Friday, 17 May 2024
ขอนแก่น

ขอนแก่น - เร่งสร้าง รพ.สนาม แห่งที่ 4 และ 5 รับมือภาวะผู้ป่วยล้นเตียง พร้อมสั่งปิดร้านเกม-อินเตอร์เนต -โรงหนัง -ร้านอาหาร ตามเวลาที่กำหนด หลัง ศบค.กำหนด ให้เป็นพื้นที่สีแดง ต้องคุมเขัมทุกมาตรการ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ก.ค.2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสำนักงานเขตสุขภาพที่ 7 ภายในสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ครั้วที่ 28/2564 เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ ศบค.ได้กำหนดให้ขอนแก่นเป็นพื้นที่ควบคุมสีแดง จากสถานการการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งจังหวัดได้มีมติในการปิดโรงภาพยนต์เป็นเวลา 14 วัน ขณะที่ร้านเกม ร้านอินเตอร์เนต มีคำสั่งปิดออกไปอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่ร้านอาหารงดการจำหน่ายตั้งแต่เวลา 23.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ที่ประชุมยังคงมีคำสั่งเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของพรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ออกไปเป็น เดือน ธ.ค.

"การจำกัดการเดินทางเข้ามาในพื้นที่นั้นชัดเจนว่าตอนนี้เรามีจุดตรวจ เข้าเมือง ทั้งสิ้น 3 จุด คือที่ อ.บ้านไผ่ อ.ชุมแพ และที่ด่านตรวจเขตเมืองที่บริเวณสวนสาธารณะประตูเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรถทุกคันโดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ รถที่มีป้ายทะเบียนต่างจังหวัด เช่นเดียวกันกับด่านตรวจหลักที่สนามบิน,สถานีขนส่งและสถานีรถไฟ จะตรวจเข้มทุกคนที่เดินเข้ามาในเขตจังหวัด โดยขอให้เตรียมเอกสารแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งประกอบด้วยเอกสารการยืนยันฉีดวัคซีนชิโนแวคครบ 2 เข็มมาแล้วไม่น้อยกว่า 28 วัน หรือการฉีดวัคชีนแอสตร้าเชเนก้า 1 เข็มมาแล้วไม่น้อยกว่า 28 วัน และมีผลตรวจโควิดมาแล้วไม่เกิน 72 ชม."

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นท่มีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดเกิดจากการรับเชื้อมาจากต่างพื้นที่โดยที่ยังคงไม่มีการติดเชื้อภายในเขตจังหวัด ซึ่งในการประชุมได้มีมติ ตั้งโฮสพิเทล เพิ่มเติม คือที่โรงแรมโฆษะ และ โรงแรม กรีนโฮเต็ล ในการกำกับดูแลของ รพ.ราชพฤกษ์ รวมทั้งการตั้ง รพ.สนาม แห่งที่ 4 ที่ค่ายเปรมติณสูลานนท์ อ.น้ำพอง  และ รพ.สนาม แห่งที่ 5 ที่ บ.กระทิงแดงจำกัด ซึ่งเป็นภาคเอกชน ที่ ตั้งอยู่ที่ อ.อุบลรัตน์ ที่ได้มีการเสนอตัวขึ้นมา เนื่องจากขณะนีเตียงรักษาผู้ป่วยโควิด ของ รพ.ฯ ต่าง ๆ ใกล้เต็มจำนวน ซึ่งคณะทำงานจะลงพื้นที่ประเมินและจัดตั้ง ตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเข้มงวดต่อไป

ขอนแก่น - สสจ. ย้ำชัด บุคลากรด่านหน้าต้องได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน เร่งสำรวจผู้ที่ตกหล่น ฉีดให้ครบภายในเดือนนี้ วอนทุกคนเห็นใจตามการจัดสรรวัคซีนมาจากส่วนกลาง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.ค. 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า รพ.น้ำพอง และสำนักงานสาธารณสุข อ.น้ำพอง ได้สรุปรายงานและชี้แจงเหตุการณ์ กลุ่ม อสม. ในเขต อ.น้ำพอง ได้รวมตัวกันประท้วงและต่อว่าการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเขต อ.น้ำพอง จนทำให้ อสม. บ.น้ำพอง เกือบ 60 คนไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งที่เป็นบุคลากรด่านหน้า ตามที่หน่วยงานรัฐกำหนด ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์ดังกล่าวได้คลี่คลายแล้ว โดย นายอำเภอน้ำพอง,รพ.น้ำพอง,สำนักงานสาธารณสุข อ.น้ำพอง,สภ.น้ำพอง และ ชมรม อสม.อ.น้ำพอง ได้มีการประชุมและหารือกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าเกิดจากการสำรวจ ในระบบต่างๆในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งคณะทำงานได้หารือร่วมกันใหม่ทั้งหมดจนได้ข้อยุติ คือการสำรวจรายชื่อ อสม.ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนใหม่หมดทั้งอำเภอ เพื่อเข้าสู่แผนการฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.

" ผมย้ำว่าบุคลากรด่านหน้าต้องได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน ขอแค่ทุกท่านดำเนินการตามที่ สสจ.หรือ ทีมแพทย์กำหนด ขณะที่ตัวแปรที่สำคัญคือการได้รับการจัดสรรวัคซีน จากส่วนกลาง ตามที่ได้รับการจัดสรรมาในแต่ละรอบ แต่เมื่อทางจังหวัดได้รับมาเท่าใดนั้น ก็มีการจัดส่งกระจายไปในพื้นที่ทุกอำเภอท่านพี่ ดังนั้น กล่ม อสม. ในเขต อ.น้ำพอง รวมกว่า 60 คนนั้น จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 ก.ค.นี้"

นพ.สมชายโชติ กล่าวต่ออีกว่า อสม.จัดเป็นบุคลากรด่านหน้าที่สำคัญที่ทำงานร่วมกันกับ ฝ่ายสาธารณสุขในทุกเรื่องโดยเฉพาะกับสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ที่ อสม.ทำงานอย่างหนักทุกวัน ดังนั้นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฎิบัติงาน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันและร่วมมือกัน ให้การสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่เพื่อที่เราจะก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน

ขอนแก่น - โควิดระบาด ชาวบ้านแห่ซื้อฟ้าทะลายโจรและกระชายขาว เกลี้ยงแผงทุกร้านขายยา พบของขาดมานานหลายเดือนแล้ว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านขายยาแผนปัจจุบัน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังพบว่ามีประชาชนจำนวนมากพากันมาเลือกซื้อสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและกระชายขาว แบบแคปซูล กันอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปรับประทานป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อในเขต จ.ขอนแก่น พบผู้ป่วยมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะที่ร้านยาธงดีเภสัช ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.ศรีธาตุประชาสันติ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบว่ามีประชาชนมาสอบถามและซื้อยาฟ้าทะลายโจรและยากลุ่มต้านไวรัสกันตลอดทั้งวัน

เภสัชกรธง ดีมาก เจ้าของร้านขายยาธงดีเภสัช กล่าวว่า ยอมรับว่าฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูลขายหมดได้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ส่วนยาเขียวตราใบโพธิ์ และกระชายขาวนั้นขาดตลาดมานานกว่า 4 เดือนแล้วเช่นกัน ซึ่งเมื่อลูกค้าเข้ามาสอบถามก็จะแนะนำในส่วนของสมุนไพรทางเลือกอื่น ๆ ขณะที่จากการสอบถามลูกค้าที่มาซื้อนั้นพบว่าเป็นลูกค้าจากต่างอำเภอที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แวะเข้ามาถามซื้อฟ้าทะลายโจร และกลุ่มยาต้านไวรัส เพื่อซื้อส่งไปให้ลูก หลาน รวมทั้งญาติพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพราะได้รับการประสานจากญาติว่ากลุ่มยาเหล่านี้หาซื้อไม่ได้แล้ว

"ยังมีกลุ่มยาที่ประชาชนเข้ามาถามหาเพิ่มเติม คือยากลุ่มต้านเชื้อไวรัสโควิด-19  ที่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างมาก ที่เป็นสูตรในการรักษาโควิด แบบประคับประคอง เพราะลูกค้าบางรายอาจจะเตรียมไว้เผื่อในอนาคตหากต้องติดโควิด แล้วโรงพยาบาลสนามเต็ม ก็จะได้มีการรักษาตัวเองไปก่อน รวมไปถึงกลุ่มยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลมในกรณีที่เชื้อลงปอด และยังมีกลุ่มยาลดไข้และสมุนไพรทางเลือกอื่น ๆ ที่ลูกค้าแวะมาเลือกซื้ออยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตามหากในกรณีที่ฟ้าทะลายโจรขาดตลาด และลูกค้ามาสอบถามก็จะแนะนำขมิ้นชันวิตามินซี รวมทั้งสเปรย์พ่นคอ ที่ช่วยต้านเชื้อไวรัสเชื่แแบคทีเรียและเชื้อราได้อีกด้วย"

เภสัชกรธง กล่าวต่ออีกว่า ร้านมีการปรับตัวในการขายเยอะขึ้นตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการขายยาผ่านช่องหน้าต่าง ปิดประตูไม่ให้ลูกค้าเข้ามาภายในบริเวณร้าน มีพัดลมดูดดอากาศให้อากาศหมุนเวียนตลอดเวลา อีกทั้งมีการเขียนป้ายไฟบริเวณด้านหน้าร้าน ว่าจ่ายยาผ่านช่องรบกวนให้ลูกค้ากดกริ่งเรียกเภสัชกร นอกจากนี้ยังมีการจัดส่วนของยาให้เหมาะในการจ่ายได้ทันที และในของเภสัชกรเองก็จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยสวมทับด้วยเฟสชิวอีกชั้น นอกจากนี้ยังมีการขายยาผ่านช่องทางไลน์เป็นเทเลฟาร์มาซี มีการปรึกษาเภสัชกรทางวิดีโอคอลก่อนซื้อยา หลังจากนั้นให้ลูกค้าโอนเงินให้ร้านยา และจัดส่งด้วย Grab เพื่อความปลอดภัย ลดการเดินทางออกจากบ้านที่จะเสี่ยงติดเชื้ออีกด้วย

ขอนแก่น - งานเข้า นักโทษเรือนจำขอนแก่นติดโควิด 315 คน สนธิกำลังร่วมทุกฝ่ายคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด

ผู้ต้องขังชายคุกขอนแก่นติดโควิดสั่งปิดแดนต้องขัง 1-2  ขณะที่ สสจ.สนธิกำลังร่วมทุกฝ่ายคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด เร่งตรวจหาเชื้ออีกกว่า 3,000 เตรียมย้ายผู้ต้องขังหญิงไปอยู่เรือนจำพล เพื่อปรับแดนหญิงเป็น รพ.สนาม ควบคุมการระบาด

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 ก.ค. 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดขอนแก่น นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสมมาตย์ สุราช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวการพบผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำกลางขอนแก่น พร้อมทั้งมาตรการควบคุมและป้องกันโรคภายในเรือนจำ ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมกำหนด โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวและรับมอบนโยบายการดำเนินงานตามคำสั่งอย่างพร้อมเพรียงกัน

นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่าเรือนจำขอนแก่นมีผู้ต้องขังทั้งหมด 4,458 คน โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางเรือนจำฯว่าพบกลุ่มผู้ต้องขังมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ และมีน้ำมูก

จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 และเรือนจำจังหวัดขอนแก่น ให้ดำเนินการตรวจคัดกรองผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 15 คน ซึ่งพบว่าผู้ต้องขังชาย 3 คนติดเชื้อโควิด-19  จากนั้นคณะทำงานจึงได้ขยายผลตรวจผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง 1,620 คน โดยขณะนี้พบผู้ต้องขังยืนยันติดเชื้อโควิดแล้ว 315 คน

นพ.สมชายโชติ กล่าวด้วยว่าในส่วนของคลัสเตอร์เรือนจำกลางขอนแก่นนั้น มีการวางแผนควบคุมโรคในรูปแบบบับเบิลแอนด์ซีล ห้ามการเข้า-ออก เด็ดขาดและไม่รับผู้ต้องขังรายใหม่ และเร่งตรวจกลุ่มผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด 329 คน เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังแดนหญิงไปที่เรือนจำพล อ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อปรับพื้นที่ให้แดนหญิงเป็นโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ รักษากลุ่มผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ หากผู้ป่วยมีอาการหนักจะถูกส่งตัวต่อไปรักษาที่ รพ.ขอนแก่น ในส่วนของผู้ต้องขังอีกกว่า 3,000 คน ที่ไม่ได้ตรวจหาเชื้อ ได้วางแผนเชิงรุกโดยการเอกซเรย์ปอดผู้ต้องขังทุกคน หากพบติดเชื้อแม้จะไม่แสดงอาการก็จะถูกส่งต่อการรักษาที่ รพ.สนาม ภายในเรือนจำทันที

ขอนแก่น – สั่งปิดตลาดสดศรีเมืองทอง เพิ่มอีก 7 วัน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อเชื่อโยงคลัสเตอร์หลายจังหวัด พร้อมสั่งปรับปรุงตลาดให้ถูกสุขอนามัยฝ่าฝืนเอาผิดตามกฎหมาย ขณะที่ อบจ.ขอนแก่น จัดซื้อวัคซีน “โมเดอร์นา” จากสภากาชาดไทยชุดแรก 30,000 โดส

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 ส.ค.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นที่ประชุมวันนี้ได้มีข้อสรุปและมีมติร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันท์ในการที่จะมีประกาศคำสั่งจังหวัดเพิ่มเติมให้สอดรับกับการที่ ศบค.ปรับให้ขอนแก่น จัดอยู่ในกลุ่มจังหวัดสีแดง โดยเฉพาะกับการกำหนดจำนวนบุคลที่จะเข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งการตั้ง รพ.สนาม ที่เรือนจำ อ.พล ภายใต้การกำกับและควบคุมของกรมราชทัณฑ์และ รพ.พล การกำหนดจุดตรวจการเข้าและออกเมือง จากเดิมกำหนดจุดตรวจที่ด่านนาโน อ.บ้านไผ่ ให้เป็น ด่านตรวจ อ.พล การผ่อนผันการเดินทางของ สส.และ สว. ที่ต้องเดินทางไปปฎิบัติงานและประชุมในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม การขยายระยะเวลาการสอบของหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยในการจัดการสอบกลุ่มข้าราชการพิเศษ จากเดิม กำหนดการสอบ ส.ค. ไปเป็นเดือน ก.ย.

“วันนี้ที่ประชุมได้มีมติให้ อบจ.ขอนแก่น จัดหาวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ตามระเบียบของสภากาชาดไทย เบื้องต้น 30,000 โดส สำหรับการฉีดให้กับชาวขอนแก่นกลุ่มเป้าหมาย 15,000 คน ซึ่งจะใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท โดยในการพิจารณารายชื่อของผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นมอบหมายให้ สสจ.ขอนแก่น ตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมและขอนแก่นพร้อมเป็นลำดับแรก ซึ่งเมื่อมีติเป็นเอกฉันท์ก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกับ อบจ.ดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบที่สภากาชาดไทยกำหนดไว้ต่อไป”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยังมีมติในการขยายระยะเวลาการปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน ไปจนกว่าสถานการฯจะคลี่คลาย รวมทั้งการมีคำสั่งปิดตลาดศรีเมืองทองออกไปอีก 7 วัน จากเดิมครบกำหนดสั่งปิดในวันที่ 5 ส.ค. เนื่องจากเป็นคลัสเตอร์ที่พบการแพร่เชื้อในกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า และขณะนี้การสอบสวนโรคยังคงพบว่าผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อของตลาดแห่งนี้ยังคงเชื่อมโยงไปในกลุ่มตลาดของอีกหลายจังหวัด ทำให้ที่ประชุมจึงมีคำสั่งปิดตลาดต่อไปอีกและให้มีการจัดระบบด้านสุขอนามัย ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด หากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามขณะนี้การขาดเครื่องพ่นออกชิเจนแบบไฮโฟ ในการใช้ในการรักษาผู้ป่วยในภาพรวมยังคงขาดแคลนอยู่ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าต้องใช้เครื่องดังกล่าวในการรักษาประมาณ 110 เครื่องดังนั้น นอกจากการประสานงานร่วม อบจ.ขอนแก่น,เทศบาลนครขอนแก่นแล้ว ยังคงขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในการขอรับการสนับสนุนเครื่องพ่นออกซิเจนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนในระยะนี้

ขอนแก่น - รพ.ศรีนครินทร์ มข. เพิ่มเตียงผู้ป่วยโควิด รับมือทุกกลุ่มอาการเป็น 400 เตียง รับขอนแก่นกลับบ้าน ปรับหอผู้ป่วยหลัก 3 จุดเป็นหอผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะ ขณะที่ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น เร่งจับตาคลัสเตอร์ใหม่เชื่อมโยงตลาดศรีเมือทอง

เมื่อเวลา  09.00 น.วันที่ 11 ส.ค.2564  ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.นพ.อภิชาติ  จิระวุฒิพงศ์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. และ รศ.นพ.ทรงศักดิ์  เกียรติชูสกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ ตรวจติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงอาคารรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามกรอบความร่วมมือร่วมระหว่าง สสจ.ขอนแก่น และ มข. ในการให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ

รศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น คณะแพทยศาสตร์ มข. จึงได้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนหอผู้ป่วย 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย หอผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือ AE 1,2,3 หอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือ Burn Unit และ ICU ศัลยกรรม มาเป็นหอผู้ป่วยรวมสำหรับการให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ โดยมีการแยกส่วนเฉพาะหอผู้ป่วยดังกล่าวชั้น 2 ของ รพ. เป็นเขตพื้นที่ควบคุม ดูแลรับผู้ป่วยโควิด ในโซนตะวันตกของจังหวัดขอนแก่น เพื่อแบ่งเบาภาระของ รพ.ขอนแก่น ในการดูแลผู้ป่วยที่จะต้องรับส่งต่อซึ่งจากแผนการปรับปรุงดังกล่าวหากนับรวม รพ.สนามขอนแก่น แห่งที่ 1 ที่หอพัก 26 ที่ดำเนินการอยู่จะให้ศักยภาพของ รพ.ศรีนครินทร์จะสามารถให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้มากถึง 300 เตียง

“แผนการดำเนินงานดังกล่าวขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยคาดว่ายในเดือน ส.ค.นี้การรับหอผู้ป่วยเดิมเป็นหอผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะจะสามารถดำเนินการได้ทั้งระบบ ตามสัดส่วนการบริหารจัดการเหตุการณ์ในความรับผิดชอบของ รพ.ศรีนครินทร์ ประกอบด้วย ที่ รพ.สนามขอนแก่น แห่งที่ 1 หอพัก 26 มข. ที่รองรับการรักษาได้ 256 เตียง , ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จะรองรับผู้ป่วยในกลุ่มอาการสีเขียว เป็น 100 เตียง,สีเหลือ 30 เตียง ,สีส้ม 16 เตียงและสีแดง 22 เตียง โดยได้ประสานการทำงานร่วมกันกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในการรับผู้ป่วยในเขตอำเภอทางตะวันตกและกลุ่มผู้ป่วยในเขต อ.เมือง ตามแผนการดำเนินงานร่วมระหว่างหน่วยงานที่ได้กำหนดไว้”

ขณะที่ นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นยแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีการรายงานยืนยันล่าสุดวันนี้ อยู่ที่ 264 รายในจำนวนนี้แยกเป็นกลุ่มคลัสเตอร์เรือนจำ 145 ราย ที่เหลือคือกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดที่เข้ารับการรักษาตัวตามระบบการส่งต่อทางการแพทย์ ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดอยู่ที่ 6,680 ราย กำลังรักษา 5,480 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 25 ราย ขณะที่การเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยตามบริหารจัดการทางการแพทย์ ซึ่งวันนี้ข่าวดีจาก รพศรีนครินทร์ ที่มีความคืบหน้าในการสร้างหอพักผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะซึ่งแม้ว่า รพ.ศรีนครินทร์ จะเป็นโรงเรียนแพทย์ที่มีภารกิจหลัก คือ การเรียนการสอน แต่ในสภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจ จนนำมาสู่การดำเนินงานของ รพ.ฯและการจัดระบบรับส่งต่อจากรพ. ชุมแพ, ภูผาม่าน ,สีชมพู, เวียงเก่า, หนองนาคำ ,ภูเวียง ,หนองเรือ  และ อ.บ้านฝาง  ซึ่งแม้จะไม่สามารถรับได้ทั้งหมด แต่ได้เปิดรับในการให้การดูแล และให้คำปรึกษา ในการสร้างความร่วมมือ สร้างความเข้มแข็ง ในระบบบริการสาธารณสุข ได้อย่างดีเยี่ยม

อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อยังได้จับตาคลัสเตอร์ตลาดหนองหม่น เขต ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดศรีเมืองทอง หลังพบพ่อค้า-แม่ค้า ป่วยติดเชื้อแล้ว 12 รายและมีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและมารายงานตัวแล้กว่า 800 ราย ทำให้การตรวจคัดกรองเชิงรุกจึงดำเนินการต่อเนื่องทุกวันควบคู่กับการควบคุมสถานการณ์ของตลาดดังกล่าวไว้ในวงที่จำกัดอย่างรวดเร็ว

ขอนแก่น - “ธีระศักดิ์” ผุดไอเดียขอนแก่นโมเดล เร่งฉีดวัคซีนทางเลือกและวัคซีนจัดสรร มั่นใจคนขอนแก่นร่วมมือกันและกลับสู่ภาวะปกติได้สำเร็จ

เร่งฉีดวัคซีนทางเลือกและวัคซีนจัดสรร ให้ได้ร้อยละ 70 เสนอจังหวัดขอเปิดเทอมและผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด มั่นใจคนขอนแก่นร่วมมือกันและกลับสู่ภาวะปกติแบบนิวนอมอลได้สำเร็จ พร้อมระบุจุดฉีดวัคซีนทางเลือกมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและกำกับทุกขั้นตอน ไม่มีคุณยายรับวัคซีน 2 เข็มแบบบางจังหวัดอย่างแน่นอน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 ส.ค.2564 ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีน รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า จ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นำคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาฯ รวมทั้งผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจคณะทำงานด้านวัคซีนของ รพ.ศรีนครินทร์ และ คณะทำงานของเทศบาลนครขอนแก่น รวมทั้งพบปะประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ทยอยเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ตามแผนการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม วันนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ของรอบแรกในการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมาย 17,000 คน โดยมีประชาชนที่ได้รับการยืนยันการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์มตามที่เทศบาลนครขอนแก่นได้ทำการจัดหาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่กำหนดการฉีดรอบแรกสัปดาห์แรกระหว่างวันที่ 14-19 ส.ค.ทยอยเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนตามรอบเวลาที่กำหนดอย่างต่อเนื่องท่ามกลางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า วันที่ 3 ของการให้บริการวัคซีนทางเลือกตามที่เทศบาลฯได้จัดหามานั้นในภาพรวมยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด คือรอบแรก 17,000 คน ที่มีกำหนดการฉีดวัคซีน 2 ช่วงเวลาคือ 16-19 ส.ค. และ 23-25 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. จำกัดวันละ 15 รอบ แยกเป็นรอบช้า 6 รอบ และรอบบ่าย 9 รอบ รอบละ 350 คน ซึ่งหน่วยฉีดวัคซีนจุดนี้จะสามารถให้บริการได้วันละ 2,650 คน ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ที่ไม่มาฉีดวัคซีนอยู่ที่ประมาณวันละ 10% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ไม่สะดวกเดินทางมา รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเทศบาลฯกำหนดแผนที่จะให้บริการเชิงรุกแบบถึงบ้าน รวมไปถึงการจัดลำดับสำรองที่เตรียมไว้ทุกกลุ่มหากมีคนสละสิทธิ์การรับวัคซีนชิโนฟาร์ม ก็จะเลือกลำดับสำรองมาเข้ารับการฉีดวัคซีนในวันที่ 24-25 ส.ค.เป็นลำดับต่อไป ขณะเดียวกันการบริหารจัดการพื้นที่ ที่มีการกำหนดช่อฉีดวัคซีนมากถึง 25 ช่อง ซึ่งแสดงถึงการเว้นระยะห่างและการให้บริการที่รวดเร็ว ลดการรวมตัวและกำหนดในเรื่องของการเว้นระยะห่างได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกประจำจุดต่างๆ ทุกจุดอย่างรัดกุมและรอบคอบดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้นในบางจังหวัดที่คุณยายได้รับวัคซีน 2 เข็ม จะไม่มีเกิดขึ้นที่ขอนแก่นอย่างแน่นอน

“ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแกน มีประมาณ 110,000 คน ซึ่งวัคซีนทางเลือกชิโรฟาร์มที่เทศบาลฯได้รับการจัดสรรตามที่เทศบาลฯได้ดำเนินการจัดซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งได้รับรอบแรก 17,000  คนและ รอบที่ 38,000 คน ซึ่งหากได้รับครบทุกคนจะทำให้เขตเทศบาลฯของเรานั้นมีประชากรได้รับวัคซีนถึง 55,000 คนหรืออยู่ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรในเขตเทศบาลฯ และในเดือน ต.ค.หากนับรวมวัคซีนที่รัฐจัดสรรและทำให้เขตเทศบาลฯมีประชากรได้รับวัคซีนถึงร้อยละ 70  ก็จะมีการพิจารณารูปแบบการผ่อนคลายมาตรการหรือการเปิดเมือง ซึ่งคงไม่ถึงการเป็นขอนแกนแซนบอค แต่จะมีการหารือและแนวทางการทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบการด้านธุรกิจเอกชนต่าง ๆ ทุกองค์กร ที่จะเดินต่อไปถึงแผนการฟื้นฟูเมืองในภาพรวม ที่ทุกคนจะร่วมมือกันและเข้าสู่ระบบมาตรฐานความปลอดภัยในระดับประเทศจากหน่วยงานที่รับผิดชอบที่จะมาตรวจและประเมินเมือง ดังนั้นในเดือน ต.ค.จะมีการประเมินอีกว่าเมื่อเขตเทศบาลฯได้รับวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยละ 70 การเปิดเมืองนั้นจะออกมาในรูปแบบใด รวมไปถึงการเปิดเรียนในส่วนของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลฯ ที่จะมีการหารือกันว่าเมื่อคณะครู บุคลากรทางการศึกษา ชุมชน และผู้ปกครองได้รับวัคซีนครบกว่า 70% แล้ว โรงเรียนในสังกัดเทศบาล 11 แห่งจะสามารถเปิดเรียนในเทอมที่ 2 แบบนิวนอมอลได้หรือไม่”

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่าในการให้บริการวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ในรอบที่ 2 รวม 38,000 คน ที่จะกำหนดฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. ต่อเนื่องไปจนถึง กลางเดือน ก.ย. โดยขณะนี้เทศบาลฯได้กำหนดจุดฉีดวัคซีน  5 จุด ประกอบด้วย รพ.ศรีนครินทร์ จุดฉีดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแห่งนี้ รวมทั้ง รพ.ขอนแก่น,ศุนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น,รพ.ราชพฤกษ์ และ รพ.กรุงเทพขอนแก่น ที่จะร่วมมือกันระดมการฉีดวัคซีนให้ครบตามเป้าหมายและจำนวนที่กำหนด ควบคู่กับการให้บริการเชิงรุกแบบฉีดถึงบ้านในส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วนติดเตียง และการตามหากลุ่มคนเร่ร่อนในเขตเมืองอีกกว่า 100 คน อย่างไรก็ตามในรอบที่ 2 ที่กำหนดฉีดอีก 38,000 คนนั้น จะมีการจัดทำรูปแบบของครอบครัว คือนอกจากบุคคลที่ได้รับการยืนยันการฉีดวัคซีนจากเทศบาลฯแล้ว หากครอบครัวประสงค์ที่จะฉีดและพาคุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย มารับบริการการฉีดวัคซีน เทศบาลจะกำหนดให้คนในครอบครัวได้รับวัคซีนชิโนฟาร์มตามที่เทศบาลฯได้จัดหามานั้นฉีดให้กับคนในครอบครัวด้วยเพราะถือเป็นครอบครัวที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ที่ครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะมีการประเมินกันอีกครั้ง

ขอนแก่น - ขยะติดเชื้อจากเหตุโควิด ทะลักกว่าวันละ 1,000 กก. เทศบาลฯ รับบทหนักจัดเก็บและกำจัดตามาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวด "ธีระศักดิ์" ระบุคนงานของเทศบาลไม่เพียงพอต่อการจัดเก็บ แต่ทุกคนพร้อมทำหน้าที่เพื่อก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์ไปด้วยกัน

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 ส.ค.2564 นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า เทศบาลฯดำเนินการจัดเก็บขยะติดเชื้อเพื่อนำไปกำจัดเฉลี่ยวันละ ประมาณ 300 กิโลกรัม และด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ปัจจุบันมี ขยะติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลสนาม ที่มีขยะที่จะต้องดำเนินการกำจัด เฉลี่ยประมาณวันละ 1,000 กิโลกรัม ขณะที่รถจัดเก็บขยะยังมีอยู่เท่าเดิม คือ 1 คัน

"ด้วยศักยภาพของเทศบาลในปัจจุบัน ก็ยังพอรับมือได้ แต่หากมีการขยายโรงพยาบาลสนามมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็จะเกินขีดความสามารถเพราะทางเทศบาลกำลังดำเนินการประสานหาบริษัทเอกชนมาจัดเก็บขยะเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้ได้รับคำตอบว่า บริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่ติดต่อไป ต่างก็มีงานล้นมือ ทำให้ในตอนนี้เทศบาลจึงแก้ปัญหาโดยการปรึกษากับทางกรมอนามัยว่า วิธีการที่เทศบาลใช้รถขยะทั่วไปจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งทางกรมอนามัยก็มาดำเนินการและมาพูดคุยกันแล้วและบอกวิธีการให้ทราบ โดยวิธีการคือใช้รถขยะ ที่มีระบบฝาปิดมิดชิด เนื่องจากว่ารถขยะทั่วไปไม่มีระบบห้องเย็น แต่ความจริงขยะตามครัวเรือน หรือโรงพยาบาลสนาม ขยะติดเชื้อก็จะต่างจากขยะติดเชื้อ ของโรงพยาบาลทั่วไปที่จำเป็นจะต้องมีห้องเย็นเพราะมีจำพวก ชิ้นเนื้อ หรือเลือด ทำให้ต้องมีระบบห้องเย็นเพื่อที่จะได้รักษาอุณหภูมิไม่ให้เน่าเสียมากจนเกินไป"

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่น สำหรับขยะติดเชื้อของครัวเรือน และ โรงพยาบาลสนามที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไม่ได้เป็นลักษณะดังกล่าว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกที่ใช้แล้ว ก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อ ดังนั้นก็สามารถใช้รถขยะทั่วไปให้ดำเนินการได้ แต่ขอให้มีระบบมิดชิด และเมื่อเก็บใส่ถุงแล้วก็ให้พ่นฉีดฆ่าเชื้อ ใส่ถุงแล้วก็นำขึ้นไปในรถนำไปที่ห้องเย็นที่บ้านคำบอนแล้วก็จะมีบริษัทมารับไปกำจัด ซึ่งเป็นสถานที่แยกกำจัดขยะติดเชื้อ จะไม่รวมกับขยะทั่วไป  และปัญหาที่พบขณะนี้คือ จำนวนคนเก็บขยะไม่เพียงพอในการจัดเก็บขยะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ ขยะจากบ้านเรือนที่เป็น โฮมไอโซเลชั่นซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนโรงแรมที่ปรับมาเป็นโรงพยาบาลสนาม

ซึ่งในส่วนนี้ก็มีการประสานว่าการรวบรวมขยะติดเชื้อที่ถูกต้องควรจะดำเนินการอย่างไรตามมาตรฐานด้านอนามัย ซึ่งทางโรงพยาบาลสนามทุกแห่งก็รู้วิธีการปฏิบัติดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหามากก็สามารถดำเนินการได้ สำหรับแนวทางในการป้องกันเจ้าหน้าที่ที่ต้องเก็บขยะทุกวันนั้น ทางเทศบาล ได้มีการมอบชุดรวมถึงถุงมือ และมีมาตรการวิธีการดำเนินการ โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกก็คือพนักงานที่เก็บขยะทั่วไปก็มีวิธีการอธิบายและให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ขณะนี้พบว่าคนงานของเทศบาลซึ่งเป็นพนักงานจัดเก็บขยะเฉลี่ยต่อคนจะต้องเก็บขยะต่อคนโดยเฉลี่ย 1.8 ตันต่อคน  ซึ่งจะมีปัญหาหากใส่ชุดพีพีอี เก็บขยะ วันละ 1.8 ตัน แต่ปกติถ้าไม่สามารถใส่ได้ก็ต้องมีถุงมือมีรองเท้า ซึ่งทางเทศบาลก็สนับสนุนเต็มที่โดยเฉพาะมาตรฐานตรงนี้ทางหัวหน้างานหัวหน้าฝ่ายก็มีการดูแลอย่างเข้มงวด

"สำหรับขยะติดเชื้อค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ทางเทศบาลเป็นผู้รับผิดชอบ หากเป็นแต่ก่อนขยะติดเชื้อจากสถานประกอบการทั่วไป ก็คิดค่าใช้จ่ายกับสถานประกอบการ แต่พอมีกรณีของโรงพยาบาลสนามค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเทศบาลก็ต้องรับผิดชอบไป  โดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งวัน จากเดิมวันละ 300 กิโลกรัมก็เพิ่มเป็นวันละ 1,000 กิโลกรัม จะมีค่ากำจัดเพิ่มขึ้นเทศบาลก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นการดูแลซึ่งกันและกันจึงไม่สามารถที่จะไปเรียกร้องกับใครได้"

ขอนแก่น - มข. คลอดมาตรการช่วยเหลือนักศึกษา ลดค่าธรรมเนียมการศึกษา ในสถานการณ์ โควิด-19

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 รศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยความคืบหน้า มาตรการช่วยเหลือนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ในสถานการณ์ COVID-19 ภายหลังจากที่นักศึกษาได้เริ่มลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์

จากการที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือนักศึกษาในสถานการณ์ COVID-19 ประจำภาคการศึกษาที่ 1/2564 คือลดค่าธรรมเนียมการศึกษา ภาคการศึกษาที่ 1/2564 ร้อยละ 50 (ต้องยืนยันตัวตนในการรับสิทธิ์) โดย ส่วนลดจากรัฐ (สูงสุด 30 %) ส่วนลดจากมหาวิทยาลัย(สูงสุด 20 %)ผ่อนผันการชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ดังนี้

1. ผลัดชำระค่าธรรมนียมการศึกษาได้ใน 6 เดือน และหากมีความจำเป็นสามารถขอขยายเวลาเพิ่มได้อีก 6 เดือน รวมเป็น 1 ปี

2. ผ่อนชำระค่าธรรมเนียมการศึกษาในแต่ละภาคการศึกษาได้เป็น 3 งวด เพิ่มทุนการศึกษา(ทุนให้เปล่า) เป็นเงิน 75 ล้านบาท (ของมข. 45 ล้านบาท + ของคณะ 30 ล้านบาท) เพิ่มทุนจ้างงานนักศึกษาเป็นเงิน 25 ล้านบาท (ของมข. 15 ล้านบาท + ของคณะ 10 ล้านบาท)ให้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมือถือแบบ Top-Up Unlimited 4 เดือน ลดค่าธรรมเนียมหอพักนักศึกษาส่วนกลางของมหาวิทยาลัย 20 %ติดตั้ง High Speed Internet เพิ่มในหอพักนักศึกษาส่วนกลางของมหาวิทยาลัย (ขยาย FTTx ในหอพักอีก 1,000 ห้อง)

ขอความร่วมมือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศให้เพิ่มบริการการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่นักศึกษาทุกคนในราคาที่ถูกลง จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหาคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต ให้นักศึกษายืมเป็นเงิน 40 ล้านบาท (ของมข. 20 ล้านบาท+ของคณะ 20 ล้านบาท) (ขยายโครงการจากปีก่อน +50%)

ประกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 สำหรับนักศึกษาให้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมจำนวน 50,000 บาท และเป็นค่าสินไหมทดแทนหากเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจำนวน 500,000 บาทจัดคูปองอาหารกลางวันสำหรับนักศึกษาโดยมีการเปิดให้นักศึกษาลงทะเบียนขอใช้สิทธิลดค่าธรรมเนียมการศึกษาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้แจ้งความคืบหน้า ภายหลังจากที่นักศึกษาได้เริ่มลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ จนถึงวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ความว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ประกาศให้นักศึกษาลงทะเบียนขอใช้สิทธิลดค่าธรรมเนียมการศึกษา ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 นักศึกษาทุกระดับได้เริ่มมีการทะเบียนมากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับในส่วนลด 20% ของมหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาให้กับนักศึกษาที่ขอคืนรอบแรก (สำหรับนักศึกษาที่ชำระเงินครบ) โดยมหาวิทยาลัยได้โอนเงินเข้าบัญชีของนักศึกษาแต่ละคนไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2564 จำนวน 24,150 คน เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 95,609,286.50 บาท (เก้าสิบห้าล้านหกแสนเก้าพันสองร้อยแปดสิบหกบาทห้าสิบสตางค์) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยอดนี้รวมนักศึกษาต่างชาติจำนวน135 คนด้วย โดยนักศึกษาที่เหลือมหาวิทยาลัยจะดำเนินการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาให้ในรอบถัดไป

ขอนแก่น - "ทม.ศิลา" มอบถุงยังชีพให้ครอบครัวผู้ติดโควิด-19 เพื่อใช้ชีวิตกลับเป็นปกติในสังคมต่อไป

รองนายกฯ พร้อมประธานสภาฯ ทม.ศิลา พร้อมด้วยผญบ.อสม.บ้านหนองกุง ร่วมมอบถุงยังชีพให้ครอบครัวผู้ติดเชื้อโควิด ที่ได้รับการรักษาหายป่วยแล้วพร้อมใช้ชีวิตปกติในสังคมต่อไป

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 นายกรวิทย์ ติวเฮือง รองนายกเทศมนตรีเมืองศิลา ,นายสุริยนต์ ติวเฮือง ประธานสภาเทศบาลเมืองศิลา พร้อมด้วยผญบ.,อสม.บ้านหนองกุง ม.2  ม.17 ลงพื้นที่ เยี่ยมและมอบถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้งให้ครอบครัวผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่ได้รับการรักษาหายป่วยแล้ว พร้อมใช้ชีวิตปกติในสังคมต่อไป โดยมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคนในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิค -19 ที่ได้ทำการรักษาจนหายดี แล้วมารับมอบ

นายกรวิทย์ ติวเฮือง รองนายกเทศมนตรีเมืองศิลา กล่าวว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัย โดยต้องปรับตัวต่อมาตรการต่าง ๆ ในการป้องกันตนเองและการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ขณะที่ยังมีประชาชนกลุ่มเปราะบางหลายพื้นที่ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ศิลา ซึ่งในการลงพื้นที่ในวันนี้จึงเป็นการติดตามและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง และครอบครัวผู้ติดเชื้อโควิด - 19 ที่ได้รับการรักษาหายป่วยแล้วให้พร้อมใช้ชีวิตปกติในสังคม ต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกคน ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท โดยสวมหน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือเป็นประจำ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากทุกคนร่วมมือกัน มั่นใจว่าจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้แน่นอน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top