Friday, 17 May 2024
ขอนแก่น

ขอนแก่น - หอการค้าขอนแก่น ประกาศฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ หลังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรร ชิโนฟาร์ม ให้ 2,400 โดส “ชาญณรงค์” ย้ำชัด ไทยเปิดประเทศ ทุกคนต้องเตรียมพร้อม เร่งประสาน สธ. พิจารณาจุดออกพาสต์ปอร์ตวัคซีนในระดับภูมิภาค ครอบคล

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 มิ.ย.2564 นายชาญณรงค์  บุริสตระกุล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้แจ้งยืนยันในการจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับหอการค้าขอนแก่นแล้วจำนวน 2,400 โดส สำหรับการฉีดให้กับบุคลากรในองค์กร 1,200 คน โดยคาดว่าวัคซีนดังกล่าวนี้นั้น หอการค้าจะได้รับภายในสุดสัปดาห์นี้และเตรียมที่จะดำเนินการฉีดได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยที่ได้มีการประสานงานร่วมกับ รพ.ราชพฤกษ์ ในการเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในองค์กรตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด ทำให้ขณะนี้คณะทำงานด้านวัคซีนหอการค้า จ.ขอนแก่น จะมีการประชุมพิจารณาบุคลากรที่จะเข้ารับวัคซีนดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนเพื่อจัดส่งรายชื่อให้กับราชวิทยาลัยฯรวมทั้ง รพ.ราชพฤกษ์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามแนวทางและนโยบายที่รัฐบาลกำหนด โดยผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนนั้นจะเน้นหนักในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ

“รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ขณะที่ มาตรการผ่อนคลาย จาก ศบค.และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีมติออกมาอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ที่คลี่คลายลงและประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน จนนำมาสู่ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ และยังคงมีประชาชนที่รอขั้นตอนการฉีดตามการจัดสรรวัคซีนตามที่รัฐกำหนด ขณะที่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เมื่อทุกอย่างผ่อนคลาย ภาคธุรกิจเอกชน การค้า และการลงทุน จะต้องทำทันที

ดังนั้นการจัดสรรวัคซีนทางเลือกนั้นจะเน้นหนักไปในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่จะต้องเดินทางติดต่อประสานงาน ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่เป็นสมาชิกของหอการค้าขอนแก่น กลุ่มนักธุรกิจที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศหลังจากการเปิดประเทศทันที กลุ่มธุรกิจขนส่งต่าง ๆ รวมไปถึงนักธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการค้าการลงทุนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและได้รับเอกสารยืนยันในการที่จะสามารถติดต่อ สื่อสาร เจรจาธุรกิจ และการลงทุนต่าง ๆ ทำให้ในระยะนี้คือการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆของผู้ประกอบการที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าหลังสถานการณ์ต่าง ๆ ได้คลี่คลายลง”

นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้การได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เริ่มมีอย่างแพร่หลายแล้ว ซึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วทั้งประเทศภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดีหอการค้าจะมีการประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ในการพิจารณาการออกพาสปอร์ตวัคซีนระดับภูมิภาค เนื่องจากขณะนี้การออกเอกสารดังกล่าวยังคงสามารถดำเนินการได้เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและการลดการเดินทางเข้าพื้นที่เสียง ภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนคณะทำงานในการออกเอกสารดังกล่าวในระดับภูมิภาค ซึ่งอาจจะเน้นไปในพื้นที่จังหวัดหลักตามขออำนาจหน้าที่ที่กระรวงต่างประเทศรับผิดชอบที่มีการออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอรต์อยู่แล้ว ให้สามารถออกพาสปอร์ตวัคซีนได้ควบคู่กันไปด้วยตามระเบียบที่กำหนด โดยอาจจะเริ่มจากขอนแก่น-เชียงใหม่และสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานหนังสือเดินทางรวมทั้งสถานกงสุลจากนานาประเทศอยู่แล้ว

ขอนแก่น - ชาวขอนแกนยืนรอต่อคิวลุ้นรับทองคำ จากการฉีดวัคซีนแน่นห้องประชุม ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดเก้าอี้ให้นั่งอยู่กับที่ ลดการสัมผัสและเว้นระยะห่าง พร้อมส่งทีมแพทย์-พยาบาล ตรวจคัดกรองและให้บริการวัคซีนในทุกขั้นตอน

ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพล จ.ขอนแก่น ตลอดทั้งวันมีประชาชนที่ได้รับการยืนยันการฉีดวัคซีนจาก รพ.พล ทยอยเดินทางมายืนยันตัวตนและเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามแผนการฉีดวัคซีนของ รพ.พล ที่ดำเนินการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค.ตามแผนการบริหารจัดการวัคซีนจากสำนักงานสาธาณสุขจังหวัดและคณะกรรมการควบคุมโรค จ.ขอนแก่นได้กำหนดไว้ โดยในวันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค. เป็นรอบคิวการฉีดวัคซีนของคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล ทำให้มีประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิ์ทยอยกันเดินทางมาฉีดวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง โดยมี นพ.ประวีร์  คำศรีสุข ผอ.รพ. และ นายกิตติโชติ  เตรียมวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล คอยกำกับควบคุมการฉีดวัคซีนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ซึ่งในการจัดจุดฉีดวัคซีนของศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยหน่วยฉีดวัคซีนเครือข่ายบริการสุขภาพ อ.พล ซึ่งนอกจากการลงทะเบียนและการตรวจวัดความดัน และการตรวจคัดกรองตามระบบที่กำหนดแล้ว ภายหลังจากการพบแพทย์ จะเข้าสู่ขั้นตอนของการฉีด ซึ่งพบว่า ที่หน่วยฉีดแห่งนี้ ได้จัดให้ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ได้นั่งประจำที่ ตามแถวที่กำหนด แถวละ 11 คน โดยเมื่อครบจำนวนคนแล้ว ทีมแพทย์และพยาบาล จะทำการยืนยันตัวบุคคลในขั้นตอนสุดท้ายแล้วจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการฉีดแบบล้อลาก คือให้ผู้ที่รับการฉีดวัคซีนนั้นได้นั่งอยู่กับที่ ตั้งแต่ขั้นตอนการยืนยันรายชื่อ การฉีดวัคซีน การให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีน รวมไปถึงพักรอ 30 นาที และ ออกเอกสารนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่ทุกคนจะนั่งอยู๋กับที่โดยไม่ต้องขยับตัวไปไหน โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาล คอยสังเกตอาการและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และเมื่อครบกำหนดพักรอ 30 นาที ทุกคนจะเดินผ่านจุดบริการของเทศบาลเมืองเมืองพล ในการร่วมลุ้นรับรางวัลทองคำหนัก 1 สลึง 3 เส้น ที่ผู้มีจิตศรัทธาและเทศบาลเมืองเมืองพล ได้จัดเตรียมไว้ สำหรับการร่วมรับโชคให้กับผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาลได้รณรงค์ให้คนไทยทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

นายกิตติโชติ  เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวว่า ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล มีประชากรกว่า 8,000 คน ซึ่งเป้าหมายของการฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาล และ ทางจังหวัดกำหนดนั้นคือให้ได้ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งเท่ากับว่าคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คนและในจำนวนนี้แยกเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคประมาณ 3,000 คน ดังนั้นเมื่อรัฐบาลได้กำหนดให้ อปท.และทุกพื้นที่ โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ลงพื้นที่เชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่ได้มารับการฉีดวัคซีนกันให้มากที่สุด เทศบาลฯจึงร่วมกับผู้ใจบุญ แจกโชคให้กับผู้ที่มาฉีดวัคซีนด้วยการจับสลากทองคำ น้ำหนัก  1 สลึง  3 เส้นให้กับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค.

“ผู้ที่จะมาสิทธิ์ได้ลุ้นรับโชคนั้นจะต้องเป็นคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล และมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาลฯเท่านั้น โดยจำกัดให้เฉพาะกับผู้สูงอายุ คือเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนนั้นได้มารับวัคซีนตามที่รัฐบาลได้จัดสรรให้ ดังนั้นวันนี้วันแรกของการฉีดวัคซีน รอบคิวของเทศบาลและพื้นที่ตำบลข้างเคียงทำให้มีประชาชนมายืนรอต่อคิวแบบ New Normal รับการฉีดวัคซีนกันตั้งแต่ช่วงเช้า”

นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วและเป็นคนในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล และมีทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลฯเจ้าหน้าที่จะให้บัตรชิงโชค โดยที่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับบัตรที่มีต้นขั้วและเรียงลำดับหมายเลข จะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดเพื่อให้ส่งเอกสารชิงรางวัล ขณะที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับคูปองส่วนลดร้านอาหารในเขตเทศบาลฯที่มีเข้าร่วมกว่า 50 ร้าน ที่ทั้งลดแลกแจกแถมให้กับผู้ที่มาฉีดวัคซีนที่ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ครั้งสำคัญของคน อ.พล อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนดการฉีดวัคซีนในวันที่ 9 ก.ค.แล้ว เจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบรายชื่อ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและเป็นคนในเขตเทศบาลฯได้ลุ้นรับทองคำที่เป็นรางวัลใหญ่ 3 รางวัล รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาได้มาร่วมบริจาค โดยจะทำการจับรางวัลในวันที่ 16 ก.ค.ที่จะถึงนี้

ขอนแก่น - เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น “โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” ระยะทาง 832 เมตร กฟภ. สนับสนุนงบกว่า 34 ล้านบาท แล้วเสร็จใน 300 วัน

ขอนแก่นได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 4 จังหวัดของไทย ได้โครงการนำสายสื่อสารลงดินเทิดพระเกียรติในหลวง ประจำปี 64 ถนนนิกรสำราญ ระยะทาง 832 เมตร กฟภ. สนับสนุนงบกว่า 34 ล้านบาท แล้วเสร็จใน 300 วัน

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ณ บริเวณด้านหลังเจ้าปู่ครูเย็น (ภายในบริเวณศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่าขอนแก่น) ได้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่มีต่อ “โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ สำนักการช่างเทศบาลนครขอนแก่น และประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จำนวนประมาณ 120 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

นายทูล หาวิชา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการว่า โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรตินั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากกระทรวงมหาดไทยต้องการขับเคลื่อนโครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการสนับสนุนตามภารกิจของหน่วยงาน โดยจัดระเบียบสายสื่อสาร นำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน รวมถึงเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม

ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 4 จังหวัดของประเทศไทย ที่ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ และจังหวัดขอนแก่นได้คัดเลือกให้เส้นทางของถนนนิกรสำราญ (สี่แยกโรงเรียนสวนสนุก) ถึง ถนนโพธิสาร (ปากทางเข้าชุมชนโนนทัน) ระยะทางทั้งสิ้น 832 เมตร ด้วยเหตุผลเพราะเป็นเส้นทางที่ผ่านสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว เช่น บึงแก่นนคร โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ พ่อเมืองคนแรกของจังหวัดขอนแก่น รวมไปถึงเป็นเส้นทางที่มีการจัดกิจกรรมบ่อย

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า สภาเมืองขอนแก่น มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์กับโครงการนี้ และขั้นตอนต่อไป คือ เทศบาลนครขอนแก่นจะได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับการไฟฟ้าส่วนหน่วยงานภูมิภาคจังหวัดขอนแก่นเพื่อดำเนินการตามแผนงานก่อสร้าง โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะได้ทำการรื้อถอนระบบไฟฟ้า สายสื่อสาร และสายสัญญาณต่าง ๆ ที่ติดตั้งบนเสาไฟ ให้อยู่ในเคเบิลด้านในลงใต้ดิน ในส่วนของเทศบาลนครขอนแก่นจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องไฟฟ้าแสงสว่าง

โดยใช้งบประมาณของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งสิ้น 34,566,445 บาท เมื่อนำสายเคเบิลลงดินแล้ว ประโยชน์ที่จะได้รับก็คือการปรับปรุงทัศนียภาพให้สวยงาม รักษาสภาพสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการพัฒนาระบบการจ่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นภายในเทศบาลนครขอนแก่น โดยจะใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวน 300 วัน (เดือนกรกฎาคม 2564 – เดือนพฤษภาคม 2565) และผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับในช่วงก่อสร้างคือ การจราจร เนื่องจากแนวท่อร้อยสายและบ่อพักจะอยู่บนผิวจราจรจึงจำเป็นต้อง มีการปิดการจราจรช่องทางในบางช่วง , เสียงรบกวนซึ่งจากการก่อสร้างซึ่งแต่จะไม่เกินระดับความดังของเสียงตามที่กฎหมายกำหนด และฝุ่นละออง ซึ่งเกิดขึ้นจากการก่อสร้างซึ่งจะได้มีการควบคุมอย่างใกล้ชิดในระหว่างก่อสร้าง

ขอนแก่น - ม.ขอนแก่น หารือ ภาคเอกชน สกัดน้ำมันกัญชงและกัญชา เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา ศ.พญ.ผิวพรรณ มาลีวงษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา ร่วมประชุมกับ นายจุลภาส (ทอม) เครือโสภณ นักธุรกิจ เพื่อหารือข้อตกลงความร่วมมือ ด้านวิจัย วิชาการ สกัดกัญชง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ณ ห้องประชุม กาลปพฤกษ์ 4 ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย โดยสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีภารกิจหลักในการดำเนินโครงการวิจัยกัญชงกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และดำเนินงานวิจัยพืชกัญชง และกัญชาแบบบูรณาการครบศาสตร์ จากต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ

เริ่มตั้งแต่ทีมคณะเกษตรศาสตร์ ทำการศึกษาวิจัยด้านการปลูก ปรับปรุงพันธุ์ และพัฒนาสายพันธุ์ ทีมคณะวิทยาศาสตร์ดำเนินการศึกษาวิจัยสกัดน้ำมันกัญชงและกัญชา วิเคราะห์สารองค์ประกอบสำคัญ ทีมจากคณะเภสัชศาสตร์ดำเนินการวิจัยและพัฒนาเพื่อเตรียมรูปแบบ ขนาด ผลิตภัณฑ์ยา เพื่อส่งต่อให้ทีมคณะแพทยศาสตร์ นำไปวิจัยด้านคลินิกในผู้ป่วยเฉพาะโรค ยินดีที่จะร่วมหารือข้อตกลงเพื่อการนำสารสกัดกัญชงในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป

สำหรับพื้นที่ปลูกอยู่ในบริเวณ คณะเกษตรศาสตร์ ปลูกระบบปิดในตู้คอนเทนเนอร์ ได้คะแนนในการปลูกเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม 100 คะแนนเต็มจากองค์การอาหารและยา สามารถผลิตในเชิงอุตสาหกรรม และสามารถรองรับนักวิจัย วิชาการ นักธุรกิจที่ต้องการสร้างข้อตกลงร่วม ที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย เพื่อใช้ประโยชน์พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาหรือการใช้งานในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ได้

การประชุมเป็นไปด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นการบริหารจัดการฟาร์มกัญชาของคุณทอมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และการบริหารจัดการฟาร์มกัญชงและกัญชาเพื่อการวิจัยการศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ขอนแก่น - พร้อมรับคนบ้านเดียวกันกลับภูมิลำเนาเข้ารักษาตัว เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ให้บริการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่โรงพยาบาลสนามขอนแก่นแห่งที่ 2 (พุทธมณฑลอีสาน) ถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น-กาฬสินธุ์ บ.เต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2564 โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์  ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น นางพัฒนาวดี วิริยปิยะ ปลัด อบจ.ขอนแก่น และ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายแพทย์วีระศักดิ์ อนุตรอังกูร ผอ.รพ.สิรินธร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม จ.ขอนแก่น 2 เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตามแผนบริหารจัดการด้านสาธารณสุขตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นกำหนด

นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดขอนแก่นได้มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นจึงมีมติเปิดใช้โรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 2 เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของ รพ.สิรินธร ที่ได้เริ่มรับผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนา ในเขต จ.ขอนแก่น เข้ารับการรักษาและดูอาการ ตามแผนระบบการส่งต่อผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2564 เป็นต้นมา ซึ่ง อบจ.ขอนแก่น ได้จัดเตรียมอาหาร 3 มื้อต่อวัน ให้กับผู้ป่วย การจัดสถานที่ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมไปถึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ในด้านต่าง ๆ 

โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2  ที่ พุทธมณฑลอีสาน แห่งนี้ มีเตียงรองรับผู้ป่วยรวมจำนวน 110 เตียง แยกเป็นชาย 32 เตียง หญิง 78 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจำนวน 37 ราย ชาย 17 ราย หญิง 20 ราย คงเหลือจำนวนเตียงว่าง 61 เตียง ชาย 13 เตียง หญิง 58 เตียง โดยการดำเนินงานด้านการแพทย์นั้น รพ.สิรินธร ได้จัดกำลังบุคลากรทางการแพทย์มาปฎิบัติงานตลอดทั้ง 24 ชม. อบจ.ขอนแก่นได้จัดทีม รปภ. รักษาความปลอดภัย 24 ชม. และมอบหมายเจ้าหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานของทางจังหวัดและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ดี สำหรับชาวขอนแก่นที่ต้องการกลับบ้านเพื่อมารักษาตัว

จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นสามารถประสานงานมาได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หมายเลขโทรศัพท์  082-2839170 หรือพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรงผ่านระบบไลน์ ประสานโควิดขอนแก่น ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่อสอบถามข้อมูลและจัดระบบการส่งต่อผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมไปถึงการประสานงานร่วมกับคนในครอบครัวเพื่อที่จะประสานการส่งต่อผู้ป่วยที่ถูกต้อง รัดกุม และลดการแพร่กระจายของเชื้อและให้คนบ้านเดียวกันได้กลับมารักษาอาการที่บ้านได้อย่างปลอดภัย

ขอนแก่น - “อีสาน โคตรซิ่ง” ใน “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์” หนุนอัตลักษณ์ความเป็นอีสานสื่อสารผ่านนวัตกรรม

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ร่วมกับองค์กรเครือข่าย เปิดงาน “อีสานโคตรซิ่ง” ในงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ เพื่อหวังหนุนอัตลักษณ์ความเป็นอีสานสื่อสารผ่านนวัตกรรม นำสู่การสร้างเสริมเศรษฐกิจชุมชน

วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จ.ขอนแก่น ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น ผู้จัดงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และกลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ต่าง ๆ เปิดกิจกรรมใน “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2564” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “Isan Crossing: อีสานโคตรซิ่ง” เพื่อสะท้อนการผสานสินทรัพย์ทางภูมิปัญญาเเละวัฒนธรรมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบ เเละนวัตกรรม แสดงศักยภาพของบุคลากรและธุรกิจสร้างสรรค์ ผ่านผลงานที่เก็บเกี่ยวและได้รับแรงบันดาลใจจากสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม “อีสาน” อาทิ งานหัตถกรรม, การออกแบบผลิตภัณฑ์, ภาพยนตร์, ศิลปะ, ดนตรี และ อาหาร หวังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย

โดยมุ่งเน้นส่งเสริม 3 อุตสาหกรรมหลักที่ชูอัตลักษณ์ถิ่นอีสาน ได้แก่ อุตสาหกรรมบันเทิงอีสาน อุตสาหกรรมการออกแบบและงานฝีมือ และอุตสาหกรรมอาหารอีสาน ชวนชมผลงานจากหลากหลายสาขาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กว่า 200 รายการ ผ่าน 9 รูปแบบกิจกรรมไฮไลต์ ในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จังหวัดขอนแก่น และ 19 จังหวัดภาคอีสาน โดยงานเทศกาลฯเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2564

นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า อีสานเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยสินทรัพย์และภูมิปัญญาอันน่าทึ่ง ซึ่งหลายเรื่องเป็นที่รู้จักดีในระดับโลก เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2564 จึงเป็นเทศกาลที่แสดงถึงศักยภาพความสร้างสรรค์ของคนอีสานในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถต่อยอดของดีของเดิมของอีสาน ให้เข้ากับตลาดในยุคสมัยใหม่ ทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ และสามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นที่ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่ของภาคอีสาน และมีเป้าหมายการพัฒนาเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่ออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

พ.ต.ท.สมชาย โตเจริญ รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2564 ถือเป็นมิติใหม่ของชุมชนชาวขอนแก่นที่ได้ร่วมจัดงานเทศกาลฯ เพื่อเป็นเวทีในการแสดงศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ของชาวอีสาน โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา เทศบาลนครขอนแก่น ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในขอนแก่น โดยเริ่มที่ย่านศรีจันทร์สร้างสรรค์ เพื่อปลุกย่านเมืองเก่าให้กลับมามีชีวิตชีวา พร้อมพัฒนาชีวิตของผู้คนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน ซึ่งเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2564 ในครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความร่วมมือและการพัฒนาต่อยอดของคนอีสาน และคาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนชุมชนและเศรษฐกิจอีสานให้เติบโตต่อไป

ด้านนายชุตยาเวศ สินธุพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น เปิดเผยว่า เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2564 จะสร้างประสบการณ์ร่วมและปลูกฝังแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน คนในชุมชน และประชาชนที่สนใจ ด้วยกิจกรรมถ่ายทอดประโยชน์ของการออกแบบ กระตุ้นความคิด และการพัฒนาทักษะ ณ 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ศรีจันทร์ และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สาขาขอนแก่น ในย่านกังสดาล ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2564 โดยการจัดเทศกาลฯ ครั้งนี้ ได้มีการออกแบบรูปแบบการจัดงานเพื่อให้สอดรับชีวิตวิถีใหม่ โดยปฎิบัติตามมาตรการเข้าชมงานและหลักเกณฑ์การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ด้วยมาตรฐาน SHA พร้อมทั้งมีกิจกรรมบางส่วนให้สามารถเข้าร่วมทางออนไลน์ เพื่อตอบรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ขอนแก่น - ประกาศชัดเศรษฐกิจขอนแก่นต้องรอด นำบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจตบเท้า เข้ารับการฉีดวัคซีนทางเลือกคึกคัก "ชาญณรงค์" กำชับผู้ประกอบการทุกแห่งปฎิบัติตามคำสั่งอย่างเข้มงวด ทุกคนต้องช่วยกันจึงจะก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปได้

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ก.ค. 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 13 รพ.ราชพฤกษ์ ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น สถานที่ที่ใช้ในการฉีดวัคซีนทางเลือกสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ใน เขต จ.ขอนแก่น ตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนที่ได้รับการยืนยันรับวัคซีนทางเลือกจากหอการค้า จ.ขอนแก่น ทยอยกันมารายงานตัวและเข้ารับการฉีดวัคซีน "ชิโนฟาร์ม" วัคซีนทางเลือกที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทำการจัดสรรให้กับหอการค้า จ.ขอนแก่น จำนวน 2,400 โดส โดยมีกำหนดการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.)

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หอการค้าขอนแก่น จัดอยุ่ในกลุ่มองค์กรเอกชนขนาดใหญา ซึ่งในระดับจังหวัดยอมรับว่าองค์กรภาคธุรกิจเอกชนนั้นมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการได้รับการจัดสรรวัคซีนจากหน่วยงานภาครัฐอาจจะไม่ทั่วถึงเนื่องจากจะต้องใช้กับบุคลากรด่านหน้า แต่ตามการจัดสรรวัคซีนของทางจังหวัดและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และทันทีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ให้องค์กรเอกชนได้ดำเนินการตามนโยบายและระเบียบที่กำหนด หอการค้าขอนแก่น จึงขอรับการจัดสรรวัคซีนทางเลือกในชุดแรก ซึ่งได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น 2,400 โดส สำหรับการฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ 1,200 คน

"วรรคซีนจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะช่วยเราได้อย่างมาก เนื่องจากเป็นการจัดสรรให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่ต้องออกเดินทางติดต่อหรือ ต้อนรับลูกค้า ต้องติดต่อส่วนราชการ หรือเดินทางไปต่างประเทศ กลุ่มนี้จึงมีความอ่อนไหวและมีความเสี่ยง หอการค้าจึงได้ติดต่อและขอรับวัคซีนซิโนฟาร์ม ด้วยการดำเนินการในส่วนของทุนภาคเอกชน  ในลักษณะการบริจาคให้กับทางสถาบัน และนำมาจัดสรรให้กับองค์กรสมาชิกของหอการค้า เพื่อให้ทุกคนได้ มีส่วนร่วมและการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามสนับสนุนให้ประชาชนคนขอนแก่นและคนไทยทั้งประเทศได้รับเร็วขึ้น เพราะเราต้องต่อสู้กับโควิดไปอีกนาน"

ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า เมื่อคนจำนวนมากได้รับวัคซีนมากขึ้นแล้ว ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจที่เข้มข้น แต่โจทย์ที่สำคัญคือเมื่อมีคนเดินทางเยอะขึ้น จังหวัดจะต้องรับแขกหรือรับการประชุมสัมมนา หรือจัดงานขนาดใหญ่ เช่นที่ขอนแก่น ซึ่งเราเป็นจังหวัดแห่งการประชุม สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการ ประกอบกับการที่ขอนแก่นเป้นเมืองแห่งการแพทย์ หรือเมดิคอลฮับที่ชัดเจน  ซึ่งการที่ภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนทางการแพทย์ ที่แสดงให้เห็นแล้ววันนี้ จะเป็นภาพแห่งความเข้มแข็ง ที่เราทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน

"เมื่อถึงวันที่เรามีภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งอาจจะสร้างขึ้นในกลุ่มก้อนขนาดเล็กและสะสมจนครบทั้ง 70% ของประชากรชาวขอนแก่น หรือประมาณ 1.2 ล้านคน จากทั้งหมด 1.8 ล้านคน ซึ่งหากเราพูดถึงเฉพาะในพื้นที่เมืองหรือเฉพาะย่านการค้าและย่านที่มีการจัดประชุมสัมมนา ขณะนี้กลุ่มนี้ได้รับวัคซีนที่อยู่ในระดับปลอดภัยและตัดการแพร่กระจายได้  ซึ่งทำให้คนที่จะเดินทางเข้ามาติดต่อนั้นได้มั่นใจว่าขอนแก่นปลอดภัย ขณะที่คนที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัด ก็ได้รับการฉีดวัคซีแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตามชุดแรกจำนวน 2,400 โดส ซึ่งจะฉีดให้กับคน 1,200 คน  ซึ่งในชุดที่ 2 เราจะสำรวจว่าต้องการวัคซีนอยู่เท่าไหร่ เน้นหนักไปในกลุ่มเอสเอ็มอี โดยเฉพาะพ่อค้ารายเล็ก ที่รัฐอาจจะดูแลไม่ทั่วถึงเราก็จะพยายามดูแลเข้าไปจนถึงจุดนี้ เพราะจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในด่านหน้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการในระยะนี้มีภาวะเสี่ยงมีการเคลื่อนย้ายของแรงงานแล้วก็การรับเชื้อที่เร็วกว่าเดิม ดูได้จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในเขต จ.ขอนแก่น ที่มีมากขึ้น ทำให้การเรารณรงค์ให้ทุกคนระมัดระวังและป้องกัน รวมทั้งการปฎิบัติตามคำสั่งอย่างเข้มงวด เป็นสิ่งที่ต้องร่วมมือกัน เพราะเราอาจจะเลี่ยงไม่ได้และอาจจะเป็นเรื่องที่หนีไม่ได้ เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ต่อไปและทุกคนต้องปลอดภัย เข้มแข็ง และปฎิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด"

ขอนแก่น – จัดให้เปิดโรงแรมกักตัวคนกลับจากพื้นที่กลุ่มเสี่ยง ขอเพียงส่งเสียงมา !! เทศบาลฯพร้อมทันทีด้วยระบบการบริการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ใครดื้อส่งต่อกองร้อย อส.ทั้งครอบครัว

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 14 ก.ค.2564 นายพงศ์ธร  พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ พร้อมด้วย นายวินัย  ทองทัพ กำนัน ต.พระลับ ,พ.ต.ท.จิรัฐเกรียติ  ศรวิเศษ หัวหน้า สภ.ย่อยพระลับ และนายปัญญา  พระวงศ์  ผอ.รพ.สต.ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง,เทศาล,ตำรวจ และ อสม. ในเขต ต.พระลับ เข้าทำการตรวจเยี่ยมผู้ที่เข้ารับการกักตัวที่โรงแรมฮอไรซั่น ซึ่งตั้งอยู่ ริม ถ.เลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ปากทางเข้า บ.ผือ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากเทศบาลฯได้กำหนดให้โรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่กักตัว 14 วัน ของคนที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม ตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับพื้นที่โดยที่ขณะนี้มีผู้ทีเดินทางกลับมาจากพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้มและเข้าสู่การกักตัวของเทศบาลฯแล้วรวม 5 ราย

นายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ กล่าวว่า ขณะนี้เทศบาลฯได้ขานรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและทางจังหวัดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง,รพ.สต.ตำรวจ และ เทศบาลฯ ในการจัดระบบด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งวันนี้ได้ทำทันที ด้วยการให้บุคลากรด่านหน้าใช้อำนาจตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ และประกาศของจังหวัด ในการกักตัวคนที่เข้ามาจากพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้ม 14 วัน ซึ่งคนพระลับ จากนี้ไปหากจะเดินทางกลับมาที่บ้านจะต้องรายงานให้กับครอบครัวได้รับทราบ และให้ครอบครัวแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรือ เทศบาลฯในการเข้าสู่ระบบส่งต่อด้านสาธารณสุข เพื่อเข้ารับการกักตัว โดยขอย้ำว่าเป็นการกักตัวไม่ใช่การรักษาตัว

“ขณะนี้คนในชุมชนเข้าใจและรับทราบถึงแนวทางที่เทศบาลฯได้จัดทำขึ้นแล้ว โดยเป็นการกักตัว ไม่ใช่การรักษาตัว ซึ่งในการรักษาตัวนั้นหากคนในครอบครัวยืนยันติดเชื้อจากพื้นที่ใดและต้องการกลับบ้านมารักษาตัวที่ขอนแก่น ขอให้แจ้งผ่านระบบสาธารณสุขและ โรงพยาบาลให้ถูกต้อง ขณะที่คนที่จะเดินทางกลับมาที่บ้าน โดยเดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยง นั้นขณะนี้เทศบาลฯได้ปรานงานร่วมโรงแรมฮอไรซั่น ในการกำหนดให้ห้องพัก 13 ห้อง เป็นห้องพักสำหรับการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในระบบสาธารณสุขของเทศบาลฯ โดยในการกักตัว 14 วันนั้นเทศบาลฯจะดูแลอาหาร 3 มื้อ รวมไปถึงการจัดรถรับและส่ง อีกทั้ง รพ.สต.จะจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม.มาประจำเพื่อตรวจติดตามอาการ และมีกำลังตำรวจและ อปพร.เฝ้าประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ออกจากสถานที่กักตัวเด็ดขาด โดยงบประมาณดังกล่าวนั้นเบิกจ่ายตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ดีในระยะที่ 1 เราได้ใช้โรงแรมเป็นสถานที่กักตัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนพระลับพร้อมรับคนพระลับด้วยกันเข้าสู่ระบบกักตัวอย่างถูกต้อง สะดวก สบาย ปลอดภัยและใกล้บ้าน”

ขณะที่นายวินัย ทองทัพ กำนัน ต.พระลับ กล่า;ว่า ในระยะที่ 1 ได้กำหนดไว้ที่ 13 ห้องของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งหากมีคนต้องเข้ารับการกักตัวเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ชุมชนได้กำหนดพื้นที่รองรับเพิ่มเติมอีกหลายจุด ประกอบด้วยที่ ศาลาการเปรียญวัดบ้านสว่างหนองไฮ ซึ่งรับคนได้ 20 คน,วัดป่าแสงอรุณ รับคนได้ 15 คน,ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ.โนนสวรรค์ รับคนได้ 10 คน และ ที่โรงเรียนบ้านผือ รับคนได้ 15 คน โดยทุกจุดได้ผ่านการประชาคมและเข้าสู่ขั้นตอนของการเตรียมการในด้านต่าง ๆ ไว้ในภาพรวมแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้คนพระลับ ดำเนินการอย่างถูกต้องเพื่อเข้าสู่การกักตัวตามระบบที่วางเอาไว้ หากตรวจพบว่าลักลอบเข้าพื้นที่โดยไม่แจ้งให้รับทราบ ทางเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวส่งต่อไปยัง กองร้อย อส.ขอนแก่น สถานที่ที่จังหวัดกำหนดเป็นจุดกักตัวกลางของจังหวัดตามขั้นตอนต่อไปและในการส่งต่อนั้นจะต้องไปทั้งครอบครัวเนื่องจากทุกคนมีการสัมผัสและจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดแล้ว

ขอนแก่น – บุคลากรทางการแพทย์นับหมื่นคน เตรียมบูสเตอร์วัคซีนต้นเดือน ส.ค. ขณะที่แผนการฉีดวัคซีนยังเป็นไปตามกำหนด ไม่สลับสูตร แม้หลายคนจะขอยกเลิกการฉีดก็ตาม

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 ก.ค.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้แผนการของการบูสเตอร์โดสวัคซีนให้กับบุลากรทางการแพทย์ ที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 26 อำเภอของจังหวัด ซึ่งจัดเป็นกลุ่มด่านหน้าของการควบคุม ป้องกันและเฝ้าระวังโควิด-19  โดยที่เข็มแรกที่บุคลากรทางการแพทย์ฉีดนั้นคือในวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมาซึ่งแผนการบูสเตอร์โดสวัคซีนให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ขอนแก่นที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนประมาณ 22,000 คน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทยอยส่งมอบวัคซีนให้กับแต่ละจังหวัด ตามแนวทางการที่กำหนดโดยมี แผนการกระตุ้นที่ชัดเจนคือการใช้แอสตร้าเซเนเก้าบูสอีก 1 เข็ม ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคแล้ว 2 เข็ม ซึ่งทุกคนที่ได้รับวัคซีนมาแล้ว2 เข็มจะต้องเว้นระยะห่าง 4 สัปดาห์ถึจะสามารถเข้ารับการบูสเตอร์โดสได้

“ขณะนี้ขอนแก่นได้เตรียมวัคซีนชิโนแวค 1 คนต่อ 2 เข็ม ซึ่งขณะนี้จากการสำรวจพบว่าหลายคนยังคงยืนยันขอรับการฉีดตามแผนเดิม ดังนั้นการบริหรจัดการวัคซีนในจังหวัด ที่กำหนดไว้คือภายในเดือน ก.ย. คนขอนแก่นจะต้องได้รับวัคซีนเข็มแรกครอบคลุมประชากรร้อยละ 70จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่สิ่งที่พบในขณะนี้คือ เริ่มมีการขอผลัดหรือขอเลื่อนการรับวัคซีนออกไป โดยเฉพาะกับการรับวัคซีนชิโนแวคเข็มที่ 1ดังนั้นทีมแพทย์จะต้องแนะนำและทำความเข้าใจกับประชาชนตามแผนงานที่กำหนด คือการให้ผู้ที่ได้รับการยืนยันการเข้ารับวัคซีนได้เข้ารับวัคซีนตามที่กำหนด  คือรับวัคซีนชิโนแวค เข็มที่ 1 เมื่อครบ 3 สัปดาห์ก็ให้เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ตามที่กำหนด ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ก็ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน”

นพ.สมชายโชติ กล่าวต่ออีกว่า ถ้าหากทุกคนยอมรับเฉพาะแนวทางการฉีดชิโนแวคเข็มที่ 1 และแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2 ก็จะทำให้วัคซีนชิโนแวคจะเหลือ ได้ ซึ่งข้อมูลล่าสุดวันนี้ขอนแก่นมีวัคซีนชิโนแวคอยู่ประมาณ 10,000  โดส ซึ่งเป็นวัคซีนที่จะเตรียมสำหรับการฉีดให้กับเข็มที่  2 ที่จะเข้าสู่ช่วงการฉีดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค. อีกทั้งจังหวัดจะได้รับการจัดสรรวัคซีนอีกประมาณ 22,000 โดส ในระยะนี้ หากนำมาฉีดเป็นเข็มที่ 1 อย่างเดียว ก็ยังไม่ทราบว่าหากนำแอสตร้าเซเนก้า มาฉีดเป็นเข็มที่ 2 ให้นั้น จะทำอย่างไร และบางคนก็ปฎิเสธที่จะรับชิโนแวคทั้ง 2 เข็ม ซึ่งก็มีเกิดขึ้นแล้ว เช่นกัน

“ดังนั้นหน่วยบริการวัคซีนของทุกพื้นที่จะต้องทำความเข้าใจ ว่าวัคซีนที่ดีที่สุดวันนี้ คือวัคซีนทุกคนจะต้องได้รับได้เร็วที่สุด และปฎิบัติตัวด้วยความเข้าใจดำเนินการตามแผนงานที่ฝ่ายสาธารณสุขและแพทย์กำหนด  การป้องกันตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ว่าฉีดวัคซีนแล้วจะทำอย่างไรก็ได้ไม่มีการป้องกันเป็นิส่งที่ไม่สมควรทำ อย่างไรก็ตามสำหรับการบูสเตอร์วัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจังหวัดหากนับรวมระยะเวลาในการฉีดเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 และระห่างในภาพรวมนั้น ชุดแรกที่จะได้รับการบูสเตอร์วัคซีนก็จะสามารถเข้ารับการฉีดได้ในช่วงต้นเดือน ส.ค.”

ขอนแก่น - พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 104 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมของการระบาดระลอก 3 ทะลุ 1,614 ราย ขณะที่ผู้ว่าฯสั่งเข้มทุกมาตรการรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ก.ค.2564 ที่สถานีรถไฟขอนแก่น นายพิชัย วันตา ป้องกันจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และนายศักดิ์นรินทร์ แสงอรุณ นายสถานีรถไฟขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสาธารณสุข จากสำนักงานสาธรณสุข จ.ขอนแก่น ,เทศบาลนครขอนแก่น,ฝ่ายปกครองและการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟท้องถิ่นขบวนที่ 412 ชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี-ขอนแก่น ตามาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดนิทางมากับระบบขนส่งมวลชน โดยที่สถานีรถไฟขอนแกน ได้กำหนดจุดการลงจากรถ จากบริเวณชานชาลาชั้น 2 มายังอาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 เพียง 1 ช่องทางยกเว้นผู้พิการและผู้สูงอายุ ที่สามารถใช้ลิฟต์ขนส่งได้ ซึ่งเมื่อทุกคนลงมาถึง ชั้น 1 จะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ การตรวจคัดกรองเบื้อต้นจากเจ้าหน้าที่รวมไปถึงการลงประวัติการเดินทางผ่านคิวอาร์โค้ดไทยชนะ และการลงทะเบียนผ่านระบบที่จังหวัดกำหนด เพื่อประเมินสถานการณ์และตรวจติดตามผู้ที่เดินทาเข่ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อย่างเข้มงวด

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในวันนี้ขอนแก่น มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 104 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมจากการระบาดระลอกที่ 3 จำนวนทั้งสิ้น 1,614 ราย ในจำนวนนี้ยังคงอยู่ในการรักษาของโรงพยาบาลต่าง ๆ 896 ราย รักษาหายขาดและแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ 709 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 9 ราย ดังนั้นทุกมาตรการที่ รัฐบาล,ศบค.และจังหวัดกำหนดจะต้องดำเนินการไปอย่างรัดกุม รอบคอบ และเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่ด่านตรวจหลัดของจังหวัดที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชุมแพ จะทำการตรวจคัดกรองและตรวจสอบเอกสารประจำตัวของแต่ละคนว่ามีการดำเนินการตามประกาศ หรือได้รับวัคซีน หรือเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงตามที่ ศบค.กำหนดอย่างไร รวมไปถึงที่สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง และสนามบิน ที่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการเดินทางเข้าและออกจังหวัดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป

“ขณะนี้การเดินทางด้วยขบวนรถไฟโดยสารที่ต้องจอดที่สถานีรถไฟขอนแกน คงเหลือเพียง 3 ขบวนต่อวันเท่านั้น ซึ่งจะมีผู้โดยสารลงที่สถานีขอนแก่นประมาณ 10-15 คน ต่อเที่ยวรถ ขณะที่การลงรถตามสถานีรถไฟระดับอำเภอมาตรการตรวจคัดกรองและตรวจสอบการเข้าเมือง ฝ่ายปกครอง จะสนธิกำลังร่วมฝ่ายสาธารณสุข ตำรวจและ อปท.ในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด ขณะที่หากพบผู้โดยสารมีไข้สูง หรือเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทาง เจ้าพนักงานประจำขบวนรถไฟจะประเมินสถานการณ์ และประสานงานร่วมสถานีปลายทางหรือสถานีรถไฟต่อไปในการจัดระบบรับผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ตามขั้นตอนที่ต้องปฎิบัติอย่างรัดกุมแล้ว”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ต้องขอความร่วมมือทุกคนได้ช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งข้อมูลการกระทำที่ขัดต่อคำสั่งของ ศบค. และจังหวัด เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบและอุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและสีแดงเข้ม หรือสีแดง จะต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ เพื่อที่จะสามารถตรวจติดตามสถานการณ์ หรือเข้ารับการควบคุมโรคหรือเข้ารับการรักษาตามที่จังหวัดได้กำหนดแนวทางหรือดำเนินการอยู่ในขณะนี้หากพบว่าฝืน ซึ่งนอกจากจะต้องมีความผิดแล้ว ทั้งครอบครัวก็จะต้องเข้ารับการกักตัวที่ กองร้อย อส.ที่ 1 ขอนแก่น ทันทีโดยไม่มีละเว้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top