Tuesday, 21 May 2024
ประเทศไทย

'อนุทิน' ปลื้ม!! 'สธ.-คมนาคม-ท่องเที่ยว' ประสานงานดีเยี่ยม มีแผนดูแล-ต้อนรับนักท่องเที่ยว หลังโควิด-19 ทุเลา

(7 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามผลงานของกระทรวงในการกำกับดูแลตลอดปี 2565 และช่วงก่อนหน้า ทั้งสาธารณสุข คมนาคม การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าหน่วยงานในกำกับได้มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีพอใจการดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับ โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทุกหน่วยงานได้ประสานการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่การแพร่ระบาดอยู่ในการควบคุม

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดกระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันการลงทุนโครงการที่อยู่ในแผนหลายโครงการ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายต่าง ๆ รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ทางด่วน มอเตอร์เวย์ สนามบิน ท่าเรือ ระบบโลจิสติกส์และการขนถ่ายสินค้า เพื่อเป็นเครื่องยนต์ประคองเศรษฐกิจได้ในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลงจากโรคระบาด และเตรียมประเทศให้พร้อมรับการกลับมาของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทันทีที่โควิด-19 คลี่คลาย 

“รองนายกฯ อนุทิน มั่นใจว่าขณะนี้ประเทศไทยมีความพร้อมรับทั้งนักท่องเที่ยว และนักลงทุน เพราะในช่วงโควิด-19 ระบาด ทุกหน่วยงานไม่ได้หยุดรออะไร แต่เดินหน้าตามแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อพ้นโควิด-19 แล้ว นักท่องเที่ยว นักลงทุนจะต้องมาประเทศไทย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

‘บิยอร์น บอร์ก’ พาครอบครัวพักผ่อนช่วงปีใหม่ที่ภูเก็ต โพสต์ภาพพร้อมแคปชัน “Happy times in #Thailand”

ต้องยอมรับเลยว่าตั้งแต่ผ่านช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ประเทศไทยดูจะฮิตฮอตมากจริงๆ เพราะเหล่าคนดังจากทั่วโลกต่างตบเท้าจองตั๋วบินมาเที่ยวที่ประเทศไทยกันเป็นว่าเล่น เท่านั้นยังไม่พอ ยังโพสต์ภาพอวดชาวโลกถึงความสวยงาม ความประทับใจที่ได้มาเที่ยวในประเทศไทยอีกด้วย 

ไม่เว้นแม้แต่ ‘บิยอร์น บอร์ก’ (Björn Borg) อดีตนักเทนนิสชายมือวางอันดับหนึ่งของโลกชาวสวีเดน ที่ก็พอครอบครัวมาเที่ยวที่ประเทศไทย โดยใช้ช่วงเวลาพักผ่อนช่วงปีใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต 

โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…ช่วงคืนส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ 2023 ‘บิยอร์น บอร์ก’ (Björn Borg) อดีตนักเทนนิสชายมือวางอันดับหนึ่งของโลกชาวสวีเดน ได้พาครอบครัวมาพักผ่อนและฉลองปีใหม่ที่ #ภูเก็ต #Phuket พร้อมได้โพสต์ลง IG และล่าสุดได้ลง FB ย้ำว่า “Happy times in #Thailand”

‘อนุทิน’ ร่วมต้อนรับ นทท.จีน เที่ยวบินแรก ย้ำ!! ไม่ต้องแสดงใบรับวัคซีนโควิด-19

(9 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการต้อนรับผู้เดินทางเที่ยวบินแรกหลังจากจีนเปิดประเทศ ว่า เที่ยวบินแรกมาจากเซี๊ยะเหมิน จำนวน 269 คน ในวันนี้จะมีเที่ยวบินจากจีนเข้ามา 15 เที่ยวบิน จำนวน 3,465 คน คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีผู้เดินทางจากจีนเข้าไทยราว 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนมีโควิด-19 มีราว 20 ล้านคน และผู้เดินทางจากทั่วโลกเข้าไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นสัญญาณดีต่อภาคการท่องเที่ยว คนมีงานทำ และมีโอกาส

“ทั้งหมดเข้ามาภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทย ซึ่งมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นมาตรการที่เหมือนกันสำหรับผู้เดินทางเข้าไทยจากทุกประเทศ และมั่นใจประเทศไทยมีความพร้อมรับผู้เดินทางจากทุกประเทศ ไม่มีการแบ่งแยกจนกว่าจะมีความจำเป็น” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับมาตรการผู้เดินทางเข้าไทยนั้น ยกเลิกการแสดงเอกสารฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป เนื่องจากคณะกรรมการวิชาการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีการประชุมเมื่อช่วงเช้า มีความเห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยครอบคลุมจำนวนมาก รวมถึง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็มีการฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว ขณะที่การกำหนดให้แสดงเอกสารฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดความไม่คล่องตัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องแสดง ฉะนั้น มาตรการเข้าไทยตอนนี้ คงเหลือต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดว่าเมื่อจะกลับเข้าประเทศนั้น ๆ จะต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อที่หากตรวจพบเชื้อแล้วต้องรักษาในประเทศไทย จะได้มีการรองรับค่าใช้จ่าย

‘ก.ท่องเที่ยว’ ชี้ ‘นทท.จีน’ เข้าไทยมากที่สุด คาด!! ภายในปี 66 ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน

(10 ม.ค. 66) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยในโอกาสนักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางเข้าไทยหลังจากรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 ว่า ททท.คาดว่าตลอดปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน กลับมาเป็นชาติที่เข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 ครองสัดส่วน 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปีนี้ ที่คาดไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยยกเลิกตรวจใบรับรองฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate) ก่อนเข้าประเทศแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวชาติที่ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อนกลับประเทศ เช่น จีน อินเดียนั้น ต้องซื้อประกันสุขภาพวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ เพราะหากผลตรวจเป็นบวกก่อนกลับประเทศ จะได้รักษาในโรงพยาบาลในไทย โดยไม่ต้องเป็นภาระงบประมาณของไทย

‘พิธา’ เผย เลือกตั้ง 66 ชี้ชะตาประเทศไทย ยืน!! หากกา ‘ก้าวไกล’ อนาคตสดใสแน่นอน

‘พิธา’ ชี้ เลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ ประชาชนต้องเลือกระหว่างอดีตกับอนาคต ปฏิเสธพรรคสืบทอดอำนาจ ทั้งพรรคประยุทธ์-พรรคประวิตร ย้ำ กาก้าวไกล ประเทศไม่เหมือนเดิม แนะ นายกฯ แข่งขันการเมืองแฟร์เพลย์-ร่วมเวทีดีเบต-ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

(10 ม.ค. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า จริง ๆ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก เป็นนักการเมืองตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจใช้กำลังยึดอำนาจการเมืองการปกครองของประเทศแล้ว ที่แย่ก็คือท่านเป็นนักการเมืองที่ไม่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตย ในขณะนั้นประชาชนเลือกอะไรไม่ได้เพราะถูกใช้กำลังบังคับข่มเหง แต่ในเมื่อตอนนี้ ท่านแสดงเจตนารมณ์จะอยู่ต่อให้นานที่สุดเช่นนี้แล้ว ก็เป็นอำนาจของประชาชนที่จะสามารถพิพากษาเอาท่านออกจากการเมืองได้โดยกลไกที่สงบและเรียบง่ายที่สุด นั่นก็คือการลงคะแนนเลือกตั้ง

พิธากล่าวว่า ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงสำคัญมาก นั่นคือประชาชนจะเลือกตั้งเพื่อปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมออกไปจากการเมือง และยืนยันหลักประชาธิปไตย โดยการไม่เลือกพรรคการเมืองสืบทอดอำนาจ อย่างพรรคสังกัดของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐประหาร และถึงเวลาแล้วที่ท่านในฐานะนักการเมืองจะมาแข่งขันกับนักการเมืองด้วยกันแบบแฟร์เพลย์ ไม่ใช้เทคนิควิธีการหรือช่องโหว่ที่ตัวเองร่างกฎหมายมาเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบมากกว่านักการเมืองคนอื่น และต้องเปิดกว้างต่อการตรวจสอบสาธารณะ ไปร่วมทุกเวทีดีเบตประชันนโยบายและจุดยืนการเมืองให้ประชาชนได้เปรียบเทียบกับพรรคอื่น ๆ อย่างรอบด้าน ยื่นบัญชีทรัพย์สินให้โปร่งใส ตอบคำถามของสังคมให้กระจ่างชัดในหลายกรณีทุจริตที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลของท่านและตัวท่านเองด้วย

‘อนุสรณ์’ จวก ‘ประยุทธ์’ หักหลังประชาชน เป็นนายกฯ ของพปชร. แต่ดันสมัครเข้า รทสช.

(10 ม.ค. 66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติจัดอีเวนต์เปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้าเป็นสมาชิกพรรคว่า

พล.อ.ประยุทธ์อาจจำไม่ได้ หรือเลือกไม่จำว่า 8 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น 8 ปีที่แปดเปื้อน พล.อ.ประยุทธ์ทำประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาสไปมากแค่ไหน ก่อนจะรวมไทยสร้างชาติในวันนี้ ทำไมวันนั้นต้องชัตดาวน์ประเทศ ไหนม็อบนกหวีด กปปส. บอกว่าไม่ปฏิรูป ไม่ยอมให้เลือกตั้ง 8 ปีที่ผ่านมาปฏิรูปอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง นอกจากทำการเมืองล้าหลังย้อนยุคไปสู่ Money Politics ธนกิจการเมือง ประชาธิปไตยแบบแจกกล้วย จับปลาจากบ่อเพื่อน พล.อ.ประยุทธ์จะตอบประชาชนที่เขาสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐอย่างไร เป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ดันสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่น แต่ขอเป็นนายกฯต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถือเป็นการทรยศหักหลังประชาชนหรือไม่ 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย นโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีประกาศตอนอยู่พรรคพลังประชารัฐ แล้วทำไม่ได้จะรับผิดชอบอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งคนในพรรครวมไทยสร้างชาติมารับตำแหน่งในรัฐบาลแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่คำนึงถึงหลักคุณธรรมจริยธรรม ไม่มีธรรมาภิบาล คนในพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาล จะคิดอย่างไรไม่สนใจ พล.อ.ประยุทธ์หมดตัวเล่น แต่ก็ยังเดินหน้าตั้งคนหน้าเดิม ๆ ที่ใกล้ชิดตัวเองมารับเงินเดือนจากภาษีประชาชน เหมือนตอนเป็นหัวหน้าคสช. มีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้ แบบนี้ถูกต้องหรือไม่

นักท่องเที่ยวติดใจรสชาติ ‘น้ำมะพร้าวไทย’ ยกให้เป็นเบอร์ 1 เมื่อเทียบ 'อินโดฯ-เวียดนาม'

นักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่ง ยกนิ้วให้น้ำมะพร้าวจากประเทศไทย พร้อมยกให้เป็นนัมเบอร์วัน เมื่อเทียบกับอีกสองชาติเพื่อนบ้านเรา เพราะด้วยความหอมหวาน ลูกมะพร้าวสวยงาม และกินเนื้อมะพร้าวได้ง่าย

ของกินในเมืองไทย ถูกเลือกให้ติดอันดับโลกในหลาย ๆ ครั้ง ทั้งอาหารคาว-หวาน รวมถึงผลไม้ ที่มีเสียงชื่นชมจากนักท่องเที่ยวหลายคนที่เดินทางมาลองชิมที่เมืองไทย ล่าสุดนี้ ผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @dineandwander ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติท่านหนึ่ง ได้โพสคลิปที่เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศไทย โดยในแต่ละประเทศ เธอได้ทดลองชิมน้ำมะพร้าวจากลูกมะพร้าว และได้รีวิวให้คะแนนน้ำมะพร้าวจากชาติต่าง ๆ ดังนี้

อินโดนีเซีย - ให้ 5/10 คะแนน โดยมีรูปลักษณ์ภายนอกสวยงาม แต่ด้านในน้ำมะพร้าวมีรสเปรี้ยว

เวียดนาม - ให้ 8/10 คะแนน ลูกมะพร้าวด้านนอกไม่สวย แต่ด้านในน้ำมะพร้าวอร่อยและสดชื่น

ไทย - ให้ 10/10 คะแนน ลูกมะพร้าวสวยงาม มีความหอมหวานรสกลมกล่อม แถมเนื้อมะพร้าวใช้ช้อนตักมากินได้ง่าย

ส่องความคิดเห็น ‘ชาวเวียดนาม’ หลังนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกเข้าไทย

หลังจากเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ก็พลันกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านชาวเวียดนามที่มีทั้งชื่นชม เหน็บแนม และตัดพ้อประเทศตนที่ไม่สามารถดึงคนจีนเข้าประเทศได้เช่นเดียวกันไทย 

โดยในสาระสำคัญที่ชาวเวียดนามได้พูดคุยกันในโลกโซเชียลนั้น เป็นการขยายความจากประเด็น ‘ป้ายแบนเนอร์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ ที่ได้มีการเขียนข้อความต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ ซึ่งชาวเวียดนามดูเหมือนจะอึ้ง และให้ความสนใจกับป้ายนี้เป็นอย่างมาก

กระทู้จุดติดในโลกโซเชียลของชาวเวียดนามเริ่มขึ้นจากการลงรูปนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรก ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทย พร้อมกับแคปชันข้อความเชิงคำถามที่ว่า “นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทย 269 คนแรก ลองดูว่าคนไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างไร?” คำตอบที่ได้คือ บนแบนเนอร์ต้อนรับของไทยมีการแสดงความใกล้ชิดอย่างถึงที่สุด ด้วยคำพูดที่ว่า “จีน-ไทย คือ พี่น้องครอบครัวเดียวกัน ยินดีต้อนรับคนจีนกลับบ้าน” ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มองไปในภาพเดียวกันว่า นี่เป็น ‘กลยุทธ์ขั้นเซียน’ ของไทยในการโกยหัวใจนักท่องเที่ยวจีนได้อย่างมาก

โดยหลังจากโพสต์นี้ถูกนำเสนอออกไป ก็ได้มีชาวเวียดนามได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นไว้ต่าง ๆ นานา ดังนี้...

>> ในมุมบวกต่อการต้อนรับครั้งนี้ของไทย...
1. “นี่คือตลาด 1,400 ล้านคน” 
2. “ประเทศไทย ไม่ได้มีดีแค่ในทีวี” 

3. “คนจีนคิดถึงประเทศไทย เวลาพวกเขาต้องการไปท่องเที่ยว พวกเขาก็จะนึกถึงเมืองไทย ในขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของเวียดนามยังแย่มาก คนจีนที่มาเที่ยวเวียดนาม มีคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนน้อย การส่งเสริมการท่องเที่ยวของเราไม่ค่อยได้ผล”

4. “เนื่องจากเมืองไทยมีสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ ราคาก็ถูก คนจีนก็เลยชอบมาก”  
5. “ประเทศไทยมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศจีน ทุก ๆ ปี จะมีการโปรโมตการท่องเที่ยวไทยที่ประเทศจีน” 

6. “ต้องขอบอกว่านักท่องเที่ยวจีนนั้น มีการใช้จ่ายสูงกว่าพวก Backpacker ที่มักจะนอนโรงแรมราคาถูก หนุ่มสาวชาวจีนที่เดินทางมาก็ดูดีมาก” 
7. “คนจีนใช้จ่ายอันดับ 1 อยู่ตลอดเวลา คนตะวันตกนั้นขี้โม้!”

‘ชาวต่างชาติ’ ประทับใจ!! คนไทยเคารพกันและกัน พร้อมบอก ‘เมืองไทยปลอดภัย ไม่กังวลเรื่องของหาย’

หากบอกว่า ‘ชาวต่างชาติชอบประเทศไทย’ ก็คงต้องบอกว่าคนไทยรับรู้และภาคภูมิใจมาก ๆ กันอยู่แล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไรก็มีข่าว คลิป หรือข้อความจากต่างชาติที่ชื่นชมประเทศไทยหลุดออกมาให้เราได้ชื่นใจกันบ่อย ๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่ทำให้ต่างชาติชอบประเทศไทย ไม่ได้มีแค่ อาหารอร่อย แหล่งท่องเที่ยวสายงามเท่านั้น อีกอย่างที่คนไทยมัดใจชาวต่างชาติได้ก็คือ ‘นิสัย’ ที่ไม่เหมือนชนชาติอื่น บางอย่างเรามองว่าเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่บ่อย ๆ แต่ชาวต่างชาติไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เพราะเขากลับรู้สึกว่า ‘มหัศจรรย์’ 

สำหรับเรื่องนิสัยคนไทยที่ชาวต่างชาติประทับใจ เพจเฟซบุ๊กสอนภาษาอังกฤษชื่อ ‘English Munmun - เรียนชาตินี้ เก่งถึงชาติหน้า’ ก็ได้แชร์คลิปสัมภาษณ์ความรู้สึกของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถามถึงนิสัยของคนไทยที่เคยพบเจอ โดยเจ้าของเพจตั้งคำถามแรกว่า “คนไทยในประสบการณ์ของคุณเป็นอย่างไร?”

โดยชาวต่างชาติก็ตอบว่า “ผมมีประสบการณ์ที่ดีมากหลายอย่างในประเทศไทย อย่างแรกเลยผมเห็นคนไทยให้ความเคารพกันอย่างมาก ทุกคนจิตใจดีมาก ๆ ผมไม่เคยโดนขโมยของในไทยเลย ต่อให้ผมวางคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ที่โต๊ะนี้แล้วไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ไม่กังวล” 

ชาวต่างชาติเล่าเพิ่มอีกว่า “ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับที่อเมริกาใต้ว่าคนวางคอมพิวเตอร์ทิ้งเอาไว้ในร้านกาแฟ จากนั้นก็โดนขโมยไป”

จากนั้นชาวต่างชาติก็พูดต่อด้วยท่าทางมีความสุขอีกว่า “แต่ผมรู้สึกดีใจที่ได้อยู่ในที่ ๆ ผู้คนให้ความเคารพกัน ผู้คนมีความนอบน้อมให้กันและกัน คนตะวันตกจำนวนมากที่ไม่เคยไปต่างประเทศ จะรู้สึกกลัวที่จะไปเมืองนอก พวกเขาจะคิดว่าอาจจะมีคนอันตราย เช่นขโมยของ ๆ เรา แต่ในประเทศไทย เรื่องแบบนั้นไม่เคยเกินขึ้นกับผมเลย”

สื่อเวียดนาม ชี้ ‘ประเทศไทย’ ครองอันดับ 1 ‘ชาวต่างชาติ’ สนใจมาท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน

(17 ม.ค. 66) สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม เสนอข่าว Thailand most searched Asia-Pacific destination for Lunar New Year อ้างข้อมูลจาก Sojern แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวของจีน ซึ่งพบว่า ประเทศไทยครองสัดส่วนร้อยละ 27 ของการค้นหาข้อมูลเที่ยวบินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วงเทศกาลตรุษจีนครั้งนี้ โดยมาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่อันดับสองคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 19 และอันดับสามคือ สิงคโปร์ ร้อยละ 18 ซึ่งจุดเด่นของไทยอย่างหนึ่งคือมีนโยบายวีซ่าที่เปิดกว้าง

เช่นเดียวกับข้อมูลการค้นหาเที่ยวบินในระดับเมือง พบว่า ประเทศไทยติดอันดับมาถึง 2 แห่ง คือกรุงเทพฯ อยู่ในอันดับหนึ่ง ร้อยละ 22 และภูเก็ต อยู่ที่ร้อยละ 7 ครองอันดับสี่ร่วมกับกรุงไทเปของไต้หวัน ส่วนอันดับสองคือกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ร้อยละ 15 และอันดับสามคือกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ร้อยละ 9 โดยวันตรุษจีนซึ่งเป็นการนับปีใหม่ทางจันทรคติ ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 22 ม.ค. 2566  เช่นเดียวกับข้อมูลจาก Ctrip บริษัททัวร์สัญชาติจีน พบว่า ไทยเป็นเป้าหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงตรุษจีน ขณะที่เมื่อช่วงวันที่ 27 ธ.ค. 2565-1 ม.ค. 2566 มีการจองการเดินทางขาเข้าจากไทยไปจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 101


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top