที่ยวแรก 9 ม.ค.นี้ ด้าน 'WHO' ชี้ ยังไม่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน

ไม่นานมานี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากประเทศจีนประกาศเปิดประเทศ โดยผ่อนคลายมาตรการโควิดสำหรับผู้เดินทางเข้าจีน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป จะมีเที่ยวบินจากจีนที่นำนักท่องเที่ยวทยอยเข้าไทยมาไฟล์ทแรกตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม นี้ เป็นเที่ยวบินที่มาจากเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของจีน ประมาณ 200 คน

ส่วนการเพิ่มไฟล์ทบินจากประเทศจีนมายังไทย เบื้องต้นมองเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวจีนจะออกเดินทางท่องเที่ยว พร้อมพิจารณาการกระจายเที่ยวบินไปยังจังหวัดท่องเที่ยวทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ และจังหวัดภาคอีสาน เช่นเดียวกับการพิจารณาเจรจาขอเปิดเส้นทางบินคุณหมิง-หาดใหญ่ด้วย

"ในช่วงโลว์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน - มิถุนายน ประเมินว่า ประเทศไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง"

ด้าน นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ประเมินจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาไทยไตรมาสแรกปี 2566 ประมาณ 3 แสนคน แบ่งเป็น มกราคม 6 หมื่นคน กุมภาพันธ์ 9 หมื่นคน และมีนาคม 1.5 แสนคน และทั้งปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน

ต่างชาติคลั่งไทย อวดโซเชียล เที่ยวตะลุยสารพัดแนว ยอมรับ 'หลงทุกอย่างที่เป็นไทย' จนไม่อยากกลับบ้านเกิด

(6 ม.ค. 66) เมื่อไม่นานมานี้ ‘ดร.วชิรศักดิ์ จึงสถาพร’ นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับมุมมองชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยระบุว่า…

ช่วงนี้ดู TikTok แล้วอารมณ์ดีมาก😊 ฝรั่งลงเรื่องมาเที่ยวเมืองไทยเยอะมาก ไม่ใช่แค่ทะเลสวย วิวดี เหมือนที่เคยลงใน IG แต่เขาเล่าเรื่องที่เขาเจอมาในบ้านเรา เช่น อาหารราคาถูกมาก มื้อหนึ่งไม่ถึง 200 อาหารก็หลากหลาย ไปเที่ยวหลายจังหวัดไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยว มีแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็น ไปซักผ้าทำอย่างไร ซัก 40 นาที อบ 40 นาที แค่ 80 บาท ตัดผมชายนี่ก็ ยิ้มหน้าบาน สระผม 3 ครั้ง ฝรั่งเน้น 3 ครั้ง ตัดผมแล้วดูดีมีระดับ แค่ 200 บาท 💇‍♂️ 

ยังมีเรื่อง 7eleven ที่ทำฝรั่งแตกตื่น เขาเช็คราคาหมด ไอติมถูกมาก🍦 กาแฟเย็นนี่ห้ามพลาด มากัน 6  weeks พี่แกไป 5 แห่ง ภูเก็ต กระบี่ สมุย กรุงเทพ เชียงใหม่ จนผมต้องไป Comment ขอบคุณ แอบแซวนิดหน่อย แหม่ ผมยังไม่ได้ไปเลย ฝรั่งบางคนขับมอเตอไซด์ไปเหนือ 4 จังหวัด กินแต่ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ผมละอายเลย เขาเที่ยวเก่งจริง ๆ 😮‍💨

ฝรั่งส่วนมากเคยฟังเพลง One night in Bangkok เพลง Dance ยุค 80 หลายคนก็ยังคิดว่าบ้านเรามีแค่ช้าง🐘 วัด แบบว่าความเจริญคงไม่น่าจะมี คงไม่มีใครเล่าให้ฟัง นอกจาก TikTok แล้วใน Youtube นี่ สารคดียาวหลายตอนเลย มาขับมอเตอไซด์พิชิต 1800 โค้ง🏅🥈🥇 หนีหิมะมา บางคนกลับไปแล้วยังบ่น เบื่อ Snow คิดถึง Sea and Sun หลายกลุ่มมาหลายประเทศใน South east asia ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น เขาชมบ้านเราเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางรถไฟฟ้า โรงพยาบาล 🚕ส่วน Taxi บางคนบอก มันเป็นแบบนี้กันหลายแห่ง ต้องระวังให้ดี  😈

อาหารนี่ไม่ใช่แค่ผัดไทยแล้วครับ ข้าวซอย หมูปิ้ง อาหารปิ้งย่างกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด น้ำจิ้มบ้านเราถูกปากเขาได้ไง ฝรั่งผู้ชายนี่กินเผ็ดเก่ง ผลไม้ไทย น้ำปั่น น้ำแตงโม🍉 มะพร้าว สั่งกันเยอะ ผลไม้เขาเริ่มชิมลองกอง สละ ขนุน กันแล้ว ขำกลิ้งมีฝรั่งอยู่คน เข้า Supermarket เห็นทุเรียนขายเป็นพู เอามาสองพู ราคาเป็นพัน ตกใจแต่ซื้อกลับมากิน หน้าตาเฉย  🤫

ข้าวเหนียวมะม่วงคงขาดตลาดในอนาคต ฝรั่งชอบ ญี่ปุ่นหลง จีนติดใจ ฝรั่งมาเที่ยวมาเอาความรู้ลงมือเรียนทำอาหารไทย กะไปขายอาหารไทยที่บ้านเกิดแน่นอน คนสอนก็เก่งพาเข้าตลาดสด ซื้อวัตถุดิบเอง 🐽🦆🐓🌿🌴🍀 

สาวฝรั่งสวย ๆ วัยรุ่นอย่าได้ไปรังแกเธอเด็ดขาด หลายคนมาเรียนมวยไทย เห็นท่าแทงเข่า ฟันศอก แล้วผมสยอง ไม่นับถีบแตะตัดลำตัวสามทีแบบดังสนั่น 🥊

คนไทยใจดี ชอบให้ชิมฟรี มีแถมให้ฟรี ดูเหมือนบ้านเขาไม่ให้ชิมฟรีหรือไง ดีใจอะไรกันมากมาย สรุปคนไทยใจดี กลายเป็น Positive memory ได้เลย CRM, CEM คนไทยเก่งที่สุด⛳️🧸แหม่มหลายคนบอกบ้านเรามีหมาแมวให้เล่นฟรีด้วย🦮🐈

จุดพลุที่ไอคอนสยามนี่ดังกระฉ่อนโลก จุดพลุป่าตอง และเกาะพะงันก็ทำเอาฝรั่งอึ้ง เหมือนไม่เคยเจอมาก่อน รีบอัดคลิปส่งต่อกันไปทั่วโลก แบบนี้ผมจะไม่อมยิ้มได้ยังไง😚☺️😊

จริงๆ บ้านเรามีอะไรที่แตกต่างกับนักท่องเที่ยวมากครับ เพียงแต่พวกเรามองกันเองแล้วไร้ราคา เราเห็นจนชาชิน ต้อง Apply จากคนอื่น เขามาเอา idea เราไปต่อยอดก็เยอะ อาหารไทย คนต่างชาติชอบมาก 😋มันมีสามรส เปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด ชาติไหนก็ไม่มี ที่ Balance เท่านี้ คนขายอาหารมาจากสุวรรณเขตเยอะมากนะ

'แจ็ค หม่า' มาไทย!! แวะชิมอาหารไทย ‘ร้านเจ๊ไฝ’ พร้อมเปรียบมวย ‘บัวขาว’ ที่ราชดำเนิน

‘แจ๊ค หม่า’ มาประเทศไทยอีกครั้งช่วงปีใหม่ พร้อมถ่ายรูปคู่ ‘เจ๊ไฝ’ และไปชมมวยที่ราชดำเนิน ก่อนทำท่าออกหมดเปรียบมวยกับ ‘บัวขาว’ เป็นที่ฮือฮาแก่ผู้พบเห็น 

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีคนดังจากต่างแดนมาเยือนเมืองไทยกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ‘แจ๊ค หม่า’ มหาเศรษฐีชื่อดังชาวจีน ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง โดยมีภาพปรากฏว่าได้เดินทางไปที่ ร้านเจ๊ไฝ ร้านอาหารชื่อดังระดับมิชลินของไทยพร้อมถ่ายรูปคู่กับ ‘เจ๊ไฝ’ เจ้าของร้าน

ขณะที่เจ๊ไฝได้โพสต์ภาพของแจ๊ค หม่า พร้อมด้วย สุภกิต และมาริษา เจียรวนนท์ พร้อมแคปชั่นว่า “มีความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมาก รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับคุณและครอบครัวที่ร้านเจ๊ไฝ”

นอกจากนี้สื่อ lifestyleasia ได้ระบุว่า แจ๊ค หม่า ได้เข้าไปชมมวยไทยที่สนามมวยราชดำเนินในโซนวีไอพี รวมถึงได้เจอกับ ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ นักชกมวยไทยชื่อดังระดับโลก โดยแจ๊ค หม่า ได้ตั้งท่าออกหมัดเปรียบมวยกับบัวขาว จนเป็นที่ฮือฮาของผู้พบเห็น 

'บิ๊กตู่' หนุน 6 โครงการลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ดูแล 'เด็ก-เยาวชน' ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.66 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นอกจากการดูแลสวัสดิการในทุกช่วงวัยแล้ว ยังมุ่งให้เด็กและเยาวชน ได้รับการศึกษาที่ดีมีมาตรฐาน ได้รับโอกาสทั่วถึง เท่าเทียมและทันสมัยก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วยปัตตานี นราธิวาส และยะลา ที่มีรายงานของสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่าภาคใต้เป็นภูมิภาคที่มีอัตราส่วนเด็กยากจนที่ขัดสนด้านการเรียนรู้ ในช่วงอายุ 5-17 ปี มากที่สุดร้อยละ 7.21 พล.อ.ประยุทธ์จึงเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วใน 6 โครงการ ดังนี้

1. หลักประกันการเข้าถึงโอกาสการศึกษา เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและคงอยู่ในระบบการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) โดยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีจำนวนนักเรียนทุนเสมอภาค จำนวน 123,309 คน

2. โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาสายอาชีพที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และความต้องการแรงงานฝีมือใน 10 สาขาวิชาหลัก ที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสในพื้นที่ให้เข้าถึงการศึกษาสายอาชีพในระดับระกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือ ปวช. และ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือปวส. จำนวน 521 คน 

3. โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น สร้างโอกาสให้แก่เยาวชนยากจนหรือด้อยโอกาสที่มีศักยภาพสูงและมีใจรักอยากเป็นครู ได้ศึกษาจนสำเร็จระดับปริญญาตรีในคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ และได้รับการบรรจุเป็นครูรุ่นใหม่ในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลซึ่งเป็นชุมชนบ้านเกิด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ไม่อาจยุบหรือควบรวมได้ (Protected School) ในสังกัด สพฐ. ปัจจุบันมีนักศึกษาครูรักษ์ถิ่นรวม 3 รุ่น (ปีการศึกษา 2563-2564-2565) ที่เมื่อจบการศึกษาจะได้รับการบรรจุจำนวน 156 คน ในโรงเรียนปลายทาง 137 แห่ง 

'กรณ์' ชูนโยบาย 'ยกเลิกแบล็กลิสต์-รื้อระบบสินเชื่อ' หวังช่วยผู้ประกอบการรายย่อย-SME ให้เดินหน้าธุรกิจต่อได้

(7 ม.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่อง 'แก้หนี้ ให้ชีวิตเดินหน้า' โดยระบุว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตระหนักดีว่าคำว่า 'หนี้' ไม่มีใครอยากเป็น แต่เวลาเป็นแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลุดจากวงจรนี้ ซึ่งนอกจากนโยบายหาเงินให้คนไทยแล้ว การแก้หนี้คือความเร่งรีบอันดับต้น ๆ ที่ตนต้องการแก้ และเคยทำมาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ปี 2552 แก้หนี้นอกระบบ 5 แสนราย ปี 2553 ปรับโครงสร้างหนี้กองทุนฟื้นฟู-เกษตรกร ปี 2554 ออกกฎหมาย 'กองทุนการออมแห่งชาติ' (กอช.) ปี 2559 ก่อตั้ง Refinn ช่วยคนไทยแก้หนี้ที่อยู่อาศัย ปี 2565 โครงการ 'กล้าปลดหนี้' ช่วยคนไทยเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และ ปี 2566 นโยบาย 'ยกเลิกแบล็กลิสต์' เสนอระบบ Credit Score

ส่วนกรณีที่มีบางคนระบุว่า คนที่เป็นหนี้คือคนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า อาจถูกส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป ในหลาย ๆ ครั้งเกิดจากวิกฤตที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น วิกฤตโควิด ที่ทำให้ผู้ประกอบการและ SME เป็นจำนวนมาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง และการกู้ยืมในระบบทำได้ยาก ตนในฐานะนักการเงินไม่อยากให้เกิดที่สุด คือ การกู้หนี้นอกระบบ การช่วยเหลือและออกนโยบายต่าง ๆ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งนี้ เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่าดอกเบี้ยโหดมาก และยากที่จะคืนเงินต้นได้ การติดแบล็กลิสต์ก็เช่นกัน ต่อให้ใช้หนี้ครบแล้วยังขึ้นจากเหวนี้ไม่ง่าย ตนจึงเสนอนโยบายปลดแบล็กลิสต์ แล้วใช้ระบบ Credit Scoring แทน ใครเครดิตดีก็กู้ได้มาก เครดิตไม่ดีก็กู้ได้น้อย นี่ก็เป็นวินัยทางการกู้รูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้คนเป็นหนี้ขึ้นมาจากเหวได้ 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top