Friday, 4 July 2025
ค้นหา พบ 49177 ที่เกี่ยวข้อง

รัฐโรบินฮู้ด ‘ปล้นคนรวย มาช่วยคนจน’ อาร์เจนตินาเก็บ ‘ภาษีมหาเศรษฐี’ ดึงช่วยคนเดือดร้อนจากโควิด เกณฑ์รวยเกิน 68.69 ล้านบาท โดน!! เบื้องต้นพบเข้าข่าย 12,000 จากประชากร 44 ล้านคน

ทางการอาร์เจนตินาเริ่มบังคับใช้มาตรการจัดเก็บภาษีแบบครั้งเดียวที่เรียกว่า ‘ภาษีมหาเศรษฐี’ จากกลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่ง เพื่อนำเงินมาจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และช่วยเหลือภาคธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 รวมถึงเป็นทุนการศึกษาและจัดหาอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ให้ประชาชน

มาตรการนี้ใช้กับบุคคลที่มีทรัพย์สินตั้งแต่ 200 ล้านเปโซ หรือ 68.69 ล้านบาท ต้องจ่ายภาษี 3.5% ของทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศ และ 5.25% ของทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีบุคคลเข้าข่ายราว 12,000 คนจากประชากรทั้งหมด 44 ล้านคน

รัฐบาลของประธานาธิบดี อัลแบร์โต แฟร์นานเดซ คาดว่าจะได้เงินราว 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 89,601 ล้านบาท

มาตรการดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสภาเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วด้วยคะแนนเสียง 42 ต่อ 26 ทว่ามีเสียงคัดค้านจากฝ่ายค้านว่ามาตรการนี้เสมือนเป็นการยึดทรัพย์คนรวย และยังมีความกังวลจากสมาคมชนบทอาร์เจนตินาซึ่งเป็นปากเสียงของเกษตรกรในประเทศว่ามาตรการนี้อาจนำมาใช้แบบถาวร

ทั้งนี้ กว่า 40% ของประชากรอาร์เจนตินาอยู่ใต้เส้นแบ่งความยากจน คือมีรายได้วันละ 1.90 เหรียญสหรัฐ หรือ 56.75 บาท ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 11


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/644042

ฝรั่งเศสเตรียมปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปเข้าฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

นายฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ออกมาประกาศเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ฝรั่งเศสจะปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรปเข้าฝรั่งเศส เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการนี้จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ (31 ม.ค.) เป็นต้นไป และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ทุกคนจะต้องมีหลักฐานการตรวจโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบด้วย

นอกจากนี้ยังจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว วันละ 12 ชั่วโมง และผู้ที่รวมกลุ่มกันจัดงานปาร์ตี้ รวมทั้งเจ้าของภัตตาคารที่เปิดบริการ อันเป็นการท้าทายคำสั่งของทางการด้วย


ที่มา : https://tna.mcot.net/world-627725

หวั่นๆ ‘ระบบราชการ’ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ เตือน ‘ก.ศึกษาฯ’ ระวังนโยบายใหม่ ติดหล่มระบบราชการ...จนอดปัง!!

‘รอง ปชป.’ เตือน ‘ก.ศึกษาธิการ’ ระวัง ‘ระบบราชการ’ ทำนโยบายเหลว หลังฝันดัน ‘โรงเรียนขนาดเล็กเลี้ยงตัวเอง - ยกระดับโรงเรียนมัธยมสี่มุมเมือง - สร้างโรงเรียนคุณภาพของชุมชน’ เพื่อดึงดูดเด็กรอบๆ เข้ามาเรียน

 

ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความห่วงใยในกรณีที่ “นายณัฐพล ทีปสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศนโยบายหลักสำหรับการบริหารจัดการด้านการศึกษาในปี 2564 ว่า ต้องลงรายละเอียดในเรื่องของการนำนโยบายไปปฏิบัติของระบบราชการในหน่วยงานของทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้รอบคอบ เพราะที่ผ่านมา ระบบราชการของ ศธ. มิได้ดำเนินการทางนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพมากพอ และขาดความรับผิดชอบอันเหมาะสมต่อปัญหาทางด้านการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาของนักเรียน

 

“ข้าราชการใน ศธ. นั้น สามารถที่จะหยิบยกข้อมูลอันแท้จริงของบางส่วนเกี่ยวกับปัญหาการศึกษา ซึ่งพวกเขาประเมินแล้วว่า รัฐมนตรีต้องมีความสนใจ และให้ความสำคัญ มานำเสนอเพื่อออกแบบนโยบายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน และแน่นอนว่า รัฐมนตรีย่อมพอใจและเห็นชอบกับนโยบายนั้น ทั้งๆ ที่ถ้าลองวิเคราะห์นโยบายดังกล่าวโดยละเอียดแล้ว ก็จะทราบว่ามันไม่ได้ครอบคลุมกับปัญหาทั้งหมด เป็นแค่การลูบหน้าปะจมูก แตะเพื่อให้มีผลงานเท่านั้น แล้วเก็บต้นตอสำคัญของปัญหาเอาไว้ใต้พรม”

 

“ส่วนในเรื่องของการปฏิบัติตามนโยบาย คาดว่าโรงเรียนเพียง 20% เท่านั้นที่จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายใหม่นี้ ส่วนโรงเรียนที่เหลือจะถูกปล่อยให้เผชิญกับวิกฤตด้านการศึกษาต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่า อุปสรรคทั้งหนักและเหนื่อยเกินกว่าความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท้ายที่สุด โรงเรียน 20% ที่ได้รับการยกระดับไป ก็จะถูกประชาสัมพันธ์จนกลายเป็นผลงานเด่นทางนโยบายที่ประสบความสำเร็จของกระทรวง และโรงเรียน 80% ในความดูแลของ ศธ. ที่เหลือก็จะค่อยๆ ล้มหายตายจากไปตามความสามารถของผู้บริหารโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ และก็คงจะไม่มีใครพูดถึงเช่นเคย”

 

ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีท่านนี้ ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของ รมว.ศธ. ก็คือ “การปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วเอาไปใช้กับการพัฒนาโรงเรียนในการดูแลให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น” นั่นเพราะข้าราชการระดับสูงของกระทรวงจะเป็นคนปรับลดงบประมาณ และนำงบประมาณที่ปรับลดนั้นไปเพิ่มให้กับโครงการตามนโยบายด้วยตนเอง

 

“ดังนั้น ระดับรัฐมนตรี โดยเฉพาะถ้ารัฐมนตรีไม่ได้ทำงานลงรายละเอียด จะไม่ง่ายในการเข้าไปควบคุมเรื่องนี้ ส่งผลให้งบประมาณส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ทางกายภาพ และอุปกรณ์การศึกษา มากกว่าพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของครู และการยกระดับแนวทางการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งเป็นกระบวนการที่เน้นในเรื่องของการใช้เงินซื้อ เพื่อให้ครบรายการตามที่กำหนดมาเท่านั้น”

 

อนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ได้กำหนดแผนบูรณาการการพัฒนาโรงเรียน โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ หนึ่ง การพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็กที่ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง (Stand alone) สอง การยกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาสี่มุมเมือง และสาม สร้างโรงเรียนคุณภาพของชุมชน เพื่อดึงดูดนักเรียนโรงเรียนโดยรอบให้เข้ามาเรียน ซึ่งแผนดังกล่าวนี้จะทำด้วยกระบวนการ ดังนี้ 1. ตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป และนำงบประมาณทั้งหมดนั้นไปจัดสรรเพื่อพัฒนาโรงเรียนทั้งหมดในการดูแล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 2. ปรับสถานศึกษา หลักสูตร ผู้บริหาร นักเรียน และระบบการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานหลักของกระทรวงให้มีคุณภาพมากขึ้น 3. ลงทุนพัฒนาครูผู้สอนทั้งด้านวิชาชีพและทักษะการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน 4. ปรับระบบและเกณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และ 5. คุ้มครองและปกป้องเยาวชนไม่ให้ถูกซ้ำเติมจากการคุกคามในรูปแบบต่างๆ

'เยล​ -​ การ์ด​ 3​ นิ้ว'​ คอตก!! 'เข้าคุกทหาร'​ ไร้ญาติประกันตัว หลังพนักงานสอบสวนค้านประกัน​ เกรงหลบหนี และยังรอสอบพยานอีกหลายปาก

ที่ศาลทหารกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ​ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นำตัว​ นายมงคล สันติเมธากุล หรือเยล การ์ดราษฎร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารทหารกรุงเทพ ที่ 36/2564 ลงวันที่ 21 ม.ค. 64 ในข้อหาแจ้งความเท็จ และ หลบหนีราชการทหาร จากกรณีกล่าวอ้างว่าตนเองถูกชายฉกรรจ์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ควบคุมตัวไปจาก พื้นที่จ.สมุทรปราการ มาฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน

เวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ​ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นำตัว นายมงคล หรือเยล เข้าพื้นที่ศาลทหาร โดยอยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการทางศาล ต่อไป

ต่อมาเวลา 10.30 น. ศาลได้นั่งบัลลังก์ พิจารณาคดีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวเพราะเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนีเนื่องจากมีพฤติกรรมที่หลบหนีมาก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องสอบปากคำพยานอีกหลายปาก ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จากนั้นได้นำตัวขึ้นรถเรือนจำทหารไปควบคุมตัวที่เรือนจำทหาร จ.นครปฐมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเยล มาที่ศาล ไม่มีญาติและทนายความมาที่ศาลแต่อย่างใด

โดยคดีดังกล่าว นายมงคล หรือเยล การ์ดราษฎร ได้อ้างว่า​ ตัวเองถูกชายฉกรรจ์ประมาณ 4-5 ใช้ถุงผ้าคลุมศีรษะ ออกจากไปจากซอยจัดสรรเสนาะ ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนพาขึ้นรถตู้สีเทา พร้อมกับบังคับข่มขู่ให้เซ็นเอกสาร แต่นายมงคลไม่ยอมเซ็น และยังข่มขู่ไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองอีก ก่อนกลุ่มชายฉกรรจ์จะนำตัวมาปล่อย ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้า เคหะสมุทรปราการ และเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบพบข้อพิรุธหลายอย่าง จึงลงพื้นที่สอบสวนพยานบุคคล และกล้องวงจรปิดทั้งสองแห่ง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบสวนพบข้อมูลและตรวจสอบ จากกล้องวงจรปิด โดยไม่พบว่าวัน และเวลาที่นายมงคล อ้างจะถูกอุ้มแต่อย่างใด จึงได้ออกหมายเรียกนายมงคลให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่นายมงคลไม่เดินทางมาและหลบหนีไป จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายจับและสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

'จับกัง1' ช่วยไว!! >> สั่งที่ปรึกษาฯ รุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ 'บ.ซีรีคลอร์ คอร์ปอเรชั่นฯ'​ จ.เพชรบุรี พร้อมเร่งจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนตามกฎหมาย

จับกัง​ 1​ -​ สุชาติ ชมกลิ่น เจ้ากระทรวงแรงงาน​ มอบหมายที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี รุดเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ที่​ อ.เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรีอย่างเร่งด่วน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ บริษัท ซีรีคลอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี

หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเพชรบุรี เข้าเยี่ยมในครั้งนี้ด้วย โดยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ฝากแสดงความห่วงใยถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ จึงกำชับให้กระทรวงแรงงานเร่งเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายครบทุกคน ในวันนี้ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้ดิฉันลงพื้นที่กับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเพชรบุรี เพื่อมาเยี่ยมให้กำลังใจและให้การช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรี พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.64) เวลาประมาณ 17.00 น.สถานที่เกิดเหตุเป็นที่ตั้งของบริษัท ซีรีคลอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 53/4 ตำบลเขาย้อย อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ประกอบกิจการ ผลิตน้ำมันเครื่อง ปัจจุบันมีลูกจ้าง จำนวน 34 คน สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากสายน้ำมันที่บรรจุภัณฑ์แตก น้ำมันรั่วไหลกระเด็นไปโดนสวิตช์ไฟทำให้เกิดประกายไฟและเกิดเพลิงไหม้อาคารโรงผลิต มีลูกจ้าง 1 คน ได้รับบาดเจ็บที่แขนจากการถูกไฟลวก ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี ส่วนการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเพชรบุรีได้ตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตน ทราบชื่อ คือ นางสาววนัสนันท์ แจ้งกระจ่าง อายุ 34 ปี และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเพชรบุรีได้ประสานโรงพยาบาลเขาย้อยเรื่องสิทธิการรักษาพยาบาลแล้ว โดยกรณีดังกล่าวลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินทดแทนเป็นค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นไม่เกิน 50,000 บาท ในกรณีที่ลูกจ้างหยุดงานตั้งแต่ 1 วันขึ้นไปได้รับค่าทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนไม่เกิน 1 ปี

กรณีรักษาสิ้นสุดแล้วสภาพอวัยวะต่างๆ​ มีการสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานจะมีค่าทดแทน​ ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมฯ​ จะเข้าไปเยียวยา​

นอกจากนี้​ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรีจะเชิญนายจ้างไปพบเพื่อสอบข้อเท็จจริง​ ในวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 13.30 น.และหากนายจ้างปิดปรับปรุงโรงงานลูกจ้างต้องหยุดงาน​

สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรีจะติดตามให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงาน​ เช่น​ ค่าจ้าง​ ในส่วนของโรงงานทางกระทรวงแรงงานมีกองทุนความปลอดภัย​ อาชีวอนามัย​ และสภาพแวดล้อมในการทำงาน​ เป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ​ สูงสุดวงเงินไม่เกิน​ 1,000,000 บาท​ ดอกเบี้ยร้อยละ​ 2​ ต่อปี​ สำหรับให้บริการนายจ้างเพื่อให้กู้ยืมเงินไปแก้ไขสภาพความไม่ปลอดภัย หรือเพื่อและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน​ ซึ่งทุกภาคส่วนของกระทรวงแรงงานจะดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top