Thursday, 2 May 2024
ปตท

คนใช้รถเฮ!! ‘ปตท.-บางจาก’ ปรับลดราคา ‘เบนซิน-แก๊สโซฮอล์’ ลงอีก 40 สตางค์/ลิตร

(5 ธ.ค. 66) ปั๊มน้ำมันแจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลด 40 สตางค์ กลุ่มดีเซลคงเดิม 

ด้าน PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลดลง 0.40 บาท/ลิตร สำหรับกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 5 ธ.ค. 2566 เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้…

- ULG = 43.54 บาท
- GSH95 = 35.65 บาท
- E20 = 33.54 บาท
- GSH91 = 33.88 บาท
- E85 = 33.69 บาท
- พรีเมี่ยม GSH95 = 43.44 บาท
- HSD-B7 = 29.94 บาท
- HSD-B10 = 29.94 บาท
- HSD-B20 = 29.94 บาท
- พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 41.54 บาท

***ทั้งนี้ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร***

ด้าน บางจากฯปรับราคาน้ำมันเฉพาะกลุ่มแก๊สโซฮอล์ลดลง 0.40 บาท/ลิตร สำหรับกลุ่มดีเซลคงเดิม…

- GSH95S EVO 36.05 บาท
- GSH91S EVO 34.28 บาท
- GSH E20S EVO 33.94 บาท
- GSH E85S EVO 34.09 บาท
- Hi Premium 97 (GSH95++) 47.74 บาท
- Hi Diesel B20S 29.94 บาท
- Hi Diesel S 29.94 บาท
- Hi Diesel S B7 29.94 บาท
- Hi Premium Diesel S B7 43.64 บาท

(ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.)

กลุ่ม ปตท. จุดพลัง ‘สุดยอดนักขาย’ และ ‘สุดยอดไอเดียการตลาด’ มอบรางวัล ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023’

เมื่อไม่นานมานี้ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ นางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานใน พิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ ภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เพื่อนำความรู้จากสถาบันการศึกษามาใช้วางแผนการตลาดให้กับสินค้าชุมชน และแข่งขันจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในโครงการชุมชนยิ้มได้ ซึ่งมีเยาวชน 30 ทีม จาก 10 มหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการฯ โดย ปตท. และผู้สนับสนุน ร่วมมอบเงินรางวัลรวมมูลค่า 65,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานของนิสิต นักศึกษา

นางกนกพร รอดรุ่งเรือง กล่าวว่า โครงการ ‘Young Influencer Challenge Thailand 2023 : ชวน U สร้างรอยยิ้ม’ เป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงพลังและปลุกไอเดียความคิดสร้างสรรค์ พร้อมนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้พัฒนาแผนการตลาดจำหน่ายสินค้าชุมชนในโครงการ ‘ชุมชนยิ้มได้ โดย กลุ่ม ปตท.’ ผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างประสบการณ์จริง ซึ่งตลอดการแข่งขันในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เยาวชนทั้ง 30 ทีม กว่า 137 คน จาก 10 มหาวิทยาลัย ได้แสดงศักยภาพในการสื่อสารการตลาดทางออนไลน์ให้กับสินค้ากับชุมชน โดยศึกษาอัตลักษณ์สินค้าชุมชนร่วมกับชุมชนเจ้าของสินค้านั้น ๆ อย่างจริงจัง จนมาสู่การวางแผนการตลาด ทำให้สามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง www.ชุมชนยิ้มได้.com รวมเป็นเงิน 547,048 บาท ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ส่งเสริมให้สินค้าชุมชนในโครงการฯ เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น 

อีกทั้ง เยาวชนยังได้มอบความรู้ทางการตลาด และสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนในการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ขณะเดียวกัน โครงการฯ นี้ยังเป็นการจุดประกายความตระหนักในบทบาทของเยาวชนไทยในการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนยั่งยืนได้ พร้อมเป็นกำลังที่สร้างอนาคตของชาติต่อไปด้วย

สำหรับรางวัลในการแข่งขันโครงการ Young Influencer Challenge Thailand 2023 ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดนักขาย (Best Seller Award) จำนวน 5 รางวัล โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มอบรางวัลทีมที่ยอดจำหน่ายสูงสุด มูลค่า 25,000 บาท และมอบ รางวัลสุดยอดไอเดียการตลาด (Best Idea Award) จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 5,000 บาท ซึ่งมีการประชันไอเดียจาก 4 ทีมที่มีแผนการตลาดโดดเด่น โดยไม่เกี่ยวกับยอดขาย เพื่อตัดสินรางวัลภายในพิธีฯ โดยมีรายชื่อทีมผู้ชนะ ดังนี้

รางวัล Best Seller Award :  
• รางวัลชนะเลิศ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สินค้า ‘Mango Cornflake Cookie’ จ.สระบุรี 
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 : มหาวิทยาลัยศิลปากร สินค้า ‘หมี่กรอบน้ำมะดันผสมธัญพืช’ จ.นครนายก
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สินค้า ‘กล้วยเส้น’ จ.เลย
• รางวัลชมเชย (2 รางวัล) : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สินค้า ‘กระเป๋าสานกระจูดหูยาว’ จ.ระยอง
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สินค้า ‘น้ำผึ้งแท้จากดอกลำไย’ จ.เชียงใหม่  

“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันในโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สามารถส่งเสริมการขายสินค้าชุมชนด้วยไอเดียการตลาดที่สอดรับเทรนด์การขายสินค้าออนไลน์ ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งช่องทางและแผนการตลาดที่พัฒนาผ่านโครงการฯ ครั้งนี้ สามารถส่งต่อแก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมการขายและเป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าในอนาคตได้ นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่ได้สนับสนุนพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงฝีมือ และพร้อมที่จะผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรเพื่อเป็นพลัง ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นางกนกพร กล่าว

‘CEO ปตท.’ คว้ารางวัลวิศวกรผลงานโดดเด่น  จากสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Outstanding Engineer Award จาก ดร.ประเสริฐ  สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะวิศวกรที่มีผลงานโดดเด่นและน่ายกย่องในวิชาชีพวิศวกรรม รวมถึงการทำประโยชน์ต่อสังคม และส่งเสริมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับด้านไฟฟ้าและพลังงาน ในงาน IEEE PES Dinner Talk 2023 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) หรือ IEEE Power & Energy Society (Thailand) 

นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ การตอบสนองความต้องการด้านพลังงานในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านนโยบายและทิศทางการพัฒนาพลังงานแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย

‘ปตท.’ รับรางวัลสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน  จากเวที ‘Thailand Corporate Excellence Awards 2023’

เมื่อไม่นานมานี้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2023 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยมี นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน เป็นผู้แทน ปตท. เข้ารับรางวัลในสาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Excellence) รางวัลดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการในสาขาต่าง ๆ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ตลอดจนดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป

‘พีระพันธุ์’ ลั่น!! อยากตรึงค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. 67 ไว้ที่ 3.99 ชี้!! อาจต้องให้ ‘ปตท.-กฟผ.’ ช่วยแบกรับแทนประชาชนไปก่อน

(8 ธ.ค.66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย.67 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป ว่า ขณะนี้กำลังพยายามหาแนวทางหลากหลายรูปแบบในการดำเนินการ เพื่อทำให้ค่าไฟต่ำกว่า 4.68 บาทตามที่ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศล่าสุด

อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับก่อนว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้แบบที่ใจคิด เนื่องจากมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย โดยการที่จะให้ค่าไฟลดลง 10 สตางค์ จะต้องมีค่าใช้จ่าย หรือผู้ที่ต้องแบกรับภาระตั้งแต่ 1,000-10,000 ล้านบาท 

“การพยายามจะตรึงราคาค่าไฟไว้ที่ระดับเดิม 3.99 บาทต่อหน่วยคงทำได้ยาก เพราะราคาค่าก๊าซธรรมชาติที่นำมาใช้ผลิตไฟมีการปรับขึ้นราคาในช่วงฤดูหนาว แต่จะพยายามทำให้ต่ำที่สุด”

ขณะที่ประเด็นที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต้องการให้ค่าไฟงวดใหม่อยู่ที่ราคา 4.10 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่ 4.20 บาทต่อหน่วยตามที่กระทรวงพลังงานเคยระบุว่าจะดำเนินการก่อนหน้านี้นั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวต้องการให้อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยมากกว่า

“การจะปรับลดค่าไฟไม่ใช่อยู่ที่การพูดว่าต้องการเท่าไหร่ แต่อยู่ที่หลายภาคส่วนประกอบกัน เช่น ผู้ประกอบการจะอยู่ได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันไม่ใช่มีแค่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เท่านั้น แต่ยังมีผู้ประกอบการภาคเอกชนด้วย ซึ่งบางรายเพิ่งฟื้นจากสถานการณ์โควิด19 หากเอกชนที่เป็นรายเล็กบางรายอยู่ไม่ได้ ก็อาจจะทำให้มีไฟฟ้าไม่เพียงพอ ซึ่งคงวุ่นวายไปมากกว่านี้ ดังนั้น ต้องคิดอย่างรอบคอบให้เกิดความเป็นไปได้ของทุกส่วน ต้องแก้ปัญหาให้เป็นวงกลม”

นอกจากนี้ การที่จะดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ใช้ไฟเกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะต้องนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาเห็นชอบด้วยในวันที่ 13 ธันวาคม 2566

สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือ แน่นอนว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ เพราะเป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องก๊าซธรรมชาติ เช่นเดียวกับ กฟผ. ที่อาจจะต้องแบกรับภาระเพื่อประชาชนอีก

ส่วนจะใช้โอกาสดังกล่าวนี้ในการปรับโครงสร้างพลังงานทั้งระบบเลยหรือไม่นั้น ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาเพื่อไม่ให้ปัญหาทางด้านพลังงานจะต้องเกิดขึ้นทุก 3-4 เดือนที่จะมีการประกาศค่าไฟงวดใหม่ โดยกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหา เพื่อนำมาแก้ไข

“ตอนนี้คงต้องทำตามโครงสร้างเดิมก่อน เพราะเป็นแบบนี้มามากกว่า 40 ปีแล้ว แต่ก็พยายามหาทางทุกมิติว่าจะปรับโครงสร้างพลังงานอย่างไร เพื่อให้ราคาลดลงได้ด้วยตัวเอง และไม่เพิ่มภาระให้ประชาชน หรือเรียกว่าปลดแอกจากราคาที่ขึ้นอยู่กับตลาดโลกเป็นปัจจัยหลักสำคัญ”

‘on-ion’ จับมือ ‘เกทเวย์ แอท บางซื่อ’ เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ 66 พร้อมจัดโปรโมชั่นสุดคุ้มส่งท้ายปี 2566 เอาใจผู้เข้าใช้บริการ

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย นางณัฐสุดา สกุลไพสิฐ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และสนับสนุนองค์กร บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) นางสาวเอกกฤตา แก้วพูลศรี General Manager ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ และนายนนทวรรษ เรืองจันทร์ Retail Sales and Tenant Services Team Lead ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ ร่วมเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า on-ion (ออน-ไอออน) เกทเวย์ แอท บางซื่อ ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) และเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสตรง (DC Charger) ขนาดกำลังไฟสูงสุด 40 กิโลวัตต์ รวมทั้งหมด 8 ช่องจอด 

ด้วยประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเข้าใช้บริการง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มส่งท้ายปีให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการภายในศูนย์การค้าครบ 500 บาทต่อวัน รับส่วนลดเครดิตชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฟรี มูลค่าสูงสุด 50 บาท ตั้งแต่ วันนี้ - 31 มกราคม 2567 หรือจนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ์ 

นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC Charger พิเศษเพียง 8.5 บาทต่อหน่วย (จากปกติค่าบริการ 9.5 บาทต่อหน่วย) มาที่นี่ทุกอย่างครบจบไว ได้ทั้งชอปปิ้ง และยังได้ชาร์จไฟรถอีกด้วย โดยกลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ on-ion ให้ทั่วประเทศภายในปี 2567 พร้อมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและขับเคลื่อนสังคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้ก้าวไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

‘นูออโว พลัส’ ผนึก ‘โกชั่น’ เปิดโรงงาน ‘เอ็นวี โกชั่น’ ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เสริมแกร่งตลาดรถ EV ไทย

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ Mr. Li Zhen ประธานกรรมการ บริษัท โกชั่น ไฮเทค จำกัด ร่วมเปิดโรงงานและเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ของ บริษัท เอ็นวี โกชั่น จำกัด (NV Gotion) ณ สวนอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค 2 อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดย เอ็นวี โกชั่น เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท นูออโว พลัส จำกัด (Nuovo Plus) และ บริษัท โกชั่น ไฮเทค จำกัด (Gotion) ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49% ตามลำดับ ด้วยทุนจดทะเบียนมากกว่า 600 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า ประกอบ และจัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอรี่และชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงสู่ตลาดภายในปี 2566 ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 2 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี และพร้อมขยายกำลังการผลิตเป็น 8 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปีในอนาคต 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ด้วยตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก จึงนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบตเตอรี่คุณภาพสูงมาสู่อุตสาหกรรมไทย เพื่อตอบโจทย์ทิศทางธุรกิจพลังงานใหม่ของโลก ภายใต้การดำเนินงานของนูออโว พลัส ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) (ถือหุ้น 100% โดย ปตท.) และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ที่เข้ามาช่วยเร่งพันธกิจการสร้าง EV Value Chain และธุรกิจพลังงานสะอาดของ กลุ่ม ปตท. โดยการเกิดขึ้นของโรงงานประกอบชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนระดับ Giga Factory (กิกะแฟกทอรี) ในประเทศไทยแห่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศไทยจากการเป็นผู้นำเข้า ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิต และพัฒนาตัวเองสู่การเป็นผู้ส่งออกแบตเตอรี่ลิเธียมในอนาคต จากความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างโกชั่นนี้ 

กลุ่ม ปตท. มั่นใจว่าเอ็นวี โกชั่น จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถรักษาจุดยืนความเป็นผู้นำของฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค ตอบสนองแนวทางของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ออกมาตรการผลักดันเป้าผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 30% ในปี 2573 รวมถึงการการสนับสนุนเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาดตามแผนพลังงานชาติในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าใหม่ โดยมีสัดส่วน Renewable Energy ไม่น้อยกว่า 50% ได้อย่างแน่นอน

‘ปตท.’ ติดอันดับ 1 ใน 5 DJSI ต่อเนื่อง 12 ปี  สะท้อนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

เมื่อไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI กลุ่มดัชนีโลก (World Index) รวมถึงดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 และติดอันดับ 1 ใน 5 องค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมในกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. และเป็นเครื่องหมายการันตีให้กับนักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นถึงการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ 

จากผลการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ที่ ปตท. กำหนดไว้ใน ‘แผนแม่บทการบริหารจัดการความยั่งยืน’ ครอบคลุม 3 มิติ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) โดยในด้านสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า ก้าวสู่อุตสาหกรรมอาหารและยา พร้อมร่วมทุนกับภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนและดำเนินการในธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ในปี 2565 รายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้ มากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ในปี 2564 รวมทั้งในปีนี้ ปตท. ได้เริ่มต้นโครงการปลูกป่าอีก 1 ล้านไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพลิกฟื้นผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2593 

อีกทั้งด้านสังคม ปตท. ให้ความสำคัญกับ ‘การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน’ มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต พร้อมทั้งสร้างคุณค่าร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชมและสังคม สำหรับด้านการกำกับดูแล ปตท. ปฏิบัติตามหลักการกำกับกิจการที่ดีและมีจริยธรรม ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เร่งสร้างการเติบโตและผลักดันเศรษฐกิจ พร้อมเป็นกำลังสำคัญเพื่อร่วมจุดพลังทุกชีวิต และขับเคลื่อนอนาคตที่ดีให้กับประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI อีกด้วย 

อนึ่ง DJSI เป็นดัชนีสากลที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

‘ปตท.’ ผนึกกำลัง ‘ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ - มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น (ญี่ปุ่น)’ ปั้นโปรเจกต์ทดสอบรถพลังงานสะอาด มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน 

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), Mr.Takashi Hata, President of Tri Petch Isuzu Sales Company Limited และ Mr. Shigeru Wakabayashi, EVP, Group CEO, Automotive & Mobility Group Misubishi Corporation ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาโครงการทดสอบรถพลังงานสะอาดเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ และบริษัท มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) 

โดยโครงการดังกล่าวประกอบด้วยการทดสอบการวิ่งใช้งานจริงของรถบรรทุกไฟฟ้าอีซูซุ โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ผ่านระบบบริหารจัดการพลังงาน ระบบชาร์จ และ EV Ecosystem ของ ปตท. 

นอกจากนี้ ยังมีโครงการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับรถยนต์ดีเซล โดยการทดสอบใช้ HVO         (Hydro Vegetable Oil) หรือน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว รวมทั้งร่วมกับมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ศึกษาวิจัยน้ำมัน e-fuels ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสามารถใช้งานในเครื่องยนต์สันดาปที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทยให้สำเร็จได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

‘นายกรัฐมนตรี’ ร่วมเปิดงาน 45 ปี ปตท. ขอบคุณทุกภาคส่วน  สนับสนุนพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานเพื่อคนไทย

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดงานขอบคุณคนไทยแบบคาร์บอนนิวทรัล อีเวนต์ (Carbon Neutral Event) ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ โดยใช้คาร์บอนเครดิตจากการปลูกป่ามาชดเชยในการฉลองสู่ปีที่ 45 นับตั้งแต่ก่อตั้ง การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจเมื่อปี พ.ศ. 2521 เดินหน้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2544 จากการสนับสนุนของคนไทยทุกคน ผนวกกับความทุ่มเทของผู้บริหารและพนักงานจากรุ่นสู่รุ่น พิสูจน์ได้ถึงการมุ่งสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมฝ่าทุกวิกฤตและร่วมดูแลสังคมไทยตลอดมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ‘PTT 45th Anniversary’ Ignite Life Potential งานเลี้ยงรับรองขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ปตท. ร่วมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มีส่วนสนับสนุน ปตท. มาโดยตลอด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปตท. เป็นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่ที่อยู่คู่สังคมไทยอย่างยาวนาน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวพ้นวิกฤตการณ์ด้านพลังงานเสมอมา และมีส่วนร่วมผลักดันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญผ่านโครงการดี ๆ เพื่อพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวไทย วันนี้เป็นโอกาสอันดียิ่งที่ได้แสดงความยินดีกับ ปตท. ให้กิจการมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นพลังของประเทศต่อไป

นายอรรถพล เปิดเผยว่า การก้าวสู่ปีที่ 45 ในปี พ.ศ. 2566 ของ ปตท. อาจเปรียบเทียบได้กับวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากพอที่จะเรียนรู้จากอดีตและมองถึงอนาคต มีความรับผิดชอบ และทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนเคียงข้างกับคนทุกวัย ซึ่งกิจกรรมวาระพิเศษในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเสมือนตัวแทนของประชาชนทุกภาคส่วน ที่สนับสนุนการเติบโตของ ปตท. มาตลอด ในฐานะบริษัทพลังงานของคนไทย ที่มีภารกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนแก่สังคม

“ตลอด 45 ปีของการเติบโตจนถึงวันนี้ ปตท. ขอให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่หยุดพัฒนา และยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน พร้อมกับการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้ ปตท. สามารถเติบโตในระยะยาวคู่กับประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตามวิสัยทัศน์ ‘Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต’ พร้อมเป็นกำลังสำคัญ ยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย เพื่อให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยตลอดไป” นายอรรถพล กล่าว

ภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการผลงานของ ปตท. อาทิ การพัฒนาธุรกิจก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาธุรกิจน้ำมันจนถึง PTT Life Station การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของไทย การพัฒนา EV Ecosystem โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดความผูกพันระหว่าง ปตท. และคนไทย ในรูปแบบละครเวที และปิดท้ายด้วยบทเพลงพิเศษในวาระ 45 ปี ปตท. ‘เธอคือพลังของฉัน’ ขับร้องโดยศิลปินระดับประเทศอย่าง เบิร์ด-ธงไชย อิ้งค์-วรันธร ที่สื่อสารมาตลอดปี 2566 เพื่อแสดงความขอบคุณคนไทยในโอกาสนี้

อนึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้จัดขึ้นในรูปแบบการจัดงานแบบ Carbon Neutral Event หรืองานปลอดคาร์บอน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยใช้คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) จากกิจกรรมการปลูกป่าของ ปตท. มาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมในการจัดงาน ให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ จึงมั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายในแนวทางการดำเนินงาน PTT NET ZERO EMISSIONS ภายในปี ค.ศ. 2050


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top