Wednesday, 15 May 2024
นักท่องเที่ยว

‘จีน’ ผุดมาตรการแก้ปัญหา ‘การชำระเงินแบบไร้เงินสด’ หลัง นทท.ประสบพบเจอ เล็งทำให้สะดวก-ราบรื่นยิ่งขึ้น

(12 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซุนเย่หลี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน กล่าวถ้อยคำดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ระหว่างชี้แจงถึงมาตรการต่างๆ ที่กำหนดขึ้นเพื่อทำให้การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในจีนสะดวกสบายและราบรื่นยิ่งขึ้น เมื่อวันจันทร์ (11 มี.ค.) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ซุนเย่หลี่ ย้ำถึงปัญหาการชำระเงินที่นักท่องเที่ยวขาเข้าประสบพบเจอ โดยพวกเขาไม่ได้รับความสะดวกสบายจากการชำระเงินแบบไร้เงินสดผ่านโทรศัพท์มือถือที่พบเห็นได้ส่วนใหญ่ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ในจีน ตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ

ซุนเย่หลี่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังปิดการประชุมสภานิติบัญญัติระดับชาติประจำปีว่านี่เป็นปัญหาใหม่ที่คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง เนื่องจากการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทว่าหน่วยงานส่วนกลางให้ความใส่ใจอย่างมากต่อปัญหานี้และได้จัดตั้งกลไกการประสานงานเพื่อแก้ไขแล้ว

ซุนเย่หลี่ กล่าวว่า จีนกำลังดำเนินมาตรการโดยละเอียด อาทิ การติดตั้งและอัปเกรดอุปกรณ์ของจุดชำระเงินหน้าร้านใหม่ เพื่อรับประกันว่าเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวจีนจะสามารถใช้บัตรธนาคารได้ในหลายพื้นที่ อาทิ โรงแรม สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และแหล่งชอปปิง โดยพวกเขายังสามารถเลือกได้ว่าจะชำระเงินแบบสแกนรหัสคิวอาร์ (QR code) หรือใช้เงินสด

นอกจากนี้ กลุ่มแพลตฟอร์มและบริษัทการชำระเงินในจีนได้ทำงานร่วมกันเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันการชำระเงินของจีน และสั่งการให้สถานที่ด้านการบริโภคทั้งหมดรับสกุลเงินจีนแบบเงินสด

โดยซุนเย่หลี่ กล่าวว่า จีนกำลังเพิ่มประสิทธิภาพแต่ละขั้นตอนของกระบวนการท่องเที่ยวขาเข้า ปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การขอวีซ่าไปจนถึงการจัดเตรียมเที่ยวบิน การเช็กอินโรงแรม การชอปปิง และการเที่ยวชมสถานที่ ซึ่งการปรับใช้มาตรการเหล่านี้จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนจีนได้รับความสะดวกสบายในด้านที่พัก การคมนาคม และการชอปปิ้งระดับเดียวกับนักท่องเที่ยวในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ซุนเย่หลี่ ทิ้งท้ายว่าเรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมจีน เพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมจีน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของจีน และสัมผัสความมีมิตรไมตรีจิตจากชาวจีน

'ผบช.ทท.' สร้างมิติใหม่บูรณาการ ความร่วมมือ กับ สตม.ปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่น ฮึ่ม..!!ชาวต่างชาติหากเข้าข่ายทำผิด ถูกเพิกถอนวีซ่า เข้าพบกงสุลประเทศต่างๆประจำภูเก็ต เพื่อหารือวางมาตราการ ยกระดับสร้างความมั่นใจ พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ 13 มี.ค.67 เวลา 15.00 น. ที่ ตม.จว.ภูเก็ต พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในการดูแลความปลอดภัย นักท่องเที่ยวและดำเนินการกับชาวต่างชาติทำผิดกฏหมาย 

ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. ประชุมหารือและปล่อยแถวบูรณาการสร้างความเชื่อมั่น และ กวดขันชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมาย อันเข้าหลักเกณฑ์เป็นเหตุเพิกถอนวีซ่า เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง  
            
โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.ยุทธภูมิ ปั้นลายนาค รอง ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม. จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ ผกก.ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต และ กำลังพล ในสังกัด บช.ทท.,สตม. ในพื้นที่ จว.ภูเก็ต

โดยคณะดังกล่าวได้เข้าพบ คุณ หลี่ เฉิงหลง กงสุลและหัวหน้าสำนักงานกงสุลจีน ประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการประสานงานการ ยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ร่วมกับกงสุลประเทศต่างๆประจำ จว.ภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกตรวจสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวบริเวณเมืองเก่าภูเก็ต รณรงค์แจกแผ่นประชาสัมพันธ์  สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155  ซึ่งมีล่ามแปลภาษา พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ”ผบช.ทท.กล่าว“

‘เซี่ยงไฮ้’ รับทัพ ‘นักท่องเที่ยว’ ปี 66 ทะลุ 326 ล้านคน กวาดรายได้กว่า 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 76.8%

(28 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน รายงานว่าเซี่ยงไฮ้รับรองนักท่องเที่ยวในปี 2023 ราว 326 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.5 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยส่วนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวขาเข้า 3.64 ล้านคน

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เซี่ยงไฮ้ทำรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2023 มากกว่า 3.67 แสนล้านหยวน (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 76.8 เมื่อเทียบปีต่อปี

อนึ่ง สำนักฯ เผยแพร่ข้อมูลสถิตินี้ระหว่างการประชุมส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยวของเซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ 3 ซึ่งเริ่มต้นวันพุธ (27 มี.ค.) ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กลุ่มหน่วยงานทางการของเซี่ยงไฮ้ยังประกาศการดำเนินโครงการในภาคธุรกิจวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว จำนวน 26 โครงการ ซึ่งมีการลงทุนรวม 1.17 แสนล้านหยวน (ราว 6 แสนล้านบาท) และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินงานหรือดำเนินงานต่อเนื่องภายในสิ้นปี 2025 โดย สวนสนุกเลโก เซี่ยงไฮ้ รีสอร์ต (Legoland Shanghai Resort) และสวนสนุกน้ำแข็งและหิมะเซี่ยงไฮ้ เย่าเสวี่ย (Shanghai Yaoxue) เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโครงการข้างต้นด้วย

ตำรวจภาค 4 ตรวจเข้มสถานบริการทั่วอีสานเหนือ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวก่อนเทศกาลสงกรานต์

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ตำรวจภาค 4 ตรวจสอบสถานบริการ และแหล่งอบายมุข ต่างๆในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยนำกำลังตำรวจประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์, ขอนแก่น, นครพนม, บึงกาฬ, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี และตำรวจจาก บก.สส.ภ.4 ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งฝ่ายปกครอง เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย เน้นตรวจสอบจับกุมสถานบริการที่ผิดกฎหมาย ยาเสพติด เด็กและเยาวชนที่เข้ามาเที่ยวสถานบริการ อาวุธปืน และแหล่งอบายมุข รวมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการประมาณ 1,000 นาย ร่วมกันตรวจสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบ ตั้งแต่กลางดึก ของคืนวันที่ 29 มี.ค.67 ถึงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 30 มี.ค.67  

ผลการปฏิบัติ ได้ทำการตรวจสอบใบอนุญาตสถานบริการ 32 แห่ง พบว่ามีใบอนุญาต ตรวจสอบสารเสพติดผู้มาใช้บริการกว่า 1,000 คน ตรวจสอบอายุนักเที่ยวในสถานบริการกว่า 2,700 คน  นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจตราดูแลความปลอดภัยประชาชนที่ไปเที่ยว และประชาสัมพันธ์ กำชับผู้ประกอบการทุกแห่ง มิให้จัดให้มีการมั่วสุม จำหน่ายหรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ระมัดระวัง มิให้มีการพกพาอาวุธ โดยเฉพาะอาวุธปืน มีด หรือสิ่งที่จะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น เข้าไปในสถานบริการ, มิให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการและปิดสถานบริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนด

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ที่ให้กวดขันปราบปราม จับกุมสถานบริการผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะมาเที่ยวภาคอีสานในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้ ตนได้สั่งกำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่เข้มงวดในการตรวจตราสถานบริการ จับกุมแหล่งอบายมุข ยาเสพติด อาวุธปืน และดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวทิ้งท้าย

ส่อง 10 เมืองยอดฮิต นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก ปี 2023

‘กรุงเทพฯ’ เมืองหลวงของไทย กลายเป็นเมืองที่ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยือนมากที่สุดในโลก ประจำปี 2023 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีประมาณ 22.78 ล้านคน ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ อยู่ในลำดับที่ 5 

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เผยตัวเลขนักท่องเที่ยว 21.70 ล้านคน ส่วนใหญ่งงตัวเลข เนื่องจากมากกว่าประชากร 17 ล้านคน

(18 เม.ย. 67) เพจ 'World Forum ข่าวสารต่างประเทศ' เผย กัมพูชา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ได้เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลปีใหม่เขมร 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน 2567 ว่า...

ตัวเลขนักท่องเที่ยว 21.70 ล้านคน
นักท่องเที่ยวต่างชาติ 110,000 คน

🌊เมือง-จังหวัดยอดนิยม 5 อันดับแรก 

1.จังหวัดกำปงจาม 
 *นักท่องเที่ยว 5,349,297 คน
 *นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 514 คน

2.จังหวัดเปรยแวง  
* นักท่องเที่ยว 229,867 คน
* นักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 คน

3.จังหวัดกำปงสปือ 
* นักท่องเที่ยว 2,102,247 คน
* นักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,668 คน

4.จังหวัดพระตะบอง 
* นักท่องเที่ยว 1,731,432 คน
* นักท่องเที่ยวต่างชาติ 3,197 คน

5.จังหวัดกำปอต
* นักท่องเที่ยว 1,400,375 คน
* นักท่องเที่ยวต่างชาติ 3,122 คน

🌊:จากความเห็นในสื่อออนไลน์  ส่วนใหญ่ยังงงตัวเลข เนื่องจากตัวเลขมากกว่าประชากร 17 ล้านคน  และบางคนบอกทำงานไม่ได้ไปเล่น   

🌊*หากยึดหลักการปี 2022-2023  
นักท่องเที่ยว 1 คนสามารถไปหลายจังหวัดจะถูกนับ 1 ทันที ที่ผ่านเขตจังหวัด

จากภาพกัมพูชาเริ่มใช้คำว่า 
Sangkrant :  สังกรานต์
Maha Sangkrant : มหา สังกรานต์

5 เดือนแรก ต่างชาติแห่เที่ยวไทย ดันยอดทะลุ 12 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 605,201 ล้านบาท

(7 พ.ค. 67) รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะระดับ 12 ล้านคน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลงจากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ (Short haul) และตลาดระยะไกล (Long haul) จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียขยับลงมาเป็นกลุ่มที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 4 ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 639,822 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 12,419 คน หรือ 1.90% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 91,403 คน

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 161,678 คน มาเลเซีย 84,127 คน อินเดีย 46,561 คน เกาหลีใต้ 31,738 คน และรัสเซีย 27,228 คน โดยนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9.41% 8.41%  5.96% และ 0.84% ในขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย มีการปรับตัวลดลง 9.15%

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน และการขยายสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา ที่เดินทางไม่เกิน 60 วัน ให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 12,588,825 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 605,201 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 2,461,620 คน มาเลเซีย 1,634,388 คนรัสเซีย 784,550 คนเกาหลีใต้ 704,427 คน และอินเดีย 677,783 คน

‘KTC’ เผย 3 กลยุทธ์กระตุ้นยอดใช้จ่ายหมวดท่องเที่ยว หวังสมาชิกนักเดินทางจดจำ ‘เคทีซีเรื่องเที่ยวบัตรเดียวครบ’

เคทีซีเผยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องหลังโควิด-19 เดินหน้ามอบประสบการณ์พิเศษที่แตกต่างด้านการท่องเที่ยวให้สมาชิกด้วย 3 กลยุทธ์หลักประกอบด้วย

1) เสริมความแข็งแกร่งด้านการใช้จ่ายท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์กับสิทธิพิเศษจากกว่า 100 เว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำโดยเพิ่มความสะดวกสบายผ่านการปรับโฉมเว็บไซต์รวมสิทธิพิเศษท่องเที่ยว

2) ขยายฐานสมาชิกกลุ่มกำลังซื้อสูงจับมือพันธมิตรมอบสิทธิพิเศษทั้งในและต่างประเทศ 

และ 3) ตอกย้ำจุดเด่นการให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือผ่านเคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส พร้อมสร้างการจดจำ ‘เคทีซีเรื่องเที่ยวบัตรเดียวครบ’ หวังสิ้นปีหมวดท่องเที่ยวยังครองแชมป์ยอดรวมใช้จ่ายสูงสุดด้วยอัตราเติบโตมากกว่า 20%

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่มีส่วนผลักดันให้การดำเนินธุรกิจของเคทีซีเติบโตได้ตามเป้าหมายคือ การกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดท่องเที่ยว โดยในไตรมาส 1 ปี 2567 ยอดใช้จ่ายในหมวดดังกล่าวเติบโตสูงเป็นอันดับ 2 ท่ามกลางหมวดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด นอกจากนี้พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของสมาชิกได้มีการปรับรูปแบบแตกต่างไปจากที่ผ่านมา เช่น มีการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือใช้ช่องทางออนไลน์เป็นแหล่งข้อมูลในการหาสถานที่ท่องเที่ยว จองตั๋วโดยสาร จองโรงแรมที่พักมากขึ้น รวมถึงเลือกเส้นทางท่องเที่ยวหรือมีกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงตามแต่ละไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่มที่ชัดเจน (Travel with purpose) 

สำหรับปี 2567เคทีซีได้วาง 3 กลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดรวมการใช้จ่าย รวมถึงขยายฐานสมาชิกในหมวดท่องเที่ยวด้วยเป้าหมายสิ้นปี 2567 เติบโตมากกว่า 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 และครองใจให้สมาชิกจดจำหากต้องการเดินทางท่องเที่ยวต้องนึกถึง ‘เคทีซีเรื่องเที่ยวบัตรเดียวครบ’ ประกอบด้วย

1.เสริมความแข็งแกร่งให้กับการใช้จ่ายท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยสิทธิพิเศษจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวครบทุกหมวดย่อยจากกว่า 100 พันธมิตรการเดินทางชั้นนำให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสะดวกสบายยิ่งขึ้นพร้อมเป็นช่องทางสนับสนุนพันธมิตรหมวดท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ ผ่านการปรับโฉมเว็บไซต์ www.ktc.co.th/online-travel-booking  เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาข้อมูลและตัดสินใจได้แบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One-Stop Online Travel Hub) พร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุดถึง 50%

2.ขยายฐานสมาชิกสู่กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง หลังเห็นยอดการใช้จ่ายในกลุ่มผู้มีรายได้สูงกว่า 50,000 บาทเติบโตต่อเนื่องในหมวดท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในต่างประเทศ เคทีซีจึงได้จับมือกับพันธมิตรสายการบินฟูลเซอร์วิสเพื่อมอบสิทธิพิเศษที่ตรงใจ ครอบคลุมร้านค้าในต่างประเทศ รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังระดับโลก ในขณะที่ยังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในประเทศด้วยการจับมือกับโรงแรมคุณภาพระดับสากล ออกแคมเปญหลากหลายให้กับสมาชิกอีกด้วย

3.ตอกย้ำจุดเด่นการให้บริการผ่านเคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีด้วยการให้บริการที่ไว้ใจได้ (Trusted Service) โดยผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่น่าเชื่อถือ ติดต่อและเข้าถึงสะดวก รวมถึงสามารถให้คำแนะนำพร้อมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ชูจุดเด่นที่สมาชิกสามารถเลือกทำรายการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือแลกคะแนน KTC FOREVER แทนส่วนลดได้ทุกผลิตภัณฑ์ เมื่อใช้จ่ายตามที่กำหนด 

นอกจากนี้ เคทีซียังยืนยันในจุดยืนของการเป็นผู้นำในหมวดท่องเที่ยวที่มีความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้น    กับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายมาโดยตลอด ทั้งสายการบิน โรงแรม รถเช่า รวมถึงองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ อาทิ การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss Tourism) / องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JNTO) / องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) / การท่องเที่ยวฮ่องกง (HKTB) และการท่องเที่ยวไต้หวัน (TTB) ที่ทำให้หมวดท่องเที่ยวของเคทีซี และผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวของเคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิก

นางประณยากล่าวทิ้งท้าย สำหรับการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว เคทีซียังคำนึงถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อาทิ การที่ร่วมกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและคืนประโยชน์สู่สังคมผ่านโครงการ ‘บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น’ (1 Ticket 1 Tree) การนำเสนอผลิตภัณฑ์กรีนโปรดักส์ด้านการเดินทางท่องเที่ยวผ่านช่องทางเคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส อาทิ บัตรรถไฟ บัตรรถราง รถเช่าไฟฟ้า (EV) และแพ็กเกจท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น

ผู้สนใจสิทธิพิเศษด้านการเดินทางท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th/online-travel-booking หรือ ติดต่อเพื่อรับบริการด้านการท่องเที่ยว ที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิก ดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก ‘เคทีซี ทัช’ ทุกสาขาทั่วประเทศ

หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top