Friday, 17 May 2024
ขอนแก่น

ขอนแก่น – เจ้าของร้านขายเสื้อลายดอก โอดลูกค้ามาซื้อน้อยลงจนใจหาย ขณะที่ชาวขอนแก่นส่วนใหญ่ เสียใจงดเล่นน้ำแต่ก็เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านแฟมิลี่บอย ตั้งอยู่ที่ตลาดบางลำพู เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามาเลือกซื้อเสื้อลายดอกที่เป็นที่นิยมสำหรับการสวมใส่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยพบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปค่อนข้างเงียบเหงา จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมาก ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของร้านขายเสื้อลายดอกต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สงกรานต์ปีก่อนว่าเงียบเหงาแล้วแต่สงกรานต์ปีนี้หนักกว่า ประชาชนมาจับจ่ายซื้อสินค้าน้อยจนน่าใจหาย โชคดีที่ตัดสินใจไม่สั่งเสื้อมาเพิ่ม เพราะยังเหลือเสื้อลายดอกที่ค้างสต๊อกจากสงกรานต์ปีที่แล้วจำนวนมาก ถึงขนาดนั้นก็ยังขายไม่ได้ แต่ก็ต้องเปิดขายแม้คนจะน้อยเพื่อขอทุนคืน ส่วนเสื้อแบบอื่น ๆ ไม่ต้องพูดถึงขายแทบไม่ได้เลย

ขณะที่ น.ส.ศกุลนภัทร พลสุวรรณ ชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางเข้ามาในตัวเมืองขอนแก่นเพื่อมาซื้อเสื้อลายดอกและเสื้อคอกระเช้าไปเป็นของขวัญให้ผู้เฒ่าผู้แก่ซึ่งทำแบบนี้ทุกปี ราคาก็ไม่ต่างจากปีก่อน ๆ โดยเสื้อคอกระเช้าราคาตัวละ 60 บาท ส่วนเสื้อลายดอกราคาอยู่ที่ 120 – 150 บาท และการที่ปีนี้รัฐบาลขอความร่วมมือให้งดเล่นน้ำ ตนเองและครอบครัวก็จะไปรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ โดยได้แบ่งวันกันมารดน้ำเพื่อไม่ให้มีการรวมตัวลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19ไปยังผู้สูงอายุ

เช่นเดียวกันกัย นางเพ็ญ รามมนตรี ชาวอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม บอกว่า วันนี้เดินทางมาซื้อเสื้อลายดอกรวม 10 กว่าตัวเพื่อไปแจกญาติ ๆ และเพื่อนฝูงได้สวมใส่กันเหมือนเช่นทุก ๆ ปี ต่างกันตรงที่ทุกปีจะได้เล่นสาดน้ำ แต่ปีนี้ต้องงดเพราะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็รู้สึกเสียใจ เพราะเป็นประเพณีที่ทำกันมายาวนาน ในวันสงกรานต์ก็คงได้เพียงรดน้ำแบบเบา ๆ กับคนสนิท เพราะตัวเองก็ระมัดระวังตัวเช่นกัน และหวังว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะหมดไปจากบ้านเราโดยเร็ว

ขอนแก่น - “มาดามแป้ง” เข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ว.บัณฑิตเอเซีย

“มาดามแป้ง” นายหญิงสิงห์เจ้าท่า เข้าพิธีประสาทปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย โดยมีแข้งฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยเข้าร่วมยินดี

วันที่ 12 เมษายน 2564 ณ ห้องพิธีการ ขอนแก่นฮอลล์ “มาดามแป้ง” เข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ประจำปี 2564 โดยมี ศ.ดร.นพ. กระแส ชนะวงศ์ ประธานในพิธี, รศ.ดร. จินตนา บุญบงการ นายกสภาวิทยาลัยฯ, ผศ.ดร. กษม ชนะวงศ์ อธิการบดี พร้อมด้วยคณาจารย์ และบัณฑิต ร่วมเป็นเกียรติ ซึ่งการจัดนั้นอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังมีเหล่านักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และนักฟุตบอลหญิงสโมสรบีจี-บัณฑิตเอเซีย ทีมแชมป์ไทยวีเมนลีก ดิวิชั่น 1 เข้าร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ CEO บมจ. เมืองไทยประกันภัย และประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างสูงต่อแป้งและครอบครัวที่สถาบันที่สร้างคนคุณภาพให้แก่สังคม ได้กรุณามอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่แป้ง ซึ่งผลิตบุคลากรคุณภาพทั้งด้านวิชาการ และที่สำคัญยังได้สร้างชื่อเสียงด้านกีฬาให้แก่ประเทศไทยอย่างมาก แน่นอนว่าแป้งจะไม่หยุดพัฒนาตนเอง เพื่อพัฒนางานต่าง ๆ ที่มีอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป”

ทั้งนี้ ‘มาดามแป้ง’ ถือเป็นนักธุรกิจหญิงที่มีความโดดเด่นในงานบริหารธุรกิจ งานด้านกีฬา งานเพื่อสังคม รวมทั้งมีวิสัยทัศน์จนได้รับรางวัลสำคัญมากมาย อาทิ รางวัล 1 ใน 25 สุดยอดนักธุรกิจหญิงแห่งปี จากนิตยสาร Forbes Asia, รางวัลสตรีผู้ประกอบการดีเด่นแห่งอาเซียน, ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดประวัติศาสตร์เข้าแข่งขันฟุตบอลโลกได้ถึง 2 สมัย คือ ในปี 2015 และ 2019, ประธานสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เอฟ.ซี. นอกจากนี้ ยังทำกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น การตั้ง ‘ครัวมาดาม’ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทั้งสองระลอก, กระทั่ง ล่าสุด การสานต่อภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือสังคมอย่างมุ่งมั่นทุ่มเท ด้วยก่อตั้ง “มูลนิธิมาดามแป้ง” ให้เป็นหน่วยงานกลางที่รวบรวมน้ำใจจากผู้คนในสังคม เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนสังคมไทยในมิติต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน

ขอนแก่น - ไฟไหม้รถทัวร์โดยสารสายบึงกาฬ- กรุงเทพฯ ผู้โดยสารดับคาที่ 5 ราย เจ็บสาหัส 12 ราย เหตุเกิดจากยางรถระเบิดและเกิดประกายไฟติดห้องเครื่องด้านหลังก่อนลุกลามทั่วทั้งคัน

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 13 เม.ย.2564 เจ้าหน้าที่กู้ภัย รพ.สิรินธร อ.บ้านแฮด จ.ขอแนก่น ได้รับแจ้งจากศุนย์วิทยุ 1669 ว่าเกิดเหตุ  รถทัวร์โดยสารปรับอากาศชั้น 1 สายอุดรธานี-กรุงเทพฯ  เกิดไฟไหม้ที่บริเวณเครื่องยนต์ด้านหลังก่อนที่จะลุกลามไหม้ทั้งคัน หลังรับแจ้งจึงประสานงานร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแฮด ,ปภ.เขต 6 พร้อมระดมทีมแพทย์ฉุกเฉินจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุถนนถนนมิตรภาพ  บ้านหนองขาม ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด ขอนแก่น เจ้าหน้าพบรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้นของบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด สายอุดรธานี -กรุเทพฯ หมายเลขทะเบียน 22-34 หมายเลขทะเบียน 10-7387 อุดรธานี    

เกิดเพลิงไหม้อยู่ริมถนน ขณะที่ผู้โดยสารต่างพากันหนีตายออกจากรถกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จึงสามารถคบคุมเพลิงได้ ตรวจเบื้องต้นพบมีผู้เสียชีวิตภายในรถรวมทั้งหมด 5  ราย และมีได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 รายเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องเร่งนำตัวส่ง รพ.สิรินธร และ รพ.ขอนแก่น เป็นการเร่งด่วน ส่วนอีก 16 รายปลอดภัย

จากการสอบถามผู้โดยสารที่รอดชีวิต ทราบว่า รถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวออกจากสถานีข่นสง จ.บึงกาฬ เพื่อนำผู้โดยสารกว่า 30 คนเดินทางเข้า กรุงเทพฯ โดยแวะรับผู้โดยสารจาก จ.อุดรธานี และ ขอนแก่น และกำลังจะเดินทางไปที่กรุงเทพฯ  โดยเมื่อวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุได้เกิดยางรถแตกเสียงดังสั่นก่อนที่จะเกิดประกายไฟลุกลามติดห้องเครื่องจากนั้นได้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วผู้โดยสารทั้งหมดจึงวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดและควบคุมเพลิงไว้ได้  รถพบร่างผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย เป็นผู้ใหญ่ 3 ราย เด็กอีก 2 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ  ขณะที่คนขับรถทัวร์คันดังกล่าวซึ่งได้รับบาดเจ็บและถูกส่งตัวเข้าทำการรักษา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขอนแก่น - "บิ๊กตู่" ส่งกระเช้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุไฟไหม้รถทัวร์ที่ขอนแก่น ขณะที่ผู้ว่าฯ สั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือเต็มที่ พร้อมเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินประกันช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสรายละ 1.1ล้านบาท

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 เม.ย.2564 ที่ รพ.สิรินทร ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นำกระเช้าจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมและมอบให้กับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถทัวร์โดยสารสายอุดรธานี-กรุงเทพฯ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอีก 12 ราย ซึ่งผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินทร 3 ราย ถูกไฟไหม้ที่แขน ใบหน้า และใบหู อาการโดยรวมอยู่ในขั้นปลอดภัยเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ พร้อมทั้งพูดคุยและให้กำลังใจกับผู้บาดเจ็บและครอบครัวด้วย พร้อมทั้งยืนยันให้การช่วยเหลือทุกครอบครัวตามสิทธิเต็มที่

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเมื่อทราบข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กำชับลงมายังพื้นที่ให้มีการตรวจสอบช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวและผู้บาดเจ็บทุกราย ซึ่งทาง คปภ.และบริษัทประกันภัยรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมร่วมกันและสรุปค่าเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตรายละ 1.1 ล้านบาทตามสิทธิที่จะได้รับจากประกันภัยและพรบ.รถ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขณะนี้ทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือ น.ส.สุกัญญา เกดหอม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 14 ต.เมืองเพียง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ส่วนที่เหลืออีก 4 รายยังไม่ทราบชื่อ อายุ และที่อยู่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจอัตลักษณ์บุคคล ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 12 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินทร ส่วนหนึ่ง และทีโรงพยาบาลขอนแก่นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในทางคดีขณะนี้ทราบว่าได้มีการแจ้งข้อกับพนักงานขับรถแล้ว และทราบรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดหมดแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นใคร โดยจะต้องคัดแยกรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้ที่รอดจากเหตุการณ์ทั้ง ก็จะเหลือรายชื่อของผู้เสียชีวิต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ในภาพรวมทั้งหมด

ขณะที นาย ปัญจพล ภาคสังข์ อายุ19 ปี ชาว อ.เสาไห้ จ.สระบุรี 1 ในผู้รอดชีวิตและได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า กลับมาหาแม่ที่ จ.อุดรธานี และได้ซื้อตั๋วกลับเพื่อไปลง จ.สระบุรี โดยขึ้นรถเที่ยว 3 ทุ่ม ที่ บขส.อุดรธานี ระหว่างทางก็นอนมากับรถ ก่อนรถจะแวะเติมแก๊สที่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับพักรถ 20 นาที ก่อนจะขับออกมาเพื่อเดินทางต่อกระทั่งได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้งก็ทราบว่ารถน่าจะยางเกิดระเบิด แล้วก็เห็นไฟลุกขึ้นบริเวณด้านหลังและเห็นจนรีบลงจากรถ ตนเองจึงรีบลงมาจากชั้นสองและวิ่งออกไปได้ทัน ซึ่งในช่วงที่วิ่งลงมาชั้น 1 นั้นทุกคนต่างเบียดเสียดกันบางคนล้มบ้าง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง

"พอมาถึงชั้นหนึ่งก็ได้กลิ่นแก๊สลอยเข้าคอจนเกือบจะหมดสติ พูดไม่ออกและพยายามพุ่งออกไปข้างหน้าจนถึงทางออก ๆได้สำเร็จและวิ่งเข้าไปในป่าแล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นอีกครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลและแจ้งแม่ให้ทราบและแม่ก็เดินทางมาหาที่โรงพยาบาล

พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด กล่าวว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายพัศดี คำคอน อายุ 48 ปี พนักงานขับรถทัวร์โดยสารกันเกิดเหตุ มาสอบปาก โดยทราบว่าขณะที่เพลิงลุกไหม้ นายพัศดีได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นใส่ไฟที่ลุกไหม้ พร้อมกับให้ผู้โดยสารลงจากรถ ส่วนการตรวจร่างกายหาสารเสพติด โดยผลออกมาไม่พบสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และจากรายงานพนักงานสอบสวนระบุว่ารถทัวร์คันดังกล่าว ได้เติมเชื้อเพลิงประเภทก๊าซ NGV โดยก่อนเกิดเหตุได้แวะเติมที่สถานีบริการในพื้นที่ ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น ก่อนจะขับมาได้ประมาณ 30 กิโลเมตร แล้วเกิดเหตุสลดขึ้น จากนี้จะให้ขนส่งจังหวัดขอนแก่น ตรวจสอบว่า รถทัวร์คันนี้ได้มีการขอจดทะเบียนติดตั้งก๊าซ NGV ถูกต้องตามกฎกระทรวงคมนาคมหรือไม่

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปที่ห้องเก็บศพ รพ.ศรีนครินทร์ ซึ่งยังไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตมาติดต่อรับศพหรือแสดงตัวเป็นญาติแต่อย่างใด ซึ่งตามขั้นตอนหากมีญาติผู้เสียชีวิตมาติดต่อรับศพก็จะทำการตรวจดีเอ็นเอของญาติและผู้เสียชีวิตเพื่อส่งมอบศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป

 

ขอนแก่น - เปิดหอพัก 26 ม.ขอนแก่น ตั้ง รพ.สนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มเข้าพักเวลา 16.00 น.วันนี้

นพ.สมชายโชติ​ ปิยวัชร์เวลา​ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากมติกรรมการโรคติดต่อจังหวีดขอนแก่น ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดขอนแก่น และได้มีการจัดระบบการดูแลกรณีมีผู้ป่วยจำนวนมาก ในระบบการส่งต่อคนไข้ที่ไม่มีอาการไปกักตัวดูแลในโรงพยาบาลเครือข่ายตามแผน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปที่ต่าง ๆ โดยพิจารณาจากจำนวนเตียงที่สามารถรับได้ทั้งหมดแล้ว และถ้าหากมีจำนวนผู้ป่วยมากจำเป็นต้องจัดให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้ร่วมประชุมการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ร่วมกับตัวแทนของโรงพยาบาลศรีนครินทร์​ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้เลือกสถานที่ที่มีความเหมาะสม คือ หอพัก 26​ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น รองรับได้ 258 เตียง และหอประชุมพุทธมณฑลอีสาน ตำบลศิลา รองรับได้  240 เตียง ​การจัดอัตรากำลังให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้ดำเนินการในการจัดทีม รวมทั้งการสนับสนุนระบบต่าง ๆ กำหนดเปิดโรงพยาบาลสนามในวันนี้ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้รูปแบบการจัดการได้มีการนำเสนอส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้มีประสิทธิภาพต่อไป

ล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid19 รายใหม่เมื่อวานนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 31 ราย ทำให้จังหวัดขอนแก่นมีจํานวนผู้ติดเชื้อสะสมจากการระบาดในระลอกใหม่นับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 – 14 เม.ย. 54 รวม 126 ราย รักษาหายแล้ว 14 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล 112 ราย

ขอนแก่น - ตรวจสอบกรณีสาวนักศึกษาติดเชื้อโควิดที่ กทม. แต่ไม่ยอมกักตัว กลับขึ้นรถโดยสารปรับอากาศมาตรวจเชื้อที่ขอนแก่น ก่อนผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่าง ๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด เป็นนักศึกษาสาว ชาวจังหวัดขอนแก่น ที่โพสต์ข้อความและไทม์ไลน์ เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ของตนเองผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว โดยข้อความระบุว่า “ไทม์ไลน์เราตั้งแต่วันที่ 1 - 5 คือสุ่มเสี่ยงมาก จนวันที่ 6 - 7 เรามีเริ่มมีอาการปวดหัวมาก+ตัวร้อน  วันที่ 8 อาการดีขึ้น วันที่ 9 กลับมาปวดหัวหนักอีกรอบ  วันที่ 10 - ปัจจุบัน ไม่มีอาการปวดหัวแล้ว หายปวดหัว  หลังจากคืนวันที่ 9 เพราะเข้านอนเร็ว+กินยา+กินน้ำเยอะ ๆ แต่อาการที่ตามมาหลังจากนี้คือ ได้กลิ่นอ่อน ๆ อ่อนมาก ๆ ถ้าไม่เอาเข้าใกล้จมูกแทบจะไม่ได้กลิ่น ส่วนรสอาหารแรก ๆ ยังรับรสอยู่ พอวันนี้ (วันที่12) ตื่นมาลิ้นรับรสยาสีฟันน้อยมาก ได้กลิ่นน้อยกว่าเดิมมาก ๆ วันนี้เลยกำลังเดินทางไปตรวจที่ จ.ขอนแก่น เพราะทางบ้านให้ไป หากพบเชื้อจริงก็จะรักษาตัวที่ ขอนแก่นเลย ในส่วนของไทม์ไลน์จะมาลงให้หลังจาก รู้ผลตรวจแล้วนะทุกคน ขอโทษที่ทำให้คนรอบข้างได้รับผลกระทบหรือเดือด ร้อนจากการกระทำของเราด้วยจริง ๆ นะ ขอโทษแบบ ขอโทษจากใจเลย” หลังจากนั้นเจ้าตัวได้มาโพสต์ข้อความ ยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อโควิดพร้อมกับแจงรายละเอียดไทม์ไลน์ตนเอง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ต้องขอบคุณน้องนักศึกษาที่แจ้งไทม์ไลน์เอาไว้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ทราบและดำเนินการสอบสวนเชิงรุกทันที เบื้องต้นนั้นได้ทราบว่า ตัวนักศึกษารายดังกล่าวนั้นมีมาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันโรค โดยสวมใส่แมสตลอดเวลา ก่อนจะเข้ารับการตรวจ ซึ่งคล้าย ๆ กับผู้ติดเชื้อที่สมุทรสาคร ซึ่งก็มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะในระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทางสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเข้าไปตรวจสอบในเชิงลึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ อย่างเข้มงวด หากมีความผิดในประการใดก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย และขอให้ทุกคนที่พบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วยขอให้งดเดินทางและเข้ารับการตรวจที่สถานให้บริการด้านสาธารณสุขใกล้ตัวทันทีและขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดด้วย

ขอนแก่น - มข.ตั้งรพ.สนาม แห่งแรกของจังหวัด รองรับผู้ป่วยโควิด-19 สนับสนุนประเทศ ก้าวข้ามภาวะวิกฤต

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564  รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี  รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์  ผศ.ดร.อาวุธ ยิ้มแต้  รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม  รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความปลอดภัย  อาจารย์ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ  พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และบุคลากร ให้การต้อนรับ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นพ.สมชายโชติ​ ปิยวัชร์เวลา นายแพทยสาธารณ​สุขจังหวัด​ขอนแก่น​ พร้อมด้วยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้ามาตรวจความพร้อมหอพักที่ 26 มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 แห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น

ดร.สมศักดิ์  จังตระกุล  กล่าวว่า  “หอพักที่ 26 ที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 ของจังหวัดขอนแก่น  ถือว่าเป็นโรงพยาบาลสนามที่มีความพร้อมในทุกประการ ซึ่งในหลักคิดของการจัดการผู้ป่วยโควิด-19  คือการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลผู้ป่วย บริหารทรัพยากรพื้นที่ โดยสำนึกว่าทรัพยากรต่างๆนั้นเกิดมามาจากภาษีอากรของประชาชน จึงต้องบริหารจัดการให้ดีที่สุดเพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด  วันนี้โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะเป็นความภาคภูมิใจของความร่วมมือในทุกภาคส่วน ในการดูแล ช่วยแบ่งเบาลดภาระโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณาจารย์ บุคลากร น้องๆ นิสิต นักศึกษา จะเข้าใจของการที่เราต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ในสังคมที่มีการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ของโรคโควิด-19  ที่สำคัญคือเราจะช่วยกันบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุน ในการบริหารจัดการโรคให้ลุล่วง และบรรลุวัตถุประสงค์ของทางราชการ”

ด้านรศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล  ให้ความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า  “มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีทรัพยากรที่มีความพร้อมที่จะสนับสนุนภาวะวิกฤตของประเทศ และจังหวัดขอนแก่น ประกอบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศให้นำทรัพยากรมาสนับสนุนประเทศ  มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้ร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น  ได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม โดยนำหอพักที่ 26 ที่ปรับปรุงใหม่แล้วเสร็จพอดียังไม่มีการจัดนักศึกษาเข้าพัก เป็นโรงพยาบาลสนามมีมาตรฐาน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงให้มีความปลอดภัย มีการกำหนดพื้นที่  มีการวางระบบกำจัดของเสียต่าง ๆ เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง  ขอให้นักศึกษา และบุคลากรมีความมั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบในด้านความเสี่ยง  ไม่ว่าจะเป็นหอพัก  หรือบุคลากร นักศึกษาที่อยู่พื้นที่อื่นๆ  ด้วยมาตรฐานดังกล่าว โรงพยาบาลสนามที่เปิดมาแล้วทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีโรงพยาบาลสนาม 3 แห่งแรก ประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ  สหรัฐอเมริกา หรือในประเทศไทยที่มีการเปิดที่จังหวัดสมุทรสาครมาแล้ว  ด้วยมาตรฐานเหล่านี้ ไม่พบว่ามีรายงานว่ามีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลสนามแห่งใดเลย  จึงมั่นใจว่าโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะไม่มีบุคลากร นักศึกษาได้รับผลกระทบ หรือติดโรค ขอให้มีความมั่นใจ เราจะได้ทุ่มเททรัพยากรไปสนับสนุนไปแก้ปัญหาของจังหวัดได้อย่างเต็มที่”

ส่วน รศ.นพ.สมศักดิ์  เทียมเก่า  รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม 1 (หอ26) กล่าวให้ความมั่นใจว่า  “สืบเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกเดือนเมษายน 2564  มีการกระจายตัวไปเป็นอย่างมาก  จำนวนผู้ป่วยในแต่ละโรงพยาบาลมีจำนวนมาก เป็นปัญหาที่หนึ่งของโรคโควิด นอกจากจะมีจำนวนผู้ป่วยโควิดมากขึ้นแล้ว  กลุ่มผู้ป่วยโรคปกติก็ยังมีอยู่  ฉะนั้น หน้าที่ของโรงพยาบาลหลัก เช่น โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์  และโรงพยาบาลชุมชน ต้องรับรักษาผู้ป่วยทุกกลุ่ม  ประกอบกับผู้ป่วยโรคโควิดจำเป็นต้องนอนรับการรักษาในโรงพยาบาลนานอย่างน้อย 14 วัน หรือมากกว่านั้น เพื่อไม่ให้มีโอกาสแพร่เชื้อ  จำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนสะสมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้ใช้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลักต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก  ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ทำให้ต้องลดการให้บริการ หรือผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ารับบริการได้  ซึ่งผู้ป่วยโรคโควิดจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่  กลุ่มที่มีอาการหนัก  ที่ต้องอยู่ในห้องความดันลบ  กลุ่มที่สอง มีอาการรุนแรงปานกลาง ต้องให้ออกซิเจน กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มซึ่งไม่มีอาการใดๆ เลย หรือมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอเล็กน้อย  ฉะนั้นโรงพยาบาลสนามจึงมีความสำคัญในการผ่องถ่ายคนไข้จากโรงพยาบาลหลักออกมาสู่โรงพยาบาลสนาม  โดยกลุ่มผู้ป่วยที่เข้าอยู่ในโรงพยาบาลสนาม จะผ่านการดูแลรักษา วินิจฉัย  การดูแลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนกระทั่งมีอาการดีขึ้น มีอาการปลอดภัย  จึงจะย้ายคนไข้ออกจากโรงพยาบาลหลักเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม  เพื่อให้โรงพยาบาลหลักสามารถรับรักษาผู้ป่วยทั้งโรคโควิด และโรคอื่น ๆ ได้”

“หลักการของโรงพยาบาลสนามก็คือ  มีบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าเป็นแพทย์เฉพาะทาง แพทย์ทั่วไป พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เภสัชกร  หรือเรียกว่ายกโรงพยาบาล พร้อมทั้งมาตรฐานของโรงพยาบาลเพื่อควบคุมภาวะปลอดเชื้อต่าง ๆ หรือการกำจัดขยะ หรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ  ยกมาไว้ที่โรงพยาบาลสนามทั้งหมด ฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าโรงพยาบาลสนามจะมีความปลอดภัยทั้งกับผู้ป่วยเองซึ่งได้รับการรักษามาเป็นอย่างดีแล้ว และคนที่อยู่รอบข้างของโรงพยาบาลสนาม  เนื่องจากเป็นสถานที่ปิด มีการจัดทางเดินเข้าออกของรถ ผู้ป่วย ผู้มาให้บริการ เป็นทางอย่างชัดเจน จะไม่มีการเดินสวนกัน ระหว่างคนไข้ กับคนมาให้บริการ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ  มีการกำจัดเชื้อไม่ว่าจะเป็นน้ำทิ้ง หรือขยะต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของการกำจัดขยะที่มีเชื้อโรคตามมาตรฐาน โดยความร่วมมือของสถานพยาบาล และเทศบาลเมืองขอนแก่น  โรงพยาบาลสนามมีความจำเป็นจริง ๆ ในสภาวการณ์ขณะนี้  และมีความปลอดภัยกับทุกคน และปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด โดยจะมีบุคลากร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตลอดเวลา เพื่อควบคุมมาตรฐานต่าง ๆ ความปลอดภัยต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วย บุคลากร และชุมชนที่อยู่รอบโรงพยาบาลสนามด้วย”

รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี กล่าวถึงความห่วงใยต่อนักศึกษาและบุคลากรว่า  “การใช้หอพักที่ 26 เป็นโรงพยาบาลสนามนั้น  มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมาตรการเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อนักศึกษาที่พักอาศัยในหอพักที่ 3 หอพักที่ 4 บุคลากร ผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ โดยได้มีการดำเนินการกั้นพื้นที่ หอพักที่ 3-4 แยกออกจาก หอพักที่ 26 โดยใช้แผงเหล็กกั้น 2 และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอดเวลา  มีการแยกช่องทางในการนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลสนามกับทางเดินของนักศึกษาที่อยู่หอพักออกจากกัน โดยเปิดช่องทางด้านหลังหอพักที่ 26 เป็นการเฉพาะสำหรับผู้ป่วย  ทั้งนี้  หอพัก 3-4 ห่างจากหอพักที่ 26 เกิน 15 เมตร ซึ่งปลอดภัยกับนักศึกษาอย่างแน่นอน”

ความร่วมมือสนับสนุนด้านการสาธารณสุขใช้หอพักที่ 26  เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 เนื่องจาก เป็นหอพักที่แยกจากหอพักอื่น ๆ อย่างชัดเจน ตรงตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด  โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี  มีการควบคุมการเข้า-ออก  มีระบบการสื่อสารที่ดีโดยติดตั้งระบบไวไฟ (WiFi) อำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย   เพื่อให้ประชาชนได้ก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด-19  เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการป้องกัน และดูแลรักษาความปลอดภัย ไม่ให้เกิดผลกระทบ และความเสี่ยงต่อนิสิตนักศึกษา บุคลากร และประชาชนรอบข้าง รวมทั้งสิ่งแวดล้อม

ขอนแก่น - โซเชียลจวกยับชาวขอนแก่น เล่นน้ำสงกรานต์ไม่สนประกาศคำสั่งห้ามเรื่องไวรัสโควิด-19 ไร้มาตรการการป้องกันโรค วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน

เมื่อเวลา 10.00 น..วันที่ 16 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพคลิปกลุ่มชายหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 10 คน เล่นสาดน้ำสงกรานต์ในหมู่บ้าน โดยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กพร้อมคลิปวีดีโอจำนวนหลายคลิปพร้อมข้อความระบุว่า “สงกรานต์วันสุดท้าย จ๊วดจ๊าด วันรวมญาติ(แต่ไม่ครบ) ปีหน้าว่ากันใหม่ สุขกายสบายใจกันทุกคนนะคะ ปีแรกที่ได้เล่นน้ำสงกรานต์ ถูกใจหลาย สงกรานต์ปีแรกของน้องกัปตัน” ซึ่งในคลิปนั้นปรากฏเป็นภาพของวัยรุ่นทั้งชายหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไม่สวมใส่แมส บางรายเอาแมสไว้ที่คาง ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เต้นอยู่กลางถนน พร้อมกับสาดน้ำสงกรานต์เหมือนไม่มีประกาศคำสั่งให้งดและไม่เกรงกลัวโรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด

ซึ่งภายหลังผู้โพสต์มีการโพสต์ทั้งคลิปและภาพนิ่งที่เล่นน้ำสงกรานต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสม และไร้จิตสำนึกของผู้โพสต์รวมทั้งคนที่เล่นน้ำสงกรานต์ในวันดังกล่าว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและดำเนินคดี เพราะในขณะที่ทุกคนตระหนักถึงการป้องกันโรค แต่ยังมีคนจำนวนนี้ที่นึกถึงแต่ความสนุกความสบายของตัวเองโดยไม่สนใจว่าจะเกิดการแพร่ระยาดของโรคและขัดคำสั่งประกาศของทางเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ทุกพื้นที่

และภายหลังจากโซเชียลมีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบพบว่าล่าสุดโพสต์ทั้ง 2 โพสต์นั้นถูกลบออกไปแล้ว แต่จะมีหลายเพจเฟซบุ๊กในจังหวัดขอนแก่นที่เซฟภาพไว้ทันนำมาโพสต์เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบ

ขอนแก่น - ว่าที่มิสแกรนด์ แถลงข่าวประกวดมิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 ก้าวสู่เวทีอันดับ 1 แห่งภาคอีสาน กองประกวดมิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 เปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้ง 26 คน ตัวแทนจาก 26 อำเภอ

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 เมษายน 2564 ที่ ห้องบอลรูมพรสราญ โรงแรมเฮือนต้นนุ่น ขอนแก่น  ได้มีถ่ายทอดสดแถลงข่าว มิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 พร้อมเปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้ง 26 คน ตัวแทนจาก 26 อำเภอ อีกทั้ง เปิดตัวมงกุฎประจำตำแหน่งมิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 พร้อมผู้เข้ารอบชุดประจำชาติ 10 ผลงานสุดท้าย และเซอร์ไพร์สอีกมากมาย โดยมีนายณัทธภัทร มูลเหลา ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ขอนแก่น พร้อมด้วยนายสิทธา  สมควรดี กรรมการผู้จัดการบริษัท เจ้านาง (ไทยแลนด์) จำกัด คุณ ปพิชญา  ศรีประวัติกุล  กรรมการผู้จัดการโรงแรมเฮือนต้นนุ่น ร่วมแถลงการจัดงานการประกวดมิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 โดยมี สาวงามผู้เข้าร่วมประกวด ทั้ง 26 อำเภอ ร่วมงาน

นายณัทธภัทร  มูลเหลา ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ขอนแก่น กล่าวว่า ในฐานะของผู้จัดงานมีความมุ่งมั่น และมีความมั่นใจที่จะให้เวทีการประกวดนางงาม ของจังหวัดขอนแก่นได้เป็นที่รู้จักยกมาตรฐานยกระดับ ในการทำงานในเวทีนางงามมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวผมคนเดียวไม่อาจทำงานได้ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ได้ ต้องขอขอบพระคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกัน หรือแม้แต่ผู้สนับสนุนทุกๆท่าน เช่นแบรนด์เครื่องสำอางค์เจ้านาง รวมไปถึงสถานที่ที่จัดงาน ในการเก็บตัวผู้เข้าประกวด เช่นโรงแรมเฮือนต้นนุ่น ขอกราบขอบพระคุณครับ ส่วนน้องๆทุกคน ตอนสมัครมาประกวดก็จะต้องมีใบรับรองแพทย์ หรือผลการตรวจเลือดทุกคน ส่วนสาวงามก็จะมีอำเภอละ 1 คน รวม 26 คน 26 อำเภอผ่านทาง Facebook : Miss Grand Thailand เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปจะคว้ามงกุฏโดยในวันนี้เป็นการเปิดตัวสาวงามผู้เข้าประกวดจาก 26 อำเภอ และจะเก็บตัวทำกิจกรรม 6-9 พฤษภาคม 64 การคัดเลือกว่าใครจะได้เป็นมิสแกรนด์ขอนแก่นก็ต้องเป็นวันที่ 9 พ.ค.2564

ด้าน นายสิทธา  สมควรดี กรรมการผู้จัดการบริษัท เจ้านาง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทเจ้าของแบรนด์เจ้านางได้เล็งเห็นศักยภาพของคนขอนแก่น ได้ทำความสวยความงามในด้าน ของตัวเองว่าตัวเองชอบความสวยความงามด้านไหน เราจึงได้สร้างโปรเจคขึ้นมา คือให้น้องๆที่เข้าประกวดได้ทำ การนวดไทยผ่านแอป tiktok และได้ทำ Present ว่าตัวเองได้ทำพรีเซนต์สินค้าตัวไหน ของแบรนด์เจ้านางแล้วเราก็จะจับพิเศษตัวนี้แหละ ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งถ้าใครทำพรีเซนต์ แล้วมีคนเข้าไปดู คุณชอบคนชื่นชม และกดไลค์ กดแชร์ เป็นจำนวนมาก ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการตัดสิน ผ่านและก็จะ Contact ส่งไปให้น้อง เพื่อที่จะเข้าไปในรอบตัดสินได้เลย

ส่วน คุณปพิชญา ศรีประวัติกุล  กรรมการผู้จัดการโรงแรมเฮือนต้นนุ่น  กล่าวว่า ทางโรงแรมเรือนต้นนุ่นก็รู้สึกยินดีที่ได้ ต้อนรับคณะกองประกวดมิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 ในครั้งนี้ ในการป้องกันมาตรการ covid ทางโรงแรมเราก็ได้ เว้นระยะที่นั่งสำหรับทุกท่าน และก็ได้มีการตรวจสอบและติดตามข่าวของสาธารณสุขอยู่เป็นประจำ ก่อนที่เราจะมีการจัดงานขึ้น ส่วนงานในวันนี้เราก็มีการเซฟตี้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยศักยภาพของทางโรงแรมเราก็สามารถต้อนรับคณะจัดประชุมฯ หรือจัดงานต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ เมืองไมซ์ซิตี้ ของขอนแก่นเรา. Cr.ถ่ายทอดสดแถลงข่าว มิสแกรนด์ขอนแก่น 2021 https://www.facebook.com/watch/?v=488233545858141


ภาพ/ข่าว ศูนย์ข่าวขอนแก่น

ขอนแก่น - รพ.ศรีนครินทร์ เสริมเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มหลังเตียงผู้ป่วยเต็ม ยืนยันสามารถบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่และครอบคลุมผู้ติดเชื้อทุกระดับ พร้อมนำหุ่นยนต์ทดแทนบุคลากรมาใช้ในการส่งอาหาร

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 เม.ย.2564 ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข.รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข.  เปิดเผยว่า การบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของทางโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในสังกัดชอง มข. ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ที่ในขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องทะลุกว่า 200 ราย ทำให้เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆที่เตรียมสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะเริ่มเต็ม ซึ่ง รพ.ศรีนครินทร์มีห้องความดันลบทั้งหมด 8 ห้อง เตียงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับหนัก-วิกฤติ ซึ่งมีเตียงผู้ป่วยอยู่ 5 เตียงขณะนี้ก็เต็มเช่นเดียวกัน

"ในส่วนของเตียงที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับหนักและวิกฤตินั้น ทางโรงพยาบาลได้เพิ่มเตียงอีก 5 เตียง ซึ่งจะเพียงพอในการดูและผู้ป่วยในระดับหนัก-วิกฤติ ในส่วนของผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลาง ภายใต้การบริหารจัดการรับมือสถานการณ์ในระดับสูงสุด ซึ่งในเรื่องของเตียงผู้ป่วยขณะนี้จะสามารถรองรับผู้ป่วยทุกระดับได้ทั้งหมด"

ขณะที่ รศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า ในแผนของการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ทางโรงพยาบาลได้มีแผนเตรียมพร้อมรับในทุกระดับตั้งแต่ระดับน้อยไม่แสดงอาการไปจนถึงระดับหนักถึงขั้นวิกฤติ แต่จะเน้นในการรักษาผู้ติดเชื้อภาวะวิกฤติเป็นหลักเหมือนกับที่โรงพยาบาลขอนแก่น เนื่องจากมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์การแพทย์และบุคลากร ซึ่งการดูแลผู้ป่วยหนักจะแตกต่างจากการดูแลผู้ป่วยระดับอื่น ๆ เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์พิเศษอื่น ๆ เยอะ ทั้งชุดป้องกันที่จะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยในระดับที่สูง และต้องใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วอย่างดี แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้มีการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โรงพยาบาลจึงต้องช่วยดูแลผู้ป่วยที่มีอาการในระดับน้อยถึงปานกลางด้วย ทำให้มีการแบ่งสัดส่วนของจำนวนเตียงผู้ป่วยให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

"ขณะนี้เรามีตั้งแต่ผู้ป่วยที่ต้องสงสัยรอผลตรวจ โดยจัดโซนภายในตึกสามารถรองรับได้จำนวน 14 คน คนไข้ที่มีอาการปานกลางจัดโซนไว้ให้ 2 ตึก สามารถรองรับได้จำนวน 20 คน ส่วนคนไข้ที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้นแล้วเป็นอาการคงที่จะย้ายไปอีกตึกหนึ่งและรอกลับบ้านซึ่งรองรับได้16 คนและกำลังพิจารณาหาหอผู้ป่วยรองรับอีก 12 เตียง ในส่วนของคนไข้หนักซึ่งเป็นภารกิจหลักของเราสามารถรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 5 คน ขณะนี้จำนวนเตียงเต็มแล้วทั้ง 5 เตียง แต่เร็ว ๆ นี้จะสามารถส่งผู้ติดเชื้ออาการหนักที่ทำการรักษาหายแล้วกลับบ้าน 1 ราย ก็จะทำให้เตียงหนักว่าง 1 เตียง ทำให้ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้ทำการจัดสรรหาหอผู้ป่วยรองรับผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นอีก โดยใช้หอผู้ป่วยจำนวน 1 ตึกซึ่งจะสามารถรองรับผู้ติดเชื้ออาการหนักจนถึงขั้นวิกฤติได้อีก 5 เตียง โดยวันนี้จะเริ่มเข้าไปทำการปรับเปลี่ยนทันทีตามความเหมาะสมและได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข"

ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โรงพยาบาล ได้นำหุ่นยนต์มาช่วยในเรื่องของการส่งอาหารและยาให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระดับสูงสุด ส่วนบุคลากรของ รพ.ศรีนครินทร์ ในช่วงของการระบาดระลอกที่ 3 นี้ภายหลังจากพบแพทย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 คน ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงในโรงพยาบาลและตัวผู้ป่วยด้วย เนื่องจากบุคลกรทางการแพทย์นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันในหลายๆ แผนก ต้องมีการปิดหอผู้ป่วยและตึกผ่าตัดเพื่อทำความสะอาด

ในขณะนั้นมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับ แพทย์ที่ติดเชื้อจำนวนเกือบ 600 คน ผู้ป่วยที่แพทย์ที่ติดเชื้อให้การรักษาอีกเกือบ 30 คน แต่ผลตรวจหาเชื้อของทุกคนเป็นลบ ทำให้มีความเข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยต้องสงสัย และผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัด จะมีการนำเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์มาเสริมโดยซักประวัติผู้ป่วยผ่านทางวีดีโอคอล การสวอบผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกคนรวมถึงผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อจะมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อความปลอดภัยต่อบุคลากรทางแพทย์ในระดับสูงสุด พร้อมทั้งจัดทีมแพทย์ให้เข้ากับสถานการณ์หากมีทีมแพทย์ติดเชื้อก็สามารถสับเปลี่ยนทีมแพทย์ยกชุดได้ทันที

นอกจากนี้ยังบริหารจัดการในส่วนของผู้ป่วยโดยการลดการให้บริการบางส่วนภายในโรงพยาบาล แต่จะให้การสอบถามอาการผ่านทางโทรศัพท์และส่งยาไปให้ผู้ป่วยที่บ้านทางไปรษณีย์ ลดระยะเวลาของผู้ป่วยที่จะอยู่ในโรงพยาบาลให้น้อยที่สุด ซึ่งผู้ป่วยที่จะรับยาภายหลังจากยื่นใบสั่งยาแล้วให้ไปที่อื่นทันทีและจะมีข้อความแจ้งมายังผู้ป่วยว่าขณะนี้สามารถรับยาได้แล้วจึงค่อยเดินทางมารับยากลับไป หรือผู้ป่วยบางรายที่กลัวไม่กล้าเดินทางมาโรงพยาบาลก็จะใช้วิธีการสอบถามอาการผ่านทางโทรศัพท์และจัดยาส่งไปให้ทางไปรษณีย์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top