Thursday, 2 May 2024
ปตท

อินโนบิก นูทริชั่น เปิดตัว ‘กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า’ แบรนด์ อินนอริช กับครั้งแรกที่มีรสสมุนไพร เคี้ยวสนุก ได้ประโยชน์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด ในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโภชนาการ เพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการด้านโภชนาการของคนไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า’ แบรนด์อินนอริช (Innourish) ครั้งแรกของกลิ่นรสสมุนไพรตรีผลาในรูปแบบกัมมี่ ที่เคี้ยวสนุกครบรส ดึงจุดแข็งสมุนไพรไทย ‘ตรีผลา’ ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุล ผสานความหอมของกัมมี่กลิ่นรสโคล่า อร่อย ทานง่าย ได้ประโยชน์ เดินหน้าเตรียมกลยุทธ์ รุกตลาดคนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน ด้วยพรีเซ็นเตอร์หนุ่มอารมณ์ดี ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ เจ้าของนิยาม ‘รสชาติมันโอ้’ 

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า อินโนบิก (เอเซีย) ได้จัดตั้งบริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจโภชนาการทางการแพทย์ (Medical Nutrition) และโภชนเภสัช (Nutraceutical) อย่างครบวงจร เพื่อต่อยอดงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์โภชนาการสุขภาพออกสู่ตลาด เพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค และสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทย และด้วยการเป็นบริษัทของคนไทยที่เล็งเห็นศักยภาพของสมุนไพรไทย ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เป็นอีกทางเลือกในการบริโภค เราจึงมีความตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรดั้งเดิมของไทย เป็นขนมทานเล่นที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งการพัฒนานี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรไทย และเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกับพันธมิตรแนวหน้าในการคิดค้น วิจัย และพัฒนาต่อยอดให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค

”หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือ การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ได้ทดลองขนมรูปแบบใหม่ โดยใช้ข้อจำกัดของรสชาติสมุนไพรเป็นแรงบันดาลใจและความท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า ภายใต้แบรนด์อินนอริช ให้อร่อย ทานง่าย และยังได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งความตั้งใจนี้ พิสูจน์ได้จากการได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง Superior Taste Award 2023 จาก International Taste Institute ที่เป็นเครื่องการันตีรสชาติความอร่อย”

รศ.ดร.นพ.ประวิทย์ อัครเสรีนนท์ หัวหน้าสถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยถึงสรรพคุณของสมุนไพรตรีผลา ว่า “ตรีผลาเป็นยาแผนโบราณที่มีส่วนผสมจากผลไม้ 3 ชนิด คือ มะขามป้อม ให้วิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สมอไทย มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบขับถ่าย และสมอพิเภก ให้คุณสมบัติในการปรับสมดุลธาตุ ในอดีตตรีผลาเป็นยาแผนโบราณมักใช้ในรูปแบบยาต้ม แม้จะมีสรรพคุณหลายด้าน แต่จะถูกพูดถึงเรื่องของรสชาติที่ทานยาก ทำให้หลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เข้าไม่ถึงสมุนไพรชนิดนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่อินโนบิก นูทริชั่น ได้พัฒนาและดึงศักยภาพของ 'ตรีผลา' มาต่อยอดเป็นกัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่าได้สำเร็จ ทำให้สมุนไพรไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ เชื่อว่ากัมมี่ตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาแรงด้วยรสชาติ ความแปลกใหม่ และจุดแข็งที่สรรพคุณเฉพาะตัว”

ภก.กิตติณัฐ ศรภิญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด กล่าวว่า “กัมมี่กลิ่นรสตรีผลาและโคล่า แบรนด์ อินนอริช (Innourish) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ อินโนบิก นูทริชั่น มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบของกัมมี่กลิ่นรสสมุนไพร ทานสนุก เคี้ยวง่าย รสชาติอร่อย และด้วยเป้าหมายเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงได้ดึงนักแสดงหนุ่ม ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยบุคลิกขี้เล่น สนุกสนาน ของมาริโอ้ที่ตรงกับคาแรคเตอร์ของกัมมี่อย่างกลมกล่อมลงตัว จึงเหมาะที่จะเข้ามาเสริมความสนุกของแบรนด์และส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี”

สัมผัสความอร่อยสไตล์ใหม่ ในราคาซองละ 38 บาท ได้แล้ววันนี้ที่ Tops, Gourmet Market, Jiffy, Villa Market, Foodland, Fascino หรือ Innobic Official Store ใน Shopee Lazada และ TikTok Shop สามารถติดตามโปรโมชั่นและกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/Innourish
 

‘ปตท.’ รับรางวัลสูงสุด ‘องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน’ ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน สะท้อนองค์กรยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล-สร้างความเท่าเทียม-ยกระดับคุณภาพชีวิต

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี มอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2566 (Human Rights Awards 2023)” จัดโดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ระดับดีเด่น ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจ ให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยมีนายวรพงษ์ นาคฉัตรีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืน ปตท. เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล นับเป็นรางวัลระดับสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ที่ยึดมั่นพันธกิจดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีธรรมาภิบาล และเคารพซึ่งหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรในระยะยาว และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคมไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ปตท. มอบใบประกาศฯ หลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน รุ่น 9 เพื่อเตรียมพร้อมชุมชนเข้าสู่ ‘สังคมคาร์บอนต่ำ’

เมื่อเร็ว ๆ นี้ - ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตรผู้สำเร็จหลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน (พพช.) รุ่นที่ 9 พร้อมมอบรางวัลโครงงานเชิงปฏิบัติการดีเด่น และบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘พลังงานชุมชนกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน’ โดยมี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมแสดงความยินดีและมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จหลักสูตรฯ จำนวน 58 คน ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ 

ปตท. จัดทำหลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน เพื่อสร้างการพึ่งพาตนเองทางด้านพลังงานทดแทนให้แก่ชุมชน ตั้งแต่ปี 2558 โดยในปีนี้ได้เพิ่มเนื้อหาด้านนวัตกรรมพลังงานที่สามารถนำไปพัฒนาและใช้งานได้จริง เพิ่มเนื้อหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการมุ่งเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อเตรียมพร้อมชุมชนเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมจนจบหลักสูตรทั้งสิ้น ประมาณ 505 คน

‘ปตท.’ คว้ารางวัล ‘ประชาบดี’ ประจำปี 2566 เชิดชูเกียรติช่วยเหลือสังคมด้วยใจอาสา

เมื่อไม่นานมานี้ นายนิสิต พงษ์วุฒิประพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่เลขานุการบริษัทและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นผู้แทน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เข้ารับโล่และเข็มรางวัลประชาบดี ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ ประจำปี 2566 จากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานในพิธีมอบรางวัล ‘ประชาบดี’ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทำประโยชน์ดีเด่นที่มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากและทำงานด้านสังคมด้วยใจจิตอาสา ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ปตท. คว้ารางวัล ‘องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก’ ตอกย้ำการบริหารจัดการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

เมื่อไม่นานมานี้ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ‘องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก’ (Climate Action Leading Organization) หรือ CALO ให้แก่ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดย ปตท. เป็น 1 ใน 16 องค์กรของประเทศที่ได้รับรางวัล ประเภทโดดเด่น มีผลการประเมินในด้านการวัดและการลดก๊าซเรือนกระจกอยู่ในระดับทอง ตอกย้ำการดำเนินงานของ ปตท. ที่บูรณาการความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์และเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดเรื่อง ESG โดยวัดผลการดำเนินงานในระดับสากล Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) 

รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ Climate Change ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ที่ ปตท. ตั้งไว้ 3 ด้าน คือ New Growth, Business Growth และ Clean Growth เพื่อการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

ปตท. สนับสนุนการบริหารจัดการ ‘ปัญหาน้ำท่วม’ พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ส่งมอบอุปกรณ์ และบริการสำหรับระบบซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์

เมื่อเร็วๆ นี้ นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทน ปตท. ส่งมอบอุปกรณ์และบริการสำหรับระบบซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์ และการเฝ้าติดตามสภาพเครื่องจักรจาก บริษัท พี ดิคเตอร์ จำกัด (P-DICTOR) เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่การติดตั้งแล้วเสร็จ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้แก่ นายปวินท์สรรค์ กัลยาณพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานระบบควบคุมน้ำ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการนำความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมด้าน Predictive Maintenance and Machine Monitoring ของกลุ่ม ปตท. มาสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลการสั่นสะเทือนและทำนายการหยุดทำงานล่วงหน้าของเครื่องสูบน้ำ ณ สถานีสูบน้ำกรุงเกษม เขตบางรัก ที่เป็นจุดสำคัญในการสูบน้ำกรณีเกิดน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน เพื่อช่วยให้สำนักการระบายน้ำฯ สามารถป้องกันและแก้ไขอุปกรณ์ให้มีความพร้อมใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุง ตลอดจนช่วยให้บริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กลุ่ม ปตท. ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องใน ‘วันนวมินทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรม

ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ‘วันนวมินทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566 พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กลุ่ม ปตท. และพนักงานเข้าร่วมพิธีฯ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ด้วย ปตท. สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งพระองค์เปรียบดั่งพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย ทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลด้านพลังงานในหลายโครงการ อาทิ การผลิตพลังงานทดแทนจากแก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ก๊าซชีวภาพ ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นรูปธรรม ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานใช้ได้เอง ลดการพึ่งพานำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่ง ปตท. น้อมนำแนวพระราชดำริหลักแนวคิดมาเป็นภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ก้าวตามรอยพระยุคลบาทสืบต่อไป

‘กระทรวงพลังงาน-ปตท.’ จัดงานนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ มอบรางวัลศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 38 เนื่องในวัน ‘วันนวมินทรมหาราช’

(12 ต.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติวันนวมินทรมหาราชและงานมอบรางวัลศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 38 พร้อมด้วย นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหาร ปตท. ณ PTT Art Gallery @ หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ

นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวว่า ปี 2566 นี้ นับเป็นปีแรกที่มีการประกาศให้ทุกวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีเป็น ‘วันนวมินทรมหาราช’ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะเรื่องราวของ ‘พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย’ ซึ่งกระทรวงพลังงาน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริสู่การพัฒนาพลังงานมาจนถึงปัจจุบัน จึงเชื่อมั่นว่า ผู้ที่ได้เข้าชมผลงานในนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ จะได้ร่วมน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้รับแรงบันดาลใจผ่านผลงานศิลปะทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกผลงานชิ้นเอกของศิลปินแห่งชาติมาร่วมจัดแสดง ผลงานจากเยาวชนจากโครงการรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนผ่านงานศิลปะ หัวข้อ ‘Energy For All’ กระทรวงพลังงาน และผลงานจากโครงการศิลปกรรม ปตท. ที่ผ่านมา 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เปิดเผยว่า ในปี 2529 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า ‘อัครศิลปิน’ ซึ่งเป็นปีแรกที่ ปตท. จัดประกวดศิลปกรรม จึงได้กำหนดหัวข้อ ‘ในหลวงของเรา’ และได้กำหนดหัวข้อที่เกี่ยวกับรัชกาลที่ 9 อย่างต่อเนื่อง อาทิ 84 พรรษา มหาราชาภูมิพล ของขวัญแด่พระราชา พลังงานกับชีวิตไทย เป็นต้น  

นอกจากนำผลงานรางวัลมาจัดแสดงนิทรรศการ ‘ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ’ แล้ว วันนี้ยังเป็นการมอบรางวัลให้กับศิลปินผู้ชนะการประกวดศิลปกรรม ปตท. ประจำปี 2566 ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงรุ่นประชาชนทั่วไป มีผลงานที่ได้รับรางวัลรวม 24 ผลงาน จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 831 ผลงาน ซึ่งในปีนี้จัดประกวดภายใต้หัวข้อ ‘จุดประกายความหวัง จุดพลังชีวิต’ เป็นการต่อยอดจากโอกาสพิเศษที่ ปตท. ก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 โดยขอเชิญชวนประชาชนร่วมเข้าชมนิทรรศการระหว่างวันที่ 11 - 31 ตุลาคม 2566 โดยจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษทุกสัปดาห์ อาทิ workshop วาดภาพสีน้ำรัชกาลที่ 9 การเพ้นท์ถุงผ้าใส่ยาเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และยังมีการแสดงดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ อีกทั้งทุกท่านสามารถร่วมบอกเล่าแรงบันดาลใจเรื่องราวรัชกาลที่ 9 บนโซเชียลมีเดียเพื่อรับโปสการ์ดศิลปะ Limited Edition จากศิลปินไทยชื่อดัง

ทั้งนี้ การประกวดศิลปกรรม ปตท. เป็นโครงการที่ ปตท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2529 กว่า 38 ปีของโครงการศิลปกรรม ปตท. มีศิลปินร่วมส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 27,000 คน ผลงานเข้าประกวดกว่า 35,000 ชิ้น และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดไปแล้วกว่า 900 รางวัล ซึ่งนอกจากการจุดประกายสังคมผ่านงานศิลปะแล้ว สถานที่ ‘หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา’ ยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ ปตท. ได้เข้าพัฒนาให้เป็นสถานที่ดำเนินงานเพื่อสังคมมาตั้งแต่ปี 2561 โดยจัดให้เป็น PTT Art Gallery พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะสำหรับทุกคน ทั้งงานจากโครงการศิลปกรรม ปตท. ผลงานศิลปินที่มีชื่อเสียง ผลงานจากศิลปินรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา และจัดกิจกรรมเวิร์กชอปด้านศิลปะ รวมถึงยังเปิดดำเนินการ Café Amazon for chance ร้านกาแฟที่เปิดโอกาสให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินมีส่วนร่วมในการบริการ เป็นการจุดประกายและจุดความหวังของสังคมได้อีกทางหนึ่ง

'OR' เผยทิศทางขับเคลื่อนธุรกิจในต่างแดน ปักหมุด 'กัมพูชา' ดันไลน์ธุรกิจหลักเจาะโอกาสเปิด

(18 ต.ค.66) นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ พร้อมด้วย นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ และนายรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจต่างประเทศ ร่วมเปิดเผยถึงกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ โดยมุ่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่ OR ดำเนินการอยู่ เพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจ เช่น การจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (LPG) หรือยางมะตอย รวมถึงขยายธุรกิจในต่างประเทศร่วมกับพันธมิตรของ OR ไม่ว่าจะเป็น บริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด เจ้าของธุรกิจร้านสะดวกซักแบรนด์ Otteri Wash & Dry หรือ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ตลอดจนโอกาสในการสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรในพื้นที่ผ่านการลงทุนใหม่ในรูปแบบต่างๆ ที่มีศักยภาพ โดยมุ่งเป้าเพิ่มสัดส่วน EBITDA ของกลุ่มธุรกิจ Global เป็น 15% ในปี 2570 โดยมีรายละเอียดการขับเคลื่อนธุรกิจในแต่ละประเทศ ดังนี้

• กัมพูชา เป็นประเทศในการดำเนินธุรกิจของ OR ในต่างประเทศ เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากเป็นประเทศที่ OR ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดย ณ เดือนสิงหาคม 2566 OR ดำเนินธุรกิจทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility ได้แก่ การจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ PTT Station ซึ่งมีอยู่ 169 สาขา มีคลังเก็บผลิตภัณฑ์ 7 แห่ง และธุรกิจหล่อลื่น PTT Lubricants รวมทั้งได้ร่วมลงทุนในบริษัทร่วมค้า (Joint Venture) เพื่อให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ณ สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในกรุงพนมเปญ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จไตรมาส 3 ปี 2567 ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ได้แก่ ร้าน Café Amazon ซึ่งมีอยู่ 231 สาขา และร้านสะดวกซื้อ 65 สาขา เป็นต้น โดย OR ยังมีแผนลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ อาทิ คลังน้ำมันและก๊าซ LPG โรงงานผสมยางมะตอย รวมถึงแสวงหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจพลังงานอื่นๆ อาทิ Battery Swapping และสถานีชาร์จไฟฟ้า EV station Pluz

• ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่ OR เข้าไปดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2540 โดย ณ เดือนสิงหาคม 2566 มีสถานีบริการ PTT Station อยู่ 168 สาขา มีคลังน้ำมัน 4 แห่ง และร้าน Café Amazon 17 สาขา จำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants  รวมถึงการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่สนามบินในประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย

• สปป.ลาว ณ เดือนสิงหาคม 2566 OR มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รวม 54 สาขา ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto และ Procheck รวม 9 สาขา จำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants รวมถึงมีร้าน Café Amazon 87 สาขา ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ 28 สาขา ร้านชานม Pearly Tea 5 สาขา และอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับการปลูกและค้าเมล็ดกาแฟร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่น โดยเน้นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า

• เวียดนาม OR ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจร้าน Café Amazon ในเวียดนาม ซึ่ง ณ เดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวน 22 สาขา รวมถึงศึกษาเกี่ยวกับโอกาสในการค้าเมล็ดกาแฟร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่น โดยเน้นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า อีกทั้งยังคงแสวงหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจอื่นๆ เพื่อการเติบโตในอนาคต เช่น การค้า LNG และ LPG ในเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายร้าน Café Amazon ไปในประเทศอื่นๆ ได้แก่ โอมาน ซึ่งมีแผนเปิดร้าน Café Amazon อีก 4 สาขาในปีนี้ และเพิ่มเป็น 19 สาขาในปี 2567 มาเลเซีย ซึ่งมีร้าน Café Amazon 2 สาขาในปีนี้ และเพิ่มเป็น 10 สาขาในปี 2567 และ ญี่ปุ่น ซึ่งมีแผนเปิดร้าน Café Amazon เพิ่มเป็น 3 สาขาในปี 2567 อีกด้วย

“ทั้งหมดนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของ OR ในการขยายฐานการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก โดยนำความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยไปปรับใช้ในต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ OR มีอยู่จากการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมีการศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมในแต่ละประเทศเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันกับสังคม ชุมชน และเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งเตรียมความพร้อมของบุคลากร เพื่อขยายความสำเร็จออกไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก” นายดิษทัต กล่าวเสริมในตอนท้าย

ปตท. จับมือ เมตรอน รุกธุรกิจแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงาน หวังยกระดับอุตสาหกรรมไทย สู่ ‘อุตสาหกรรม 4.0’

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 66 ม.ล. ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือในธุรกิจแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management Platform) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เมตรอน เอเชียแปซิฟิก จำกัด (เมตรอน) โดยมี นางสุณี อารีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดค้าปลีกและวิศวกรรมก๊าซธรรมชาติ ปตท. และ Mr. Vincent Sciandra ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมตรอน เอเชียแปซิฟิก จำกัด เป็นผู้ลงนาม เพื่อขยายตลาดเอนเนอร์ยี่โซลูชั่นส์ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยี Advanced Energy Intelligence Platform เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย และตอบสนองนโยบายภาครัฐตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

ม.ล. ปีกทอง กล่าวว่า “ปตท. และ เมตรอน มุ่งมั่นในการพัฒนา Energy Management Platform เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการจัดการพลังงานให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมของ ปตท. ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ลดต้นทุนและใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการพลังงานขั้นสูงของเมตรอน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 และเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ อีกทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมให้กับประเทศไทยในเวทีโลก”

Mr. Vincent เผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นขยายตลาดการให้บริการระบบ Energy Management and Optimization Solution (EMOS) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการให้บริการและสนับสนุนด้าน Digital Solutions เพื่อให้ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมของ ปตท. สามารถบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตอีกด้วย”

ทั้งนี้ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง ปตท. และ เมตรอน ถือเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรม โดยได้เริ่มใช้ระบบการจัดการพลังงานให้กับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กแล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อยกระดับมาตรฐานสำหรับการพัฒนาการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนของประเทศไทย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top