Friday, 4 July 2025
ค้นหา พบ 49177 ที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กตู่'​ เตือน!! ใครที่กำลัง แบ่งแยกคนไทยเป็น 2 ฝ่ายอยู่ ขอให้เลิกเสียเถอะ!! >> เตือนกันไว้แค่นั้นเอง >> ยัน!! ตนไม่ใช่ศัตรูของใคร และไม่ต้องการแบ่งแยกคนไทยออกเป็น​ 2 ฝ่าย

วาสนา​ นาน่วม​ ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง​ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก​ Wassana Nanuam ถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ออกมาเตือนกลุ่มคนที่กำลังแบ่งแยกคนไทยเป็น 2 ฝ่ายว่า...

“ผมไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เพราะงานนี้ไม่มีพระเอก เพราะถ้ามีพระเอกเมื่อไหร่ก็มีผู้ร้ายเมื่อนั้น

ดังนั้นพระเอกก็คือ คนไทยทั้งประเทศเป็นพระเอกไปด้วยกัน ในการแก้ไขปัญหาโควิดฯ ระลอกสอง ซึ่งก็รวมทั้งสื่อมวลชนด้วยขอให้ช่วยกันด้วยพูดในสิ่งที่สร้างสรรค์มากกว่า เรื่องของความขัดแย้ง ถ้าเรามัวแต่เปิดรูขยายความขัดแย้งเรื่อยๆ​ ก็ไม่มีวันจบ ทุกเรื่องทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะทำให้คนทุกคนเห็นชอบไปด้วยกันอยู่แล้ว แต่เราต้องเอาสิ่งที่ไม่เข้าใจมาอธิบายว่าอะไรคือปัญหา อะไรคือสิ่งที่ต้องร่วมมือและช่วยกัน รัฐบาลจำเป็นต้องฟังในทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายเห็นต่าง

ผมไม่ใช่ศัตรูของใครผมไม่ต้องการแบ่งแยกคนไทยออกเป็นสองฝ่ายเพราะฉะนั้นใครที่กำลังทำเรื่องนี้อยู่ก็ขอให้เลิกเสียเถอะก็เตือนกันไว้แค่นั้นเอง” พลเอกประยุทธ์ กล่าว


ที่มา: Wassana Nanuam

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3788854701172960&id=100001454030105

31 มกราคม ค.ศ. 2010 บันทึกครั้งสำคัญของโลกภาพยนตร์ เมื่อหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ AVATAR สร้างกระแสความนิยมอย่างล้นหลาม ทำรายได้ทุบสถิติ เกิน 2,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเรื่องแรกในโลก

สำหรับคอหนัง ชื่อภาพยนตร์อย่าง AVATAR คงไม่ต้องเอ่ยปากว่า มีความพิเศษและยิ่งใหญ่เพียงใด และวันนี้เมื่อ 11 ปีก่อน ภาพยนตร์แฟนตาซี ผลงานการกำกับของ เจมส์ คาเมรอน ก็ได้สร้างสถิติใหม่ให้กับโลกภาพยนตร์ เมื่อสามารถทำรายได้สูงเกิน 2,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรก

AVATAR เป็นเรื่องราวของโลกในช่วงศตวรรษที่ 22 เมื่อมนุษย์ออกล่าอาณานิคมไปยังดาวแพนดอรา เพื่อขุดแร่อันออบเทเนียมมาใช้ โดยภารกิจครั้งนี้ พวกเขานำร่างกายของชาวนาวีที่ถูกควบคุมสมองโดยมนุษย์เข้าไปทำการสำรวจ แต่กลายเป็นว่าภารกิจการขยายอาณานิคม กลับกลายเป็นการเข้าไปคุกคามชาวนาวีที่เป็นคนพื้นเมือง จึงนำมาซึ่งกาต่อสู้เพื่อรักษาดินแดนของตัวเอง

AVATAR ถูกนำมาฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงปลายปี ค.ศ. 2009 ด้วยเทคนิคอันทันสมัย และงานกราฟิกที่หวือหวา สวยงาม รวมทั้งตัวละครชาวนาวีที่มีความสมจริง ทั้งหมดทำให้หนังประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่การตอบรับจากคนดู และรายได้อย่างถล่มทลาย ทุบสถิติหนังอย่าง Titanic ที่ครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลลงได้ กระทั่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2010 หนังก็สามารถทำรายได้ทะลุเกิน 2,000 พันล้านดอลลาร์ เป็นเรื่องแรกของโลก

แม้ในวันนี้  รายได้สูงสุดของหนัง AVATAR จะถูกทำลายลงด้วยหนัง The Avengers: Endgame แต่หากพูดถึงหนังแนวแฟนตาซีที่สมจริงและสวยงามที่สุด คนดูหนังมากมายก็ต้องยกให้กับ AVATAR เรื่องนี้อย่างแน่นอน และเร็ว ๆ นี้ หากไม่มีกำหนดการที่คลาดเคลื่อนไปเพราะสถานการณ์โควิด -19 ภาคต่อของ AVATAR กำลังจะกลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนดูอีกครั้ง โปรดติดตามความสนุกกันได้เลย...

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (30 มกราคม พ.ศ. 2564)

ผู้ติดเชื้อวันนี้ 930

เสียชีวิตสะสม 77

ผู้ติดเชื้อสะสม 17,953

หายป่วยแล้ว 11,505

 

อาเซียน

ประเทศบรูไน 180

ประเทศกัมพูชา 463

ประเทศอินโดนีเซีย 1.05 ล้าน

ประเทศลาว 44

ประเทศมาเลเซีย 2.04 แสน

ประเทศพม่า 1.4 แสน

ประเทศฟิลิปปินส์ 5.21 แสน

ประเทศสิงคโปร์ 59,449

ประเทศเวียดนาม 1,657

'เสี่ยหนู'​ ปลื้ม!! ชื่นชม 'เชียงราย'​ คุมโควิด-19 เริ่ด!! พร้อมยึดเป็นต้นแบบปรับใช้สมุทรสาคร ย้ำ!! บุคลากรทางการแพทย์ตื่นตัวและเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป

'เสี่ยหนู' เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์ พร้อมชื่นชม จ.เชียงราย ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี ขอยึดเป็นแนวคิดมาดูแลผู้ติดเชื้อ จ.สมุทรสาคร พร้อมให้บุคลากรทางการแพทย์ตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นต้นแบบปฏิบัติตัวให้กับคนไทย ไม่จัดเลี้ยงสังสรรค์ สร้างความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุข

ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ​ ม.ล.นพ.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิด-19 และตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1

พร้อมกันนี้ ยังได้นำวัสดุอุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล ได้แก่ หน้ากากอนามัย 20,000 ชิ้น, หน้ากาก N95 12,000 ชิ้น, ชุด Cover all 400 ชุด, เฟซชิลด์ 1,120 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ มอบให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด

นายอนุทิน​ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้มาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อคนไทย โดยเฉพาะขอชื่นชมจังหวัดเชียงรายที่สามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในระลอกใหม่ได้เป็นอย่างดี​ จากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน มีการตรวจจับผู้ติดเชื้อที่รวดเร็วไม่เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง (ข้อมูล ถึงวันที่ 30 มกราคม 2564)

พบผู้ติดเชื้อ ใน จ.เชียงราย รวม 65 ราย ในจำนวนนี้มีเพียง 1 ราย ติดเชื้อภายในจังหวัดจากการสัมผัส ซึ่งในวันนี้ผู้ติดเชื้อที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลรายสุดท้ายแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว และจะนำระบบการดูแลผู้ติดเชื้อของ จ.เชียงราย มาเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการเตียงดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพื่อลดความแออัดที่ จ.สมุทรสาคร

สำหรับสถานการณ์โควิด 19 ในเขตสุขภาพที่ 1 (ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ภาคเหนือ) สามารถควบคุมได้ดีเช่นกัน จากการเน้นค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ชุมชนเสี่ยง ประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น พ่อค้าอาหารทะเล, แรงงานต่างด้าว, นักท่องเที่ยว/ญาติ ที่เดินทางมาจาก กทม.และพื้นที่ควบคุมสูงสุด, คนขับรถขนส่งสินค้า, พนักงานสถานบันเทิง และมีสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ จำนวน 31 แห่ง รองรับได้ 2,152 เตียง เข้ารับการกักตัวไปแล้วกว่า 1,600 คน

ซึ่งการระบาดในระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อทั้งเขตสุขภาพรวม 100 คน ทั้้งหมดรักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว ภาพรวมผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสีเขียว ขณะนี้เริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

"ขอมอบเป็นนโยบายให้บุคลากรสาธารณสุขทุกคนต้องเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติตัวที่ดีให้กับประชาชนไม่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เลี่ยงการดื่มสุรา เนื่องจากพบว่าต้นเหตุสำคัญของการแพร่เชื้อโควิด-19 มาจากการรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเกิดการปฏิบัติตามและเฝ้าระวังตนเอง

ส่วนเรื่องวัคซีนที่กำลังมาเป็นการฉีดวัคซีนครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องมีความปลอดภัย มีระบบควบคุมติดตามหลังการฉีด และทุกคนที่สมัครใจต้องได้รับวัคซีน เพื่อเร่งปรับให้ประเทศเข้าสู่สถานการณ์ปกติให้เร็วที่สุด" นายอนุทินกล่าว

'จุรินทร์'​ นำทีมลุย!! ลานมัน ตรวจเข้มการรับซื้อหัวมันสำปะหลังหนองบัวลำภู 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคามันสําปะหลัง ณ ลานมัน ห้างหุ้นส่วนจํากัด อุดรไพบูลย์ อําเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลําภู พร้อมคณะ

นายจุรินทร์ พบปะเกษตรกร ตรวจขั้นตอนการรับซื้อมันสำปะหลัง และกล่าวว่า นำกระทรวงพาณิชย์มาติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลังที่จังหวัดอุดรธานีกับจังหวัดน้องบัวลำภู ซึ่งที่นี่เป็นโรงโรงมันที่ส่งมันเส้นออกนอกประเทศเพื่อทำเอทานอล​ ที่ก่อนหน้านี้มีความพยายามจะร่วมมือกันกับสมาคมมันสำปะหลังต่างๆ​ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ที่จะหาทางยกระดับราคาให้สูงขึ้นจากที่ซื้อขายกันในลานมันที่กิโลกรัมละ 2.00-2.10 บาท ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสมาคมผู้ส่งออก เกษตรกร ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันช่วยกันยกระดับราคา โดยสัปดาห์นี้จะพยายามยกระดับราคาการรับซื้อหัวมันสดที่เชื้อแป้ง 25% ให้ได้ถึง 2.40 บาท ถ้าเป็นไปได้สัปดาห์ต่อไปจะขยับขึ้นเป็น 2.45-2.50 บาท โดยสถานการณ์ดีขึ้นมีการรับซื้อที่เชื้อแป้ง 25% ตามมาตรฐานที่กิโลกรัมละประมาณ 2.40 บาทในขณะนี้ บางแห่งก็ 2.45 บาท ถือว่ามาตรการเริ่มได้ผล
.
"ถัดจากนี้ไปได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดที่มีมันสำปะหลัง​ ติดตามตรวจสอบบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด

1.มันสำปะหลังเป็นสินค้าควบคุมต้องติดป้ายราคารับซื้อให้ชัดเจน เพื่อให้เกษตรกรได้รับทราบและต้องบังคับใช้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

2.ขณะนี้ราคาแอลกอฮอล์เอทานอลในตลาดจีนขยับตัวสูงขึ้นน่าจะส่งผลให้สามารถรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกรในประเทศได้ราคาดีขึ้นสอดคล้องกับราคาแอลกอฮอล์ที่เมืองจีนเกิดติดปัญหาคือผู้ส่งออกของเราบางรายไปตัดราคากันเองทำให้ทำให้ได้ราคาไม่ถึงราคาที่ควรจะเป็น​ โดยบริษัทที่จะส่งออกเอทานอลได้ต้องเป็นสมาชิกสมาคมผู้ส่งออกถ้ารายได้ไปขายตัดราคาจะทำให้สมาคมมีมาตรการไล่ออกจากสมาชิกจะทำให้ส่งออกไม่ได้เป็นการตกลงร่วมกัน

3.การลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนได้พูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขอความกรุณาท่านนายกสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงศุลกากรและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเคร่งครัดกับการนำเข้า ไม่ให้มีการลักลอบ มากดราคามันสำปะหลังจากเกษตรกรในประเทศไทย 

4.ช่วงไหนหัวมันสำปะหลังออกมากจะให้ชะลอขาย​ โดยกระทรวงพาณิชย์มีเงินช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับการเก็บมันไว้ช่วยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ทั้งเกษตรกรสหกรณ์และโรงมัน

กระทรวงพาณิชย์จะพยายามดูแลเกษตรกรให้ดีที่สุดร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่ถ้าราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2.50 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรจะยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท​ โดยมีส่วนต่างโอนเงินเข้าบัญชี ธ.ด.ส.ของเกษตรกรชาวไร่มันที่มาขึ้นทะเบียนไว้โดยอัตโนมัติเพื่อช่วยชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรสามารถขายมันสำปะหลังที่เชื้อแป้ง 25% ได้ในรายได้ 2.50 บาท ตามรายได้ที่ประกัน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุด้วยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กำชับให้กรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายในติดตามผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมทำลายตลาดอย่างใกล้ชิด และบังคับใช้กฎหมายในกำกับดูแลของแต่ละหน่วยงานทันทีเมื่อพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขอย้ำว่าหากกลไกภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง จะแก้ปัญหาการขายตัดราคาที่ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่อุปทานในระยะยาวได้

และหากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ ความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ และหากเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายมันสำปะหลัง หรือถูกเอาเปรียบในการชั่ง ตวง วัด สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา เพื่อให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป


สำหรับวันนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พร้อมคณะ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาเพื่อช่วยเกษตรกรอย่างใกล้ชิดประกอบด้วย นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น 
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top