Monday, 6 May 2024
ญี่ปุ่น

เรื่องที่น้อยคนจะรู้!! เปิดอีกด้านของมหกรรมกีฬา ‘โตเกียวโอลิมปิก’ งานระดับโลกสุดยิ่งใหญ่ที่ซ่อนปม ‘สินบน-ทุจริต’ เพียบ!!

ไม่รู้ว่าข่าว ‘การทุจริตในโตเกียวโอลิมปิก’ จะมีคนไทยกี่คนที่รู้และเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เพราะสื่อบ้านเราเป็นสื่อที่มักง่าย เลือกนำเสนอข่าวที่หาง่าย ไร้การตรวจสอบ หรือไม่ทำการบ้านใดๆ เลย แต่สำหรับผมแล้ว ข่าว ‘การทุจริตในโตเกียวโอลิมปิก’ นี้ค่อนข้างมีความน่าสนใจ เพราะมีจุดเชื่อมโยงกับรัฐบาลญี่ปุ่น รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ชินโซผู้ล่วงลับ จึงสรุปข่าวนี้ให้เข้าใจได้ง่ายๆ และมาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้อ่านกันครับ

ค่าใช้จ่ายในการจัดโตเกียวโอลิมปิกทั้งหมดนั้นอยู่ที่ 1,432,800 ล้านเยน (1兆4328億円) หรือเทียบเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ราวๆ 375,913 ล้านบาท โดยผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดแบ่ง มีดังนี้
1.) ประเทศ 42% 
2.) เมืองโตเกียว 13%
3.) คณะกรรมการจัดการแข่งขัน 45%

โดยประเทศและเมืองโตเกียวนั้น ที่มาของเงินก็คือภาษีจากประชาชนนั่นเอง รวมเป็น 55% คิดเป็นเงิน 783,400 ล้านเยน ส่วนอีก 45% ที่รับผิดชอบโดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันนั้นมาจากการรับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ภาคเอกชนนั้นเอง 

จึงสามารถพูดได้ว่าการจัดโตเกียวโอลิมปิกเกินครึ่งหนึ่งเป็นเงินแผ่นดิน แต่กลับมีคนบางกลุ่มหาประโยชน์จากการจัดงานกีฬาระดับประเทศที่ใช้เงินแผ่นดินนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น ซึ่งจุดที่มีการค้นพบการทุจริตในครั้งนี้ก็คือ คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เป็นองค์กรธุรกิจเพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม หรือ Public Interest Incorporated Foundation (公益財団法人) และด้วยเพราะการเป็นองค์กรแบบนี้ กฎหมายญี่ปุ่นจึงไม่ได้บังคับให้ต้องแสดงและเผยแพร่ข้อมูลทางธุรกิจทั้งหมดให้สังคมได้รับทราบ พูดง่ายๆ คือไม่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายขององค์กรด้วยวิธีปกติได้ทั้งหมด 

ตัวละครที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องนี้ในปัจจุบันคือ อดีตหนึ่งในคณะกรรมการจัดการแข่งขันชื่อ ทาคาฮาชิ ฮารุยูกิ (高橋 治之) อดีตดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเดนท์สุ บริษัทตัวแทนโฆษณาอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ผู้มีฉายาว่าท่านดอนแห่งวงการธุรกิจด้านกีฬา โดยหน้าที่ที่ทาคาฮาชิได้รับในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการจัดการแข่งขันคืออำนาจในการเลือกสปอนเซอร์ ที่จะเป็นเงินทุนให้กับการจัดโตเกียวโอลิมปิกถึง 45% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทำให้เกิดการรับสินบนจากภาคเอกชนที่จะมาเป็นสปอนเซอร์

ณ ปัจจุบัน (26 กันยายน 2565) มีบริษัทที่กำลังถูกสืบสวนการจ่ายสินบนดังต่อไปนี้
1.) บริษัท AOKI บริษัทผลิตเสื้อสูทสำเร็จขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น (ตัวผมก็ซื้อสูทพิธีการตอนสมัยเรียนที่ญี่ปุ่นจากบริษัทนี้) ได้จ่ายเงินสินบน 51 ล้านเยน ทำให้อดีตประธานบริษัทถูกจับกุมแล้ว
2.) บริษัท KADOKAWA บริษัทสื่อบันเทิงของญี่ปุ่น ที่ประเทศไทยอาจคุ้นเคยในสื่อประเภทการ์ตูน อนิเมชั่น นิยาย รวมไปถึงธุรกิจโรงเรียนสอนศิลปะ ได้จ่ายเงินสินบน 76 ล้านเยน ทำให้อดีตประธานบริษัทถูกจับกุมแล้ว
3.) บริษัท Daiko บริษัทสื่อโฆษณา ถูกสำนักงานอัยการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจ่ายสินบน 14 ล้านเยน กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน เก็บหลักฐาน
4.) บริษัท Park24 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่เน้นทำธุรกิจให้เช่าที่จอดรถในโตเกียว ถูกสำนักงานอัยการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจ่ายสินบนเพื่อให้ได้เป็นสปอนเซอร์ของโตเกียวโอลิมปิก กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน เก็บหลักฐาน

แต่ระดับผู้กว้างขวางในวงการสื่อสารมวลชนของญี่ปุ่น คงไม่ทำอะไรให้โดนจับง่ายๆ ถ้าไม่มีหลักฐานมัดให้ตัวคาหนังคาเขา จากการสืบสวนของสำนักงานอัยการ พบว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับว่าเป็นการติดสินบน นายทาคาฮาชิได้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาชื่อ Commons (コモンズ) เพื่อรับเงินสินบนนั้นในรูปแบบเงินค่าที่ปรึกษา จ่ายเป็นเงินรายเดือน 

นอกจากนี้แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าบริษัทของนายทาคาฮาชิรับค่าที่ปรึกษาจากบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์เพียงบริษัทเดียว จึงมีการเพิ่มตัวละครที่ชื่อ ฟุคามิ คาซุมาซะ (深見和政) ที่มีบริษัทที่ปรึกษาชื่อ Commons2 (コモンズ2) เข้ามารับเงินค่าที่ปรึกษาให้กับบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์อีกบริษัทหนึ่ง 

จากบริษัทที่ขึ้นลิสต์ข้างต้นไป บริษัท AOKI จ่ายค่าที่ปรึกษาให้กับบริษัทของนายทาคาฮาชิ โดยตรง ส่วนบริษัท KADOKAWA และ Daiko จ่ายค่าที่ปรึกษาให้กับบริษัทของนายฟุคามิ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างนายทาคาฮาชิ และนายฟุคามินั้น มีหลายจุดที่ทำให้สำนักงานอัยการคิดว่าทั้งคู่สมรู้ร่วมคิดกันในการรับสินบนครั้งนี้คือ ทั้งคู่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสมัยที่ทำงานที่บริษัทเดนท์สุ และบริษัท Commons2 (コモンズ2) ที่นายฟุคามิก่อตั้งในปี 2012 มีนายทาคาฮาชิเป็นกรรมการบริษัท ถึงปี 2013 นอกจากนี้แล้วบริษัท Commons2 รับงานทำ CM โปรโมตโตเกียวโอลิมปิกจากบริษัท AOKI ที่ได้รับการแนะนำจากบริษัท Commons (コモンズ) อีกทอดหนึ่ง 

จากหลักฐานที่สืบสวนได้ ยังสามารถจับกุมได้เพียงนายทาคาฮาชิ, นายฟุคามิ และผู้บริหารบริษัทเอกชนข้างต้นเท่านั้น ยังมีการตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติม เนื่องจากโตเกียวโอลิมปิกเป็นการแข่งขันระดับประเทศที่ยิ่งใหญ่ สปอนเซอร์ก็ถูกจัดแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ 
1.) Worldwide Olympic Partner
2.) Gold Partner
3.) Official Partner
4.) Official Supporter

ทั้งสี่บริษัทล้วนเป็นเพียง Official Supporter ระดับล่างสุดของสปอนเซอร์โตเกียวโอลิมปิกเท่านั้นหรือ? แล้วระดับสูงขึ้นไปจะมีการรับสินบนหรือไม่? นั้นเป็นสิ่งที่สำนักงานอัยการกำลังสืบสวนเพิ่มเติม ถ้าได้ผลอย่างไร จะนำมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ

อิหร่านประท้วงหนัก!! หลังตำรวจศีลธรรมทำร้ายหญิงสวมฮิญาบไม่เรียบร้อยถึงตาย | NEWS GEN TIMES EP.70

✨ญี่ปุ่นเรียกร้อง 'ปฏิรูป UN' หลังมองว่าตลอด 77 ปีที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคง 5 ชาติ มีอำนาจ Vote ล้มเสียงของคนทั่วโลกได้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

✨ 'บังคับผู้หญิงเกณฑ์ทหาร' สวิตเซอร์แลนด์กำลังตัดสินใจครั้งสำคัญ เหตุเพราะขาดแคลนกำลังพลในกองทัพ

✨ อิหร่านประท้วงเดือด!! ลามหนักทั่วประเทศ หลังผู้ชุมนุมไม่พอใจที่มีหญิงสวมผ้าคลุมศีรษะไม่เรียบร้อย โดนตำรวจซ้อม จนเสียชีวิตในภายหลัง

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

เกาหลีเหนือ ห้าวจัด!! ยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นอีกลูก ทางการญี่ปุ่นแจ้งเตือนปชช. หลบเข้าที่ปลอดภัย

สัญญาณอันตราย หลังเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามดินแดนญี่ปุ่นบริเวณเกาะฮอกไกโดและจังหวัดอาโอโมริ เมื่อเวลา 05.46 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางการญี่ปุ่นเตือนประชาชนในพื้นที่หลบภัยทันที

มีรายงานข่าวว่า เมื่อเวลา 07.46 น. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (05.46 น. ตามเวลาประเทศไทย) เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นตอนเหนือ บริเวณเกาะฮอกไกโดและจังหวัดอาโอโมริ ส่งผลให้รัฐบาลต้องประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย

แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธที่ยิงมาในวันนี้ได้บินจากทะเลตะวันออกของเกาหลี ข้ามเหนือดินแดนญี่ปุ่น มุ่งไปทางตะวันออกเหนือทะเลญี่ปุ่น แล้วตกลงในทะเลนอกน่านน้ำญี่ปุ่นแล้ว และยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ขีปนาวุธที่ถูกยิงมาเป็นประเภทใด บินได้สูงและไกลแค่ไหน เป็นครั้งแรกที่ในรอบ 5 ปีที่เกาหลีเหนือส่งขีปนาวุธข้ามแผ่นดินของญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2017

เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) ยืนยันว่าเกาหลีเหนืยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นจริง โดยกล่าวว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงมาจากเมืองมูเปียงรีในจังหวัดชากังของเกาหลีเหนือเมื่อเวลาประมาณ 07:23 น. ตามเวลาท้องถิ่น แล้วเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเหนือประเทศญี่ปุ่น

หัวหน้าเลขาธิการรัฐสภาญี่ปุ่น มัตสึโนะ ฮิโรคาซึ กล่าวว่า เกาหลีเหนือดูเหมือนจะยิงขีปนาวุธไปในทิศทางของฮอกไกโดซึ่งเป็นเกาะหลักที่อยู่เหนือสุดของประเทศ

ขีปนาวุธดังกล่าวได้บินผ่านจังหวัดอาโอโมริ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และร่อนลงนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น

มัตสึโนะ กล่าวเสริมว่า เขาถือว่าการยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็น “ภัยคุกคามต่อสาธารณชน” และกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะวิเคราะห์สถานการณ์ต่อไปและทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาคมระหว่างประเทศ

ในช่วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธถึง 5 ครั้ง ขณะที่ในปี 2022 นี้ เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธไปแล้วถึง 23 ครั้ง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความคุกรุ่นในคาบสมุทรเกาหลีที่เพิ่มขึ้นจากการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งพันธมิตรยืนกรานว่าเป็นการซ้อมรบเพื่อการป้องกันดินแดน แต่เกาหลีเหนือออกมาประณามว่า เป็นการซ้อมรบสำหรับการรุกรานเกาหลีเหนือ

ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่า การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้ อาจเป็นแค่จุดตั้งต้นในการทดสอบขีปนาวุธที่ใหญ่กว่านี้ และอาจเป็นการประกาศการยั่วยุที่รุนแรงขึ้นของเกาหลีเหนือ

ลีฟ-เอริก อีสลีย์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอีฮวาในกรุงโซล กล่าวว่า “จนถึงตอนนี้ การทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ของเกาหลีเหนือได้รับผลตอบแทนที่ลดลงในแง่ของความก้าวหน้าทางเทคนิค คุณค่าทางการเมืองภายในประเทศ และการส่งสัญญาณระหว่างประเทศ การทูตยังไม่ตาย แต่การเจรจาก็ยังไม่เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน”

เขาเสริมว่า “เกาหลีเหนือยังอยู่ท่ามกลางวงจรของการยั่วยุและการทดสอบขีปนาวุธ และน่าจะรอผลการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนช่วงกลางเดือน ต.ค. เพื่อเตรียมดำเนินการทดสอบที่มีนัยสำคัญทางการทหารมากขึ้น”

บริษัทญี่ปุ่นผุดไอเดีย ‘เครื่องซักคน’ แค่นอนเฉย ๆ ไม่ต้องเหนื่อยถู

บริษัทเทคโนโลยีญี่ปุ่น ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมห้องน้ำและห้องครัว ออกมาเผยแผนการผลิต ‘เครื่องซักคน’ เพิ่มความสะดวกสบายเอาใจผู้บริโภคที่ขี้เกียจถูตัว ต่อจากนี้แค่นอนเฉย ๆ ไม่ต้องลำบาก เดี๋ยว AI อาบให้!

อันที่จริงคอนเซปต์เครื่องซักคนไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อหลายสิบปีก่อนนี้บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่อย่าง ‘ซันโย อิเล็กทริก’ เคยนำเครื่องซักคนตัวต้นแบบที่เรียกว่า ‘Ultrasonic Bath’ ออกมาเปิดตัวในงาน Osaka Expo เมื่อปี 1970 มาแล้ว พร้อมโฆษณาว่าเป็นเครื่องมือที่จะช่วย ‘ล้างทำความสะอาด นวดตัว และเป่าแห้งโดยอัตโนมัติ เสร็จสรรพภายใน 15 นาที’

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ยังไม่เคยถูกพัฒนาจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาดมาก่อน

ล่าสุด บริษัท ไซเอนซ์ จำกัด (Sciences Co. Ltd.) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครโอซากา ได้ประกาศแผนสร้างและผลิตเครื่องซักคนรุ่นใหม่ที่ใช้งานได้จริงภายใต้ชื่อ ‘Project Usoyaro’ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ได้ภายในปี 2025

ผบ.ทร. เยือนญี่ปุ่น ร่วมพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ 2022

ผู้บัญชาการทหารเรือ และภริยา พร้อมด้วยคณะ เข้าร่วมการประชุม Western Pacific Naval Symposium (WPNS) ครั้งที่ 18 ที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และภริยา พร้อมด้วยคณะ เข้าร่วมการประชุม Western Pacific Naval Symposium (WPNS) ครั้งที่ 18 ที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน ผู้บัญชาการทหารเรือ ของชาติสมาชิกและผู้สังเกตการณ์ จำนวน 28 ประเทศ ซึ่งการจัดประชุม WPNS ครั้งนี้ จัดขึ้นพร้อมกับการสวนสนามทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review: IFR 2022) ในโอกาสครบรอบ 70 ปี กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น โดย กองทัพเรือ พิจารณาจัดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เข้าร่วมการสวนสนามทางเรือไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 

สำหรับการประชุม WPNS นั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุม The International Sea Power Symposium (ISS) ครั้งที่ 9 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2530 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ผู้แทนระดับสูงของกองทัพเรือประเทศต่าง ๆ จากทุกภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกได้มีโอกาสพบปะพูดคุยถึงปัญหา และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน  

‘รมว.เฮ้ง’ ห่วงแรงงานไทยถูกลวงทำงานที่ญี่ปุ่น สั่ง ‘กรมการจัดหางาน’ เร่งตรวจสอบ-ช่วยเหลือ

(10 พ.ย. 65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณี คนไทย 27 ราย ยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา ขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกหลอกลวงจากนายหน้าจัดหางาน ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย อ้างว่าสามารถพาไปทำงานประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ ‘วีซ่าทักษะเฉพาะทาง’ Specified skilled Worker จนทำให้แรงงานไทยที่หลงเชื่อสูญเงินค่าบริการจัดหางานไปแล้วรายละ 20,000 - 70,000 บาท สุดท้ายถูกเลื่อนกำหนดเดินทางไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นพิรุธ ขอเงินคืนกลับถูกนายหน้าบ่ายเบี่ยง ทำให้บางรายเสียทั้งเงินและงาน เนื่องจากแจ้งลาออกจากงานล่วงหน้า เพื่อเตรียมเดินทางไปทำงานที่ใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เป็นมูลค่าความเสียหายรวม 5 ล้านบาท ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรับทราบเรื่องแล้วไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการกรมการจัดหางานเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวทันที

“ผมได้สั่งการอธิบดีกรมการจัดหางาน เร่งตรวจสอบแล้วพบว่า นายซังคิวและพวก ที่ถูกแรงงานไทย 27 คน รวมตัวกันร้องเรียนนั้น ไม่ได้รับใบอนุญาตให้จัดหางานจากกรมการจัดหางาน จึงไม่สามารถรับสมัครและจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศได้ ซึ่งกรมการจัดหางานจะเร่งดำเนินคดีต่อไป ในส่วนโรงเรียนสอนภาษาดังกล่าว ได้ประสานหน่วยงานเจ้าของเรื่องรับไปดำเนินการต่อ สุดท้ายผมขอฝากความห่วงใยถึงคนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ก่อนหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ใด ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานกับกรมการจัดหางานก่อน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานมีศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ทำหน้าที่ติดตาม เฝ้าระวัง การโฆษณาจัดหางานบนสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเข้มงวด หากพบผู้ใดโฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน ถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ย้อนรอย 135 ปี ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น 'ไทยแลนด์ - ญี่ปุ่น' | THE STATES TIMES Y WORLD EP.22

ย้อนรอยความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นที่มีเวลาถึง 135 ปี!!
พร้อมเปิดตัว ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกใหม่ของประเทศญี่ปุ่น

.

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x SEED THAILAND
.
#THESTATESTIMESYWORLD
#THESTATESTIMESYWORLDxSEEDTHAILAND
#ไทย
#ญี่ปุ่น
#เศรษฐกิจEEC

‘คิชิดะ - สี จิ้นผิง’ ไว้ใจ ‘ประเทศไทย’ ล็อกหมุดหมายจัดประชุมซัมมิต ‘ญี่ปุ่น-จีน’

ไม่เพียงแค่การประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ที่ถือเป็นอีกความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้โชว์ศักยภาพและความเป็นไทยออกสู่สายตาชาวโลก

แต่ข่าวใหญ่ที่น่าจะเป็นข่าวดีอีกระลอก คือ ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจจาก ‘ญี่ปุ่น-จีน’ ให้เป็นเวทีในการจัดประชุมซัมมิตสุดยอดผู้นำระหว่าง ‘ญี่ปุ่น-จีน’ ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

ทั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า ระยะหลังความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนนั้นไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก หรือเรียกอีกอย่างคือ ‘ร้าวฉาน’ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เกิดจากการที่จีนแผ่อิทธิพลและเพิ่มมาตราการทางการทหารอย่างแข็งกร้าวต่อไต้หวัน ประเทศในภูมิภาค รวมถึงแถบโพ้นทะเล

หนำซ้ำ หนึ่งในมิสไซล์ของจีนที่ยิงออกไปเพื่อตอบโต้การเยือนไต้หวันครั้งสำคัญของแนนซี เพโลซี ดันไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลญี่ปุ่นอีกด้วย 

นอกจากนี้ จีนยังได้มีการเคลื่อนไหวรอบๆ หมู่เกาะพิพาทเซ็งกากุ (Senkaku Islands) หรือหมู่เกาะเตียวหยูในภาษาจีน ซึ่งหมู่เกาะนี้อยู่ในการครอบครองของญี่ปุ่น แต่จีนกลับอ้างสิทธิ

เท่านั้นยังไม่พอ จุดยืนในการเมืองโลกของทั้งสองประเทศก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากญี่ปุ่นสนับสนุนยูเครนร่วมกับพันธมิตรชาติตะวันตก แต่จีนยืนหยัดเคียงข้าง ‘รัสเซีย’ ซึ่งถือเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงของยูเครนและชาติตะวันตก 

‘สี จิ้นผิง’ พบ ‘คิชิดะ’ ประชุมทวิภาคีครั้งสำคัญ ในวาระครบรอบ 50 ปีการทูต ‘จีน-ญี่ปุ่น’

นับว่ามีประเด็นมากมายที่ต้องจับตามอง สำหรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 14 - 19 พ.ย. 65 ทั้งในประความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ประเด็นความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประเด็นทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

โดยอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ต้องจับตามอง คือการประชุมทวิภาคีครั้งสำคัญระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดแห่งจีน และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นการประชุมนอกรอบระหว่างการจัดการประชุมเอเปค ซึ่งเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกของผู้นำทั้งสองในรอบ 3 ปี ด้วยเป้าหมายด้านความสัมพันธ์ในเชิงสร้างสรรค์และมีเสถียรภาพ เนื่องจากปีนี้ ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสอง ซึ่งผู้นำทั้งสองได้ให้สำคัญของการมีความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ดี ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากกันและกัน

ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความตึงเครียด ด้วยความบาดหมางในอดีตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นทุนเดิม ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก, การทดลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ รวมทั้งการที่กองทัพจีนยิงขีปนาวุธตกในน่านน้ำของญี่ปุ่นในการซ้อมรบเพื่อตอบโต้ต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และการแข่งขันแย่งชิงบทบาทการเป็นผู้นำในภูมิภาค

โดยทั้งผู้นำจากทั้งสองฝั่ง ต่างแสดงเจตจำนงในการการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสอง

‘ซาอุฯ - ญี่ปุ่น’ เอาชนะอดีตแชมป์บอลโลก ผลสำเร็จจาก ‘ทีมเวิร์กสุดปัง - แรงบันดาลใจสุดเจ๋ง’

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงในวงกว้างอย่างมาก ทั้งในโลกออฟไลน์และโลกออนไลน์ นั่นก็คือ ‘ฟุตบอลโลก 2022’ ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ โดยประเด็นที่ทำแฟนบอลทั่วโลกตกตะลึงก็คือ การที่ทีมชาติซาอุดีอาระเบียสามารถเอาชนะทีมชาติอาร์เจนตินา ทีมที่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกหลายสมัย และมีสตาร์ดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ไปด้วยด้วยสกอร์ 2-1 อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

แต่ความตะลึกยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะถัดมาอีกวันทีมชาติญี่ปุ่น ก็สามารถเอาชนะทีมแนวหน้าของโลกอย่างเยอรมนีไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 เช่นกัน 

กลายเป็นว่าคอบอลทั่วโลก (อาจจะรวมถึงแฟนบอลในชาตินั้นๆ) ต้องตกตะลึงถึง 2 วันติดกัน เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าทีมชาติทั้ง 2 ประเทศจากทวีปเอเชีย ที่เคยเป็นเพียงทีมไม้ประดับของเทศกาลฟุตบอลโลก จะสามารถพลิกเกมกลับมาชนะทีมระดับชั้นนำและอยู่ในแนวหน้าของโลกลูกหนังไปได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางสังคม และอาจารย์ ได้แสดงความคิดเห็นไว้ในคลิปวิดีโอ ที่เผยแพร่ทางช่องยูทูบ ‘Suriyasai Channel’ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 65 ไว้อย่างน่าสนใจ สรุปได้ว่า…

นัดเปิดสนามระหว่างทีมเอกวาดอร์เจอกับทีมชาติกาตาร์ (เจ้าภาพ) จบที่ความปราชัยของเจ้าภาพที่สกอร์ 2-0 จากนั้นในนัดถัดมา ก็เป็นการดวลระหว่างทีมชาติอังกฤษกับทีมชาติอิหร่าน ซึ่งอิหร่านก็พ่ายแพ้ไป 6-2 

จากผลลัพธ์ของทีมเอเชียทั้งสอง ทำให้หลายคนกังวลใจว่าทีมชาติที่มาจากทวีปเอเชียดูจะไม่มีพัฒนาการที่จะไปสู้ทีมชาติจากทวีปอื่นๆ เทียบกับทวีปแอฟริกาแล้ว ยังผลักดันตนเองสามารถพัฒนาทีมมาเป็นคู่แข่งเทียบชั้นชาติแนวหน้าในละตินและยุโรปได้มากกว่า

จนกระทั่ง เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย. 65 ตามเวลาไทย ทีมชาติซาอุดีอาระเบียต้องฟาดแข้งกับทีมชาติอาร์เจนตินา ขณะที่ทีมชาติญี่ปุ่นฟาดแข้งกับเยอรมนีในวันที่ 23 พ.ย.65 ทั้ง 2 ทีมชาติจากเอเชีย สามารถเอาชนะมาได้ จึงเป็นการลบล้างคำสบประมาทต่างๆ นานาออกไปได้ทันที เพราะว่าทั้งซาอุฯ และญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เก็บชัยชนะ แต่พวกเขาสามารถโค่นเต็งแชมป์และอดีตแชมป์โลกมาหลายสมัยลงได้

เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น น่าจะทำให้ทีมชาติจากเอเชียถูกจับตามองมากขึ้นอีกแน่ ๆ 

ทั้งนี้หากเทียบความแตกต่างของทั้ง 2 ชาติ คือ ซาอุฯ อาจจะได้เปรียบญี่ปุ่นหน่อย ตรงเรื่องของรูปร่างนักเตะ ซึ่งกายภาพของนักเตะซาอุฯ สามารถเทียบชั้นกับยุโรปได้เลย ในขณะที่ญี่ปุ่นน่าจะพอ ๆ กับไทย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top